Share

๑๓

last update Last Updated: 2025-05-02 13:07:39

ทางด้านหมู่บ้านด้าย หลังจากที่หลิวหงเถา หลิวหลี่เฟยและชิงหมินไปเก็บใบหม่อนทางอีกฝากฝั่งหนึ่งของหมู่บ้านได้ไม่นาน สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นวันนี้ก็เกิดขึ้น

ชายฉกรรจ์กว่าห้าสิบคน รูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายชุดดำทั้งตัวพร้อมมีผ้าคาดปิดใบหน้าเอาไว้เดินถืออาวุธครบมือกันเข้ามาในหมู่บ้าน สตรีชาวบ้านที่เห็นต่างกรีดร้องพร้อมกับวิ่งหนีความไม่ปลอดภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา

“โจรบุก! เตรียมการสู้เร็วเข้า” 

ส่วนชาวบ้านฝั่งบุรุษนั้นก็เร่งไปให้หาอาวุธเพื่อใช้ในการต่อสู้กับผู้บุกรุก บุรุษในหมู่บ้านเองแม้จะมีฝีมือไม่มาก แต่จำนวนคนที่มีเยอะกว่าทำให้พวกเขาคิดว่าอย่างไรก็พอสู้ได้

“ใจเย็นๆ ใจเย็น ๆ” ในกลุ่มโจรมีบุรุษคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังม้า ควบม้าเยาะเบา ๆ เข้ามาตามหลังลูกน้อง “จะเรียกโจรได้เพราะมาจากการปล้น ฉกชิง วิ่งราว แต่วันนี้พวกเราไม่ได้มาปล้น แต่มาขอเงินใช้ต่างหาก”

“เจ้าของเขาไม่เต็มใจให้ ความหมายก็คือการปล้นอยู่ดี”

ชายชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่เขาได้รับจากการโต้ตอบกลับไปในครั้งนี้คือการที่บ่าไม่มีศีรษะให้ตั้งไว้อีกต่อไป เป็นการขู่ขวัญที่ทำให้ชาวบ้านกลัว ไม่กล้าขัดขืนอีก

เหล่าโจรทำเวลาได้รวดเร็วมาก จับชาวบ้านทุกคนมารวมกันไว้ตรงจุดศูนย์กลางของหมู่บ้าน จากนั้นก็มัดมือทุกคนไพล่ไว้ด้านหลัง ใครขัดขืนจับฆ่าปาดคอทิ้งในทันที ซึ่งส่วนมากที่เสียชีวิตลงไปล้วนเป็นบุรุษที่สู้จนตัวตาย

ภาพเลือดสีแดงฉานที่นองเต็มพื้นทำให้สตรีทั้งหลายทนไม่ไหว หนึ่งในนั้นร้องไห้ระบายความหวาดกลัวออกมาพร้อมเอ่ยขอร้อง 

“ฮึก ฮือ อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะเจ้าคะ ทรัพย์สินที่มีอยู่ในเรือนข้าเอาไปให้หมดเลยเจ้าค่ะ แต่ไว้ชีวิตพวกเราเถิดนะเจ้าคะ”

“อือ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย ค้น!” 

หลังจากได้รับคำสั่งจากหัวหน้า เหล่าโจรก็ทำการรื้อค้นอย่างไม่เกรงใจ เอาทรัพย์สินที่ค้นจากเรือนชาวบ้านได้มากองใส่รถขนสินค้าที่เตรียมมาด้วยหลายคัน หมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่เลี้ยงไหมและทอผ้าขาย ฉะนั้นทรัพย์สินส่วนใหญ่จึงเป็นผ้าพับใหญ่และพวกด้ายต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเอาไปขายต่อก็ได้ราคาดีไม่ต่างจากเครื่องประดับสตรี 

“หัวหน้าขอรับ เรือนใหญ่อีกฝั่งหนึ่งมีรถม้าติดสัญลักษณ์ตระกูลไว้ด้วย ข้าไม่รู้ว่าเป็นตระกูลใด แต่ดูจากการตกแต่งรถม้าแล้วเป็นของพวกคนมีเงินแน่ขอรับ”

“นำทางไป”

หัวหน้าโจรเยาะม้าไปทางที่ตั้งของรถม้า มุมปากมีหนวดเคราเฟิ้มกระตุกยิ้ม สัญลักษณ์นี้เขาเห็นเพียงแวบแรกก็รู้แล้วว่าเป็นของตระกูลใด ในหัวดีดลูกคิดรางแก้วขึ้นมาแล้ววกม้ากลับไปเค้นความเอากับชาวบ้าน

“เจ้าของรถม้าหรูหรานั่นอยู่ไหน”

ช่วงนี้ทั้งหมู่บ้านมีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่มาเช่าเรือนพัก ทุกคนจึงรู้ว่าหัวหน้าโจรหมายถึงใคร แต่เมื่อไม่มีใครปริปากกล่าวอะไรขึ้นมาเลย หัวหน้าโจรจึงส่งสายตาให้ลูกน้องจัดการ โดยเขาเลือกดึงชายชราขึ้นมาคนหนึ่งแล้วเอามีดจ่อคอเหี่ยวย่นเอาไว้

“พูด!”

“กรี๊ด! อย่าทำอะไรท่านพ่อของข้าเลยนะเจ้าคะ เราไม่รู้จริง ๆ เจ้าค่ะว่านางไปไหนแล้ว ก่อนหน้านี้เห็นอยู่ที่โรงเลี้ยงไหม ตอนนี้ไม่รู้จริง ๆ เจ้าค่ะ”

จากคำพูดนี้ดูเหมือนตระกูลหลิวจะสามารถรอดไปได้แล้ว ถ้าหากไม่ใช่มีใครคนหนึ่งเห็นว่าพวกเขาเดินไปทางไร่หม่อนเข้า ด้วยความกลัวว่าตัวเองและคนในหมู่บ้านจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ จึงได้ยอมพูดถึงเบาะแสของคนนอกหมู่บ้านออกไปแทน

         

ในอีกฝากฝั่งหนึ่งนั้นผู้คุ้มกันภัยคนหนึ่งอาสากลับหมู่บ้านไปเอาน้ำมาให้พวกพ้องตนพอดีจึงได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเข้า ร่างสมส่วนจึงรีบวิ่งกลับไปบอกสหายร่วมงานที่คุ้มกันคุณหนูคุณชายอยู่ไร่หม่อน 

“คุณหนู คุณชาย แย่แล้วขอรับ!”

