Share

บทที่ 52  

Author: ลิ่วเยว่
หลงจ่านเหยียนเดินตามหรูหัวเข้าไปในตำหนักตามลำพัง ตำหนักชิงหนิงงดงามและหรูหรากว่าตำหนักหรูหลันของนางไปไกลมาก ใช้หยกขาวแทนอิฐ เครื่องใช้ภายในตำหนัก ล้วนทำจากไม้จันทน์ชั้นดี เสากลมสองต้นกลางท้องพระโรงสลักรูปหงส์ทะยานในเกลียวเมฆสายหมอก เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความสง่างามน่าเกรงขามของฮองไทเฮามารดาแห่งแผ่นดิน

หรูหัวนำทางนางเข้าไปยังตำหนักข้าง ภายในตำหนักข้าง ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยฉากบังตาหินอ่อนสี่บานเฟี้ยม ประดับด้วยผ้าม่านสองชั้นห้อยลงมา ผ้าม่านผืนบางสีเหลืองถูกลมม้วนขึ้น เผยให้เห็นมุมเล็ก ๆ สามารถมองเห็นถงไทเฮากำลังเอกเขนกเอนกายอยู่บนตั่งกุ้ยเฟยได้อย่างเลือนราง

“ไทเฮาเพคะ หลงไทเฮาเสด็จมาถึงแล้วเพคะ!” หรูหัวเดินขึ้นไปด้านหน้าก่อนจะค้อมกายลงกล่าวรายงาน

“อือ!” เสียงยานคางแว่วดังมาจากหลังผ้าม่านบาง มุมหนึ่งของผ้าม่านที่ยกขึ้น มีชายกระโปรงสีทองลู่ลงมาข้างตั่ง ชวนให้รู้สึกว่าสูงส่ง…ทรงอำนาจอย่างไร้ใดเปรียบ

ความจริงด้วยกฎระเบียบของพระราชวัง ถงไทเฮาจะต้องคารวะจ่านเหยียน แม้จะไม่คารวะ ทว่าสองคนก็ควรยืนเสมอกันนั่งเสมอกัน นางมิควรเอาแต่เอนกายอยู่ด้านในนั้น แม้แต่ผ้าม่านยังไม่ม้วนขึ้นเสียด้วยซ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 53  

    ถงไทเฮาพลันหยัดกายขึ้นยืน และคว้าแขนของนางเอาไว้ สีหน้ามืดครึ้มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “น้องหญิงไยจึงรีบร้อนนัก? นั่งดื่มชากับข้าก่อนเถิด” แรงบีบมือของนางมีมหาศาล จนปลายเล็บจิกเข้าไปในแขนของจ่านเหยียน จ่านเหยียนพลันขมวดคิ้วขึ้น “ท่านยังมีธุระใดอีก พูดออกมาให้หมดเถิด” ถงไทเฮาหัวเราะเย็น ๆ แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ไยเจ้าจึงรีบร้อนนัก? นั่งคุยเล่นกับข้าก่อนมิได้หรือ?” จ่านเหยียนสะบัดมือของนางออก ก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง “ได้ ท่านอยากคุยเรื่องอะไร?” ถงไทเฮาก็ค่อย ๆ นั่งลงเช่นกัน “น้องหญิงเข้าวังมาถึงวันนี้ คงจะปรับตัวได้แล้วกระมัง?” “ได้แล้ว!” จ่านเหยียนตอบกลับอย่างรวบรัด ถงไทเฮาชี้ปลายนิ้วไปยังน้ำชาในถ้วยซึ่งตั้งอยู่หน้านาง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ “น้ำชานี้ได้ยินว่าเป็นเครื่องบรรณาการมาจากตระกูลชั้นสูง รสชาติเย็นสดชื่น ไฉนน้องหญิงจึงไม่ลองลิ้มรสดูสักครั้ง?” จ่านเหยียนยกน้ำชาขึ้นมา พลางปัดเศษชาออกด้วยความเคยชิน เห็นน้ำชาใสกระจ่าง กลิ่นหอมตลบอบอวล ชาคงจะเป็นชาชั้นดีแน่ หากว่ามิได้เติมสิ่งอื่นใดลงไปด้วย ทว่า นางมีชีวิตมาตั้งกี่ร้อยปีแล้ว ยังมียาสลบแบบใดที่ไม่เค

