Home / รักโบราณ / ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง / บทที่8 มนุษย์น่ากลัวกว่าสัตว์

Share

บทที่8 มนุษย์น่ากลัวกว่าสัตว์

last update Last Updated: 2025-11-12 16:18:42

เมื่อสองผัวเมียรู้ว่าโสมที่ได้มาจากชิงอี่ทั้งสองเลยยิ่งนับถือเด็กสาวแล้วตั้งมั่นว่าจะติดตามครอบครัวนางเพื่อรับใช้ไปตลอด

ระหว่างเดินทางเสียวไป๋กับเสียวหงชอบให้ซูซูแปรงขนให้ เจ้าสองเผือกคิดว่าพวกมันคิดถูกที่มาขออาศัยกับฝูงนี้สมาชิกในฝูงไม่มีใครรังแกพวกมันเลยแถมยังคอยกอดพวกมันด้วยความรัก หาผลไม้ให้ ตอนนอนก็มีที่อุ่นๆให้นอนไม่ต้องกลัวใครจะมารังแก พวกมันชอบกระโดดเล่นไปมาระหว่างเกวียนวัว มันสองตัวรู้แหล่งสมบัติหลายที่เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้มันสองตัวอยู่ในฝูงมันจะพาเจ้ามนุษย์นี้ไปล่าสมบัติเอง

ณ เมืองเฉียงเจ้าเมืองฟ้านอ่านรายงานจากลูกน้อง

"ผ่านไปเป็นเดือนทำไมยังหาไม่เจอ"

"ที่ค้ายโจรไม่มีใครรอดเลยขอรับ และไม่ทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้เลย"ลูกน้องเขาที่ไปถึงเจอแต่ศพเกลื่อนไปหมดแถมทรัพย์สินที่เขาเอาไปซ้อนเก็บไว้จากการปล้นและการโกงงบเสบียงภัยแล้งมาจากชาวบ้านก็ยังมาหายแบบไม่มีรองรอย สมบัติมากมายมันจะหายแบบไม่มีรองรอยได้ไงผ่านไปเป็นเดือนเขาก็ตามหาเบาะแสไม่เจอ

"แล้วช่วงนี้มีครอบครัวไหนดูมีฐานะบ้างหรือแม้แต่ขบวนอพยพก็ด้วยตรวจให้หมด ข้าต้องเอาสมบัติกลับคืนมาให้ได้"

เขาสั่งปิดด้านเพราะจะได้คอยสังเกตุว่าพวกอพยพกลุ่มไหนที่ดูน่าสงสัย แต่ก็ยังไม่เห็น

ผ่านไป5วันลูกน้องก็มาแจ้งข่าว

"ท่านเจ้าเมืองมีข่าวขอรับ"ลูกน้องวิ่งนำข่าวมาแจ้งแก่เจ้านายทันที

"ว่ามา"

"มีสายรายงานว่ามีขบวนอพยพหนึ่งเดินทางอ้อมไปในป่าปีศาจขอรับ"

"ป่าปีศาจนี้ไม่ใช้ใครก็จะผ่านไปได้"ป่านี้ใครๆก็รู้มีอาถรรพ์

"พวกมันเป็นใครถึงกล้าผ่าน"คนปกติเขาจะหลีกเลี้ยงเส้นนี้ตลอด

"พวกมันกล้าผ่านป่านั้นแปลว่าไม่ธรรมดา ให้คนตามไปสืบว่าพวกนั้นเป็นใคร พวกนั้นอาจเกี่ยวข้องกับการถล่มค้ายโจรก็ได้จะปล่อยให้กลุ่มนี้ออกป่านั้นไปไม่ได้"เขาจะต้องตามเอาสมบัติกลับคืนมาให้ได้