เหล่าผู้คุ้มกันที่ดูแลความปลอดภัยอยู่ใกล้ ๆ เข้ามารวมตัวกันในทันที ท่าทางแตกตื่นของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกใจไม่ดี

“เกิดอะไรขึ้น”

หลิวหงเถาวางตะกร้าหม่อนไว้บนพื้น สายตาจดจ้องรอเอาคำตอบจากผู้คุ้มกัน ในขณะเดียวกันนั้นร่างกายก็เปิดประสาทรับรู้ทุกจุดให้ตื่นขึ้นมา ทำให้นางได้ยินเสียงแว่วดังมาจากที่ไกล ๆ 

ทิศทางที่ดังขึ้นมานั้นก็คือหมู่บ้าน!

“โจรภูเขาบุกขอรับ มีมากกว่าห้าสิบคน ตอนนี้ชาวบ้านที่เป็นเด็ก สตรีและคนชราถูกจับมารวมกันแล้ว ส่วนบุรุษที่พอมีวิชาการต่อสู้หน่อยก็ถูกสังหารทิ้งหมดแล้วขอรับ”

“หมายความว่าหากเป็นบุรุษที่โตเต็มวัยมันพร้อมที่จะสังหารทิ้ง แต่สตรีมันก็พร้อมที่จะขายทิ้งด้วยใช่หรือไม่”

คำพูดของหลิวหลี่เฟยทำให้หลิวหงเถาเกิดอาการกลัวขึ้นมาจับขั้วหัวใจ มือสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ แต่เมื่อไล่สายตามองแล้วทุกคนก็เกิดอาการที่ไม่ต่างจากนางนัก นั่นทำให้นางต้องสะกดจิตตัวเองเอาไว้ พยายามควบคุมตนเองให้ไม่รนรานและมีสติพร้อมที่จะคิดหาทางรอด

“แบ่งเราคนหนึ่งไปขอความช่วยเหลือจากทางการได้หรือไม่ ข้าประเมินตัวเองแล้ว มากสุดคือสามารถวิ่งหลบหนีได้ในระยะไม่ไกลจากบริเวณนี้แน่ หากมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่…”

เสียงฝีเท้าคนและฝีเท้าม้ากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงเป็นการใหญ่ โดยเฉพาะผู้คุ้มกันที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้า ในบรรดาโจรทั้งหมดผู้เดียวที่ขี่ม้ามาก็คือ…

“หัวหน้าโจรแน่นอนขอรับ หลบเข้าป่าหม่อนก่อนเถิด”

โชคดีที่ต้นหม่อนไร่นี้ต้นสูงและค่อนข้างชุกชุม พวกเขาทุกคนจึงกระจายกันหลบเข้าป่าหม่อนคนละฝั่ง โดยผู้คุ้มกันอีกสามคนอยู่ฝั่งหนึ่งเพื่อเตรียมลอบสังหารโจร ส่วนอีกสามคนอยู่ฝั่งเดียวกับคุณหนูคุณชายและช่างปัก

“หมอบแนบพื้นให้ได้มากที่สุด” 

หัวหน้าผู้คุ้มกันสั่ง มือกำดาบแน่น เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีในทุกด้าน

กรุบ กรุบ กรุบ

ในยามที่ม้าวิ่งเข้ามาใกล้ หลิวหงเถาทำถึงขนาดกลั้นลมหายใจเอาไว้ กลัวว่าการหายใจเข้าออกจะทำให้โจรร้ายรู้ตัว จวบจนกระทั่งเห็นฝ่าเท้าม้าและคนอีกสามสี่คนวิ่งผ่านไป นางจึงได้กล้าผ่อนลมหายใจเข้าออก

“เฮ้อ หัวใจข้าจะวาย”

หลิวหงเถาหันไปสำรวจพี่ชายฝาแฝด ใบหน้าของเขาซีดมาก มีเหงื่อเม็ดใหญ่อยู่ตามไรผม แผ่นหลังชื้นเหงื่อ บ่งชัดว่าตัวเขาเองก็กลัวมากเช่นกัน นางจึงเอื้อมมือไปตบหลังมือเขาเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ

“ไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

สิ้นคำนางก็หยิบกระเป๋าใบเล็กและเปิดสิ่งที่อยู่ด้านในออกมา ทุกคนมองตามการกระทำของนางตาไม่กะพริบ และดวงตายิ่งเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าสิ่งที่อยู่ด้านในกระเป๋านั้นคือเข็มขนาดเล็กขนาดเดียวกันเรียงกันเป็นแพ 

“พี่เถาเถ่า ปล้องไม้ไผ่อันนี้คือ”

“เอาไว้ใส่เข็มเคลือบยาสลบ ถ้าพวกโจรมันย้อนกลับมาแล้วไม่ปล่อยผ่านเราไป พี่จะลงมือจริง ๆ แล้วนะ”

มือบางหยิบเข็มหลายอันขึ้นมาแล้วสอดลงในช่องไม้ไผ่ที่ด้านในได้ใส่กลไกลับเอาไว้แล้ว 

หลิวหลี่เฟยอึ้ง เขาแทบจะอยู่กับน้องสาวฝาแฝดทุกช่วงเวลา ไม่ยักรู้ว่านางจะมีของแบบนี้ไว้ติดตัวด้วย

“น้องหญิงเล็ก เจ้าน่ากลัวนะ”

หลิวหงเถายกยิ้มมุมปาก สายตาจริงจังกับคำพูดนี้ของตนเองเป็นอย่างมาก “ถ้าครั้งนี้เรารอดไปได้ เจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่สาวตกลงไหม”

