หอเซียงเฟย
"จงหมิง มีความเคลื่อนไหวหรือไม่"
"ยังเลยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องหรือว่าสายข่าวของเราจะผิดพลาด"
"รออีกหน่อย"
สุราในเหยือกถูกเทลงจอกแล้วจอกเล่า แต่บุคคลที่เฝ้ารอของท่านอ๋องชิงเย่หานก็ยังไม่ปรากฏตัว โจรชั่วที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองเฉินตูที่เขาพึ่งมารับหน้าที่ปกครองดูแลแทนเสด็จพ่อนั้นตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย หอคณิกาแห่งนี้เป็นที่ที่น่าสงสัยและสายข่าวของเขาแจ้งว่าพวกมันจะนัดพบกันที่นี่คืนนี้
"ปล่อยข้านะ ข้าบอกให้ปล่อย"
"แม่หนู หากเจ้ายังไม่เงียบข้าจะตบปากเจ้า"
"ขอร้องล่ะ ปล่อยข้าไปเถิด ข้าเป็นบุตรของเจ้าเมืองเฉินตู ข้า.."
"โอ๊ย ผู้ใดจะเชื่อเจ้า สภาพตอนพบเจ้าแทบจะไม่มีอะไรอยู่แล้ว นี่หากมิได้แต่งตัวให้เจ้าคงไม่งดงามเช่นนี้หรอก หึ มานี่!! มารับแขก"
"ไม่นะ ได้โปรด"
ประตูด้านหน้าถูกเปิดออกพร้อมกับผู้คุมหอคณิกาที่ลากสตรีคนหนึ่งมาด้วยพร้อมกับผู้คุมอีกสองคนที่ยืนคุมตัวนางเอาไว้
"นี่อะไรกัน"
"นายท่านเจ้าคะ ขออภัยที่ให้ท่านรอนาน นางเป็นเด็กใหม่ที่เราพึ่งรับมาวันนี้เจ้าค่ะ"
"ข้า..."
"ท่านอ๋อง แม่นางผู้นี้คือบุตรของเจ้าเมืองเฉินตูคนเก่าที่พึ่งถูกฆ่าไปพ่ะย่ะค่ะ"
"เช่นนั้น...ขอบใจ จงหมิง มอบรางวัล"
"อุ้ยขอบคุณเจ้าค่ะคุณชาย ขอบคุณๆ เชิญคุณชายตามสบายนะเจ้าคะ"
"ให้พวกเขาออกไปด้วย มีข้าอยู่ นางหนีไปไม่ได้หรอก"
"เจ้าค่ะคุณชาย ไปๆๆ พวกเจ้าออกไปได้แล้ว"
ทั้งหมดออกไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงสตรีตรงหน้าที่แต่งกายด้วยชุดนุ่งน้อยห่มน้อยสีแดงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เขาเหลือบมองสักครู่และให้จงหมิงเดินไปที่ประตูเพื่อออกไป
"คุณชาย ได้โปรดอย่าทำอะไรข้าเลยเจ้าค่ะ"
"แม่นาง ข้าอยากทำข้อตกลงกับเจ้า หากว่าเจ้ายอมช่วยข้า ข้าเองก็จะช่วยเจ้าเช่นกัน"
หยงว่านชิงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างมีความหวังขึ้นมาในทันทีเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา นางหันไปมองหน้าเขาพร้อมกับรอฟังคำพูดของเขา ท่านอ๋องหนุ่มเหลือบเห็นเนินอกที่ไร้สิ่งปิดบัง แม้มันจะยังพอปกปิดได้อยู่บ้างแต่ก็ทำเอาคนที่ได้เห็นรู้สึกหายใจติดขัดได้
"คุณชาย หากว่าท่านยอมช่วยข้าหนีออกจากที่นี่จริงๆ ข้ายินดีเป็นสาวใช้ให้ท่าน รับใช้ท่านไปชั่วชีวิตเจ้าค่ะ ได้โปรดเถิด ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยเล่นละครกับข้าก่อน หากว่าเจ้าทำให้พวกมันเชื่อเจ้าได้และงานข้าสำเร็จ ข้ารับปากว่าจะช่วยเจ้าออกไป"
