Share

บทที่ 166

Penulis: ลิ่วเยว่
เพราะคำพูดของฮูหยินผู้เฒ่า จ่านเหยียนนิ่งไปนานกว่าจะคืนสติ

นางเดินวนอยู่กับพื้น รู้สึกในหัวมีไฟโกรธพวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุด รู้สึกเหมือนตัวเองจะถูกไฟเผาไหม้อยู่แล้ว

“อาซาน อาซาน!” นางตะโกนออกไปข้างนอก

อาซานเดินพรวดพราดเข้ามา กระบี่ยาวออกจากฝักดังชิ้ง กวาดสายตาดุจสายฟ้ามองทุกซอกทุกมุม

“เกิดอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ครั้นเห็นว่าไม่มีนักฆ่า อาซานจึงเก็บกระบี่เข้าฝักแล้วถามจ่านเหยียน

จ่านเหยียนมองเขาด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ “ถอดรองเท้า!”

นางเดินไปหยิบกระดาษขาวบนโต๊ะ แล้วใช้กรรไกรตัดเป็นรูปคน ครั้นเห็นอาซานยังยืนอึ้งไม่ถอดรองเท้าก็สับขาเดินไปดึงเท้าของเขา “ถอดรองเท้าสิ!”

อาซานเดินถอยหลังสองก้าว “จะทำอันใด๋หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ถอด!” จ่านเหยียนเอ่ยด้วยโทสะ

อาซานสงบจิตใจครู่หนึ่ง “เช่นนั้น... คุณหนูใหญ่อุดพระนาสิกไว้นะพ่ะย่ะค่ะ” กล่าวจบจึงถอดรองเท้า

กลิ่นปลาเค็มขึ้นราปะทะใบหน้ามา ทำจนจ่านเหยียนอาเจียนแห้งพักหนึ่ง ก่อนจะเอามือขยี้ดวงตาที่ถูกกลิ่นรมจนแสบไปหมดแล้ว

นางเซถอยหลังเนือง ๆ อุดจมูกแล้วตะคอกไปอย่างไร้เรี่ยวแรง “เร็ว! ใส่รองเท้า! หายใจไม่ออกแล้ว!” นางเปิดหน้าต่างออกหมดแล้วชะโงกศีรษะออกไปหอ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 167

    “อื่ม!” ไทฮองไทเฮานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่จี๋เสียงยกมาและมองจ่านเหยียนด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อยอย่างสงบสายตาของนางเย็นจัด แค่นั่งอยู่อย่างนี้ก็มีพลังแข็งแกร่งแล้ว นางอยากใช้พลังนี้กดดันจ่านเหยียน แล้วค่อยพูดกับนางจ่านเหยียนมองนางอย่างไม่กริ่งเกรงสักนิด เมื่ออยู่ต่อหน้านาง พลังแข็งแกร่งของไทฮองไทเฮาราวกับไม่เกิดประสิทธิผลแม้แต่น้อยไทฮองไทเฮาเอ่ยปากเรียบ “ข้าได้ยินเรื่องที่เจ้าอยู่ในจวน เรื่องที่เจ้าชี้และพิสูจน์เรื่องระหว่างแม่ของเจ้ากับรองแม่ทัพหลี่แล้ว”“อ้อ เรื่องนี้เองหรือเพคะ!” จ่านเหยียนยิ้ม ไทฮองไทเฮาไม่เคยได้ยินเรื่องที่นางถูกลอบฆ่าเลยหรือ? เห็นชัดว่าไม่ใช่ แต่นางมิได้สนใจประเด็นนี้“เจ้ารู้สึกว่าไม่สำคัญหรือ?” ไทฮองไทเฮากลีบปากบางคลี่ยิ้มเย็น มองนางด้วยสายตาถากถาง“เสด็จแม่ทรงรู้สึกว่าอย่างไรเพคะ?”“เจ้าควรรู้ ชื่อเสียงของสตรีสำคัญกว่าทุกสิ่ง”จ่านเหยียนแย้มยิ้ม “ในสายตาของหม่อมฉัน ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตเพคะ”“นั่นคือสิ่งที่เจ้าคิด มิใช่สตรีใต้หล้าจะคิดเช่นนี้ทั้งหมด” ไทฮองไทเฮาจ้องนางและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชืด“หม่อมฉันไม่สนว่าสตรีใต้หล้าจะคิดอย่างไร หม่อมฉันรู้เพี

