แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: ซูเมี่ยวหลิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-02 12:58:07

จูม่านหลิงมารดาของหลิวหงเถาแม้ไม่ได้ไปร่วมงานชมบุปผาที่ตระกูลจิน แต่นางก็ยังพอมีคนรู้จักที่ไปงานนั้นอยู่บ้าง หนึ่งในสหายของนางให้คนส่งข่าวมาบอกว่าเกิดเรื่องกับบุตรีคนเล็ก นางจึงร้อนใจรีบส่งคนขับรถม้าออกไปรับ แต่รอมานานแล้วก็ยังไม่เห็นแววว่าจะมีรถม้าตระกูลหลิวแล่นเข้ามาบริเวณหน้าเรือนเลย ในใจจึงยิ่งร้อนรนขึ้นเป็นเท่าตัว

“เข้าไปรอด้านในก่อนดีหรือไม่เจ้าคะฮูหยิน วันนี้ลมแรงมาก ประเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะเจ้าคะ”

“รอมาตั้งนานแล้วให้รออีกหน่อยจะเป็นอะไรไป” ภายนอกจูม่านหลิงยังคงดูสงบนิ่งอยู่ก็จริง แต่ภายในหัวของนางนั้นคิดสะระตะไปหมด “เป็นความผิดข้าเองที่คะยั้นคะยอให้นางไปงานให้ได้ มันเป็นความผิดข้าเอง”

“โถ่ ฮูหยินอย่าโทษตัวเองเลยเจ้าค่ะ”

ใบหน้างามสมวัยหันมามองคนสนิท “ไม่โทษตัวเองแล้วเจ้าจะให้ข้าโทษหวางเฟยรึ!”

ในเรื่องการส่งเทียบเชิญ ความจริงแล้วหลิวตันตันเองก็เพิ่งให้คนมาส่งข่าวบอกนางที่จวนเมื่อไม่กี่ชั่วยามมานี้ ใครจะคิดว่าเทียบเชิญจากวังอ๋องจะส่งไปที่ตระกูลอื่นก่อนตระกูลหลิว ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดหรือความตั้งใจก็ตาม ผลเสียได้ตกอยู่ที่บุตรีของนางทั้งคู่ จะโทษใครก็ไม่สู้โทษตัวเอง

“นั่น มากันแล้วเจ้าค่ะ”

เสียงของสาวใช้ทำให้จูม่านหลิงหันไปมองยังรถม้าที่แล่นเข้ามาใกล้ เสียงสองเสียงของสตรีกับบุรุษเถียงกันดังออกมาจากในรถม้า ทำให้นางขมวดคิ้วด้วยสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“อย่าบอกว่าทะเลาะกันอีกแล้ว”

หันไปถามสาวใช้ข้างกายแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มจืดเจื่อน นางจึงหันไปสนใจเสียงโต้เถียงของคนทั้งคู่แทน

“วันนี้มันวันซวยอะไรของข้าก็ไม่รู้ ถ้าเจ้าไม่ชวนกินบะหมี่ข้าก็คงไม่เสียหน้าเช่นนี้ หากเรื่องถึงหูหวางเฟยไม่แคล้วได้เรียกข้าไปตำหนิอีก”

“ก็ถ้าเจ้าไม่อยากกินตั้งแต่แรกแล้วยอมตกลงด้วยทำไม ไม่มีเงินก็เดินกลับจวนอย่างโง่ ๆ ไปสิ จะมาร่วมกินอาหารข้างทางแบบนี้กับข้าทำไม”

“เอ่อ คุณชายอย่าว่าพี่…”

“เงียบ!”

ฟังจากบทสนทนาแล้วจูม่านหลิงถึงกับส่ายศีรษะให้กับบุตรทั้งสอง จากสิ่งที่ได้ยินมาแล้ว

ผิดพอ ๆ กันนั่นแหละแต่ไม่ยอมรับทั้งคู่!

