Share

ตอนที่ 6 เริ่มเพาะปลูก

last update Последнее обновление: 2024-12-18 07:54:01

ตอนที่ 6 เริ่มเพาะปลูก

“ขอบใจเจ้ามากนะตงห่าว ที่ทั้งบอกทางไปเก็บขิงและต้นหอม แถมยังมอบปลากับไข่ให้ข้าอีก ข้าไม่รู้ว่าควรจะตอบแทนเจ้าอย่างไรดี”

โม่เฟิงหันไปทางตงห่าวที่ยืนส่งยิ้มมาทางตน

“หากท่านอยากช่วยช่วงบ่ายมาที่บ้านข้าสิเจ้าคะ ข้ากำลังพลิกหน้าดินอยู่พอดี”

อวี้ซินกล่าว

“น้องพี่เจ้าจะให้โม่เฟิงไปช่วยเจ้า…”

“เจ้าค่ะ ก็พี่โม่อยากตอบแทนไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็เหมาะสมแล้ว”

อวี้ซินอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันไปขยิบตาให้โม่เฟิงที่ยิ้มตอบกลับมา

“เช่นนั้นข้าก็จะไปช่วยเจ้าอีกแรง เพราะข้าก็รับของมาจากเจ้าไม่น้อยเช่นกัน”

กวนม่านหรงฝืนยิ้มแล้วมองไปทางเฉินอวี้ซิน

“เจ้าจะทำไหวรึ! มันเป็นงานที่ต้องใช้แรงมากเลยนะ”

ตงห่าวรีบคัดค้านนางทันที

“เช่นนั้นข้าจะให้พี่ชายของข้ามาช่วยทำแทนเจ้าค่ะ”

ม่านหรงบอกไปพร้อมกับบอกว่าให้เอาตามนี้ ก่อนที่นางจะเดินลิ่วไปทางกลางหมู่บ้าน

หมู่บ้านไป๋ซาน เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรมากกว่าห้าสิบครัวเรือน โดยมีถนนเส้นหลักพาดกลางหมู่บ้าน สองฝั่งข้างทางยังมีซอยเล็กๆ ล้อมรอบเป็นวงรี และยังมีเส้นทางยิบย่อยแตกแยกออกไปอีกหลายสาย

บ้านของเฉินอวี้ซินนั้นอยู่ทางซ้ายมือของถนนเส้นหลัก แต่อยู่รอบนอกด้านหลังสุดเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างขรุขระ

ถนนสายนั้นยังมีอีกสิบครัวเรือนที่อยู่ไม่ไกลกันนักและกระจายกันไปตามเส้นทางรอบนอก

บ้านของกวนม่านหรงกับโม่เฟิงนั้นอยู่ติดถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่สร้างจากหินและปูทางมาอย่างดี

เมื่อตกลงกันได้แล้วพวกเขาทั้งสี่ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

ใช้เวลาไม่นานตงห่าวกับอวี้ซินก็ได้กลับมาถึงบ้าน ทั้งสองเดินอ้อมมาตามถนนลูกรัง มาถึงหน้าบ้านก็ได้เห็นว่าท่านแม่ของพวกเขา และคนบ้านจางอีกสามคน กำลังตั้งหน้าตั้งตาใช้จอบพลิกหน้าดินอย่างขันแข็ง

อวี้ซินจึงบอกให้พี่ชายนำไม้ไผ่มาทำเป็นเล้าไก่ เพื่อป้องกันไม่ให้แม่ไก่หลบหนี

“หอมจังกลิ่นอะไรหน่ะ”

จางชิงหมิงบุตรสาวของท่านลุงจางซวนพูดขึ้น

“คงจะเป็นแม่หนูเฉินกระมังที่ทำอาหารเที่ยง”

ตาเฒ่าจางซวนตอบบุตรสาวไป

ชิงหมิงได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปมองพี่สาวเฉิน ที่ยังคงทำงานต่อไปอย่างไม่ลดละ

พอเห็นดังนั้นนางก็ถอนหายใจออกมาแล้วก้มหน้าทำงานงกๆ ต่อไป

จากที่ท่านพ่อของข้าว่ามา หากเราช่วยบ้านพี่สาวเฉินพลิกหน้าดินสำเร็จ บุตรสาวของพี่สาวเฉินจะมอบปลาให้อีกสองตัว ถึงแม้ว่าปลาสองตัวจะไม่ได้มากมายนัก ทว่า… ในยามที่ขัดสนเช่นนี้ทุกอย่างล้วนมีค่าอย่างมหาศาล