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 168

    ฮุ่ยอวิ่นปรึกษาหารือการรับมือกับฉีชินอ๋องในจวน เวลานี้ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือต้องทำอย่างไรจึงจะรักษาชีวิตของมู่หรงฉิงเทียนได้“ไปเชิญพระอาจารย์เป่ากวงมา!” ฮุ่ยอวิ่นสั่งกับอาซิ่นอาซิ่นขานรับก็ออกจากเรือน พร้อมปิดล้อมเรือนหลิงอวิ๋นซึ่งเป็นที่พักของมู่หรงฉิงเทียนเอาไว้จะให้เรื่องที่ท่านอ๋องเกิดเรื่องแพร่งพรายออกไปไม่ได้เด็ดขาด“นี่จะทำอย่างไรดี?” ฉีชินอ๋องจนหนทางแล้วเหมือนกัน ครั้นเห็นคนนอนหมดสติอยู่บนเตียง หัวใจของเขาก็ราวกับมีมีดกรีด หลายปีก่อนเขาเคยสูญเสียเสด็จพี่ไปหนหนึ่งแล้ว ตอนนี้จะต้องเกิดเรื่องซ้ำสองอีกหรือ?ไม่ ลำบากนักกว่าเขาจะรอดต่อไปได้“ลองถามพระอาจารย์เป่ากวงก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ” ฮุ่ยอวิ่นเอ่ยด้วยความกังวล“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?” ฉีชินอ๋องถามฮุ่ยอวิ่นฮุ่ยอวิ่นเล่าเรื่องรอบหนึ่ง ก่อนจะกัดฟันเอ่ยว่า “หากรู้ว่าฟางจี้จื่อนั่นจะเชื่อถือไม่ได้เช่นนี้ พูดอย่างไรข้าก็ไม่เห็นด้วยให้ยืนวิญญาณมังกรไปเด็ดขาด!”“เขาไปกำจัดปีศาจที่ไหน?” ฉีชินอ๋องเอ่ย“ตอนที่เขาไป ข้าสั่งให้คนสะกดรอยตามเขา เขาเข้าจวนตระกูลหลง ภายหลังได้ยินว่าปีศาจจิ้งจอกเข้าสิงร่างไทเฮา กำจั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 169

    เขาไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของจ่านเหยียน แต่เขารู้สึกว่าที่จ่านเหยียนปรากฏตัวในเมืองหลวงด้วยอีกตัวตนหนึ่ง จะต้องมีเหตุผลแน่ บางที... นางอาจยอมช่วยมู่หรงฉิงเทียนด้วยตัวตนหลงอู่ก็เป็นได้“แค่ ‘อาจจะ’? มิใช่ ‘แน่นอน’ หรือ? เช่นนั้นท่านนั้นที่ท่านบอกเมื่อครู่คือใคร?” ฮุ่ยอวิ่นถามต่อ“ไม่จำเป็นต้องพิจารณาท่านนั้นแล้ว” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ย“หัวใจคนทำจากเนื้อ เชื่อว่าไม่มีผู้ใดที่หนักแน่นดั่งหินผา” ฮุ่ยอวิ่นเอยพระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า “คนผู้นี้หากอยู่บนโลกมนุษย์ก็มีอายุถึงสามร้อยปีแล้ว มีอายุมากกว่าอาตมา อาตมาได้ยินว่าบรรพบุรุษของคุณชายหลงอู่มีความเชื่อมโยงกับเขาอยู่บ้าง อีกทั้งคุณชายหลงอู่ยังเชี่ยวชาญศาสตร์นี้ ดังนั้นอาตมาขอเสนอให้คุณชายรีบตามหาเขาเถอะ”“อายุสามร้อยกว่าปี?” ฉีชินอ๋องสบตากับฮุ่ยอวิ่น ในดวงตามีความผิดหวังอยู่ลึก ๆ อายุสามร้อยกว่าปี นั่นยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ที่ไหน? กลัวแต่ไปเกิดใหม่นานแล้ว“ข้าเคยได้ยินคุณชายหลงอู่มาก่อน แต่เขามิใช่พวกเสเพลหรอกหรือ? พระอาจารย์แน่ใจหรือว่าเขาเชื่อถือได้?” ฮุ่ยอวิ่นถาม“อย่าได้ดูถูกคนที่ภายนอกสนุกสนานร่าเริง บางทีพวกเขาอาจจะคมในฝัก ใช้อีกโฉ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 170

