แชร์

ตระกูลกงมาเยือน

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-26 21:42:46

เมื่อสามวันที่แล้ว ตอนที่ตระกูลกงเข้าทาบทาม งานหมั้นหมายของนาง ก็ดูเหมือนเยว่ชิงนางไม่ได้ขัดข้องอันใด แต่มาตอนนี้กลับบอกจะไม่แต่งแล้ว

“หากลูกพูดเรื่องอันใดไป ท่านพ่อจะเชื่อลูกหรือไม่เจ้าคะ” นางรอคำตอบอย่างคาดหวัง

“ย่อมต้องเชื่อเจ้าอยู่แล้ว มีอันใดก็ว่ามาเถิด” เขาลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่

หมอหลิวย่อมต้องเชื่อในคำพูดของเยว่ชิง เพราะเขาเลี้ยงดูนางมาด้วยตนเอง ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่นางไม่เคยพูดหลอกลวงเขาสักครั้ง

“ลูกฝันไม่ดีเจ้าค่ะ มันเหมือนจริงยิ่งนัก” นางไม่กล้าบอกบิดาตามตรงว่านางได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง จึงเล่าทุกสิ่งออกมาเป็นสิ่งที่นางได้ฝันแทน

หมอหลิวมองบุตรสาวอย่างหยอกล้อ เพียงแค่ความฝันถึงกลับทำให้นางมิต้องการต้องเข้าตระกูลกงได้เลยรึ

“ชิงเออร์ สิ่งที่ลูกกังวลเป็นเพียงแค่ความฝัน เจ้าก็เชื่อแล้วรึ”

“ท่านพ่อ ถึงอย่างไรลูกก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ทั้งยังไม่ต้องการแต่งเข้าตระกูลกง หากท่านพ่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดลูกกังวลไปเอง ท่านลองส่งคนไปสืบเรื่อง คุณหนูตู้ ตู้ซิงเยียน ก่อนดีหรือไม่ แล้วเรื่องสัญญาหมั้นหมายค่อยพูดกันอีกครั้ง”

หมอหลิวนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด บุตรสาวของตนทำอะไรมีเหตุผลเสมอ แม้แต่บุตรสาวตระกูลตู้ที่นางไม่เคยพบเจอยังสามารถพูดชื่อออกมาได้ คงต้องมีเรื่องอะไรที่นางไม่อาจบอกกล่าวตรงๆ ได้อย่างแน่นอน

“เช่นนั้นก็ได้ แล้วเรื่องพูดคุยวันนี้เล่า” เขากังวลไม่น้อย เพราะได้นัดหมายกับตระกูลกงไว้แล้ว

“ท่านพ่อปฏิเสธแทนลูกไปก่อนได้หรือไม่ บอกว่าลูกล้มป่วยจนมิอาจลุกจากเตียงได้ แต่ถ้าหากกงหลี่เฉียงจะขอเข้าเยี่ยมลูกท่านพ่อก็เอ่ยห้ามเขาไว้ด้วยนะเจ้าค่ะ ลูกยังมิอยากพบเขา”

หมอหลิวเม้มปากแน่น แม้แต่นามของกงหลี่เฉียง บุตรสาวของตนก็เอ่ยเรียกเขาออกมาเสียเช่นนี้ ทุกครั้งนางจะเรียกพี่เฉียง ยิ่งทำให้เขารู้ว่า คงมิใช่ความฝันธรรมดาแน่นอน

“ได้ พ่อจะออกหน้าแทนเจ้าเอง”

เมื่อรับมื้อเช้าพร้อมบิดาเรียบร้อยแล้ว เยว่ชิงก็กลับไปที่เรือนของนาง เพื่อที่จะแสร้งป่วยเช่นที่คุยกับบิดาไว้ พร้อมทั้งกำชับบ่าวในเรือนว่าอย่าได้ปล่อยให้ผู้ใดเข้ามาเด็ดขาด

หมอหลิวเมื่อส่งบุตรสาวกลับเรือนไปแล้ว ตัวเขาก็เร่งพ่อบ้านให้ส่งคนไปสืบเรื่องของบุตรสาวตระกูลตู้ทันที เพราะต้องการรู้ว่ามีความสัมพันธ์กับกงหลี่เฉียงอย่างที่เยว่ชิงนางเอ่ยหรือไม่