แน่นอนว่าหลิวหลี่เฟยย่อมไม่ยอมอยู่แล้ว เขาทำท่าจะเอ่ยปฏิเสธ แต่อยู่ ๆ ต้นหม่อนที่พวกเขาใช้ซ่อนอำพรางกายอยู่นั้นก็ถูกตัดออกไปจนเหลือแต่ตอ แสงสว่างจากแดดจ้าเข้ามาแทนที่พร้อมกับที่กลุ่มโจรวิ่งกลับมาทางนี้อีกครั้ง

เป็นโจรชั่วที่ปามีดเข้ามาตัดต้นหม่อนออกไป จังหวะเมื่อครู่หากมีใครโผล่ศีรษะขึ้นมาจากการนอนราบพอดี รับรองว่าไม่มีศีรษะให้ตั้งบ่าอีกต่อไปแน่

“มาหลบกันอยู่นี่เอง ชอบเล่นซ่อนหาก็ไม่บอก”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๔

    หลิวหงเถาใจกระตุก นางยังคงนอนราบไม่ยันกายขึ้นมานั่ง ลอบกระซิบถามผู้คุ้มกันของตนเอง “ดูจากรูปพรรณสัณฐานแล้ว เจ้าโจรพวกผู้นี้เก่งหรือไม่”ผู้คุ้มกันพยักหน้ารับ “คนที่ขี่ม้าข้อน้อยไม่มั่นในว่าสู้ได้แค่ไหน แต่พวกลูกน้องของมันคนของเราสู้ได้แน่นอนขอรับ”“ข้าเชื่อใจพวกท่านนะ แต่ข้ามีอยู่แผนหนึ่ง…” หลิวหงเถาไม่มั่นใจว่าแผนการณ์นี้ของตนจะได้ผลหรือไม่ แต่นางก็จะลองเสี่ยงดูผู้คุ้มกันเลิกคิ้วขึ้น ยังไม่ทันจะซักถามอะไร มือบางก็คว้าเอามีดสั้นที่พกมาตัดใบหม่อนขว้างมันไปที่ต้นขาของม้าจนมันเจ็บแล้วล้มขาพับไป เป็นเหตุให้ตัวของหัวหน้าโจรล้มลงมาด้วยในจังหวะที่เขายังไม่ทันตั้งตัว หลิวหงเถาที่รออยู่แล้วก็เป่าเข็มอาบยาสลบพุ่งเป้าไปยังทางหัวหน้าโจร เข็มหลายสิบเล่มกระจายไปโดนทั้งม้าและหลุดออกนอกทิศทางไปด้วย แต่หลิวหงเถาก็มั่นใจว่ามันต้องปักอยู่บนร่างกายของหัวหน้าโจรเข้าสักอันหนึ่ง“จัดการต่อ!”ผู้คุ้มกันอีกสามคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเข้าจัดการลูกน้องของโจรก่อน เพราะฝีมือที่มีมากกว่าทำให้จัดการพวกมันได้โดยง่าย แต่คนที่จัดการยากเห็นทีจะเป็นหัวหน้าโจรที่ลุกขึ้นมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว“ข้าประมาทพวกเจ้าเกินไปสิน

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๕

    ชินอ๋องเล่าว่าตนเองวางแผนจับโจรภูเขากลุ่มนี้มานานเป็นปีแล้ว เมื่อได้รับรายงานว่าพวกมันจะออกปล้นเมื่อใด เขาจะเป็นผู้นำในการกวาดล้างกลุ่มโจรด้วยทุกครั้งรวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน น่าเศร้าที่สายข่าวของเขาทำงานช้าไป ผลของมันจึงทำให้ชาวบ้านเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต“เปิ่นหวางขอเป็นตัวแทนของทุกคนขอบคุณคุณหนูหลิวแล้ว มิเช่นนั้น เราคงจับหัวหน้าโจรกลุ่มนี้ไม่ได้สักที”หลิวหงเถาส่ายหน้าไปมาด้วยไม่กล้ารับคำชม“ท่านอ๋องตรัสเกินไปแล้วเพคะ นี่เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น อย่าได้ให้ค่าการกระทำของหม่อมฉันถึงเพียงนั้นเลย”ตอนนี้หลิวหงเถาและทุกคนกลับมาที่หมู่บ้านแล้ว ภาพความเสียหายทั้งหมดปรากฏเข้าสู่สายตา กลิ่นคาวเลือด เสียงร่ำไห้ของชาวบ้านทำให้นางรู้สึกหดหู่และอยากร้องไห้ตามไปด้วย“ฮึก ฮือ…”ตอนนี้ผ่านมาหลายชั่วยามแล้ว ชาวบ้านที่เป็นสตรีถูกช่วยไว้ได้ทัน ความสูญเสียจึงหยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่บางคนที่สูญเสียคนในครอบครัวไปก็ยังคงส่งเสียงร้องไห้ออกมาให้ได้ยินอยู่เหตุการณ์เหล่านี้หากมันเกิดขึ้นกับข้าโดยตรง ข้าขอตายตามไปด้วยเลยเสียยังดีกว่า“คุณหนูหลิว”หลิวหงเถาดึงตัวเองออกจากภวังค์พร้อมหันหน้ามายังชินอ๋อง “

