LOGINเฟยเถานางก็คิดว่าตระกูลหูคงมาเกี่ยวกับเรื่องเงินที่นางมอบให้หูเจี้ยนไป เพียงแต่เมื่อครู่ เจียวเหออยู่ในเรือนของนาง นางจึงตกใจไม่น้อย
“ข้าก็คิดว่าเรื่องใด ที่ผ่านมาพี่เจี้ยนดีกับข้าไม่น้อย เขาคงแอบนำข้าวสารมาให้ข้าโดยที่พวกท่านไม่เคยรู้มาก่อน พอข้ามีเงินย่อมต้องแบ่งปันเขา”
“พวกข้ารู้ ข้าวสาร เนื้อ หายไปจากเรือน จะไม่มีผู้ใดรู้กัน” ป้าหูกับสะใภ้ใหญ่ของนางเอ่ยออกมาพร้อมกัน
“แต่มันมากเกินไป พวกข้ารับเอาไว้ไม่ได้” ลุงหูส่งตั๋วเงินคืนที่เหลือคืนให้เฟยเถา
“ไม่มากหรอกเจ้าค่ะ พี่เจี้ยนเองก็รู้ว่าข้าขายได้มากเพียงใด พวกท่านสมควรได้รับมัน ขอเพียงพวกท่านไม่บอกเรื่องนี้กับผู้อื่นพอ” นางดันตั๋วเงินคืนกลับไป
“ข้าจะกล้าพูดได้อย่างไร อีกเรื่อง...ในเมื่ออาเจี้ยนพึงใจเจ้ามานานเพียงนี้ เจ้าเองก็เลิกสนใจอาเหอไปแล้ว เช่นนั้นพวกเจ้าแต่งงานกันดีหรือไม่”
เฟยเถาเบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่ก่อนที่นางจะเอ่ยพูดอะไรออกไป เจียวหัวที่หลบอยู่ในห้องนอน ก็เดินออกมาพร้อมกับอุ้มกระต่ายออกมาด้วย
“เห็นจะไม่ได้ขอรับ เถาเถานางเป็นภรรยาของข้า”
“สวรรค์!!! จริงหรือ” ป้าหูร้องออกมาอย่างตกใจ
“อยู่นิ่งๆ ไม่ได้หรือไง” เฟยเถาทำได้เพียงส่งสายตาและตำหนิเขาในใจ
“ข้าเองก็คิดอยู่ว่าเมื่อกลับจากเรือนของเถาเถาแล้วจะไปพบลุงหูที่เรือน ข้ากับเถาเถาไร้บิดามารดา คงต้องรบกวนให้ท่านช่วยออกหน้าเรื่องสู่ขอนางให้ขอรับ”
“เดี๋ยวก่อน ข้าพูดกับท่านเมื่อใดว่าข้าจะแต่ง”
“จะช้าหรือเร็วก็ต้องแต่งอยู่ดี”
“นะ นี่...” ป้าหูมองทั้งสองสลับไปมา
“ข้าบอกท่านแล้วท่านแม่ ท่านไม่เชื่อข้า เถาเถาไม่ใช่ความคิดของข้าเลย ข้าบอกพวกเขาแล้วว่าข้ากับเจ้าไม่อาจแต่งกันได้ แต่ท่านแม่ข้าเห็นข้าวิ่งมาเรือนเจ้าอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ยังซื้อข้าวของกลับมากันมากมาย นางกลัวว่าจะถูกชาวบ้านนินทาให้เจ้าเสียหายได้” หูเจี้ยนยิ้มออกมาอย่างปวดใจ เขารู้เรื่องก่อนหน้าบิดามารดาเสียอีก
“ไม่ใช่ความผิดของท่านพี่เจี้ยน ข้าขอบคุณความหวังดีของพวกท่านทุกคน ข้าเป็นผู้ที่กระทำผิดต่ออาเหอ ข้าวางยากำหนัดเขา และตอนนี้ข้าเองก็นึกเสียใจแล้ว ไม่อยากขวางทางอนาคตของเขา ข้าไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบ หากข้าแต่งงานไม่ได้ ข้าก็จะขออยู่เงียบๆ หวังว่าพวกท่านจะช่วยเก็บความลับของข้าให้ด้วย ขอพื้นที่ให้ข้าอยู่หายใจได้ก็พอ”
