Share

บทที่ 242

Penulis: ลิ่วเยว่
จังหวะที่กระบี่เหรียญทองแดงกำลังจะแทงเข้าหัวใจของเขา จู่ ๆ เขาก็สะดุ้งตื่น เขาต้องวิชาภาพลวงตาเข้าให้แล้ว

แม้จะเข้าใจวิชาภาพลวงตา แต่เขารู้ว่าตัวเองมิใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจงู ก็วินาทีนั้นเอง เขารู้สึกอ่อนล้าขึ้นมากะทันหัน ให้มันเป็นเช่นนี้เถอะ หลุดพ้นเสียได้ก็ดี มิเช่นนั้น เขามิรู้ว่าจะเผชิญหน้ากับบาปกรรมของตัวเองได้อย่างไร

กระบี่เหรียญทองแดงของเขาลังเลเพียงชั่วขณะก็แทงเข้าหัวใจของเขาต่อ

จ่านเหยียนกำลังจัดการปีศาจคางคกตนหนึ่งอยู่บนเมฆ เหลือบเห็นสถานการณ์ของฟางจี้จื่อโดยบังเอิญ จึงปล่อยคทามังกรพุ่งออกไปกระแทกมือของฟางจี้จื่อด้วยความเดือดดาล และกระบี่เหรียญทองแดงก็ตกลงด้วยเหตุนี้

คทามังกรกลายเป็นมังกรยักษ์สีเหลืองทองกลืนกินปีศาจงู เมื่อนั้นไอดำจึงสลายไป

จ่านเหยียนใช้อักขระสวัสติกะสะกดปีศาจคางคก แล้วเหาะมาตบหน้าฟางจี้จื่อฉาดหนึ่ง เอ่ยด้วยโทสะ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!”

ฟางจี้จื่อใบหน้าหมองหม่น คุกเข่าลง “เหตุใดท่านเซียนต้องช่วยข้าด้วย? ให้ข้าใช้ความตายไถ่โทษเถอะ”

จ่านเหยียนชี้ไอดำทั่วท้องฟ้า แล้วตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าตายมันง่าย แต่เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าใครต้องเก็บกวาดผลที่ตามมา? เจ้าบำเ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 243

    ก็เหมือนกับปัจจุบันที่เผชิญหน้ากับศพมากมาย เผชิญหน้ากับครอบครัวเบื้องหลังศพมากมายเหล่านี้ นางเสียใจมากเผ่ามังกรเคยสะกดมารร้ายนอกรีตมากมาย และเคยจองจำราชามารตลอดจนเทพชั่วช้าในคุกวารีไม่น้อย ดังนั้นนางในยามนี้ แม้จะออกปฏิบัติภารกิจเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีหน้าเผชิญหน้ากับผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นวงกว้างเช่นนี้ เพราะนั่นแทบจะเป็นโลกศิวิไลซ์สุขสงบบนแดนดินทว่าบัดนี้นางต้องเผชิญหน้ากับคนมากมายที่ตายเพราะนาง และผู้ที่ตายยังเป็นชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอที่สุดในสามโลกหกวิถี“คุณหนูใหญ่!” อาเสอประคองจ่านเหยียน การห้ำหั่นสองวันนี้อาเสออ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้วเหมือนกัน แต่นางรู้ว่าจ่านเหยียนเหนื่อยยิ่งกว่า เพราะในอักขระสวัสติกะของนางสะกดปีศาจไปแล้วยี่สิบกว่าตน อีกทั้งนางยังบาดเจ็บ“อย่าเสียใจเลยนะ” อาเสอปลอบจ่านเหยียนมองฟางจี้จื่อและเอ่ยเสียงเย็น “นี่ก็คือผลจากความวู่วาม หากเมื่อครู่เจ้าตายก็จะไม่ได้เห็น ต่อจากนี้ยังอาจมีเรื่องมากมายเกิดขึ้น เจ้าไปตายเถอะ ตายแล้วก็จบ ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น และไม่ต้องเผชิญหน้ากับผลกรรมที่ตนก่อ!”ลมพายุหอบมา กระพือฝุ่นดินทลายฟุ้งทั่วฟ้าหลังจากฟ้าผ่าลงมาก็มี

