Share

last update Dernière mise à jour: 2025-05-02 12:20:45

สุดท้ายสิ่งที่หลิวหงเถาตั้งใจไว้ก็ไม่สำเร็จ นางไม่สามารถอยู่ร่วมงานจนจบได้ เข้าไปส่งภาพวาดกับสาวใช้เสร็จนางก็เอ่ยขอตัวกับจินเซียนเหม่ยตามมารยาท อ้างว่าเจ็บแผล อยากกลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว จินเซียนเหม่ยจึงให้สาวใช้ออกมาส่งหลิวหงเถาที่หน้าจวน

“ส่งข้าแค่นี้พอ ไปทำหน้าที่ของเจ้าต่อเถอะ”

“แต่ว่าคุณหนู…”

สาวใช้เห็นว่ารถม้าประจำตระกูลหลิวยังมาไม่ถึง อีกทั้งหลิวหงเถาก็ไม่ได้พาสาวใช้ประจำตัวมาด้วย นางจึงไม่กล้าทิ้งคุณหนูตระกูลดังให้ยืนรอแต่เพียงผู้เดียว

“ไปเถอะ ข้ารอคนเดียวได้”

หลิวหงเถาเอ่ยเสียงเข้มฟังดูดุกว่าเดิมจนสาวใช้ต้องยอมล่าถอยออกไปทำงานของตนเองต่อ หลิวหงเถาจึงได้ยืนแกร่วอยู่คนเดียวที่หน้าประตูใหญ่นานพอควรถึงได้ตัดสินใจว่าจะเดินกลับจวนเอง

“ไม่น่าบอกให้รถม้ากลับไปก่อนเลย”

นางถอนหายใจยาวแล้วเดินออกมาจากจวนท่ามกลางสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา หลิวหงเถาเป็นสตรีที่มีใบหน้าสะดุดตามาก กอปรกับวันนี้แต่งตัวจัดเต็มมาตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งเรียกสายตาใครหลาย ๆ คนให้มองไปยังนางได้ไม่ยาก

แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจ กายหยาบอยู่นี่ก็จริงแต่วิญญาณลอยไปอยู่ที่เตียงนอนนานแล้ว ตอนนั่งรถม้าไปยังจวนเสนาบดีจินก็ว่าเพียงแค่ไม่นาน แต่พอได้มาเดินเท้าเล่นเอานางเหงื่อซึมไปทั้งตัว เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงร้านบะหมี่ท้องก็ร้องเพราะกลิ่นหอมที่โชยมา

นางกลืนน้ำลายดัง ‘อึก’ ยิ่งเห็นว่าหน้าตาของมันน่ารับประทานแค่ไหนก็ยิ่งเพิ่มความหิวได้เท่าตัว ที่จริงนางไม่ติดหากต้องนั่งทานบะหมี่ข้างทาง ขอแค่นั่งอยู่ในมุมลับหน่อย เพราะขืนมีคนรู้จักเห็นเข้าแล้วเรื่องถึงหูท่านพ่อท่านแม่ไม่แคล้วว่านางต้องโดนดุอีก แต่ปัญหาของนางในตอนนี้ก็คือ

ทำเช่นไรดีไม่มีเงิน

“พี่เถาเถ่า”

ในระหว่างที่หลิวหงเถากำลังเคว้งคว้างอยู่นั้น เสียงอันคุ้นเคยก็ร้องทักนางขึ้น ใบหน้างามหันมองซ้ายขวาก่อนที่จะเห็นเขาแอบนั่งหลบมุมอยู่ร้านต้นไม้ต้นหนึ่ง ท่าทางเหมือนคนที่กำลังซ่อนตัวจากใครอยู่

“หมินมิ่น”

หลิวหงเถาร้องเรียกเขา ร่างบางเดินเข้าไปหาพร้อมดึงแขนใหญ่กว่าให้ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สีหน้าหวาดกลัวของเขากับมือไม้สั่นน้อย ๆ ทำให้นางใจไม่ดี รีบถามออกมาโดยพลัน

“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดมานั่งหลบมุมอยู่ตรงนี้”

ชิงหมินหลบตาหลิวหงเถา ไม่กล้าบอกความจริงไปว่าเขาไปพบเจอเรื่องใดมา แต่แล้วตัวการที่ทำให้เขาต้องหลบก็วิ่งมาทางนี้พอดี

“ไอ้เด็กไม่มีพ่อแม่อยู่นี่เอง…เจ้าก็อยู่ด้วยหรือน้องหญิงเล็ก!”

หลิวหงเถาสูดหายใจเข้าลึกเมื่อเห็นพี่ชายฝาแฝดของตนเรียกชิงหมินแบบนี้อีกแล้ว หากไม่ติดว่านางอยากรักษาหน้าเขาไว้บ้าง คงยื่นมือไปบิดหูเขาให้ร้อง ‘อ้าก’ ไปนานแล้ว

“หลิวหลี่เฟย เจ้าแกล้งอะไรน้องชายข้าอีก”

“หลิวหงเถาข้าต่างหากที่เป็นพี่ชายเจ้า ส่วนเจ้านี่ก็มิใช่น้องชายของเจ้า เหตุใดต้องมาเสนอหน้าปกป้องมันด้วย…ไปได้แล้ว กลับไปกับข้า”

พูดกับหลิวหงเถาเสร็จก็เอื้อมมือมาดึงแขนชิงหมินพร้อมกระชากอย่างแรงจนร่างกายเก้งก้างต้องเดินตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนว่าหลิวหงเถาเองก็ไม่ปล่อยให้หลิวฟลี่เฟยพาชิงหมินไปง่าย ๆ แบบนี้

“จะพาเขาไปไหน หากไม่พูดกันให้รู้เรื่องข้าจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด”

หลิวหลี่เฟยถอนหายใจอย่างแรงแล้วหันมาเผชิญหน้ากับแฝดน้องของตนตรง ๆ 

“วันนี้ข้ามีนัดยิงธนูกับสหายแล้วเจ้านี่ต้องมาเป็นเป้าธนูให้พวกเรา…ไป! วันนี้เจ้าต้องเป็นสุนัขรับใช้ให้ข้า”