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 54  

    หน้าประตูตำหนักพลันมีแสงเงาวูบไหว นางกำนัลร่างกำยำสูงใหญ่หลายคนพลันแหวกม่านประตูเข้ามา ยืนตัวตรงอยู่ข้างกายถงไทเฮา ถงไทเฮาหยัดกายขึ้นพลางยิ้มเริงร่า บนดวงพักตร์ที่ปัดผงชาดหนาเตอะเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ นางชี้นิ้วออกไป ปลายเล็บยาวงุ้มไปยังจ่านเหยียน ก่อนจะตรัสกับนางกำนัลว่า “จงไปเตรียมผ้าขาวและสุรายาพิษ ให้หมู่โฮ่วฮองไทเฮา” จ่านเหยียนก้าวเท้าเล็กน้อย ถงไทเฮาคิดว่านางจะวิ่งหนี ก็ตะคอกใส่นางกำนัลด้วยเสียงเหี้ยม “จับตัวนางไว้” นางกำนัลเหล่านั้นรีบรุดไปด้านหน้าอย่างเร็วรี่ คว้าแขนของจ่านเหยียนไว้ และบิดไปด้านหลังอย่างรุนแรง จ่านเหยียนหงุดหงิด กำลังจะบันดาลโทสะแล้ว กลับมีเสียงแจ้งรายงานของขันทีแว่วดังมาจากด้านนอกเสียก่อน “เซ่อเจิ้งอ๋องมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ!” ถงไทเฮาผงะไป ตรัสอย่างร้อนใจว่า “ขวางเซ่อเจิ้งอ๋องไว้” ทันทีที่สิ้นเสียง เซ่อเจิ้งอ๋องก็นำคนเข้ามาถึงด้านในแล้ว เขาสวมอาภรณ์ตัวยาวสีดำปักลายมังกรห้าตัว พร้อมด้วยองครักษ์จำนวนหนึ่งเดินตามมาด้านหลัง จ่านเหยียนเงยหน้าขึ้น ก็เห็นจิ้นหรูกูกูเดินตามหลังกลุ่มองครักษ์ และเข้ามาในตำหนักด้วย จิ้นหรูสืบเท้าสวบ ๆ เดินไปข้างกายจ่านเ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 55  

    วันนี้ก็แค่ละครตลกฉากหนึ่งเท่านั้น มิได้ทำให้นางบาดเจ็บอะไร ขณะเดียวกันก็ยังทำให้เข้าใจถงไทเฮาลึกซึ้งขึ้นอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ บุคคลผู้นี้ช่างโง่เขลาดุจสุกร ความโหดเหี้ยมมีมากพอแล้ว ทว่าคนที่โหดเหี้ยมชั่วร้าย จำเป็นต้องมีสติปัญญาความฉลาดเฉลียวมหาศาลถึงจะลุล่วงไปได้ ทว่าถงไทเฮานั้น ไม่น่าเกรงกลัวเอาเสียเลย จ่านเหยียนยืนอยู่ริมสระบัวในอุทยานหลวง เดือนสี่ของโลกมนุษย์เต็มไปด้วยหมู่มวลบุปผาที่แย้มบาน ดอกไห่ถังดอกทับทิมฝั่งตรงข้ามออกดอกสีแดงสดงดงามบานสะพรั่งเป็นแนว ต้นไม้เขียวขจีตัดกับพวงผกาสีแดงสด ต่างยิ่งเกื้อหนุนกันให้งดงามลงตัว ในสระบัวมีดอกบัวอ่อนเพิ่งโผล่ปลายแหลมขึ้นมา ปกคลุมทั่วทั้งผืนน้ำ และเมื่อสายลมอ่อนพัดมา ตรงช่องว่างระหว่างใบบัว สามารถมองเห็นผิวน้ำขยับไหวเป็นริ้วคลื่นจากสายลม ความวิจิตรตระการตาเช่นนี้ มองแล้วนางยังเผลอเคลิบเคลิ้มล่องลอยไป คนเราเมื่อถึงวัยหนึ่งแล้ว จะเข้าใจได้เองว่า ความจริง แค่ได้ทอดสายตามองทัศนียภาพอย่างเงียบสงบเช่นนี้ ก็นับเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งแล้วเหมือนกัน “ไทเฮาเพคะ ทรงถูกรังแกหรือไม่เพคะ?” จิ้นหรูถามอย่างเป็นกังวล จ่านเหยียนผุดยิ้ม “ม

