Home / แฟนตาซี / ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ / ตอนที่ 7 เก็บผลไม้ป่า

Share

ตอนที่ 7 เก็บผลไม้ป่า

last update Last Updated: 2024-12-18 07:54:52

ตอนที่ 7 เก็บผลไม้ป่า

“ทางนั้นมีอะไรอยู่กันแน่ ทั้งรก และทางลาดชันเช่นนี้จะไม่อันตรายแน่หรือ”

เฉินตงห่าวเดินนำหน้าน้องสาว เขาใช้มีดพร้าเปิดทางให้นางพร้อมกับบ่นไปด้วย

“เดี๋ยวไปถึงท่านก็รู้เองนั่นแหละเจ้าค่ะ”

อวี้ซินไม่ได้บอกอันใดพี่ชาย นางเพียงแค่บอกให้เขาเดินไปตามเส้นทางที่นางบอก จนเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม (สองชั่วโมง) จึงได้ไปถึงจุดหมาย และพบว่าที่แห่งนี้เต็มไปด้วยลูกพลับที่กำลังเริ่มสุกมากมาย บางต้นผลก็เริ่มเป็นสีส้มแซมกับสีเขียว

“นี่มันลูกพลับหนิ!”

ตงห่าวกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วยิ้มอย่างกับคนบ้า

สองปีก่อนไม่รู้ว่าเป็นเพราะอันใดต้นพลับที่ชาวบ้านพากันปลูกไว้ก็ได้ล้มตายไปจนหมด จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่ได้กินลูกพลับอีกเลย

เขาไม่คาดคิดว่าท่านเทพจะทรงใจดีกับอวี้ซินมากขนาดนี้ หากเขากับน้องสาวเก็บลูกพลับเหล่านี้กลับไปตากแห้งคงขายได้ราคางาม

แถมลูกพลับพวกนี้ยังเก็บไว้กินได้เป็นปีๆ

ตงห่าวไม่รู้ว่าจะบรรยายกับสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าว่าอะไรดี โชคหล่นทับ? หรือปีนเขาเจอขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่?

ตงห่าวได้แตวิ่งฝ่าทุ่งหญ้าเข้าไปด้วยความตื้นตัน ทั้งยังหัวเราะลั่นอย่างกับคนบ้า

“พี่ชาย…”

อวี้ซินเดินตามหลังเฉินตงห่าวมาถึงต้นพลับจึงร้องทักพี่ชายที่เหมือนกับว่าจะสติหลุดไปแล้วชั่วขณะหนึ่ง

“อวี้ซิน ท่านเทพของเจ้าช่างมีเมฆตานัก ข้าไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไรดี”

ตงห่าวทรุดตัวนั่งคุกเข่าต่อหน้าน้องสาวดวงตาของเขาแดงก่ำขึ้นมาเพราะมีความสุขมากเกินไป

ท่านเทพมีจริงที่ไหนกัน! อวี้ซินได้แต่เบือนหน้าหนีไปอีกทาง

“พี่ชายท่านลุกขึ้นเถอะเจ้าค่ะ เพียงแค่ท่านช่วยสนับสนุนข้าเท่านั้นก็มากพอแล้ว”

เฉินอวี้ซินได้แต่คิดในใจว่า เทพอะไรกัน! นี่มันระบบโกงมากกว่า

แต่นางก็ไม่สามารถบอกผู้อื่นได้ว่านางมีระบบเพราะถูกสั่งห้ามเอาไว้

ดังนั้นสองพี่น้องจึงพากันรีบเก็บลูกพลับใส่ตะกร้าแล้วเดินทางกลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า

“พี่ชายท่านรับปากข้าแล้วนะเจ้าคะว่าจะไม่เปิดเผยที่อยู่ของลูกพลับ ดังนั้นแล้วท่านต้องห้ามบอกคนอื่นนะเจ้าคะ”

อวี้ซินเน้นย้ำคำพูดของนางอีกครั้งในระหว่างทางกลับบ้าน

“พี่รับปากเจ้าแล้ว ดังนั้นเชื่อใจพี่ชายคนนี้ได้เลย”

ตงห่าวยิ้มอย่างอบอุ่นใจ

“เช่นนั้นก็ดีเจ้าค่ะ”

อวี้ซินยิ้มตอบ แล้วรีบเร่งเดินทางให้ถึงบ้านเพราะตะกร้าด้านหลังของนางหนักมากจนเจ็บไหล่ไปหมดแล้ว

