LOGINดวงตาแดงเหมือนเลือดกับตัวสีขาวเหมือนหิมะ
'กระรอกเผือก'น่ารักจัง ชิงอี่มองเจ้าลูกกระรอกน้อยด้วยความเอ็นดู แต่เธอไม่รู้กระรอกกินอะไรเลยนั้งมองมันเฉยๆ เจ้ากระรอกเผือกทำท่าทางเหมือนจะข้ามาหาแต่อยู่ๆก็ตกใจแล้วหนีไป ชิงอี่ก็หันซ้ายหันขวาว่าเจ้าจิ๋วมันตกใจอะไร ก็เจอพี่ชายตัวเองกำลังปีนไปเด็ดดอกไม้ที่เลือยขึ้นมาบนยอด พี่ชายเธอเด็ดดอกไม้ไปให้ใคร เรื่องนี้มันต้องตามไปส่อง เสียวหมิงเด็ดดอกไม้ลงมาให้...ซานซา!! ดูๆแล้วพี่ชายเธอคงอีกหลายปีถึงจะได้แต่งงาน ซานซาเพิ่งจะ10ขวบเอง พอหมดความสนใจเรื่องพี่ชายหญิงสาวก็ไปสำรวจรอบๆป่า เผื่อเธอจะเจอสัตว์น่ารักน่ารักอีก ภพที่แล้วเธอไม่มีญาติไม่มีเพื่อนแม้แต่สัตว์เลี้ยงยังไม่มีเพราะไม่่ต้องการมีภาระตอนไปทำภารกิจ แต่มาภพนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนรักสัตว์เอามากๆดูได้จากเจ้าสี่สหายที่เธอเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี ต้องป้อนยาบำรุงให้กินทุกวัน เพื่อให้พวกมันสุขภาพแข็งแรงขนจะได้สวยๆ ว่าไปป่านี้ก็อุดมสมบูรณ์ดีนะสัตว์ป่ามีมากด้วย พอสำรวจจนพอใจก็กลับไปที่กระโจม พอมาถึงกระโจมก็เดินไปหาแก๊งสี่สหายก่อนเลย "เหนื่อยกันมากมั้ยพวกแก ข้าอยากเห็นลูกวัวตัวน้อยๆแล้วพวกแกเมื่อไรจะมีเอามาอวดข้าสักสิละหึ"คุยกับพวกมันไปด้วยก็ป้อนยาบำรุงไปด้วย "นี้สูตรใหม่เติมวิตามินบี12ไปด้วยนะ สดชื่นแนนอน"พูดจบก็หันไปป่อนล่อกับเจ้าลาที่อดีตเคยขี้โรคจนตอนนี้มันแข็งแรงขึ้นมาก คุยกับสี่สหายจนพอใจก็เดินกลับไปกองไฟ แต่อยู่ก็รู้สึกเหมือนโดนจ้องมองตามสัญชาตญาณเลยหันไปดู เจ้ากระรอกเผือกนี้หน่า แต่ครั้งนี้มันมีเพื่อนมาด้วยคือ..น่าจะเป็นลูกลิงนะสีขาวตาแดงเหมือนกันเลย กระรอกเผือกว่าแปลกแล้วนี้ลิงเผือกอีก หรือจริงๆมันมีสีนี้ด้วย เจ้ากระรอกเกาะที่หัวของเจ้าลูกลิงมองเธอตาไม่กระพริบ เห็นพวกมันไม่ขยับเลยคิดว่ามันคงมองเฉยๆเลยหันกลับแต่เจ้าลูกลิงกลับร้องแล้ววิ่งมาอยู่ที่ขา ชิงอี่ทำอะไรไม่ถูก อยู่ๆมีสัตว์ดินเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แล้วเจ้าลูกลิงก็ยืนมือมาให้เหมือนจะทักทาย เธอผู้ใจบางกับสัตว์ก็ยืนมือไปทำความรู้จักทันที แต่พอมือสัมผัดกันมันก็ปีนขึ้นมาเกาะเหมือนเด็กเลย หญิงสาวทำอะไรไม่ถูก