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 56

    จ่านเหยียนมองตามเงาหลังของเขาด้วยความสงสัย เอ่ยถามจิ้นหรู “คนผู้นี้เขาเป็นคนเย็นชาแบบนี้ตลอดเลยหรือ?”จิ้นหรูเหลือบมองอาซานแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยกับจ่านเหยียน “จริง ๆ แล้วท่านอ๋องเป็นคนปากแข็งใจดี ไทเฮาอย่าได้เข้าใจผิด เขาทำเช่นนี้ ก็เพื่อไทเฮาเองเพคะ”“เขาดูเหมือนจะเคารพท่านมาก” จ่านเหยียนกล่าวด้วยท่าทางครุ่นคิดจิ้นหรูยิ้ม “บ่าวเติบโตมาพร้อมกับฮ่องเต้พระองค์ก่อน จึงสนิทสนมกับท่านอ๋องมากกว่าเล็กน้อย”“ฮ่องเต้พระองค์ก่อนกับเขามีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก่อนใช่หรือไม่?” จ่านเหยียนเอ่ยถาม“ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทรงมีพระชนมายุมากกว่าท่านอ๋องกว่าสิบปี ตอนที่ฮ่องเต้ทรงอภิเษกสมรส ท่านอ๋องยังเป็นเพียงเด็กน้อย พึ่งพาฮ่องเต้พระองค์ก่อนมาก แต่ว่าหลังจากนั้น...” สีหน้าของจิ้นหรูกูกูเศร้าสร้อยเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรต่อถึงแม้นางจะไม่พูด จ่านเหยียนก็เข้าใจแล้ว การแย่งชิงอำนาจในราชวงศ์ ย่อมทำให้ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องและพ่อลูกกลายเป็นเหินห่าง หรือแม้กระทั่งเป็นศัตรูกัน ในระหว่างนั้น คงจะเกิดเรื่องราวมากมายทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอาซานไม่ได้พูดอะไร เดินตามจ่านเหยียนและจิ้นหรูกลับไปยังตำหนักชิงหนิงผู้คน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 57

    “แต่ว่า จะหาบุรุษแบบไหนส่งเข้าวังไป? แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่านางจะชอบหรือไม่ชอบ?” มู่หรงฉิงเทียนรู้สึกว่าที่ฮุ่ยอวิ่นพูดนั้นมีเหตุผล จึงเริ่มคล้อยตามบ้างแล้วฮุ่ยอวิ่นยิ้ม “สตรีล้วนชอบบุรุษรูปงาม เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรื่องนี้ให้ข้าเป็นคนจัดการเถอะ”“อืม!” มู่หรงฉิงเทียนตอบรับในที่สุดสองวันผ่านไป มู่หรงฉิงเทียน เซ่อเจิ้งอ๋องได้ส่งนักดนตรีหลายคนเข้าวัง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อคลายเหงาให้หมู่โฮ่วฮองไทเฮา และให้พวกเขาประจำอยู่ที่ตำหนักหรูหลานการกระทำของเซ่อเจิ้งอ๋องในครั้งนี้ ทำให้จ่านเหยียนพอใจเป็นอย่างมาก นางรู้สึกเบื่อจนแทบแย่แล้วจริง ๆ แม้ในยุคปัจจุบันนางจะเป็นคนติดบ้าน แต่ก็มีคอมพิวเตอร์มีไอแพดไว้คลายเหงา เวลาเบื่อ ๆ ก็ดูหนัง ดูข่าว ท่องเว็บไซต์ อ่านเรื่องราวสัพเพเหระ อ่านเรื่องไร้สาระ เรื่องน่าปวดหัวของชาวบ้าน หรือไม่ก็ขับรถออกไปเที่ยวเล่น ดูนั่นดูนี่ วันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่มาที่นี่ นางก็ไม่ได้ดูหนังมาเป็นเวลานานแล้ว รถคู่ใจคงจอดทิ้งไว้จนฝุ่นจับหนาแล้วนักดนตรีทั้งสี่คนนี้หน้าตาหล่อเหลาเอาการ ชื่อของพวกเขาก็น่าสนใจไม่น้อย เหมย หลาน จวี๋ จู๋ ซึ่งเป็นชื่อของสตรี

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 58

    ตั้งแต่มีนักดนตรีมาอยู่ที่ตำหนักหรูหลาน ก็มีเสียงดนตรีขับกล่อมแทบทุกค่ำคืน โชคดีที่ตำหนักตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างห่างไกล จึงไม่รบกวนใครในบรรดาเหมย หลาน จวี๋ จู๋ มีอยู่คนหนึ่งที่เอาอกเอาใจเป็นพิเศษ และเป็นที่ถูกใจของจ่านเหยียนมาก นั่นก็เหมย ซึ่งเป็นคนที่อยู่ลำดับแรก จ่านเหยียนจึงตั้งชื่อให้เขาว่าต้าเหมยจ่านเหยียนมักจะเรียกเขาให้มาบรรเลงดนตรีเกือบทุกคืน ต้าเหมยก็มีความสามารถรอบด้าน เป่าขลุ่ยก็ได้ ดีดพิณก็เป็น ร้องเพลงก็ยังได้ เต้นรำก็เป็น แถมยังเต้นได้ไม่แพ้นางรำเลยทีเดียวในตอนแรก จ่านเหยียนไม่ยอมให้พวกเขาเข้ามาปรนนิบัติในตำหนัก แต่พอนานวันเข้า ต้าเหมยผู้นี้ทำให้จ่านเหยียนยอมแหกกฎเพื่อเขา แถมยังเรียกเขาเข้าไปในตำหนักทุกคืนคนในตำหนักหรูหลานเริ่มซุบซิบนินทา จนในที่สุด คนทั้งวังก็รู้กันหมดว่า หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงโปรดปรานนักดนตรีคนหนึ่ง ฮุ่ยไท่เฟยถึงกับไปฟ้องไทฮองไทเฮา ทว่าไทฮองไทเฮากลับแย้มพระสรวล แล้วโบกพระหัตถ์ “ก็นางเข้าวังมาตั้งแต่ยังอายุน้อย ต้องเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว น่าสงสาร ปล่อยให้นางสนุกสนานไปเถอะ สักพักเดี๋ยวนางก็เลิกราเอง”ไทฮองไทเฮาตรัสเช่นนั้นแล้ว ใครเล่าจะกล้าตำหนิติ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 59