“เดินช้าลงหน่อย เดี๋ยวเจ้าจะหกล้มเอาได้นะ”

ตงห่าวเห็นน้องสาวก้าวขาเร็วผิดปกติจึงกล่าวทัก

แต่เขาก็พอจะเข้าใจ ว่านางคงจะแบกรับน้ำหนักที่มากเกินไปไม่ไหวจึงอยากไปให้ถึงบ้านโดยไว

“ถึงเสียที!! ข้านึกว่าหัวไหล่ของข้าจะหลุดออกมาเสียแล้ว”

เฉินอวี้ซินรีบย่อตัวลงพร้อมกับวางตะกร้า

“ข้าก็หนักเช่นกันกับเจ้านั่นแหละ”

เฉินตงห่าวที่เดินเร็วๆ มาทีหลังรีบวางตะกร้าสานลงแล้วโยกหัวไหล่ไปมา

“ทำอย่างไรได้ล่ะเจ้าคะ จะเก็บมันทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้มหน่อย ไม่เช่นนั้นหากมีคนอื่นไปเจอเข้าเรานั่นแหละที่จะเสียดายภายหลัง แต่ดีที่ครั้งนี้ข้าไม่ได้ให้ท่านเปิดทางช่วงแรกๆ เอาไว้ ไม่เช่นนั้นต้องมีคนสงสัยแล้วเดินตามไปดูเป็นแน่”

“โถ่น้องพี่ เส้นทางยาวไกลขนาดนั้นใครกันมันจะกล้าเดินไปสุ่มสี่สุ่มห้าโดยที่ไม่รู้ทางเช่นเจ้าได้อีก”

ตงห่าวส่ายหัวให้กับความคิดของน้องสาว

แต่มันก็อาจจะมีคนที่เดินตามไปดูจริงๆ ก็เป็นได้ ยังดีที่อวี้ซินบอกข้าไว้ก่อนว่าอย่าพึ่งเปิดเส้นทาง

“นี่ก็บ่ายคล้อยแล้วกระมัง อีกประเดี๋ยวท่านแม่คงจะขึ้นจากนาแล้ว”

อวี้ซินยิ้มกริ่มออกมาก่อนจะเดินไปตักน้ำในถังไม้ที่วางไว้หน้าบ้านมาดื่มเพื่อขับไล่ความเมื่อยล้า

เฉินอวี้ซินอยากอาบน้ำเหลือเกิน ทว่าน้ำก็ต้องใช้สอยอย่างประหยัด

ตอนขึ้นเขานางได้ถามพี่ชายว่าหากจะไปที่ตัวเมืองต้องเดินทางไกลแค่ไหน พอนางรู้ว่าต้องเดินทางนานกว่าสามสิบนาทีนางก็เกือบจะถอดใจ

แต่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนางจึงต้องกัดฟันสู้สักตั้ง

“พอคนเยอะขึ้นการพลิกหน้าดินของเจ้าก็ง่ายดายขึ้นมากอีกไม่นานงานนี้คงจะเสร็จแล้วสินะ”

เฉินตงห่าวทอดสายตาไปที่ที่ดินแปลงข้างเรือนแล้วอมยิ้ม

“ถึงเราจะพลิกหน้าดินเสร็จแล้ว แต่ขั้นตอนการปลูกข้าวก็ไม่ได้มีเพียงเท่านนั้นเสียหน่อย”

อวี้ซินบ่นเหมือนคนเอาแต่ใจ

“นั่นสินะ… อย่างไรเสียก็ต้องหว่านข้าวก่อน ส่วนมูลสัตว์ก็คงจะหายากไม่น้อย เพราะคนไม่ได้เลี้ยงควายไว้ไถนามานานแล้ว หากไร้ซึ่งมูลสัตว์ก็ไม่รู้ว่าต้นข้าวของเจ้าจะงอกงามได้หรือไม่”

ตงห่าวเอียงข้างมาถามน้องสาว

“ท่านเทพบอกว่าได้ มันก็ต้องได้สิเจ้าคะ”

อวี้ซินเช็ดน้ำที่พึ่งดื่มตรงมุมปากแล้วบอกพี่ชายไป ทั้งที่ในใจก็ไม่ได้เชื่อมั่นนักหนา

ติ๊ง!

