แชร์

บทที่ 235

ผู้เขียน: ลิ่วเยว่
“แต่... อาเสอ เรื่องมันผ่านไปหลายปีแล้ว เจ้าควรวางลงแล้ว” จ่านเหยียนกล่าวจริงจัง

อาเสอยิ้ม “ก็ข้าวางลงแล้วมิใช่หรือ? ข้าชอบคุณชายหวังแล้ว”

จ่านเหยียนจ้องนาง แล้วเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่หลงเหลืออยู่อย่างไม่รู้ตัว “งูไม่ควรมีน้ำตา เลือดของงูเย็น เจ้าเย็นเยือกเช่นนี้ดีมาก”

อาเสอยิ้มสวยปนเศร้ารับกับสายลม “นั่นสิ เดิมข้าก็คืองูตัวหนึ่ง เพียงแต่เป็นคนนานเกินไป ได้รับผลกระทบจากคน แต่... ข้าเป็นเช่นนี้เท่านั้น หรือว่าท่านไม่คิดจะมีความรักสักหน?”

จ่านเหยียนมองการฆ่าฟันเบื้องล่างปุยเมฆ ยิ้มอย่างห่วงใยบ้านเมืองประชาชน “เจ้าแน่ใจหรือว่าพูดเรื่องนี้เหมาะสมกับสถานการณ์เช่นนี้แล้ว?”

อาเสอยิ้ม “ไม่เหมาะสมจริง ๆ”

“ฟางจี้จื่อจะแพ้แล้ว!” จ่านเหยียนชี้นิ้ว

อาเสอมองไป ฟางจี้จื่อกำลังต่อสู้กับปีศาจหมาป่า คงเพราะก่อนหน้านี้เสียกำลังและพลังมากเกินไป เวลานี้จึงอ่อนล้าแล้ว

ปีศาจหมาป่ากลับเพิ่งผุดขึ้นมาจากพื้น พลังปีศาจน่าสะพรึง มีตบะพันปี ต่อให้ฟางจี้จื่อมิได้ต่อสู้กับปีศาจมากมายปานนั้นก็มิแน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของปีศาจหมาป่า

เห็นเพียงเอวเขามีเมฆดำกลุ่มหนึ่งกำลังนัวเนียกับเมฆเหลืองกลุ่มหนึ่ง ตรงสุดสายตา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 236

    ปีศาจหมาป่าหัวเราะฮ่า ๆ ดังลั่น ครั้นเหินตัวไปมือหนึ่งก็เสียบเข้าหัวใจของเสวี้ยนจื่อ แล้วออกแรงขยุ้มควักหัวใจออกมาทั้งอย่างนั้น“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ตาย เจ้าคือผีดิบ แต่ข้าแค่อยากรู้ว่าผีดิบที่ไม่มีหัวใจจะอยู่อย่างไร” ปีศาจหมาป่าหัวเราะอย่างดุร้าย หัวใจของเสวี้ยนจื่อลุกไหม้กลายเป็นผงอยู่ในมือของเขาทีละน้อยเสวี้ยนจื่อเจ็บจนตัวยืดตรง จากนั้นก็ชักกระตุก เขาขบฟันกรามแน่น ไม่ยอมส่งเสียงสักแอะ“โอ๊ะ ปากแข็งเสียด้วย” ปีศาจหมาป่าแย้มยิ้มชั่วร้ายต่ำทราม เผยฟันแหลมคมน่ากลัวหลายซี่เขายื่นมือออกไปตรง ๆ อัคคีสองดวงขึ้นร่างกลางฝ่ามือของเขา เปลวไฟสูงขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจากสีเหลือง จากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงและสีดำในท้ายที่สุด“วิชาไฟบรรลัยกัลป์?” จ่านเหยียนอึ้งเล็กน้อย“เหมือนจะเคยได้ยินท่านบอกว่าเป็นวิชาเหมาซัน” อาเสอเอ่ยจ่านเหยียนพยักหน้า “ดูท่าคนที่สะกดเขาจะตายไปพร้อมกับเขาแล้ว คนผู้นั้นใช้ชีวิตสะกดเขา สุดท้าย คนตายแล้ว เขากลับดูดซับแก่นวิญญาณของอีกฝ่าย บัดนี้ขึ้นมาจากใต้พิภพ ใช้ดวงวิญญาณของคนผู้นั้น”“นั่นคือนักพรตเหมาซันที่น่าเคารพ เสียดาย เขาใช้ชีวิตสะกดปีศาจหมาป่า ตอนนี้กลับถูกฟางจี

