การเมืองทั้งนั้น… การแต่งงานนี้จึงเกิดขึ้น ทั้งเขาและนางไม่ได้เต็มใจ ทว่าก็มีใครบางคน ไม่อยากให้มีงานแต่งงานเกิดขึ้น จึงได้ลักพาตัวเจ้าสาวในวันแต่งงาน หน้าตายังไม่เคยเห็นกัน แถมยังไม่รู้จะเป็นจะตาย หาศพยังไม่เจอ แล้วเรื่องนี้จะคลี่คลายไปทางไหน อ๋องเหวยฉีหยางจะได้เจอกับหยวนเหมยหลัน อีกครั้งหรือไม่? ไปอ่านกันได้ค่ะ
ดูเพิ่มเติมณ บ้านตระกูลหยวน ห้องโถงใหญ่ มีบรรยากาศตึงเครียด
หยวนเหมยหลันยืนอยู่ท่ามกลางสมาชิกในครอบครัว ท่านพ่อของนาง ขุนนางหยวนฟงเทียน ท่านแม่ของนาง... เหมยซิน
ขุนนางผู้ใหญ่สองท่าน ขุนนางกังไฉหลิง และขุนนางเฉิงโมหย่า และเหมากงกง ผู้แทนจากวังหลวงกำลังยืนอยู่ด้วย
ขุนนางหยวนฟงเทียนเอ่ยขึ้น “เจ้ามาก็ดีแล้วเหมยหลัน เจ้าคงรู้ดีว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญยิ่งต่อครอบครัวของเรา การหมั้นหมายของเจ้ากับท่านอ๋องเหว่ยฉีหยาง เป็นโอกาสที่พิเศษมาก ๆ และเป็นเกียรติแก่ตระกูลหยวนของเรา” ท่านพ่อพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น และตื้นตันใจ
หยวนเหมยหลันก้มหน้าลงด้วยความไม่พอใจ แต่ก็แอบซ่อนสายตาและใบหน้าเอาแต่ใจ ต้องกดทุกอย่างเอาไว้ไม่ให้เปิดเผยออกมา
“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะพ่อ... แต่ทำไมถึงต้องเป็นเขา? ข้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับความโหดเหี้ยม และความไร้เมตตาของเขามากมาย...” นางพูดออกมาอย่างไม่เกรงใจทั้งสองขุนนาง และเหมากงกงเลยสักนิด
ท่านแม่ของหยวนเหมยหลันรีบพูดเบา ๆ แต่ทว่าน้ำเสียงหนักแน่น
“เหมยหลัน เจ้าต้องคิดถึงเกียรติของตระกูลเป็นอันดับแรก การที่เจ้าจะแต่งงานกับอ๋องเหวยฉีหยางนั้นจะนำมาซึ่งความรุ่งเรืองและอำนาจแก่ครอบครัวเรานะ” พร้อมกับจับแขนลูกสาวให้ลดราเสียงที่แข็งกระด้างลง ด้วยสายตาปรามหนัก
หยวนเหมยหลันซ่อนกลบความขมขื่น นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับไม่ให้สั่นเครือ “แต่ข้าไม่รู้จักเขาเลยนะท่านแม่ ข้าจะหมั้นหมายกับใครสักคน หรือแต่งงานกับใครสักคน โดยที่ท่านพ่อท่านแม่จะไม่ให้ข้าได้พบพานหน้าตาของเขา หรือแม้แต่พูดคุยด้วยได้อย่างไร?”
ท่านพ่อตบโต๊ะดังปัง “เหมยหลัน! นี่ไม่ใช่เรื่องของความรักหรือความชอบของเจ้าทั้งนั้น ทว่ามันคือ... ความเสียสละ เจ้าต้องเสียสละเพื่อครอบครัว และเพื่อความมั่นคงของตระกูลเรา การหมั้นหมายนี้เป็นเรื่องการเมืองและอำนาจ เจ้าต้องยอมรับมัน เข้าใจหรือไม่? ที่พ่อเรียกเจ้ามาก็เพื่อรับรู้ ไม่ได้ให้มายืนกรานโต้ที่จะปฏิวัติกับพ่อของเจ้า” ดวงตาคมกล้าแสดงความโกรธจัดขึ้นมา เขารู้สึกเสียหน้ามาก ๆ ที่ลูกสาวสุดที่รัก ยืนกรานเสียงแข็ง และเถียงพ่อฉอด ๆ อย่างนี้
หยวนเหมยหลันเม้มริมฝีปาก นางมองไปรอบ ๆ ห้อง พอได้เห็นสายตาตำหนิจากทุกคน นางก็ต้องก้มหัว กลีบปากน้อย ๆ ลั่นเสียงออกมา “ข้าจะยอมตามคำสั่งของท่านพ่อเจ้าค่ะ แต่โปรดรู้ไว้ว่า ข้าไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด...”