เขาพอจะรู้มาบ้าง ว่าตระกูลตู้คือตระกูลบ้านเดิมของมารดากงหลี่เฉียง หากพวกเขาจะไปมาหาสู่กันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากเป็นตามที่บุตรสาวเล่าว่าต่อไปนางจะเข้ามาเป็นฮูหยินรองของกงหลี่เฉียง เขาก็ต้องการที่จะสืบให้รู้ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่

พ่อบ้านวิ่งหน้าตั้งมาหาหมอหลิวที่อยู่ในห้องโถง “นายท่าน ตระกูลกงมากันแล้วขอรับ” เขายืนรอรับคำสั่ง เพราะจากเรื่องที่หมอหลิวสั่งเขาเมื่อครู่ จึงไม่รู้ว่าสมควรให้พวกเขาเข้ามาในจวนหรือไม่

“ไปเชิญเข้ามาเถิด” หมอหลิวสะบัดชายเสื้อแล้วนั่งลงรออย่างใจเย็น

กงหลี่เฉียงมาพร้อมกับผู้เป็นบิดาและมารดา ทั้งสามทักทายหมอหลิว ก่อนที่จะมองหาเยว่ชิง เมื่อไม่เห็นว่านางอยู่ภายในห้องโถงด้วย

“ชิงชิงเล่าขอรับ” กงหลี่เฉียงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

จะบอกว่านางไม่รู้ว่าเขาจะพาบิดามารดามาแลกเทียบชะตาในวันนี้ก็คงไม่ใช่ แล้วทำไมนางถึงไม่อยู่รอพบเขา

“ชิงเออร์ นางล้มป่วย ตอนนี้ยังมิอาจลุกจากเตียงได้”

เมื่อสิ้นคำหมอหลิว กงหลี่เฉียงก็ลุกขึ้นเตรียมจะเดินไปหานางที่เรือน แต่ก็ถูกหมอหลิวเอ่ยขัดไว้เสียก่อน

“ประเดี๋ยวก่อน เจ้ามิต้องไปเยี่ยมนางหรอก มิเช่นนั้นจะติดไข้จากนางได้”

“แต่ว่า...” กงหลี่เฉียงกำลังจะแย้ง แต่ถูกมารดาของเขาฉุดรั้งให้เขานั่งลงอีกครั้ง

“ทำตามที่ท่านหมอหลิวว่าเถิดอาเฉียง ชิงเออร์นางมิเป็นอันใดมากหรอก มีบิดาเป็นหมอหลวงทั้งคน” นางหันมายิ้มเอาใจท่านหมอหลิว

หากมองดูเผินๆ คงไม่มีผู้ใดสงสัยในคำพูดของนาง แต่เมื่อหมอหลิวได้ฟังเรื่องราวความฝันของบุตรสาวมาแล้ว เขาจึงได้พิจารณานางตู้ซื่ออีกครั้ง

ท่าทีที่ร้อนรนของกงหลี่เฉียง ทำให้เขาคิดไม่ออกว่า เขาจะทำร้ายจิตใจบุตรสาวของตนได้อย่างไร

“อาเฮ่อ เช่นนั้นก็นำเทียบชะตาออกมาแลกกันเถิด” นายท่านกง เอ่ยออกมา

“ข้ากำลังจะแจ้งเรื่องนี้กับเจ้าอยู่พอดี ไว้ให้อาการของชิงเออร์ ดีขึ้นเสียก่อน ค่อยเจรจาเรื่องสัญญาหมั้นหมายเถิด”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร มิใช่ว่าเจรจาจบสิ้นไปแล้วรึ” ตู้ซื่อเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ

หมอหลิวเลิกคิ้วมองนาง จนกงหลี่เฉียงต้องสะกิดเตือนมารดาที่นางพูดจาโผงผางออกไปเช่นนี้

“เอ่อ สตรีผลสั้นหูยาวก็เช่นนี้ เจ้าอย่าได้มีโทสะเลย” นายท่านกงเอ่ยตำหนิภรรยาทันที