ภายในห้องโถงเรือนแคบ ๆ ของเฟยเถาเกิดความเงียบขึ้นมาทันที หลังจากที่นางพูดจบ ทุกคนต่างตกตะลึงที่เฟยเถาใจกล้าถึงขั้นวางยากำหนัดเจียวเหอ และนางก็ยอมปล่อยเขาไปเพื่ออนาคตของเขา
“สิ่งที่เจ้าพูดออกมา ไม่มีทางหลุดออกจากปากคนตระกูลหูเด็ดขาด ข้ารับรองกับเจ้าเอง ส่วนเรื่องของพวกเจ้า พูดคุยกันให้เรียบร้อย หากจะให้ข้าออกหน้าเรื่องสู่ขอ ข้าก็จะจัดการให้”
“ขอบคุณท่านลุงหูมากขอรับ”
“...” เฟยเถานางไม่มีสิ่งใดจะพูดในเมื่อนางพูดไปหมดแล้ว
ตระกูลหูกลับออกไปโดยที่สติไม่อยู่กับตัว ภายในเรือนจึงเหลือเพียงเฟยเถาและเจียวเหอเท่านั้น
“ท่านกลับไปได้แล้ว ข้าอยากจะพักผ่อน” นางเหนื่อยมาทั้งวัน จึงไม่อยากจะโต้เถียงกับเขาแล้ว
“ข้าจะไปพูดคุยเรื่องแม่สื่อ เจ้ารออยู่ที่เรือนก็พอ”
“อาเหอ ท่านไปเมืองหลวงเพียงลำพังก่อนเถิด ท่านต้องการเป็นขุนนาง หากพาข้าไปด้วยตั้งแต่แรก จะกลายเป็นภาระให้ท่านได้ วันใดที่ท่านได้เป็นขุนนางสมใจ แล้วยังอยากจะรับผิดชอบตัวข้า ท่านค่อยกลับมารับข้า แต่หากท่านเปลี่ยนใจ ท่านบอกข้าได้ทุกเมื่อ”
“หากมีวันที่ข้าเปลี่ยนใจจริง เจ้าก็ยังเป็นภรรยาเอกของข้าอยู่ดี”
“หึหึ ความต้องการของข้าสูงนัก ข้าไม่ต้องการเป็นภรรยาเอก ข้าต้องการให้สามีมีข้าเพียงหนึ่งเดียว ข้าคิดดีแล้ว และข้าไม่มีทางเสียใจ”
เจียวเหอมองเข้าไปในดวงตาของเฟยเถา เขาไม่พบความเสแสร้งเช่นเมื่อก่อนที่นางชอบทำ
“เจ้าคิดเช่นที่พูดจริงหรือ” เขาเอ่ยถามอีกครั้งอย่างไม่เชื่อในคำพูดของนาง
“จริง ต่อให้วันหนึ่งท่านกลับมาพร้อมสตรีอีกคน ข้าจะไม่โวยวายหรือเรียกร้องสิ่งใดจากท่านแน่นอน” นางยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ
“ข้าเข้าใจแล้ว” เจียวเหอยอมกลับออกไป
เฟยเถา เริ่มเก็บของเข้าที่อีกครั้ง นางทำอาหารง่ายๆ กินเพื่อจะได้รีบเข้านอนเร็วๆ เงินและของที่ซื้อมาส่วนมากอยู่ภายในมิติ นางจึงไม่กลัวหากจะมีโจรเข้ามาแอบขโมยของในเรือน
วันต่อมา นางตัดชุดชั้นในด้วยตนเอง แต่เสื้อผ้ายุคโบราณนางไม่ถนัดออกแบบจริงๆ ทำได้เพียงร่างแบบและวาดลวดลายที่นางต้องการเตรียมเอาไว้ จะได้จ้างคนในหมู่บ้านให้ช่วยทำให้นาง
“ป้าหู ป้าหู อยู่หรือไม่เจ้าคะ” ชาวบ้านมองมาที่เฟยเถาเป็นตาเดียว
เมื่อนางหอบผ้าติดมือมาด้วยสามพับ หนึ่งในนั้นมีผ้าเนื้อดีราคาหลายสิบตำลึงทอง ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่อาจจะหาซื้อมาใช้ได้
“มาแล้ว ผู้ใดกันเล่า”
ป้าหูเดินมาเปิดประตูให้เฟยเถา พอเห็นว่าเป็นนางถือผ้าพับมาด้วยหลายพับจึงเรียกให้เข้ามาในบ้านก่อน