“ข้าจะเข้าไปรออยู่ข้างในจวน รีบเชิญคุณหนูคุณชายลงมาจากรถม้าเถอะก่อนที่จะหยุมหัวกันขึ้นมา”

“เจ้าค่ะฮูหยิน”

จูม่านหลิงเดินเข้ามาในจวนแล้วมานั่งรอที่ศาลาไม่ไกลจากประตูใหญ่มากนัก ดวงตาคู่งามทอดมองสามร่างของคนอายุน้อยด้วยดวงตาฉายความขบขัน ทางเดินไม้ยาวมาที่ศาลาแม้จะดูสั้น แต่สำหรับชิงหมินคงยาวมากเป็นพันลี้ เพราะตัวเขาเดินอยู่ระหว่างกลางหลิวหงเถาและหลิวหลี่เฟย เวลาที่บุตรแฝดของนางยื่นหน้ามาเถียงกันคนตรงกลางก็จะสะดุ้งทุกครั้ง

“เอาล่ะหยุดเถียงกันได้แล้ว ไม่เหนื่อยหรือทะเลาะกันได้ทุกวี่ทุกวัน”

หลิวหงเถาถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างบางเดินเข้าไปนั่งในศาลาแล้วกอดแขนมารดาไว้แน่น

“ท่านแม่เถาเอ๋อร์เกลียดเขา จูจิ่วลี่กับหลิวหลี่เฟยคือกบเหมือนกันไม่มีผิด คอยแต่จะงับแมลงอยู่ได้”

“โอะ! เช่นนั้นเจ้าก็ว่าตัวเองเป็นแมลงงั้นสิ แมลงหลิวหงเถา!”

จูม่านหลิงถลึงตาใส่บุตรชายให้หยุดพูด จากนั้นก็หันไปเค้นความจากบุตรีต่อ ในใจสงสัยยิ่งว่าทายาทตระกูลจูสายหลักของนางทำอะไรให้กับบุตรสาวนางกัน

“ท่านแม่รู้หรือไม่ วันนี้จูจิ่วลี่เอาแต่ฉีกหน้าเถาเอ๋อร์ ท่านแม่เป็นคนของตระกูลจูสายรองแล้วอย่างไรเจ้าคะ คิดว่านางจะทำอะไรลูกก็ได้เช่นนั้นหรือ ข้าเกลียดนางเจ้าค่ะ”

เป็นความจริงที่มารดาของหลิวหงเถาเป็นคนของตระกูลจูสายรอง แต่กลับได้ดิบได้ดีมีสามีตำแหน่งสูงกว่าใครในบรรดาสตรีตระกูลจูด้วยกัน จูจิ่วลี่ที่มีความสามารถพื้น ๆ จึงเห็นหลิวหงเถาเป็นศัตรูที่ต้องคอยชิงดีชิงเด่นกันให้ได้ และการที่หลิวหงเถามีมารดาเป็นคนตระกูลจูสายรอง จุดนี้คือจุดเดียวที่จูจิ่วลี่คิดว่าตัวเองอยู่เหนือหลิวหงเถา

“เถาเอ๋อร์ของแม่ลำบากแล้ว” มือบางยกขึ้นลูบศีรษะบุตรีก่อนที่จะจับบริเวณผ้าพันแผลสีขาว “แม่รู้เรื่องนี้แล้ว เจ็บมากหรือไม่ลูก”

หลิวหงเถาเข้าใจว่ามารดาไม่ได้หมายถึงเฉพาะเรื่องแผล แต่คงหมายถึงเรื่องสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลนี้ด้วย

“ช่างมันเถิดเจ้าค่ะ เป็นเถาเอ๋อร์ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ แกล้งทำเป็นว่ารู้เรื่องงานที่หวางเฟยจะทรงจัดขึ้นก็จบแล้ว ไปเผยจุดอ่อนให้คนอื่นเห็นก็สมควรที่เขาจะหัวเราะเถาเอ๋อร์แบบนี้”

“โถ่ ยายหนูของแม่…”

จูม่านหลิงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้บุตรสาว ส่วนหลิวหลี่เฟยกับชิงหมินแม้จะยังจับประเด็นไม่ได้ทั้งหมดแต่ก็ยกยิ้มให้กับมุมนี้ของหลิวหงเถา

…ถึงได้บอกว่านางมีข้อดีเยอะมาก แต่มีข้อเสียคือขี้อิจฉา!

“แล้วหวางเฟยจะทรงจัดงานปักผ้าวันไหนหรือเจ้าคะ แล้วลูกต้องทำอย่างไรบ้าง”

“จัดอาทิตย์หน้า ประเดี๋ยวก็คงให้คนมาตามเถาเอ๋อร์ไปเข้าเฝ้าแล้ว ถ้าพี่เขาตำหนิก็อย่าโกรธเคืองไปเลยนะลูก อย่างไรเราก็มีกันอยู่แค่นี้ ช่วยเหลือค้ำจุนกันไป”

หลิวหงเถาพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย “เจ้าค่ะ เช่นนั้นเถาเอ๋อร์ไปเตรียมออกแบบลวดลายที่จะปักผ้าก่อนนะเจ้าคะ”

“ไปเถอะ”