แม้แต่ตัวเขายังไม่กล้าทำให้หมอหลิวมีโทสะเลย แล้วนางเป็นเพียงสตรีที่อยู่ในเรือนหลังจะพูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร

ที่นายท่านกงต้องไว้หน้าหมอหลิวอยู่หลายส่วน เพราะหมอหลิวเป็นหมอหลวงที่เป็นที่ไว้พระทัยของฮ่องเต้ แม้แต่เยว่ชิงก็ถูกเรียกตัวเข้าเฝ้าเพื่อตรวจอาการของไทเฮา ฮองเฮาและพระสนมอยู่เสมอ

เรื่องความโปรดปรานไม่ต้องพูดถึง เยว่ชิงเกือบจะได้ถวายตัวเป็นนางสนมในวังตั้งแต่ปักปิ่นแล้ว แต่ด้วยหมอหลิวมิต้องการให้บุตรสาวถูกกักขังอยู่ในวังหลวง ฮ่องเต้ก็ทรงยินยอมอย่างใจกว้าง

“เอาเถิด เรื่องหมั้นหมายค่อยพูดทีหลัง” หมอหลิวโบกมืออย่างไม่ใส่

เมื่อเห็นว่าเรื่องที่มาก็ไม่เรียบร้อย ทั้งยังโดนสามีตำหนิต่อหน้าหมอหลิวอีก ตู้ซื่อจึงไม่เอ่ยอะไรขึ้นมาอีกเลย ระหว่างที่พวกเขาสนทนาเรื่องอื่นกัน

พอออกจากจวนตระกูลหลิวได้ นางก็เลิกปั้นหน้ายิ้มแย้มแล้วเอ่ยตำหนิเยว่ชิงออกมาทันที

“เหอะ นางคิดว่านางสูงศักดิ์มากเพียงใดถึงได้เล่นตัวเช่นนี้”

“ท่านแม่ อย่าได้พูดเช่นนี้ หากผู้อื่นได้ยินเข้า การแต่งงานของข้าเห็นทีจะไม่สำเร็จแล้ว” กงหลี่เฉียงส่ายหัวออกมา

“จริงเช่นที่อาเฉียงว่า หากเจ้ายังปากมากอีก ก็ไม่ต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้” นายท่านกงมองตู้ซื่ออย่างดุดัน

“เพ้ย ท่านคิดว่าข้าอยากจัดการเรื่องงานแต่งของนางอย่างนั้นรึ อาเฉียงแม่บอกเจ้าแล้วว่าให้แต่งกับเยียนเออร์เสียเจ้าก็ไม่เชื่อ” นางเอ่ยออกมาอย่างไม่ยินยอม พร้อมทั้งเอ่ยไปถึงหลานสาวบ้านเดิมของนาง

“ท่านแม่แล้วเยียนเออร์ นางช่วยเรื่องหนี้สินที่จวนเราได้หรือไม่เล่า” กงหลี่เฉียงเริ่มจะไม่พอใจในคำพูดของมารดาบ้างแล้ว

ทั้งๆ ที่นางก็รู้ถึงสภาพในจวน แต่คิดจะดึงดันให้แต่งกับหลานสาวบ้านเดิมของนางอยู่ตลอด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   ตอนจบ