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๖

    เพียงชั่วข้ามคืนข่าวอันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านด้ายถูกลือว่อนไปทั่วทั้งเมืองหลวง ชาวเมืองแคว้นชิงชิวที่ทราบข่าวต่างรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้ที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปชินอ๋องในฐานะเป็นผู้นำในการจับกุมครั้งนี้ได้รับคำชมจากฮ่องแต้แคว้นชิงชิวต่อหน้าขุนนางทั้งท้องพระโรง ทำให้เสนาบดีหลิวซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาพลอยได้หน้าไปด้วย ไม่เพียงแค่นั้น หวางเฟยพระองค์ใหม่ยังช่วยพระสวามีทำคุณงามความดีเพิ่มโดยการเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในวันนี้ให้เป็นในแบบการกุศลแทน ภาพวาดที่คุณหนูทั้งหลายปักจะถูกยกขึ้นมาประมูล โดยรายได้ทั้งหมดจะถูกส่งมอบให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยทั้งหมดตามความเสียหายที่ได้รับหลิวหงเถาไม่ได้เข้าร่วมในงานนี้ เพราะว่านางบาดเจ็บที่คอ หากเข้างานโดยที่มีผ้าพันแผลพันรอบคออยู่จะยิ่งเป็นการสร้างความสงสัยให้ผู้อื่นที่สำคัญตั้งแต่กลับมาถึงจวนตระกูลหลิวนางไข้ขึ้นสูงมาก ความอ่อนล้าของร่างกายที่สะสมมาหลายวันกอปรกับการเดินทาง ทำเอานางนอนเป็นผักให้ชิงหมินหยอดน้ำข้าวต้มมาสองมื้อแล้ว“ชินอ๋องทรงพระปรีชายิ่ง ไม่มีใครรู้ข่าวเรื่องที่ลูกประสบเหตุที่นั่นเลย เป็นเพราะพระองค์ทรงปิดข่าวให้เป็นแน่”จูม

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๗

    เช้าวันต่อมาหลิวหงเถาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะ หนักท้ายทอยจนไม่สามารถลุกขึ้นมานั่งได้ ท่านหมอประจำจวนมาตรวจแล้ววินิจฉัยออกมาว่าเป็นเพราะพิษไข้จึงสั่งยาเพิ่ม“ยาได้แล้วขอรับพี่เถาเถ่า”ชิงหมินเดินถือยาเข้ามาให้หลิวหงเถาถึงด้านในห้องนอน ครั้งนี้จัดการเป่ายาให้เสร็จสรรพก่อนที่จะยื่นถ้วยยาจ่อปากนางเป็นการบังคับกินยาไปในตัว“ไม่กินได้หรือไม่ เจ้าดูสีสิ ดำแบบนี้ความขมจะระดับไหน”ชิงหมินส่ายหน้าไม่ยินยอมด้วยเช่นกัน “ไม่กินแล้วจะหายได้อย่างไรกันขอรับ พี่เถาเถ่าปวดศีรษะไม่ใช่หรือ อย่าดื้อเลยนะ”“พูดเหมือนพี่เป็นเด็กอีกแล้วนะ แต่พี่ว่านะ…” หลิวหงเถามุ่นคิ้ว ทำเอาชิงหมินนึกสงสัยตามไปด้วย “หมินมิ่น พี่ว่าตัวเองไม่ได้ปวดศีรษะเพราะว่าพิษไข้หรอก”“แล้วเป็นเพราะอันใดขอรับ”นางทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะนึกออกว่าเคยปวดในลักษณะนี้ตอนไหนบ้าง“นึกออกแล้ว เมื่อตอนก่อนที่จะเกิดงานอภิเษกของหวางเฟยหรือไม่นะ จำได้แค่ว่าตอนนั้นเดินไกลมาก ไม่รู้ไปไหนมา ไม่รู้ไปเจอใครแล้วพบกับเหตุการณ์ใดบ้าง พอเช้าวันต่อมาก็ปวดศีรษะคล้ายกับวันนี้” “เช่นนั้นหรือขอรับ”“อือ ว่าแต่วันนั้นก็แปลก ถ้าไม่ปวดขาเพราะเดินไกลก

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๘

    หลังจากที่ประชุมเช้าเสร็จ ไท่จื่อก็ถูกนางกำนัลของฮองเฮาเชิญเสด็จไปยังตำหนักคุนหนิง สถานที่ประทับของมารดาแห่งแผ่นดิน ฝ่าเท้าใหญ่หยุดอยู่ที่หน้าตำหนัก ลอบสูดหายใจเข้าลึกก่อนที่จะเดินเข้าไปยังตำหนักชั้นใน“เชิญเสด็จเพคะ”“อือ” เขาปรับสีหน้าให้เรียบเฉยแล้วเดินเข้าไปด้วยท่าทางหนักแน่นมั่นคง ไม่แสดงอาการหวั่นเกรงออกมาให้ใครจับได้เลยสักนิด เขายังไม่แน่ชัดว่าเสด็จแม่ของตนเชิญเสด็จมาเพราะเหตุผลหลักคือเรื่องใด แต่ที่แน่ ๆ ต้องเกี่ยวข้องกับที่ประชุมเช้าในวันนี้แน่“ถวายพระพรเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาคือสตรีวัยกลางคนที่ยังคงสิริโฉมงดงามอยู่ไม่เสื่อมคลาย ริมฝีปากทาชาดไว้จนแดงสด แม้จะอยู่ในชุดกึ่งทางการแต่ก็ยังประดับปิ่นหงส์สีทองกับปิ่นเล็ก ๆ อีกสามชิ้นไว้รอบศีรษะ “ตามสบายเถิดไท่จื่อ”นางกำนัลยกน้ำชาและของว่างมาถวายให้ไท่จื่อ ไม่นานจากนั้นก็พากันเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ ตามคำสั่งของนางกำนัลคนสนิทซึ่งเป็นคนเดียวที่ฮองเฮาอนุญาตให้อยู่ด้วยในห้องนี้“วันนี้เสด็จอาของไท่จื่อได้รับคำชมจากฝ่าบาทอย่างท้วมท้น หลิวหวางเฟยเองก็ด้วย แม่ช่างเลือกหวางเฟยให้เสด็จอาไท่จื่อได้ดีนัก”เวลาอยู่กันเพียงลำพังเช่นนี้ ฮองเฮ

