“ผมยอมรับเงื่อนไขในพินัยกรรมทุกอย่าง ไม่มีปัญหาเรื่องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็กสาวคนนี้”
ไรอันกล่าว ก่อนจะเสร็จสิ้นการอ่านพินัยกรรมที่ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
“ขอบคุณคุณประภาษที่มาทำหน้าที่สำคัญนี้แทนคุณพ่อ”
ไรอันกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“เป็นหน้าที่ของผมครับ”
ทนายประภาษยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก
“หากวิญญาณของคุณพ่อรับรู้ ท่านก็คงหมดห่วง”
ไรอันรำพึง
“วันนี้…คงเป็นวันที่ท่านมองลงมาจากสรวงสวรรค์อย่างเป็นสุข”
ทนายประภาษเสริมขึ้นเบาๆ
“อืม...ถ้าคุณประภาษว่าง เย็นนี้ผมอยากจะเชิญคุณประภาษมาทานข้าวเย็นกับผมสักมื้อ เพื่อตอบแทนที่คุณประภาษเป็นธุระจัดการเรื่องพินัยกรรมให้เป็นไปตามเจตจำนงของคุณพ่อ”
ไรอันกล่าวเชื้อเชิญด้วยน้ำใสใจจริง
“เป็นเกียรติกับผมมากกว่าครับ…คุณไรอัน”
“แล้วเจอกันตอนค่ำนะครับ”
ไรอันระบายยิ้มบางๆ ก่อนที่ทนายประภาษจะขอตัวกลับ
ทนายประภาษเป็นคนที่คุณคีรีผู้เป็นพ่อของไรอันไว้เนื้อเชื่อใจตลอดมา
นอกจากจะให้ตำแหน่งที่ปรึกษาในเชิงกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ อีกสถานะหนึ่ง คุณประภาษก็เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่คุณคีรีให้ความไว้วางใจ คุณประภาษคือเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาซึ่งมากกว่าในเรื่องกฎหมาย ตราบจนถึงวาระสุดท้ายของคุณคีรี
ครู่เดียวทนายประจำตระกูลก็ลากลับ
นมช้อยเดินตามไปส่งถึงหน้าประตูบ้าน ทิ้งร่างสูงใหญ่ของคนเป็นนายที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้
ไรอันจ้องมองดูภาพของพ่อกับแม่ที่ประดับไว้ข้างผนังด้วยแววตาที่มีประกายเศร้าเจือเคล้าเอาไว้ด้วยความคิดถึงที่ผุดพรายขึ้นมาอย่างมิอาจหักห้าม ก่อนที่ในห้วงคิดสุดท้ายจะวกวนไปหยุดอยู่กับคำถามที่ว่า
‘เด็กสาวปริศนาคนนั้นเป็นใคร? หรือมีความลับอะไรเกี่ยวพันกับผู้เป็นบิดา?’
เพราะไรอันเห็นว่าคุณประภาษจะให้ความกระจ่างถึงที่ไปที่มาของเด็กสาวผู้มาพร้อมกับปริศนาคนนี้ให้กับเขาได้ เด็กสาวที่ชื่อของเธอปรากฏอยู่ในพินัยกรรมอย่างไม่มีที่ไปที่มา?
ใกล้ค่ำที่คฤหาสน์
ลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ทอดทอนุ่มนวลในยามใกล้ค่ำ อุ่นอวลไปทั่วบริเวณของคฤหาสน์ น้ำพุที่ลานด้านหน้า ฉีดพุ่งขึ้นเป็นสาย ก่อนจะโค้งตัวร่วงหล่นลงกลางสระน้ำที่รายล้อมไปด้วยกอบัวหลากสีสัน
สายน้ำพุที่พวยพุ่งอยู่เป็นประจักษ์ประจำตั้งแต่ไรอันเริ่มจำความได้ ยังคงอยู่คู่คฤหาสน์หลังงามแห่งนี้ ผ่านกาลเวลามานานแค่ไหนนั้น…คราบตะใคร่น้ำสีเขียวที่เกาะจับสลับไปตามลวดลายปูนปั้นที่สลักเสลาเป็นรูปกลีบบัวรอบบริเวณฐานกลมกว้างของแท่นน้ำผุ ก็ช่วยยืนยันถึงอายุขัยและความเก่าแก่ของมันได้เป็นอย่างดี
“คุณไรอันคะ…คุณไรอัน”
สาวใช้เรียกชื่อของคนเป็นนายเบาๆ
“หืม…มีอะไรรึ!”
