Share

บทที่ 734

Penulis: ลั่วหูโยว
เมื่อก่อนเมื่อคุณแม่ฉินมีความคิดนี้ เธอมักจะรู้สึกผิดและรู้สึกว่าหัวใจของเธอมืดมนเกินไป แต่เธอคาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ในเวลานี้ คุณพ่อฉินที่หนักแน่นมาโดยตลอดก็พูดว่า: "จริงๆแล้วลูกไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าเป็นหนี้เธอ นับตั้งแต่เธอช่วยชีวิตแก หลายปีมานี้ ตระกูลฉินของเราได้ทำอะไรตั้งมากมายให้พวกเขาอยู่เบื้องหลัง ไม่งั้นตระกูลเจียงคงจะไม่สามารถมาถึงจุดที่พวกเขาอยู่ในทุกๆวันนี้ได้เองหรอก พวกเขาคงล้มละลายและหายไปตั้งนานแล้ว”

“ใช่แล้ว ครั้งก่อนที่ลุงเจียงรับออเดอร์มา บริษัทก็เกือบจะล้มละลาย แต่เป็นพ่อของลูกที่ช่วยพลิกสถานการณ์ให้ ตระกูลเจียงยังใช้ชื่อของตระกูลฉินในการทำเรื่องต่างๆมากมายลับหลัง ถึงสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเอามาแลกกับชีวิตของลูกได้ แต่ตระกูลฉินของเราก็เมตตาต่อตระกูลเจียงอย่างถึงที่สุด ดังนั้นถ้าเราเสนอผลประโยชน์และพูดคุยกันดีๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถตัดความสัมพันธ์ได้” คุณแม่ฉินพูดเสริม

สำหรับพ่อแม่แล้ว ไม่ว่ายังไง ความคิดของลูกชายก็สำคัญที่สุด

เมื่อพูดถึงตรงนี้ คุณแม่ฉินก็นึกอะไรขึ้นได้และแสดงสีหน้าที่เป็นกังวลออกมา

“ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น จริงๆฉูฉู่ก็เป็นคนดี
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
พี่ชอบขอ น้องชอบเบิ้ล
ต่อค่ะ คุณนักเขียนได้อ่านเนื้อเรื่องแบบนี้ก็ไม่ทำให้เครียดดีกว่าอ่านนิยายที่พระเอกโง่ๆหูเบาเสียรู้นางร้ายตลอดจนทำร้ายนางเอก
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 735

    แค่ได้ยินว่าเสิ่นหยินอู้กลับมาแล้ว เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ถ้าเธอบอกว่าเฉินหยุนหวู่ให้กำเนิดลูกสองคน เธอจะตื่นเต้นมากกว่านี้ไหม? อย่างไรก็ตาม ฉินเย่จะไม่บอกเรื่องนี้ให้เธอรู้ในตอนนี้ ท้ายที่สุดแล้ว...หยินอู้ก็ยังไม่ยอมรับเขา เธอยังกลัวว่าเขาจะแย่งลูกๆไปจากเธอ ตามนิสัยของแม่ เธอคงจะดีใจมากอย่างแน่นอนถ้าเธอรู้ว่าเธอมีหลาน ถ้าเธอรู้ว่าเธอมีหลาน และถ้าเขายังต้องมาหยุดไม่ให้เธอไปเจอหลาน มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะไม่สามารถหยุดเธอได้ ความตื่นเต้นของคุณแม่ฉินจะทำให้เสิ่นหยินอู้ตกใจกลัวอย่างแน่นอน ดังนั้นควรเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อนจะดีกว่า แต่เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ฉินเย่พูดไปเมื่อครู่นี้ทำให้คุณนายฉินเกิดความสงสัย "ทำไมแม่ถึงต้องดีใจมากจนนอนไม่หลับล่ะ? มีเรื่องอะไรดีๆหรอ? ลูกกลับมาคืนดีกับเธอแล้วหรอ?" ฉินเย่: "..." ก่อนที่เขาจะได้ทันอธิบาย คุณแม่ฉินก็เริ่มทึกทักไปเองแล้ว “แม่เข้าใจแล้ว เพราะลูกคืนดีกับเธอแล้ว ฉูฉู่ก็เลยร้อนใจมากจนต้องใช้วิธีสกปรกแบบนี้เพื่อรั้งลูกเอาไว้ใช่ไหม?” "..." สีหน้าของฉินเย่เหวอไปเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงเลยว่าความเข้าใจของแม่เขาจะตรงกับความจร