[อย่าได้กังวลไป ระบบจะมอบปุ๋ยคุณภาพดีให้กับโฮสต์หลังจากหว่านเมล็ดพันธุ์เสร็จอย่างแน่นอน…]

“แบบนั้นข้าก็เบาใจ”

อวี้ซินขานรับอย่างดีใจ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าปุ๋ยคืออะไร แต่นางกลับรู้ว่าสิ่งนี้มันจำเป็นอย่างแน่นอน

ตงห่าวรู้ว่าน้องสาวไม่ได้คุยกับเขาจึงไม่ได้พูดต่อ

“นี่ระบบข้าอยากรู้ว่าความทรงจำของข้าจะกลับมาเมื่อไหร่”

อวี้ซินนึกได้ดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกท้อใจ เพราะดูเหมือนทุกอย่างมันเชื่องช้าลงไปเรื่อยๆ

ติ๊ง!

[จนกว่าท่านจะสำรวจภูเขาลูกนี้สำเร็จ โปรดอดทนรอ…]

“แล้วตอนนี้ข้าสำรวจได้เท่าไหร่แล้ว?”

อวี้ซินบ่นพึมพำกับตนเองเสียงเบา

ติ๊ง!

[ระบบจะคำนวณอีกครั้งช่วงเย็นและจะส่งรางวัลให้ตอนเช้ามืด…]

“เหมือนตอนเช้าที่ข้าได้รับข้าวสารนั่นน่ะหรือ”

อวี้ซินเม้มปาก แล้วคิดทบทวนเรื่องเมื่อช้าวที่มีข้าวสารปรากฏออกมา

ติ๊ง!

[แจ้งเตือน!! ทุกครั้งก่อนที่โฮสต์จะรับรางวัลโปรดอยู่ในที่มิดชิดเพื่อไม่ให้ผู้อื่นสังเกตเห็น…]

“อะไรกันตอนให้รางวัลข้าก็ต้องปกปิดด้วยงั้นหรือ”

อวี้ซินขมวดหัวคิ้วผูกกันเป็นปม

ติ๊ง!

[ระบบอนุญาตให้เผยแพร่เฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น…]

“เอาเถอะ ไว้ครั้งต่อไปข้าจะมองซ้ายมองขวาให้ดีก็แล้วกัน”

อวี้ซินพ่นลมออกทางปากอย่างไม่เข้าใจ

ระบบนี่ต้องการให้ข้าสำรวจพืชผักบนป่า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บของมา

ข้าเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ อีกอย่างข้าชักจะรู้สึกว่าตนเองอาจไม่ใช่คนของโลกนี้ เพราะความรู้หลายสิ่งอย่างที่ระบบบอกมาข้าล้วนเข้าใจในทันที แต่กลับกันความทรงจำของข้ากลับไม่หลงเหลืออยู่เลย

เฉินอวี้ซินเบ้ปากมองบนเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้

“ท่านแม่ท่านมาพอดีเลยขอรับ โม่เฟิง ฟงตี้ ขอบใจเจ้ามากนะที่อุตส่าห์มาช่วยงานข้า”

ตงห่าวทักทายมารดาที่เดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะตะโกนขอบคุณเพื่อนสนิททั้งสอง และหันไปก้มโค้งให้บ้านท่านลุงจาง

“ไม่เป็นไรหรอกตงห่าว นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว”

โม่เฟิงกล่าวขึ้นก่อนจะขอตัวลากลับบ้านไปพร้อมกับฟงตี้

“ท่านแม่ดูนี่สิขอรับ”

เมื่อเห็นว่าทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ตงห่าวอดไม่ได้ที่จะเชื้อเชิญให้ผู้เป็นแม่มาดูของที่อยู่ในตะกร้า แม้ว่าบ่ายนี้เขาจะไม่ได้ปลาสักตัวเลยก็ตาม

“นี่มัน… พวกเจ้าไปได้ลูกพลับมาจากที่ใดกัน”

หรูซีมือไม้สั่นอย่างดีอกดีใจ

แต่พอได้รู้ว่าบุตรสาวกับบุตรชายของนางต้องเดินไปทางหน้าผาที่สูงชัน หัวใจของนางก็เต้นไม่เป็นจังหวะอย่างหวาดกลัว

“ท่านแม่อย่าห่วงไปเลยนะเจ้าคะ ครั้งหน้าข้าจะพกเชือกติดขึ้นไปด้วย จะได้มัดเชือกติดกับต้นไม้ทำเป็นที่กั้นช่วงทางขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ”

“เป็นอย่างที่อวี้ซินกล่าวเลยขอรับ ถึงทางขึ้นจะลาดชันไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมทางเดินก็ไม่ได้คับแคบอย่างที่ท่านกังวล เอาเป็นว่าพรุ่งนี้พอเราหว่านข้าวให้น้องสาวเสร็จข้าจะพาท่านแม่ไปดูนะขอรับ”