ไรอันละสายตาจากหนังสือพิมพ์ตรงหน้า หันมาตามเสียงเรียก
“ คุณประภาษมาถึงแล้วค่ะ”
สาวใช้รายงานเพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
ถึงเวลานัดรับประทานอาหารเย็นของไรอันกับทนายประภาษ ตามเจตจำนงของไรอัน ซึ่งไม่เพียงอยากตอบแทนที่คุณประภาษทำหน้าที่ทนายของตระกูลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
หากไรอันยังประสงค์สิ่งอื่น
‘คือต้องการไขข้อคับข้องใจจากพินัยกรรมที่ผูกเงื่อนปมขึ้นในใจของไรอันตลอดมา นับตั้งแต่ได้ยินเรื่องเด็กสาวผู้เป็นปริศนาคนนั้น?’
“บอกกับคุณทนายให้รอสักครู่ ผมกำลังจะลงไปเดี๋ยวนี้”
ไรอันกล่าวกับสาวใช้ ทอดสายตามองไปที่สวนดอกไม้ข้างเรือนรับแขกหลังเล็ก สวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ หลากสีสัน ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับคฤหาสน์ กลิ่นหอมของมันรวยรินอยู่ในสายลมระรื่น
วูบหนึ่งในความคิดคำนึง
ชายหนุ่มรู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมาจับใจ เพราะมันคือ ‘สวนดอกไม้ของแม่’ ที่พ่อเป็นคนสร้างเอาไว้ให้กับแม่ แม้วันนี้มันจะเป็นเพียงอนุสรณ์ของความรักของพ่อกับแม่ก็ตาม
ที่เรือนรับแขกหลังเล็ก
อาหารคาวหวานถูกตระเตรียมเอาไว้เพียบพร้อม ที่โต๊ะใกล้ๆ กับสวนดอกไม้ ซึ่งไรอันให้เหตุผลในการเลือกตั้งโต๊ะบริเวณนั้นว่าบรรยากาศยามเย็นของสวนดอกไม้ที่คฤหาสน์แห่งนี้ สวยงามราวกับสวนสวรรค์ที่ถูกเนรมิตขึ้นบนดิน
สวนที่สร้างขึ้นด้วยความรักของพ่อที่มีต่อแม่ มีกุหลาบหลากสีสันหลายสายพันธ์ เป็นสวนที่เปรียบเสมือนบ้านและถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่าผีเสื้อและภู่ผึ้งจำนวนมาก บินวนเวียนมาทายทักทายเกสรอันฉ่ำหวานของมวลดอกไม้มิเว้นวัน
“Heaven on earth” คือคำเปรียบเปรยที่ไรอันใช้เรียกสวนดอกไม้แห่งนี้ ซึ่งนมช้อยมักจะได้ยินบ่อยๆ
“คุณท่านคีรีได้ฝากให้ผมจัดการเรื่องรับตัวเด็กมาอุปการะ เอ่อ...ถ้าคุณไรอันพร้อม ผมจะดำเนินการเรื่องไปรับตัวเด็กมาเลยนะครับ”
คุณประภาษขออนุญาต
“เรื่องนี้เช่นกัน ที่ผมตั้งใจนัดคุณประภาษมาคุยในค่ำนี้”
กล่าวพลางเดินนำไปที่โต๊ะอาหารตรงหน้า
เป็นโต๊ะทรงกลมเล็กที่จัดไว้อย่างจงใจให้ใกล้ชิดและเป็นกันเอง
บรรยากาศรายรอบจึงดูผ่อนคลายลงไปมาก
ไรอันเห็นอาการกลืนน้ำลายลงคอเหมือนคนคอแห้งของทนายประภาษ เพราะเกิดความสะท้อนสะเทือนใจในเรื่องที่ตัวเองกำลังเป็นคนเล่าอยู่นั้น“แล้วจากนั้น…เรื่องราวดำเนินไปอย่างไรครับ” ไรอันอยากรู้ต่อ“วันหนึ่ง!...ข่าวการตายของวศินก็ถึงหูคุณพ่อของคุณไรอัน คุณพ่อของคุณไรอันได้ยื่นมือเข้าช่วยสองแม่ลูกในทันทีที่รู้ข่าว คุณคีรีมีโอกาสพบเจอกับรำเพยเพียงช่วงเวลาสั้นๆของชีวิตก่อนที่จะเสียชีวิตลงไม่กี่วัน แต่ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น…ที่แสนสุข จากที่ทั้งคู่แอบไปมาหาสู่กันโดยที่คุณแม่ของคุณไรอันไม่เคยล่วงรู้ความจริงในข้อนี้”“คุณพ่อกับแม่ของเด็กสาวคนนี้คบหากันแบบชู้สาวใช่ไหมครับ?”