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๙

    ภายใต้เก๋งจีนขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บนสระบัวกว้าง มีสองสตรีใบหน้างดงามล้มเมืองนั่งจ้องหน้ากันอยู่ ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดขึ้นมาราวกับทั้งคู่กำลังแข่งกันเงียบ ใครหลบตาก่อนแพ้ ใครเอ่ยสิ่งใดขึ้นมาก่อนก็แพ้เช่นกัน “เอาเถอะ ข้ายอมแพ้ก่อนก็ได้”แต่ครู่ต่อมา หลิวหงเถาก็เป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อนพร้อมหลุบตาลงต่ำเอื้อมมือไปหยิบจอกชาที่มีไอสีขาวลอยฟุ้งขึ้นมาเป่าเบา ๆ ดื่มด่ำกับกลิ่นหอมและขนมที่สาวใช้ยกมาให้ตั้งแต่ที่นางมาถึงเรือนของคุณหนูใหญ่ตระกูลจิน“ทำไมถึงเปลี่ยนใจมาได้ล่ะ เมื่อวานยังให้คนมาปฏิเสธข้าอยู่เลย”หลิวหงเถารอจนกลืนขนมลงคอหมดแล้วจึงค่อยเอ่ยคำถามที่ให้อีกคนเลือกคำตอบ“อยากจะฟังเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกล่ะ”จินเซียนเหม่ยมุ่นคิ้วน้อย ๆ ไม่ใช่เพราะว่าคำถามของหลิวหงเถา แต่เป็นเพราะเศษขนมที่ติดอยู่มุมปากของนางต่างหาก เร็วกว่าความคิด มือเรียวเล็กก็เอื้อมไปหยิบเศษขนมออกจากปากให้หลิวหงเถาในทันที “เศษขนมติดอยู่ตรงริมฝีปากเจ้า เห็นแล้วขัดตาจึงช่วยเอาออกให้” ที่จริงจินเซียนเหม่ยก็ตกใจในการกระทำของตนเองไม่น้อย แต่ก็ยังแสร้งทำหน้านิ่ง ราวกับว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรทั้งสิ้น“อ้อ ขอบใจ ว่าแต่

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๐

    ในที่สุดสิ่งที่เสนาบดีหลิวและฮูหยินกังวลก็ได้รับการยืนยัน เมื่อวันต่อจูม่านหลิงได้ต้อนรับแขกขบวนใหญ่อันประกอบไปด้วยนางกำนัล ขันทีและองครักษ์ส่วนพระองค์จากตำหนักคุนหนิง เพราะหลิวหงเถาไปคลุกตัวอยู่กับว่าที่ไท่จื่อเฟยเพื่อแก้ชุดอภิเษก ทำให้คนในวังพลาดโอกาสที่จะได้เห็นท่าทีของนาง“จวนเสนาบดีหลิวยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับท่านกงกงเจ้าค่ะ รอสักครู่นะเจ้าคะเดี๋ยวข้าให้เด็ก ๆ ไปยกน้ำชากับขนมมาให้”“ไม่รบกวนฮูหยิน” ขันทีคนสนิทของฮองเฮาอีกคนหนึ่งยกมือห้าม พร้อมทั้งพูดถึงธุระของตนเองในวันนี้ให้แล้วเสร็จก่อนที่จะไปอีกจวนหนึ่ง“แคว้นซู่ส่งของเข้ามายังตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาทรงเห็นว่าเหมาะกับคุณหนูหลิวจึงได้ให้เราเป็นตัวแทนมามอบให้ พระนางยังหวังอีกว่าหลังพิธีอภิเษกเตี้ยนเซี่ย ตำหนักคุนหนิงจะได้ต้อนรับฮูหยินกับคุณหนูหลิว”จูม่านหลิงยิ้มค้างไปแล้ว นางตะลึงไปชั่วขณะจนสาวใช้คนสนิทต้องเข้ามาสะกิดแขนยิก ๆ นางจึงได้รู้ตัวแล้วค้อมศีรษะลงเล็กน้อย“เช่นนั้นรบกวนท่านกงกงทูลเสด็จให้ว่าเรายินดีเจ้าค่ะ”กงกงเฒ่ายกยิ้ม สายตาจิ้งจอกมากเล่ห์เห็นเพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าฮูหยินของเสนาบดีหลิวมีท่าทีอยางไร แน่นอนว่า

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๑

    คืนนี้เป็นอีกคืนที่พระจันทร์เต็มดวงให้ความสว่างไสวแก่ใต้หล้า บางคนอาจจะมีความสุขที่ได้นั่งดื่มสุราเคล้าแสงจันทร์ เห็นพระจันทร์เป็นสิ่งสวยงาม แต่สำหรับบางคนแล้วนั้น พวกเขาอาจจะเห็นพระจันทร์สีเหลืองในคืนนี้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงเลือดก็ได้ร่างสูงในชุดสีดำสนิทวิ่งขึ้นมาบนหลังคาของหอโคมเขียวขึ้นชื่อในเมือง เขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะจะมาเสพสมร่วมระคากับสตรีในที่แห่งนี้ แต่เขามาเพื่อปลิดชีพบุรุษที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายของพวกนางต่างหาก“อยู่ด้วยกันเช่นนี้ก็ดี จะได้จัดการได้ง่าย ๆ”ร่างสูงกระโดดลงจากหลังคาโดยการเข้าทางหน้าต่างพร้อมห้อยโหนไปยังขื่อคานด้วยความรวดเร็ว คนที่อยู่ในห้องพิเศษห้องใหญ่นี้ไม่มีผู้ใดรับรู้การมาถึงของเขาเลยเพราะว่ากำลังมึนเมาได้ที่ อีกทั้งสตรีร่างอรชรอ่อนแอ้นในอ้อมแขนมันน่าสนใจกว่าสิ่งใดเยอะ“พรุ่งนี้ข่าวคงดังกระฉ่อนไปทั้งเมือง บุตรชายคนเล็กของเจ้ากรมพิธีการและบุตรชายคนรองของแม่ทัพเซียวเข่นฆ่ากันเพราะร่ำสุราที่หอโคมเขียวจนมึนเมา พยานรู้เห็นเหตุการณ์ก็มี ดูสิว่าจะมาสืบเรื่องราวสาวต่อยังไง”วิธีที่เขาเลือกใช้จัดการคนแม้จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เขาสำหรับในอีกฐานะหนึ่ง แต่เขาไม่

