LOGINเมื่อเห็นว่าเฟยเถาไม่อยากพูดเรื่องในร้านผ้า เจียวเหอจึงเอ่ยถามเรื่องที่นางไปโรงหมอกับหูเจี้ยนขึ้นมา
“เจ้าไปที่โรงหมอเพื่ออันใด หรือว่าเจ้าท้องจริงเช่นที่ป้าเถียนว่า...ผู้ใดเป็นบิดาของเด็กในท้องเจ้า”
“เหอะ...ท่านเสียสติหรือ” นางถลึงตามองเขา ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มจะหันมามองนางแล้ว
งานถนัดของเขาจริงๆ ที่ทำให้นางต้องขายหน้าต่อหน้าผู้อื่น
“ตอบข้ามา”
“จางเจียวเหอ ในท้องข้าจะมีเด็กหรือไม่ หรือผู้ใดเป็นบิดาของเขา มันไม่เกี่ยวกับท่าน” นางเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมา
เสียงของหูเจี้ยนดังขึ้นมาเสียก่อน ที่เจียวเหอจะพูดอะไรออกมา
“เถาเถา ข้ามาแล้ว”
เฟยเถาหันไปจ่ายเงินค่าของว่าง นางเดินไปหาหูเจี้ยนเพื่อช่วยเขายกของขึ้นรถม้า ยังมีอีกหลายร้านที่จ้องแวะไปเอาของ แต่ไม่คิดว่าเจียวเหอจะเดินขึ้นรถม้ามาด้วย
“เจ้าไปเอาเงินมากมายมาซื้อของพวกนี้ได้อย่างไร”
“พี่เจี้ยนซื้อให้” นางตอบแบบไม่ใส่ใจ
“เอ่อ...” หูเจี้ยนคิดจะโต้แย้งแต่ถูกสายตาของเฟยเถาห้ามเอาไว้
“อาเจี้ยนต่อไปเจ้าไม่ต้องวุ่นวายเรื่องของภรรยาข้าแล้ว”
“ห๊ะ!!!/ห๊ะ!!!” เฟยเถาและหูเจี้ยนร้องออกมาพร้อมกัน
“ท่านมันบ้าไปแล้วหรือไง” นางจำได้ว่าเขาเองที่เป็นคนรังเกียจนาง แต่กลับมาพูดต่อหน้าคนอื่นเช่นนี้เพื่ออะไร
“ข้าพูดเรื่องจริง”
“เถาเถา หมายความเช่นใด อาเหอเจ้าพูดอันใดออกมา” หูเจี้ยนใบหน้าซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด
“อย่าไปฟังเขา”
“หรือว่าเจ้าก็เป็นสามีนางอีก...” ฝ่ามือของเฟยเถาตบไปที่ใบหน้าของเจียวเหอเต็มแรง
“ท่านดูถูกข้าเกินไปแล้ว ที่ผ่านมาข้าอาจจะเป็นฝ่ายไร้ยางอายที่วิ่งตามท่านไปทั่ว แต่ตอนนี้ข้าไม่ต้องการแล้ว ท่านเองก็ดูจะต้องการเช่นนี้ เหตุใดยังพูดจาดูแคลนข้าออกมาอีก” ดวงตาของเฟยเถาแดงก่ำไปด้วยความโกรธ
“ขะ ข้า” เจียวเหอนิ่งเงียบไปทันที เขาพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นแววตาเย็นชาของนาง เฟยเถาเดินออกไปนั่งด้านหน้าคู่กับคนบังคับรถม้า หากนางนั่งอยู่ต่อคงได้ทุบตีเจียวเหอแน่
“อาเหอ ถึงแม้ข้าจะชอบเถาเถาเพียงใด แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำให้นางเสื่อมเสีย ข้ามิได้มีความรู้เช่นเจ้า แต่ข้าก็ยังรู้วาจาที่เจ้าพูดออกมาไม่เหมาะสมนัก”
“แล้วพวกเจ้าไปโรงหมอเพื่ออันใด”
“เถาเถานางไม่อยากให้ข้าพูด แต่ในเมื่อเจ้าสงสัยเรื่องนางกับข้า ข้าเองก็จะพูดเพื่อไม่ให้เจ้าเข้าใจผิด”