ท่านแม่ได้ยินแบบนั้น นางก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮูหยินหยวนเดินเข้าไปกุมมือเหมยหลัน
“จุ ๆ แม่รู้ว่าเจ้ารู้สึกอย่างไร แต่นี่คือโชคชะตาของผู้หญิง พ่อของเจ้าอยากให้เจ้าได้เข้าไปอยู่ในวังหลวง พวกเราต้องทำเพื่อครอบครัวของเราเอง หวังว่าเจ้าจะเข้าใจนะ” ท่านแม่ที่ไม่เคยมีปากมีเสียง ท่านพ่อพูดเช่นไร ท่านแม่ก็ต้องยอมรับเช่นนั้น
แรงมือที่บีบมือของหญิงสาว กลายเป็นบังคับให้นางหยุดพฤติกรรมไม่น่ามองทั้งหลาย
หยวนเหมยหลันมีน้ำตาเริ่มเอ่อล้นท่วมขอบตา พยักหน้าราวเข้าใจ แต่ก็อดที่จะพูดต่อ “ใช่เจ้าค่ะ ข้าเข้าใจแล้วท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าจะทำตามที่พวกท่านต้องการ...”
ได้ยินแบบนั้นแล้ว บรรยากาศในห้องโถงนั่นก็เริ่มคลี่คลาย
“พาเหมยหลันเข้าไปพักข้างในไป แล้วก็ไม่ต้องออกมาเสนอหน้ากันอีก” ท่านหยวนอารมณ์เสียมาก ๆ ก่อนจะหันไปเชื้อเชิญทั้งสามท่านให้ดื่มน้ำชา กินของหวาน และคุยเรื่องต่าง ๆ กันต่อ
ในห้องนอนของลูกสาว
“ท่านแม่ ท่านออกไปเถอะ ข้าอย่างอยู่คนเดียว”
“เหมยหลันเอ๊ย! เจ้าน่ะไม่น่าทำให้ท่านพ่อโมโห”
“ข้าก็ยินยอมแล้ว ท่านแม่จะเอาอะไรกับข้าอีก”
“เฮ้อ... ก็เป็นเสียแบบนี้ แม่นี่แหละผิดที่เลี้ยงเจ้ามาให้เป็นคนเช่นนี้ วันนี้ขายขี้หน้านัก” แล้วท่านแม่ก็เดินออกจากห้องของนางไป
หยวนเหมยหลันได้แต่น้ำตานองหน้า นึกถึงหน้าตาตามคำบอกเล่าของผู้คน ที่ต่างเคยเอ่ยถึงความโหดร้ายของอ๋องเหวยฉีหยาง
‘ทำไมต้องเป็นข้าด้วย’ ได้แต่ตัดพ้อต่อโชคชะตา ไม่ว่าอย่างไรก็ขัดบัญชาของท่านพ่อไม่ได้อย่างแน่นอน น้ำตาของหยวนเหมยหลันจึงได้หลั่งไหลจนเปียกหมอนที่รองหนุน รับรู้และพยายามเตรียมใจกับลิขิตใต้เงาร้ายของอ๋องเหวยฉีหยาง
วังของอ๋องเหวยฉีหยาง ห้องหนังสือ บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบ ใบไม้ที่อยู่ด้านนอก เหี่ยวเฉา และร่วงลงมาจากกิ่งไม้ ก่อนจะปลิดปลิวเข้ามาในห้องนั้น
อ๋องเหวยฉีหยางนั่งอ่านรายงานอย่างเคร่งขรึม เหมากงกง คือผู้แทนจากวังหลวง ที่เขาไปเจรจา เขาเดินเข้ามารายงาน
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ การหมั้นหมายระหว่างท่านกับหยวนเหมยหลันถูกจัดการเสร็จสิ้นแล้ว พิธีจะมีขึ้นในอีกสามวันข้างหน้าพ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องเหวยฉีหยางถอนหายใจ และเขาวางรายงานลง
“ข้าไม่เคยให้ความยินยอมในการหมั้นหมายครั้งนี้ ทำไมพวกเจ้าจึงจัดการโดยไม่ได้ปรึกษาข้าฮึ?” ดวงตามาดร้ายฟาดไปที่เหมากงกง นึกพาลไปหมด กับเรื่องที่ขัดใจของตนเองในครั้งนี้
“ฝ่าบาทโปรดอภัย การหมั้นหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์ฮ่องเต้ เสด็จพ่อของฝ่าบาทนั้น และนั่นถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด ที่ใคร ๆ ก็ขัดราชโองการไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างการแต่งงานก็เหมือนการเชื่อมสัมพันธ์ อีกทั้งเพื่อความเป็นปึกแผ่นด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องเหวยฉีหยางยืนขึ้นด้วยท่าทางโกรธจัด