    ฮุ่ยอวิ่นมีกะจิตกะใจคิดเรื่องนี้ที่ไหนกัน แต่ในเมื่อฉีชินอ๋องหลงเอ่ยถึง เขาจึงคิดสักหน่อยแล้วตอบว่า “กล่าวตามตรง ไทเฮาต่างจากจ่านเหยียนที่พวกเรารู้มาเมื่อก่อนหน้านี้มาก บางทีนางอาจเป็นปีศาจจริง ๆ ก็ได้”“แต่... ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดแล้ว” ฉีชินอ๋องต้องฮุ่ยอวิ่นตาเขม็ง“อื่ม!” ฮุ่ยอวิ่นพยักหน้า“แต่... แน่ใจหรือว่ามีปีศาจจิ้งจอก? เรื่องนี้จะเหลวไหลเกินไปแล้ว”ฮุ่ยอวิ่นนิ่งงันครู่หนึ่ง “โลกกว้างใหญ่ไพศาล มีเรื่องอัศจรรย์มากมาย สิ่งที่พวกเราไม่รู้ ไม่หมายถึงว่าไม่มีอยู่จริง”ฉีชินอ๋องหดหู่ใจ “หากยึดตามการพูดของเจ้า เช่นนั้นก็คือมีปีศาจจิ้งจอกอยู่จริง ๆ ยามนี้ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดแล้ว เช่นนั้นหลงจ่านเหยียนจะกลับไปเป็นลูกอนุที่ขี้ขลาดเหมือนมุสิกเช่นเมื่อก่อนนี้หรือไม่?”“ก็เป็นไปได้!” ฮุ่ยอวิ่นตอบแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางทีนี่อาจเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็ควบคุมง่ายไทเฮาที่เขารู้จักในเวลานี้ปราดเปรื่องเกินไป จิตใจล้ำลึกเกินไป แม้จะมีด้านดีอยู่ กลับไม่สามารถใช้ประโยชน์จากนางได้ง่ายแต่การพูดเรื่องพวกนี้ในเวลาเช่นนี้จะมีความหมายอันใด? หากพี่ชายเกิดเรื่อง แผนการทุกอย่างก็จบสิ้นลงแล้ว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 171

