Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-05-02 12:58:49

เป็นอย่างที่จูม่านหลิงได้กล่าวไว้ วันต่อมาหลิวหวางเฟยก็เรียกหลิวหงเถาเข้าเฝ้าที่วังอ๋อง เมื่อไล่เหล่านางกำนัลของวังออกไปหมดแล้ว จนเหลือเพียงหวางเฟยกับสาวใช้คนสนิทจากตระกูลเดิม ใบหน้างดงามอ่อนหวานก็แปรเปลี่ยนไปเรียบตึง ให้อารมณ์ต่างจากก่อนหน้านี้ราวกับเป็นคนละคน

แต่สำหรับหลิวหงเถานั้น ใบหน้าแบบนี้ต่างหากคือสิ่งที่นางชินชา!

“งามหน้านัก ป่านนี้คนเขาคงหัวเราะเปิ่นหวางเฟยกันหมดแล้วว่ารังแกได้แม้แต่น้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง ก็เพราะเจ้าไม่หัดควบคุมสีหน้าตัวเองอย่างไรเล่า เปิ่นหวางเฟยถึงไม่อยากให้เจ้ามาร่วมงานด้วย”

หลิวหงเถาเม้มปากน้ำตาคลอเบ้า

“อ้อ ที่แท้ก็ทรงตั้งใจไม่เชิญหม่อมฉันจริง ๆ สินะเพคะ หากเป็นเช่นนั้นไยไม่ตรัสออกมาตามตรง หม่อมฉันจะได้ไม่ต้องทำให้พระองค์เสียหน้าตั้งแต่ตอนแรก”

“เถียง! เถียงเก่งจริง ๆ ไปหัดควบคุมสีหน้าของตัวเองให้ได้ก่อน แล้วเปิ่นหวางเฟยจะยอมให้เจ้าเข้างานด้วย”

“หม่อมฉันก็ไม่ได้อยากมาหรอกเพคะ แค่รู้สึกเสียหน้าที่โดนเมินเฉยเท่านั้น หวางเฟยคงไม่ได้มีเรื่องอยากตำหนิหม่อมฉันแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวกระมัง มีสิ่งใดอยากตรัสเชิญเถิดเพคะ”

หลิวหวางเฟยสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะพยายามปรับอารมณ์ของตนเองให้เป็นปกติ

“เราเป็นถึงหวางเฟยแล้ว คงไม่ต้องลงมือปักผ้าแข่งกับผู้ใด แต่เจ้าไม่ใช่ ทำความดีไถ่โทษโดยการปักผ้าให้ชนะคุณหนูทั้งหลายเสีย…อ้อ แล้วก็อย่าทำให้ฝีเข็มของเจ้าทาบทับฝีเข็มของเปิ่นหวางเฟยเด็ดขาด ไปหาวิธีมาใหม่!”

ฝีเข็มที่แท้จริงของหลิวหงเถาที่ปักผ้าแทนหลิวตันตันมาตลอด แน่นอนว่าย่อมงดงามประณีตเป็นเลิศ แต่เมื่อโดนสั่งห้ามไม่ให้ฝีเข็มคล้ายคลึงกัน แต่ก็ต้องห้ามแพ้อีกด้วย นั่นเท่ากับว่านางต้องไปหาวิธีสร้างเอกลักษณ์ของตนเองใหม่

“หม่อมฉันจะพยายามเพคะ”

หน้าตำหนักชินอ๋องมีชิงหมินยืนชะเง้อมองทางประตูรอคอยการออกมาของหลิวหงเถา ซึ่งเขารออยู่ไม่นานร่างบางก็เดินออกมาพร้อมกับสาวใช้ตระกูลเดิมที่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นนางกำนัลส่วนพระองค์แล้ว ใบหน้าเล็กผลท้อบูดบึ้งมาแต่ไกล ไม่ต้องเดาชิงหมินก็รู้ว่านางโดนอดีตคุณหนูใหญ่ดุมาอีกแล้ว

“ส่งข้าตรงนี้แหละ”

“เจ้าค่ะ คุณหนูรองเดินทางระวังด้วย”

“อ้อ”