ยามค่ำคืนที่เงียบสงัดหลายชั่วโมงผ่านไปหลังจากที่หยวนเหมยหลันและอ๋องเหวยฉีหยางจัดการให้ลูกฝาแฝดนอนหลับสนิทในห้องของพวกเขาท้องฟ้านอกหน้าต่างเปล่งแสงจันทร์อ่อน ๆ ส่องเข้ามาในห้อง อากาศเย็นสบายหยวนเหมยหลันเดินกลับเข้ามาในห้องนอนใหญ่ของตนเอง ขณะที่เหวยฉีหยางยืนมองผ่านหน้าต่าง พลางหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน“หลับสนิทแล้วหรือ?” เหวยฉีหยางถามเบา ๆ น้ำเสียงของเขานุ่มนวลจนเหมือนกล่อม“อืม... นอนกันแล้วทั้งสองคนแล้วเจ้าค่ะ นี่ขนาดให้วิ่งเล่นจนเหนื่อย” หยวนเหมยหลันตอบยิ้ม ๆ ขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เขา“วันนี้เล่นจนหมดแรงไปเลย”เหวยฉีหยางยื่นมือไปกุมมือของนาง สัมผัสนั้นอบอุ่นและแสดงถึงความรักที่ลึกซึ้งฉายออกมาทางแววตาหยวนเหมยหลันสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดที่มากกว่าแค่การจับมือ มันคือความผูกพันของคนสองคนที่สร้างครอบครัวมาด้วยกัน“เจ้าทำได้ดีมากนะ ขอบคุณที่ทุ่มเท” เหวยฉีหยางกระซิบ เขาดึงนางเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน ศีรษะของนางพิงกับอกกว้างของเขา“ไม่เพียงแต่เป็นแม่ที่ดี แต่ยังเป็นภรรยาที่ข้ารักที่สุด”หยวนเหมยหลันยิ้ม แม้ไม่ได้พูดอะไร แต่หัวใจของนางก็รับรู้ว่าเขาต้องการอะไร ท่ามกลางความเงียบที่เต็มไปด้วย
แสงแดดยามเย็นเริ่มคล้อยต่ำ สาดส่องเข้ามากระทบหน้าของทั้งสอง ตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่แนบชิดกัน เขาหอมแก้มนางหยวนเหมยหลันกำลังนั่งมองลูกฝาแฝดของนางที่วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานในสวน พวกเขาหัวเราะและวิ่งไล่กันอย่างร่าเริง“ข้าคิดว่า เราสองคนอาจจะทำลูกอีกคนดีไหม?” ฉีหยางกล่าว พร้อมรอยยิ้มกว้าง หยวนเหมยหลันหัวเราะ แสร้งทำเป็นตีไหล่เขา“ท่านพี่ข้าเพิ่งหายเหนื่อยนะเจ้าคะ มีสองคนนี้แล้ว... ก็พอแล้วมั้ง”ทว่าพอเห็นสายตาของเขา“เอ... หรือยังไม่พอ?”“ไม่พอหรอก” ฉีหยางตอบพร้อมยิ้มแฝงความสุข“มีลูกสาวอีกสักคน”“ท่านพี่ แล้วถ้าคลอดออกมา ไม่ได้ลูกสาวเล่า”“ข้าก็ทำอีก จนกว่าจะได้ลูกสาว”“หื้อ!” นางครางเสียงยาว แต่หยวนเหมยหลันยิ้มรับ รู้สึกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุดของเขา ทั้งสองจะอยู่ครองรักกันตลอดไป ท่ามกลางความสุขของครอบครัวที่พวกเขาได้สร้างขึ้นเองเรื่องราวของอ๋องเหวยฉีหยางและหยวนเหมยหลันเป็นเรื่องราวแห่งความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางความยากลำบากและความท้าทายทั้งสองคนได้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความสูญเสีย ความเจ็บปวด และการถูกทรยศมากมาย แต่ด้วยความเข้มแข็งและความรักที่ไม่เคยล้มเลิก พวกเขาได้สร้าง