ดังนั้นเพื่อให้งานเสร็จได้ไวยิ่งขึ้น จางชิงหมิงจึงอาสามาช่วยสามีและท่านพ่อของนางอีกแรง

“ท่านลุงจางนี่ก็ใกล้เที่ยงวันแล้วพวกท่านกลับไปพักเที่ยงกันก่อนเถอะเจ้าค่ะ”

เฉินหรูซีเงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์ที่ขึ้นตรงศีรษะ พร้อมกับปาดเหงื่อออกจากใบหน้า

“เช่นนั้น… เอาไว้หลังช่วงบ่ายข้าจะมาทำต่อให้แล้วเสร็จนะ”

เฒ่าจางเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มอย่างเห็นใจไปทางแม่หม้ายเฉิน

“เจ้าค่ะลุงจาง ขอบใจนะชิงหมิงที่เจ้าก็มีน้ำใจมาช่วยข้าอีกแรง จึงทำให้งานวันนี้มีความคืบหน้าไปมาก”

เฉินหรูซีหันไปส่งยิ้มให้บุตรสาวของท่านลุงจาง

“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ อันที่จริงท่านก็น่าจะรู้ว่าข้าทำเพื่อสิ่งใด”

“เจ้าหมายถึงปลาที่ลูกๆ ของข้าจับมาสินะ”

หรูซียิ้มออกมาอย่างพอใจ

“ในเมื่อพวกเขาสามารถจับปลาได้ เหตุใดเจ้าถึงไม่นำปลาไปขายที่ตลาด ข้าว่ามันคงจะได้ราคาดีไม่ใช่น้อย”

ท่านลุงจางเอ่ยเสริมขึ้นมา

“นั่นสิ! เหตุใดข้าถึงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย”

หรูซีอุทานออกมา

ในเมื่อบุตรสาวของตนก็จับปลาได้ หากนำปลาที่จับได้ไปแลกเป็นข้าว ไม่แน่ว่าต่อไปนางกับลูกๆ ก็อาจมีข้าวสารกรอกหม้อไปอีกนาน

“เอาล่ะๆ ข้ากลับบ้านก่อนก็แล้วกัน พอได้กลิ่นหอมๆ นั่นข้าก็อดไม่ได้ที่จะอยากกินของอร่อยขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่บ้านข้าก็ทุกข์ยากมากเช่นกัน”

ท่านลุงจางพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมา

“เช่นนั้นข้าขอตัวนะพี่สาวเฉิน”

จงเหวินเทียนบุตรเขยของตาเฒ่าจางกล่าวขึ้นแล้วเดินนำหน้าภรรยาไป

“อ้าว ท่านลุงจางท่านจะกลับแล้วหรือ เช่นนั้นเอาปลากับไข่สองฟองไปด้วยสิเจ้าคะ”

เฉินอวี้ซินได้ยินเสียงบ้านจางคุยกับท่านแม่ก็เกิดความเห็นใจ นางจึงมอบปลาสดหนึ่งตัวกับไข่สองฟองให้ท่านนำกลับไปด้วย

“แต่ข้ายังทำงานให้เจ้าไม่เสร็จเลยนะ”

ท่านลุงจางกล่าว

แต่บุตรสาวของเขารีบวิ่งเข้าไปรับปลากับไข่ด้วยความเต็มใจ

“ชิงหมิง!!”

เฒ่าจางรีบทักท้วงบุตรสาวของตนที่มีความละโมบโลภมาก

“ข้าเต็มใจมอบให้เองเจ้าค่ะ อย่างไรเสียหากทำงานโดยไร้เรี่ยวแรง งานของข้าก็คงจะเสร็จช้า”

อวี้ซินพูดจบก็ยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป

“ได้ยินแล้วใช่ไหม นางบอกให้เจ้าตั้งใจทำงาน”

เฒ่าจางหันไปทางบุตรสาวที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หุบพร้อมกับตะโกนขอบคุณอวี้ซินตามหลัง

จางชิงหมิงวิ่งตามหลังสามีไปพร้อมกับชูปลาตัวใหญ่ในมือให้เขาดู

จงเหวินเทียนที่หยุดรอเมียรักพยักหน้าอย่างเข้าใจ และหันกลับไปมองทางบ้านเฉิน

“ท่านยังไม่กลับหรือเจ้าคะ”

หรูซีที่เดินถือจอบมาด้วยทีหลังเอ่ยถาม

“เจ้าดูสิ บุตรสาวของเจ้าให้ปลาข้ามาซะแล้วทั้งที่งานก็ยังไม่เดินหน้าไปไหน”

ท่านลุงจางกล่าว

“เช่นนั้นท่านก็รีบนำกลับไปทำอาหารเถอะเจ้าค่ะ ป่านนี้จางหลินคงจะหิวแย่แล้ว”