    Last Updated : 2025-05-02

Latest chapter

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 3 (จบบริบูรณ์)

    ตอนพิเศษที่ : 3เริ่มต้นชีวิตคู่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยณ ห้องหอของบ่าวสาวคู่ใหม่ในวังปีศาจ สองบ่าวสาวคล้องแขนกันดื่มสุรามงคลที่เถาฮวาเฉินเป็นผู้ทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้ย่อมต่างจากสุราทั่วไปที่นางให้ผู้อื่น“รู้หรือไม่ว่าสุราที่เราให้ฉางฉ่างดื่มจะทำให้ฉางฉ่างไม่สามารถไปดื่มสุราที่ใดได้อีก”“ข้ารู้”เถาฮวาเฉินเลิกคิ้วขึ้นสงสัย “เหตุใดถึงไม่แปลกใจหรือไม่สงสัยอันใดเลย ไม่คิดบ้างหรือว่าเราอาจจะวางยาอะไรใส่ให้ฉางฉ่างดื่มกินก็ได้”หยิ่นฉางยกยิ้ม ทั้งยังเทสุราใส่จอกแล้วยกดื่มให้นางดูอีกสามครั้ง เป็นการบอกว่าเขาไม่ได้สงสัยในสิ่งนี้ ช่างขยันในการพิสูจน์ด้านการกระทำสำคัญกว่าคำพูดจริง ๆ“ท่านรู้สึกแย่หรือไม่ ที่ข้าไม่ได้บอกท่านก่อนเรื่องที่ให้ท่านพ่อเตรียมงานแต่งงานของเราไว้”ท่าทางของเถาฮวาเฉินไม่แสดงออกว่าโกรธหรือไม่ แต่เขาก็ยังอยากรู้ความรู้สึกลึก ๆ ของนาง“อือ” นางทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่คนที่เฝ้ารอคำตอบกลับแอบกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว “อาจจะตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ ฉางฉ่างก็อย่าคิดมาก เราเป็นคนตรง ๆ อยู่แล้ว คิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรไม่เก็บมาคิดคนเดียวหรอก”“จริงหรือ”“จริงสิ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ : 2องค์ชายเล็กของแดนปีศาจ“ว้าว~นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เราได้มาเยือนพระราชวังของแดนปีศาจ ใหญ่โตดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะฉางฉ่าง”หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแนบชิดกันมาสามวัน คำเรียกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว จาก ‘หยิ่นฉาง’ ก็เป็น ‘ฉางฉ่าง’ และจากเถาฮวาก็เป็น ‘เถาเถ่า’“ต่อไปที่นี่ก็คือบ้านของเถาเถ่า ท่านพ่อต้องชอบท่านแน่ ไม่ต้องกังวลนะ เขาจะดีต่อท่าน”เถาฮวาเฉินพยักหน้ารับพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ในใจคิดเหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเพิ่งผ่านช่วงแต่งงานแล้วก็กลับมาเยี่ยมบ้านเจ้าสาวกันนะ ว่าแต่…“จอมปีศาจจะชอบสุราของเราหรือไม่ สุราหมื่นปีแบบนี้แม้จะเป็นของหายาก แต่ไม่ได้มีใครที่จะได้ดื่มกินบ่อย ๆ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่คุ้นลิ้น อย่างช่วงงานฉลองราชย์ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เราเคยเอาสุราหมื่นปีถวายเช่นกัน แต่พระองค์มิใคร่พอใจนัก ช่างเอาใจยากจริง ๆ”หยิ่นฉางหัวเราะในลำคอเบา ๆ หากบิดาของเขาได้ยินคำบ่นนี้ของนางไม่วายหัวเราะชอบใจที่นางเอ่ยนินทาประมุขของเผ่าสรรค์เช่นนี้“ทุกคนรอเราอยู่ที่ท้องพระโรงใหญ่”“หือ ท้องพระโรงหรือ”เถาฮวาเฉินรู้สึกเอะใจกับคำพูดนี้ของเขามาก จนกระทั่งเขาพานางเดินมาถึงจ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่: 1กิจกรรมที่คนคบกันเขาทำกัน ณ พระราชวังแคว้นชิงชิว “ท่านว่าเรามองนางอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”“ไม่รู้สิ หนึ่งชั่วยามได้แล้วหรือไม่ ถ้าท่านรู้สึกว่าเสียเวลาก็ไปทำงานที่คั่งค้างไว้ก่อนได้เลย ข้าขอดูนางต่ออีกหน่อย”หยิ่นฉางส่ายหน้าเบาๆ “ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน เช่นนี้ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก แล้วอีกอย่างข้าก็ว่างมากด้วย”ตอนนี้เถาฮวาเฉินและหยิ่นฉางได้ลงมาโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมที่คู่รักเขาทำกัน นั่นคือการทำอะไรก็ได้ให้ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่เถาฮวาเฉินเสนอมาก็คือการนั่งมององค์หญิงสาม บุตรสาวของหลิวหงเถาที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่เถาฮวาเฉินละสายตาจากองค์หญิงสามเพื่อหันกลับมาจ้องมองหยิ่นฉาง “ใช้คำพูดรุกเราให้ใจเต้นรัวอีกแล้วนะ” จากนั้นก็จูงมือเขาออกจากศาลาที่องค์หญิงสามนั่งอยู่ ทั้งคู่พรางกายเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีมนุษย์ผู้ใดสามารถมองเห็นได้“ช่วงข้าวใหม่ปลามันจะให้แผ่วได้อย่างไร”ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น แขนยาวยังเอื้อมไปโอบไหล่นางพร้อมซบหน้าลงหัวไหล่ด้วย เถาฮวาเฉินไม่ได้ขัดขืนทั้งยังยกมือขึ้นลูบศีรษะเขาตอบ ทั้งคู่จับมือกันเดินผ่านสวนงดงามของวังหลวงและพูด