ไรอันถามออกไปตรงๆทว่าสีหน้าก็ไม่ได้แสดงอาการตกใจ หากทนายประภาษจะตอบว่า “ใช่”“ในความจริงก็ใช่!...ทว่าสองคนนี้เคยรักกันมาก่อน”“รักกันมาก่อน?”ไรอันขมวดคิ้ว กับคำตอบที่ยิ่งเพิ่มความสงสัย“ครับ…สองคนนนี้เคยเป็นคนรักกันมาก่อน…ก่อนที่คุณคีรีจะมาแต่งงานกับคุณเดียน่าแม่ของคุณไรอันด้วยซ้ำ รำเพยที่เป็นแม่ของเด็กสาวที่ชื่อทอรุ้งเป็นคนรักคนแรกของคุณคีรี แต่ระหว่างที่คุณคีรีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ด้วยขาดการติดต่อกันนานจนกลายเป็นความเข้า
“ผมเดาได้ว่าคุณไรอันคงสงสัยเช่นกัน ถึงความเป็นมาของเด็กสาวคนนี้”“คุณประภาษกล่าวเหมือนรู้ใจผม”ไรอันเอ่ย“ต้องขอโทษด้วยที่มีความจำเป็นให้ต้องปิดบังคุณไรอันมาจนถึงวันนี้”ทนายประภาษเริ่มเกริ่น“ซึ่งเป็นเพราะความประสงค์ของคุณคีรี ซึ่งคุณคีรีเองก็เพิ่งทราบเรื่องเด็กสาวคนนี้เพียงเดือนเดียว และก่อนหน้าที่ท่านจะเสียชีวิตได้ไม่นาน ท่านสั่งให้ผมร่างพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมาทันที จะว่าไปก็เหมือนเป็นลางสังหรณ์ก่อนที่ท่านจะมาเสียชีวิต ต้องขอโทษจริงๆ ที่ผมจำต้องปิดบังเอาไว้”คุณประภาษเอ่ยขอโทษอีกครั้ง“ข้อนั้นผมเข้าใจ ที่ต้องปิดบังเอาไว้เป็นเพราะคุณประภาษได้สัญญาไว้กับคุณพ่อ”ไรอันชำเลืองไปยังนมช้อยที่เดินยิ้มหน้าชื่นเข้ามาช้าๆ“เชิญคุณไรอันกับคุณทนายกับที่โต๊ะอาหารเลยค่ะ”นมช้อยกล่าว“เชิญครับ”ไรอันผายมือไปที่โต๊ะอาหารเป็นสัญญาณเชื้อเชิญ ซึ่งมีอาหารน่ารับประทานหลายอย่างเรียงรายรออยู่ตรงหน้าภายหลังจากเวลาครู่ใหญ่ๆได้ถูกใช้ไปบนโต๊ะอาหาร ไรอันกวาดสายตามองหาสาวใช้ที่เดินเข้ามารับคำสั่งเบาๆ จากคนเป็นนาย ก่อนจะเดินลับกลับเข้าไปในบ้านอย่างรู้จังหวะ และกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับโรมานี กองติ (Romani Co
“ผมยอมรับเงื่อนไขในพินัยกรรมทุกอย่าง ไม่มีปัญหาเรื่องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็กสาวคนนี้”ไรอันกล่าว ก่อนจะเสร็จสิ้นการอ่านพินัยกรรมที่ใช้เวลาเกือบชั่วโมง“ขอบคุณคุณประภาษที่มาทำหน้าที่สำคัญนี้แทนคุณพ่อ”ไรอันกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม“เป็นหน้าที่ของผมครับ”ทนายประภาษยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก“หากวิญญาณของคุณพ่อรับรู้ ท่านก็คงหมดห่วง”ไรอันรำพึง“วันนี้…คงเป็นวันที่ท่านมองลงมาจากสรวงสวรรค์อย่างเป็นสุข”ทนายประภาษเสริมขึ้นเบาๆ“อืม...