ขบวนอพยพของชิงอี่ไม่ได้รู้สึกอันตรายกำลังใกล้เข้ามาเธอแค่รู้สึกว่ายิ่งเดินผ่านยิ่งมีสัตว์ค่อยจับจ้องกลุ่มเธอ ตอนพักเธอจึงให้ท่านพ่อระวังเป็นพิเศษ พวกเขาคงเข้ามาในเขตป่าชั้นในที่จะมีความอันตรายกว่าเขตป่าชั้นนอก

ช่วงพักเธอจะสั่งให้ทุกคนอย่าออกห่างจากกลุ่มเพราะมีโอกาสที่พวกเขาจะเจอสัตว์ร้ายได้ ส่วนเธอก็สำรวจรอบๆแล้วก็เจอฝุงหมาป่าอยู่เลยไป4ลี่ถือว่าใกล้มาก หญิงสาวๆค่อยๆย้องออกห่างพวกมัน

กลับมาถึงที่พักเธอก็ให้ทุกคนเตรียมออกเดินทางต่อ รั้งอยู่นานไม่ได้เพราะมีฝุ่งหมาป่าอยู่ใกล้มาก

"ทุกคนเก็บของเจ้าค่ะ พวกเรารีบเดินทาง ข้าไปเจอฝุงหมาป่าใกล้ๆนี้เอง อย่าเสียงดังเดี๋ยวพวกมันตามมา"

"งั้นเรารีบเก็บของแล้วออกเดินทางกันต่อค่อยพักช่วงที่ปลอดภัยกว่านี้"ป้าฉีได้ยินดังนั้นก็ตกใจเลยจะให้รีบเดินทาง

ขบวนเลยต้องรีบเดินทางเพื่อให้ผ่านบริเวรนี้ไปก่อน แต่อยู่ๆเจ้ากระรองน้อยเสียวหงก็มาดึงเธอแล้วชี้ไปในป่า

"มีอะไรเสี่ยวหง"มันก็ยังดึงเธอให้สนใจในป่าจนเธอตัดสินใจลองไปตามที่มันบอก

"เดี๋ยวข้าเข้าไปดูในนั้นสักครู่ พวกท่านไม่ต้องหยุดเดินทางไปเลื่อยๆเดี๋ยวข้าตามไปสมทบเองเจ้าคะ"พูดจบก็ไปตามทางที่กระรอกนำทางโดยมีเสี่ยวไป๋วิ่งตามไปติดๆ จนมาถึงคลายๆถ้ำแต่มันรกมาก เจ้าสองเผือกตัวหนึ่งดึงตัวหนึ่งดันให้เธอเข้าไปในถ่ำหญิงสาวเลยเดินเข้าไปในถ้ำที่ปากถ้ำไม่ได้ใหญ่มาก เดินเข้าไปเลื่อยก็ยิ่งมืดเธอเอาไฟฉายออกมาส่องในนี้กลับกว้างกว่าปากถ่ำ จนมาถึงสุดทางเธอก็ตาโต

'นี้มันหีบสมบัติไม่ใช้เหรอ'

ในนี้เต็มไปด้วยหีบสมบัติมากมาย

"พวกแกรู้ได้งั้ยว่ามีสมบัติ"หันไปถามพวกมันแต่เสี่ยวหงกับทำท่าให้หญิงสาวเดินไปดูอะไรบางอย่าง พอเดินไปดู มันคือแส้กับหอกนี้แถมมีตำราการต่อสู้จากดาบด้วยไม่มีอะไรเข้ากันเลยนะแต่ดีเลยเธอจะเอาไปให้น้าชายเธอ เดินไปเปิดหีบเพื่อให้มั่นใจว่ามันคือสมบัติจริงๆก็เห็นในนั้นมีขุ่ยด้ามเล็กๆอยู่เลยหยิบขึ้นมาด้วยความสนใจ

งานเก็บสมบัติเธอถนัดนักเชียวเก็บให้หมด แล้วเดินออกไป แต่สายตาก็ไปสะดุดกับดอกไม้บางอย่าง พอเดินไปดูใกล้ๆ 'เห็ดหลินจือแดง'มีตั้งสามดอกใหญ่ เก็บสิจ้ะรออะไร