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 244

    จ่านเหยียนถามฟางจี้จื่อ “ตอนนี้เจ้าจะไปตายอย่างกล้าหาญชาญชัย หรือจะเผชิญหน้ากับเรื่องต่อจากนี้ที่โหดร้ายยิ่งกว่า?”ฟางจี้จื่อนิ่งงันครู่ใหญ่จึงเงยหน้ามองจ่านเหยียน “ทุกอย่าง สุดแล้วแต่ท่านเซียนจะบัญชา”เขาต้องการตามหาดวงวิญญาณทั้งสามสิบแปดดวงกลับคืนมา พวกเขาตายเพราะเขา เขามิอาจปัดความรับผิดชอบได้จ่านเหยียนพยักหน้า เอ่ย “พวกเจ้าสี่คนช่วยคุ้มกันให้ข้า ข้าต้องใช้มหาเวทสวัสติกะสะกดพวกเขาอีกครั้ง ระหว่างนี้ห้ามถูกรบกวนแม้แต่น้อย มิเช่นนั้นมหาเวทสิ้นฤทธิ์ และข้าก็จะบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน”หนีเข้าเมืองหลวงแล้ว นางจึงได้แต่ปล่อยวางลงก่อน จัดการความโกลาหลตรงหน้าแล้วค่อยว่ากัน“รับทราบ!”ลมพายุหมุนหอบสิ่งของนอกโรงน้ำชาขึ้นบนฟ้า จากนั้นก็ทุ่มลงมากระจัดกระจายส่งเสียงดังเปรียะ ๆ ไปทั่ว ต้นหรงร้อยปีต้นหนึ่งถูกถอนรากถอนโคนพัดไปไกลหลายจั้ง ก่อนจะตกทับรถม้าของคณะพ่อค้าที่ผ่านมาคันหนึ่งคณะพ่อค้าเหล่านั้นตายอนาถอยู่ในโรงน้ำชาแล้วจ่านเหยียนร่ายเวทส่งคนไปบนเขาน้ำแข็ง ใช้น้ำแข็งกลบผนึกเอาไว้ รอนางหาดวงวิญญาณกลับมาได้แล้วค่อยร่ายเวทให้พวกเขากลับมามีชีวิตลมพายุพาฝนกระหน่ำมาถึง ปรากฏการณ์ท้องฟ้ามีช่อ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 245

    จ่านเหยียนบอกกับพวกเขา “ตอนทำพิธีอาจทำให้อากาศแปรปรวน วันคืนสลับสับเปลี่ยน แต่ด้วยสีของท้องฟ้าในเวลานี้ ต่อให้วันคืนสลับสับเปลี่ยนก็ไม่เป็นไร พวกเจ้าต้องดูเอาไว้ ห้ามให้ผู้ใดบุกเข้าลานเวทของข้า จำไว้ คน ปีศาจ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็บุกเข้าไปไม่ได้!”“ปีศาจบุกเข้าไปจะเป็นอย่างไรหรือ? เหตุใดคนจึงบุกเข้าไปไม่ได้? คนบุกเข้าไปได้หรือ?” อาเสอถาม“ปีศาจจะดวงวิญญาณสลาย การใช้มหาเวทสวัสติกะในแดนมนุษย์ เป็นการใช้รูปแบบปราการสวรรค์บนโลกมนุษย์ แต่ผู้คุมกฎสามโลกคือคน ธิดามังกรก็คือคน ดังนั้นทันทีที่มีคนบุกเข้ามา ค่ายอาคมจะแตกเพราะพลังวิญญาณของคนผู้นั้นกับข้า และข้าก็จะถูกพลังมังกรแว้งกัด” จ่านเหยียนเอ่ย“ได้ เข้าใจแล้ว!” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ยจ่านเหยียนมองฟางจี้จื่อ คนผู้นี้คือคนที่วางใจไม่ได้ที่สุด ความมุ่งมั่นของเขายังไม่แน่วแน่พอฟางจี้จื่อไม่รอให้นางเอ่ยปากก็กล่าว “ท่านเซียนโปรดวางใจ ข้ารู้ความร้ายแรงของเรื่องนี้ ต้องปกป้องค่ายกลด้วยชีวิตแน่”จ่านเหยียนอื่มเสียงหนึ่ง จากนั้นก็เด็ดใบไม้ลอยขึ้นฟ้าใบไหม้แหวกเมฆดำเป็นช่องหนึ่ง ประกายแสงสีเหลืองสายหนึ่งเปล่งออกมาจากหว่างคิ้วของจ่านเหยียน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 246