เมื่อหลิวหงเถาและชายหนุ่มอีกสองคนเดินออกไปจากศาลาแล้ว จูม่านหลิงก็น้ำตารื้นขึ้นมาในทันที

“นางก็เป็นเสียแบบนี้ ยอมให้พี่สาวนางตลอด”

“อาจเพราะคุณหนูสามเป็นคนมีความสามารถและพยายามมาก นางจึงไม่ได้มองว่าการที่ฮูหยินให้นางช่วยเรื่องปักผ้าหรือช่วยเรื่องสร้างชื่อเสียงให้หวางเฟยเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไร”

“อือ ข้ารักนางมากก็เพราะอย่างนี้”

ณ ศาลาเล็กหน้าเรือนส่วนตัวของหลิวหงเถา

“เฮ้อ วันนี้ช่างยาวนานนัก ร่างพี่เถาเถ่ากรอบหมดแล้วหมินมิ่น”

หลังจากแยกกันที่ศาลาทุกคนก็ตรงกลับเรือนส่วนตัว เว้นแต่ชิงหมินที่รั้นอยากจะมาดูแผลของหลิวหงเถา ทั้งสองจึงได้มานั่งพักเหนื่อยตรงศาลาเล็กกันก่อน ด้วยจากหน้าประตูใหญ่มาเรือนของหลิวหงเถานั้นระยะทางไกลมาก

“พี่เถาเถ่าเจ็บมากหรือไม่ขอรับ”

หลิวหงเถายื่นมือบางให้ชิงหมินไปดูเอง มือใหญ่กว่าประคองมือเล็กคู่นี้อย่างทะนุถนอมราวกับมันเป็นของล้ำค่า พอเปิดผ้าพันแผลสีขาวออก เขาก็น้ำตาไหลอาบหน้าในทันที

“พี่เถาเถ่า…”

หลิวหงเถาตกใจที่ชิงหมินร้องไห้ออกมา มือบางข้างที่ว่างอยู่ยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้เขา

“หมิ่นมิ่นร้องไห้ทำไม พี่ไม่ได้มิได้ไกลตายเสียหน่อย เจ้าทำแบบนี้ทำให้พี่อยากร้องไห้ตามนะ”

“หมิ่นมิ่นปวดใจขอรับ พี่เถาเถ่าอย่าทำให้ตัวเองเจ็บตัวแบบนี้อีกได้หรือไม่ขอรับ”

“โถ่ แผลมันไม่ลึกมาก”

พอหลิวหงเถาไม่รับปากว่าจะไม่เจ็บตัวอีก ริมฝีปากของชิงหมินก็เบะออกเป็นสัญญาณว่าน้ำตาดั่งห่าฝนกำลังจะตามมา

“ได้ ๆ พี่รับปากว่าจะไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์นี้อีก ดูสิเนี่ย ตัวสูงชะลูดจนพี่ต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วยังร้องไห้เป็นเด็ก ๆ ไปได้ อีกปีเดียวก็แต่งภรรยาได้แล้ว อย่างอแงแบบนี้ให้สตรีที่ใดเห็นอีกนะ”

ชิงหมินหน้าตึงพร้อมกับรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า “หมินมิ่นไม่แต่งกับใครทั้งนั้นขอรับ จะอยู่กับพี่เถาเถ่าจนวันตายเลย”

หลิวหงเถาหัวเราะให้กับสายตาจริงจังของเขา พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร เขามักจะตีหน้าตึงใส่นาง สายตาดูดุดันขึ้นมาทันที ซึ่งหลิวหงเถาก็เออออไปอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่นางไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะทำได้อย่างที่พูด

“เอาเถอะ ๆ ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 83

    ตอนพิเศษที่ : 3เริ่มต้นชีวิตคู่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยณ ห้องหอของบ่าวสาวคู่ใหม่ในวังปีศาจ สองบ่าวสาวคล้องแขนกันดื่มสุรามงคลที่เถาฮวาเฉินเป็นผู้ทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้ย่อมต่างจากสุราทั่วไปที่นางให้ผู้อื่น“รู้หรือไม่ว่าสุราที่เราให้ฉางฉ่างดื่มจะทำให้ฉางฉ่างไม่สามารถไปดื่มสุราที่ใดได้อีก”“ข้า

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 82

    ตอนพิเศษที่ : 2องค์ชายเล็กของแดนปีศาจ“ว้าว~นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เราได้มาเยือนพระราชวังของแดนปีศาจ ใหญ่โตดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะฉางฉ่าง”หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแนบชิดกันมาสามวัน คำเรียกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว จาก ‘หยิ่นฉาง’ ก็เป็น ‘ฉางฉ่าง’ และจากเถาฮวาก็เป็น ‘เถาเถ่า’“ต่อไปที่นี่ก็คื