หูเจี้ยนบอกเรื่องที่เฟยเถานางพบเจอสมุนไพรบนเขาแล้วนำมาขาย แต่ไม่ได้บอกว่านางขายได้มากน้อยเพียงใด
“แล้วเจ้าเป็นสามีของเถาเถาจริงหรือ” หูเจี้ยนเอ่ยถามเสียงสั่น
“อืม ข้าเป็นสามีนาง”
“เมื่อไหร่กัน ได้อย่างไร เหตุใดข้าไม่รู้ หากเจ้าเป็นสามีเถาเถา เหตุใดเถาเถาถึงได้ดูเหมือนรังเกียจเจ้านักเล่า” เขาไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของเจียวเหอ
“เพราะข้าไม่ดีกระมัง” แม้ยามที่รังแกนางบนเตียง เขายังด่าทอนางเสียๆ หายๆ แล้วนางจะไม่นึกรังเกียจเขาได้อย่างไร
ตลอดทางที่กลับหมู่บ้าน เจียวเหอและหูเจี้ยนไม่พูดสิ่งใดกันอีกเลย รถม้าเข้ามาในหมู่บ้านชาวบ้านย่อมแตกตื่น ยิ่งมาหยุดที่เรือนของเฟยเถายิ่งสงสัยไปกันใหญ่ว่านางมากับผู้ใด
พอเห็นว่าเป็นหูเจี้ยนและเจียวเหอที่ลงมาช่วยนางขนของเขาเรือน เสียงนินทาของชาวบ้านก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย เฟยเถานางจะสนใจเพื่ออันใด เมื่อขนของเสร็จนางก็ปิดประตูเรือน ทิ้งให้หูเจี้ยนและเจียวเหอยืนนิ่งอยู่ที่หน้าเรือนของนางทันที
หูเจี้ยนยังต้องนำทางรถม้าไปลงของที่เรือน จึงไม่ได้รั้งอยู่ต่อ มีเพียงเจียวเหอที่รอจนชาวบ้านสลายตัวไปแล้ว เขาก็เริ่มเคาะประตูเรียกเฟยเถาอีกครั้ง
“มีอันใด” นางมองเขาอย่างเย็นชา
“ข้าขอเข้าไปหน่อย”
“พูดตรงนี้เลย”
นางยืนขวางเอาไว้ไม่ให้เจียวหัวเข้าเรือน แต่ถูกเขาดึงแขนแล้วพาเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะปิดประตูลงเพื่อปิดบังสายตาของชาวบ้าน
“จางเจียวเหอ มันจะมากไปแล้วนะ”
“ข้าจะต้องย้ายไปเรียนที่เมืองหลวงในอีกสองเดือนข้างหน้า ก่อนหน้าที่จะไปข้าจะส่งแม่สื่อมาสู่ขอเจ้าให้เรียบร้อย”
“อะ อะไรของท่านกัน ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้อง”
“ต่อให้เรื่องคืนนั้น เป็นแผนการที่เจ้าวางไว้ อย่างไรข้าก็ต้องรับผิดชอบ”
“ข้าพูดกับท่านจากใจจริงของข้าเลยนะ ข้าไม่ต้องการให้ท่านรับผิดชอบ ไม่ว่าตอนนี้หรือภายหน้า ต่อให้ท่านได้เป็นขุนนางตำแหน่งใหญ่โต ก็ไม่ต้องห่วงว่าข้าจะไปเรียกร้องสิ่งใด หากท่านพึงใจในตัวคุณหนูถัง ท่านแต่งกับนางได้อย่างสบายใจ ข้าไม่ขัดขวางแน่นอน”
“ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้าพึงใจในตัวคุณหนูถัง” เขาขมวดคิ้วอย่างมึนงง
“เอ่อ...ก็เจ้าออกหน้าปกป้องนาง” เฟยเถาคิดแก้ตัวได้เพียงแค่เรื่องในวันนี้
“ข้าไม่ได้ปกป้องนาง ที่ผ่านมาสตรีทุกคนที่เจ้าใกล้ก็ล้วนแต่เป็นเจ้าที่เป็นฝ่ายเริ่มทำร้ายพวกนางก่อน ครั้งนี้ข้ายอมรับว่าตัดสินเจ้าโดยไม่เอ่ยถามความก่อน เป็นข้าที่ผิดเอง และข้าก็บอกนางแล้วว่าเจ้าคือภรรยาของข้า”