ตงห่าวบอกมารดา

“หากเจ้ามั่นใจเช่นนั้นแม่ก็จะลองไปดูสักครั้ง”

“ดีเลยเจ้าค่ะ หากเราไปกันสามคนต้องขนลูกพลับนี่ลงมาได้มากขึ้นเป็นแน่ แต่ข้าว่าเราต้องเก็บเรื่องลูกพลับเอาไว้ก่อนแล้วอย่าพึ่งนำไปขาย ให้เราเก็บมาตากแห้งเอาไว้มากๆ พอมันเริ่มสุกมากขึ้นจนเราเก็บไม่ทันก็ค่อยเผื่อแผ่ไปยังชุมชน ว่า ด้านบนนั้นมีต้นพลับอยู่ด้วย เท่านี้คนในหมู่บ้านก็จะได้เก็บกินกันอย่างสมใจ แต่ไม่ว่าอย่างไร บ้านของเราต้องเก็บตุนไว้ให้มากๆ ก่อนถึงจะดี”

อวี้ซินฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“ทำดังเช่นน้องสาวว่าก็ดีนะขอรับ เราจะได้มีลูกพลับแห้งไว้กินนานๆ และยังแบ่งปันให้ชาวบ้านคนอื่นได้อีกด้วย”

“จะดีรึ? ที่เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้อีก เรื่องหาปลาแม่ก็ว่ามันมากพอแล้วนะ หากยังปกปิดเรื่องลูกพลับอีก…”

“โถ่ท่านแม่ หากเราผลีผลามบอกทุกคนไปตอนนี้ แล้วพวกเขาขึ้นไปขนลูกพลับลงมาจนหมด ต่อไปเราจะกินอะไรล่ะเจ้าคะ ทุกวันนี้ข้าก็ทำเพื่อให้พวกเราอิ่มท้องไม่ใช่หรือ ถึงจะปกปิดในช่วงแรกเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปบ้าง แต่สุดท้ายข้าก็ยอมให้พวกชาวบ้านไปเก็บทีหลังอยู่ดีหนิเจ้าคะ อีกอย่างท่านเคยเห็นใครพบเจอผักแล้วมาบอกสถานที่กับเราบ้างหรือไม่ ก็ไม่เห็นมีนะเจ้าคะ นี่ข้าก็ว่าข้าใจดีมากแล้วนะเจ้าคะ นะ นะ ท่านแม่ เชื่อข้าเถอะเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากเห็นท่านลำบากอีกแล้ว”

อวี้ซินอ้อนวอนมารดาเพราะกลัวว่านางจะเปิดเผยตำแหน่งของผลไม้ที่หายากนี่

“เฮ้อออ ก็ได้…แต่เราจะเก็บเป็นความลับอีกแค่สามวันเท่านั้นนะ มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

หรูซีบอกลูกๆ

“เย้! ท่านแม่ใจดีที่สุดเลยเจ้าค่ะ พี่ชายเรารีบไปเอาเมล็ดข้าวไปพรมน้ำกันเถอะเจ้าค่ะ”

อวี้ซินดึงแขนพี่ชายไปข้างบ้าน ที่มีถุงข้าวเปลือกซ่อนไว้ แล้วพากันรีบจัดการเอาน้ำราดลงกระสอบป่านเพื่อให้ข้าวแตกหน่อ และคงความชื้นเอาไว้ด้วยการหาผ้าที่ไม่ได้ใช้มาคลุมทับ

เฉินหรูซีมองดูบุตรสาวกับบุตรชายที่รู้ความแล้วดื่มน้ำไปเล็กน้อยก่อนจะเช็ดเหงื่อออกจากเนื้อตัวที่เหนอะหนะ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะนำของไปขายในตัวเมือง

“ท่านพ่อ พี่สาวเฉินเหตุใดถึงไม่มอบปลาให้เราอีกตัวล่ะเจ้าคะ”

เมื่อกลับไปถึงบ้านจางชิงหมิงเอ่ยถามบิดา เพราะว่าบ้านเฉินติดค้างปลาของนางอีกหนึ่งตัว

“เจ้าจะเร่งรีบเอาอะไรกับนางที่ไร้สามีช่วยเหลือ อีกอย่างวันนี้เด็กๆ ก็มอบปลากับไข่มาให้เราแล้วด้วย ติดค้างนิดหน่อยจะเป็นไรไป”

