แชร์

บทที่ 222

ผู้เขียน: ลิ่วเยว่
เย่เต๋อโหรวสั่งชิงซือไปยกน้ำชา ก่อนจะถามหลงฉางเทียน “จ่านซินเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? ข้าที่เป็นแม่ยังไม่ได้ไปเยี่ยมนางเลย”

“นางถูกฟันที่ขาหนึ่งแผล ข้าดูแล้ว เป็นทักษะดาบของพวกจูซิวจริง ๆ สำหรับใบหน้าของนางถูกหงฮวาทำให้เป็นแผล หมอบอกว่าอาจทิ้งเป็นรอยแผลเป็น” หลงฉางเทียนเอ่ยอย่างรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

เป็นเพียงแค่ ‘ความเสียดาย’ มิได้มีความปวดใจมากนัก สำหรับบุตรสาว ไม่ว่าจะเกิดจากภรรยาเอกหรืออนุภรรยา เขาก็ไม่สนใจนัก

เพียงแต่เย่เต๋อโหรวฟังแล้ว หัวใจกลับทรมานราวกับถูกเข็มทิ่มแทง บุตรสาวคือเนื้อในอกของนาง ขาบาดเจ็บยังดี แต่ทันทีที่เสียโฉม จะให้นางทำอย่างไร? นางยังไม่ได้ออกเรือนเลย

หลงฉางเทียนนั่งลง ชิงซือยกน้ำชามาแล้วก็ถอยออกไปอยู่อีกทางหนึ่ง

“ท่านพ่อตาว่าอย่างไร?” หลงฉางเทียนถามคำถามอย่างเป็นธรรมชาติ ต้องอาศัยบ้านมารดาของภรรยา มากน้อยยังทำให้เขาเสียศักดิ์ศรีอยู่บ้าง

เย่เต๋อโหรวเอ่ยเสียงเบา “ท่านพ่อรับปากว่าจะไปติดต่อกับทางสกุลหวัง แต่... ท่านพ่อบอกแล้ว แม้ที่แล้วเขากับนายท่านหวังจะมีไมตรีต่อกันบ้าง แต่เวลานี้หวังติ่งทังคือผู้นำวงศ์ตระกูล ทั้งนายท่านหวังยังป่วยนอนติดเตียง เกรงว่าจะตัดสินใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 223

    เย่เต๋อโหรวเป็นฝ่ายกุมมือของเขาก่อน ยิ้มอ่อนหวานมีเสน่ห์ “ท่านแม่ทัพคือสามีของข้า สามีมีทุกข์ ผู้เป็นภรรยาจะนิ่งดูดายได้อย่างไร? วางใจเถอะเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปหาท่านพ่อที่บ้าน”หลงฉางเทียนยิ้มบาง ๆ “สำหรับเรื่องราชครูต้องการเข้าหุ้นเหมืองทองกับสกุลหวัง ก็รบกวนฮูหยินแล้ว”“เรื่องนี้ ข้าได้แต่พยายามเต็มกำลังเจ้าค่ะ!” เย่เต๋อโหรวกล่าวเพียงเท่านี้ กลับไม่ยอมเดินหน้าอีกก้าว ในอดีตเพื่อประจบเขา นางจะสนองทุกเรื่องที่เขาขอ บัดนี้นางจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?หลงฉางเทียนรู้ว่ารีบร้อนเกินไปไม่ได้ เพียงแต่คืนนี้บรรลุจุดประสงค์ได้กึ่งหนึ่งก็พอใจแล้ว เอ่ย “เจ้าไปเยี่ยมจ่านซินก่อนเถอะ ข้าผู้เป็นสามีจะพักผ่อนที่นี่” “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ เชิญท่านแม่ทัพขึ้นเตียงพักผ่อน ข้าไปแล้วก็จะกลับ”“อื่ม อยู่เป็นเพื่อนนาง ตอนนี้นางอารมณ์ไม่สู้ดี” หลงฉางเทียนถอนหายใจด้วยท่าทางบิดาผู้มีเมตตาทีแรกหลงฉางเทียนอยากรั้งชิงซืออยู่ที่นี่เป็นเพื่อน แต่ตอนที่เย่เต๋อโหรวออกไปได้พาชิงซือไปด้วย จึงทำให้เขาหัวเสียนักชิงซือมิได้เอื้อนเอ่ยตลอดทาง กระทั่งจวนจะถึงเรือนพักของหลงจ่านซินแล้ว นางจึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ “ฮูหยิน ห