ถ้าคุณประภาษว่าง เย็นนี้ผมอยากจะเชิญคุณประภาษมาทานข้าวเย็นกับผมสักมื้อ เพื่อตอบแทนที่คุณประภาษเป็นธุระจัดการเรื่องพินัยกรรมให้เป็นไปตามเจตจำนงของคุณพ่อ”ไรอันกล่าวเชื้อเชิญด้วยน้ำใสใจจริง“เป็นเกียรติกับผมมากกว่าครับ…คุณไรอัน” “แล้วเจอกันตอนค่ำนะครับ”ไรอันระบายยิ้มบางๆ ก่อนที่ทนายประภาษจะขอตัวกลับ ทนายประภาษเป็นคนที่คุณคีรีผู้เป็นพ่อของไรอันไว้เนื้อเชื่อใจตลอดมานอกจากจะให้ตำแหน่งที่ปรึกษาในเชิงกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ อีกสถานะหนึ่ง คุณประภาษก็เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่คุณคีรีให้ความไว้วางใจ คุณประภาษคือเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาซึ่ง
ภายหลังการเสียชีวิตของผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านและภรรยา ‘ป้าช้อย’ หรือ ‘นมช้อย’ แม่เรือนใหญ่ก็คอยทำหน้าที่ดูแลบ้านเพื่อรอคอยการกลับมาของไรอันนมช้อยคอยรับหน้าที่ดูแลเรื่องการเรือนและคนใช้ผู้หญิงเป็นหลัก ส่วนงานภายนอกบ้าน คนรถ คนสวน ยาม และงานของผู้ชายทุกๆ อย่าง มีลุงชิตผู้เป็นสามีของนมช้อยคอยช่วยแบ่งเบาภาระรับผิดชอบอยู่ภายใต้คฤหาสน์หลังงามที่มีเนื้อที่กว่าร้อยไร่ซึ่งต้องใช้คนงานจำนวนมากเพื่อคอยดูแลความเรียบร้อย“โน่นไงคะ...คุณไรอันกำลังเดินลงมาพอดี”นมช้อยช้อนชำเลืองสายตาไปที่บันไดซึ่งวนเกลียวโค้งลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์ไรอัน หนุ่มฉกรรจ์ผู้มีสายเลือดผสม โครงร่างสูงใหญ่มาก ทว่าสมส่วนและสง่างามในทุกสรีระ แผงอกผึ่งผาย ปั้นใหญ่กว้าง อยู่ในชุดลำลอง สวมกางเกงขายาวสีน้ำตาลหลวมๆ เสื้อเชิ้ตลายตารางเรียบ สีทึมเทาสลับขาว กระดุมเม็ดแรกนับจากแนวบนสุดของสาบเสื้อที่ไม่ได้ติดเอาไว้ เผยแพขนเลื่อมพรายเหมือนแพรไหมสีน้ำตาลไหม้แพลมออกมารำไร บางส่วนเลื้อยไล่ขึ้นมาจากแผงอกกว้าง สูงขึ้นมาเกือบถึงลำคอและใต้คาง ช่วงไหล่กว้างนั้นรับกับร่างกายกำยำ ท่วงท่าเดินดูงามสง่าสมชายชาตรี ใบหน้านั้นถูกสลักเสลาได้ราวกับประต
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆผู้เขียน กาสะลอง “คฤหาสน์ซ่อนสวาท”ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ ภายในห้องรับแขก ใบพัดของพัดลมเพดานสีทองเหลืองที่มีขนาดความกว้างของใบพัดราวสองช่วงแขนเหยียด ตรงฐานก้านที่ยึดตัวพัดลมติดไว้กับฝ้าเพดาน ประดับประดาเอาไว้ด้วยลวดลายทองเหลืองมลังเมลือง ดัดเป็นรูปเครือเถาพรรณพฤกษาเรื้อยระไปถึงฝ้าเพดาลสูงโปร่งของห้องโถงโล่งกว้างแรงลมจากพัดลมช่วยพัดไล่ความร้อนที่เจืออยู่ในอากาศของยามสาย ทำให้ภายในห้องนั้นเย็นสบาย รู้สึกได้ถึงความโปร่งโล่งจากอากาศที่ถ่ายเทมาจากหน้าต่างและช่องลมขนาดใหญ่ภายใต้จั่วไม้ที่ขัดสานเป็นช่องให้ลมลอดผ่าน จั่วที่ยังคงไว้ด้วยศิลปะการเข้าไม้ตามแบบบ้านโบราณได้อย่างวิจิตรบรรจงบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ที่แกะลายสลักเป็นรูปน่องสิงห์เอาไว้ที่ขาทั้งสี่ด้าน ตรงพื้นเก้าอี้บุด้วยกำมะหยี่สีน้ำตาลทองนุ