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 736

    ในตอนแรกเธอคิดว่าการฆ่าตัวตายจะกระตุ้นความสงสารของฉินเย่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะไม่ได้ผลเลยสักนิด เจียงฉูฉู่มองไปที่คุณแม่เจียงอย่างหดหู่ “แม่ แม่ไม่ได้บอกว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลแน่นอนงั้นหรอ? แต่ตอนนี้ฉินเย่ไม่รับสายเลย เขาเกลียดหนูไปแล้วใช่ไหม? เขาไม่อยากเจอหนูอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?” คุณแม่เจียงกัดริมฝีปากล่าง: "คิดไม่ถึงเลยว่าฉินเย่จะเป็นที่ใจแข็งขนาดนี้" "ทั้งหมดเป็นความผิดของแม่" เจียงฉูฉู่ร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยใจ: "ถ้าแม่ไม่เสนอความคิดที่จะให้หนูวางยาเขา เรื่องระหว่างหนูกับเขาคงไม่เป็นแบบนี้ หนูก็คงยังอยู่ข้างๆเขาได้..." การที่เธอร้องไห้เสียใจทำให้คุณแม่เจียงรู้สึกหงุดหงิดมาก ถึงขั้นยังตำหนิฉูฉู่ด้วย เธอหรี่ตาลงและดุว่า: "ถ้าแกไม่ไม่ได้อยู่ในสภาพที่น่าสมเพชขนาดนั้น ฉันจะต้องถึงกับคิดอะไรแบบนี้ให้แกไหม? ทำไมแกไม่โทษตัวเองล่ะ? เขาเดินเข้ามาในกำมือของแกแล้วแท้ๆ แต่แกก็ยังปล่อยเขาหลุดมือไป แกมันไร้ประโยชน์เองแท้ๆแต่ดันมาโทษฉันว่ามีความคิดแย่ๆงั้นหรอ? แกเป็นแบบนี้ยังคิดอยากอยู่ข้างๆเขาอีกงั้นหรอ?” เมื่อได้ยินคำพูดดูถูกจากคุณแม่เจียง เจียงฉูฉู่ก็นึกถึงเมื่อคืนนี้ที่เธอได้นอนกับ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 737

    ความทรงจำเหล่านั้นที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาในหัวเธอเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้เธอค่อยๆปะติดปะต่อภาพที่กระจัดกระจายเข้าด้วยกันได้ วันนั้นฉินเย่ลื่นตกลงไปในน้ำ เนื่องจากเขาเคยมีประสบการณ์จมน้ำในตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาจึงกลัวน้ำมาโดยตลอดและไม่เคยเรียนว่ายน้ำเลย เนื่องจากเธอและฉินเย่ไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน ดังนั้นเวลาเธอออกไปข้างนอก เธอจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนๆในห้อง ครั้งนั้นเป็นเพื่อนโต๊ะข้างๆเธอที่แนะนำให้ไปที่แม่น้ำเพื่อจับกุ้ง ทั้งสองตกลงกัน แต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง เพื่อนของเธอก็บอกว่าเธอลืมของ และบอกให้หยินอู้ไปรอเธอที่ริมแม่น้ำก่อน เสิ่นหยินอู้ตกลง และเพื่อนของเธอก็กลับไปเอาของ ส่วนหยินอู้ก็ไปที่ริมแม่น้ำก่อน ความหนาวเย็นแผ่ไปทั่วริมแม่น้ำในฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างทางเสิ่นหยินอู้ถูกลมพัดจนต้องหดคอลง และยังลังเลอยู่ว่าจะกลับไปบอกเพื่อนว่าไม่ต้องไปจับกุ้งจะดีกว่าไหมเพราะอากาศหนาวเกินไป ถ้าไปจับกุ้ง ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะหนาวจนเป็นหวัดหรือเปล่า เธอกำลังสับสนอยู่ในใจ และเมื่อเธอกำลังจะกลับไป จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ เสิ่นหยินอู้มองไปตามเสียงและเห็นเจี