หลิวหงเถาโกรธมากกับสิ่งที่ได้ยิน นางไม่บิดหูเขาก็จริงแต่กลับยื่นมือไปบิดท้องเขาแทนจนเจ้าตัวร้อง ‘อ้าก’ อออกมาเสียงดัง มือใหญ่กว่าปล่อยมือออกจากชิงหมินแล้วเปลี่ยนมาดึงมือหลิวหงเถาออกจากท้องตัวเองแทน

“เจ้า เจ้ากล้าหักหน้าข้าต่อหน้ามันอีกแล้วนะ แล้วที่ลงไม้ลงมือกับข้าเช่นนี้เพราะคิดว่าข้าไม่กล้าทำกลับใช่หรือไม่”

“ถ้ากล้าทำตรงนี้ก็รอดูสิ ทีนี้เจ้าจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณชายเสเพลครบสูตร คราวนี้ท่านแม่ได้ส่งเจ้าไปอยู่บ้านนอกกับพวกตระกูลสายรองจริง ๆ แน่”

หลิวหลี่เฟยไม่มีหัวทางด้านการเรียนรู้ วรยุทธ์ที่ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็กก็มีไว้แค่ใช้สู้กับหมาข้างถนนเท่านั้น 

ไม่สิ! เอาไว้ข่มชิงหมินอีกคนหนึ่ง ต่อไปหากเขาเข้าวงการสุรานารีแล้ว หนึ่งใน ‘คุณชายเสเพล’ ประจำเมืองหลวงคงได้มีชื่อเขาเข้าสักวัน 

“อย่ามาขู่ข้าเสียให้ยาก ส่งชิงหมินมาให้ข้าแต่โดยดี เพราะมันหนีมาอย่างนี้ไงเล่าข้าถึงไม่มีเป้าธนู มันทำข้าเสียหน้ามากขนาดนี้เจ้ายังเข้าข้างมันมากกว่าข้าอีกหรือน้องหญิงเล็ก ป่านนี้สหายของข้าได้หัวเราะเยาะข้ากันหมดแล้ว”

“เจ้ายังมี ‘หน้า’ เอาไว้ให้ ‘เสีย’ อีกงั้นหรือ”

พูดมาถึงตรงนี้หลิวหงเถาก็ถอนหายใจยาว จะว่าไปนางกับเขาก็อยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน นั่นคือไม่มีสหายที่จริงใจต่อกันเลยสักคนเดียว นั่นคงเพราะแบบนี้นางถึงได้รักชิงหมินประหนึ่งเป็นน้องชายคลอดตามกันมา เพราะเขานะจริงใจต่อนางที่สุดแล้ว และนางก็จริงใจต่อเขาโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ

“แรงไปแล้วนะ ยังไงก็จะไม่ยอมให้ใช่หรือไม่”

“ใช่ เลือกเอาว่าจะไปเลิกคบกับกลุ่มคุณชายเสเพลพวกนั้นหรือเลือกที่จะกลับจวนกับข้า”

หลิวหงเชิดหน้าขึ้น ใบหน้าจริงจังจนคนมองดูออกว่านางสุดจะทนแล้วจริง ๆ เขาถึงได้ยอมแพ้ไม่พาชิงหมินกลับไป แต่ไม่วายระบายอารมณ์โดยการสะบัดมือออกจากแขนชิงหมินอย่างแรง

“แต่ตอนนี้ข้าหิวมาก ขอแวะกินบะหมี่ก่อนจะกลับจวนได้หรือไม่”

หลิวหงเถาชะงัก พูดถึงเรื่องของกินขึ้นมาท้องนางก็พากันส่งเสียงร้องจนชิงหมินยังได้ยิน 

แอบอมยิ้มแบบนี้แสดงว่าเสียงดังฟังชัดเลยสินะ

“เอาสิ ชิงหมินก็คงหิวเช่นกัน ข้าขอเลือกนั่งโต๊ะนั้น”

นิ้วเรียวชี้ไปยังตำแหน่งที่นางจะนั่งก่อนที่จะดึงมือชิงหมินให้ไปนั่งตามกันด้วย หลิงหงเถากับชิงหมินนั่งทานอาหารโต๊ะเดียวกันบ่อยครั้ง แต่กับหลิวหลี่เฟยแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาจึงได้แผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

“ข้าไม่นั่งร่วมโต๊ะกับมันแน่ เจ้าไปนั่งที่อื่น”

“ขอรับคุณชาย” 

ชิงหมินพยักหน้ารับแล้วรีบลุกขึ้นยืนทันที ทว่าหลิวหงเถากลับรั้งแขนเขาเอาไว้ให้นั่งที่เดิมจนหลิวหลี่เฟยชักจะอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

“เจ้าอย่าบอกว่านะว่าจะให้พี่ชายของเจ้าไปนั่งโต๊ะอื่นแล้วให้ไอ้เด็กข้างทางนี่นั่งกินกับเจ้าแทน แบบนี้พี่ไม่ยอมนะ”

“ขอโทษด้วยแล้วกัน แต่วันนี้เจ้าน่ารังเกียจมากจนข้าไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะด้วย เชิญเจ้าไปนั่งที่อื่น ข้าจะกินกับหมินมิ่นอย่างเงียบ ๆ”

“หลิวหงเถา!”

หากสามารถเห็นควันลอยออกจากหูได้ หลิวหงเถาคงเห็นมันออกมาจากหูของหลิวหลี่เฟยไปนานแล้ว เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากขยับไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งแล้วสั่งบะหมี่มากินคนเดียวสามชาม จากนั้นก็หันไปแลบลิ้นล้อเลียนหลิวหงเถาฆ่าเวลา

“หมินมิ่นหมินมิ่น เถาเถ่าเถาเถ่า แบร่”

ปัญญาอ่อน!

หลิวหงเถาคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หันไปสั่งบะหมี่กับเถ้าแก่ร้านสามชามเช่นกัน หนึ่งชามให้ตัวเองอีกสองชามให้ชิงหมิน

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๖

    ภาพการทะเลาะกันของทั้งสามคนตกอยู่ในสายตาคมกริบของชินอ๋องตั้งแต่ต้นจนจบ เขายิ้มเต็มใบหน้าเมื่อสุดท้ายหลิวหงเถาก็เป็นผู้ชนะ “เจ้าจะรู้ตัวไหมนะว่าใคร ๆ ต่างก็ยอมให้เจ้าไปเสียหมด”วันนี้ชินอ๋องเพิ่งกลับมาจากการทำภารกิจที่ต่างเมือง เขาปลอมตัวจนไม่เหลือเค้าของชายสูงศักดิ์ให้ใครได้สงสัย ขนาดมานั่งจิบชาอยู่ข้าง ๆ ร้านขายต้นไม้ตรงข้ามร้านบะหมี่ หลิวหงเถายังดูไม่ออกเลยแต่เป็นแบบนี้ก็ดีเช่นกัน ก่อนที่จะต้องกลับวังอ๋องไปพบกับเส้นทางที่จำต้องเลือก การได้ทำอะไรตามใจตนเองสักครู่หนึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากจริง ๆระหว่างที่เขากำลังมองแก้มป่อง ๆ คีบเส้นเข้าปากตุ้ย ๆอยู่นั้น องครักษ์คนสนิทก็เดินเข้ามารายงานเหตุการณ์ที่เขาพลาดไป“งานชมบุปผาวันนี้เกิดเรื่องชุลมุนอยู่สองเรื่องพ่ะย่ะค่ะ เรื่องแรกเป็นเจ้ากรมการคลังจูมีปากเสียงกับเสนาบดีจินต่อหน้าพระพักตร์ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย เรื่องจบลงได้ดีเพราะว่าเสนาบดีจินยอมให้ก่อน”“มีปากเสียงกันเรื่อง”“เสนาบดีจินเอ่ยถึงเรื่องงบการสร้างกำแพงทางตะวันตกพ่ะย่ะค่ะ”ชินอ๋องร้อง ‘อ้อ’ ในใจ เอ่ยมาเพียงเท่านี้เขาก็รู้แล้วว่าเหตุใดถึงขั้นมีปากมีเสียงกันทางตอนกลางกับตอนตะวัน

    Dernière mise à jour : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๗

    จูม่านหลิงมารดาของหลิวหงเถาแม้ไม่ได้ไปร่วมงานชมบุปผาที่ตระกูลจิน แต่นางก็ยังพอมีคนรู้จักที่ไปงานนั้นอยู่บ้าง หนึ่งในสหายของนางให้คนส่งข่าวมาบอกว่าเกิดเรื่องกับบุตรีคนเล็ก นางจึงร้อนใจรีบส่งคนขับรถม้าออกไปรับ แต่รอมานานแล้วก็ยังไม่เห็นแววว่าจะมีรถม้าตระกูลหลิวแล่นเข้ามาบริเวณหน้าเรือนเลย ในใจจึงยิ่งร้อนรนขึ้นเป็นเท่าตัว“เข้าไปรอด้านในก่อนดีหรือไม่เจ้าคะฮูหยิน วันนี้ลมแรงมาก ประเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะเจ้าคะ”“รอมาตั้งนานแล้วให้รออีกหน่อยจะเป็นอะไรไป” ภายนอกจูม่านหลิงยังคงดูสงบนิ่งอยู่ก็จริง แต่ภายในหัวของนางนั้นคิดสะระตะไปหมด “เป็นความผิดข้าเองที่คะยั้นคะยอให้นางไปงานให้ได้ มันเป็นความผิดข้าเอง”“โถ่ ฮูหยินอย่าโทษตัวเองเลยเจ้าค่ะ”ใบหน้างามสมวัยหันมามองคนสนิท “ไม่โทษตัวเองแล้วเจ้าจะให้ข้าโทษหวางเฟยรึ!”ในเรื่องการส่งเทียบเชิญ ความจริงแล้วหลิวตันตันเองก็เพิ่งให้คนมาส่งข่าวบอกนางที่จวนเมื่อไม่กี่ชั่วยามมานี้ ใครจะคิดว่าเทียบเชิญจากวังอ๋องจะส่งไปที่ตระกูลอื่นก่อนตระกูลหลิว ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดหรือความตั้งใจก็ตาม ผลเสียได้ตกอยู่ที่บุตรีของนางทั้งคู่ จะโทษใครก็ไม่สู้โทษตัวเอง“นั่น มากันแล้

    Dernière mise à jour : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๘

    เป็นอย่างที่จูม่านหลิงได้กล่าวไว้ วันต่อมาหลิวหวางเฟยก็เรียกหลิวหงเถาเข้าเฝ้าที่วังอ๋อง เมื่อไล่เหล่านางกำนัลของวังออกไปหมดแล้ว จนเหลือเพียงหวางเฟยกับสาวใช้คนสนิทจากตระกูลเดิม ใบหน้างดงามอ่อนหวานก็แปรเปลี่ยนไปเรียบตึง ให้อารมณ์ต่างจากก่อนหน้านี้ราวกับเป็นคนละคนแต่สำหรับหลิวหงเถานั้น ใบหน้าแบบนี้ต่างหากคือสิ่งที่นางชินชา!“งามหน้านัก ป่านนี้คนเขาคงหัวเราะเปิ่นหวางเฟยกันหมดแล้วว่ารังแกได้แม้แต่น้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง ก็เพราะเจ้าไม่หัดควบคุมสีหน้าตัวเองอย่างไรเล่า เปิ่นหวางเฟยถึงไม่อยากให้เจ้ามาร่วมงานด้วย”หลิวหงเถาเม้มปากน้ำตาคลอเบ้า “อ้อ ที่แท้ก็ทรงตั้งใจไม่เชิญหม่อมฉันจริง ๆ สินะเพคะ หากเป็นเช่นนั้นไยไม่ตรัสออกมาตามตรง หม่อมฉันจะได้ไม่ต้องทำให้พระองค์เสียหน้าตั้งแต่ตอนแรก”“เถียง! เถียงเก่งจริง ๆ ไปหัดควบคุมสีหน้าของตัวเองให้ได้ก่อน แล้วเปิ่นหวางเฟยจะยอมให้เจ้าเข้างานด้วย”“หม่อมฉันก็ไม่ได้อยากมาหรอกเพคะ แค่รู้สึกเสียหน้าที่โดนเมินเฉยเท่านั้น หวางเฟยคงไม่ได้มีเรื่องอยากตำหนิหม่อมฉันแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวกระมัง มีสิ่งใดอยากตรัสเชิญเถิดเพคะ”หลิวหวางเฟยสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะพยายา

    Dernière mise à jour : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๙

    ระหว่างนั่งรถม้ากลับจวน หลิวหงเถาคิดไม่ตกว่าทำอย่างไรถึงจะทำให้มารดาอนุญาตออกจากจวนไปหาแหล่งที่ตั้งของหมู่บ้านด้าย แม้ความจริงนางสามารถซื้อเส้นด้ายขาวมาย้อมสีเองได้ แต่ว่าคุณภาพที่ได้ก็ยังไม่เท่ากับต้นตำรับที่เขาทำขายกันหลายทศวรรษเดินทางไปครั้งนี้ข้าจะแอบจำสูตรมาให้ได้เลย!แต่ก่อนที่นางจะแอบไปจำสูตรของผู้อื่นมาใช้ นางจำต้องผ่านด่านนี้ก่อนนั่นคือ ‘พูดอย่างไร’ ให้ท่านแม่อนุญาต“เอาอย่างไรดีหมินมิ่น ท่านแม่ไม่ยอมแน่เลย เป็นสตรีนี่เหนื่อยจริง ๆ กว่าจะไปค้างอ้างแรมที่ใดได้ช่างยากเย็นนัก ข้าชักจะอิจฉาบุรุษแล้วนะ”ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังแอบอยู่หน้าประตูเรือนของฮูหยินใหญ่ ยืนละล้าละลังไม่กล้าเดินเข้าไปด้านในสักที“พี่เถาเถ่าเป็นสตรีดีแล้วขอรับ อย่าเป็นบุรุษเลย”“เจ้าพูดอีกก็ถูกอีก ดีแค่ไหนแล้วที่พี่เป็นสตรี ไม่เช่นนั้นหลิวหลี่เฟยโดนกดไปอยู่ท้ายจวนแล้ว ไม่ได้เกิดหรอก”ชิงหมินปิดปากหัวเราะพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย ในใจคิด…พี่เถาเถ่าของข้าหากเกิดเป็นบุรุษแล้ว ท่านเสนาบดีหลิวย่อมมอบทุกอย่างให้นางเป็นแน่เพราะพี่เถาเถ่าของข้านะ เก่งกาจที่สุด“เอาอย่างไรดี พี่ยังไม่เครียดเรื่องการปักผ้าเท่ากับเครียดเรื่อ

    Dernière mise à jour : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๐

    เรื่องทุกอย่างในตระกูลหลิว ขอเพียงผ่านด่านมารดาได้บิดาก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะว่ามารดาจะช่วยขอบิดาให้อีกทีหนึ่ง แต่ว่ามารดาข้าจะใช้วิธีไหนในการขอบิดานั้น อันนี้ข้าไม่ขอออกความเห็นก็แล้วกันรถม้าตระกูลหลิวแล่นออกจากจวนตั้งแต่เช้ามุ่งหน้าสู่วัดนอกเมืองหลวงไม่ห่างจากหมู่บ้านที่ขายด้ายมากนัก ความเจริญเหมือนถูกหยุดไว้ที่เมืองหลวง เพราะออกนอกกำแพงมาได้ก็เจอแต่บ้านหลังเล็ก ๆ ที่ไม่ได้แข็งแรงทนทานต่อการอยู่อาศัยนัก“นาน ๆ ออกจากนอกเมืองที ฝุ่นคลุ้งดีนะขอรับท่านแม่”หลิวหลี่เฟยย่นจมูกให้กับฝุ่นในอากาศพร้อมใช้มือปัดมันไปมา ท่าทางคุณชายเจ้าสำอางของเขาทำให้หลิวหงเถาอดส่ายหน้าให้ไม่ได้ ปากเอ่ยออกไปอย่างที่ใจคิด“ถ้าทนความลำบากไม่ได้จะมาทำไมให้เกะกะพื้นที่รถม้า”หลิวหลี่เฟยกอดอกพร้อมกับเดาะลิ้นจ้องหน้าหลิวหงเถานิ่ง “พี่ไม่เชื่อว่าท่านแม่จะมาขอพรให้หวางเฟย เป็นน้องหญิงเล็กที่คิดจะทำอะไรสนุก ๆ แน่ แล้วเช่นนี้พี่ชายเจ้าจะพลาดได้อย่างไร หากไม่มาด้วยก็ถือว่าผิดต่อเจ้าแล้ว”“ข้ายอมให้เจ้าทำผิดต่อข้าได้หรือไม่”จูม่านหลิงหัวเราะให้กับการทุ้มเถียงกันของบุตรชายหญิง ครั้งนี้นางไม่ได้ห้ามปราม เพราะการนั่งอยู