“เจ้าหอบผ้าพับมากมายไปที่ใด หากจะเอามาให้ข้าไม่ต้องแล้ว อาเจี้ยนซื้อมาก็ไม่รู้จะตัดใส่หมดหรือไม่”
“ข้าจะถามป้าว่าในหมู่บ้าน มีผู้ใดรับตัดชุดหรือไม่ ข้าอยากให้ช่วยตัดให้ข้าเจ้าค่ะ”
“อ้อ...ไม่ต้องไปหาผู้ใด สะใภ้ใหญ่ข้าฝีมือนางดีไม่น้อย ให้นางช่วยก็ได้ เจ้าจะได้ไม่ต้องไปจ้างให้เสียเงินทอง”
“เอ่อ...แต่ว่า คนทำงานก็ต้องได้รับค่าแรงเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้น เจ้าคุยกับนางเอง”
ป้าหู ร้องเรียกลูกสะใภ้ของตน ที่กำลังดูลูกคนเล็กอยู่ภายในเรือน
“อาเถาอยากให้เจ้าช่วยตัดชุดให้”
“ได้ ข้าเองก็ไม่ได้ทำอันใด นอกจากเลี้ยงลูกอยู่เรือน” ในตอนนี้ตระกูลหูได้เงินจากเฟยเถามาถึงหนึ่งพันตำลึงทอง งานในไร่นางเองก็ไม่ต้องไปทำ พ่อสามีล้วนแต่จ้างชาวบ้านให้มาช่วยทำแทนนางที่มีลูกเล็ก
“นี่เจ้าค่ะ ท่านพอจะตัดและปักตามแบบที่ข้าร่างมาได้หรือไม่”
“อาเถา เจ้าร่างแบบเองหรือ งามนัก...หากตัดออกมาใส่ไม่รู้จะงามเช่นใด หากเจ้าเปิดร้านข้าว่าต้องขายดีอย่างแน่นอน”
“หากท่านอยากทำการค้า แบบที่ข้าวาดข้ายกให้ แต่ให้ข้าทำเองเห็นจะไม่ถนัดเจ้าค่ะ”
“จะ เจ้าพูดจริงหรือ เจ้ายกแบบให้ข้าจริงหรือ” เมื่อคืนพ่อสามีเพิ่งจะพูดอยู่ ว่าอยากนำเงินที่ได้มาไปลงทุนทำการค้า
“เจ้าค่ะ แต่ท่านต้องตัดให้ข้าก่อน” เฟยเถาส่งผ้าที่นางนำมาให้สะใภ้ใหญ่บ้านหูช่วยดู
สตรีทั้งสองพูดคุยกันเรื่องแบบผ้า และผ้าที่นำมาควรตัดเย็บแบบไหน จนบุรุษตระกูลหูที่ไปดูที่นากลับมาถึงเรือน
“อาเถา เจ้ามีความรู้มากเพียงนี้ เหตุใดถึงไม่นำออกมาใช้ตั้งแต่แรก” ลุงหูเอ่ยถามอย่างแปลกใจ หากนำความสามารถที่มีมาใช้ตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องลำบากมานานหลายปี
“ข้าไม่รู้จะไปปรึกษาผู้ใด พวกท่านก็รู้ในหมู่บ้านมีผู้ใดชอบข้าเสียที่ไหน” เฟยเถายิ้มแห้งออกมา
“...” คนตระกูลหู ฟังคำพูดของเฟยเถาก็ละอายใจ ยังดีที่หูเจี้ยนไม่ฟังคำเตือนของครอบครัวและคนในหมู่บ้าน เฟยเถาจึงได้ยื่นไมตรีให้ยามที่นางได้ดี
“พวกท่านหารือเรื่องเปิดร้านกันเถิดเจ้าค่ะ ข้ากลับเรือนก่อน”
“ข้าไปส่ง”
หรูหลิงไม่คิดว่าเพียงแช่น้ำในบ่อมรกตจะทรมานเช่นนี้ นางเคยแช่ตัวในลำธารวิเศษของเฟยเถา แต่ไม่เห็นจะทรมานเช่นที่เป็นอยู่ นางกรีดร้องอยู่สองชั่วยามจึงได้สิ้นความเจ็บปวด“ชอบหรือไม่” ทั้งสองออกมาจากมิติแล้ว หรูหลิงกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของนาง“ผู้อื่นจะไม่สงสัยหรือ”“ยังมองออกว่าเป็นเจ้าเช่นเดิม