ระหว่างเดินกลับไปในขบวนก็ระวังภัยรอบๆตัวไปด้วย แล้วเห็นฝูงหมาป่าวิ่งตามขบวนเธอมาห่างๆ คืนนี้เธอคงต้องเอาเครื่องมือก็มาป้องกันฝูงหมาป่าสะแล้ว

แต่โดยที่หญิงสาวไม่รู้หลังขบวนนอกจากฝูงหมาป่าแล้วยังมีคนอีกกลุ่มที่พยามจะตามมาให้ทัน ตามคำสั่งที่ได้รับให้สังเกตว่าพวกนั้นเอาของที่พวกมันมามั้ยถ้าเอาให้แย่งกลับมาให้หมดแล้วสังหารเสียอย่าให้มีชีวิตรอดออกจากป่าปีศาจนี้ได้

ถึงเวลาที่ต้องตั้งกระโจมพักชิงอี่เลยเอาหลักมาปักไว้รอบๆกระโจมแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าถ้าหมาป่ามันคิดจะเข้ามาจะโดนกระแสไฟช็อดทำให้ไม่สามารสเข้ามาได้

คนในขบวนถึงจะสงสัยของที่ชิงอี่เอามาแต่ทุกคนพร้อมใจกันไม่ถามเพราะคิดแค่ว่าครอบครัวหลีปกป้องพวกตนขนาดนี้ไม่เคยเอาเปรียบหรือทิ้งพวกตนเพราะฉะนั้นอะไรที่มันไม่ควรถามก็อย่าถามจะได้อยู่กันอย่างสบายใจ

เพื่อไม่เป็นการล่อเหยื่อจนเกินไปชิงอี่เลยให้สัตว์ต่างๆอยู่ข้างๆเกวียนป้าตู๋กับป้าฉีหมั่นเดินไปดูวัวของครอบครัวเพราะวัวพวกนางเริ่มอายุเยอะแล้วพวกนางจึงเป็นห่วงพวกมัน ส่วนเธอก็เฝ้าระวังอยู่บนต้นไม้ค่อยดูฝูงหมาป่าว่าจะขยับมาใกล้มั้ย ในขนาดที่เฝ้าฝูงหมาป่าเธอกลับเจอกลุ่มคน6,7คนอยู่ห่างจากฝูงหมาป่าไปหน่อย ตอนแรกหญิงสาวคิดพวกนั้นแค่ผ่านทางมา แต่มันไม่ใช้สิ พวกมันมาด้อมๆมองๆกลุ่มเธอ แล้วดูพวกมันจะเป็นพวกมีฝีมือด้วย หรือพวกมันจะเป็นกลุ่มโจรที่รอดชีวิตไป ไม่รอช้าชิงอี่ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้แล้วใช้เครื่องชวยฟังแอบฟังพวกมันคุยกัน

"ข้าไปแอบดูมาแล้ว ในกลุ่มมีแต่คนแก่กับสตรีสะสวนใหญ่มีบุรุษแค่5คนแล้วก็เหมือนจะเป็นแค่ชาวบ้าน มีแค่เกวียนกับลาเท่านั้นมองไม่ออกมาขนของมีค่าเลยนะ"เขาพยามส่องดูแล้วดูก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แถมมีเด็กเล็กอีก

"แต่มันแปลกนะถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาทำไมถึงกล้าเข้ามาในป่าปีศาจนี้"

"พวกเขาอาจไม่รู้หรือเปล่าว่าป่าแห่งนี้อัตราย อย่าลืมว่าพวกนั้นอพยพมาจากที่อื่นนะ"พวกต่างถิ่นอาจไม่รู้ถึงความน่ากลัวของป่านี้ก็ได้

