“ใครเหรอคะ พี่การันต์ รู้จักเหรอคะ พุดเห็นพี่มองเขาตั้งแต่เขาเข้ามาในร้านแล้ว มีอะไรหรือเปล่าคะ” พุดกรอง ถามพี่ชาย เมื่อเห็นเขาจ้องมองผู้หญิงชุดยีนใส่รองเท้าแตะหูหนีบนันยาง รูปร่างสูง ผมยาว หน้าสวย เสียแต่ดูหน้านิ่งไปหน่อย อาการที่ไม่สนใจใครเลย ทำให้ดูก็รู้ว่าเป็นคนไม่ค่อยยุ่งกับใคร ผู้หญิงคนนี้รูปร่างดี มือเท้าเรียวสวย ไม่แต่งหน้าเลย จะว่าไม่แต่งก็ไม่ได้ เธอทาลิปสติกสีน้ำตาล สวยมาก แต่ถ้าที่ครุ่นคิด จ้องโทรศัพท์นั่น ดูครุ่นคิดกังวลจัง
“เปล่า ไม่รู้จัก” เสียงห้วนๆ ตอบกลับมา
“อ้าว เหรอคะ เห็นจ้องเอาๆ นึกว่ารู้จัก” พุดกรอง บ่นเบาๆ แล้วก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวของเธอต่อไป เธอตามอารมณ์พี่ชายไม่ค่อยทัน เขาอารมณ์ร้อน ใจร้อน เอาแต่ใจ แต่เขาก็เป็นพี่ที่ดี ปกป้องเธอ และทุกคนที่บ้านได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ทีแรกเธอคิดว่าผู้หญิงคนนั้น เป็นคนของพี่ชายเธอเสียอีก ดูหน้าตาน่าจะรุ่นเดียวกับเธอ พี่น้องกันคงไม่เกิน 2 ปี ลูกบ้านไหนนะ ไม่น่าจะใช่คนแถวนี้ ดูจากลักษณะ ผิวพรรณ ท่าทางสบายๆ ช้าๆ เนิบๆ สะดุดตาทีเดียว
ดูจากท่าทางพี่การันต์แล้วเหมือนไม่ค่อยชอบผู้หญิงคนนั้น พุดกรองสัมผัสได้ และเธอก็รู้นิสัยของเขาดี เวลาที่พี่ชายเธอไม่พ่อใจใคร เขาก็จะแสดงออก ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง เขาไม่ไว้หน้าใครเลย คนใกล้ชิดจะรู้จักนิสัยเขาดี ยิ่งพวกลูกน้องที่เป็นผู้ชาย รู้ฤทธิ์พี่ชายเธอดี ไม่มีใครกล้ากับพี่การันต์ ทุกคนเชื่อฟัง แต่อีกมุมพี่ชายเธอก็ใจดี ลูกน้องที่ไม่เกเรก็เลี้ยงดู อย่างดี บางคนเลี้ยงทั้งครอบครัว ให้มาทำงานที่บ้าน บ้าง ที่สวนบ้าง ในความใจร้ายและโหดของเขา ก็มีสิ่งดี จะว่าไปแล้วความดีมากกว่าซะอีก ทำให้หลายคนเกรงใจเขา
ผู้หญิงคนนี้ท่าทางเรียบร้อย นิ่งๆ นั้น ดูที่น่าสนใจมาก นี่ขนาดเธอเป็นผู้หญิงด้วยกัน ยังรู้สึกว่าอยากรู้จัก แล้วพวก ส่วนพวกผู้ชายไม่เหลือ มองกันตาละห้อย คงอยากรู้จักว่าเป็นใคร มาจากไหน