    ดวงตาสีดำขลับของจ่านเหยียนจ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “จริงหรือ? เช่นนั้นก็ต้องลองดูเสียแล้ว”ต้าเหมยค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ดวงตาเป็นประกายดูมีเลศนัย มือทั้งสองข้างลูบไล้ไปบนขาของจ่านเหยียนอย่างแผ่วเบา บีบนวดเบา ๆ ครู่หนึ่ง พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม “หากไทเฮาบรรทมไม่หลับ ก่อนบรรทมสามารถแช่เท้าด้วยน้ำอุ่น จากนั้นให้ข้าช่วยนวดให้ รับรองว่าจะทำให้ไทเฮาเข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนหวาน...”เขาบีบนวดขึ้นไปตามน่องอย่างต่อเนื่อง ตอนแรก แรงที่ใช้นั้นเบาอย่างยิ่ง แต่ค่อย ๆ เพิ่มแรงกดบนปลายนิ้วมากขึ้นปลายนิ้วกดลงบนผ้าไหม ให้ความรู้สึกสบายจนแทบจะเคลิ้มหลับจ่านเหยียนค่อย ๆ หลับตาลง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฝีมือการนวดของเขานั้นสบายมาก ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันทีในขณะที่มือของเขากำลังจะสัมผัสต้นขาของนาง จ่านเหยียนก็ลืมตาขึ้นทันที แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ข้ารู้สึกปวดไหล่มาก เจ้ามานวดให้ข้าหน่อย”แววตาของต้าเหมยฉายแววผิดหวังอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยอมละมือจากหัวเข่า ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พ่ะย่ะค่ะ!”เขาลุกขึ้นอย่างช้า ๆ เดินไปด้านหลังของจ่านเหยียน โน้มตัว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 60

    “ไทเฮา...” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาทีละก้าว “ให้กระหม่อมประคองไทเฮาไปยังแท่นบรรทมดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”คำที่ว่าดีหรือไม่ของเขานั้นเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา จนเกือบจะชิดใบหูของจ่านเหยียน ริมฝีปากของจ่านเหยียนปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ แววตาดูล้ำลึกเล็กน้อย “ออกไปเถิด พรุ่งนี้ข้าจะเรียกเจ้ามาใหม่”“ไทเฮา...” ต้าเหมยยังคงไม่ยอมแพ้ พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง กลับถูกจ่านเหยียนขัดจังหวะ “ข้าไม่ชอบคนที่ไม่เชื่อฟัง”ต้าเหมยจึงจำต้องเก็บซ่อนแววตาที่แสดงความเสน่หาอย่างคลุมเครือเอาไว้ กล่าวด้วยความอาลัยอาวรณ์ “เช่นนั้น ต้าเหมยทูลลา ไทเฮาทรงหลับฝันดีพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากต้าเหมยออกไปแล้ว จิ้นหรูก็รีบวิ่งเข้ามา เห็นจ่านเหยียนแต่งกายไม่เรียบร้อย ก็รีบจัดแจงให้นาง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิ “เมื่อครู่เขาได้ล่วงเกินไทเฮาหรือไม่เพคะ?”จ่านเหยียนมองสีหน้าร้อนรนของจิ้นหรู ก็อดหัวเราะไม่ได้ “เขาจะกล้าล่วงเกินข้าผู้ชราได้อย่างไร? ข้าผู้ชราให้เขาเข้ามาปรนนิบัติในตำหนัก ก็แค่ต้องการให้คนบางคนสบายใจเท่านั้น”จิ้นหรูเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ไทเฮาต้องการให้ใครสบายใจหรือเพคะ?”“เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เด็กหนุ

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status