"ได้เจ้าค่ะ ขอคุณชายโปรดบอกว่าข้าต้องทำเช่นไรบ้าง"
"รออีกเดี๋ยว มานั่งข้างๆข้าแล้วแสดงให้เหมือนกับคณิกาหน่อย มารินสุรานี่ให้ข้า"
"....เจ้าค่ะ"
หยงว่านชิงเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆเขาพร้อมกับรินสุราให้นางค่อยๆยกจอกสุรานั้นให้เขาพร้อมกับส่งมันเข้าปากของบุรุษหนุ่มตรงหน้า นางไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อนแต่ก็เคยเห็นเมื่อครั้งที่ท่านพ่อของนางให้สตรีอื่นมาปรนนิบัติในจวน พวกนางต่างก็ทำเช่นนี้เช่นกัน
ท่านอ๋องเองก็เริ่มรู้สึกว่าตัวร้อนแปลกๆเมื่อจอกสุราที่เคยยกดื่มเอง บัดนี้มีนางที่คอยยกให้ ริมฝีปากที่ทาชาดจนแดงดุจเลือดและเผยอเล็กน้อยตรงหน้าเขานั้นช่างเย้ายวนยิ่งนัก อีกทั้งผิวขาวๆและเนินอกล้นของนางทำเอาเขากลืนสุราลงไปลำบากกว่าจอกผ่านๆมา
"คุณชาย มาแล้วขอรับ"
ชายสามคนเดินตามจงหมิงเข้ามา ชิงเย่หานอาศัยจังหวะนี้โอบรอบเอวบางของหยงว่านชิงเข้ามานั่งตักพร้อมกับส่งสายตาให้นางรินสุราให้ เมื่อนางสบตาเขา นางก็แทบจะลืมหายใจไปชั่วขณะ นี่เรียกว่ารักแรกพบหรือไม่ เหตุใดบุรุษหนุ่มผู้นี้จึงได้รูปงามเช่นนี้ นางรินสุราและป้อนเขาแต่เขากลับดันจอกสุรานั้นให้นางดื่มแทน
"คุณชาย...อื้มม.."
"ฮ่าๆ...เก่งนี่ มา รินมาอีก....พวกเจ้านั่งลงก่อนสิ"
ผู้ที่เข้ามาใหม่ต่างมิได้สงสัยเมื่อเห็นในสิ่งที่ท่านอ๋องทำ พวกมันคิดว่าเขาเป็นเพียงลูกเศรษฐีที่อยากกำจัดคนที่ไม่ชอบหน้าเท่านั้นจึงยอมรับงานนี้มาพบเขาเพื่อสั่งฆ่าคน!!
"คุณชาย ท่านต้องการจัดการผู้ใดงั้นหรือถึงได้นัดพวกเรามาที่นี่"
"ข้า..ต้องการกำจัด ท่านอ๋องชิงที่กำลังจะมารับตำแหน่งใหม่ที่เฉินตู"
สุราในมือหยุดกึกลง หยงว่านชิงนิ่งไป ท่านอ๋องเองก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกันแต่เขาแสร้งทำว่าไม่สนใจและหันไปมองชายทั้งสามตรงหน้าแทน
"ว่าอย่างไร เจ้าไม่กล้างั้นหรือ"
"คุณชายล้อเล่นแล้ว ท่านอ๋องเป็นเชื้อพระวงศ์ ข้ารับฆ่าแต่ขุนนางและคนทั่วไป ไม่ทราบว่าท่านมีความแค้นใดกับชิงอ๋องผู้นี้"
"เขา...แย่งสตรีของข้าไป"
"ฮ่าๆ เพียงแค่เรื่องสตรี ข้าว่าข้างๆท่านนั่นก็งดงามราวกับเทพธิดา ท่านยังอยากจะแย่งสตรีกับอ๋องชิงอีกงั้นหรือ"
"นางเป็นสตรีในใจข้า แต่อ๋องผู้นี้จะแย่งนางไป ตกลงพวกเจ้าจะรับทำหรือไม่"
พวกมันมองหน้ากันไปมา ไม่รู้ว่าควรตัดสินใจเช่นไรดีจนเขาต้องกระตุ้นพวกมันเพิ่ม
"ข้า...เพิ่มเงินพวกเจ้าให้เป็นสามเท่า...ไม่ๆๆ ห้าเท่า หากพวกเจ้าจัดการเอาหัวเจ้าชิงอ๋องนั่นมาให้ข้าได้"
"หึหึ เช่นนี้ค่อยน่ารับหน่อย ตกลงคุณชายข้ารับงานของท่าน ว่าแต่ท่านมีเบาะแสของชิงอ๋องผู้นี้หรือไม่ ได้ข่าวว่าเขาจะมาถึงที่นี่ในไม่กี่วันนี้"