ผู้หญิงบางคน ไม่ต้องแสดงจริตจก้านมากนัก ก็สามารถดึงดูดคนให้มาสนใจได้ง่าย เธอเห็นพวกผู้ชายที่นั่งอยู่ในร้าน กระซิบกันให้ดูผู้หญิงคนนั้น คนที่ถูกมองไม่ได้สนใจใครเลย ก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยว ไม่นานก็ลุกขึ้นเดินไปจ่ายเงิน พุดกรองเพิ่งเห็นว่า ผู้หญิงคนนั้นปั่นจักรยานมา เท่จัง ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกอยากรู้จัก ดูท่าทางก็รู้ว่าไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร น่าสนใจ ดูเป็นคนพูดน้อย แสดงว่าบ้านอยู่ไม่ไกลจากที่ตลาดนี้แน่ๆ เลย ถึงได้ปั่นจักรยานมาซื้อของที่ตลาดได้ พุดกรองไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงรู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่เพิ่งเห็นหน้ากัน
พุดกรองไม่ค่อยมีเพื่อน ที่สนิทกันก็อยู่กรุงเทพฯ หมด นานๆ เจอกัน เรียนจบแล้วก็ต่างคนต่างแยกย้าย เธอไม่ได้ไปทำงานที่ไหน พี่ชายให้กลับมาช่วยงานที่บ้าน ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปไหน พี่ชายเธอไม่ค่อยไว้ใจใคร นิสัยนักเลงกล้าได้กล้าเสียของเขา ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาจีบเธอ แค่รู้ว่าพพี่การันต์เป็นพี่ชายเธอ ผู้ชายพวกนั้นก็ถอยแล้ว
เธอห่างจากพี่ชายหลายปี ทำให้เธอกลัวและเกรงใจ เขาทำตัวเหมือนพ่ออีกคน มันก็ดีแหละ แต่บางทีเธอก็อยากมีอิสระไปเที่ยวโน้นนี่บ้าง ทำแต่งานอยู่บ้าน บางทีมันก็เบื่อ นัดเที่ยวกับเพื่อนแต่ละครั้ง พี่ชายเธอกว่าจะปล่อยไปได้ หลังๆ มา เธอเลยไม่ไปไหนเลย เบื่อรำคาญ ที่ทั้งพ่อแม่ พี่ชาย ห่วงมากเกินไป ทำเหมือนกับเธอเป็นเด็ก ทั้งๆ ที่เธอก็อายุ 25 แล้ว
เขาไม่เข้าใจตัวเองเลย ที่พอเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น เขาเป็นอะไร ต้องหงุดหงิดทุกที ยิ่งเห็นท่าทางที่ไม่สนใจใคร ทำเหมือนมาคนเดียว มากิน อิ่มแล้วก็ออกไป น่าหมั่นไส้ นี่ถ้าไม่ติดว่าน้องสาวเขามาด้วย เขาจะไม่ไว้หน้าเลย เอาไว้ก่อนเถอะ บ้านเขาก็รู้จักแล้ว ปล่อยไปก่อน
นี่ผู้หญิงคนนั้น ปั่นจักรยานจากบ้าน มาที่ตลาดนี่เลยรึไง ไม่ใช่ใกล้เลยนะ รู้เลยว่าแข็งแรง นางต้วมเตี้ยมเอ้ย อืดอาดยืดยาด น่ารำคาญตาจริงๆ เลย เห็นแล้วก็อยาก จะแกล้งเสียให้เข็ด ทำอย่างกับว่าอยู่คนเดียว ไม่สนใจใคร ไม่มองใคร ถือว่าสวยนักรึไง ไม่ได้ดังใจเขาเลย ถ้ารู้ว่าจะเจอ เขาจะไม่พาน้องเขามาด้วยเป็นแน่ พุดกรองก็อยากจะกินแต่ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ เขาต้องพาน้องมา