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 237

    บัดนี้เผชิญหน้ากับฟางจี้จื่อ แม้เขาจะมีวิชาพรตสูงส่งเช่นนี้ สุดท้ายก็เกือบตายอนาถด้วยน้ำมือเขาอยู่ดีหากนางหนูที่ดูเหมือนไร้พิษไร้ภัยตรงหน้า ใช้แค่กระบวนท่าเดียว แค่กระบวนท่าเดียว! เขาก็สิ้นกำลังตอบโต้แล้ว จ่านเหยียนมิได้ตอบเขา มังกรตัวเขื่อนสีทองอร่ามคำรามทีหนึ่งก็กลายเป็นเพลิงโหมไหม้ในพริบตา“อ๊าาา”เสียงหมาป่าโหยหวนดังก้องหุบเขาเป็นพัก ๆ ส่งเสียงออกไปยังสถานที่อันไกลโพ้น อาเสอได้ยินแล้วพลันตัวสั่นหงึกหงักปีศาจหมาป่าวิญญาณแตกสลาย ดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากไฟโหมไหม้นั้น ทั้งหมดล้วนเป็นชีวิตที่ถูกปีศาจหมาป่าดูดวิญญาณเหล่านั้นกลายร่างเป็นคน โค้งคำนับจ่านเหยียนทีหนึ่งก่อนจะสลายตัวลอยออกไป“ม่องเท่งหรือยัง?” อาเสอเดินไปเตะแขนของเสวี้ยนจื่อเบา ๆเสวี้ยนจื่อถูกเผาจนเป็นตอตะโกทั้งตัว เขายังไม่ตาย แต่... เขาทรมาน หลักการนี้เหมือนกับจ่านเหยียนครั้นเขาลืมตาก็อยากจะลุกขึ้น ดวงตามองไปทางฟางจี้จื่อ ฟางจี้จื่อลมหายใจรวยรินแล้ว ฟางจี้จื่อมองจ่านเหยียน ในดวงตามีน้ำตาขุ่นมัว และมีความรู้สึกผิดที่เห็นได้อย่างชัดเจน“ขออภัย...” เขาเปล่งคำนี้ออกมาจากปากไหม้เกรียม ร่างกายสั่นเทาจ่านเห

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 238

    คทามังกรของจ่านเหยียนลอยออกไปหมุนวนอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็กลับถึงมือของจ่านเหยียนอีกครั้งอาเสอมองนางนิ่ง ๆ ฟางจี้จื่อก็มองนางนิ่ง ๆ เหมือนกันเสวี้ยนจื่อลืมตาขึ้น ในดวงตาเจือการวิงวอนจ่านเหยียนถอนหายใจทีหนึ่ง เก็บก้อนหินด้านข้างมาก้อนหนึ่ง แล้วใช้กำลังฝ่ามือขัดจนกลายเป็นรูปหัวใจ ปากก็ว่า “ความจริง...การเป็นคนใจหินไส้เหล็กก็ไม่เลวเหมือนกัน”นางวางก้อนหินเข้าไปในหัวใจของเสวี้ยนจื่อ จากนั้นก็ปิดผนึก ตามด้วยกรีดเลือดจากนิ้วของตัวเองแล้วหยดลงไปหลอมรวมกับหัวใจของเสวี้ยนจื่อเสวี้ยนจื่อรู้สึกเพียงตรงตำแหน่งหัวใจถูกเติมเต็มทันใด และความทรมานบรรเทาลงทีละน้อยฟางจี้จื่อมองภาพนี้ด้วยความอัศจรรย์ใจ เขามิเคยเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน กระทั่งไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น เขาเดินไปประคองเสวี้ยนจื่อและถาม “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”เนื่องจากเลือดหนึ่งหยดของจ่านเหยียน สีเลือดบนใบหน้าของเสวี้ยนจื่อจึงค่อย ๆ กลับมาแดงระเรื่อดังเดิม หนำซ้ำยังแดงยิ่งกว่าเมื่อก่อน เขาเอามือคลำตำแหน่งหัวใจของตัวเอง ตรงนั้นแนบสนิทไม่มีรอยสักนิด ความรู้สึกของเขาผสมปนเปอย่างอธิบายไม่ถูก ซาบซึ้ง ตื่นเต้น...จ่านเหยียนเอ่ย “ในตัวของ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 239