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 738

    ในท้ายที่สุดเธอก็หมดสติไป ความทรงจำในอดีต ในขณะนี้กำลังแสดงอยู่ในหัวของเสิ่นหยินอู้เหมือนกับภาพยนตร์ที่ฉายอยู่ คำทรงจำเหล่านั้นที่เธอจำไม่ได้เลย ในตอนนี้กลับชัดเจนมากแม้แต่ในรายละเอียดเล็กๆ หลังจากที่เธอจำทุกอย่างได้ เสิ่นหยินอู้ก็หายใจแรงขึ้น เธอยื่นมือออกมากุมที่หน้าอกของเธอโดยไม่รู้ตัวและสูดหายใจเฮือกใหญ่ๆเข้าไป เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน?ที่แท้คนที่ช่วยฉินเย่ไว้ คือก็เธองั้นหรอ??? แล้วเจียงฉูฉู่ล่ะ? ตอนแรกไม่ได้บอกว่าเจียงฉูฉู่เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉินเย่ไว้หรอ? แล้วทำไมเธอถึงมีความทรงจำนี้ล่ะ? เจียงฉูฉู่แอบอ้างสิทธิ์ในความดีความชอบของเธอ หรือว่าความทรงจำของเธอมีอะไรผิดพลาด แต่หากมีอะไรผิดพลาด ความทรงจำเหล่านี้จะเหมือนจริงเช่นนี้ได้อย่างไร? ในชั่วขณะหนึ่ง ความถี่ในการหายใจของเสิ่นหยินอู้ไม่สามารถลดลงได้เลย ประมาณสิบนาทีต่อมา เธอก็พลิกตัวและลุกขึ้นจากเตียง เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและหาเบอร์ของฉินเย่เพื่อที่จะโทรหาเขา เธอกดโทรออกอย่างรวดเร็ว และเมื่อโทรติดแล้ว เสิ่นหยินอู้กลับเสียใจขึ้นมาและรีบกดวางสาย จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปกุมหน้าผากด้วยความรำคาญใจ เธอกำล

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 739

    หลังจากวางสายแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆเธอ ถึงเวลาที่เธอจะต้องนอนแล้ว สำหรับเรื่องที่เธอนึกขึ้นได้ในวันนี้ เธอต้องหาทางพิสูจน์ ไม่เช่นนั้นคำพูดเพียงไม่กี่คำของเธอเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถทำให้คนอื่นเชื่อเธอได้เลย ท้ายที่สุดแล้ว...มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้ปัญหาก็คือ จะพิสูจน์ได้อย่างไรกัน เสิ่นหยินอู้นอนลง แต่เธอไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด ภายในหัวของเธอเต็มไปด้วยภาพเหล่านั้นที่ในที่สุดก็กลับคืนมา ยิ่งเธอคิด เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดอยู่ในหัวมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากเจียงฉูฉู่ช่วยฉินเย่ไว้ในตอนนั้น ฉินเย่จึงปฏิบัติต่อเธอแตกต่างไปจากเดิมมาก จากเดิมที่มีเพียงพวกเขาสองคนที่เล่นด้วยกันตอนเด็ก แต่ต่อมาก็มีเจียงฉูฉู่เพิ่มเข้ามาด้วยอีกคนหนึ่ง เธออิจฉาฉูฉู่แทบจะตลอดเวลา ในตอนที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุด เธอถึงขั้นจินตนาการว่ามันคงจะดีถ้าเธอเป็นคนที่ช่วยเขาไว้ แต่เธอคาดไม่ถึงเลยว่า ที่แท้คนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก็คือเธอจริงๆ แต่ในตอนนั้นกลับถูกเจียงฉูฉู่แอบอ้างไปก็เท่านั้นเอง แอบอ้าง... ดวงตาที่งดงามของเสิ่นหยินอู้หรี่ลงเล็กน้อย ในตอนนั้นเธอช่วยฉินเย่ก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 740

    ขณะที่เสิ่นหยินอู้กำลังจะพูด ฉินเย่ก็ก้าวเข้ามาและปิดประตู และเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ทำให้เธอแทบจะตัวติดกับผนังกำแพงตรงโถงทางเข้า "คุณมีอะไรจะพูดกับผมหรอ?" เสียงของฉินเย่ต่ำและแหบแห้ง สายตาของเขาลึกซึ้งมาก เหมือนกับหมาป่าที่กำลังตามหาเหยื่อในค่ำคืนอันเงียบสงบเสิ่นหยินอู้: "..." เธอรู้สึกว่าเขาได้คืบจะเอาศอกอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้าคืนก่อนหน้านี้ เขายังไม่กล้าทำแบบนี้กับเธอเลยและในตอนเช้าวันนี้ ก่อนออกจากบ้าน เขาก็จูบเธอที่หน้าผากอีก เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือออกไปผลักเขาออกไป "คุณทำอะไรเนี่ย? ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าฉันโทรผิด?" "ผมไม่เชื่อ" ฉินเย่ประสานนิ้วกับเธอและยับยั้งความวู่วามที่จะพูดอะไรเลี่ยนๆของตัวเอง: "คุณเป็นคนมีเหตุผลมาก ไม่มีทางโทรหาผมเพราะโทรผิดในเวลาแบบนี้หรอก" เสิ่นหยินอู้ชะงักไป “ดังนั้นการที่คุณโทรหาผม ก็คงมีเรื่องจะคุยกับผมแน่ๆ” เสียงของฉินเย่อ่อนโยนนุ่มนวลมาก: “คุณไม่อยากบอกผมทางโทรศัพท์ ผมก็เลยได้แต่ต้องมาหาคุณเอง” เขารู้จักเธอมาหลายปี เขาก็ยังเข้าใจเธอดีมาก เสิ่นหยินอู้มองไปที่เขาและเม้มริมฝีปาก แต่กลับไม่พูดอะไร ฉินเย่เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 741