ไอ้จะปล่อยให้น้องสาวเขาไปคนเดียว ไม่ใช่เขาแน่ๆ น้องสาวเขาหน้าตาสวย เรียกว่าสวยมากเลยล่ะ สวยแบบสาวใต้ หน้าเข้ม ตาคม มีเหล่าบรรดาพวกหนุ่มๆ มากมาย มาติดพันน้องสาวเขา แต่เขาดูแล้วไม่ได้เรื่องสักคน คนที่จะมาเป็นน้องเขยเขา ต้องผ่านด่านเขาให้ได้ก่อนเถอะ
พุดกรองห่างกับเขา 10 ปี พอดี พ่อกับแม่เขาตั้งใจมีเขาคนเดียว แต่ยังไงไม่รู้ แม่กับพ่อไปคุยกับหลวงลุงที่วัด ตกลงกันว่าจะมีน้องให้เขาอีกคน จนแม่ท้องและคลอดพุดกรองออกมา ด้วยวัยที่ห่างกันมาก ทำให้เขารักและเป็นห่วงน้องสาวมาก
พ่อกับแม่ของเขานับถือหลวงพ่อที่วัดมาก ไม่ใช่แค่ครอบครัวเขา คนทั้งหมู่บ้านก็นับถือกันหมด จริงๆ หลวงพ่อเป็นพี่ชายคนโตของพ่อเขา ต้องเรียกหลวงลุง แต่เขากับน้องไม่ถนัด เรียกหลวงพ่อมาตั้งแต่จำความได้แล้ว มีหลายอย่างที่ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เกี่ยวกับหลวงลุง ถ้าท่านห้ามก็แสดงว่า ต้องหยุด ถ้าท่านให้ทำต่อ ก็ต้องแปลว่ามันจะดี จริงๆ เขาก็ไม่ค่อยได้เชื่ออะไร มีแต่พ่อกับแม่และน้องเขาที่เชื่อจริงจัง ส่วนตัวเขาคิดว่าบางเรื่องมันเป็นการบังเอิญมากกว่า แต่เขาก็ไม่ได้ลบหลู่อะไรท่าน เขาแค่นิ่งเสีย เมื่อเจอท่านเบรคเขาในบางสิ่งที่เขาทำ เขามั่นใจว่าดี แต่หลวงพ่อบอกว่ามันไม่ถูกต้อง หลายครั้งที่เขาทำตามใจไม่เชื่อท่าน แต่ผลสุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
“อิ่มแล้วค่ะพี่การันต์ กรองขอแวะเซเว่นหน่อยได้ไหมคะ อยากซื้อของจุกจิกนิดหน่อยค่ะ”
“เอาซิ พี่รอบนรถนะ ขี้เกียจลง” ผู้หญิงนี่เรื่องมากหลายอย่าง โน้นนี่นั่นเยอะแยะไปหมดการันต์คิดในใจคนเดียว
“ค่ะพี่ “พุดกรองลงจากรถ เดินเข้าเซเว่นไป ปล่อยให้พี่ชายนั่งรอบนรถ
“โอ๊ะ...ขอโทษค่ะ เจ็บมากไหมคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ น้ำอบไม่ได้ตั้งใจ มัวแต่เลือกของค่ะเลยไม่ได้หันดูว่ามีใครอยู่ข้างหลังไหม เจ็บมากไหมคะ”
เอาอีกแล้วน้ำอบ มัวแต่เดินเลือกของเพลิน เผลอเหยียบเท้าคนอื่นจนได้
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บเลย พุดใส่รองเท้าผ้าใบค่ะ ไม่เจ็บๆ แค่ตกใจนิดหน่อยค่ะ มัวแต่เลือกของเพลินเหมือนกัน
“พุดกรองหันหน้ามามองคนที่ถอยชน จนเหยียบเท้าเธอ ผู้หญิงคนนั้นนี่นา คนที่เธอเห็นในร้านก๋วยเตี๋ยวเมื่อสักครู่ บังเอิญจริงๆ ดูใกล้ๆ ผู้หญิงคนนี้ยิ่งสวย สวยมาก ขนาดไม่แต่งหน้า หน้ารูปไข่ ผิวขาวเนียนชมพู รูปร่างดีทีเดียว ดูจากเสื้อยีนเข้ารูปที่ใส่ กับกางเกงยีน สูงมากด้วย น่าจะ 175 แน่ๆ เพราะสูงกว่าเธอเยอะเลย พุดกรองสูงแค่ 165 ทุกคนที่รู้จัก ก็บอกว่าเธอสูงมากแล้วนะ ผู้หญิงคนนี้สูงกว่าเธออีก จมูกโด่งแบบธรรมชาติ ตาดำขลับ ฟันเรียงกันเป็นระเบียบ สวยเชียว