“ห๊ะ!!! เจ้าไม่กลัวนางเสียใจหรือไง เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ” นั่นนางเอกเลยนะ
“อันใดของเจ้า ก็ข้าบอกแล้วไงว่าข้ากับคุณหนูถังมิได้เป็นอันใดกัน”
“จางเจียวเหอ การตัดสินใจของท่านในวันนี้จะทำให้ท่านนึกเสียใจในภายหลัง เอาเช่นนี้...ท่านเดินทางไปเมืองหลวงเสียก่อน เมื่อท่านได้ตำแหน่งขุนนางอย่างที่หวัง วันนั้นท่านยังนึกถึงข้าอยู่ค่อยหารือกันอีกครั้ง”
ตามเนื้อเรื่องในนิยาย ฟางเฟยเถาถูกทิ้งไว้อยู่ที่หมู่บ้าน หลังจากเจียวเหอได้เป็นขุนนางสมใจ เขาแต่งจินเซียนเป็นภรรยาเอก และส่งคนมารับเฟยเถาไปเป็นอนุ หากจะไม่รับนางไปเป็นอนุก็ไม่ได้ ด้วยเฟยเถาโวยวายให้เจียวเหอเขียนหนังสือสัญญาทิ้งไว้ให้นางก่อนจะเดินทางไปเมืองหลวง
“ไม่ต้อง เจ้าแต่งให้ข้าเลย แล้วย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงกับข้า”
“ใจเย็นๆ ท่านต้องค่อยๆ ไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดีๆ ในเมืองหลวงมีสาวงามล่มเมืองไม่น้อย ท่านอาจจะต้องตาสักคน ถึงวันนั้นท่านจะจัดการข้าเช่นใด สังหารข้าทิ้งให้พ้นทาง หรือโยนให้ข้าไปเป็นอนุ” ทั้งหมดคือสิ่งที่เจียวเหอทำกับฟางเฟยเถาในนิยาย
“เจ้าคิดว่าข้าลุ่มหลงสาวงามเช่นนั้นหรือ”
“ข้าพูดเผื่อเอาไว้ มันเป็นเรื่องดีสำหรับท่านด้วยเห็นหรือไม่ คิดตามข้า...หากมีวันนั้นที่ท่านพบเจอคนที่ท่านชอบจากใจจริง ข้าจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด ท่านเองก็จะได้ไม่มีเชือกมารั้งคอเอาไว้” นางพยายามยกเหตุใดที่ฟังขึ้นมาเอ่ยอ้างกับเขา
แต่เสียงร้องเรียกโวยวายอยู่หน้าเรือน ทำให้การเจรจาของทั้งสองหยุดลงเสียก่อน
“ท่านแอบให้ดีเล่า อย่าได้โผล่ออกมา” นางไม่อยากให้ผู้ใดมาเห็นว่านางอยู่กับเจียวเหอตามลำพังในเรือนของนาง
“อืม” เขาพอจะเข้าใจเรื่องชื่อเสียงของสตรี แต่เฟยเถานางไม่มีชื่อเสียงดีๆ ให้เสียอีกแล้ว
เฟยเถาไปเปิดประตูเรือน ก็เห็นคนตระกูลหูพากันมาที่เรือนของนางกันหมด แม้แต่ผู้นำหมู่บ้านลุงหู บิดาของหูเจี้ยนก็มาด้วยเช่นกัน
“เอ่อ...มากันทำไมเจ้าคะ” นางหันไปมองหูเจี้ยนเพื่อขอคำตอบ
“เข้าไปคุยด้านในก่อนเถิด”
ป้าหูคล่องแขนเฟยเถาอย่างสนิทสนม จนนางเองก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ แต่ก็ยอมพาคนทั้งหมดเข้ามาในเรือน
“อาเจี้ยนบอกเรื่องเงินกับข้าแล้ว เหตุใดเจ้าถึงต้องมอบเงินให้เขามากเพียงนี้” ลุงหูเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย
หูเจี้ยนที่รอเฟยเถาอยู่ในตลาดก็เริ่มจะร้อนใจ เมื่อเห็นว่านางไปซื้อของนานเกินกว่าที่พูดคุยกันเอาไว้ แต่พอจะออกไปตามหานาง ร่างของเฟยเถาและเจียวเหอก็เดินมาด้วยกัน“อาเหอ” เสียงของเขาดูจะผิดหวังเมื่อเห็นเจียวเหอ“อาเจี้ยนเจ้าไม่ดีใจหรือที่เจอข้า” มุมปากของเจียวเหอยกยิ้มแต่ดวงตาของเขาไม่ได้ยิ้มไปด้วยเขายังจำไม่ลืมว่าหูเจี้ยนอยากจะเป็นเจ้าบ่าวแทนเขา แล้วจะให้ยิ้มอย่างจริงใจให้คนที่อยากจะแย่งภรรยาตนได้อย่างไร“กลับกันได้แล้ว”“ประเดี๋ยว ข้าขอไปเอาชุดก่อน”“หากช้า ข้าจะไม่รอ” เฟยเถาขึ้นไปนั่งรออยู่บนรถม้าหูเจี้ยนที่มองส่งเฟยเถาขึ้นรถม้า พอหันมาอีกทีก็ไม่เห็นร่างของเจียวเหอเสียแล้ว เจียวเหอไปรับชุดโดยที่ไม่คิดจะลองสวมใส่ก่อน“ข้าน้อยคิดว่าท่านจะไม่มารับเสียแล้ว” หลงจู๊มองตำหนิเจียวเหอ ที่เขามารับช้าไปถึงสองวัน“พอดีมีเรื่องให้ต้องไปจัดการนิดหน่อย นี่เงินส่วนที่เหลือ”“ท่านจะลองสวมดูก่อนหรือไม่ขอรับ”“ไม่ต้อง”เขาถือห่อผ้าจากไปอย่างเร่งรีบ ทั้งสามออกเดินทางจากเมือง ตะวันก็คล้อยต่ำลงมากแล้ว พอมาถึงหมู่บ้านฟ้าก็มืดสนิท หูเจี้ยนไปส่งเฟยเถาที่เรือนของนางก่อน“อาเจี้ยน ข้าจะไปที่เรือนตระกูลหูด้วย”
เฟยเถา นางออกไปที่เรือนตระกูลหู เพื่อขอให้หูเจี้ยนพานางเข้าเมือง“เจ้าจะเข้าเมืองยามนี้หรือ”“ใช่แล้ว ข้าเห็นว่ายังพอมีเวลา กลับมาคงถึงหมู่บ้านก่อนฟ้าจะมืด”“เจ้าจะไปตามหาอาเหอหรือ”“ข้าจะไปตามหาเขาเพื่ออันใด ข้าจะไปซื้อของเสียหน่อย”“หากเขาไม่กลับมาเล่าเถาเถา เจ้าจะต้องอับอายมากเพียงใด เจ้าลองคิดไต่ตรองดูในสิ่งที่ข้าพูดดีหรือไม่”“พี่เจี้ยน ข้าขอบคุณความหวังดีของท่าน แต่ข้าไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาของท่านจริงๆ ท่านต้องได้สตรีที่ดีกว่าข้าแน่”“เถาเถา อีกไม่กี่ชั่วยามฟ้าจะมืดแล้ว อาเหอคงไม่กลับมาแล้ว เจ้า...”“ไม่กลับก็ดี ท่านคิดว่าข้ารอเขาหรือ” เฟยเถานึกถึงใบหน้าของเจียวเหอนางก็กัดฟันแน่นกดข่มอารมณ์โมโหเอาไว้ “ถ้าเขาไม่กลับมา ข้าก็เพียงแค่หาบุรุษคนใหม่ หาให้รูปงามกว่าเขา ฉลาดกว่าเขา ท่านเห็นเป็นเช่นใด” เฟยเถาเขยิบตาให้หูเจี้ยนอย่างซุกซน“พอเลย เจ้ารอข้าประเดี๋ยว ข้าจะไปเตรียมรถม้า”เฟยเถานางไม่รู้เลยว่าบทสนทนาของนางและหูเจี้ยน ไป๋ไป๋ทำให้ทุกคนที่อยู่ภายในมิติได้ยินจนหมดแล้ว เสียงหัวเราะของไป๋ไป๋ดังก้องไปทั่วห้องโถง ผิดกับใบหน้าของเจียวเหอที่เริ่มจะเขียวคล้ำไม่น่ามอง“ท่านได้ยินชัดหรือไม่