หรูซียิ้มออกมาอย่างโล่งใจ อย่างน้อยๆ บุตรสาวของนางก็มีความเมฆตาอยู่ไม่น้อย

จางชิงหมิงเห็นสามีของตนมองไปทางพี่สาวเฉิน นางก็เร่งเร้าให้เขารีบกลับบ้านด้วยความหึงหวง

เฒ่าจางได้แต่ส่ายหน้าให้กับบุตรสาวที่แสดงออกว่าหวงสามีอย่างออกนอกหน้า

แต่ให้กล่าวกันตามจริงแม่นางเฉินหรูซีผู้นี้ก็อายุเพียงยี่สิบหกปีเพียงเท่านั้น และนางยังไม่แก่เกินวัยนัก หากนางอยากจะมีครอบครัวใหม่นั้นก็ไม่ได้แย่เกินไป ผู้คนส่วนมากยังยอมรับได้เพราะสามีตายจาก

“เช่นนั้นข้าเข้าบ้านก่อนนะเจ้าคะ”

หรูซียิ้มน้อยๆ แล้วเดินเข้าบ้านของตนไป

พอเห็นแม่หม้ายสาวเข้าบ้านไปแล้ว ตาเฒ่าจางก็เอาแขนไขว้หลังแล้วเดินไปฝั่งตรงข้ามที่เยื้องไปอีกหน่อยเช่นกัน

“ท่านแม่มาทางนี้เร็วเข้าสิเจ้าคะ”

อวี้ซินโบกมือเรียกมารดาที่กำลังเดินเข้ามาในตัวบ้าน

“แม่ขอล้างมือล้างเท้าก่อนนะ”

หรูซีหันไปทางบุตรสาวแล้วตอบไป

“ท่านแม่ดูนั่นสิขอรับข้าพึ่งทำเล้าไก่เสร็จพอดี อวี้ซินนางบอกว่าจะเลี้ยงไก่ล่ะขอรับ”

ตงห่าวที่พึ่งสร้างเล้าไก่ขนาดย่อมเสร็จรีบอวดผลงานของตนให้ท่านแม่ดู

“น้องสาวเจ้าจะเลี้ยงไก่ป่างั้นรึ แล้วขังมันไว้แบบนี้มันจะไม่ตรอมใจตายหรอกหรือ”

เฉินหรูซีมองไปที่แม่ไก่ที่นอนกกไข่หนึ่งฟองแล้วเกิดความสงสารมันขึ้นมา

“อวี้ซินบอกว่ามันจะออกไข่ให้เรากินทุกวันขอรับ แต่นางก็จะแบ่งบางส่วนไว้ให้มันฟักลูกไก่ด้วย แบบนี้ในภายหน้าเราก็จะมีไก่ไว้กินด้วย”

ตงห่าวรีบอธิบาย และบอกว่าหากมันใจเสาะนักก็จับมันมาทำเป็นอาหารเสียเลย

กะต๊ากก!!!

แม่ไก่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบร้องทักออกมาและมองหน้าสองแม่ลูกที่คิดจะจ้องกินเนื้ออันหอมหวานของมัน

“มันแข็งแรงมากเลยนะขอรับ”

ตงห่าวนั่งลงมองแม่ไก่ที่ส่งเสียงร้องออกมาเป็นพักๆ

“เหมือนมันไม่ค่อยกลัวคนเท่าไหร่นะ ลองเลี้ยงดูก็ไม่เสียหาย”

หรูซีบอกบุตรชาย

“สองตะกร้านั่น…”

หรูซีชี้ไปที่ตะกร้าที่เต็มไปด้วยยอดอ่อนๆ ของผักหนามด้วยมืออันสั่นเทา

ทว่าสายตาของนางก็ไปสะดุดเข้ากับปลาตัวใหญ่ที่ถูกร้อยเรียงเป็นพวงเอาไว้อย่างดี

“นั่นเป็นผักหนามที่พวกเราเจอเข้าระหว่างทางขอรับ มันอยู่ด้านในลึกพอประมาณ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาอันแหลมคมของอวี้ซิน”

ตงห่าวหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างพออกพอใจ ส่วนท่านแม่ก็ยกยิ้มออกมาอย่างกับว่านางเข้าใจสถานการณ์

“เช่นนั้นผักกับปลา พวกเรานำไปขายเลยดีหรือไม่ อย่างน้อยๆ หากแลกเป็นข้าวสารมาเก็บไว้ก็จะประทังชีวิตของพวกเราได้อีกหลายวัน”