    กลางดึก ฝนยังโปรยปรายอย่างต่อเนื่องดึกดื่นค่อนคืนฮุ่ยอวิ่นผลักประตูของมู่หรงฉิงเทียน “เทียน ลุกเร็ว เกิดเรื่องแล้ว เขื่อนแตกแล้ว!”มู่หรงฉิงเทียนผุดลุกขึ้นมาจากเตียง “เกิดอะไรขึ้น?”ฮุ่ยอวิ่นตัวชุ่มโชก วาวโรจน์ “ทางน้ำตัน น้ำไม่ลด เอ่อขึ้นมาจนเขื่อนรับไม่ไหวก็เลยแตก”“ลอกทางน้ำนานแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดจึงตันได้?” มู่หรงฉิงเทียนคลุมเสื้อรวบผมแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที“หัวหน้างานเป็นคนของราชครูถง กรมคลังจ่ายเงินไปแล้ว แต่กรมโยธาไม่ทำงานให้ดี” ฮุ่ยอวิ่นตอบด้วยความโกรธโทสะคลั่งปกคลุมดวงตาของมู่หรงฉิงเทียน เขาเอ่ยเสียงหนัก “ไปที่เขื่อนก่อน สั่งทหารไปช่วยภัยพิบัติ ลากตัวทุกคนในกรมคลังและกรมโยธาไปที่เขื่อนให้หมด!”ฝนหนักมาก เทสาดลงมาจากฟ้าเมืองหลวงมีพายุฝนเป็นประจำ เคยน้ำท่วมต่อหลายครั้ง ดังนั้นเรื่องแรกหลังจากมู่หรงฉิงเทียนขึ้นรั้งตำแหน่งก็คือสร้างเขื่อนและลอกทางระบายน้ำ น้ำจากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเลโดยตรง ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงไร หากมิได้เทกระหน่ำสามวันสามคืนจนทำให้มีน้ำหลากจากภูเขา จะไม่ทำให้เขื่อนแตกเด็ดขาดแต่... ยามนี้ฝนตกแค่สองชั่วยามเขื่อนก็พังแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าใช้วัสดุใดในการสร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 247