"งั้นลองตามดูก่อนถ้ามันใช้ชาวบ้านก็ฆ่าสะ อย่าปล่อยให้พวกมันออกจากป่า"ป่านี้ต้องคงความน่ากลัวไว้คนจะได้ยอมจ่ายค่าผ่านเมือง

ชิงอี่ที่ได้ยินพวกมันพูดทั้งหมดก็ทำหน้านิ่ง

จะเก็บพวกเธอเหรอ ฮึ ดูสิใครกันแนที่โดนเก็บหญิงสาวหยิบปืนเก็บเสียงออกมาแล้วเล็งยิงทีละคนแบบไม่ให้พวกมันตั้งตัว เธอจะไม่ปล่อยให้ครอบครัวอยู่ในความเสี่ยงของอันตรายแม้แต่น้อย เธอไม่ต้องการรู้ว่าพวกมันเป็นใครถ้าแค่มีเศษเสี้ยวของความเสี่ยงเธอพร้อมตัดไฟแต่ต้นลม แต่ดูๆแล้วคงเป็นเจ้าเมืองเฉียงที่มีเอี่ยวกับฝูงโจรเป็นแน

ไม่ต้องกังวลเรื่องศพเดี๋ยวพวกหมาป่าก็มาจัดการให้เองพวกสัตว์หน้าขนเธอไม่กลัวแต่มนุษย์มันน่ากลัวแล้วไม่น่าไว้ใจกว่าเยอะ

ชิงอี่แอบมองจนเห็นหมาป่าตัวหนึ่งตามกลิ่นเลือดมาแล้วไปตามฝูงมันมาเพิ่มถึงยอมถอยกลับ

กลับมาถึงที่พักก็ให้ทุกคนทำตัวสบายๆ

"ข้าไปแอบดูพวกหมาป่ามา พวกมันล่าถอยไปแล้วคืนนี้คงไม่มากวนใจพวกเรา"

"พวกมันไปไหนเหรอ"เฟยหลงที่กำลังฝึกเพลงดาบที่หลานสาวนำมาให้ก็หยุดรำดาบแล้วถามหลานสาว

"ข้าเห็นพวกมันถอยหลังไปนะเจ้าค่ะไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน แต่คงไม่กลับมาหาเราอีกแนนอน"

"งั้นไอ้ที่ปักรอบๆที่พักก็เอาออกได้แล้วสิ"เสี่ยวหมิงก็เริ่มสบายใจ

"ปักไว้ดีแล้วเจ้าค่ะไว้ป้องกันตอนดึกๆตอนนี้ก็ปิดระบบไปก่อนทุกคนได้ปลอดภัย"

หญิงสาวแยกไปฝึกใช้แส้แต่ว่ายากแท้ เธอพยามฟาดอยู่หลายทีก็ฟาดอะไรไม่ติดเลย ท้อได้มั้ย

ซานซาเดินมาเห็นก็หยุดมองด้วยความสนใจ

"ซานซานสนใจมั้ย"เห็นเด็กสาวสนใจเลยให้รองเล่น

ซานซาเห็นเลยลองเอามาถือแล้วฟาดไปที่ต้นไม้

"ฟิ้ววว "ฟาดกิ่งไม้ขาดด้วย

"โอ้.."ซานซาตกใจที่นางฟาดกิ่งไม้โดน

"ไหนเจ้าของฟาดอีกทีสิ เล็งที่กิ่งโน้นนะ"ซานซาลองทำตาม

"ฟี้ววว"ฟาดไปอีกทีแล้วก็โดนกิ่งที่หญิงสาวบอก

"สงสัยอาวุธจะเลือกนาย งั้นข้ายกแส้นี้ให้เจ้า ฝึกใช้บ่อยๆละมันจะมีประโยชน์ต่อตัวเจ้าเอง"เธอไม่หวงของอยู่แล้วยังไงซานซาในอนาคตก็ต้องมาเป็นพี่สะใภ้เธอ มีของป้องกันตัวก็ช่วยได้เยอะ ส่วนเธอมีปืนแล้วเป็นอาวุธถนัดเธอเลยแหละ