เฉินหรูซีกล่าว และคิดในใจว่าจะเอาปลาตัวอ้วนไปฝากบ้านหลักสักตัว แม่สามีคงจะดีใจไม่น้อย

“หากได้เช่นนั้นน้องสาวคงจะดีใจมากเป็นแน่ขอรับ ใช่หรือไม่อวี้ซิน”

ตงห่าวหันไปเอ่ยถามเฉินอวี้ซินที่เดินออกมาจากตัวบ้าน

“แลกเป็นสิ่งของได้ด้วยหรือเจ้าคะ ข้าอยากได้หมูติดมัน และน้ำมันสักหน่อย ปลาห้าตัวนี้แลกได้หรือไม่”

“แน่นอนว่าแลกได้เดี๋ยวตอนเย็นแม่จะไปที่ตัวเมืองเฉิงอัน ไม่แน่ว่าอาจจะได้ข้าวกลับมาด้วย”

“เช่นนั้นข้าขอไปกับท่านแม่ได้หรือไม่เจ้าคะ”

อวี้ซินเดินไปเขย่าแขนเสื้อมารดา เพราะนางก็อยากรู้ว่าในตัวเมืองเฉิงอัน มีอันใดบ้างที่นางจะนำมาใช้สอยได้

“ได้สิ เอาไว้บ่ายแก่ๆ แม่จะเรียกเจ้าอีกที”

หรูซีลูบหัวบุตรสาว

“เอ่อ ท่านแม่ขอรับช่วงบ่ายโม่เฟิง กับกวนฟงตี้จะมาช่วยเราพลิกหน้าดินอีกแรงนะขอรับ”

ตงห่าวที่พึ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าน้องสาวของเขามอบปลาให้บ้านกวนกับบ้านโม่จึงรีบบอกท่านแม่ไป

“หืม โม่เฟิง กับ กวนฟงตี้ เพื่อนสนิทของเจ้านั่นหน่ะหรือ”

หรูซีขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“ขอรับ วันนี้ตอนขากลับข้ามอบปลาให้พวกเขาไปคนละตัว พวกเขาจึงอาสามาช่วยเราพลิกหน้าดินอีกแรง”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นวันนี้พวกเจ้าคงได้ปลามาเยอะมากสินะ จะเป็นไรหรือไม่ หากแม่จะแบ่งปลาไปให้บ้านท่านปู่ของพวกเจ้าสักตัว”

หรูซีหันไปมองบุตรทั้งสองสลับกัน

“ข้ายินดีเจ้าค่ะ แต่ท่านย่านางไม่ชอบบ้านเราไม่ใช่หรือเจ้าคะ”

อวี้ซินเอ่ยถามมารดา

“อวี้ซินเจ้าจะไปรู้อะไร ท่านย่าหน่ะไม่ชอบพวกเรา แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็ไม่เคยปฏิเสธของกินหรอกนะ”

ตงห่าวรีบหันไปยีหัวน้องสาวอย่างมันเขี้ยว

“พี่ชาย เช่นนั้นเราขึ้นไปบนเขาตอนบ่ายอีกรอบดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ไปดูอะไรอีกหน่อยเผื่อว่าจะนำมันไปขายได้”

“อวี้ซินเจ้าไปเจอของดีอะไรบนเขาแล้วไม่บอกพี่งั้นหรือ”

ตงห่าวตาโตแล้วรีบถามไถ่นาง

“ก็คงจะใช่เจ้าค่ะ แต่ข้าไม่แน่ใจ ข้าขอไปดูให้ดีๆ อีกทีก่อนนะเจ้าคะ”

ข้าจะบอกท่านได้อย่างไรเล่าว่าบนเขามีสมบัติอยู่มาก หากข้าเก็บมันมาหมดในคราเดียวพวกท่านจะไม่อึ้งจนตาแตกหรอกหรือ

อวี้ซินที่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบที่ตรวจเช็กสิ่งของที่อยู่ไม่ไกลนักมาตลอดทางทำได้เพียงส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับพี่ชาย

“เอาเถอะ เจ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียข้าขึ้นเขาไปกับเจ้าเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ”

ตงห่าวพูดยิ้มๆ ก่อนจะชวนครอบครัวตนไปกินมื้อเที่ยงที่น้องสาวเตรียมเอาไว้

ช่วงบ่ายเป็นไปตามที่ตงห่าวว่าไว้ โม่เฟิงกับกวนฟงตี้ถือจอบเสียมคู่ใจมาที่บ้านของพวกเขาและได้ลงนาไปขุดพลิกหน้าดินช่วยบ้านจางอีกแรง

อวี้ซินกับพี่ชายเห็นคนมากันครบหมดแล้วจึงพากันสะพายตะกร้าที่มีกระบอกน้ำและมีดเสียมขึ้นเขาไปพร้อมกับยอยกที่เอาไว้ดักจับปลา

“ระบบช่วงนี้เป็นฤดูอะไร”

จู่ๆ อวี้ซินก็พูดเสียงเบาออกมาในระหว่างที่เดินตามหลังพี่ชาย

ตงห่าวได้ยินเสียงนางพูดคนเดียวเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่านางไม่ได้คุยกับเขา เขาจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินนำหน้าไปพร้อมกับแอบฟังคำที่นางกล่าว

ติ๊ง!