ตอบรับนางกำนัลเพียงสั้น ๆ หลิวหงเถาก็หันไปพยักหน้าให้กับชิงหมินเป็นเชิงบอกว่าเดินทางกันต่อ พอรถม้าเคลื่อนห่างจากวังอ๋องมาได้ระยะหนึ่งแล้วหลิวหงเถาก็ยกมือทุบขาตนเองในทันที

“พี่เถาเถ่า อย่าขอรับ…”

แต่ทุบได้เพียงไม่กี่ทีมือใหญ่ของชิงหมินก็รั้งมือบางเอาไว้ หลิวหงเถาตั้งใจจะเอ็ดเขาที่ขัดขวางการระบายอารมณ์ของนาง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นชิงหมินน้ำตาคลอเบ้า จากอารมณ์คุกรุ่นในใจที่กำลังลอยฟุ้งอยู่ในตอนแรกถึงได้ตกตะกอนลง

“ขอโทษที่พี่รักษาคำพูดของตัวเองไม่ได้นะหมินมิ่น” หลิวหงเถาเม้มปากแน่น สูดหายใจเข้าลึกแล้วอธิบายให้ชิงหมินฟังถึงความคิดในตอนนี้ “แต่ว่าพี่ไม่นิยมทำลายข้าวของหรือทำร้ายใครระบายอารมณ์ ถ้าจะให้เอามือไปทุบตีสิ่งของอื่นก็เจ็บมือเปล่า ๆ แต่การตีขาไม่เจ็บเท่าไรนะ”

ประโยคสุดท้ายนางพูดกับตนเอง ทำเอาชิงหมินนิ่งไปครู่หนึ่ง

“พี่เถาเถ่า...ฮ่า ๆ”

จากตอนแรกที่น้ำตากำลังจะร่วงเพราะความปวดใจ แต่พอหลิวหงเถาอธิบายแบบนี้เขาก็หัวเราะออกมาทั้งน้ำตา ทำเอาหลิวหงเถาหัวเราะตามไปด้วย

“อยู่กับท่าน ข้าหลายอารมณ์มากเลยขอรับ”

“ใช่หรือไม่ พี่ถึงได้บอกอย่างไรเล่าว่าลำบากหน่อยนะ”

มือบางเช็ดน้ำตาให้ชิงหมิน จากนั้นก็เล่าเรื่องที่ตนเองไปเผชิญมาให้ชิงหมินฟังทั้งหมดพร้อมบอกถึงปัญหาในตอนนี้ด้วย

“ปัญหาของพี่ตอนนี้คือจะสร้างเอกลักษณ์การปักผ้าแบบใดขึ้นมาดี”

ชิงหมินนิ่งคิดเพียงครู่ก่อนที่จะเสนอ “ลองไปเดินฝั่งตลาดกลางน้ำดีหรือไม่ขอรับ เผื่อจะได้แรงบันดาลใจใหม่”

“เข้าท่า!”

หลิวหงเถาพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของชิงหมิน จากนั้นก็สั่งให้คนบังคับรถม้าเปลี่ยนทิศทางไปยังตลาดกลางน้ำแทน ใช้เวลาไม่นานรถม้าประจำตระกูลหลิวก็แล่นมาจอดยังจุดพักรถม้าของตลาด

ชิงหมินเป็นคนลงจากรถม้าก่อนจากนั้นก็ส่งมือรอรับหลิวหงเถาประคองนางลงจากรถม้าอย่างทะนุถนอม

“พี่เถาเถ่าไม่ได้ลืมเอาเงินมาอีกใช่หรือไม่ขอรับ”

“ไม่ลืม ครั้งนี้พี่จะไม่ทำให้ตัวเองเสียหน้าอีก ไปกันเถอะ!”