    เสิ้นเจิ้งซี เขาน่าจะหายดีแล้ว แต่กลับบาดเจ็บจนนอนซมเช่นเขา เพียงเท่านี้เว่ยอ๋องก็รู้แล้วว่าสหายของตนคิดเช่นใดกับแม่นางน้อยที่เพิ่งเจอเพราะเรื่องของเยว่ชิงทำให้ซูหนี่นางตกกระไดพลอยโจร ติดตามเว่ยอ๋องและเสิ้นเจิ้งซีเข้าเมืองหลวง หลังจากที่นางรู้ว่าทั้งสองมาสืบเรื่องชนเผ่านอกด่านก็ไม่คิดไล่พวกเขาอีกหลังจากที่เดินทางกลับมาพร้อมพวกเขาทั้งสอง นางได้ติดตามไปหาเยว่ชิงที่อยู่เมืองเจียงซาน จนภายหลังนางได้มาเป็นบุตรสาวบุญธรรมของหมอหลิว ซูหนี่นางมาอยู่ที่โรงหมอฮุ่ยซิว ตรวจคนไข้แทนเยว่ชิงที่กำลังตั้งครรภ์นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเสิ่นเจิ้งซีคิดเช่นใดกับนาง เพียงแต่นางอายุเพิ่งจะสิบเจ็ดหนาวเท่านั้น สำหรับผู้อื่นถือว่าออกเรือนช้า แต่สำหรับนางคิดว่าเร็วไปด้วยซ้ำแต่เมื่อถูกเยว่ชิงนางช่วยพูดให้เสิ่นเจิ้งซีทุกคน จิตใจของนางก็เริ่มสั่นคลอน“หนี่เออร์ เจ้ารู้เรื่องที่ใต้เท้าเสิ่นต้องเดินทางไปประจำการที่เมืองเหอตงแล้วหรือไม่” เยว่ชิงเอ่ยถามซูหนี่เมื่อนางมาเล่นกับหลานชาย“ไม่เจ้าค่ะ” ซูหนี่นางตกใจไม่น้อย เพราะว่านางไม่ได้พบเสิ่นเจิ้งซีมาหลายวันแล้ว“เห็นว่าจะออกเดินทางเร็วๆ นี้” เยว่ชิงลอบสังเกตอาการของซ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   อยู่นิ่งๆ กันไม่เป็นหรือ

    “ดูท่าแล้วสหายของเจ้าคงจะตายในไม่ช้า” นางเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากอกของเขาไม่น้อย ทั้งยังลูกธนูที่ฝังอยู่ในอกของเขาด้วย“แม่นาง เจ้าไปตามหมอมาให้ข้าได้หรือไม่” น้ำเสียงที่เขาเอ่ยกับนางอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด“ข้าเป็นหมอ ยังจะต้องไปตามผู้ใดอีก หากไม่อยากให้สหายของเจ้าตายก็เอาดาบออกไปจากคอข้าเสีย” นางไม่รู้ว่าพวกเขาใช่คนร้ายหรือไม่ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะตัวนางมิอาจสู้พวกเขาได้“อย่าได้คิดเล่นเล่ห์กับข้า” เขาเอ่ยเตือนนางอีกครั้ง“เช่นนั้นเจ้าจะอยู่ท่านี้กับข้าทั้งคืนก็ได้ ข้าไม่ได้เดือดร้อน” นางเอ่ยออกมาอย่างใจเย็นหากเขาจะฆ่านางคงไม่ต่อปากต่อคำกับนางนานเพียงนี้บุรุษด้านหลังของซูหนี่วางดาบลง แล้วเข้าไปดูสหายของเขาทันทีซูหนี่ยืนกอดอกมองอย่างใจเย็น เขาหันมาทางนาง พร้อมทั้งขอร้องให้ช่วย“เจ้าก็พาเขาเข้าไปในเรือนของข้าสิ หรือต้องให้ข้าเข้าไปช่วยอุ้มด้วยอีกคน” นางเลิกคิ้วถามอย่างยียวน เมื่อครู่เอาดาบจ่อคอนางได้ ก็คงจะมีแรงเหลือแบกเพื่อเข้าไปด้านในเมื่อเห็นว่านางคงไม่ช่วย บุรุษผู้นั้นก็แบกร่างของสหายเข้าไปด้านในเรือน ซูหนี่นางจึงเดินตามเขาไป เพื่อช่วยดูอาการของเขา“ถอดเสื้อของเขาออก แล้วเจ้