"นี้เจ้าสองเผือก"สองเผือกก็หันมามองเจ้านายด้วยความสนใจ

"สมบัติที่พาข้าไปหานะมีอีกมั้ย"ในป่านี้อาจมีสมบัติอีกก็ได้

เสี่ยวไป๋พยักหน้าแล้วชี้ไปทางใต้

"ไกลมั้ย "พอเสี่ยวไป๋สายหัวเลยบอกให้พาเธอไปทันที ก่อนออกจากป่าเธอต้องกวาดสมบัติให้หมด

วิ่งมาได้2เค่อก็มาถึงแอ่งน้ำที่หนึ่งมีต้นไม้ต้นใหญ่

"แถวนี้มีอะไรน่าสนใจเหรอ"มองไปรอบๆก็มีแต่ต้นไม้

แล้วสายตาก็เห็นต้นโสมขนาดใหญ่ถึง5ต้น รออะไรละขุดสิจ้ะ

ใช้เวลาถึงหนึ่งก้านธูปถึงขุดออกมาได้แค่3ต้น แต่หญิงสาวไม่ละความพยามจนสามารสขุดออกมาครบ5ต้น แต่ละต้นดูแล้วอายุน่าจะเกินร้อยปี เมื่อได้ของล่ำค่าแล้วอารมณ์ดี หญิงสาวให้เจ้าสองเผือกพาล่าสมบัติในป่าอาถรรพ์นี้อย่างสนุกสนาน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่10 บ้านใหญ่ไม่ยอมจบ

    ทางด้านสามพี่น้องก็ขายผักอย่างอารมณ์ดีเพราะพอตั้งแผงปุบก็ขายหมดภายในไม่เกินหนึ่งหนึ่งก้านธูป(30นาที) ขากลับนางแวะซื้อไก่ไป5ตัวเพื่อเอาไปทำไก่รมควันตากแห้งไว้เป็นเสบียงหน้าหนาว และไม่ลืมซื้อรำข้าวเอาไว้ให้ผสมใส่ในผักให้หมูป่ากินตามที่มารดาสั่ง เพราะรอบที่แล้วนางไม่ได้ซื้อ ก็นางไม่รู้ว่ามันกินอะไรนอกจากผัก.กลับมาถึงบ้านก็เอาของไปเก็บปล่อยให้น้องๆได้นั้งพัก มารดาก็อุ้มน้องชายออกมารอตอนรับ . "วันนี้บ้านใหญ่มาอีกแล้ว..แต่แม่ก็เก็บของเข้ามิติจนหมด เหลือแต่พวกสัตว์เพราะแม่ลืม"ตอนนั้นนางลืมจริงๆเพราะมัวแต่สนใจข้าวของภายในบ้านและห้องเก็บของ มารู้ตัวตอนที่พี่สะใภ้โดนฝูงไก่ทำร้ายถึงนึกออกว่าตัวเองไม่ได้เก็บสัตว์เลี้ยง "แล้วบ้านใหญ่ได้อะไรไปมั้ยเจ้าค่ะ?"หญิงสาวก็เห็นสัตว์ของนางอยู่ในคอดสัตว์นอนกันเงียบทุกตัวไม่มีหายไป แต่ก็เห็นแปลงผักดูเละเทะเหมือนมีคนเข้าไปเหยียบย่ำ!"ไม่ได้อะไรไปเลยแถมยังโดนทั้งแม่ไก่จิกและเสี่ยวมาวกัดจนได้แผลเต็มตัวกลับไปกันทั้งสองคน ดีว่าท่านย่าไม่โดนทำร้ายด้วยไม่งั้นบ้านเราต้องเดือดร้อนแนๆ"ตอนนั้นนางตกใจคิดอะไรไม่ออก แต่ลองมาคิดดูแล้ว ดีว่าแม่สามีไม่บาดเจ็บไม่งั้นเรื่องต้