หลิวหงเถาดึงแขนชิงหมินให้เดินเคียงคู่ไปกับนาง คุณหนูตระกูลอื่นอาจจะมีสาวใช้ประจำตัวไปไหนมาไหนด้วย แต่สำหรับหลิวหงเถาแล้วนั้นนางชอบให้ชิงหมินไปกับนางด้วยมากกว่า ส่วนสาวใช้ส่วนตัวจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองก็ต่อเมื่อนางอยู่จวน ช่วยอาบน้ำสระผมให้จำพวกนี้

และอาจเพราะพวกเขาตัวติดกันเกินไปด้วย หลิวหลี่เฟยจึงไม่ชอบขี้หน้าชิงหมิน โทษฐานที่ทำให้แฝดพี่อย่างเขาหมดความสำคัญ

“พี่เถาเถ่านั่งร้านนี้ดีหรือไม่ขอรับ ให้บริการวาดภาพทั้งยังมีชากับขนมบริการด้วย”

ชิงหมินภายนอกอาจดูเซ่อซ่า แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาแทบจะเป็นตัวนำทางชีวิตให้กับหลิวหงเถาหลายอย่าง ‘พี่เถาเถ่าอันนั้นดีหรือไม่ อันนี้ดีหรือไม่’ แต่ละอย่างที่แนะนำให้นางล้วนเป็นสิ่งที่ดีต่อหลิวหงเถาทั้งสิ้น

“ใช้ได้เลย แล้วเจ้าหิวหรือไม่ อยากทานอะไรก็สั่งมาได้เลย”

“ไม่ขอรับ ตอนนี้ยังอิ่มอยู่ พี่เถาเถ่าไม่ต้องสนใจหมินมิ่นก็ได้ขอรับ หมินมิ่นโตแล้ว”

หลิวหงเถาร้อง ‘จ้า’ ในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเอื้อมมือไปขยี้ศีรษะเขาด้วยความเอ็นดู นางขออุปกรณ์วาดภาพจากเถ้าแก่ร้าน สั่งขนมน้ำชามาให้ชิงหมิน จากนั้นก็นั่งมองวิวทิวทัศน์ของเมืองไปเรื่อย ๆ

ตลาดกลางน้ำเป็นตลาดที่ตั้งอยู่ริมน้ำขนาดเล็ก เรียกว่าเป็นคูน้ำก็ได้ เรือที่แล่นไปมามีทั้งเรือโดยสารและเรือสำหรับขายสินค้า บริเวณคูน้ำนอกจากจะมีร้านขายของขนาดเล็กแล้ว ยังมีโรงเตี๊ยม โรงงิ้ว โรงน้ำชาใหญ่เล็กตั้งอยู่เต็มไปหมด การตกแต่งของสิ่งก่อสร้างไม่ได้แตกต่างกันมาก ทั้งยังมีโคมสีแดงให้แสงสว่างในบรรยากาศคล้ายคลึงกัน

ใบหน้างามเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า วันนี้เมฆปกคลุมเยอะจนน้ำสีใสกลายเป็นสีขาวไปด้วย นิ้วเรียวยกพู่กันค้างไว้มุมหนึ่งที่สะพานทรงสูงโค้งเป็นวงจันทร์ซึ่งกำลังมีเรือใหญ่รอดผ่าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง หากมองจากจุดนี้ จะเห็นว่าพระจันทร์ลูกกลมโตอยู่ใต้สะพานห่างกันเพียงแค่เอื้อมมือ

ถ้าเป็นไปได้นางอยากขอมารดาออกจากเรือนมาวาดภาพเก็บไว้ยิ่ง แต่เสียดายที่ทำอย่างนั้นไม่ได้ เมื่อตะวันลับฟ้ามารดาไม่ยอมให้นางออกมาจากจวน ยกเว้นช่วงเทศกาลที่บิดาพาออกมาเที่ยวช่วงกลางคืน

เฮ้อ~การไม่มีพี่ชายมันแย่อย่างนี้สินะ หลิวหลี่เฟยก็พึ่งพาอะไรไม่ได้อีก

“ก่อนจะตายพี่ต้องมาวาดรูปพระจันทร์ใต้สะพานนี้ให้ได้ ฟังแต่คนเขาบอกเล่ามาไม่สู้เห็นด้วยตาตนเองแล้ววาดภาพเก็บไว้…เฮือก! พี่รู้ละว่าจะปักผ้ารูปใดดี”