เฒ่าจางตำหนิบุตรสาว

“ท่านพ่อจะไปรู้อะไร วันนี้ทั้งวัน นางเอาแต่หันมามองพี่เหวินเทียนของข้าอยู่ได้ หากนางคิดต่อพี่เหวินเทียนขึ้นมาข้าจะทำเช่นไร”

จางชิงหมิงทำท่าทางไม่สบอารมณ์

“นี่ชิงหมิง พี่สาวเฉินนางไม่ได้มองข้าหรอกนะ แต่ที่นางคอยหันไปดูคือนางต้องการดูว่าลูกๆ ของนางกลับบ้านมาแล้วหรือยัง เจ้าอย่าได้คิดเพ้อเจ้อไปไกลเชียว”

จงเหวินเทียนชายหนุ่มที่แต่งเข้าบ้านตาเฒ่าจางเอ่ยเสริมท่านพ่อตา

“นั่นสิ เจ้าหน่ะคิดมากเกินไปแล้ว แม่นางเฉินถึงแม้ว่านางจะไร้สามี แต่นางหาใช่คนเช่นนั้นไม่”

จางร่วนเฟยมารดาของจางชิงหมิงกล่าว

“หึ! ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าพี่สาวเฉินนางมองใครกันแน่ ส่วนท่าน แล้วก็ท่าน ท่านด้วย! เหตุใดถึงได้ไปเข้าข้างผู้อื่นกันเล่า”

ชิงหมิงทำเสียงฮึดฮัดแสดงออกว่าตนไม่พอใจสุดขีด แล้วหันไปมองค้อนสามีกับพ่อแม่ที่ไม่เข้าข้างตน แล้วเดินกระทืบเท้าเข้าบ้านไป

“ขอโทษนะเหวินเทียน เมื่อก่อนนางก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอันใด หลังๆ มานี่นางเปลี่ยนไปมาก”

เฒ่าจางหันไปทางลูกเขยที่ยืนนิ่งเพราะถูกภรรยาต่อว่าอย่างไร้เหตุผล

“ขอรับข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวข้าไปล้างแขนขาก่อนนะขอรับ”

จงเหวินเทียนพูดจบก็ก้มหน้าก้มตาเดินไปล้างดินที่เกาะติดตามเนื้อตัวออก

ข้ามีนามว่าจงเหวินเทียน บ้านของข้ายากจนมากทว่าข้าก็เป็นบุรุษที่ถือว่าเก่งด้านการทำงานเป็นอย่างมาก จนวันหนึ่งถูกตาต้องใจท่านลุงจางเข้า เขาจึงมาทาบทามข้าให้กับบุตรสาวของเขา

ช่วงแรกๆ อะไรๆ ก็ดีไปหมดทุกสิ่งอย่าง จนกระทั่งเกิดความแห้งแล้งขึ้นมาท่าทีของภรรยาข้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นห่างเหิน

เพื่อน และคนสนิทรอบๆ ตัวข้า แอบมาบอกกล่าวกับข้าหลายครั้งว่าเห็นภรรยาของข้าทำตัวลับๆ ล่อๆ แต่ข้าก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะหลังจากกินมื้อเช้าเสร็จข้าก็ต้องไปหาของป่ามาจุนเจือทางบ้านภรรยา และแบ่งส่วนหนึ่งไปให้ท่านพ่อกับท่านแม่ที่อยู่อีกฟากฝั่งของถนน

แรกๆ ข้าก็ไม่ได้เอะใจอันใด แต่พักหลังๆ มานี้ข้าก็พึ่งมาสังเกตเห็นว่านางกับข้าไม่ได้มีเรื่องอย่างว่ากันมานานมากแล้วจริงๆ และเหตุผลที่นางใช้เป็นข้ออ้างมาโดยตลอดนั่นก็คือนางเหนื่อยมากเกินไป

ข้าก็พอจะเข้าใจว่าตั้งแต่ช่วงข้าวยากหมากแพง อาหารการกินก็น้อยลงตามไปด้วย ทำให้นางร่างกายอ่อนแอ และไม่มีความต้องการดังเดิม

แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าก็ได้ข่าวจากเพื่อนสนิท ว่าภรรยาของข้าเทียวไปเทียวมากับบ้านเหยาซึ่งมีฐานะที่ร่ำรวยกว่า แต่ข้าก็ยังเชื่อมั่นว่านางหาใช่คนแบบนั้นไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 62 ตอนพิเศษ จบ