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 224

    ครึ่งคืนฮุ่ยอวิ่นถีบประตูห้องของจ่านเหยียนแล้วหิ้วนางขึ้นมา“เร็ว ฉิงเทียนเริ่มทรมานอีกแล้ว!” ฮุ่ยอวิ่นร้อนใจจนเสียงเปลี่ยน “สองวันก่อนไม่ทรมาน วันนี้เกิดอันใดขึ้น?”จ่านเหยียนขยี้ตา ถูกต้อง ดอกบัวมีขีดจำกัดในการระงับความทรมานได้เพียงสองวัน ยามนี้เลยกำหนดแล้ว“เตรียมน้ำร้อนหนึ่งกา!” จ่านเหยียนคว้าเสื้อผ้าตัวหนึ่งมาคลุมร่างแล้วเดินออกไปข้างนอกในตอนที่มู่หรงฉิงเทียนเริ่มทรมานก็ให้ฮุ่ยอวิ่นมัดเขาติดกับเตียง แรกเริ่มเขายังทนได้ แต่อย่างช้า ๆ ในตอนที่ความทรมานจากมือเท้าและกระดูกทั่วสรรพางค์กายแผ่ซ่าน เขายังอดกัดริมฝีปากไม่ได้ในตอนที่จ่านเหยียนเห็นเขา ปากเขามีแต่เลือด อาซิ่นใช้ผ้าอะไรก็ไม่รู้อุดปากของเขาเอาไว้ฮุ่ยอวิ่นถือกาน้ำร้อนเดินเข้ามาและถามจ่านเหยียน “ทำอย่างไรดี?”จ่านเหยียนเทน้ำร้อนลงในถ้วย จากนั้นก็ใส่ยาเม็ดหนึ่งลงในนั้น “ป้อนให้เขากินลงไป”“นี่คือสิ่งใด?” ฮุ่ยอวิ่นถาม“ยาระงับปวด” จ่านเหยียนไม่ได้บอกเขาว่านี่คือยันต์โอสถสะกดความเจ็บปวดเฉพาะของนาง ใช้วัตถุดิบยาเป็นกระสายร่วมกับยันต์ยันต์โอสถสะกดความเจ็บปวดเริ่มละลายอยู่ในน้ำร้อนช้า ๆ น้ำร้อนเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต ฮุ่

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 225

    เขาตกใจหันมามองจ่านเหยียนอย่างระแวง จ่านเหยียนหน้าซีดแล้ว นางเอามือกดบั้นเอว เลือดไหลย้อยลงมาตามตัวนางนองเต็มพื้น ร่างกายซวนเซจะล้มอาเสอปัดมือของฮุ่ยอวิ่น และเอ่ยด้วยโทสะ “พูดอะไรน่ะ? หลีกไปนะ ข้าจะฆ่าไอ้นักพรตชั่วนี่!”ฟางจี้จื่อหัวเราะเสียงเย็น หยิบกระดิ่งสีทองใบหนึ่งมาจากข้างหลัง จังหวะที่อาเสอเห็นพลันใบหน้าถอดสี “กระดิ่งสยบฟ้า?”“ถือว่าเจ้าตาแหลม!” ฟางจี้จื่อแค่นเสียงหัวเราะ “คราวนี้ดูสิว่าพวกเจ้าจะหนีไปไหนได้?”“ท่านนักพรต นี่เกิดอะไรขึ้น?” ฮุ่ยอวิ่นถามฟางจี้จื่ออธิบาย “ความจริงแล้วหลงอู่ก็คือหลงจ่านเหยียน หรือก็คือหมู่โฮ่วฮองไทเฮาองค์ปัจจุบัน นางเป็นปีศาจ ก่อนหน้านี้ที่ยืมวิญญาณมังกรก็เพื่อต่อกรกับนาง ใครจะคิดว่าวิญญาณมังกรจะถูกหลงจ่านเหยียนทำลาย เห็นได้ว่าวิชามารของนางร้ายกาจมาก ข้ารู้ว่านางไม่ระวังเทพโอสถ ดังนั้นจึงให้เทพโอสถทำร้ายนางแบบไม่ทันตั้งตัว เช่นนี้ข้าก็จะสยบนางได้”กล่าวจบก็สั่นกระดิ่งสยบฟ้าในมือ พลางท่อนคาถาในปาก เมื่อเสียงกระดิ่งสยบฟ้าดังขึ้น ราวกับเสียงมารอย่างไรอย่างนั้น กรอกเข้าโสตอาเสอ อาเสอเอามือปิดหู อวัยวะภายในทรมานดังถูกกระแทกแหลกลาญ นางกรีดร้องอย่าง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 226