"อีกสิบวัน....สิบวันพวกเจ้าลงมือได้เลย เขาจะมาถึงที่นี่และพักที่ตำหนักอ๋อง พวกเจ้ารู้ว่าควรทำเช่นไร"
เขาโบกมือให้จงหมิงนำแผนที่ยื่นให้พวกมันพร้อมกับจ่ายเงินให้ก่อน พวกมันไม่คิดว่ายังไม่ทันได้ทำงานก็ได้เงินส่วนหนึ่งก่อนแล้ว
"ข้าเป็นพวกไม่ติดสินน้ำใจผู้ใด หากพวกเจ้าทำสำเร็จ ข้าจะจ่ายที่เหลือให้อย่างแน่นอน"
เขาพูดพร้อมกับป้อนสุราให้สตรีข้างๆ ตอนนี้ร่างกายเขาเริ่มร้อนรุ่ม ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสตรีข้างๆที่ยั่วใจเหลือเกิน หรือว่าเป็นเพราะเขาเริ่มเมากันแน่
"คุณชาย....ไม่ไหวแล้วนะเจ้าคะ ข้าอยากนอนพักแล้วเจ้าค่ะ"
"ฮ่าๆ พวกเจ้าได้ยินแล้วนะ เช่นนั้นก็ออกไปได้แล้ว....เสร็จงานแล้วมาพบข้าที่นี่"
"ขอบคุณคุณชาย พวกเราจะรีบดำเนินการขอรับ"
เขาโบกมือไล่ให้พวกมันออกไป ตอนนี้หน้าของเขาแดงก่ำมากแล้ว แต่เมื่อหันไปมองนางดูเหมือนว่านางเองก็จะเป็นเช่นกัน สุรานี่ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
"จงหมิง เจ้า....รีบออกไป ห้ามเข้ามาจนกว่าข้าจะเรียก และก็ ตรวจสอบสุรานี่ด้วย"
จงหมิงรับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ท่านอ๋องคงถูกยาพิษบางอย่างเข้าแล้ว แต่พิษนี้เขาช่วยแก้ไม่ได้ แต่สตรีข้างๆช่วยได้และดุเหมือนว่านางเองก็คงจะถูกพิษด้วยเช่นกัน
"ขอรับคุณชาย ข้าเข้าใจแล้ว"
"นี่ แม่นาง…แม่นางหยง"
"คุณชาย...ข้าร้อน...ช่วยด้วยเจ้าค่ะ"
"แย่แล้ว!!"
เขาอุ้มนางเข้าไปห้องด้านในพร้อมกับวางนางลงที่เตียงทันที เมื่อวางลงได้ตัวเขาก็ร้อนรุ่มดั่งไฟสุมเช่นกัน เขาเริ่มลุกไม่ไหว มือเรียวขาวนวลนั้นเอื้อมมาโอบรอบคอเขาทันที
"คุณชาย ข้อตกลงของเราเป็นเช่นไรเจ้าคะ"
"ข้าจะช่วย...เจ้า..ออกไปจากที่นี่...เจ้า...แฮ่ก...แฮ่ก..."
เขาเริ่มหายใจถี่ขึ้น สติเริ่มไม่ไหวเมื่อร่างบางตรงหน้าเริ่มรุกเร้าเบียดกายเข้ามาอย่างไม่ตั้งใจ คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่อยู่ในสุราเป็นแน่ เป็นผู้ใดกันที่วางยาเขา หรือจะเป็นพวกโจรนั่น
"คุณชาย ท่านต้องการสิ่งใดเจ้าคะ"
"เจ้า...ข้า.....เจ้าต้องเป็นคนของข้า...แต่ว่า...ทุกครั้งที่ข้าต้องการเจ้าต้อง....มาหาข้า....ทันที"
"ได้เจ้าค่ะ ว่านชิงรับปากท่านก็ได้ ข้ายอมรับใช้ท่านโดยไม่ผูกมัดใจท่านไว้ หากวันใดคุณชายไม่ต้องการว่านชิงแล้ว...ข้าจะเป็นคนจากไปเอง"
"ห้ามรักข้า ห้ามหึงหวง ห้าม....ทำตัวเป็นเจ้าของข้า...ห้ามทำตัวน่ารำคาญ ห้ามเกาะแกะ....ห้าม...เถียงข้า เจ้าจำได้หรือไม่"
"จำได้แล้วเจ้าค่ะ"
"ตอนนี้ข้าต้องการเจ้า!!"