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 81

    ตอนพิเศษที่: 1กิจกรรมที่คนคบกันเขาทำกัน ณ พระราชวังแคว้นชิงชิว “ท่านว่าเรามองนางอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”“ไม่รู้สิ หนึ่งชั่วยามได้แล้วหรือไม่ ถ้าท่านรู้สึกว่าเสียเวลาก็ไปทำงานที่คั่งค้างไว้ก่อนได้เลย ข้าขอดูนางต่ออีกหน่อย”หยิ่นฉางส่ายหน้าเบาๆ “ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน เช่นนี้ไม่เรียกว่าเสียเวลาห

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 80

    เถาฮวาเฉินพูด :“อื้อ~สบายจัง”ข้าบิดขี้เกียจพร้อมกล่าวเสียงอู้อี้ออกมาขณะที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ ข้ารู้สึกที่นอนนั้นช่างหนานุ่ม สามารถดูดวิญญาณของข้าให้อยู่บนนี้ได้ทั้งวัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ…“ข้ามีเตียงแบบนี้ด้วยหรือ”“...จากที่ข้าลอบเข้าไปดูที่แดนดอกท้อ ไม่มีนะท่าน”เฮือก!เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขา

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 79

    สิ้นคำที่หยิ่นฉางปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ เขาก็แสดงอาการตรงข้ามกับคำพูดนี้ทันทีโดยการอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหายวับกลับถิ่น ณ ดินแดนปีศาจในทันทีตุบ!“โอ๊ย!”หยิ่นฉางวางเถาฮวาเฉินลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บจนต้องร้องออกมา ใบหน้างามชักสีหน้าใส่เขา แต่หยิ่นฉางหรือจะสน ร่ายมนตร์สร้างอา

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 78

    “หึ! โดนเสด็จพ่อของพวกเจ้าลงโทษเรื่องใดมาเล่า ถึงได้มากวาดลานวัดเช่นนี้”“ท่านน้า”องค์ชายแฝดทั้งสองทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งเข้าไปหา ‘ท่านน้าหยิ่นฉาง’ ผู้ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เมื่อก่อนมีรูปลักษณ์เช่นไรตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน“พวกเจ้านี่นะ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนกับลูกลิงอยู่

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 77

    “จะไปเหมือนได้อย่างไร อันที่ข้าให้พวกเขาหมักแค่หนึ่งวันเท่านั้น แต่แน่นอนว่าสำหรับมนุษย์ก็ถือว่าแรงพอตัว เจ้าพวกนี้ก็นะ ดื่มอย่างกับตายอดตายอยากจากที่ไหนมา ข้าว่าตอนที่ข้าจากมาก็ไม่เคยให้พวกเขาฝึกร่ำอันใดพวกนี้นะ สามปีผ่านไปเท่านั้นชำนาญคอถึงเพียงนี้”บ่นให้แม่ค้าดอกไม้ฟังไปหนึ่งอุบก่อนที่จะหันไปยัง

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 76

    “ต้าเกอ วันนี้กระบวนท่าไม่เลวเลย ฝีมือท่านพัฒนาขึ้นมาก”“เป็นเอ้อร์ตี้ออมมือให้ต่างหาก มิเช่นนั้นเราคงไม่เสมอกันเช่นนี้ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ทำให้ต้าเกอไม่เสียหน้าก็แล้วกัน ไม่สิ! ต่อให้แพ้ แต่แพ้เอ้อร์ตี้ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอายอะไร”“ต้าเกอก็ชมข้าเกินไปแล้ว มา! เอ้อร์ตี้คารวะให้ท่านหนึ่งจอก”“ได้เลย”

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 75

    “เอาเป็นว่าข้าจะทำใจเสียตั้งแต่ตอนนี้นะเจ้าคะ เผื่อตอนเป็นมนุษย์จะได้เป็นคนจิตใจเข้มแข็ง ว่าแต่ท่านเทพยังมีความคิดถึงช่วงเวลายามเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่เจ้าคะ”“ไม่มีหรอกเจ้าค่ะความรู้สึกนั้น ก็แค่การไปใช้ชีวิตแบบใหม่เพียงไม่กี่วันเท่านั้นเอง”เซียนดอกเหมยนิ่งไปเมื่อเห็นข้าตอบออกมาแบบไม่คิดเลยสักนิด ข้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status