[ฤดูปลูกข้าว และผักต่างๆ]

เสียงระบบดังขึ้นในหัวของอวี้ซิน

“เช่นนั้นช่วงนี้ต้องมีฝนตกชุกสิถึงจะถูก เหตุใดถึงแห้งแล้งและร้อนเช่นนี้”

ติ๊ง!

[หลังจากโฮสต์หว่านเมล็ดข้าวเสร็จ ฝนจะตกอีกครั้ง…]

“ต้องรอให้หว่านเมล็ดข้าวก่อนหรือ แล้วแบบนี้ชาวบ้านคนอื่นๆ จะปลูกข้าวได้เช่นกันกับข้าหรือไม่”

ติ๊ง!

[สามารถปลูกได้ในช่วงเวลานี้ แต่เนื่องจากชาวบ้านขัดสนมาก จึงไม่มีใครอยากทำการเพาะปลูกนัก…]

“เห้อ ถ้ามีคนปลูกข้าวช่วงนี้จะได้ผลผลิตที่ดีสินะ”

“หืม เจ้าว่าอันใดนะ ให้ผู้คนปลูกข้าวหรือ”

ตงห่าวที่แอบเงี่ยหูฟังอยู่นานเอ่ยถามน้องสาว

“อือ ข้าพูดกับท่านเทพอยู่น่ะ ท่านบอกว่าหากปลูกข้าวในช่วงนี้จะได้ผลผลิตที่ดีมาก”

อวี้ซินรู้ว่าพี่ชายแอบฟังตนพูดอยู่ จึงไม่ได้ปิดปังอะไร

“เช่นนั้นกลับบ้านไปพี่จะบอกให้โม่เฟิงกับกวนฟงตี้ไปทำนา บ้านพวกเขามีอันจะกินกว่าบ้านพวกเรา ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะทำนาก็เป็น ได้”

ตงห่าวบอกน้องสาว

ติ๊ง!

[หากโฮสต์สามารถทำให้ชาวบ้านปลูกข้าวได้ ระบบจะมีรางวัลให้ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนชาวบ้านที่เพาะปลูก…]

“ข้าจะได้รางวัลด้วยหรือ ไม่สิเมื่อเช้าก็สำรวจป่าไปไม่เห็นจะได้รางวัลเพิ่มมาเลย”

ติ๊ง!

[ระบบจะคำนวณรางวัลในทุกๆ เย็นของวัน โฮสต์โปรดทำภารกิจอย่างต่อเนื่อง…]

“อ๋อ แบบนี้เองสินะ”

อวี้ซินพยักหน้าเข้าใจ

“น้องพี่ท่านเทพว่าอย่างไรบ้าง”

ตงห่าวอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นจึงรีบถามน้องสาวไป เพราะเขาไม่ได้ยินเสียงของท่านเทพเลยสักนิด

“ท่านบอกว่า หากข้าทำให้ชาวบ้านปลูกข้าวได้ ข้าจะได้รับรางวัล แต่ว่าชาวบ้านทุกข์ยากเกินไปไม่รู้ว่าจะมีคนยอมปลูกข้าวในช่วงเวลานี้หรือไม่”

“นั่นสินะ! ถึงช่วงนี้จะเป็นฤดูปลูกข้าวแต่ว่าฝนก็ไม่ยอมตกลงมา คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะลงทุน”

“แต่อีกไม่กี่วันฝนก็จะตกแล้วนะเจ้าคะ”

อวี้ซินรีบพูดแทรก

“จริงหรือ! หากเป็นเช่นนั้นจริงเราก็เอาเหตุผลที่ว่าฝนจะตกไปบอกทุกคนได้ และหากฝนตกจริงอย่างที่เจ้าว่ามาชาวบ้านจะต้องเริ่มเชื่อเราอย่างแน่นอน”

ตงห่าวส่งยิ้มให้น้องสาวและยังช่วยคิดแผนการนี้ออกมา

“เช่นนั้นก็ดีเลยเจ้าค่ะ เลี้ยวไปทางนั้นเจ้าค่ะ”