ชิงหมินเพียงยิ้มให้หลิวหงเถาอย่างยินดีด้วยเท่านั้น ไม่ได้ถามว่านางจะทำอย่างไร การเฝ้ารอชมผลงานของนางคือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเสมอ ครั้งนี้เขาก็จะรอเช่นกัน

“ยินดีด้วยขอรับพี่เถาเถ่า”

“อือ”

หลิวหงเถายิ้มตอบ วาดรูปร่างคร่าว ๆ ของสิ่งที่จะปักลงในกระดาษ ในหัวก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องปักให้หนาเท่าไรบางเท่าไรเพื่อที่จะให้ภาพสมจริงมีมิติ เมื่อได้ภาพแล้วนางก็ชวนชิงหมินไปหาด้ายที่จะใช้ปักต่อ

ทั้งสองเดินเข้าร้านขายอุปกรณ์เย็บปักผ้าแล้วถามถึงด้ายที่ต้องการ

“ตอบคุณหนูท่านนี้ ด้ายขาดตลาดหมดเลยเจ้าค่ะช่วงนี้ แอบกระซิบบอกท่านว่าตำหนักของชินอ๋อง หวางเฟยพระองค์ใหม่จะจัดการแข่งปักผ้าขึ้น คุณหนูในห้องหอจึงกว้านซื้อกันไปหมดเลยเจ้าค่ะ เหลือเพียงแค่สีขาวเท่านั้น”

ร้านขายอุปกรณ์ปักผ้าในเมืองหลวงค่อนข้างผูกขาด ร้านที่หลิวหงเถามากับชิงหมินถือเป็นร้านใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงแล้ว หากร้านนี้ไม่มี ร้านอื่นก็ไม่ต้องหวัง

“เรื่องด้ายสีหมดก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แต่ข้าอยากได้ด้ายที่ออกสีน้ำตาล สีดำ สีขาวขุ่นอะไรแบบนี้มากกว่า ไม่มีเลยหรือเจ้าคะ”

“ของจะนำเข้ามาอีกทีก็อีกสองวันเลยเจ้าค่ะ คุณหนูรอได้หรือไม่ หากรอไม่ได้ ข้าน้อยแนะนำแหล่งให้ดีหรือไม่เจ้าคะ”

หลิวหงเถาช่างใจว่าจะรอหรือว่าจะไปเลือกดูเส้นด้ายด้วยตัวเองดี แต่เมื่อตรองดูแล้ว ระยะเวลาที่นางจะใช้ปักผ้าอาจต้องใช้เวลามากกว่าห้าวัน การที่จะรอถึงสองวันนางไม่สามารถรอได้ถึงเพียงนั้น มีแต่นางจะต้องไปถึงแหล่งแล้วลงมือปักผ้าที่นั่นเลย

“ว่ามาสิ ขอบคุณ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
พัชรา ไชยสอน
อ่านต่อๆกำละงสนุก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 83

    ตอนพิเศษที่ : 3เริ่มต้นชีวิตคู่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยณ ห้องหอของบ่าวสาวคู่ใหม่ในวังปีศาจ สองบ่าวสาวคล้องแขนกันดื่มสุรามงคลที่เถาฮวาเฉินเป็นผู้ทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้ย่อมต่างจากสุราทั่วไปที่นางให้ผู้อื่น“รู้หรือไม่ว่าสุราที่เราให้ฉางฉ่างดื่มจะทำให้ฉางฉ่างไม่สามารถไปดื่มสุราที่ใดได้อีก”“ข้า

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 82

    ตอนพิเศษที่ : 2องค์ชายเล็กของแดนปีศาจ“ว้าว~นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เราได้มาเยือนพระราชวังของแดนปีศาจ ใหญ่โตดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะฉางฉ่าง”หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแนบชิดกันมาสามวัน คำเรียกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว จาก ‘หยิ่นฉาง’ ก็เป็น ‘ฉางฉ่าง’ และจากเถาฮวาก็เป็น ‘เถาเถ่า’“ต่อไปที่นี่ก็คื