“ขอโทษอีกครั้งนะคะ น้ำอบไม่ได้ตั้งใจค่ะ” น้ำอบยิ้มให้ผู้หญิงที่เธอเผลอเหยียบเท้า
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บเลย ชื่อน้ำอบเหรอคะ ชื่อน่ารักจัง เราชื่อพุดกรองนะ เรียกพุดเฉยๆ ก็ได้”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ น้ำอบได้ของครบแล้ว ขอตัวไปจ่ายเงินก่อนนะคะ ไว้วันหลังเจอกันค่ะ”
กรรณญาวีร์ยิ้มให้คนที่เพิ่งรู้จักอีกที ก่อนที่จะไปจ่ายงินที่หน้าเคาเตอร์
โห....ยิ้มแล้วโลกสว่างสดใสมากเลย ยิ้มหวานสวยมาก ผู้หญิงคนนี้เหมือนมีพลังอะไรในตัว แต่พุดรู้เลยว่า น้ำอบคนนี้เป็นคนดี เสียงพูดก็เพราะ เหมือนใครสักคน แต่นึกไม่ออก พุดกรองเดินมาจ่ายเงิน ทันเห็นน้ำอบเดินออกไปพอดี เธอมองตาม จนน้ำอบปั่นจักรยานแม่บ้านออกไป หญิงสาวรีบจ่ายเงิน เห็นน้ำอบปั่นจักรยานไปไกลลิบแล้ว
“ซื้ออะไรเยอะแยะ เป็นนานสองนาน" การันต์ เอ่ยปากถามน้องสาว
“พอดีเจอเพื่อนข้างในค่ะ เลยคุยกันแป๊ปหนึ่ง ไปค่ะเรียบร้อยแล้ว “พุดกรองไม่เล่าให้พี่ชายฟังว่าได้พูดคุยกับน้ำอบ เพราะเธอเห็นว่า ท่าทางของพี่ชายเธอ ไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเลย ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจเหมือกัน พอถามก็บอกไม่รู้จัก แต่ทำไม่แสดงท่าทางว่าไม่ชอบ
ก็เป็นเรื่องธรรมดาแหละ อารมณ์ของพี่ชายเธอ ตามไม่ค่อยทัน บางทีเขาก็มีเรื่องไปทั่ว ยิ่งกับพวกผู้หญิงของเขา บางคนที่ไม่พอใจเขา ต้องการแบนนั้นแบบนี้ พี่ชายเธอก็จัดการแบบไม่ไว้หน้าเลย ทางที่ดีไม่เล่าให้เขาฟังดีกว่า นานๆ พุดกรองจะเจอเพื่อนดีๆ สักหน นี่ก็อีกเรื่อง หญิงสาวมั่นใจตั้งแต่เห็นหน้าตา ท่าทางของน้ำอบครั้งแรกแล้ว ว่าต้องเป็นคนที่นิสัยดี น่าคบหา
เขาไม่พอใจหลวงลุง แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ยุคสมัยนี้แล้ว ยังงมงายอยู่ได้ เขาไม่อยากโวยวายให้แม่กับหลวงลุงเสียหน้าเฉยๆ เพราะยังไงชาวบ้านแถวนี้ก็นับถือหลวงพ่อกันทั้งนั้น หลวงพ่อที่เป็นลุงของเขา มีชื่อเสียงในเรื่องของการหยั่งรู้ เรื่องราวในอดีต อภินิหาร อะไรประมาณนั้นแต่หลวงลุงไม่ได้แสดง หรืออวดอุตริอะไร มีคนดังมีชื่อเสียงหลายคนที่มาหาหลวงลุง