อวี้ซินขานรับพี่ชายแล้วบอกให้เขาเดินไปอีกทาง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 62 ตอนพิเศษ จบ

    ตอนที่ 62 ตอนพิเศษวันแห่งความสุขผ่านพ้นไปแขกเหรื่อที่ยังไม่ได้กลับก็ค้างที่บ้านเฉิน บ้านโม่ รวมทั้งบ้านจงจวบจนวันถัดมา เมื่อรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแขกคนที่เหลือจึงได้บอกลาและแยกย้ายกันจากไปอวี้ซินกับโม่เฟิงโบกมือลาม่านหรง ฟงตี้และคนอื่นๆ พอเห็นพวกเขาจากไปไกลแล้วทั้งสองจึงมองหน้ากันและเดินกลับเข้าบ้านพักไปโม่เฟิงเดินไปส่งเมียรักให้นอนพัก เพราะเมื่อคืนเขาเล่นแรงกับนางไปหน่อย พอส่งนางกลับบ้านที่แยกออกไปเขาก็ไปหาครอบครัวเพื่อปรึกษาหารือกัน“ท่านพ่ออวี้ซินบอกให้พวกเราปลูกผักขอรับ ผักที่ปลูกทางบ้านของเมียข้าจะรับซื้อมันทั้งหมด”โม่เฟิงบอกทางบ้านด้วยรอยยิ้ม“แม่ก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ที่หลังบ้านเราก็ซื้อมาตั้งห้าหมู่ หากเราปลูกผักก็เท่ากับช่วยส่งเสริมบ้านเมียของเจ้า แบบนี้ก็ไม่เลวว่าไหมเจ้าคะท่านพี่”โม่อีอีหันไปทางสามี“ท่านพ่อท่านแม่คิดว่าอย่างไรขอรับ”โม่หนานกงเอ่ยถามพ่อกับแม่ของเขา“มีงานให้ทำก็ดีข้าจะได้ไม่เบื่อ”โม่ว่านถิงพยักหน้าเห็นด้วย“เช่นนั้นข้าจะไปบอกอวี้ซินก่อนนะขอรับ”โม่เฟิงยิ้มกว้างแล้วรีบกลับบ้านของตัวเองไป“ท่านพี่ดูสิเจ้าคะ พอโม่เฟิงแต่งเมียเสร็จก็ติดนางงอมแงมเชียว

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 61 งานมงคล nc

    ตอนที่ 61 งานมงคล n cมื้อเช้าของวันใหม่เป็นไปอย่างราบเรียบมีเพียงแค่อวี้ซินที่ไม่ได้ออกมาจากห้องนอนเพราะไข้ขึ้นเฉินหรูซีมองโม่เฟิงบนโต๊ะอาหารแล้วถอนหายใจออกมาเมื่อคืนเขาเผด็จศึกบุตรสาวของนางอย่างหนัก แถมตอนเช้ายังมิวายล่อลวงนางอีกครั้งหรูซีมองสามีที่อมยิ้มอย่างสบายตัวแล้วได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอเบาๆ“เมื่อคืนเจ้าไปไหนมา”หลังจากมื้อเช้าจบลงเฉินตงห่าวรีบเดินเข้าหาเพื่อนสนิท คำถามของตงห่าวทำให้โม่เฟิงอ้ำอึ้งอยู่ไม่น้อยยัง เขาเพียงแค่เดินหนีพี่เขยที่ตามตอแยไม่เลิก แล้วเข้าไปดูอวี้ซินที่นอนซมจากพิษไข้“หรือว่าเจ้ามาเฝ้าไข้อวี้ซินตั้งแต่แรกแล้ว มิน่าล่ะข้าถึงหาเจ้าไม่เจอเลย”ตงห่าวเดินเข้ามาในห้องน้องสาวแล้วตีหน้าขาเหมือนกับว่าเขารู้ทันเพื่อนสนิท“เจ้าเปลี่ยนที่นอนใหม่หรือแล้วเหตุใดถึงไม่ไปเปลี่ยนชุดเครื่องนอนของพี่ด้วย”ตงห่าวนั่งลงข้างน้องสาวที่นอนกะพริบตาปริบๆ“ห้องท่านมีคนอื่นอยู่ด้วยข้าจึงไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนให้”อวี้ซินส่งยิ้มอ่อนให้กับพี่ชายใบหน้าของคนอื่นที่อวี้ซินกล่าวถึง “….”เมื่อคืนจวบจนถึงเช้าข้ายังนอนกกกับนางอยู่เลย แต่พอตงห่าวถามขึ้นข้าก็กลายเป็นคนอื่นไปแล้วงั้นหรือ