    Dernière mise à jour : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๑

    เช้าวันต่อมาหลิวหงเถาเป็นคนแรกในบรรดาเจ้านายที่ตื่นขึ้นมาก่อนใคร สิ่งแรกที่นางทำหลังจากนอนเพียงแค่หนึ่งชั่วยามคือการวิ่งไปซื้อผ้าฝ้ายกับด้ายสีน้ำตาลอ่อนมาเพิ่มสำหรับปักในส่วนที่ต้องใช้ความละเอียดเป็นพิเศษ เพราะภาพมันใหญ่มาก นางจึงต้องปักแยกชิ้นส่วนกันแล้วหาทางเพิ่มชิ้นส่วนนี้เข้าไปในภาพใหญ่ในภายหลัง หวังว่าจะไม่เละนะ!เมื่อเข้ามาในห้องโถงสถานที่ที่ใช้ในการปักผ้า นางก็นั่งแหมะลงบนพื้นแล้วปักซอยเพิ่มโครงภาพอีกนิดหน่อย นางตั้งใจปักภาพทิวทัศน์ก็จริง แต่เป็นทิวทัศน์ของเมืองซึ่งมันจะขาดคนไปไม่ได้เลย ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรภาพโครงร่างถึงเสร็จ ที่เหลือก็คือลงด้ายซึ่งส่วนนี้นางจะขอความช่วยเหลือจากช่างมีฝีมือมาทำ ด้านการเลือกสีเข้มมากหรือน้อย นางได้วาดภาพแม่แบบไว้ให้อยู่แล้ว ช่างปักในหมู่บ้านที่ได้เห็นต่างก็เอ่ยปากชื่นชมและเฝ้ารอกับผลงานชิ้นนี้“เสร็จ! งามแน่ ๆ อยากกรี๊ด”หลิวหงเถากรีดร้องอยู่ในลำคอเบา ๆ แต่เพราะว่าเรือนที่ทุกคนอยู่มันเล็กมาก เสียงของนางจึงค่อนข้างดังรบกวนการนอนของผู้อื่น“พี่เถาเถ่า”“เฮือก! น้องหญิงเล็ก เกิดอะไรขึ้น!”ชิงหมินเป็นคนแรกที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องของหลิวหง

    Dernière mise à jour : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๒

    หลังจากที่จูม่านหลิงกลับไป สามคนจากจวนตระกูลหลิวก็มาดูการสาธิตวิธีการย้อมผ้าจากช่างปักที่ช่วยปักภาพทิวทัศน์ ซึ่งวิธีการที่หลิวหงเถารู้กับเคล็ดลับของชาวบ้านต่างกันตรงที่ตอนต้ม หลิวหงเถาไม่ได้ใส่เกลือลงไปด้วยในตอนที่น้ำเดือด นั่นจึงทำให้สีหลุดง่ายและอีกขั้นตอนหนึ่งตอนที่ล้างน้ำหลังย้อม เมื่อผ้าแห้งแล้วให้ลองแช่ด้วยน้ำอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่าสีตกต้องใส่เกลือบดละเอียดลงไปด้วย แช่ทิ้งไปประมาณ 3 ชั่วยาม วิธีนี้จะช่วยทำให้ผ้าดูสดใหม่ได้ในระยะหนึ่ง“ที่จริงเรื่องการย้อมผ้าโดยการใส่เกลือก็ไม่ใช่ความลับอะไร เพียงแค่ไม่ได้ป่าวประกาศออกไปเท่านั้น อีกอย่างด้ายไหมก็เป็นตัวทำเงินให้กับหมู่บ้านของเราอยู่แล้ว คุณหนูจะเอาวิธีการนี้ไปบอกต่อก็ได้นะเจ้าคะ เราไม่ได้หวง”“ขอบคุณแทนทุกคนด้วยนะเจ้าคะ” แต่ข้าไม่บอกใครหรอกหลิวหงเถาย่อกายลงขอบคุณสตรีวัยกลางคนตรงหน้าอย่างนอบน้อม จะว่าไปฝีเข็มของช่างผู้นี้นับว่าเป็นเลิศไม่แพ้ใคร ดูละเอียดประณีตกว่าช่างหลวงที่ปักชุดอภิเษกให้ชินอ๋องกับหวางเฟยเสียอีก“เรื่องเล็กเจ้าค่ะ ว่าแต่คุณหนูคุณชายอยากไปดูตัวหนอนไหมหรือไม่” ช่างปักถามด้วยสีหน้าลุ้น ๆ ซึ่งคนที่ดูจะตื่นเต้นกว่าใ

    Dernière mise à jour : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๑๓

    ทางด้านหมู่บ้านด้าย หลังจากที่หลิวหงเถา หลิวหลี่เฟยและชิงหมินไปเก็บใบหม่อนทางอีกฝากฝั่งหนึ่งของหมู่บ้านได้ไม่นาน สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นวันนี้ก็เกิดขึ้นชายฉกรรจ์กว่าห้าสิบคน รูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายชุดดำทั้งตัวพร้อมมีผ้าคาดปิดใบหน้าเอาไว้เดินถืออาวุธครบมือกันเข้ามาในหมู่บ้าน สตรีชาวบ้านที่เห็นต่างกรีดร้องพร้อมกับวิ่งหนีความไม่ปลอดภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา“โจรบุก! เตรียมการสู้เร็วเข้า” ส่วนชาวบ้านฝั่งบุรุษนั้นก็เร่งไปให้หาอาวุธเพื่อใช้ในการต่อสู้กับผู้บุกรุก บุรุษในหมู่บ้านเองแม้จะมีฝีมือไม่มาก แต่จำนวนคนที่มีเยอะกว่าทำให้พวกเขาคิดว่าอย่างไรก็พอสู้ได้“ใจเย็นๆ ใจเย็น ๆ” ในกลุ่มโจรมีบุรุษคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังม้า ควบม้าเยาะเบา ๆ เข้ามาตามหลังลูกน้อง “จะเรียกโจรได้เพราะมาจากการปล้น ฉกชิง วิ่งราว แต่วันนี้พวกเราไม่ได้มาปล้น แต่มาขอเงินใช้ต่างหาก”“เจ้าของเขาไม่เต็มใจให้ ความหมายก็คือการปล้นอยู่ดี”ชายชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่เขาได้รับจากการโต้ตอบกลับไปในครั้งนี้คือการที่บ่าไม่มีศีรษะให้ตั้งไว้อีกต่อไป เป็นการขู่ขวัญที่ทำให้ชาวบ้านกลัว ไม่กล้าขัดขืนอีกเหล่าโจรทำเวลาไ