    ตอนที่ 62 ตอนพิเศษวันแห่งความสุขผ่านพ้นไปแขกเหรื่อที่ยังไม่ได้กลับก็ค้างที่บ้านเฉิน บ้านโม่ รวมทั้งบ้านจงจวบจนวันถัดมา เมื่อรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแขกคนที่เหลือจึงได้บอกลาและแยกย้ายกันจากไปอวี้ซินกับโม่เฟิงโบกมือลาม่านหรง ฟงตี้และคนอื่นๆ พอเห็นพวกเขาจากไปไกลแล้วทั้งสองจึงมองหน้ากันและเดินกลับเข้าบ้านพักไปโม่เฟิงเดินไปส่งเมียรักให้นอนพัก เพราะเมื่อคืนเขาเล่นแรงกับนางไปหน่อย พอส่งนางกลับบ้านที่แยกออกไปเขาก็ไปหาครอบครัวเพื่อปรึกษาหารือกัน“ท่านพ่ออวี้ซินบอกให้พวกเราปลูกผักขอรับ ผักที่ปลูกทางบ้านของเมียข้าจะรับซื้อมันทั้งหมด”โม่เฟิงบอกทางบ้านด้วยรอยยิ้ม“แม่ก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ที่หลังบ้านเราก็ซื้อมาตั้งห้าหมู่ หากเราปลูกผักก็เท่ากับช่วยส่งเสริมบ้านเมียของเจ้า แบบนี้ก็ไม่เลวว่าไหมเจ้าคะท่านพี่”โม่อีอีหันไปทางสามี“ท่านพ่อท่านแม่คิดว่าอย่างไรขอรับ”โม่หนานกงเอ่ยถามพ่อกับแม่ของเขา“มีงานให้ทำก็ดีข้าจะได้ไม่เบื่อ”โม่ว่านถิงพยักหน้าเห็นด้วย“เช่นนั้นข้าจะไปบอกอวี้ซินก่อนนะขอรับ”โม่เฟิงยิ้มกว้างแล้วรีบกลับบ้านของตัวเองไป“ท่านพี่ดูสิเจ้าคะ พอโม่เฟิงแต่งเมียเสร็จก็ติดนางงอมแงมเชียว

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 61 งานมงคล nc

    ตอนที่ 61 งานมงคล n cมื้อเช้าของวันใหม่เป็นไปอย่างราบเรียบมีเพียงแค่อวี้ซินที่ไม่ได้ออกมาจากห้องนอนเพราะไข้ขึ้นเฉินหรูซีมองโม่เฟิงบนโต๊ะอาหารแล้วถอนหายใจออกมาเมื่อคืนเขาเผด็จศึกบุตรสาวของนางอย่างหนัก แถมตอนเช้ายังมิวายล่อลวงนางอีกครั้งหรูซีมองสามีที่อมยิ้มอย่างสบายตัวแล้วได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอเบาๆ“เมื่อคืนเจ้าไปไหนมา”หลังจากมื้อเช้าจบลงเฉินตงห่าวรีบเดินเข้าหาเพื่อนสนิท คำถามของตงห่าวทำให้โม่เฟิงอ้ำอึ้งอยู่ไม่น้อยยัง เขาเพียงแค่เดินหนีพี่เขยที่ตามตอแยไม่เลิก แล้วเข้าไปดูอวี้ซินที่นอนซมจากพิษไข้“หรือว่าเจ้ามาเฝ้าไข้อวี้ซินตั้งแต่แรกแล้ว มิน่าล่ะข้าถึงหาเจ้าไม่เจอเลย”ตงห่าวเดินเข้ามาในห้องน้องสาวแล้วตีหน้าขาเหมือนกับว่าเขารู้ทันเพื่อนสนิท“เจ้าเปลี่ยนที่นอนใหม่หรือแล้วเหตุใดถึงไม่ไปเปลี่ยนชุดเครื่องนอนของพี่ด้วย”ตงห่าวนั่งลงข้างน้องสาวที่นอนกะพริบตาปริบๆ“ห้องท่านมีคนอื่นอยู่ด้วยข้าจึงไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนให้”อวี้ซินส่งยิ้มอ่อนให้กับพี่ชายใบหน้าของคนอื่นที่อวี้ซินกล่าวถึง “….”เมื่อคืนจวบจนถึงเช้าข้ายังนอนกกกับนางอยู่เลย แต่พอตงห่าวถามขึ้นข้าก็กลายเป็นคนอื่นไปแล้วงั้นหรือ