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 60 อีกครั้ง nc

    ตอนที่ 60 อีกครั้ง n cโม่เฟิงนอนฟุบลงที่อกของอวี้ซิน เหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัวของทั้งสองคน ทำให้เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ฝันไป“ขอบคุณที่อดทนเพื่อข้านะ”โม่เฟิงหอมแก้มอวี้ซินอย่างรักใคร่“อืออออ”อวี้ซินเขินอายเล็กน้อยแต่ก็กอดรัดกับโม่เฟิงไว้แน่นเมื่อครู่ข้าคิดว่ามันต้องฉีกแล้วแน่ๆ ความคับแน่นขนาดนี้ข้าอยากเห็นมันชัดๆ ว่าตอนนี้มันจะใหญ่สักแค่ไหนกันเชียว อวี้ซินแอบคิดพิเรนทร์ในใจ“เหนื่อยไหม”โม่เฟิงถามอวี้ซินและเอาผมทัดหูให้นาง พอเห็นอวี้ซินส่ายหัวน้อยๆ จนผมยุ่งไปหมดโม่เฟิงจึงก้มลงไปจูบกับนางอีกครั้ง“ข้าอยากได้อีก”โม่เฟิงกัดริมฝีปากของอวี้ซินเบาๆ และเริ่มมอบความรู้สึกวาบหวิวให้นางอีกครั้งทั้งสองเบียดเสียดกันไปมาและเริ่มค่ำคืนที่ไม่อยากหยุดลงปึก! ปึก!!!!!ร่างบางที่อยู่ในท่าอุ้มแตงเงยหน้าขึ้นด้วยความเสียวสุดขีด แต่ร่างใหญ่ที่จับเอวนางไว้แน่นยังคงตอกอัดจนเกิดเสียงสยิวไปทั่วทั้งห้อง“อะ อ๊ะๆ ๆ ๆ ๆ”เสียงแห่งความสุขดังแว่วขึ้นมาเป็นพักๆ“อืมมม อย่าทำสิข้าจะนอน”เฉินหรูซีที่นอนอยู่ดีๆ ก็ถูกถอดเสื้อผ้าออกจนหมด นางรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาจึงดึงผ้าขึ้นมาห่มจงเหวินเทียนลูบไล้ร่างบางที่อยู่ในผ้าห่ม

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 59 คู่ควร nc

    ตอนที่ 59 คู่ควร n cหลังจากผ่านการคัดกรองจากบ้านอวี้ซินแล้ว โม่เฟิงจึงได้รีบเดินทางกลับบ้านไป เพื่อที่จะมาขอนางเป็นคู่หมั้นอย่างถูกต้องหรูซีกับอวี้ซินจับเข่าคุยกันอยู่นานกว่านางจะยอมรับโม่เฟิง ตงห่าวเห็นท่านแม่เกิดข้อกังขาจึงเล่าเรื่องราวตั้งแต่อวี้ซินยังไม่ป่วยให้ท่านได้ฟัง ว่า สองคนนี้มีความรู้สึกดีๆ ให้กันมานานแล้ว พอท่านแม่เข้าใจจึงยอมเปิดใจให้ทั้งคู่ท่านย่าจงพอได้รู้ว่าโม่เฟิงจะมาเป็นหลานเขยก็ดีใจจนออกนอกหน้ามีแต่ท่านตาจั่วที่คัดค้านหลังชนฝาว่าไม่ยอมให้อวี้ซินแต่งออกไปโม่เฟิงรู้ว่าทุกคนรักอวี้ซินมากเขาจึงรับปากว่าจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้ทุกคนได้ไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น ท่านตาจั่วจึงค่อยอ่อนลงหลังจากโม่เฟิงจากไป ทั้งบ้านก็มาประชุมกันอย่างลับๆ โดยที่อวี้ซินไม่รับรู้ตงห่าวเป็นคนที่ถูกถามจนต้องตอบคำถามจนคอแห้ง พอได้ฟังจากตงห่าวอีกครั้งก็สรุปว่าพวกเขาคู่กัน ทางฐานะก็ไม่ได้แย่ เหมาะสม ลงตัว“การที่จะรักใครสักคนเหตุใดถึงได้ยุ่งยากขนาดนี้”ตงห่าวที่ถูกตั้งคำถามได้แต่นั่งบ่นให้พ่อจงฟังหลังจากถูกปล่อยตัวออกมา“หากเป็นคนอื่น ก็คงจะง่ายกว่านี้ แต่อวี้ซินนางเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ แถมยัง