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่9 ที่อันตรายถือที่ปลอดภัย

    เมื่อกลับมาถึงที่พักท่านผู้เฒ่าทั้งหลายมานั้งล้อมวงดื่มน้ำแกงที่ไห่เม้ยต้มให้ "อาอี่มาดื่มน้ำแกงบำรุงรางกายเร็ว ในป่านี้อากาศชื้นเดี๋ยวจะล้มป่วยเอา"แม่เฒ่าฉีเอยเรียกชินอี่ให้มาร่วมวง"เจ้าค่ะ"หญิงสาวรับคำจึงนั้งลงรับน้ำแกงจากซูซู "เหมือนฝนทำท่าจะตกอีกแล้วแบบนี้เราจะได้ออกจากป่ามั้ยนะ"หัวหน้าหมู่บ้านกลัวสัตว์จะย้อนกลับมา"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุงตู่ สัตว์ป่าไม่น่ากลัวเท่าคน ถ้าพวกมันมาข้ามีวิธีไล่มันไปเจ้าค่ะอยู่กับพวกข้าพวกท่านปลอดภัยแนนอน"เธอมีรั้วไฟฟ้าพวกสัตว์ไม่กล้าเข้าใกล้แต่คนนี้สิ เธอคิดว่าอาจยังไม่จบเท่านี้ ตอนออกจากป่าเธออาจต้องแวะไปจวนท่านเจ้าเมืองเสียหน่อยแล้ว ถ้ายังไม่ยอมจบเธอจะเป็นคนจบเรื่องให้เอง แล้วพวกเขาก็เร่งเดินทางจนออกมาใกล้ถึงป่าชั้นนอกถึงจะยังไม่ออกจากป่าแต่ก็นับว่าปลอดภัยกว่าป่าชั้นในเธอตรวจดูแล้วสามวันนี้ฝนจะตกตลอดเธอเลยให้ผู้ชายช่วยกันทำเพิงชั่วคราวทั้งคนและสัตว์ทั้ง7ซึ้งพวกมันก็ฉลาดอยู่กันเงียบๆไม่ส่งเสียง บ่ายวันหนึ่งฝนก็ตกจริงดีว่าเตรียมตัวกันแล้วเลยรับมือได้ เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้เธอเลยเข้าไปในห้องวิจัยสร้างอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาเผื่อจะมีชิ้นไหนเอาไปฝากเจ

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่8 มนุษย์น่ากลัวกว่าสัตว์

    เมื่อสองผัวเมียรู้ว่าโสมที่ได้มาจากชิงอี่ทั้งสองเลยยิ่งนับถือเด็กสาวแล้วตั้งมั่นว่าจะติดตามครอบครัวนางเพื่อรับใช้ไปตลอด ระหว่างเดินทางเสียวไป๋กับเสียวหงชอบให้ซูซูแปรงขนให้ เจ้าสองเผือกคิดว่าพวกมันคิดถูกที่มาขออาศัยกับฝูงนี้สมาชิกในฝูงไม่มีใครรังแกพวกมันเลยแถมยังคอยกอดพวกมันด้วยความรัก หาผลไม้ให้ ตอนนอนก็มีที่อุ่นๆให้นอนไม่ต้องกลัวใครจะมารังแก พวกมันชอบกระโดดเล่นไปมาระหว่างเกวียนวัว มันสองตัวรู้แหล่งสมบัติหลายที่เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้มันสองตัวอยู่ในฝูงมันจะพาเจ้ามนุษย์นี้ไปล่าสมบัติเองณ เมืองเฉียงเจ้าเมืองฟ้านอ่านรายงานจากลูกน้อง "ผ่านไปเป็นเดือนทำไมยังหาไม่เจอ""ที่ค้ายโจรไม่มีใครรอดเลยขอรับ และไม่ทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้เลย"ลูกน้องเขาที่ไปถึงเจอแต่ศพเกลื่อนไปหมดแถมทรัพย์สินที่เขาเอาไปซ้อนเก็บไว้จากการปล้นและการโกงงบเสบียงภัยแล้งมาจากชาวบ้านก็ยังมาหายแบบไม่มีรองรอย สมบัติมากมายมันจะหายแบบไม่มีรองรอยได้ไงผ่านไปเป็นเดือนเขาก็ตามหาเบาะแสไม่เจอ"แล้วช่วงนี้มีครอบครัวไหนดูมีฐานะบ้างหรือแม้แต่ขบวนอพยพก็ด้วยตรวจให้หมด ข้าต้องเอาสมบัติกลับคืนมาให้ได้"เขาสั่งปิดด้านเพราะจะได้คอยสังเกตุว่า