    ทว่า... รัศมีแสงแต่ละวงจากกระดิ่งสยบฟ้ากระแทกไปทางจ่านเหยียน จ่านเหยียนกลับยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น ความทรมานไม่ปรากฏบนใบหน้านางสักนิดครั้นแล้วนางก็ค่อย ๆ ชูคทามังกรขึ้น เมื่อโบก กระดิ่งสยบฟ้าถูกคทามังกรปัดตกลงพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ หลายชิ้นทันที และพอหลงจ่านเหยียนสะบัดแขนเสื้ออีกที เศษชิ้นส่วนกระดิ่งสยบฟ้าก็ลอยขึ้นและสลายตัวเป็นผงกลางอากาศฟางจี้จื่อตกตะลึงพรึงเพริด เบิกตาโพลงมองคทามังกรในมือนางอย่างเหลือเชื่อ เขาเคยคิดว่านางจะต่อต้าน และเตรียมต่อสู้กับนางหลายร้อยยก แต่... เขาไม่เคยคิดเด็ดขาด กระดิ่งสยบฟ้ากลับสลายเป็นผุยผงเหมือนวิญญาณมังกรด้วยหนึ่งกระบวนท่าของนางนี่คือสิ่งที่เขาไม่มีทางคาดถึง“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ฟางจี้จื่ออ้าปากกว้าง ถามอย่างอึ้งจังงัง ความครั่นคร้ามอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ความครั่นคร้ามเช่นนี้เคยเกิดขึ้นตอนอยู่ในจวนตระกูลหลง นั่นก็คือตอนที่นางทำลายวิญญาณมังกรแต่... เขายืนกรานว่านี่เป็นเพราะนางคือปีศาจซึ่งมีตบะแก่กล้า ดังนั้นเขาจึงอัญเชิญกระดิ่งสยบฟ้า“ข้าเคยบอกแล้ว” จ่านเหยียนเอื้อนเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ “หากเจ้ามองไม่ออกว่าข้าคือใคร นั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 227