สามปีต่อมา... ฉีหยางและเหมยหลันนั่งอยู่กลางสวนผักที่เขาเพิ่งปลูกด้วยกัน ดวงอาทิตย์ส่องแสงอบอุ่นทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ลูกชายฝาแฝดของพวกเขาวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน ไล่จับไก่ตัวเล็กๆ ที่กำลังเดินไปมาอย่างน่ารักข้าง ๆ ยังมีเจ้าหมาน้อยที่เห่าวิ่งตามสองพี่น้องอย่างมีชีวิตชีวา“ดูพวกเขาสิ!” เหมยหลันพูดอย่างยิ้มแย้ม“ทั้งสองดูมีความสุขมากเลย”“ใช่แล้ว” ฉีหยางตอบกลับ พร้อมกับยิ้มกว้าง“พวกเขาชอบเล่นที่นี่มาก”ในขณะที่เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ดังก้องไปทั่วสวน เหมยหลันจึงหันมามองฉีหยางด้วยความรัก“เราโชคดีแค่ไหนกันนะ ที่ได้มีชีวิตแบบนี้”“ใช่ เราโชคดีมาก” ฉีหยางพูดพร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น เขายกมือขึ้นไปลูบผมของเหมยหลันเบา ๆ“และจะไม่มีอะไรทำให้เราห่างกันได้”ทั้งสองมองไปที่ลูก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน และในขณะที่พวกเขาจูบกันอย่างอ่อนโยน ท่ามกลางธรรมชาติและความรัก ความรู้สึกอบอุ่นเข้ามาในใจทุกคนสวนผักแห่งนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักและครอบครัวที่มีความสุข ทั้งสองฝาแฝดได้สร้างความทรงจำที่ไม่อาจลืมได้ในทุก ๆ วัน และด้วยความรักที่มั่นคงฉีหยางและเหมยหลันรู้ว่าพวกเขาจะเผชิญทุกอย่างร่วมก
เขายิ้มให้ พร้อมกับจูบลงที่ริมฝีปากของนางอย่างอ่อนหวาน ริมฝีปากของเขาแนบชิด พร้อมกับท่อนล่างของส่วนสะโพกสอบที่โบกสะบัดอย่างเต็มที่นางเองก็ตอบสนองด้วยความรัก ปล่อยให้ทุกอย่างที่ร้าย ๆ ได้ลบเลือน ทั้งความเศร้า ความกลัว และความคะนึงถึง ต่อไปไม่มีอีกแล้ว เพราะต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดจนวันสิ้นลมหายใจนางจูบเขากลับอย่างกระตือรือร้น ทั้งสองหลอมรวมกันในจังหวะอันหวานซึ้ง ความรักของพวกเขาได้งอกงามอีกครั้งในบรรยากาศที่เงียบสงบของธรรมชาติ“ให้เราสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกัน” ท่านอ๋องพูดด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่ยังคงมีริมฝีปากที่แนบชิด“และข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกมีค่าในทุกวัน”“ข้ารู้สึกมีค่าอยู่แล้ว เพราะมีท่านพี่” หยวนเหมยหลันพูด พร้อมยิ้มให้กับเขา พวกเขาอยู่ในท่าทางที่เต็มไปด้วยความรัก บรรยากาศรอบข้างเริ่มต้นมีสีสัน ดอกไม้ข้างนอกที่บานสะพรั่งพลิ้วไหวไปกับสายลมที่พัดเอื่อย ๆหมู่นกและสรรพสัตว์ได้เริ่มต้นขับขานบทเพลงแห่งความสุข ในขณะที่คู่รักได้สัญญาจะเผชิญทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกันในอนาคต ท่ามกลางทุกสิ่งทั้งสองคนเอ่ยถึงความรักที่อยู่ในใจ บอกว่าจะไม่มีวันสิ้นสุด เหมยหลันและฉีหยางพร้อมที่จ