    ตอนนี้เอง ทหารกองหนุนก็เพิ่งถึงใต้เท้าหลี่ผู้ว่าการเมืองหลวงก็มาถึงแล้วเช่นกัน เขาเปียกปอนไปทั้งตัวเหมือนกับมู่หรงฉิงเทียน ผู้ใต้บังคับบัญชาส่งเสื้อและหมวกกันฝนให้เขา ไม่ขอให้กันฝน ขอเพียงสามารถลืมตาท่ามกลางลมพายุฝนกระหน่ำเช่นนี้ได้ก็พอ“ท่านอ๋อง จะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?” ชั่วขณะใต้เท้าหลี่คิดไม่ออก นับจากเขาดำรงตำแหน่ง นี่คืออุทกภัยร้ายแรงที่สุดในเมืองหลวง“สั่งให้ช่วยคน!” มู่หรงฉิงเทียนบัญชาการทั้งหน้าตาเคร่งเครียด มือหนึ่งลากทหารรักษาการณ์ของเมืองหลวงแล้วสั่งเสียงกร้าว “เร็ว ช่วยได้เท่าไรเท่านั้น เรือไม้ล่ะ? เตรียมแล้วหรือ?!”“เตรียมแล้วพ่ะย่ะค่ะ จะลงน้ำเดี๋ยวนี้!” นายทหารผู้นั้นน่าจะถูกคนเรียกตกใจตื่นจากเตียง แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมเผ้ารุงรัง“ให้ไว!” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยบรรดาทหารลงน้ำช่วยคน น้ำเชี่ยวมาก ช่วยคนมือเปล่าเป็นเรื่องลำบากยิ่ง ดังนั้นจึงลากเชือกป่านหลายเส้นมาที่ชายฝั่ง ด้านหนึ่งมัดกับตะขอเหล็กบนฝั่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ผูกติดกับตัวของทหารเรือไม้ลำน้อยลงน้ำตามลำดับ แล่นไปทางชาวบ้าน“เสนาบดีกรมโยธาและเสนาบดีกรมคลังอยู่ที่ไหน?!” มู่หรงฉิงเทียนดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์ ตะคอกก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 248

    บ่าวรับใช้ได้ยินคำพูดของเชียนอวี่แล้วก็หัวเราะเหน็บ การเดินทอดน่องที่แต่เดิมก็ช้าอยู่แล้วหยุดลงกะทันหัน “มีคนตายแล้ว? ใต้หล้านี้มีวันใดบ้างที่ไม่มีคนตาย? ตายก็ถือได้แค่ว่าคนพวกนั้นดวงซวย เกี่ยวอะไรกับใต้เท้าเรา?”เชียนอวี่สะกดความวู่วามที่อยากตบหน้าเขา แล้วเอ่ย “รบกวนรีบไปเร็วเถอะ ท่านอ๋องกำลังรออยู่ที่เขื่อน”บ่าวรับใช้อยู่นั่นแค่นเสียงฮึ “ท่านอ๋อง อ๋องท่านไหน? เมืองหลวงนี้มิใช่อ๋องทุกคนก็เรียกใช้ใต้เท้าเราได้นะ”เชียนอวี่กัดฟันพูด “เซ่อเจิ้งอ๋อง!”บ่าวรับใช้ผู้นั้นผงะ “เซ่อเจิ้งอ๋อง? เซ่อเจิ้งอ๋องเชิญใต้เท้าเรากลางดึกไปทำอะไร?”“ข้าบอกแล้ว แม่น้ำรอบเมืองเขื่อนแตก” เชียนอวี่แทบอดทนถึงที่สุดแล้วหลังจากบ่าวรับใช้ผู้นั้นพิจารณาครู่หนึ่งก็เอ่ยชืด ๆ “รอเถอะ!”เมื่อนั้นบ่าวรับใช้จึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปถงจื่อหยากำลังกอดอนุภรรยานอนหลับฝันหวาน ในเรือนของเขามีภรรยาและอนุภรรยานับสิบคน ย่อมไม่สามารถพักอยู่ในเรือนหลักได้ทั้งหมด จึงซื้อเรือนพักอีกสิบกว่าแห่งให้อนุภรรยาเหล่านั้นอยู่บ่าวรับใช้เดินไปถึงหน้าห้อง อาฟาบ่าวคนสนิทของถงจื่อหยากำลังเข้าเวรนั่งอยู่หน้าระเบียงทางเดินเมื่อเห็นบ่าว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 249