สามวันก่อนวันอภิเษก“หย่งผิง เหตุใดครั้งนี้เจ้าพากู้เซียงหยีมากับเจ้าด้วยเล่า”“ข้ามิได้พานางมา นางมาของนางเองโดยทูลขอเสด็จพ่อข้า”“ท่านอ๋องฟ่านไม่น่าจะยอมโดยง่ายเช่นนี้”“หึ นางให้พ่อนางมาขอน่ะ บอกว่าอยากหาประสบการณ์ใหม่นอกเมือง เห็นว่าข้าจะเดินทางมาที่ต้าเฉินเลยถือโอกาสขอให้พานางมาด้วย แต่ข้าปฏิเสธ นางบอกว่ายินยอมตามมาและจะดูแลตัวเอง”“แต่ที่ข้าเห็น นางแทบจะตัวติดกับเจ้า”“ข้าหาได้สนใจไม่ ว่าแต่เรื่องของเจ้ากับหลินเนี่ยเฟย…เหตุใดจึง…”“นี่เจ้ายังมองไม่ออกอีกหรือ นางไม่ได้ชอบข้าตั้งแต่แรก นางไม่รู้ใจตัวเอง นางยังเด็กแยกแยะความรักระหว่างชายหญิงไม่เป็น นางพึ่งรู้ตัวว่าข้าน่ารำคาญก็ตอนนางได้ว่านชิงเป็นพี่สาวนางนั่นแหละ ตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้าคอยหวงพี่สาวตลอด”“เป็นเช่นนี้ได้เช่นไร ข้าจำได้ว่าตอนเรียนด้วยกันที่นั่น พวกเจ้า…..”“เจ้าลองนึกดูให้ดีๆ ว่าที่นางทำเรื่องนี้เพราะอะไร ข้าเองก็รู้แต่ก็ต้องยอมอยู่กับนางเพราะนางเหมือนน้องสาวข้า นางไม่มีญาติที่นั่นมีเพียงข้าที่ไปกับนาง ย่อมต้องดูแลกันเป็นธรรมดา จากนั้นนางเลยยึดติดว่าสิ่งที่ทำกับข้าคือความรัก แต่แท้จริงแล้วมันคือรักแบบพี่น้องเท่านั้น ข
จวนเสนาบดีหลิน“พี่ใหญ่ท่านคุ้นชินกับเมืองหลวงแล้วหรือยังเจ้าคะ”“ข้าอยู่ที่ใดก็ได้ ว่าแต่วันนี้เจ้ากินยาแล้วหรือยัง”“กินแล้วสิเจ้าคะ นี่พี่ใหญ่อีกไม่กี่วันท่านก็ต้องแต่งเข้าตำหนักท่านอ๋องแล้ว ตลอดสิบวันที่ย้ายมาจากเฉินตูเราก็อยู่ด้วยกันตลอด ท่านแต่งออกไปแล้วข้าต้องเหงาแน่เลยเจ้าค่ะ”“เจ้าน่ะเป็นลูกคนเดียวมาตลอดมิใช่หรือ”“ก็ใช่น่ะสิ เพราะมีท่านมาเป็นพี่สาวข้าจึงมีคนให้อ้อนได้บ้าง ใครจะรู้ว่าพอมีก็จะถูกแย่งไปกันเล่า”“อีกหน่อยเจ้าเองก็จะมีคนมาแย่งไปเช่นกัน เจ้าน่ะไม่ได้ถูกใจผู้ใดเลยงั้นหรือ”“ท่านพี่อย่าล้อข้าเล่น ในชีวิตของข้าพบเจอบุรุษมาไม่กี่คนหรอกเจ้าค่ะ”“เนี่ยเฟย อาการของเจ้าตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว อาการแพ้ก็ไม่มีแล้ว ต่อไปก็ทำตามใจได้แล้วล่ะ เจ้าอยากไปไหนหรือไม่ ข้าจะได้ชวนท่านอ๋องพาเจ้าไปเที่ยว”“ไม่เอาหรอกเจ้าค่ะ ไปกับพี่เย่หานที่เอาแต่ตามท่านตลอดเวลา ข้าเห็นแล้วอึดอัดแทนจริงๆ เขาไม่คิดอยากให้ท่านได้พักหายใจบ้างเลยหรืออย่างไรกันนะ เอาแต่ตาม ท่านหายไปเพียงแค่ครึ่งก้านธูปก็ตามหาเสียทั่วตำหนัก ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าข้าไม่เหมาะกับคนเช่นนี้จริงๆ ขืนมาเดินหาข้าจนทั่วเช่นนี้ ข้าคงเป็