    ฮุ่ยอวิ่นถามอย่างร้อนใจ “พระอาจารย์ เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”พระอาจารย์เป่ากวงตอบเสียงเบา “อย่าเสียงดัง ท่านอ๋องเพิ่งฟื้น รอให้เขารวบรวมพลังสักหน่อยแล้วค่อยเข้าไป”“ได้ เช่นนี้ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้วใช่หรือไม่” ฉีชินอ๋องถามพระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า เอามือเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผาก “หากยังไม่มีใครช่วยเขาในหนึ่งเดือน อาตมาก็จนหนทางแล้ว”ฮุ่ยอวิ่นชายตามองเขา “พระอาจารย์ ข้าขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง”“อาตมารู้ คุณชายวางใจเถอะ อาตมาจะไม่แพร่งพรายออกไปอย่างแน่นอน” พระอาจารย์เป่ากวงรับประกัน“เช่นนั้นก็ดี!” ฮุ่ยอวิ่นพยักหน้า สีหน้าเจ็บปวดหนักใจเล็กน้อยแม้เวลานี้จะไม่ใช่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ยามนี้ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนักมีหลาย ๆ คนที่เข้าร่วมกับท่านอ๋องแล้ว มีกำลังเพียงพอจะต้านทานสกุลถง ขาดอีกก้าวเดียว ต้องการแค่เงินทุนที่เพียงพอก็จะถอนรากถอนโคนราชครูถงได้แล้ว กลับมาเกิดข้อผิดพลาดในตอนนี้ หากภายนอกรู้ เกรงแต่คนที่ยังไม่มั่นคงกับจุดยืนจะหันไปเข้ากับอีกฝ่าย“แม้เวลานี้ท่านอ๋องจะปลอดภัย แต่ทุกคืนเมื่อถึงยามโฉ่ว ช่วงสองชั่วยามนี้ไอของจันทร์หยินจะรุนแรงที่สุด เขาจะทรมานมาก” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 172

    ฉีชินอ๋องเอ่ย “ได้ ประเดี๋ยวข้าจะเข้าวัง”“ฟางจี้จื่อเอาวิญญาณมังกรไปกำจัดปีศาจที่ไหนหรือ?” มู่หรงฉิงเทียนถามฮุ่ยอวิ่นฮุ่ยอวิ่นตอบ “จวนตระกูลหลง เขาบอกว่าปีศาจจิ้งจอกสิงร่างหลงจ่านเหยียน ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดไปแล้ว แต่วิญญาณมังกรก็กลายเป็นผุยผงไปแล้วเหมือนกัน”ทันใดนั้นสายตาเย็นชาคมกริบของมู่หรงฉิงเทียนก็ตกอยู่บนใบหน้าของฮุ่ยอวิ่น “เช่นนั้น... หลงจ่านเหยียนตายแล้วหรือ?”ฉีชินอ๋องตอบแทน “ยัง แต่นิสัยคงกลับไปเป็นหลงจ่านเหยียนที่ขี้ขลาดคนก่อนแล้ว”มู่หรงฉิงเทียนเงียบงัน สายตากลับเย็นชามากขึ้น“เทียน พระอาจารย์เป่ากวงบอกว่าทุกคืนเจ้าจะถูกไอหยินแว้งกัด...”มู่หรงฉิงเทียนขัดคำพูดของเขา “ข้ารู้ ก็เหมือนกับตอนแรก ข้าทนได้” แต่นึกถึงความทรมานปอดฉีกหัวใจแหลกลาญแบบนั้นแล้ว เขายังสั่นขึ้นมาเล็กน้อย“พระอาจารย์เป่ากวงบอกว่าหลงอู่ช่วยท่านได้ ข้าต้องตามตัวหลงอู่มาได้แน่” ฮุ่ยอวิ่นพูดอย่างปวดใจเล็กน้อยมู่หรงฉิงเทียนหัวเราะเสียงเย็น “ช่างเถอะ อย่าฝืนเลย คุณชายอายุน้อยคนหนึ่ง ไม่เห็นจะมีความสามารถเช่นนี้”สมควรจบลงแล้ว แม้จะไม่ใช่เวลา แต่การอยู่ด้วยร่างที่ตายไปแล้วเช่นนี้ ช่างทำให้เขาผิดหวังจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 173