เพียงแค่งามขึ้นมากกว่าเดิมก็เท่านั้น”“ขอบใจเจ้ามากเถาเถา”“ข้าต้องกลับแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่ เข้ามาอยู่กับเจ้าตามลำพังนานเพียงนี้ ผู้อื่นที่มาเติมสินเดิมให้เจ้าจะตำหนิข้าได้”“ได้ ข้าไปส่ง”ยามที่หรูหลิงเดินออกมาจากเรือนพร้อมกับเฟยเถา บ่าวไพร่ในจวนก็มองนางอย่างตกตะลึง แม้แต่ราชครูสุ่ยและฮูหยินสุ่ยเองก็อดจะสงสัยไม่ได้ เมื่อเฟยเถากลับไปจึงได้เรียกบุตรสาวเข้ามาถาม“เถาเถา นางช่วยให้ข้ากลายเป็นผู้ฝึกตนเจ้าค่ะ”ทั้งสองเข้าใจได้ทันทีว่าผู้ฝึกตนคือสิ่งใด ด้วยซิงเหยี่ยน เจียวเหอและอาซือ คือผู้ฝึกตนที่รบกับแคว้นต้าซ่ง โดยที่ทหารแคว้นต้าฉีไม่ได้ล้มตายเลยสักคนเดียว ผู้คนจึงเริ่มหวั่นเกรงในความสามารถของทั้งสองวันงานมงคล เจียวเหอไปที่ตำหนักขององค์ชายสาม เพื่อมารับเจ้าสาวพร้อมเขา ส
จินเซียน ราวกับว่าวิญญาณของนางกำลังจะถูกดึงออกจากร่างของเฟยเถา นางดิ้นรนอย่างทรมาน เพื่อยื้อให้ตนเองได้ใช้ชีวิตอีกครั้ง“ขะ ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจ ท่านเทพชะตา ท่านต้องให้โอกาสข้า ข้ายังไม่ได้ทำอันใดเลย”“เจ้าทำผิดต่อคำสาบานของเจ้า ข้ายอมให้เจ้าได้แก้ตัว ด้วยเห็นว่าวิญญาณของเจ้าไม่สงบ ในเมื่อนางเข้ามาทำให้โชคชะตาของเจ้าเปลี่ยน ข้าจึงให้เจ้าได้ลองเป็นนาง ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เจ้าคิดหรือไม่ แต่เจ้ากล้าทำให้เด็กบาดเจ็บ...”“ยัง เด็กยังไม่ได้รับบาดเจ็บ ท่านต้องจะพาข้าไปไม่ได้”บุรุษทั้งสามหรี่ตามองนาง เหมือนว่านางกำลังพูดกับสิ่งใดอยู่ แต่พวกเขามองไม่เห็น“จินเซียน ครั้งนี้เด็กไม่บาดเจ็บ แต่ความแค้นในใจเจ้ารุนแรงเกินไป เจ้าคิดจะกำจัดเด็กทั้งสองตั้งแต่แรก ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเด็กทั้งสองเจ้าแตะต้องไม่ได้”“ข้าอยากแตะต้องเสียที่ไหน หากมิใช่ฮูหยินสุ่ยสงสัยในตัวข้า”“เป็นเจ้าที่ทำพลาดไป อย่างไรเจียวเหอก็ไม่มีทางสนใจเจ้า ยอมรับเสีย หมดเวลาของเจ้าแล้ว”“หากข้าอยู่ต่อ เชื่อว่าเขาต้องรักข้ามากกว่านางเป็นแน่”“ไม่ ข้าไม่มีทางรักเจ้า ถังอี้เหนียงไม่ว่าเมื่อก่อนหรือเจ้าในร่างนาง ข้าก็ไม่เคยนึกสนใจเ