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๓

    เถาฮวาเฉินพูด :“อื้อ~สบายจัง”ข้าบิดขี้เกียจพร้อมกล่าวเสียงอู้อี้ออกมาขณะที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ ข้ารู้สึกที่นอนนั้นช่างหนานุ่ม สามารถดูดวิญญาณของข้าให้อยู่บนนี้ได้ทั้งวัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ…“ข้ามีเตียงแบบนี้ด้วยหรือ”“...จากที่ข้าลอบเข้าไปดูที่แดนดอกท้อ ไม่มีนะท่าน”เฮือก!เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขาเท่านั้นข้าก็เด้งตัวขึ้นมานั่ง จากที่ไม่อยากลืมตาสู้แสง ดวงตากลับแจ่มชัดไร้ความพร่ามัว“นี่ท่าน…”กำลังจะตั้งคำถามว่า ‘นี่ท่านมาอยู่ห้องของเราได้อย่างไร’ แต่สุดท้ายก็เงียบไป เพราะคิดได้ว่าตนเองต่างหากที่มาอยู่ในดินแดนของผู้อื่น“ว่าต่อสิ หรือกำลังคิดอยู่ว่าข้าได้ทำอะไรท่านหรือไม่”หยิ่นฉางถามขึ้นยิ้ม ๆ ทั้งยังถอยห่างออกจากข้าดั่งกับว่าเขาอยากให้ข้ารู้สึกปลอดภัย ไม่โดนคุกคามอยู่ นั่นจึงทำให้ข้ารู้สึกดีต่อการกระทำนี้ของเขามาก“เราเปล่าคิดเช่นนั้นสักหน่อย ว่าแต่ท่าน…”ข้าไล่สำรวจเขาทั้งร่าง ตอนแรกก็แค่รู้สึกว่าเขามีอะไรเปลี่ยนไปสักอย่าง พอสำรวจอย่างละเอียดอีกที ที่แท้เป็นเพราะชุดสีขาว“ข้าดูแปลกตาไปใช่หรือไม่ ท่านจึงได้จ้องตาไม่กะพริบถึงเพียงนี้”หยิ่นฉางถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก่อนที่จะยื่นมือม

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๒

    สิ้นคำที่หยิ่นฉางปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ เขาก็แสดงอาการตรงข้ามกับคำพูดนี้ทันทีโดยการอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหายวับกลับถิ่น ณ ดินแดนปีศาจในทันทีตุบ!“โอ๊ย!”หยิ่นฉางวางเถาฮวาเฉินลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บจนต้องร้องออกมา ใบหน้างามชักสีหน้าใส่เขา แต่หยิ่นฉางหรือจะสน ร่ายมนตร์สร้างอาณาเขตไว้เพื่อไม่ให้เถาฮวาเฉินใช้พลังหนีออกจากที่นี่ไปได้จนกว่าจะสนทนากันให้รู้เรื่อง“ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ ข้าก็นับว่าเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดตนหนึ่งในแดนปีศาจ มีทั้งประสบการณ์ด้านการต่อสู้ ไม่ว่าจะทั้งสัตว์อสูรร้ายหรือแม้กระทั่งเทพเซียนที่แข็งแกร่ง ข้าก็ผ่านมาแล้ว สำหรับท่านที่วัน ๆ หมักแต่สุรา...”พูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป อีกทั้งยังส่ายหน้าน้อย ๆ สองครั้ง ทำเอาคนถูกสบประมาทเดาคำว่า ‘สำหรับข้าไม่นับว่าเป็นอะไร จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด’ จากท่าทางของหยิ่นฉางได้แล้ว“เมื่อก่อนท่านไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่เหตุใดถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้”หยิ่นฉางเลิกคิ้ว “ก็ไม่ใช่ว่าท่านบอกให้ข้าลืมเลือนเรื่องในอดีตหรอกหรือ นี่อย่างไร ข้าก็ลืมความอ่อนโยนที่เคยมีให้แล้วแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว ตกลงจะเอาอย่าง

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๑

    “หึ! โดนเสด็จพ่อของพวกเจ้าลงโทษเรื่องใดมาเล่า ถึงได้มากวาดลานวัดเช่นนี้”“ท่านน้า”องค์ชายแฝดทั้งสองทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งเข้าไปหา ‘ท่านน้าหยิ่นฉาง’ ผู้ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เมื่อก่อนมีรูปลักษณ์เช่นไรตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน“พวกเจ้านี่นะ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนกับลูกลิงอยู่ได้ รักษาภาพลักษณ์องค์ชายแห่งแคว้นบ้างเถิด”องค์ชายใหญ่พ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างแรง ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ท่านน้า ภาพลักษณ์ของพวกเราไม่เหลือตั้งแต่ที่เสด็จพ่อให้มากวาดลานวัดเช่นนี้แล้วขอรับ”“แต่ข้าว่าไม่เหลือตั้งแต่ไปก๊งเหล้าที่ร้านนั้นแล้วละ”อ๋องน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่จะเดินเข้ามารวมกลุ่มด้วย ที่จริงเขาไม่ได้โดนลงโทษให้มากวาดลานวัดเช่นนี้ แต่มีหรือที่องค์ชายแฝดจะปล่อยให้เขารอดไปได้ ทั้งยังกล่าวว่า…‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ก็ต้องร่วมฝ่าฝันไปด้วยกัน’“หือ” หยิ่นฉางเลิกคิ้วถาม “ร้านใดกันที่ทำให้ท่านอ๋องน้อยแห่งตำหนักชินอ๋องถึงขั้นไปลิ้มลองได้”องค์ชายรองเป็นคนอธิบายคำถามนี้ “เป็นร้านสุราดอกท้อข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่งขอรับท่านน้า คนขายเป็นพ่อค้าหน้าหยก รสชาติสุราเป็นร