    “แต่... ท่านราชครูก็ยำเกรงเขาอยู่บางส่วน ใต้เท้าว่าควรให้เกียรติเขาหน่อย ไปดูสักหน่อย? เขื่อนแตกครั้งนี้ คาดว่าต้องมีคนตายไม่น้อย” อาฟาเกลี้ยกล่อม “ไปเปยอะไร? ไม่ไป! ข้าไม่ได้ทำให้คนตายสักหน่อย” ถงจื่อหยาไม่พอใจ “เจ้าพาสองคนไปดู เขาอย่างมากก็ไม่พอใจนิดหน่อย จะทำอะไรข้าได้?”อาฟาเห็นว่าเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผล จึงได้แต่รับคำ “ขอรับ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”อาฟาพาผู้ติดตามสองคนออกประตู เชียนอวี่นั่งยองหลบฝนอยู่ด้านหน้า รอจนหงุดหงิดแล้ว เมื่อเห็นประตูเปิดออกจึงผุดลุกขึ้น นางไม่รู้จักถงจื่อหยา นึกว่าอาฟาก็คือถงจื่อหยา จึงเดินไปทำความเคารพ “คำนับใต้เท้าถง”อาฟามองนางแวบหนึ่ง เอ่ย “ใต้เท้าถงไม่สบาย ให้ข้าไปแทน”เชียนอวี่ผงะ “ไม่ทราบท่านคือ?”“มิจำเป็นต้องถาม ไปเถอะ” อาฟาเอ่ยเรียบ“แต่ท่านอ๋องบอกแล้วว่าต้องเชิญใต้เท้าถงไป” เชียนอวี่พลันรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก จึงแสดงอารมณ์โกรธออกมาจากใบหน้า“ใต้เท้าถงก็บอกแล้วว่าให้ข้าไปก็พอ เจ้าเป็นคนมาเชิญกระมัง? มีคนไปก็พอ เจ้าจะเรื่องมากทำไม?”“นี่จะได้อย่างไร? ท่านอ๋องต้องมีเรื่องสำคัญอยากถามใต้เท้าถง...”อาฟาระเบิดอารมณ์ทันที “ข้าว่าเหตุใดเจ้าจึงไม่รู้จั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 250

    เมื่อได้ยินคำพูดของเชียนอวี่ ใต้เท้าหลี่ก็ขมวดคิ้วและเอ่ยด้วยโทสะ “ส่งขี้ข้ามาจะทำอะไรได้?! คนของกรมโยธาล่ะ? คนของกรมโยธาอยู่ที่ไหน? มาแล้วหรือยัง?!”เนื่องจากเมื่อครู่ใต้เท้าหลี่เดินเร็วจึงหกล้มหลายหน ยังไม่ทันได้ทำแผล ใบหน้าจึงมีเลือด ยามนี้บันดาลโทสะ ใบหน้าจึงยิ่งดุดันมีมือปราบเดินมาเอ่ย “ใต้เท้า เสนาบดีกรมโยธาใต้เท้าเฉินป่วยฉับพลันเสียชีวิต เกรงว่าโรคจะแพร่ไปทั้งจวนจึงเผาศพแล้วขอรับ”ใต้เท้าหลี่ผงะ จากนั้นก็แค่นเสียงหัวเราะ “ป่วยฉับพลันเสียชีวิต? ตายแล้วหรือหนีไปแล้ว?”“นี่... ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ” มือปราบเอ่ยใต้เท้าเหลียงรองเสนาบดีกรมคลังมาถึง เขากระหืดกระหอบเอ่ย “ใต้เท้าหลี่ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่? เขื่อนที่เพิ่งสร้างเสร็จบอกจะแตกก็แตกได้อย่างไร?”“ข้าก็อยากถามเรื่องนี้กับท่านอยู่พอดี จากที่ข้ารู้มา กรมคลังกับกรมโยธาตรวจสอบรับด้วยกัน ตอนที่ตรวจสอบไม่ได้ดูอย่างละเอียดหรือ?” ใต้เท้าหลี่มองตาขวางและถามใต้เท้าเหลียงยิ้มขม “ใต้เท้าหลี่ก็ใช่จะไม่รู้ ข้าอยู่ในกรมคลังเฉกเช่นอากาศธาตุ ใต้เท้าถงเป็นคนตรวจสอบด้วยตัวเอง ข้าไม่เคยเห็นมีแต่ภาพแบบและการใช้วัสดุด้วยซ้ำ!”“แม่งเอ๊ย

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status