เลยหันไปเรียกท่านพ่อให้ช่วย "ท่านพ่อเจ้าค่ะ" หลีฟูเมื่อได้ยินบุตรสาวเรียกก็เดินมาหา พอมาถึงเห็นลิงที่เกาะบุตรสาวก็รู้สึกแปลกใจว่าลิงอะไรสีขาว "ชิงอี่ลูกไปเอาลิงเผือกนี้มาจากไหนนะ"มองดีๆมันมีกระรอกด้วยนี้หน่า "ข้าก็ไม่รู้เจ้าค่ะ อยู่ๆมันก็โดดมาเกาะข้า" "ดูดีๆมันมีบาดแผลด้วยนะ"เสียวหมิงที่เดินตามบิดามาดูก็เห็นบาดแผลถูกทำร้ายตามร่างกาย "หรือเพราะมันสีไม่เหมือนชาวบ้านมันเลยโดนขับออกจากฝูง"หลีฟูเคยได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่แต่ไม่เคยเห็นจริงว่ามีการรังเกียจเพราะรูปลักณ์ที่แตกต่าง "มันทั้งคู่สีไม่เหมือนชาวบ้านมันเลยต้องอยู่ด้วยกันนี้เอง..น่าสงสาร"ยังเป็นลูกลิงลูกกระรอกแท้ๆต้องมาโดนบูลี่มันก็น่าเห็นใจนะ "มาอยู่กับข้ามั้ย"พอถามไปเจ้าสองเผือกก็ทำท่าดีใจ "แล้วพวกมันกินอะไรเหรอท่านพ่อ"เธอเคยแต่เลี้ยงวัวกับลาไม่เคยเลี้ยงลิงกับกระรอก "ก็พวกผลไม้นั้นแหละ" "งั้นเดี๋ยวข้าไปหาผลไม้มาให้พวกมันก่อนนะเจ้าค่ะ"พูดจบก็อุ้มลูกลิงหายเข้าไปในป่า "ลูกสาวท่านนางเคยกลัวอะไรบ้างมั้ยนะ หึหึ"แล้วสองพ่อลูกก็หัวเราะชอบใจ ชิงอี่ที่พาหนึ่งลิงเสี่ยวไป๋หนึ่งกระรอกเสี่ยวหงมาหาผลไม้ก็เจอเข้ากันเฉินคุณ "เฉินคุณ..ทำอะไรอยู่เหรอ"เดินเข้าไปใกล้เห็นเด็กชายเดินก้มมองหาอะไรสักอย่าง "อ้าว..พี่ชิงอี่ ข้ากำลังหาสมุนไพรอยู่ขอรับ" "หาไปทำไมเหรอ หรือพ่อแม่เจ้าป่วย บอกข้าได้นะเดี๋ยวข้าช่วย"ร่วมเดินทางกันมาได้เห็นความจริงใจของครอบครัวเฉิน "ไม่มีใครเป็นอะไรขอรับ เพียงแต่ข้าอยากช่วยท่านพ่อท่านแม่หารายได้ " "แล้วเจ้ารู้จักสมุนไพรเหรอ"อายุแค่นี้รู้จักสมุนไพรกันแล้วเหรอเก่งนะเด็กยุคนี้ "พอรู้จักขอรับ..เอ้ ตัวอะไรนะน่ารักจัง"เฉินเงยหน้ามาก็เห็นลิงกับกระรอกก็ร้องทัก "ลิงกับกระรอกนะ พวกมันขนไม่เหมือนชาวบ้านเลยโดนขับออกจากฝูง" "น่าสงสารจัง มาอยู่กับพวกเรานี้แหละ เดี๋ยวข้าเล่นด้วยเอง"ปกติเขาก็ไม่มีเพื่อนมีลิงเป็นเพื่อนก็ดีไปอีกแบบนะ ส่วนเจ้าเสี่ยวไป๋พอรู้มีคนตอนรับก็ร้องด้วยความดีใจ "นี้ก็เย็นแล้ว กลับกันก่อนมั้ย ไว้พรุ่งนี้ค่อยหาใหม่ดีกว่านะ เดี๋ยวข้าชวยหา" พอกลับมาถึงกระโจมสมาชิกก็รอดูสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของชิงอี่ "น่ารัก"หลิงหลงเห็นกระรอกก็ยืนมือจะมาจับ เจ้ากระรอกพอเห็นแบบนั้นก็กระโดดไปเกาะที่แขนหลิงหลง แล้วก็ไต่ไปไต่มาสร้างความชอบใจให้เด็กน้อย แล้วค่ำคืนนี้ก็มีแต่เสียงหัวเราะชอบใจของเด็กๆ ตอนนอนเสี่ยวไป๋กับเสี่ยวหงก็นอนด้วยกัน พวกมันคงอยู่ด้วยกันมาตลอดเพราะโดนไล่ออกจากฝุงเหมือนกัน ตอนเช้าชิงอี่ก็ให้เจ้าสองเผือกกินยาบำรุงเหมือนตัวอื่นๆ แล้วก็ถึงเวลาเดินทาง ขบวนก็เดินทางอย่างสบายๆเพราะป่านี้มีสัตว์ดุร้าย น้อยคนจะกล้าเข้ามา เธอเลยให้ท่านพ่อและน้าชายค่อยระวังสัตว์เท่านั้นส่วนคนดูแล้วปลอดภัย เดินทางผ่านป่าไผ่มาเลื่อยๆ ก็รู้สึกเหมือนฝนจะตกขบวนเลยต้องหยุดพักเตรียมหลบฝน คนหนุ่มๆเลยไปตัดไผ่มาทำที่หลบฝนให้ทั้งคนและสัตว์ชั่งคราว พอทำเสร็จฝนก็เริ่มลงเม็ด ทุกคนเลยนั้งรอฝนหยุดในเกวียนวัวของตัวเอง กว่าฝนจะหยุดเวลาก็ล้วงเลยมาจนถึงยามเชิน(15:00ถึง17:00) ทุกคนเลยต้องตั้งกระโจมกันแต่ด้วยฝนตกคงต้องนอนบนเกวียน แล้วเฉินคุณก็ชวนชิงอี่ไปหาสมุนไพร เด็กสาวเลยพาเจ้าสองเผือกไปเป็นเพื่อน เดินหากันพักใหญ่กำลังจะถอดใจทั้งคู่ก็เจอ เห็ดหอมกลุ่มใหญ่เลยชวยกันเก็บ แล้วเจอสมุนไพรอีกเล็กน้อย พอเดินไปสักพักเสี่ยวไป๋ก็จุงมือชิงอี่ไปตรงแถวพุ่มไม้เตี้ยๆพุ่งหนึ่งแล้วชี้ให้เธอดู พอชิงอี่มองดีๆ 'นี้มันโสมนี้' เจ้าเสี่ยวไป๋ทำท่าทางภูมิที่ตัวเองทำประโยชน์ได้ "อาคุณมานี้" "พี่ชิงอี่มีอะไรขอรับ"เขากำลังเก็บเห็ดหูหนูอย่างเพลิดเพลินก็ได้ยินพี่ชิงอี่เรียก "เจ้าช่วยครอบครัวหาตำลึงได้แล้วนะ" "ยังไงเหรอขอรับ" "เจ้าดูนี้"พูดแล้วก็ชี้ให้หนุ่มน้อยดูต้นโสม "นี้มันโสมนี้ขอรับ พี่ชิงอี่เจอเหรอขอรับ"พูดด้วยความตื่นเต้น "ไม่ใช้ข้า แต่เป็นเจ้า โสมนี้ของเจ้า"เธอมีสมบัติจากการปล้นโจรแล้วไหนเลยจะต้องมาแย่งโสมจากเด็ก โสมต้นนี้อาจเปลี่ยนชีวิตสามพ่อแม่ลูกได้ใครจะรู้ "แต่คนที่เจอคือพี่นะขอรับ ข้าเอาเปรี่ยบท่านไม่ได้"ถึงจะดีใจแต่มันไม่ใช้ของๆเขา เขาไม่ได้เป็นคนเจอ "ใครเจอไม่สำคัญเท่าใครเป็นผู้ครอบครอง ข้าให้เจ้าครอบครอง เจ้าไม่ต่องกลัวข้าจะลำบากหลอกนะบอกตามตรงนะตอนไปทลายรังโจรข้าไปปล้นของโจรมาเยอะจนสร้างเมืองได้เลยเพราะฉะนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงข้า รับไปแล้วนำไปเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่เสีย" "ข้ารู้มาว่าพวกเจ้าอยากทำบ้านใหม่ โสมนี้จะช่วยเจ้าได้ ถ้าอยากตอบแทนข้า ขอแค่เจ้าเป็นคนดีไม่เอาเปรียบใคร" "ได้ขอรับ ข้าขอสาบานว่าจะเป็นคนดีและข้าจะติดตามท่านไปตลอดขอรับ"ตอนเขาไม่สบายก็ได้พี่ชิงอี่ช่วยไว้แล้วไหนจะครั้งนี้อีก บุญคุณท่านยิ่งใหญ่นัก "อย่ามัวแต่พูดมากเลยรีบขุดเถอะ ระวังรากมันด้วย" ในขนาดที่รอเฉินคุณขุดโสมต้นใหญ่ เธอก็เดินดูรอบๆบริเวร เจ้าสองเผือกที่เกาะที่แขนอยู่ๆวิ่งหายเข้าไปในโพรงไม้ ผ่านไปแค่ช่วงจิบชาก็ชวนกันวิ่งออกมาแล้วถือกล่องอะไรออกมา 'กล่องเก่ามากแก' กล่องเล็กขนาดนี้คงไม่มีแก้วแหววเงินทองแนนอน บนฝากล่องมีเขียนไว้ว่า 'ผู้มีบุญถึงเปิดมันได้' โอเค ข้าเป็นผู้ไม่มีบุญ แต่ก่อนจะทำอะไรเฉินคุณก็ส่งเสียงเรียก "พี่ชิงอี่ขอรับ ข้าเสร็จแล้วขอรับ" เขาขุดออกมาได้สวยงามมากต้องขายได้ราคาดีแนนอน "งั้นเรากลับกันเถอะเย็นมากแล้ว"เอากล่องเก็บเข้ามิติไปก่อนแล้วค่อยไปหาทางเปิดทีหลัง พอกลับถึงที่พักเฉินคุณก็รีบเอาโสมให้บิดามารดาดู "ท่านพ่อท่านแม่ดูสิขอรับว่าข้าได้อะไรกลับมา" "ได้อะไรละ ลูกเก็บเห็ดอะไรมาบ้าง"อิงอิงที่เดินไปดูลาของครอบครัวก็หันไปถามบุตรชาย นางคิดว่าบุตรชายคงได้เห็ดต่างๆกลับมาแบบทุกครั้ง แต่พอมองดีๆ นี้มัน "นี้มันโสมไม่ใช้หรือ..เจ้าไปเจอได้ไง" "ข้าไปหากับพี่ชิงอี่ขอรับ" อิงอิงตรวจดูต้นโสมก็เห็นว่ามันสมบูรณ์มากแถมต้นใหญ่ด้วย "เอาไว้เราค่อยเอาไปขายนะตอนนี้เก็บให้ดีก่อน"ทางด้านสามพี่น้องก็ขายผักอย่างอารมณ์ดีเพราะพอตั้งแผงปุบก็ขายหมดภายในไม่เกินหนึ่งหนึ่งก้านธูป(30นาที) ขากลับนางแวะซื้อไก่ไป5ตัวเพื่อเอาไปทำไก่รมควันตากแห้งไว้เป็นเสบียงหน้าหนาว และไม่ลืมซื้อรำข้าวเอาไว้ให้ผสมใส่ในผักให้หมูป่ากินตามที่มารดาสั่ง เพราะรอบที่แล้วนางไม่ได้ซื้อ ก็นางไม่รู้ว่ามันกินอะไรนอกจากผัก.กลับมาถึงบ้านก็เอาของไปเก็บปล่อยให้น้องๆได้นั้งพัก มารดาก็อุ้มน้องชายออกมารอตอนรับ . "วันนี้บ้านใหญ่มาอีกแล้ว..แต่แม่ก็เก็บของเข้ามิติจนหมด เหลือแต่พวกสัตว์เพราะแม่ลืม"ตอนนั้นนางลืมจริงๆเพราะมัวแต่สนใจข้าวของภายในบ้านและห้องเก็บของ มารู้ตัวตอนที่พี่สะใภ้โดนฝูงไก่ทำร้ายถึงนึกออกว่าตัวเองไม่ได้เก็บสัตว์เลี้ยง "แล้วบ้านใหญ่ได้อะไรไปมั้ยเจ้าค่ะ?"