    “ผู้ดูแลเฉิน เมื่อคืนแม่นั่นหนำใจละสิ? เสียดายแพงไปหน่อย มิเช่นนั้นข้าจะได้สนุกด้วยแล้ว” ชายร่างกำยำดื่มสุราชามหนึ่ง แล้วหัวเราะฮ่า ๆ“แพงไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่า!” ผู้ที่กล่าวคือชายหน้าขาวเนียนเหมือนบัณฑิตอายุสามสิบกว่า ใบหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยถ้อยคำที่พวกเขากล่าว อาเสอและจ่านเหยียนได้ยินแล้วสงบราบเรียบ แม้แต่เสวี้ยนจื่อก็ยังไม่รู้สึกอะไร ทว่าฟางจี้จื่อกลับขุ่นเคืองเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา “กลางวันแสก ๆ ก็หยิบยกเรื่องพวกนี้ออกมาพูด ไม่รู้จักอายเสียบ้าง”จ่านเหยียนมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้ายุ่งเกินไปแล้ว การพูดคืออิสระ พวกเขาจะพูดอะไรก็เรื่องของพวกเขา แค่ไม่ทำร้ายคน เจ้าก็มิจำเป็นต้องยุ่ง”ก็จริง หลาย ๆ เรื่อง ที่ควรยุ่งก็ยุ่ง ที่ไม่ควรยุ่งเขาก็ยุ่งฟางจี้จื่อหน้าแดงเล็กน้อย “ถูกต้อง ข้าได้รับการสั่งสอนแล้ว”จ่านเหยียนกลับไม่มีใจจะสั่งสอน กล่าวตามความจริง นางไม่ค่อยชอบให้คนอื่นเคารพนบนอบกับนางเช่นนี้ อย่างกับนางเป็นเทพเซียนสูงส่งที่รับควันธูปจากแดนมนุษย์อย่างนั้นแหละนางคิดแล้วจึงเอ่ย “กินข้าวเถอะ”เสวี้ยนจื่อมิได้ขยับตะเกียบ เขากินของพวกนี้ไม่ได้จ่านเหยียนปราดตามองเขาแวบหนึ่ง “ตอนนี้เจ้ากิน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 240