“ไม่ได้เพคะ!! หม่อมฉันนัดท่านพ่อกับเนี่ยเฟยเอาไว้แล้วว่าจะเอายาไปให้พวกเขา”“แต่ข้าส่งจงหมิงไปยกเลิกแล้ว ส่วนยาที่เจ้าเตรียมเดี๋ยวข้าให้คนเอาไปให้เนี่ยเฟยเอง มาเถอะ ไปกับข้า”“เดี๋ยวก่อนเพคะ พระองค์จะพาหม่อมฉันไปที่ใด รถม้ายังรออยู่ข้างนอก”“ข้าเอาม้ามา เจ้าไปกับข้า”“ไปที่ใดเพคะ”“ไปถึงก็รู้เอง มาเถอะ”“เย่หาน เดี๋ยวก่อนสิ”ท่านอ๋องอุ้มนางเดินออกจากจวนสกุลหยงและขึ้นหลังม้าพร้อมกับพานางขี่ออกไปทางด้านหลังเขาเมืองเฉินตู ระยะทางเริ่มห่างจากตัวเมืองเฉินตูและเป็นเนินเขาสูงที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม เบื้องหน้าเป็นแม่น้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ด้านหลังเป็นภูเขาเซียงชีของเฉินตู“ที่นี่ งดงามยิ่งนักเพคะ”“ลงมาสิ”ชิงเย่หานพานางเดินเข้าไปในทุ่งดอกไม้กว้างสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับผ้าที่เขาเตรียมเอาไว้บนหลังม้า เนินเขาสูงในทุ่งดอกไม้ ด้านล่างเป็นลำธารเขาเลือกปูผ้าตรงนี้พร้อมกับพาว่านชิงมานั่งพิงเขาพร้อมกับมองไปยังทิวทัศน์ด้านล่างที่เป็นป่าเขาสุดลูกหูลูกตา“เจ้าเห็นนั่นหรือไม่ นั่นคือเส้นทางไปเมืองหลวง”“ข้าไม่เคยออกจากเมืองเฉินตูมาก่อนเลยเพคะ”“เจ้าอยากไปเมืองหลวงกับข้าหรือไม่ว่านชิง”“พระองค์
จงหมิงมองหน้าท่านอ๋องราวกับว่าตนเองกำลังทำผิดอย่างร้ายแรงที่บังอาจรู้ว่าหยงว่านชิงไปที่ใดในเวลานี้“พ่ะย่ะค่ะ คุณหนูหยง เอ้ย คุณหนูหลินบอกกระหม่อมให้เตรียมรถม้าเพื่อจะไปจวนท่านเสนาบดีพ่ะย่ะค่ะ”“แล้วเหตุใดอาลี่จึงไม่รู้เล่า!!”“กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”“แล้วเจ้ามัวรออะไรอยู่ตรงนี้ ยังไม่รีบไปเอาม้ามาให้ข้าอีก ข้าไม่นั่งรถม้า ข้าจะเอาม้า!!”“พ่ะย่ะค่ะ”จงหมิงรีบไปนำม้าของท่านอ๋องออกมาให้โดยเร็วด้วยเกรงว่าจะถูกลงโทษอีกเพราะความใจร้อนของท่านอ๋องในตอนนี้คงไม่ต้องบอกว่าเขาโมโหและร้อนใจเพียงใดที่ตื่นมาแล้วไม่พบว่านชิงจวนเสนาบดีหลิน“ว่านชิง …..ว่านชิง”“พี่เขย ท่านมาหาพี่ว่านชิงงั้นหรือ”“เนี่ยเฟย ว่านชิงเล่า เห็นบอกว่านางมาที่นี่”“ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”“ใต้เท้าหลินขออภัยที่มากะทันหัน แต่ว่าว่านชิงได้มาที่นี่หรือไม่”เนี่ยเฟยและเสนาบดีหลินหันมองหน้ากันด้วยความแปลกใจและสงสัยพร้อมกับหันไปตอบกับคนที่ดูร้อนใจที่สุดตรงหน้าในตอนนี้“พี่ว่านชิงบอกว่าจะมาหาข้าในวันนี้จริงเพคะ แต่ว่านางยังมาไม่ถึง ไม่คิดว่านางจะออกมาจากตำหนักท่านแล้ว”“นั่นสิ กระหม่อมเองก็รอนางอยู่เช่นกันเพราะวันนี้นางน