    อาเสอกระซิบข้างหูจ่านเหยียน “คุณหนูใหญ่ ตอนนี้กระดิ่งสยบฟ้าส่งเสียงแล้ว กลัวแต่จะมีมารปีศาจไม่น้อยมาเมืองหลวงอย่างต่อเนื่อง ท่านแน่ใจนะว่าจะเหนื่อยตายเอง?”อาเสอเตือนจ่านเหยียน ทันทีที่กระดิ่งสยบฟ้าส่งเสียงปลุกปีศาจที่ถูกสะกด ถึงตอนนั้นหากนางรับมืออยู่คนเดียว นั่นจะเหน็ดเหนื่อยตายได้จริง ๆ โดยเฉพาะเวลานี้นางยังบาดเจ็บนางดึงมือกลับมาฉับพลัน พายุหมุนฝุ่นละอองสลายไปต่อหน้าฟางจี้จื่อ ทันใดนั้นฟางจี้จื่อทรุดตัวลงกับพื้น สองตาเหลือกมองฟ้า ร่างกายกระตุกไม่หยุดเทพโอสถรีบเข้าไปรักษาเขาเหลียนถังเห็นอาเสอพยุงฮุ่ยอวิ่นขึ้นมา นึกว่านางจะทำร้ายฮุ่ยอวิ่น จึงรุดหน้าไปด้วยความร้อนใจ “เจ้าจะทำอะไร?”อาเสอตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้ามาพยุงพาเขาไปพักผ่อน พื้นเย็นเช่นนี้ เขานอนนาน ๆ มิต้องล้มป่วยหรือ? ข้าหวังดีมากนะ”อาเสอส่งฮุ่ยอวิ่นให้เหลียนถัง แต่เหลียนถังเป็นสตรีอ่อนแอคนหนึ่ง จะพยุงฮุ่ยอวิ่นที่ไม่ได้สติไหวอย่างไร ทั้งสองจึงล้มลงกับพื้นด้วยกันเหลียนถังใบหน้าแดงซ่าน ผลักฮุ่ยอวิ่นบนร่างตัวเอง จากนั้นจึงทอดสายตาขอความช่วยเหลือกับอาเสออาเสอฉีกยิ้มแล้วเข้าไปดึงฮุ่ยอวิ่นขึ้น พยุงเขาเดินออกไปข้างนอก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 228

    ฟางจี้จื่อเนื้อตัวอ่อนแรง เขาย่อมรู้ว่าที่จ่านเหยียนกล่าวมาคือความจริง บรรพจารย์ก็เคยกล่าวเช่นนั้น หากไม่วิกฤตจริง ๆ ห้ามแตะต้องกระดิ่งสยบฟ้าเด็ดขาด“จะบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้าคือใครกันแน่?” ฟางจี้จื่อเงยหน้าถามจ่านเหยียนโยนคทามังกรในมือออกไป “เก็บขึ้นมา มันจะบอกเจ้า!”ฟางจี้จื่อมองคทามังกรที่นอนอยู่บนพื้น นี่คือคทาหยกยาวที่ดูไม่มีอะไรพิเศษด้ามหนึ่ง บนนั้นแกะสลักอักขระสวัสติกะ เขายื่นมือออกไป ยังไม่ทันสัมผัสคทามังกรก็รู้สึกฝ่ามือเย็นเฉียบแล้วเขาข่มใจ ครั้นมือหนึ่งกำไปก็มีกระแสไฟแล่นผ่านฝ่ามือไปยังมือเท้าและกระดูกทั่วสรรพางค์กายทันที กระแสไฟทะลวงความสับสนทั้งมวลของเขา สติสัมปชัญญะแจ่มชัดอย่างหาที่เปรียบมิได้ทันใดเขาปล่อยคทามังกรแล้วหัวเราะอย่างเศร้าสร้อย คุกเข่าลงกับพื้น “ข้ามีตามิรู้เขาไท่ซัน ท่านเซียนโปรดประทานความตายให้ด้วย!”จ่านเหยียนเอ่ยเรียบ “ข้าจะฆ่าเจ้าไปทำไม? กรรมที่เจ้าก่อขึ้น ต้องไปจัดการความวุ่นวายด้วยตัวเอง”ฟางจี้จื่อเข้าใจว่านางหมายถึงอะไร จึงเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าจะสะกดมารปีศาจทั้งหมดอีกครั้งอย่างสุดความสามารถ”“พาลูกศิษย์ของเจ้าไสหัวไปเถอะ!” จ่านเหยียนเอ่ยอย่