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 60 อีกครั้ง nc

    ตอนที่ 60 อีกครั้ง n cโม่เฟิงนอนฟุบลงที่อกของอวี้ซิน เหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัวของทั้งสองคน ทำให้เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ฝันไป“ขอบคุณที่อดทนเพื่อข้านะ”โม่เฟิงหอมแก้มอวี้ซินอย่างรักใคร่“อืออออ”อวี้ซินเขินอายเล็กน้อยแต่ก็กอดรัดกับโม่เฟิงไว้แน่นเมื่อครู่ข้าคิดว่ามันต้องฉีกแล้วแน่ๆ ความคับแน่นขนาดนี้ข้าอยากเห็นมันชัดๆ ว่าตอนนี้มันจะใหญ่สักแค่ไหนกันเชียว อวี้ซินแอบคิดพิเรนทร์ในใจ“เหนื่อยไหม”โม่เฟิงถามอวี้ซินและเอาผมทัดหูให้นาง พอเห็นอวี้ซินส่ายหัวน้อยๆ จนผมยุ่งไปหมดโม่เฟิงจึงก้มลงไปจูบกับนางอีกครั้ง“ข้าอยากได้อีก”โม่เฟิงกัดริมฝีปากของอวี้ซินเบาๆ และเริ่มมอบความรู้สึกวาบหวิวให้นางอีกครั้งทั้งสองเบียดเสียดกันไปมาและเริ่มค่ำคืนที่ไม่อยากหยุดลงปึก! ปึก!!!!!ร่างบางที่อยู่ในท่าอุ้มแตงเงยหน้าขึ้นด้วยความเสียวสุดขีด แต่ร่างใหญ่ที่จับเอวนางไว้แน่นยังคงตอกอัดจนเกิดเสียงสยิวไปทั่วทั้งห้อง“อะ อ๊ะๆ ๆ ๆ ๆ”เสียงแห่งความสุขดังแว่วขึ้นมาเป็นพักๆ“อืมมม อย่าทำสิข้าจะนอน”เฉินหรูซีที่นอนอยู่ดีๆ ก็ถูกถอดเสื้อผ้าออกจนหมด นางรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาจึงดึงผ้าขึ้นมาห่มจงเหวินเทียนลูบไล้ร่างบางที่อยู่ในผ้าห่ม

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 59 คู่ควร nc

    ตอนที่ 59 คู่ควร n cหลังจากผ่านการคัดกรองจากบ้านอวี้ซินแล้ว โม่เฟิงจึงได้รีบเดินทางกลับบ้านไป เพื่อที่จะมาขอนางเป็นคู่หมั้นอย่างถูกต้องหรูซีกับอวี้ซินจับเข่าคุยกันอยู่นานกว่านางจะยอมรับโม่เฟิง ตงห่าวเห็นท่านแม่เกิดข้อกังขาจึงเล่าเรื่องราวตั้งแต่อวี้ซินยังไม่ป่วยให้ท่านได้ฟัง ว่า สองคนนี้มีความรู้สึกดีๆ ให้กันมานานแล้ว พอท่านแม่เข้าใจจึงยอมเปิดใจให้ทั้งคู่ท่านย่าจงพอได้รู้ว่าโม่เฟิงจะมาเป็นหลานเขยก็ดีใจจนออกนอกหน้ามีแต่ท่านตาจั่วที่คัดค้านหลังชนฝาว่าไม่ยอมให้อวี้ซินแต่งออกไปโม่เฟิงรู้ว่าทุกคนรักอวี้ซินมากเขาจึงรับปากว่าจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้ทุกคนได้ไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น ท่านตาจั่วจึงค่อยอ่อนลงหลังจากโม่เฟิงจากไป ทั้งบ้านก็มาประชุมกันอย่างลับๆ โดยที่อวี้ซินไม่รับรู้ตงห่าวเป็นคนที่ถูกถามจนต้องตอบคำถามจนคอแห้ง พอได้ฟังจากตงห่าวอีกครั้งก็สรุปว่าพวกเขาคู่กัน ทางฐานะก็ไม่ได้แย่ เหมาะสม ลงตัว“การที่จะรักใครสักคนเหตุใดถึงได้ยุ่งยากขนาดนี้”ตงห่าวที่ถูกตั้งคำถามได้แต่นั่งบ่นให้พ่อจงฟังหลังจากถูกปล่อยตัวออกมา“หากเป็นคนอื่น ก็คงจะง่ายกว่านี้ แต่อวี้ซินนางเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ แถมยัง