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๐

    “ต้าเกอ วันนี้กระบวนท่าไม่เลวเลย ฝีมือท่านพัฒนาขึ้นมาก”“เป็นเอ้อร์ตี้ออมมือให้ต่างหาก มิเช่นนั้นเราคงไม่เสมอกันเช่นนี้ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ทำให้ต้าเกอไม่เสียหน้าก็แล้วกัน ไม่สิ! ต่อให้แพ้ แต่แพ้เอ้อร์ตี้ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอายอะไร”“ต้าเกอก็ชมข้าเกินไปแล้ว มา! เอ้อร์ตี้คารวะให้ท่านหนึ่งจอก”“ได้เลย”สองบุรุษหน้าตาคล้ายกันเกือบสิบส่วนเอื้อนวาจาเยินยอกันเองก่อนที่จะยกจอกสุราชนกัน ทั้งสองคนที่ว่าก็คือองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองของแคว้นชิงชิวนั่นเอง ก่อนทั้งสองกลับวังตนเองทั้งคู่ได้ชวนกันมาร่ำสุราที่ร้านข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง“อือ สุราดี”รสชาติของสุราทำให้ทั้งสองพอใจเป็นอย่างมาก ขนาดที่ทั้งคู่หันไปชมเถ้าแก่ร้านหน้าละอ่อนไม่หยุด“เถ้าแก่ สุราดอกท้อของท่านรสชาติดียิ่ง ท่านทำเองหรือว่ารับมาขาย”เถ้าแก่ร่างบางตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะแย้มยิ้มรับคำชมนั้นอย่างภูมิใจ“แน่นอนว่าข้าย่อมหมักเอง คุณชายทั้งสองสนใจซื้อในปริมาณมากหรือไม่ ข้าน้อยจะคิดราคาให้เป็นพิเศษเลย”“โอ้ เช่นนั้นข้าขอสั่งสักสิบไหได้หรือไม่ เถ้าแก่เชิญคิดราคามาได้เลย”“สิบไหเป็นห้าตำลึงเงินก็แล้วกัน ราคากันเอง”ไม่เพียงองค์ชายทั้

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๙

    หลิวหงเถาพูด:เวลาของโลกมนุษย์และดินเแดนเบื้องบนต่างกัน หนึ่งวันของแดนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีของโลกมนุษย์ ระยะเวลารวมที่ข้าเซียนจากแดนแห่งการชำระล้างจากไปเป็น 40 วัน ของแดนสวรรค์ ในเมืองมนุษย์ก็เท่ากับ 40 ปีใช่! ตอนนี้ข้าตายจากการเป็นมนุษย์และได้กลับมายังดินแดนชำระล้างแล้ว พลังบริสุทธิ์ที่คุ้นเคยทำให้ข้ารู้สึกร่างกายคล้ายกับได้รับการเยียวยา พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก …ที่แท้ความรู้สึกของการเลื่อนขั้นเป็นเช่นนี้ข้าเดินเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่อันมีดอกไม้นานาชนิดประดับตกแต่งไว้ ทั้งการจัดโต๊ะ ทั้งบรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกถึงงานเลี้ยงฉลองไม่มีผิด ทันใดนั้นข้าก็ได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“ยินดีต้อนรับเซียนเถาฮวา ไม่ใช่สิ! ยินดีต้อนรับเทพเถาฮวากลับสู่แดนชำระล้าง ทั้งหมดนี้คืองานฉลองการต้อนรับกลับบ้าน”คนแรกที่ข้าเห็นยามเดินเข้ามาในห้องโถงคือท่านหัวหน้าดินแดน สิ้นประโยคของนางก็เกิดคลื่นพลังมากมายหลากสีขึ้นมาในห้องโถง พร้อมกับการปรากฏตัวของเทพเซียนองค์อื่น ๆ“ยินดีต้อนรับเถาฮวาเฉิน” พวกนางกล่าวต้อนรับข้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ข้าจึงมอบรอยยิ้มจริงใจส่งกลับไปให้ทุกคนเช่นกัน“ขอบคุณ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๘

    เมื่อยามที่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในตำหนักแล้วได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กหญิง เสียงพูดไม่ชัดของเด็กชาย เสียงใสของสตรีอันเป็นที่รัก มันทำให้ข้ารู้สึกถึงคำว่า ‘ครอบครัว’นึกอยากขอบคุณเสด็จอาในวันนั้นที่บอกให้เขาอย่าได้สัญญาว่าจะไม่แตะต้องนาง มิเช่นนั้นคืนวันเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นในชีวิตเขา“เสด็จพ่อ”‘อีเกอ’ พระโอรสองค์แรกของเขาวิ่งเข้ามาเกาะขา ร่างสูงก้มตัวลงแล้วอุ้มบุตรชายขึ้นแนบอก กดจมูกหอมแก้มซาลาเปาอย่างหมั่นเขี้ยว การที่มีคนหน้าตาคลายคลึงนางเพิ่มมาถึงสามช่างดีจริง ๆ“ฝ่าบาท…”ฮองเฮาคู่บัลลังก์ของเขาเพียงแค่ส่งยิ้มมอบให้เท่านั้น ไม่ได้ลุกขึ้นทำความเคารพ เพราะเขาเคยห้ามไว้ไม่ให้นางทำในเวลาส่วนตัวเช่นนี้“เป็นอย่างไรบ้าง ตำหนักใหม่ถูกใจฮองเฮาหรือไม่”ฮ่องเต้หนุ่มถามนางขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความนุ่มนวลไว้หลายส่วน นางพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วส่งบุตรีคนที่สามมาให้เขาอุ้ม ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มเมื่อเห็นเหงือกสีชมพูอ่อนไร้ฟันแย้มยิ้มดีใจที่เขาจะอุ้มนาง“เสี่ยวเม่ยของพ่อ”ไทเฮาโปรดหลานสาวคนนี้มากกว่าใคร ฮ่องเต้หนุ่มทราบว่าพระมารดาอยากมีองค์หญิงน้อยมาตลอด แต่ว่าสภาพร่างกายไม่เอื้อต่อการมีบุต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status