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   ผู้บุกรุกยามค่ำคืน

    ซูหนี่นำออกมาอีกครั้ง แต่นางไม่ยื่นไปต่อหน้าเขา เปิดออกให้ดูบนมือของนางแทน โสมหัวใหญ่ถูกเปิดออกให้ดูเพียงชั่วครู่เดียวก็ทำให้หลงจู๊ตกตะลึงได้แล้ว“เชิญพวกเจ้าเข้าไปรอในห้องรับรองก่อน ข้าจะไปตามท่านหมอมาประเมินราคาให้” หลงจู๊เรียกเสี่ยวเอ้อให้พาทั้งสามเข้าไปนั่งรอให้ห้องรับรอง“ท่านป้า พี่หลาง อีกครู่พวกท่านเพียงนั่งนิ่งๆ ก็พอเจ้าค่ะ ข้าจะต่อรองเรื่องราคาเอง อย่าได้แสดงสีหน้าอันใดออกมาเด็ดขาด หากพวกท่านไม่อยากได้ราคาที่น้อยลง” ทั้งสองรีบพยักหน้ารับอบย่างเชื่อฟังป้าชงอดมองเด็กสาวตรงหน้าของเขาไม่ได้ นางใจกล้าถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน ตอนที่ต่อรองกับหลงจู๊นางไม่มีท่าทางที่ตื่นกลัวเลยสักนิดทั้งสามนั่งรอเพียงไม่นาน หลงจู๊ก็เดินนำท่านหมอเข้ามาด้านใน“ไหนเจ้าเอามาให้ข้าดูเสียหน่อย” เขาร้องถามอย่างตื่นเต้น หากหลงจู๊ไม่ได้มองผิดไปโสมหัวใหญ่เพียงนั้นย่อมมีราคาไม่น้อยกว่าห้าร้อยปีเป็นแน่ครั้งนี้ซูหนี่นางไม่ได้เล่นตัวแต่อย่างใด นางนำโสมขึ้นมาวางตรงหน้าของท่านหมอ เมื่อเขาได้เห็นก็อุทานออกมาทันที“สวรรค์ โสมพันปี เจ้า เจ้าไปเจอได้อย่างไร”“ท่านจะรับซื้อหรือไม่เจ้าคะ” นางไม่เอ่ยตอบเพราะไม่อยากเ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   เดินเท้าเข้าเมือง

    เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้น บิดาของซูหนี่ได้เข้าขวางกลุ่มชนเผ่านอกด่านไว้ เพื่อให้ทุกคนได้หลบหนี แต่มารดาของนางไม่ยอมทิ้งบิดาแล้วหนีไปเพียงลำพังจึงได้จบชีวิตลงไปด้วยอีกคน“ท่านป้าข้ามีอะไรจะให้ท่านเจ้าค่ะ” ซูหนี่ส่งห่อผ้าที่นางนำมาด้วยให้ป้าชง“สวรรค์ ของดีเช่นนี้ เจ้ามิเก็บไว้เอง” นางร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าด้านในคือสิ่งใด“ข้ามีสองหัวเจ้าค่ะ แบ่งให้ท่านหนึ่งหัว เพื่อขอบคุณท่านที่ดูแลข้ามาเป็นอย่างดี” ซูหนี่นางจึงเล่าเรื่องว่านางพบโสมได้อย่างไรให้ป้าชงฟัง“เด็กดี อย่างน้อยสวรรค์ก็เมตตาเจ้าแล้ว” ซูหนี่ยิ้มไม่ออกร้องไห้ก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าที่นางมาที่นี่เป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายสำหรับนางกันแน่“ข้าจะเข้าไปขายโสมที่เมืองพรุ่งนี้ ท่านป้าจะไปพร้อมข้าหรือไม่”“ไปๆ” เพราะอาหารที่เรือนของนางก็เริ่มจะหมดแล้ว อย่างไรก็ต้องเดินทางเข้าเมืองอยู่ดี“ท่านป้า ทางที่ดีเรื่องโสม ท่านอย่าเพิ่งบอกผู้ใดนะเจ้าคะ” ซูหนี่นางกลัวว่าหากผู้อื่นรู้จะเข้ามาขโมยไปเสีย“ข้าเข้าใจแล้ว”เมื่อพูดคุยกันอีกเพียงไม่กี่ประโยคซูหนี่นางก็ขอตัวกลับเรือน เมื่อมาถึงเรือนนางก็เข้าไปพักในมิติทันทีรุ่งเช้าซูหนี่เก็บข้าวของที