“ข้าอยากให้ท่านรักษาสัญญานี้ไปจนวันตาย…”“ข้าจะรักษาสัญญาด้วยเกียรติยศของข้า” ท่านอ๋องยิ้มอย่างอบอุ่น และยืนขึ้น เขายื่นมือไปจับมือของนาง“ให้พวกเราเริ่มต้นใหม่ร่วมกัน ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังอีกต่อไป ข้าจะปกป้องเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนหลันเอ๋อร์ จะมีข้าอยู่ข้างกายเจ้าตลอดไป”นางมองเขาด้วยความรักและความหวัง ขณะที่ทั้งคู่ยืนอยู่ในแสงแดดอบอุ่นที่อุ่นพอกับอ้อมกอดแห่งรักที่มีต่อกัน“เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับความสุขที่รออยู่ในอนาคตข้างหน้านี้” เขาเอ่ย ท่านอ๋องเหวยฉีหยางยิ้มให้หยวนเหมยหลันด้วยความรักและความจริงใจที่ส่องประกายในดวงตาของเขา“ข้ามีข่าวที่จะบอกเจ้าด้วย”“อะไร?”“ตอนนี้ ข้าเหวยฉีหยางเป็นแค่คนธรรมดาที่รักเจ้า ข้าไม่ต้องการยศถาบรรดาศักดิ์อีกต่อไป ข้าขอคืนทุกสิ่งอย่างให้กับเสด็จพ่อ ท่านอนุญาตให้ข้ามาอยู่ที่นี่ และข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าและลูก แค่นี้ก็พอแล้ว”“ท่านอ๋อง”“ไม่ใช่แล้ว ข้าไม่ใช่ท่านอ๋อง ต่อไปน่ะนะ หลันเอ๋อร์ต้องเรียก... ท่านพี่ถึงจะถูก”“ท่านพี่ ท่านเสียสละเพื่อข้าถึงเพียงนี้”“ข้าไม่อยากให้อำนาจ ตำแหน่ง ยศถามาบั่นทอนความสุข และความปลอดภัยในชีวิตอีกต่อไป ข
“คุณหนูเป็นอะไรเจ้าคะ ทำไมหน้าซีดนัก”“ไปตามหมอเถอะเซินลี่ ข้าเวียนหัว ข้าน่าจะท้อง”“หา!” และความโกลาหลก็เกิดขึ้นที่นี่ในที่สุด หมอจางฮูเฟินก็มาถึงและทำการตรวจอาการของนางอย่างละเอียดในใจของนางเต็มไปด้วยความกังวลและความหวัง“ท่านหมอ… ข้า… ข้าคิดว่าข้าอาจจะตั้งครรภ์” นางพูดออกมาเสียงสั่นหมอจางขมวดคิ้วและทำการตรวจอย่างรอบคอบ สุดท้ายก็กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“ขอแสดงความยินดี คุณหนูหยวน คุณหนูกำลังตั้งครรภ์จริง ๆ”หยวนเหมยหลันรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน ชั่วขณะนั้นหัวใจของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น‘ท่านอ๋อง ถ้าท่านรู้ว่าข้าท้องลูกของท่าน ท่านต้องดีใจมาก ๆ’ความรักที่มีต่อท่านอ๋องกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของชีวิตใหม่ที่อยู่ในท้องของนาง“ขอบพระคุณท่านหมอจาง ข้าขอยาบำรุงด้วย”“ได้ขอรับคุณหนู”“เซินลี่ตามไปรับยาที่บ้านท่านหมอจาง” นางยิ้มแก้มแทบแตก บนใบหน้าซีดจางจนเกือบจะเป็นสีขาวนั่น‘ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกจะเป็นข้ออ้าง ที่ดีที่สุด ที่ข้าจะไม่ต้องแต่งงานกับเขาคนนั้น’เมื่อข่าวรู้ไปถึงหูผู้ชายคนนั้น เขาก็ปฏิเสธการแต่งงานกับคุณหนูจริง ๆปัจจุบันผ่านมาสามเดือนยามบ่ายที่เงียบสงบในสวนหลังบ้าน หยวนเหมยห
ความคิดเห็น