ไป๋ไป๋ นำม้าในมิติออกมาเปลี่ยนให้ทั้งสามใช้แทน สัตว์เทพทั้งสามตัว วิ่งได้เร็วราวกับลม ทั้งยังไม่ต้องหยุดพักเพื่อกินอาหาร เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน พวกเขาก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเจียวเหอมุ่งหน้ากลับไปที่จวนทันที ซิงเหยี่ยนไปหาหรูหลิงที่จวนสุ่ยเพื่อสอบถามเรื่องราวจากนางเสียก่อน ซิงเหยี่ยนยังต้องเข้าวังหลวงเพื่อไปรายงานเรื่องที่ชายแดนให้เสด็จพ่อฟัง จึงไม่ได้พาหรูหลิงไปที่จวนตระกูลจางในทันที“ท่านพี่ กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ” จินเซียนในร่างของเฟยเถายิ้มหวานมองเจียวเหอ ที่เข้ามาหานางในห้องอยู่ไฟเจียวเหอ ดินเข้าไปหานางอย่างใจเย็น แม้ใบหน้าจะเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกบอกเขาว่าวิญญาณของนางไม่ใช่เฟยเถา“เป็นเช่นใดบ้าง ดีขึ้นแล้วหรือไม่” เขาเอ่ยถามอย่างเย็นชา“ดีแล้วเจ้าค่ะ ร่างกายข้าฟื้นตัวได้เร็วนัก บ่าวไพร่ก็ไม่ยอมให้ข้าเลี้ยงบุตรชายทั้งสองเลย ท่านพี่ ท่านพาลูกมาหาข้าได้หรือไม่”“ยังไม่ต้อง เจ้าควรจะพักต่อ ข้าจะไปดูลูกเสียก่อน”“แต่ว่า...ข้าคิดถึงท่านยิ่งนัก” นางเดินเข้ามาจะสวมกอดเขา“ร่างกายข้าเปื้อนไปทั้งตัว อย่าเพิ่งเข้าใกล้ข้า”“เจ้าค่ะ เช่นนั้น ข้าจะสั่งให้บ่าวเตรียมน้ำให้ท่านนะเจ้าคะ” นางยิ
เฟยเถาราวกับตัวนางล่องลอยหลุดออกมาจากร่าง นางมองทุกสิ่งในห้องด้วยความตกใจ แม้จะเอ่ยเรียกหรือพูดสิ่งใดก็ไม่มีคนได้ยิน เด็กทารกทั้งสองราวกับรับรู้ความเป็นตายของผู้เป็นมารดา ต่างก็ส่งเสียงร้องแข่งกันราวกับจะขาดใจเจียวเหอก็กอดร่างของเฟยเถาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เขาพร่ำเอ่ยเรียกชื่อของนางหวังให้นางลืมตาขึ้นมามองเขาสักครั้ง“ฟางซื่อ เจ้าแย่งโชคชะตาของข้าไป จะเป็นเช่นใดหากเจ้าได้มองข้าใช้ชีวิตในร่างของเจ้า”“จินเซียน!!!”เฟยเถาหันไปมองด้านข้างของนางอย่างรวดเร็ว ก็เห็นวิญญาณของจินเซียนจ้องมองมาที่นางอย่างโกรธแค้น“อย่าได้คิด” นางเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมา“อืม...เจ้าทนดูเถิดว่าข้า...จะจัดการกับบุตรเจ้าและสามีของเจ้าเช่นใด”“อย่า!!!” เฟยเถากรีดร้องออกมาสุดเสียงดวงตาของนางเบิกกว้างไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นวิญญาณของจินเซียนค่อยๆ ลอยเข้าไปแทนที่อยู่ในร่างของนาง“นายท่าน!!! ปล่อยมือเร็วเข้า ท่านต้องกลับไปแล้ว” ไป๋ไป๋เองก็เห็นเช่นกัน มันใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดดึงร่างของเจียวเหอให้หลุดออกมาจากร่างของเฟยเถาที่นอนอยู่“แม่นางสุ่ย ฝากท่านดูคุณชายน้อยทั้งสองด้วย ในร่างของนายหญิงตอนนี้ไม่ใช่วิญญาณของนาง แต่เป็นจ