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 58 เขินอาย

    ตอนที่ 58 เขินอายเมื่ออาบน้ำเสร็จตงห่าวเดินเข้าห้องของตนเองไป แล้วบอกให้โม่เฟิงไปใช้ห้องของน้องสาวก่อนเพราะเห็นว่านางเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว“พี่โม่ใช้ห้องของข้าเถอะเจ้าค่ะ”อวี้ซินบอกโม่เฟิงที่ยืนงงๆ อยู่กลางตัวบ้านตอนแรกเขาลังเลเล็กน้อย แต่พอเห็นว่าตงห่าวไม่สนใจเขาเลย เขาจึงบากหน้าเข้าไปในห้องของสตรีที่เขาชื่นชอบโม่เฟิงปิดประตูแต่ไม่ได้ลงกลอน เขาเปลื้องผ้าออกเตรียมจะเปลี่ยนชุด แต่ลืมไปว่าเขาไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้ามาด้วย พอดีกับอวี้ซินเปิดประตูเข้ามาแล้วถือห่อผ้านั้นไว้ในมือดวงตาของอวี้ซินมองไปยังจุดเด่นหรากลางกายของโม่เฟิงอย่างไม่รู้ตัวโม่เฟิงตกใจจนตาค้าง เขาขาดสติไปชั่วขณะจนไม่กล้าขยับร่างกายอวี้ซินเงยหน้าขึ้นทั้งสองจึงสบตากันอวี้ซินรีบเอามือปิดหน้าแล้วโยนห่อผ้าให้โม่เฟิง ก่อนจะปิดประตูดังปึ้ง แล้ววิ่งไปที่ห้องครัวด้วยใบหน้าร้อนผ่าวใหญ่!!! มันใหญ่มากกกไม่สิ! ข้าไม่ควรพูดถึงสิ่งนั้นโถ่เอ๊ย! ข้าน่าจะเคาะประตูก่อนไม่คิดว่าเขาจะถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแบบนั้น แถมยังไม่ล็อกห้องอีกแต่ว่าหุ่นเขาน่าจับมาทำพันธุ์มากเลยไม่นะ… ตาข้าจะเป็นกุ้งยิงไหมเนี่ยยยยยโม่เฟิงยืนตัวแข็งทื่อ เรื่องอับอา

  • ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ   ตอนที่ 57 ขออยู่ด้วย

    ตอนที่ 57 ขออยู่ด้วย“ม้าตัวโตแถมวิ่งเร็วมากเลย มิน่าล่ะพี่ตงห่าวถึงไปกลับได้ว่องไวนัก”กวนม่านหรงมองตามหลังม้าที่ห่างออกไปเรื่อยๆ“ท่านป้าโม่ นั่นคือของฝากที่ตงห่าวนำมาให้ขอรับ”กวนฟงตี้ชี้ไปที่กล่องไม้ขนาดกลาง ก่อนจะลากลับไปโม่อีอีเปิดดูกล่องไม้นางถึงกลับแปลกใจ ด้านในมีผลไม้แห้ง ผักดองหนึ่งขวดโหล และยังมีผลไม้แดงที่ขายกันในเมืองเฉิงอันในราคาที่แสนแพงอีกด้วย“ของฝากที่ข้าจะมอบให้กลายเป็นว่าไม่คู่ควรเลยสักนิด ไม่ได้การแล้วข้าจะต้องไปบอกท่านพี่ให้เตรียมสินสอดที่เหมาะสมกับบ้านเฉินมากกว่านี้”เมื่อคิดได้ดังนั้นโม่อีอีก็นำของฝากเข้าบ้านไปเก็บอย่างดี และรอคอยสามีกลับบ้านมาหนึ่งชั่วยามผ่านไป….ตงห่าวกับโม่เฟิงก็ได้มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่สุด ตงห่าวกับโม่เฟิงลงจากม้าแล้วจูงสายจูงไปผูกกับรั้วบ้านฮี่ ฮี่ ฮี่ เสียงม้าร้องดังขึ้น เฉินหรูซีจึงออกมาดู“กลับมาแล้วหรือ แล้วนั่น….”หรูซีชี้ไปทางโม่เฟิงที่ร่างกายสูงกว่าตงห่าวหนึ่งช่วงศอก ทว่าบนใบหน้ามีรอยยิ้มประดับเอาไว้“ท่านป้าข้าโม่เฟิงเองขอรับ”โม่เฟิงแนะนำตนเองด้วยท่าทางนอบน้อม“โม่เฟิงเองหรือ? พระเจ้า! เหตุใดเจ้าดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกล่ะเนี่ย”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status