อาซือเห็นท่าทางลังเลของเฟยเถา จึงวางร่างของซิงเหยี่ยนลง แล้วเดินไปคุกเข่าต่อหน้านางอย่างไม่ลังเล“ได้โปรด แม่นางฟาง หากท่านยอมช่วยชีวิตนายท่านของข้า ไม่ว่าสิ่งใดข้ายอมแลกได้ทั้งหมด”“...” เฟยเถาไม่รู้ว่านางจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไร แต่เมื่อนึกถึงน้ำวิเศษที่อยู่ภายในมิติ นางก็เม้มปากแน่นอย่างกังวล“สาบาน เจ้าสาบานกับข้ามา ไม่ว่าเจ้าเห็นสิ่งใด หรือคุณชายหยางตื่นมาเห็นสิ่งใด ห้ามพูดกับผู้ใดเป็นอันขาด” แววตาของเฟยเถาสั่นกลัว“ข้าน้อยสาบานต่อหน้าฟ้าดิน ไม่ว่าพบเจอเรื่องใด จะไม่มีทางหลุดออกจากปากข้าน้อยเด็ดขาด หากผิดจากที่สาบาน ข้าน้อยยอมตายไร้ดินกลบหน้า”เฟยเถาหลับตาลง ก่อนจะถอนหายใจออกมา นางถลึงตามองตัวต้นเรื่องที่พาคนมาหานางถึงเรือน กลับมาแล้วเป็นเช่นนี้ ไม่ควรกลับมาเลยจะดีเสียกว่าเจียวเหอเหมือนจะรู้ความในใจของเฟยเถา เขาเดินไปจับตัวอาซือไว้ เมื่อเฟยเถาจับแขนเจียวเหอ ทั้งหมดก็มาปรากฏตัวภายในมิติของนางแล้ว“ลงไปแช่ในลำธาร” นางชี้มือไปที่ลำธาร“ขอบคุณท่านมากแม่นางฟาง” อาซือรีบเร่งฝีเท้าไปที่ลำธารทันที“เถาเถา ข้ากลับมาแล้ว” เจียวเหอจะเดินเข้ามาสวมกอดนางให้หายคิดถึง แต่ถูกเฟยเถายกมือห้ามเอาไ
สะใภ้ใหญ่บ้านหู กินต่อไม่กี่ลูกก็ยอมปล่อยมืออย่างเสียดาย นางต้องนำไปให้บุตรชายทั้งสองและผู้อาวุโสในเรือนกินก่อน หากเหลือนางถึงจะกินเพิ่มได้ ชีวิตลูกสะใภ้ก็เป็นเช่นนี้พอส่งสะใภ้ใหญ่บ้านหูกลับไปแล้ว เฟยเถานางก็เริ่มทำความสะอาดเรือนด้านในและด้านนอกหนึ่งรอบ แล้วเข้าไปล้างตัวภายในมิติ“ไป๋ไป๋ ข้าอยากลงไปเล่นน้ำในลำธาร เจ้าอยากไปด้วยหรือไม่”“ไม่ขอรับ ข้าไม่อยากเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น”“เหอะ เจ้ากระต่ายน้อย...ทำเหมือนเจ้าไม่เคยเห็นข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าไปได้”“นะ นั่น ตอนนั้น...ข้ายังไม่มีความคิดมากถึงเพียงนี้”“เอาเถิด ข้าเหนียวตัวจะแย่”นางทำความสะอาดเรือน จนเนื้อตัวมีแต่เหงื่อ จึงรีบไปแช่น้ำในลำธารเย็นๆ ให้สบายตัวความเย็นสบายของน้ำในลำธาร ทำให้เฟยเถานางดำผุดดำว่ายอยู่เป็นนานกว่าจะยอมขึ้น“นะ นาย นายหญิง ท่านรีบไปส่องคันฉ่องเร็วขอรับ” ไป๋ไป๋ เห็นเฟยเถาเดินกลับมาที่เรือน มันก็ร้องเสียงดังด้วยความตกใจ“อันใดของเจ้ากัน หรือว่า...ข้าจะงามจนล่มเมืองไปแล้ว” นางหัวเราะเสียงใสอย่างชอบใจแต่เมื่อเฟยเถากลับเข้ามาในห้องนอน นางก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ใบหน้าของนางยังเป็นเช่นเดิม เพียงแต่ดูแปลกตา งดงามขึ