    เมื่อสัมผัสได้ถึงริมฝีปากบางของเขาที่แนบติดกับริมฝีปากของเธอ เสิ่นหยินอู้ก็หยุดหายใจ เธอเอนตัวไปด้านหลังโดยอัตโนมัติ มือใหญ่คู่หนึ่งจับเอวของเธอไว้แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา จากนั้นริมฝีปากสีแดงของเธอก็ถูกเขาจุมพิต "อื้อ" หลังจากตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือออกไปผลักเขาออกไปอย่างแรง "ฉันกำลังคุยกับคุณนะ คุณทำบ้าอะไรเนี่ย?" หลังจากที่ฉินเย่ถูกผลักออกไป เขาก็มองเธออย่างติดใจและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า "ผมเห็นคุณหึง ก็เลยอยากจูบคุณ" “ใครหึง?” เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว ฉินเย่ยิ้มและไม่พูดอะไรต่อ เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาเล็กน้อย เธอกำลังพูดกับเขาด้วยความจริงจัง แต่เขากลับทำตัวเอ้อระเหยลอยชาเหมือนกับว่าไม่เชื่อเธอ เขาจึงจงใจทำเช่นนี้เพื่อมาเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: "คุณกำลังจงใจทำให้ฉันเสียสมาธิใช่ไหม?" ฉินเย่: "..." “คิดเพ้อเจ้ออะไรน่ะ ผมเชื่อคุณอยู่แล้ว” ฉินเย่เอื้อมมือไปบีบแก้มเธอ สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? คนที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 742

    “ช่างมันเถอะ” เสิ่นหยินอู้หันกลับมา “ยังไงมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ถ้าฉันนึกเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้ ทุกคนคงคิดว่าเธอเป็นคนช่วยคุณ” เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของเธอ ฉินเย่ก็เม้มริมฝีปาก “ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ปล่อยให้คนอื่นเอาความดีความชอบของคุณไปแอบอ้างโดยไม่มีเหตุผล” เสิ่นหยินอู้หัวเราะเยาะ “คุณพูดไปตอนนี้จะไปมีประโยชน์อะไร? ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเป็นคนช่วยคุณหมดแล้ว นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว หรือคุณคิดจะออกไปป่าวประกาศว่าคนที่ช่วยคุณไว้คือฉัน ไม่ใช่เธออย่างงั้นหรอ? คุณมีหลักฐานหรอ?” "ไม่มี" "งั้นก็ไม่..." เธอรู้สึกถึงแรงที่ไหล่ของเธอ จู่ๆฉินเย่ก็จับไหล่ของเธอแล้วดึงเธอให้หันหน้ามาหาเขา “หลักฐานน่ะ แค่ถ้าผมอยากได้ มันก็มีอยู่แล้ว” เสิ่นหยินอู้ตกใจ: "อะไรนะ?" ฉินเย่พูดอย่างใจเย็นว่า: "เดิมที ผมแค่อยากจะตัดความสัมพันธ์กับเธอ ท้ายที่สุดเธอก็เคยช่วยผมไว้ แต่ตอนนี้ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นคนที่ช่วยผม ผมคงไม่ทำแค่การตัดความสัมพันธ์ง่ายๆอย่างเดียวหรอก" เสิ่นหยินอู้มองเขาอย่างแน่วแน่ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็หันไปแล้วพูดว่า "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?" “นั่วนั่ว” ในโถงทางเข้าที่มีแสงสลัวๆ ฉินเย่เ

Bab terbaru

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status