ซิงเหยี่ยนฟังเรื่องราวทั้งหมดจากหรูหลิง เขาก็ทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง“หลิงหลิง ข้าไม่คิดจะขึ้นนั่งบัลลังก์ ข้าจะช่วยพี่ใหญ่ให้เขารอดจากเคราะห์ครั้งนี้ เจ้ารอข้าได้หรือไม่ เมื่อกลับมาเมืองหลวง ค่อยเข้าพิธีแต่งงาน” เขากุมมือของนางเอาไว้“ได้ ข้าจะรอท่าน” นางยิ้มออกมาอย่างยินดี นางเองก็ไม่อยากถูกขังอยู่ภายในตำหนักทองคำเช่นกันซิงเหยี่ยนและเจียวเหอ หารือเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดนเหนือร่วมกัน พวกขาที่ยังไม่ทันจะคิดว่าจะออกเดินทางเมื่อใด ชายแดนเหนือก็ส่งข่าวมาแล้วว่า แคว้นต้าซ่งเริ่มมีการเคลื่อนไหว คาดว่าอีกไม่นานจะเกิดสงครามทั้งสองรีบเข้าวังหลวงไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ทันที ซิงเหยี่ยนบอกฮ่องเต้เรื่องที่เขาและเจียวเหอกลายเป็นผู้ฝึกตน ในตอนแรกฮ่องเต้ก็ยังไม่เชื่อ จนเมื่อเห็นพลังปราณที่ซิงเหยี่ยนปล่อยออกมา“เจ้าจะเดินทางไปชายแดนเหนือเช่นนั้นหรือ”“เสด็จพ่อ ลูกเป็นห่วงพี่ใหญ่ ให้ลูกไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากมีลูกและจางจอหงวน แคว้นต้าฉีจะไม่มีทางแพ้ให้แคว้นต้าซ่งอย่างแน่นอน”“แล้วงานมงคลของเจ้า” อีกเพียงเดือนเดียวก็จะถึงงานมงคลของซิงเหยี่ยนแล้ว“ลูกเชื่อว่าคุณหนูสุ่ยนางจะเข้าใจ”“ได้ จางจอหงวนถือว่าเป็นงานแรก
จินเซียนที่กำลังเลือกเครื่องประดับ ที่ร้านในอันดับหนึ่งในเมืองส่งมาให้นางเลือกอยู่ เห็นองค์ชายรองเข้ามา นางก็ยิ้มอย่างยินดี เดินไปหาเขา คิดว่าเขาจะมาช่วยนางเลือกเสียงฝ่ามือกระทบลงบนใบหน้าของจินเซียนดังออกไปถึงด้านนอก พวกบ่าวต่างก็พากันถอยห่างไปไกลด้วยความหวาดกลัว“หญิงชั่ว!!! เจ้ารู้เรื่องที่บิดาของเจ้าถูกจับโทษฐานลอบค้าเกลือหรือไม่”“...” จินเซียนจ้องมองเขาอย่างโกรธแค้น นางดูไม่ตกใจในคำถามของเขา และยกยิ้มที่มุมปากอย่างเยาะเย้ย“แล้วพระองค์คิดว่า เจ้าเมืองเล็กๆ เช่นบิดาหม่อมฉัน จะหาเงินมากเพียงนั้นมาให้พระองค์ได้อย่างไรเล่าเพคะ”“เจ้ารู้อยู่แล้วหรือ” ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยโทสะ มือทั้งสองข้างบีบที่ต้นแขนของจินเซียนเอาไว้แน่น“เพคะ พระองค์ก็พูดเองว่าเข้าหาหม่อมฉันเพื่อหวังสมบัติ ในเมื่อได้มาแล้วมิยินดีหรือเพ....โอ๊ยยยย” นางถูกตบไปอีกสองที จนฟุบไปอยู่บนพื้น“สมควรตาย!!! การรับเจ้าเข้าตำหนัก เป็นความคิดโง่เขลาที่สุดสำหรับข้า” เขาเดินไปเตะเข้าที่ท้องนางหนึ่งทีก่อนจะออกไปด้านนอก เพื่อไปจัดการสมบัติทั้งหมดที่ได้มาโดยเร็วจินเซียนนอนงอตัวหัวเราะอยู่ที่พื้น ไม่รู้ว่านางพลาดที่ใด ตั้งแต่เรื่อ