ให้ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตให้ ไม่ใช่ว่าจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ทันทีทันใด หลวงลุงจะคอยแนะนำให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ คิดดีทำดี คนส่วนมากที่ทำตามที่หลวงพ่อบอก ประสบผลสำเร็จ แล้วกลับมาสร้างและบูรณะวัด มากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาลาหลังใหม่ เมรุ กุฎิ ห้องน้ำ เงินที่ลูกศิษย์ลูกหาถวายมา ท่านก็ปรับปรุงวัดแต่ถามว่าเขาเชื่อไหม เขารู้สึกเฉยๆ แต่ก็เกรงใจท่านอยู่บ้าง หลายครั้งที่สมัยเขาเป็นหนุ่มน้อย ดวยนิสัยของเขาไม่เคยยอมและลงให้ใคร มีเรื่องตีรันฟันแทง กับคู่อริเป็นประจำ ครั้งนั้น เขาไปต่างถิ่นคนเดียว โดนคู่อริยกพวกไล่ล่า เขาขับรถหนี ด้วยความเร็ว ทำให้รถคว่ำ เขาสลบคาที่ คราวนั้นครอบครัวเขาคิดว่าเขาไม่รอด เขาสลบไปเกือบเดือนมันเหมือนความฝัน เขาเดินเข้าป่าลึก
“ไปหนูน้ำอบ ไปใส่บาตรกันลูก” นางอรพิณ แตะที่แขนของกรรณญาวีร์ ให้ลุกไปใส่บาตร“ค่ะคุณป้า “หญิงสาวลุกขึ้น ถือขันข้าวสวยเพื่อไปใส่บาตร น้ำอบเตินตามนางอรพิณไป และต่อหลังเพื่อรอใส่บาตร น้ำอบเพิ่งสังเกตว่าคนเยอะมาก เธอนั่งข้างหน้า และไม่ได้หันมามองข้างหลังเลย ระหว่างที่ยืนรอใส่บาตรนั้นเอง เสียงผู้หญิงเรียกชื่อน้ำอบ“น้ำอบ น้ำอบใช่ไหม มาวัดด้วยเหรอ ดีจริง “กรรณญาวีร์ หันไปตามเสียงเรียกจากทางด้านหลัง ผู้หญิงคนที่เธอเหยียบเท้าอยู่ในเซเว่นนี่นา จำได้ล่ะ ชื่อพุดกรอง สวยจัง พุดกรองใส่ๆๆชุดคล้ายของน้ำอบเลย แต่เสื้อคนละสี “สวัสดีจ๊ะ พุดกรองมาวัดด้วยเหรอ น้ำอบไม่เห็นเลย ““กรองมารอบสองจ๊ะ เมื่อเช้ามาส่งแม่ แล้วก็กลับไปเปิดร้าน แล้วก็รีบมานี่แหละ”ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ“อ้าว สองสาว รู้จักกันแล้วเหรอลูก” เสียงนางอรพิณ ดังขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆ“ค่ะแม่ เมื่อวานกรองเจอน้ำอบที่เซเว่นค่ะ บังเอิญมาก น้ำอบเหยียบเท้ากรอง เลยได้รู้จักกันค่ะ”“ดีๆ แล้วลูก รู้จักกันไว้ดีแล้ว มาๆ เตรียมใส่บาตรรกันเถอะลูก”ๆๆๆๆ“กรองใส่บาตรกับน้ำอบก็ได้นะ ข้าวน้ำอบเต็มขันเยอะมากเลย”“ได้เลย ขอบใจนะน้ำอบ “สองสาวใส่บาตรข้าวสวยด้วยกัน เสร็จแล้วก็