    Dernière mise à jour : 2025-05-02

Latest chapter

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 3 (จบบริบูรณ์)

    ตอนพิเศษที่ : 3เริ่มต้นชีวิตคู่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยณ ห้องหอของบ่าวสาวคู่ใหม่ในวังปีศาจ สองบ่าวสาวคล้องแขนกันดื่มสุรามงคลที่เถาฮวาเฉินเป็นผู้ทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้ย่อมต่างจากสุราทั่วไปที่นางให้ผู้อื่น“รู้หรือไม่ว่าสุราที่เราให้ฉางฉ่างดื่มจะทำให้ฉางฉ่างไม่สามารถไปดื่มสุราที่ใดได้อีก”“ข้ารู้”เถาฮวาเฉินเลิกคิ้วขึ้นสงสัย “เหตุใดถึงไม่แปลกใจหรือไม่สงสัยอันใดเลย ไม่คิดบ้างหรือว่าเราอาจจะวางยาอะไรใส่ให้ฉางฉ่างดื่มกินก็ได้”หยิ่นฉางยกยิ้ม ทั้งยังเทสุราใส่จอกแล้วยกดื่มให้นางดูอีกสามครั้ง เป็นการบอกว่าเขาไม่ได้สงสัยในสิ่งนี้ ช่างขยันในการพิสูจน์ด้านการกระทำสำคัญกว่าคำพูดจริง ๆ“ท่านรู้สึกแย่หรือไม่ ที่ข้าไม่ได้บอกท่านก่อนเรื่องที่ให้ท่านพ่อเตรียมงานแต่งงานของเราไว้”ท่าทางของเถาฮวาเฉินไม่แสดงออกว่าโกรธหรือไม่ แต่เขาก็ยังอยากรู้ความรู้สึกลึก ๆ ของนาง“อือ” นางทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่คนที่เฝ้ารอคำตอบกลับแอบกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว “อาจจะตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ ฉางฉ่างก็อย่าคิดมาก เราเป็นคนตรง ๆ อยู่แล้ว คิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรไม่เก็บมาคิดคนเดียวหรอก”“จริงหรือ”“จริงสิ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ : 2องค์ชายเล็กของแดนปีศาจ“ว้าว~นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เราได้มาเยือนพระราชวังของแดนปีศาจ ใหญ่โตดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะฉางฉ่าง”หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแนบชิดกันมาสามวัน คำเรียกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว จาก ‘หยิ่นฉาง’ ก็เป็น ‘ฉางฉ่าง’ และจากเถาฮวาก็เป็น ‘เถาเถ่า’“ต่อไปที่นี่ก็คือบ้านของเถาเถ่า ท่านพ่อต้องชอบท่านแน่ ไม่ต้องกังวลนะ เขาจะดีต่อท่าน”เถาฮวาเฉินพยักหน้ารับพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ในใจคิดเหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเพิ่งผ่านช่วงแต่งงานแล้วก็กลับมาเยี่ยมบ้านเจ้าสาวกันนะ ว่าแต่…“จอมปีศาจจะชอบสุราของเราหรือไม่ สุราหมื่นปีแบบนี้แม้จะเป็นของหายาก แต่ไม่ได้มีใครที่จะได้ดื่มกินบ่อย ๆ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่คุ้นลิ้น อย่างช่วงงานฉลองราชย์ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เราเคยเอาสุราหมื่นปีถวายเช่นกัน แต่พระองค์มิใคร่พอใจนัก ช่างเอาใจยากจริง ๆ”หยิ่นฉางหัวเราะในลำคอเบา ๆ หากบิดาของเขาได้ยินคำบ่นนี้ของนางไม่วายหัวเราะชอบใจที่นางเอ่ยนินทาประมุขของเผ่าสรรค์เช่นนี้“ทุกคนรอเราอยู่ที่ท้องพระโรงใหญ่”“หือ ท้องพระโรงหรือ”เถาฮวาเฉินรู้สึกเอะใจกับคำพูดนี้ของเขามาก จนกระทั่งเขาพานางเดินมาถึงจ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่: 1กิจกรรมที่คนคบกันเขาทำกัน ณ พระราชวังแคว้นชิงชิว “ท่านว่าเรามองนางอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”“ไม่รู้สิ หนึ่งชั่วยามได้แล้วหรือไม่ ถ้าท่านรู้สึกว่าเสียเวลาก็ไปทำงานที่คั่งค้างไว้ก่อนได้เลย ข้าขอดูนางต่ออีกหน่อย”หยิ่นฉางส่ายหน้าเบาๆ “ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน เช่นนี้ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก แล้วอีกอย่างข้าก็ว่างมากด้วย”ตอนนี้เถาฮวาเฉินและหยิ่นฉางได้ลงมาโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมที่คู่รักเขาทำกัน นั่นคือการทำอะไรก็ได้ให้ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่เถาฮวาเฉินเสนอมาก็คือการนั่งมององค์หญิงสาม บุตรสาวของหลิวหงเถาที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่เถาฮวาเฉินละสายตาจากองค์หญิงสามเพื่อหันกลับมาจ้องมองหยิ่นฉาง “ใช้คำพูดรุกเราให้ใจเต้นรัวอีกแล้วนะ” จากนั้นก็จูงมือเขาออกจากศาลาที่องค์หญิงสามนั่งอยู่ ทั้งคู่พรางกายเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีมนุษย์ผู้ใดสามารถมองเห็นได้“ช่วงข้าวใหม่ปลามันจะให้แผ่วได้อย่างไร”ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น แขนยาวยังเอื้อมไปโอบไหล่นางพร้อมซบหน้าลงหัวไหล่ด้วย เถาฮวาเฉินไม่ได้ขัดขืนทั้งยังยกมือขึ้นลูบศีรษะเขาตอบ ทั้งคู่จับมือกันเดินผ่านสวนงดงามของวังหลวงและพูด