    หลังจากจ่านเหยียนกินเสร็จก็เดินไปหน้าราวกันของโรงน้ำชาเพื่อแหงนหน้าดูท้องฟ้าไอปีศาจวุ่นวายมาก แผ่ออกไปทุกทิศทุกทาง แต่ก็มีไม่น้อยที่กรูมาทางเมืองหลวงเหมือนกัน “วันนี้ก็ไม่รู้อย่างไรสิน่า มักรู้สึกมีลมเย็นยะเยือกพัดมา เฮ้อ หรือว่าจะอากาศเปลี่ยนแล้ว?” เสี่ยวเอ้อร์พาดผ้าขนหนูไว้ที่ไหล่ เอ่ยกับเสี่ยวเอ้อร์ที่กำลังเช็ดโต๊ะยกจานอยู่ด้านข้างอีกคนหนึ่ง“คงอย่างนั้นกระมัง เวลานี้เพิ่งจะลงต้นกล้า ถ้าฝนตกหนักก็แย่แล้ว” เสี่ยวเอ้อร์เอ่ยอย่างกังวล“ก็นั่นนะสิ บ้านข้าก็เพิ่งลงกล้าเหมือนกัน เมียข้ายังปลูกแตงในนาแน่ะ ถ้าฝนเทลงมา นางต้องยุ่งอีกแล้ว”“น่ารำคาญจริง ๆ!”จ่านเหยียนหันไปมองเสี่ยวเอ้อร์ทั้งสองคนที่กำลังสนทนาสิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือฝนตกต้องตามฤดูกาล อยู่เย็นเป็นสุข แต่ก็เหมือนกับปฏิกิริยาของผีเสื้อ น้ำผึ้งหยดเดียว อากาศ ราชสำนัก ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของพวกเขานางมองไปทางฟางจี้จื่อ ฟางจี้จื่อกำลังมองเสี่ยวเอ้อร์ทั้งสองนิ่ง ๆ เขารู้สึกทรมานใจอย่างพูดไม่ออกหลายปีนี้เขาไม่เคยสงสัยความเชื่อของตัวเอง เพื่อกำจัดปีศาจ เขาสามารถเปลี่ยนแปลงอากาศได้ตามอำเภอใจ อัญเชิญอาวุธวิเศษร้ายกาจอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 241

    ฟางจี้จื่อยิ้มกระดาก “วันนั้นข้าแค่สนใจแต่จะกำจัดผีป่า แม้จะช่วยเขา แต่นั่นคือเขากั่งสูงชัน ข้ากลับไม่เคยคิดว่าเขาจะลงไปอย่างไร? เขารอดมาได้ล้วนเป็นความกรุณาของสวรรค์ ไม่เกี่ยวกับข้าจริง ๆ แม้นข้ามีความเมตตาสักนิด ก็ควรส่งเขาลงเขา”จ่านเหยียนไม่พูด สำหรับฟางจี้จื่อในขณะนั้น การสังหารผีป่าคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง เขายึดการช่วยคนเป็นหลัก แต่ระหว่างนั้นกลับละเลยเจตนารมณ์เดิมและจุดเริ่มต้น นี่คือความผิดที่มนุษย์มักพลาดบ่อย ๆ“ท่านอาจารย์ เป็นท่านที่มอบชีวิตใหม่ให้เขา ท่านรับความซาบซึ้งใจจากเขาได้ขอรับ” เสวี้ยนจื่อทำใจให้ฟางจี้จื่อเสียใจไม่ได้ จึงกล่าวปลอบฟางจี้จื่อไม่สุ้มเสียง ความเชื่อในใจที่ยึดมั่นมานานหลายปีพังทลายในพริบตา นี่สำหรับเขาแล้วคือการโจมตีอย่างหนักทุกคนกลับยอดเขาอีกครั้ง จ่านเหยียนเอ่ย “พวกเราสี่คนแยกย้ายกันไปดักสี่ทิศ ข้าต้องชี้แจงเรื่องหนึ่ง หากพบกับอันตราย ห้ามฝืนรับคนเดียว ต้องขอความช่วยเหลือ”“รับทราบ!” เสวี้ยนจื่อกับอาเสอขานรับจ่านเหยียนมองฟางจี้จื่อแล้วเอ่ยเรียบ “หากเจ้ารู้สึกว่าชาตินี้ตัวเองทำผิดมากมาย เช่นนั้นตอนนี้เจ้าต้องการโอกาสในการชดเชย เจ้าอย่าได้คิดจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 242