หูเจี้ยนรีบร้อนกลับหมู่บ้าน เมื่อมาถึงเขาไปที่เรือนของเฟยเถา เพื่อนำของที่ซื้อมาไปเก็บ“อาเหอไม่ได้กลับมาด้วยหรือ” เฟยเถาถามอย่างสงสัย“เอ่อ...อาเหอเจอสหาย มีเรื่องที่ต้องสนทนากันจึงให้ข้ากลับมาก่อน”“อ้อ...ไม่ใช่คุณหนูถังกระมัง” เฟยเถาดูจากสีหน้าหนักใจของหูเจี้ยนจึงพูดไปโดยไม่ได้คิดอะไร“จะ เจ้ารู้ได้อย่างไร”“หึหึ ข้าไม่รู้หรอก จะรู้ได้ไง ไม่ได้ไปกับพวกท่านด้วย แต่ดูจากสีหน้าของท่านแล้ว คงจะเป็นคุณหนูถังอย่างแน่นอน”“เหอะ ข้าเตือนเขาแล้ว แต่เขาไม่เชื่อข้า เถาเถา เจ้าอย่าได้เสียใจ อาเหอคงไม่ทำกับเจ้าเช่นนั้นแน่”“ทำอันใด เขาบอกนางหรือว่าจะรับข้าเป็นอนุ”ฝ่าเท้าของหูเจี้ยนถอยหลังโดยไม่รู้ตัว “เจ้ารู้ได้อย่างไร”“ข้าเพียงเย้าท่านเล่น เป็นเรื่องจริงเสียด้วย” นางเพียงแค่เดาไปตามเนื้อเรื่องเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นจริงมันดูเร็วเกินไปทั้งหมด ความสัมพันธ์ของเจียวเหอและจินเซียนจะเกิดขึ้นอย่างแจ่มชัด ก็เมื่อตอนที่เขาเดินทางเข้าเมืองหลวงพร้อมกัน ยิ่งเรื่องที่จะให้นางเป็นอนุ ก็ต้องเป็นหลังจากที่เขาเดินทางกลับมาจากเมืองหลวง มิใช่ตอนนี้“เจ้าอย่าได้เสียใจไปเลย หากเจ้าไม่อยากแต่งแล้ว เจ้าบอกข้าสัก
รุ่งเช้า ทั้งสองกินข้าวเช้าภายในมิติ ก่อนที่จะออกไปด้านนอกด้วยกัน เจียวเหอกำชับให้เฟยเถาอยู่แต่ภายในเรือน“วันนี้ท่านต้องซื้อของเยอะ เอาเงินติดตัวไปหน่อย” เฟยเถายื่นตั๋วเงินห้าสิบตำลึงทองส่งให้เจียวเหอ“เจ้าเก็บไว้เถิด ที่ข้ายังพอมี อีกอย่างว่าใช้จ่ายในงานข้าควรเป็นผู้จัดการ”“รับไว้เถิด อย่างไรข้าก็คงต้องแต่งงานครั้งเดียว ข้าไม่อยากขายหน้า ท่านซื้อชุดแต่งงานด้วยเลย เอาผ้าสีเดียวกับของข้า ท่านจำได้หรือไม่”“ได้” เจียวเหอรับตั๋วเงินมาเก็บไว้ มุมปากของเจียวเหอยกขึ้นอย่างพอใจ เมื่อเฟยเถานางบอกว่า คงแต่งงานเพียงครั้งเดียวจากคำบอกเล่าในชีวิตก่อนของนาง สามีภรรยาที่แต่งงานกันแล้ว หากอยู่ด้วยกันไม่ได้ ต่อให้มีบุตรด้วยกัน ก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต หรือแม้แต่บุรุษกับสตรีที่ยังมิได้แต่งงาน ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน หากอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ต่างก็ไปหาคนใหม่ที่ดูจะมีความสุขมากกว่า นับเป็นเรื่องประหลาดของเขาเหลือเกินเจียวเหอ เดินออกจากเรือนของเฟยเถา ชาวบ้านไม่น้อยที่เห็นเขาต่างก็พากันนินทาอย่างสนุกปาก แต่เจียวเหอเองก็หาได้สนใจไม่ เขาเดินไปที่ตระกูลหูอย่างไม่รีบร้อนตระกูลหูซื้อรถม้าไว้ใช้แล้ว ยาม