เจ้าเมืองเหมินหันไปทางท่านอ๋อง ตัวสั่นทั้งตัว เขาเองก็รู้ตัวดีว่าทำสิ่งใดลงไป แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อมู่เสียนอี่ถูกเปิดโปงแล้วเขาจะโดนด้วย“ไม่จริงพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมเพียงแค่….แค่…มอบเป็นสินน้ำใจ หาใช่ซื้อตำแหน่งไม่ เรื่องย้ายมาที่เมืองเฉินตูนี้ เป็น…เรื่องนี้ท่านมหาเสนบดีหลินเป็นผู้แนะนำกระหม่อมต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทด้วยตนเองนะพ่ะย่ะค่ะ”เสนาบดีหลินเดินเข้ามายังเหมินสั่วถังที่นั่งคุกเข่าพร้อมกับขอความเมตตาต่อท่านอ๋องอยู่จึงพูดเพื่อให้เขาได้รับรู้ความจริง“ใต้เท้าเหมิน ที่ข้าเสนอชื่อท่านต่อฝ่าบาท นั่นเป็นส่วนหนึ่งในแผนการกำจัดขุนนางชั่วมู่เสียนอี่ เพราะเขารับสินบนจากท่านเพื่อเสนอชื่อเป็นเจ้าเมืองเฉินตูทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ท่านเป็นเพียงขุนนางในกรมวังที่แทบจะไม่มีผลงานใดๆมาก่อน ฝ่าบาทเรียกข้าเข้าไปหารือหลายรอบ และเพื่อจะล้อมจับพวกขุนนางชั่วทั้งหมดจึงได้เสนอชื่อเจ้าเพื่อมาเป็นเจ้าเมืองที่นี่”เหมินสั่วถังหมดแรงล้มไปกับพื้น ที่แท้เรื่องที่เขาจะมาเป็นเจ้าเมืองที่นี่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เสนาบดีหลิน ชิงอ๋องและฝ่าบาทวางแผนล่อพวกเขามาติดกับนี้“นำตัวเขาไป ขังที่คุกรอการตัดสินโทษ”“พ่ะย่ะค่ะ”ต
“ใต้เท้ามู่ไม่ต้องรีบร้อน ว่านชิง เจ้าว่ามา เจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องที่ข้ายักยอกเงินคลังหลวงงั้นหรือ”“หม่อมฉันยังไม่ทันได้พูดสักคำว่าที่มาวันนี้เป็นเรื่องที่ท่านอ๋องยักยอกเงินพระคลังหลวง”มู่เสียนอี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจพร้อมกลืนน้ำลายลงคออย่างรวดเร็ว คนในห้องโถงต่างก็ตกใจเช่นเดียวกันกับมู่เสียนอี่ นั่นสิ นางเพียงแค่ยกสมุดบัญชีออกมาและบอกว่าท่านอ๋องทราบดีว่าที่นางมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด แต่…..“เจ้า….ว่านชิง นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร!!”ว่านชิงหันมามองหน้ามู่เสียนอี่พร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อยเมื่อเขาทำท่าตกใจและมือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข“ใต้เท้ามู่ ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าที่ข้ามาวันนี้เพื่อจะมาส่งรายงานของผู้ใด เหตุใดท่านจึงรีบร้อนด่วนตัดสินว่าข้าจะใส่ร้ายท่านอ๋อง ดูท่านมั่นใจเหลือเกินว่ารายงานบัญชีที่ข้าถืออยู่นี่เกี่ยวกับท่านอ๋องแล้วยังมีรายงานแก้ต่างเตรียมมาด้วย เรื่องนี้ ข้าคิดว่าท่านควรจะมีคำอธิบายหน่อยหรือไม่”“ใต้เท้ามู่ ว่าอย่างไร ที่ว่านชิงพูดมาท่านมีสิ่งใดจะแก้ต่างหรือไม่”“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ นาง…เรื่องนี้นาง….”มู่เสียนอี่ทำตัวไม่ถูก เขาติดกับแล้ว เขาพลาดเองที่พูดออกไปโพล่งๆโดยไม่