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่7 โสมนี้ให้เจ้า

    ดวงตาแดงเหมือนเลือดกับตัวสีขาวเหมือนหิมะ 'กระรอกเผือก'น่ารักจังชิงอี่มองเจ้าลูกกระรอกน้อยด้วยความเอ็นดู แต่เธอไม่รู้กระรอกกินอะไรเลยนั้งมองมันเฉยๆ เจ้ากระรอกเผือกทำท่าทางเหมือนจะข้ามาหาแต่อยู่ๆก็ตกใจแล้วหนีไป ชิงอี่ก็หันซ้ายหันขวาว่าเจ้าจิ๋วมันตกใจอะไร ก็เจอพี่ชายตัวเองกำลังปีนไปเด็ดดอกไม้ที่เลือยขึ้นมาบนยอด พี่ชายเธอเด็ดดอกไม้ไปให้ใคร เรื่องนี้มันต้องตามไปส่อง เสียวหมิงเด็ดดอกไม้ลงมาให้...ซานซา!! ดูๆแล้วพี่ชายเธอคงอีกหลายปีถึงจะได้แต่งงาน ซานซาเพิ่งจะ10ขวบเองพอหมดความสนใจเรื่องพี่ชายหญิงสาวก็ไปสำรวจรอบๆป่า เผื่อเธอจะเจอสัตว์น่ารักน่ารักอีก ภพที่แล้วเธอไม่มีญาติไม่มีเพื่อนแม้แต่สัตว์เลี้ยงยังไม่มีเพราะไม่่ต้องการมีภาระตอนไปทำภารกิจ แต่มาภพนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนรักสัตว์เอามากๆดูได้จากเจ้าสี่สหายที่เธอเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี ต้องป้อนยาบำรุงให้กินทุกวัน เพื่อให้พวกมันสุขภาพแข็งแรงขนจะได้สวยๆ ว่าไปป่านี้ก็อุดมสมบูรณ์ดีนะสัตว์ป่ามีมากด้วย พอสำรวจจนพอใจก็กลับไปที่กระโจม พอมาถึงกระโจมก็เดินไปหาแก๊งสี่สหายก่อนเลย "เหนื่อยกันมากมั้ยพวกแก ข้าอยากเห็นลูกวัวตัวน้อยๆแล้วพวกแกเมื่อไรจะมี