หญิงสาวก็เห็นสัตว์ของนางอยู่ในคอดสัตว์นอนกันเงียบทุกตัวไม่มีหายไป แต่ก็เห็นแปลงผักดูเละเทะเหมือนมีคนเข้าไปเหยียบย่ำ!"ไม่ได้อะไรไปเลยแถมยังโดนทั้งแม่ไก่จิกและเสี่ยวมาวกัดจนได้แผลเต็มตัวกลับไปกันทั้งสองคน ดีว่าท่านย่าไม่โดนทำร้ายด้วยไม่งั้นบ้านเราต้องเดือดร้อนแนๆ"ตอนนั้นนางตกใจคิดอะไรไม่ออก แต่ลองมาคิดดูแล้ว ดีว่าแม่สามีไม่บาดเจ็บไม่งั้นเรื่องต้
เมื่อกลับมาถึงที่พักท่านผู้เฒ่าทั้งหลายมานั้งล้อมวงดื่มน้ำแกงที่ไห่เม้ยต้มให้ "อาอี่มาดื่มน้ำแกงบำรุงรางกายเร็ว ในป่านี้อากาศชื้นเดี๋ยวจะล้มป่วยเอา"แม่เฒ่าฉีเอยเรียกชินอี่ให้มาร่วมวง"เจ้าค่ะ"หญิงสาวรับคำจึงนั้งลงรับน้ำแกงจากซูซู "เหมือนฝนทำท่าจะตกอีกแล้วแบบนี้เราจะได้ออกจากป่ามั้ยนะ"หัวหน้าหมู่บ้านกลัวสัตว์จะย้อนกลับมา"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุงตู่ สัตว์ป่าไม่น่ากลัวเท่าคน ถ้าพวกมันมาข้ามีวิธีไล่มันไปเจ้าค่ะอยู่กับพวกข้าพวกท่านปลอดภัยแนนอน"เธอมีรั้วไฟฟ้าพวกสัตว์ไม่กล้าเข้าใกล้แต่คนนี้สิ เธอคิดว่าอาจยังไม่จบเท่านี้ ตอนออกจากป่าเธออาจต้องแวะไปจวนท่านเจ้าเมืองเสียหน่อยแล้ว ถ้ายังไม่ยอมจบเธอจะเป็นคนจบเรื่องให้เอง แล้วพวกเขาก็เร่งเดินทางจนออกมาใกล้ถึงป่าชั้นนอกถึงจะยังไม่ออกจากป่าแต่ก็นับว่าปลอดภัยกว่าป่าชั้นในเธอตรวจดูแล้วสามวันนี้ฝนจะตกตลอดเธอเลยให้ผู้ชายช่วยกันทำเพิงชั่วคราวทั้งคนและสัตว์ทั้ง7ซึ้งพวกมันก็ฉลาดอยู่กันเงียบๆไม่ส่งเสียง บ่ายวันหนึ่งฝนก็ตกจริงดีว่าเตรียมตัวกันแล้วเลยรับมือได้ เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้เธอเลยเข้าไปในห้องวิจัยสร้างอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาเผื่อจะมีชิ้นไหนเอาไปฝากเจ
เมื่อสองผัวเมียรู้ว่าโสมที่ได้มาจากชิงอี่ทั้งสองเลยยิ่งนับถือเด็กสาวแล้วตั้งมั่นว่าจะติดตามครอบครัวนางเพื่อรับใช้ไปตลอด ระหว่างเดินทางเสียวไป๋กับเสียวหงชอบให้ซูซูแปรงขนให้ เจ้าสองเผือกคิดว่าพวกมันคิดถูกที่มาขออาศัยกับฝูงนี้สมาชิกในฝูงไม่มีใครรังแกพวกมันเลยแถมยังคอยกอดพวกมันด้วยความรัก หาผลไม้ให้ ตอนนอนก็มีที่อุ่นๆให้นอนไม่ต้องกลัวใครจะมารังแก พวกมันชอบกระโดดเล่นไปมาระหว่างเกวียนวัว มันสองตัวรู้แหล่งสมบัติหลายที่เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้มันสองตัวอยู่ในฝูงมันจะพาเจ้ามนุษย์นี้ไปล่าสมบัติเองณ เมืองเฉียงเจ้าเมืองฟ้านอ่านรายงานจากลูกน้อง "ผ่านไปเป็นเดือนทำไมยังหาไม่เจอ""ที่ค้ายโจรไม่มีใครรอดเลยขอรับ และไม่ทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้เลย"ลูกน้องเขาที่ไปถึงเจอแต่ศพเกลื่อนไปหมดแถมทรัพย์สินที่เขาเอาไปซ้อนเก็บไว้จากการปล้นและการโกงงบเสบียงภัยแล้งมาจากชาวบ้านก็ยังมาหายแบบไม่มีรองรอย สมบัติมากมายมันจะหายแบบไม่มีรองรอยได้ไงผ่านไปเป็นเดือนเขาก็ตามหาเบาะแสไม่เจอ"แล้วช่วงนี้มีครอบครัวไหนดูมีฐานะบ้างหรือแม้แต่ขบวนอพยพก็ด้วยตรวจให้หมด ข้าต้องเอาสมบัติกลับคืนมาให้ได้"เขาสั่งปิดด้านเพราะจะได้คอยสังเกตุว่า
ดวงตาแดงเหมือนเลือดกับตัวสีขาวเหมือนหิมะ 'กระรอกเผือก'น่ารักจังชิงอี่มองเจ้าลูกกระรอกน้อยด้วยความเอ็นดู แต่เธอไม่รู้กระรอกกินอะไรเลยนั้งมองมันเฉยๆ เจ้ากระรอกเผือกทำท่าทางเหมือนจะข้ามาหาแต่อยู่ๆก็ตกใจแล้วหนีไป ชิงอี่ก็หันซ้ายหันขวาว่าเจ้าจิ๋วมันตกใจอะไร ก็เจอพี่ชายตัวเองกำลังปีนไปเด็ดดอกไม้ที่เลือยขึ้นมาบนยอด พี่ชายเธอเด็ดดอกไม้ไปให้ใคร เรื่องนี้มันต้องตามไปส่อง เสียวหมิงเด็ดดอกไม้ลงมาให้...ซานซา!! ดูๆแล้วพี่ชายเธอคงอีกหลายปีถึงจะได้แต่งงาน ซานซาเพิ่งจะ10ขวบเองพอหมดความสนใจเรื่องพี่ชายหญิงสาวก็ไปสำรวจรอบๆป่า เผื่อเธอจะเจอสัตว์น่ารักน่ารักอีก ภพที่แล้วเธอไม่มีญาติไม่มีเพื่อนแม้แต่สัตว์เลี้ยงยังไม่มีเพราะไม่่ต้องการมีภาระตอนไปทำภารกิจ แต่มาภพนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนรักสัตว์เอามากๆดูได้จากเจ้าสี่สหายที่เธอเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี ต้องป้อนยาบำรุงให้กินทุกวัน เพื่อให้พวกมันสุขภาพแข็งแรงขนจะได้สวยๆ ว่าไปป่านี้ก็อุดมสมบูรณ์ดีนะสัตว์ป่ามีมากด้วย พอสำรวจจนพอใจก็กลับไปที่กระโจม พอมาถึงกระโจมก็เดินไปหาแก๊งสี่สหายก่อนเลย "เหนื่อยกันมากมั้ยพวกแก ข้าอยากเห็นลูกวัวตัวน้อยๆแล้วพวกแกเมื่อไรจะมี