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 81

    ตอนพิเศษที่: 1กิจกรรมที่คนคบกันเขาทำกัน ณ พระราชวังแคว้นชิงชิว “ท่านว่าเรามองนางอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”“ไม่รู้สิ หนึ่งชั่วยามได้แล้วหรือไม่ ถ้าท่านรู้สึกว่าเสียเวลาก็ไปทำงานที่คั่งค้างไว้ก่อนได้เลย ข้าขอดูนางต่ออีกหน่อย”หยิ่นฉางส่ายหน้าเบาๆ “ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน เช่นนี้ไม่เรียกว่าเสียเวลาห

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 80

    เถาฮวาเฉินพูด :“อื้อ~สบายจัง”ข้าบิดขี้เกียจพร้อมกล่าวเสียงอู้อี้ออกมาขณะที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ ข้ารู้สึกที่นอนนั้นช่างหนานุ่ม สามารถดูดวิญญาณของข้าให้อยู่บนนี้ได้ทั้งวัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ…“ข้ามีเตียงแบบนี้ด้วยหรือ”“...จากที่ข้าลอบเข้าไปดูที่แดนดอกท้อ ไม่มีนะท่าน”เฮือก!เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขา

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 79

    สิ้นคำที่หยิ่นฉางปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ เขาก็แสดงอาการตรงข้ามกับคำพูดนี้ทันทีโดยการอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหายวับกลับถิ่น ณ ดินแดนปีศาจในทันทีตุบ!“โอ๊ย!”หยิ่นฉางวางเถาฮวาเฉินลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บจนต้องร้องออกมา ใบหน้างามชักสีหน้าใส่เขา แต่หยิ่นฉางหรือจะสน ร่ายมนตร์สร้างอา

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 78

    “หึ! โดนเสด็จพ่อของพวกเจ้าลงโทษเรื่องใดมาเล่า ถึงได้มากวาดลานวัดเช่นนี้”“ท่านน้า”องค์ชายแฝดทั้งสองทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งเข้าไปหา ‘ท่านน้าหยิ่นฉาง’ ผู้ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เมื่อก่อนมีรูปลักษณ์เช่นไรตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน“พวกเจ้านี่นะ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนกับลูกลิงอยู่

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 77

    “จะไปเหมือนได้อย่างไร อันที่ข้าให้พวกเขาหมักแค่หนึ่งวันเท่านั้น แต่แน่นอนว่าสำหรับมนุษย์ก็ถือว่าแรงพอตัว เจ้าพวกนี้ก็นะ ดื่มอย่างกับตายอดตายอยากจากที่ไหนมา ข้าว่าตอนที่ข้าจากมาก็ไม่เคยให้พวกเขาฝึกร่ำอันใดพวกนี้นะ สามปีผ่านไปเท่านั้นชำนาญคอถึงเพียงนี้”บ่นให้แม่ค้าดอกไม้ฟังไปหนึ่งอุบก่อนที่จะหันไปยัง

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 76

    “ต้าเกอ วันนี้กระบวนท่าไม่เลวเลย ฝีมือท่านพัฒนาขึ้นมาก”“เป็นเอ้อร์ตี้ออมมือให้ต่างหาก มิเช่นนั้นเราคงไม่เสมอกันเช่นนี้ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ทำให้ต้าเกอไม่เสียหน้าก็แล้วกัน ไม่สิ! ต่อให้แพ้ แต่แพ้เอ้อร์ตี้ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอายอะไร”“ต้าเกอก็ชมข้าเกินไปแล้ว มา! เอ้อร์ตี้คารวะให้ท่านหนึ่งจอก”“ได้เลย”

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   บทที่ 75

    “เอาเป็นว่าข้าจะทำใจเสียตั้งแต่ตอนนี้นะเจ้าคะ เผื่อตอนเป็นมนุษย์จะได้เป็นคนจิตใจเข้มแข็ง ว่าแต่ท่านเทพยังมีความคิดถึงช่วงเวลายามเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่เจ้าคะ”“ไม่มีหรอกเจ้าค่ะความรู้สึกนั้น ก็แค่การไปใช้ชีวิตแบบใหม่เพียงไม่กี่วันเท่านั้นเอง”เซียนดอกเหมยนิ่งไปเมื่อเห็นข้าตอบออกมาแบบไม่คิดเลยสักนิด ข้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status