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่6 โรคระบาด

    "ฝนจะตกจริงใช้มั้ยอาอี่"แม่เฒ่าถามด้วยความตื่นเต้น ถ้าฝนตกชาวบ้านก็จะได้คลายร้อนได้บ้างและยังมีน้ำไว้ใช้ แถมแหล่งน้ำธรรมชาติได้มีน้ำไว้ให้สัตว์อีกด้วย "ข้าไม่แนใจเจ้าค่ะ เจ้านี้มันบอกแค่ว่าอาจมีปริมาณน้ำฝนหนาแน่น""ดีๆ อย่างน้อยยังมีความหวัง ถือเป็นข่าวดี""ฝนตก"เสี่ยวเปา"ฝนตก"หลิงหลง"จ้าฝนจะตกแล้ว"ไห่เม้ยรับคำเด็กทั้งสอง เธอเหมือนมีลูกแฝดเพราะอายุของเด็กใกล้เคียงกัน "ข้าว่าอย่าเพิ่งบอกใครเผื่อมันอาจไม่ตกคนจะผิดหวังเสียเปล่าๆ "หลีฟูกลัวว่าคนจะคาดหวังว่าฝนจะต้องตก ถ้ามันไม่ตกอาจทำให้ชาวบ้านผิดหวังก็ได้ การเดินทางเป็นไปด้วยความเงียบเพราะทุกคนเริ่มสิ้นหวังว่าเดินหนีภัยแล้งครั้งนี้อาจไม่ใช้ความคิดที่ดีก็ได้ตอนตั้งกระโจมพักค้างแรมจากที่เคยมีเสียงพูดคุยก็เริ่มเงียบไม่มีการพูดคุยกันแบบในอดีตเพราะทุกคนท้อแท้เกินกว่าจะมีอารมณ์เสวนา ชิงอี่เป็นห่วงสัตว์เลี้ยงของเธอที่เฝ้าบำรุงมาอย่างดีกลัวจะโดนคนคิดเอาไปเป็นของตัวเองหรือคนใจบาปเอาไปทำอาหารเพราะพวกมันอ้วนดูน่ากินมากเธอเลยอยู่เฝ้าสี่สหายไม่ห่าง เธอถือว่านี้คือของรักของข้าเชียวแหละและเช้ามืดของเช้าวันหนึ่งก็มีลมแรงจนกระโจมปลิวชิงอี่คิดว่าฝ

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่5 ภัยแล้งใกล้ฉัน

    ขบวนหนีภัยแล้งเดินทางต่อโดยมีหัวหน้าหมู่บ้านนำขบวนและครอบครัวหลีปิดท้ายขบวน ชิงอี่ค่อยใช้กล้องส่องทางไกลดูรอบๆว่าปลอดภัยมั้ย "ชิงอี่เห็นอะไรบ้าง"พ่อหลีถามบุตรสาวด้วยกลัวพวกโจรจะตามมา "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะท่านพ่อ ไม่มีใครตามขบวนเรามา "ที่เธอกังวลไม่ใช้โจร แต่เป็นพวกเจ้าหน้าที่ต่างหากละ จากที่เธออ่านในสมุดบัญชี มีเจ้าเมืองเฉียงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้วพวกเธอกำลังเดินทางผ่านเมืองนี้พอดี พวกเธอจะเจออะไรบ้างยากที่จะเดาจริงๆ ช่วงหยุดพักกลางวันหลายๆครอบครัวเลือกที่จะนอนพักเอาแรงเพราะเมื่อคืนทุกคนเกือบจะไม่ได้นอนกันเลย หัวหน้าหมู่บ้านก็เหมือนจะเข้าใจเลยพักให้นานอีกหน่อย เฟยหลงไปดูรอบๆพอรู้มีแหล่งน้ำ ไห่เม้ยกับฮวาหลิวเลยพาเสี่ยวซากับเสี่ยวหลิงไปอาบน้ำสระผมให้สะอาดตาขึ้น เพราะเมื่อคืนแค่เช็ดตัวแต่ยังไม่สะอาดหมดและผมที่เกาะกันเป็นก้อนๆต้องค่อยๆสางกว่าจะอาบน้ำสระผมเสร็จก็หมดเวลาพักพอดี "พออาบน้ำแล้วค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย"ชิงอี่พูดด้วยความเอ็นดู "ข้าว่าแหล่งน้ำเริ่มลดลงแล้วนะ"เฟยหลงเห็นปริมาณน้ำที่ลดลงมากจากรอยเดิม"หมายความว่าภัยแล้งเริ่มขยายพื้นที่แล้วเหรอ"แม่เฒ่าหวองเป็นกังกล กว่าพวกนางจะเดินไป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status