"ฝนจะตกจริงใช้มั้ยอาอี่"แม่เฒ่าถามด้วยความตื่นเต้น ถ้าฝนตกชาวบ้านก็จะได้คลายร้อนได้บ้างและยังมีน้ำไว้ใช้ แถมแหล่งน้ำธรรมชาติได้มีน้ำไว้ให้สัตว์อีกด้วย "ข้าไม่แนใจเจ้าค่ะ เจ้านี้มันบอกแค่ว่าอาจมีปริมาณน้ำฝนหนาแน่น""ดีๆ อย่างน้อยยังมีความหวัง ถือเป็นข่าวดี""ฝนตก"เสี่ยวเปา"ฝนตก"หลิงหลง"จ้าฝนจะตกแล้ว"ไห่เม้ยรับคำเด็กทั้งสอง เธอเหมือนมีลูกแฝดเพราะอายุของเด็กใกล้เคียงกัน "ข้าว่าอย่าเพิ่งบอกใครเผื่อมันอาจไม่ตกคนจะผิดหวังเสียเปล่าๆ "หลีฟูกลัวว่าคนจะคาดหวังว่าฝนจะต้องตก ถ้ามันไม่ตกอาจทำให้ชาวบ้านผิดหวังก็ได้ การเดินทางเป็นไปด้วยความเงียบเพราะทุกคนเริ่มสิ้นหวังว่าเดินหนีภัยแล้งครั้งนี้อาจไม่ใช้ความคิดที่ดีก็ได้ตอนตั้งกระโจมพักค้างแรมจากที่เคยมีเสียงพูดคุยก็เริ่มเงียบไม่มีการพูดคุยกันแบบในอดีตเพราะทุกคนท้อแท้เกินกว่าจะมีอารมณ์เสวนา ชิงอี่เป็นห่วงสัตว์เลี้ยงของเธอที่เฝ้าบำรุงมาอย่างดีกลัวจะโดนคนคิดเอาไปเป็นของตัวเองหรือคนใจบาปเอาไปทำอาหารเพราะพวกมันอ้วนดูน่ากินมากเธอเลยอยู่เฝ้าสี่สหายไม่ห่าง เธอถือว่านี้คือของรักของข้าเชียวแหละและเช้ามืดของเช้าวันหนึ่งก็มีลมแรงจนกระโจมปลิวชิงอี่คิดว่าฝ
ขบวนหนีภัยแล้งเดินทางต่อโดยมีหัวหน้าหมู่บ้านนำขบวนและครอบครัวหลีปิดท้ายขบวน ชิงอี่ค่อยใช้กล้องส่องทางไกลดูรอบๆว่าปลอดภัยมั้ย "ชิงอี่เห็นอะไรบ้าง"พ่อหลีถามบุตรสาวด้วยกลัวพวกโจรจะตามมา "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะท่านพ่อ ไม่มีใครตามขบวนเรามา "ที่เธอกังวลไม่ใช้โจร แต่เป็นพวกเจ้าหน้าที่ต่างหากละ จากที่เธออ่านในสมุดบัญชี มีเจ้าเมืองเฉียงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้วพวกเธอกำลังเดินทางผ่านเมืองนี้พอดี พวกเธอจะเจออะไรบ้างยากที่จะเดาจริงๆ ช่วงหยุดพักกลางวันหลายๆครอบครัวเลือกที่จะนอนพักเอาแรงเพราะเมื่อคืนทุกคนเกือบจะไม่ได้นอนกันเลย หัวหน้าหมู่บ้านก็เหมือนจะเข้าใจเลยพักให้นานอีกหน่อย เฟยหลงไปดูรอบๆพอรู้มีแหล่งน้ำ ไห่เม้ยกับฮวาหลิวเลยพาเสี่ยวซากับเสี่ยวหลิงไปอาบน้ำสระผมให้สะอาดตาขึ้น เพราะเมื่อคืนแค่เช็ดตัวแต่ยังไม่สะอาดหมดและผมที่เกาะกันเป็นก้อนๆต้องค่อยๆสางกว่าจะอาบน้ำสระผมเสร็จก็หมดเวลาพักพอดี "พออาบน้ำแล้วค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย"ชิงอี่พูดด้วยความเอ็นดู "ข้าว่าแหล่งน้ำเริ่มลดลงแล้วนะ"เฟยหลงเห็นปริมาณน้ำที่ลดลงมากจากรอยเดิม"หมายความว่าภัยแล้งเริ่มขยายพื้นที่แล้วเหรอ"แม่เฒ่าหวองเป็นกังกล กว่าพวกนางจะเดินไป