น้ำอบชอบอากาศตอนเช้าที่นี่จังเลย เงียบ มีแต่เสียงนก สายลมเย็นพัดผ่านปะทะตัว หอมดอกการเวกลอยมาจากซุ้มหน้าบ้าน ห้องนอนของน้ำอบอยู่ฝั่งติดประตูหน้าบ้าน เปิดหน้าต่างปุ๊ป ได้กลิ่นหอมชื่นใจมาก ทำให้เช้านี้สดชื่น ตื่นตัวดีจัง บ่ายนี้คาดว่าฝนตกอีกแน่ๆหญิงสาวลุกตั้งแต่ตีห้า ปู่กับย่าน่าจะยังไม่ตื่น เธอรีบหุงข้าว ทำกับข้าว แบ่งไว้ให้ปู่กับย่า สำหรับมื้อเช้า และกลางวัน เธอตั้งใจว่าหลังจากเสร็จจากถวายข้าวพระเสร็จแล้วจะกวาดลานวัด และล้างห้องน้ำต่อ กว่าจะกลับก็คงบ่ายๆ วันนี้น้ำอบทำกับข้าวสามอย่าง แบ่งไปวัด ข้าวสวย แกง ขนมหวาน น้ำเปล่า ธูป เทียน ดอกไม้ จัดเตรียมลงตะกร้าหวายใบย่อมขนาดกำลังดีหลังจากเตรียมของเสร็จ หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอเลือกใส่ผ้าถุงปาเต๊ะที่ตัดเป็นผ้าถุงสำเร็จ ยาวถึงตาตุ่ม ใส่เสื้อลูกไม้สีครีม แบบเรียบแต่ไม่เชย เข้ารูปแขนสั้น ที่ซื้อมาจากตลาดเมื่อวาน ปล่อยผมยาวตามธรรมชาติ น้ำอบสูง 175 สำหรับผู้หญิงไทยคือสูง ผอม แต่หุ่นดี มีหน้าอก มีเอว สะโพกผาย เธอรู้ว่าตัวเอง รูปร่างหน้าตาดี เลยไม่ค่อยชอบแต่งตัวเท่าไร ปล่อยตามธรรมชาติ จะแต่งหน้าแต่งตัว ก็เฉพาะงานสำคัญเท่า
เหมือนฝนจะตกเลย อากาศที่นี่ไม่น่าไว้ใจเหมือนที่ย่าว่าไว้ เมฆสีดำลอยอยู่ข้างหน้า น้ำอบกะว่าไม่น่าจะรอดแน่ๆ เธอปั่นจักรยานออกจากตลาดมาเรื่อยๆ อีกไม่เกิน 2 กิโลเมตรก็ถึงบ้าน หาที่หลบฝนดีกว่า น้ำอบแวะร้านกาแฟข้างทาง เมื่อตอนที่เธอปั่นจักรยานไปตลาด ร้านกาแฟจะอยู่ขวามือ กินกาแฟเวลานี้ก็คงไม่เป็นไรหรอก เพิ่งจากบ่ายโมงกว่าๆ เธอหลับง่ายอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร ได้หลบฝนด้วยดีที่เธอแวะไปที่ร้านซ่อมรถ ตามที่ปู่สั่ง มัวแต่ซื้อของเพลิน เกือบลืมไปเลย วันหลังต้องวางแผนให้ดีกว่านี้ ถ้าอีก 1 ชัวโมงฝนยังไม่ซา เธอคิดว่าจะใส่เสื้อกันฝน ปั่นจักรยานฝ่าฝนไป“สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับ เชิญเข้ามาก่อนครับ ฝนจะตกแล้ว เอาจักรยานเข้ามาจอดใต้หลังคาได้นะครับ เดี๋ยวจะเปียก”เด็กหนุ่มหน้าตาคมเข้มทีเดียว เปิดประตูให้เธอ“จอดได้เหรอคะ ขอบคุณมากค่ะ น้ำอบออกไปเข็นจักรยานขึ้นมาจอดใต้หลังคา ตามคำเชิญของคนในร้าน เดาเอาว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้าน”“นั่งตามสบายนะครับ วันนี้ฝนมาเร็ว แต่ตกไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวก็หยุด”“ขอเอสเปรสโซ่เย็นแก้วนึงค่ะ &l