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 229

    “ไปกันเถอะ หลวงจีนน้อย เจ้าออกจวนไปกับศิษย์เจ้าก่อน ข้าจะไปบอกท่านอ๋องสักคำ!” จ่านเหยียนรู้สึกอ่อนล้านัก เพิ่งอยู่สบายได้แค่ไม่กี่วันก็ต้องใช้แรงงานอีกแล้ว“ได้ น้อมส่งท่านเซียน!” พระอาจารย์เป่ากวงขานรับจ่านเหยียนไปยังเรือนของมู่หรงฉิงเทียน มู่หรงฉิงเทียนยังไม่ฟื้นจ่านเหยียนนั่งอยู่ข้างเตียงยลโฉมหลับใหล จำต้องยอมรับ แม้พูดไม่ได้ว่าเค้าโครงหน้าของเขาสมบูรณ์แบบ กลับน่าดึงดูดอย่างยิ่งโดยเฉพาะยามหลับใหล ประกายในดวงตาถูกเก็บซ่อนเอาไว้ เส้นสายดวงหน้าอ่อนโยน ท่าทางไร้พิษภัย“อยากบอกลากับท่านสักหน่อย แต่ในเมื่อท่านไม่ตื่น เช่นนั้นข้าก็บอกลากับท่านตรงนี้แล้วกัน” ไม่รู้เพราะเหตุใด จ่านเหยียนจึงอยากมาอำลา แต่ไม่นานนางก็หาข้ออ้างได้ คือเพราะเขาเคยบอกว่าห้ามนางออกจากจวนเวลานี้นางจะไปแล้ว อย่างไรก็ต้องบอกกล่าวเขาสักคำกระมัง?แม้นางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เหตุใดขนาดสาวใช้ก็บอกแล้วว่ามู่หรงฉิงเทียนยังไม่ฟื้น แต่นางยังดึงดันมาพบสักครั้งให้ได้ยิ่งไม่เข้าใจ ทั้งที่บอกกับฮุ่ยอวิ่นก็ได้เหมือนกัน แต่ก็ยังยืนกรานจะบอกกับเขาบางที... เพราะเขาต่างหากที่เป็นเจ้าของจวนแห่งนี้?“เจ้าจะไปไหน?” เขาลืมตา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 230

    มู่หรงฉิงเทียนนอนลงบนเตียงต่อ หัวใจของเขาไม่เคยเต้นมานานมากแล้ว แต่เริ่มจากเมื่อคืน เขาหวนคิดถึงความรู้สึกใจเต้นแบบนั้นขึ้นมาได้อย่างชัดเจนนับจากพระอาจารย์กวงสือนำวิญญาณมังกรและวิญญาณของเขารวมเข้าด้วยกัน เขามักฝันถึงสตรีนางหนึ่งเขาไม่เคยเห็นโฉมหน้าของนางชัด ทุกครั้งที่เห็น มือของนางจะมือคทาหยกขาวด้ามหนึ่ง ยืนอยู่ท่ามกลางสายลม อาภรณ์ปลิวไสวเขาไม่เคยรู้ว่านางคือใคร และเคยสงสัยว่าสตรีนางนี้จะมีตัวตนจริง ๆ หรือไม่เมื่อคืนเขามิได้หมดสติ หลังจากฮุ่ยอวิ่นออกไป เขาก็ตามไปด้วยเหมือนกันดังนั้น เขาเห็นหลงอู่ถือคทามังกรอยู่ในมือ ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมเช่นเดียวกับภาพในความฝันของเขา แต่... สตรีในฝันอยู่ในอาภรณ์ของสตรี หลงอู่แต่งเป็นบุรุษทว่าเขารู้ดีอยู่แก่ใจ ความจริงหลงอยู่ก็คือหลงจ่านเหยียน คือสตรีขณะนั้นของตกตะลึงพรึงเพริดถึงขีดสุด หลายปีแล้ว ในที่สุดก็มีความรู้สึกหัวใจเต้นเช่นนี้เขามิได้ดูต่อ สำหรับเขา ความตกตะลึงเช่นนี้หมายถึงจังหวะของชีวิตและความฝัน เขาไม่กล้าอยู่ต่อนาน เขากลัวถูกลบความทรงจำนี้เหมือนกับฮุ่ยอวิ่นเขาไม่รู้ว่านางจะไปแห่งหนตำบลใด แต่... เขาตงิดใจว่านางต้องเผชิญหน้าก

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status