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 58 เขินอาย

    ตอนที่ 58 เขินอายเมื่ออาบน้ำเสร็จตงห่าวเดินเข้าห้องของตนเองไป แล้วบอกให้โม่เฟิงไปใช้ห้องของน้องสาวก่อนเพราะเห็นว่านางเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว“พี่โม่ใช้ห้องของข้าเถอะเจ้าค่ะ”อวี้ซินบอกโม่เฟิงที่ยืนงงๆ อยู่กลางตัวบ้านตอนแรกเขาลังเลเล็กน้อย แต่พอเห็นว่าตงห่าวไม่สนใจเขาเลย เขาจึงบากหน้าเข้าไปในห้องของสตรีที่เขาชื่นชอบโม่เฟิงปิดประตูแต่ไม่ได้ลงกลอน เขาเปลื้องผ้าออกเตรียมจะเปลี่ยนชุด แต่ลืมไปว่าเขาไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้ามาด้วย พอดีกับอวี้ซินเปิดประตูเข้ามาแล้วถือห่อผ้านั้นไว้ในมือดวงตาของอวี้ซินมองไปยังจุดเด่นหรากลางกายของโม่เฟิงอย่างไม่รู้ตัวโม่เฟิงตกใจจนตาค้าง เขาขาดสติไปชั่วขณะจนไม่กล้าขยับร่างกายอวี้ซินเงยหน้าขึ้นทั้งสองจึงสบตากันอวี้ซินรีบเอามือปิดหน้าแล้วโยนห่อผ้าให้โม่เฟิง ก่อนจะปิดประตูดังปึ้ง แล้ววิ่งไปที่ห้องครัวด้วยใบหน้าร้อนผ่าวใหญ่!!! มันใหญ่มากกกไม่สิ! ข้าไม่ควรพูดถึงสิ่งนั้นโถ่เอ๊ย! ข้าน่าจะเคาะประตูก่อนไม่คิดว่าเขาจะถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแบบนั้น แถมยังไม่ล็อกห้องอีกแต่ว่าหุ่นเขาน่าจับมาทำพันธุ์มากเลยไม่นะ… ตาข้าจะเป็นกุ้งยิงไหมเนี่ยยยยยโม่เฟิงยืนตัวแข็งทื่อ เรื่องอับอา

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 57 ขออยู่ด้วย

    ตอนที่ 57 ขออยู่ด้วย“ม้าตัวโตแถมวิ่งเร็วมากเลย มิน่าล่ะพี่ตงห่าวถึงไปกลับได้ว่องไวนัก”กวนม่านหรงมองตามหลังม้าที่ห่างออกไปเรื่อยๆ“ท่านป้าโม่ นั่นคือของฝากที่ตงห่าวนำมาให้ขอรับ”กวนฟงตี้ชี้ไปที่กล่องไม้ขนาดกลาง ก่อนจะลากลับไปโม่อีอีเปิดดูกล่องไม้นางถึงกลับแปลกใจ ด้านในมีผลไม้แห้ง ผักดองหนึ่งขวดโหล และยังมีผลไม้แดงที่ขายกันในเมืองเฉิงอันในราคาที่แสนแพงอีกด้วย“ของฝากที่ข้าจะมอบให้กลายเป็นว่าไม่คู่ควรเลยสักนิด ไม่ได้การแล้วข้าจะต้องไปบอกท่านพี่ให้เตรียมสินสอดที่เหมาะสมกับบ้านเฉินมากกว่านี้”เมื่อคิดได้ดังนั้นโม่อีอีก็นำของฝากเข้าบ้านไปเก็บอย่างดี และรอคอยสามีกลับบ้านมาหนึ่งชั่วยามผ่านไป….ตงห่าวกับโม่เฟิงก็ได้มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่สุด ตงห่าวกับโม่เฟิงลงจากม้าแล้วจูงสายจูงไปผูกกับรั้วบ้านฮี่ ฮี่ ฮี่ เสียงม้าร้องดังขึ้น เฉินหรูซีจึงออกมาดู“กลับมาแล้วหรือ แล้วนั่น….”หรูซีชี้ไปทางโม่เฟิงที่ร่างกายสูงกว่าตงห่าวหนึ่งช่วงศอก ทว่าบนใบหน้ามีรอยยิ้มประดับเอาไว้“ท่านป้าข้าโม่เฟิงเองขอรับ”โม่เฟิงแนะนำตนเองด้วยท่าทางนอบน้อม“โม่เฟิงเองหรือ? พระเจ้า! เหตุใดเจ้าดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกล่ะเนี่ย”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status