    จังหวะที่กระบี่เหรียญทองแดงกำลังจะแทงเข้าหัวใจของเขา จู่ ๆ เขาก็สะดุ้งตื่น เขาต้องวิชาภาพลวงตาเข้าให้แล้วแม้จะเข้าใจวิชาภาพลวงตา แต่เขารู้ว่าตัวเองมิใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจงู ก็วินาทีนั้นเอง เขารู้สึกอ่อนล้าขึ้นมากะทันหัน ให้มันเป็นเช่นนี้เถอะ หลุดพ้นเสียได้ก็ดี มิเช่นนั้น เขามิรู้ว่าจะเผชิญหน้ากับบาปกรรมของตัวเองได้อย่างไรกระบี่เหรียญทองแดงของเขาลังเลเพียงชั่วขณะก็แทงเข้าหัวใจของเขาต่อจ่านเหยียนกำลังจัดการปีศาจคางคกตนหนึ่งอยู่บนเมฆ เหลือบเห็นสถานการณ์ของฟางจี้จื่อโดยบังเอิญ จึงปล่อยคทามังกรพุ่งออกไปกระแทกมือของฟางจี้จื่อด้วยความเดือดดาล และกระบี่เหรียญทองแดงก็ตกลงด้วยเหตุนี้คทามังกรกลายเป็นมังกรยักษ์สีเหลืองทองกลืนกินปีศาจงู เมื่อนั้นไอดำจึงสลายไปจ่านเหยียนใช้อักขระสวัสติกะสะกดปีศาจคางคก แล้วเหาะมาตบหน้าฟางจี้จื่อฉาดหนึ่ง เอ่ยด้วยโทสะ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!”ฟางจี้จื่อใบหน้าหมองหม่น คุกเข่าลง “เหตุใดท่านเซียนต้องช่วยข้าด้วย? ให้ข้าใช้ความตายไถ่โทษเถอะ”จ่านเหยียนชี้ไอดำทั่วท้องฟ้า แล้วตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าตายมันง่าย แต่เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าใครต้องเก็บกวาดผลที่ตามมา? เจ้าบำเ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 243

    ก็เหมือนกับปัจจุบันที่เผชิญหน้ากับศพมากมาย เผชิญหน้ากับครอบครัวเบื้องหลังศพมากมายเหล่านี้ นางเสียใจมากเผ่ามังกรเคยสะกดมารร้ายนอกรีตมากมาย และเคยจองจำราชามารตลอดจนเทพชั่วช้าในคุกวารีไม่น้อย ดังนั้นนางในยามนี้ แม้จะออกปฏิบัติภารกิจเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีหน้าเผชิญหน้ากับผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นวงกว้างเช่นนี้ เพราะนั่นแทบจะเป็นโลกศิวิไลซ์สุขสงบบนแดนดินทว่าบัดนี้นางต้องเผชิญหน้ากับคนมากมายที่ตายเพราะนาง และผู้ที่ตายยังเป็นชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอที่สุดในสามโลกหกวิถี“คุณหนูใหญ่!” อาเสอประคองจ่านเหยียน การห้ำหั่นสองวันนี้อาเสออ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้วเหมือนกัน แต่นางรู้ว่าจ่านเหยียนเหนื่อยยิ่งกว่า เพราะในอักขระสวัสติกะของนางสะกดปีศาจไปแล้วยี่สิบกว่าตน อีกทั้งนางยังบาดเจ็บ“อย่าเสียใจเลยนะ” อาเสอปลอบจ่านเหยียนมองฟางจี้จื่อและเอ่ยเสียงเย็น “นี่ก็คือผลจากความวู่วาม หากเมื่อครู่เจ้าตายก็จะไม่ได้เห็น ต่อจากนี้ยังอาจมีเรื่องมากมายเกิดขึ้น เจ้าไปตายเถอะ ตายแล้วก็จบ ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น และไม่ต้องเผชิญหน้ากับผลกรรมที่ตนก่อ!”ลมพายุหอบมา กระพือฝุ่นดินทลายฟุ้งทั่วฟ้าหลังจากฟ้าผ่าลงมาก็มี

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status