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   แหวนหยกติดตัวมาด้วย

    ด้านหน้าของนาง ที่ใกล้ปากถ้ำ มีต้นโสมอยู่หลายหัว ในตอนแรกนางกลัวว่าตาจะฝาดไป จึงได้เดินเข้ามาดูใกล้ๆ“แล้วจะเก็บยังไง อะไรก็ไม่มีให้ขุด” เมื่อซูหนี่ยื่นมือออกไปที่โสมตรงหน้า ระหว่างที่นางใช้ความคิดว่าจะเอาสิ่งใดมาขุดโสม จึงไม่ได้ทันเห็นว่าโสมนับสิบหัวที่อยู่ในดินเมื่อครู่หายไปหมดแล้ว“เฮ้ยยย” นางร้องออกมาอย่างตกใจ พร้อมทั้งลุกขึ้น แล้วเดินหาว่าโสมหายไปได้อย่างไร นางขยี้ตาอยู่หลายหน พื้นดินตรงหน้าก็ยังว่างเปล่าอยู่เช่นเดิม“โสมของข้า” นางทรุดตัวลง แล้วร้องออกมาเสียงดังอย่างเสียใจแต่แล้วก็มีโสมโผล่ขึ้นมาอยู่ในมือของนางทันที เมื่อนางร้องเรียกโสมเสร็จ“เฮ้ยย” ซูหนี่โยนโสมทิ้งอย่างตกใจ นางก้มลงมองมือของนาง ก็ต้องแปลกใจ ที่เห็นแหวนหยกแบบเดียวกับที่นางได้มาจากร้านขายยาอยู่ที่นิ้วของนาง“คงไม่ใช่มั้ง” นางครุ่นคิด ก่อนจะคลานไปหยิบโสมที่นางโยนทิ้งไปกลับมาอีกครั้งในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้ว และอยากรู้ว่าสิ่งที่คิดไว้มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ซูหนี่จึงได้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เก็บ” นางเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อโสมในมือหายไปทันทีที่นางพูดจบนางทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่คิดไว้

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   เรื่องราวของซูหนี่

    ซูหนี่แพทย์สาว เธอทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลชื่อดังในกรุงปักกิ่ง เพราะชื่อเสียงเรื่องการผ่าตัดของเธอทำให้มีคนไข้มากมายต้องการจะรักษากับเธอ แม้จะต้องรอคิวนับเดือนก็ตาม“หมอไป๋คะ วันนี้มีคิวผ่าตัดสามคิว คุณจะให้ฉันเตรียมห้องผ่าตัดเลยไหม” พยาบาลเดินเข้ามาหาไป๋ซูหนี่ที่ห้องทำงานของเธอเธอยกยิ้มที่มุมปาก เพราะเธอเพิ่งจะเดินทางมาถึง กาแฟสักแก้วก็ยังไม่ได้กิน จะตามให้เธอไปผ่าตัดเลยหรือไง แต่เธอก็ต้องตอบไปว่า“ได้ค่ะ ฉันพร้อมแล้ว”ในแต่ละวันของเธอไม่มีสิ่งใด มากไปกว่าอยู่ที่ห้องผ่าตัดและกลับไปพักที่ห้องพักข้างโรงพยาบาล เหตุผลที่เธอเลือกเรียนหมอ คงเป็นเพราะแม่ของเธอป่วยหนัก เธอที่ได้แต่ยืนมองพยาบาลเข็นแม่เธอเข้าห้องผ่าตัดไปโดยทำอะไรไม่ได้ครั้งนั้นแม่ของเธอไม่ได้ออกมาจากห้องแบบมีลมหายใจ เธอเสียชีวิตเพราะช็อกจากการผ่าตัด ทำให้ซูหนี่ตั้งมั่นไว้แล้วว่าเธอจะต้องเรียนหมอ เพื่อช่วยคนที่ป่วยเหมือนแม่ของเธอนอกจากที่เธอจะเลือกเรียนแพทย์ปัจจุบันแล้ว เธอยังสนใจเรื่องสมุนไพรของแพทย์แผนจีนไม่น้อย หลังจากที่มีเวลาว่างจากเรื่องเรียน เธอจะไปช่วยงานที่ร้านขายยาแผนจีน เพื่อหาความรู้และหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status