    “อื่ม!” มู่หรงฉิงเทียนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะขานรับฮุ่ยอวิ่นตะลึงงัน แล้วจึงกล่าวอย่างทุกข์ใจเล็กน้อย “เมื่อก่อนทรมานอย่างนั้นยังผ่านมาได้ ตอนนี้...”“ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน พวกเราจะผิดพลาดไม่ได้” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยเรียบ“ถ้าเพื่อระงับความเจ็บปวด ข้าสามารถไปหาให้ท่านได้ แต่... ถ้าเพื่อให้สติแจ่มชัดอยู่เสมอ นั่นไม่จำเป็น ข้าเคยบอกแล้ว ตอนนี้เราจะยังไม่เคลื่อนไหว”มู่หรงฉิงเทียนมองเขา นัยน์ตาดำขลับดุจม่านราตรีเจือความร้อนรนเล็กน้อย “ฮุ่ยอวิ่น เจ้าไม่เข้าใจ ตอนนี้ข้าถอยไม่ได้แล้ว หากมิใช่เขาตาย ก็คือแคว้นต้าโจวเปลี่ยนผู้ปกครอง ทางออกเดียวของเราก็คือการทุ่มสุดตัว”ฮุ่ยอวิ่นนิ่งงันครู่หนึ่ง “เอาไว้ข้าหาหลงอู่เจอแล้วค่อยว่ากัน”มู่หรงฉิงเทียนมองเขาด้วยความผิดหวัง “ฮุ่ยอวิ่น เมื่อก่อนเจ้าไม่ลังเลเช่นนี้นี่”ฮุ่ยอวิ่นช้อนตาขึ้นพรึบมองเขา มองเขานิ่ง ๆ แล้วเอ่ยด้วยอารมณ์รุนแรงเล็กน้อย “ข้าเคยบอกแล้ว นอกจากท่านกับอาหญิง ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่สำคัญ ท่านไม่เข้าใจหรือ? ข้าเหลือพวกท่านเป็นญาติเพียงสองคนแล้ว!”ท้ายน้ำเสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย สะอื้นปนความเจ็บปวดใจการที่คนคนหนึ่งมีชีวิตอย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 174

    จ่านเหยียนประกาศกับภายนอก เนื่องจากได้รับความตกใจจากจวนจึงป่วยหนัก ช่วงพักฟื้นนี้จะไม่พบผู้ใดทั้งสิ้นนางปิดประตูตำหนักแล้วกล่าวกับจิ้นหรู “ข้าจะออกนอกวัง เจ้ารับผิดชอบเฝ้าอยู่ในตำหนัก แต่อย่าพูดเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด เจ้าทำเหมือนเมื่อก่อนนะ ส่งข้าวเข้ามาทุกวัน นอกจากเจ้า จี๋เสียงกับหรูอี้ ก็ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาปรนนิบัติในตำหนัก”จิ้นหรูรีบพูด “พระองค์จะเสด็จออกไปอีกแล้วหรือ? ครั้งนี้จะไปนานเท่าใดเพคะ?”จ่านเหยียนคิดครู่หนึ่ง “นับจากวันนี้ ถ้าไม่มีเรื่องพิเศษอะไร ข้าจะไม่กลับวัง”“อะไรนะ?!” จิ้นหรูเบิกตาโพลง “พระองค์ออกไปทำอะไรกันแน่เพคะ? หากในวังมีเรื่องเร่งด่วน บ่าวจะไปตามพระองค์ได้ที่ไหน?!”จ่านเหยียนดึงให้นางนั่งลง แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “จิ้นหรู เจ้าฟังข้านะ เวลานี้เสนาบดีกรมคลังคือถงจื่อหยา เป็นคนของสกุลถง อำนาจท้องพระคลังอยู่ในมือของคนสกุลถง เช่นนี้จะไม่เป็นผลดีต่อเซ่อเจิ้งอ๋อง แม้หลาย ๆ ครั้งจะไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่เงินก็ยังต้องใช้กับหลาย ๆ เรื่อง สามทัพมิเคลื่อนเสบียงหญ้าเคลื่อนก่อน เมื่อไม่มีเงิน ก็ทำงานใหญ่ไม่ได้ ช่วงก่อนข้าออกไปตีซี้กับคุณชายสกุลใหญ่ในเมืองหลวงได้เยอ

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status