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๓

    เถาฮวาเฉินพูด :“อื้อ~สบายจัง”ข้าบิดขี้เกียจพร้อมกล่าวเสียงอู้อี้ออกมาขณะที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ ข้ารู้สึกที่นอนนั้นช่างหนานุ่ม สามารถดูดวิญญาณของข้าให้อยู่บนนี้ได้ทั้งวัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ…“ข้ามีเตียงแบบนี้ด้วยหรือ”“...จากที่ข้าลอบเข้าไปดูที่แดนดอกท้อ ไม่มีนะท่าน”เฮือก!เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขาเท่านั้นข้าก็เด้งตัวขึ้นมานั่ง จากที่ไม่อยากลืมตาสู้แสง ดวงตากลับแจ่มชัดไร้ความพร่ามัว“นี่ท่าน…”กำลังจะตั้งคำถามว่า ‘นี่ท่านมาอยู่ห้องของเราได้อย่างไร’ แต่สุดท้ายก็เงียบไป เพราะคิดได้ว่าตนเองต่างหากที่มาอยู่ในดินแดนของผู้อื่น“ว่าต่อสิ หรือกำลังคิดอยู่ว่าข้าได้ทำอะไรท่านหรือไม่”หยิ่นฉางถามขึ้นยิ้ม ๆ ทั้งยังถอยห่างออกจากข้าดั่งกับว่าเขาอยากให้ข้ารู้สึกปลอดภัย ไม่โดนคุกคามอยู่ นั่นจึงทำให้ข้ารู้สึกดีต่อการกระทำนี้ของเขามาก“เราเปล่าคิดเช่นนั้นสักหน่อย ว่าแต่ท่าน…”ข้าไล่สำรวจเขาทั้งร่าง ตอนแรกก็แค่รู้สึกว่าเขามีอะไรเปลี่ยนไปสักอย่าง พอสำรวจอย่างละเอียดอีกที ที่แท้เป็นเพราะชุดสีขาว“ข้าดูแปลกตาไปใช่หรือไม่ ท่านจึงได้จ้องตาไม่กะพริบถึงเพียงนี้”หยิ่นฉางถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก่อนที่จะยื่นมือม

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๒

    สิ้นคำที่หยิ่นฉางปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ เขาก็แสดงอาการตรงข้ามกับคำพูดนี้ทันทีโดยการอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหายวับกลับถิ่น ณ ดินแดนปีศาจในทันทีตุบ!“โอ๊ย!”หยิ่นฉางวางเถาฮวาเฉินลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บจนต้องร้องออกมา ใบหน้างามชักสีหน้าใส่เขา แต่หยิ่นฉางหรือจะสน ร่ายมนตร์สร้างอาณาเขตไว้เพื่อไม่ให้เถาฮวาเฉินใช้พลังหนีออกจากที่นี่ไปได้จนกว่าจะสนทนากันให้รู้เรื่อง“ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ ข้าก็นับว่าเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดตนหนึ่งในแดนปีศาจ มีทั้งประสบการณ์ด้านการต่อสู้ ไม่ว่าจะทั้งสัตว์อสูรร้ายหรือแม้กระทั่งเทพเซียนที่แข็งแกร่ง ข้าก็ผ่านมาแล้ว สำหรับท่านที่วัน ๆ หมักแต่สุรา...”พูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป อีกทั้งยังส่ายหน้าน้อย ๆ สองครั้ง ทำเอาคนถูกสบประมาทเดาคำว่า ‘สำหรับข้าไม่นับว่าเป็นอะไร จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด’ จากท่าทางของหยิ่นฉางได้แล้ว“เมื่อก่อนท่านไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่เหตุใดถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้”หยิ่นฉางเลิกคิ้ว “ก็ไม่ใช่ว่าท่านบอกให้ข้าลืมเลือนเรื่องในอดีตหรอกหรือ นี่อย่างไร ข้าก็ลืมความอ่อนโยนที่เคยมีให้แล้วแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว ตกลงจะเอาอย่าง

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๑

    “หึ! โดนเสด็จพ่อของพวกเจ้าลงโทษเรื่องใดมาเล่า ถึงได้มากวาดลานวัดเช่นนี้”“ท่านน้า”องค์ชายแฝดทั้งสองทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งเข้าไปหา ‘ท่านน้าหยิ่นฉาง’ ผู้ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เมื่อก่อนมีรูปลักษณ์เช่นไรตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน“พวกเจ้านี่นะ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนกับลูกลิงอยู่ได้ รักษาภาพลักษณ์องค์ชายแห่งแคว้นบ้างเถิด”องค์ชายใหญ่พ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างแรง ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ท่านน้า ภาพลักษณ์ของพวกเราไม่เหลือตั้งแต่ที่เสด็จพ่อให้มากวาดลานวัดเช่นนี้แล้วขอรับ”“แต่ข้าว่าไม่เหลือตั้งแต่ไปก๊งเหล้าที่ร้านนั้นแล้วละ”อ๋องน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่จะเดินเข้ามารวมกลุ่มด้วย ที่จริงเขาไม่ได้โดนลงโทษให้มากวาดลานวัดเช่นนี้ แต่มีหรือที่องค์ชายแฝดจะปล่อยให้เขารอดไปได้ ทั้งยังกล่าวว่า…‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ก็ต้องร่วมฝ่าฝันไปด้วยกัน’“หือ” หยิ่นฉางเลิกคิ้วถาม “ร้านใดกันที่ทำให้ท่านอ๋องน้อยแห่งตำหนักชินอ๋องถึงขั้นไปลิ้มลองได้”องค์ชายรองเป็นคนอธิบายคำถามนี้ “เป็นร้านสุราดอกท้อข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่งขอรับท่านน้า คนขายเป็นพ่อค้าหน้าหยก รสชาติสุราเป็นร