“ใครเหรอคะ พี่การันต์ รู้จักเหรอคะ พุดเห็นพี่มองเขาตั้งแต่เขาเข้ามาในร้านแล้ว มีอะไรหรือเปล่าคะ” พุดกรอง ถามพี่ชาย เมื่อเห็นเขาจ้องมองผู้หญิงชุดยีนใส่รองเท้าแตะหูหนีบนันยาง รูปร่างสูง ผมยาว หน้าสวย เสียแต่ดูหน้านิ่งไปหน่อย อาการที่ไม่สนใจใครเลย ทำให้ดูก็รู้ว่าเป็นคนไม่ค่อยยุ่งกับใคร ผู้หญิงคนนี้รูปร่างดี มือเท้าเรียวสวย ไม่แต่งหน้าเลย จะว่าไม่แต่งก็ไม่ได้ เธอทาลิปสติกสีน้ำตาล สวยมาก แต่ถ้าที่ครุ่นคิด จ้องโทรศัพท์นั่น ดูครุ่นคิดกังวลจัง“เปล่า ไม่รู้จัก” เสียงห้วนๆ ตอบกลับมา“อ้าว เหรอคะ เห็นจ้องเอาๆ นึกว่ารู้จัก” พุดกรอง บ่นเบาๆ แล้วก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวของเธอต่อไป เธอตามอารมณ์พี่ชายไม่ค่อยทัน เขาอารมณ์ร้อน ใจร้อน เอาแต่ใจ แต่เขาก็เป็นพี่ที่ดี ปกป้องเธอ และทุกคนที่บ้านได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ทีแรกเธอคิดว่าผู้หญิงคนนั้น เป็นคนของพี่ชายเธอเสียอีก ดูหน้าตาน่าจะรุ่นเดียวกับเธอ พี่น้องกันคงไม่เกิน 2 ปี ลูกบ้านไหนนะ ไม่น่าจะใช่คนแถวนี้ ดูจากลักษณะ ผิวพรรณ ท่าทางสบายๆ ช้าๆ เนิบๆ สะดุดตาทีเดียวดูจากท่าทางพี่การันต์แล้วเหมือนไม่ค่อยชอบผ
เสียงนกร้อง ดังมาจากด้านนอกหน้าต่าง เช้าแล้วเหรอเนี้ย น้ำอบลืมตาขึ้น หญิงสาวหันมามองย่าที่นอนข้าง ย่ายังไม่ตื่น น้ำอบลุกขึ้นลงจากเตียงเดินไปเปิดหน้าต่าง แค่เปิดหน้าต่าง ลมเย็นก็พัดเข้ามาปะทะร่างของน้ำอบ หน้าต่างบ้านย่ามีเหล็กดัดขนาดใหญ่มาก ไม่ได้ทำเป็นแบบสวยงาม เป็นเหล็กดัดแบบโบราณ คือใช้เหล็กกลมยาว เรียงกันถี่ๆ เหมือนกั้นรั้วบ้าน แค่นั้นเอง ซึ่งมันจะแข็งแรงมากๆ“เป็นไงหลาน ลมเย็นดีไหม” เสียงย่าดังมาจากด้านหลัง“น้ำอบหันมาตามเสียง ย่าขาน้ำอบทำย่าตื่นไหมคะ”“ไม่หรอกลูก ปกติย่าก็ตื่นเวลานี้แหละน้ำอบพาย่าเข้าห้องน้ำ เตรียมเสื้อผ้า ย่าแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวปลีกตัวไปเตรียมอาหาร เสร็จแล้วยกสำรับมาให้ปู่กับย่า สามคนกินข้าวเช้า พร้อมหน้ากัน น้ำอบชอบแบบนี้ เธอรู้สึกว่าอบอุ่นมากที่สุด มันเป็นชีวิตที่เธอโหยหาตลอด ไม่มีที่ไหนอบอุ่นและเย็นใจเท่าบ้านหลังนี้อีกแล้ว เธอคุ้นเคยกว่าบ้านพ่อแม่ของตัวเองเสียอีก“น้ำอบจะไปตลาดยังไงล่ะลูก ปั่นจักรยานไหวไหม “ปู่เปลวหันมาถามหลานสาว“ไหวค่ะปู่ น้ำอบว่าจะไปดูที่ตล