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๐

    “ต้าเกอ วันนี้กระบวนท่าไม่เลวเลย ฝีมือท่านพัฒนาขึ้นมาก”“เป็นเอ้อร์ตี้ออมมือให้ต่างหาก มิเช่นนั้นเราคงไม่เสมอกันเช่นนี้ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ทำให้ต้าเกอไม่เสียหน้าก็แล้วกัน ไม่สิ! ต่อให้แพ้ แต่แพ้เอ้อร์ตี้ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอายอะไร”“ต้าเกอก็ชมข้าเกินไปแล้ว มา! เอ้อร์ตี้คารวะให้ท่านหนึ่งจอก”“ได้เลย”สองบุรุษหน้าตาคล้ายกันเกือบสิบส่วนเอื้อนวาจาเยินยอกันเองก่อนที่จะยกจอกสุราชนกัน ทั้งสองคนที่ว่าก็คือองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองของแคว้นชิงชิวนั่นเอง ก่อนทั้งสองกลับวังตนเองทั้งคู่ได้ชวนกันมาร่ำสุราที่ร้านข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง“อือ สุราดี”รสชาติของสุราทำให้ทั้งสองพอใจเป็นอย่างมาก ขนาดที่ทั้งคู่หันไปชมเถ้าแก่ร้านหน้าละอ่อนไม่หยุด“เถ้าแก่ สุราดอกท้อของท่านรสชาติดียิ่ง ท่านทำเองหรือว่ารับมาขาย”เถ้าแก่ร่างบางตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะแย้มยิ้มรับคำชมนั้นอย่างภูมิใจ“แน่นอนว่าข้าย่อมหมักเอง คุณชายทั้งสองสนใจซื้อในปริมาณมากหรือไม่ ข้าน้อยจะคิดราคาให้เป็นพิเศษเลย”“โอ้ เช่นนั้นข้าขอสั่งสักสิบไหได้หรือไม่ เถ้าแก่เชิญคิดราคามาได้เลย”“สิบไหเป็นห้าตำลึงเงินก็แล้วกัน ราคากันเอง”ไม่เพียงองค์ชายทั้

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๙

    หลิวหงเถาพูด:เวลาของโลกมนุษย์และดินเแดนเบื้องบนต่างกัน หนึ่งวันของแดนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีของโลกมนุษย์ ระยะเวลารวมที่ข้าเซียนจากแดนแห่งการชำระล้างจากไปเป็น 40 วัน ของแดนสวรรค์ ในเมืองมนุษย์ก็เท่ากับ 40 ปีใช่! ตอนนี้ข้าตายจากการเป็นมนุษย์และได้กลับมายังดินแดนชำระล้างแล้ว พลังบริสุทธิ์ที่คุ้นเคยทำให้ข้ารู้สึกร่างกายคล้ายกับได้รับการเยียวยา พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก …ที่แท้ความรู้สึกของการเลื่อนขั้นเป็นเช่นนี้ข้าเดินเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่อันมีดอกไม้นานาชนิดประดับตกแต่งไว้ ทั้งการจัดโต๊ะ ทั้งบรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกถึงงานเลี้ยงฉลองไม่มีผิด ทันใดนั้นข้าก็ได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“ยินดีต้อนรับเซียนเถาฮวา ไม่ใช่สิ! ยินดีต้อนรับเทพเถาฮวากลับสู่แดนชำระล้าง ทั้งหมดนี้คืองานฉลองการต้อนรับกลับบ้าน”คนแรกที่ข้าเห็นยามเดินเข้ามาในห้องโถงคือท่านหัวหน้าดินแดน สิ้นประโยคของนางก็เกิดคลื่นพลังมากมายหลากสีขึ้นมาในห้องโถง พร้อมกับการปรากฏตัวของเทพเซียนองค์อื่น ๆ“ยินดีต้อนรับเถาฮวาเฉิน” พวกนางกล่าวต้อนรับข้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ข้าจึงมอบรอยยิ้มจริงใจส่งกลับไปให้ทุกคนเช่นกัน“ขอบคุณ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๘

    เมื่อยามที่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในตำหนักแล้วได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กหญิง เสียงพูดไม่ชัดของเด็กชาย เสียงใสของสตรีอันเป็นที่รัก มันทำให้ข้ารู้สึกถึงคำว่า ‘ครอบครัว’นึกอยากขอบคุณเสด็จอาในวันนั้นที่บอกให้เขาอย่าได้สัญญาว่าจะไม่แตะต้องนาง มิเช่นนั้นคืนวันเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นในชีวิตเขา“เสด็จพ่อ”‘อีเกอ’ พระโอรสองค์แรกของเขาวิ่งเข้ามาเกาะขา ร่างสูงก้มตัวลงแล้วอุ้มบุตรชายขึ้นแนบอก กดจมูกหอมแก้มซาลาเปาอย่างหมั่นเขี้ยว การที่มีคนหน้าตาคลายคลึงนางเพิ่มมาถึงสามช่างดีจริง ๆ“ฝ่าบาท…”ฮองเฮาคู่บัลลังก์ของเขาเพียงแค่ส่งยิ้มมอบให้เท่านั้น ไม่ได้ลุกขึ้นทำความเคารพ เพราะเขาเคยห้ามไว้ไม่ให้นางทำในเวลาส่วนตัวเช่นนี้“เป็นอย่างไรบ้าง ตำหนักใหม่ถูกใจฮองเฮาหรือไม่”ฮ่องเต้หนุ่มถามนางขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความนุ่มนวลไว้หลายส่วน นางพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วส่งบุตรีคนที่สามมาให้เขาอุ้ม ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มเมื่อเห็นเหงือกสีชมพูอ่อนไร้ฟันแย้มยิ้มดีใจที่เขาจะอุ้มนาง“เสี่ยวเม่ยของพ่อ”ไทเฮาโปรดหลานสาวคนนี้มากกว่าใคร ฮ่องเต้หนุ่มทราบว่าพระมารดาอยากมีองค์หญิงน้อยมาตลอด แต่ว่าสภาพร่างกายไม่เอื้อต่อการมีบุต

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status