Home / วัยรุ่น / คลั่งรักคุณนักแข่ง / ตอนที่ 5 พี่ติวเตอร์

Share

ตอนที่ 5 พี่ติวเตอร์

last update Last Updated: 2025-07-23 12:09:36

               “เลิกเรียนแล้ว ไปไหนกันต่อดีอะ” นิดาเดินออกมาจากห้องก่อนจะบิดขี้เกียจแล้วกันมามองทางพวกเรา

               “นั่นดิ ไปหาอะไรกินกันดีไหม ฉันอยากกินของหวานอะ”

               “พวกแก เรามีนัดแล้วอะ” ทั้งมนและนิดาต่างหันมาจับจ้องฉันอย่างจับผิด

               “นัดกับใครจ๊ะ” มนยกคิ้วสูงพลางเอ่ยถาม

               “ก็นัดติวกับพี่ธีร์ไง” ฉันกระชับสายกระเป๋าของตัวเอง “เราไปก่อนนะ ป่านนี้พี่ธีร์น่าจะเลิกเรียนแล้วอะ”

               “แหม เดี๋ยวนี้รู้ตารางเรียนพี่เขาแล้วเหรอ” นิดาเอ่ยแซวพร้อมด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม

               “ก็พี่เขาให้เราเลือกวันเวลาติวอะ เราก็ต้องรู้ตารางเรียนของพี่เขาปะ” ฉันยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะโบกมือลาเพื่อน ๆ ทั้งสองที่มองมาทางฉันด้วยความหมั่นไส้

               “เดี๋ยวนี้ลูกแกมันร้ายนะยายมน”

               “ก็สมกับที่ฉันสอนมาเองกับมือ”

               “พี่ธีร์คะ มารอนานหรือยัง” ฉันเดินเข้ามาในห้องสมุดของคณะแพทย์ฯ มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่พวกเราสร้างความประหลาดใจให้ฉันจนแทบจะทำตัวไม่ถูก

               “แฟนธีร์เหรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย”

               “นั่นสิ ไม่ยักรู้ว่าธีร์มีแฟนแล้ว” สองสาวที่นั่งกลุ่มถัดไปซุบซิบแล้วเหลือบมามองทางฉันเป็นบางที

               ไม่รู้ตัวเลยมั้ง

                “เรามาเริ่มติวกันเลยดีกว่า” พี่ธีร์วางชีตไว้ตรงหน้าฉัน “นี่เป็นชีตสรุปของพี่ตอนสอบเข้าหมอ พี่อยากรู้ว่าพื้นฐานเธอเป็นยังไง” ฉันรับชีตนั้นมาเปิดออกดู ข้างในเต็มไปด้วยข้อมูลโยงกันเต็มไปหมดจนน่าปวดหัว

                “นี่เป็นสรุปที่พี่ใช้ตอนสอบเข้าหมอเหรอคะ”

                “อื้อ ทำไมเหรอ”

                “เยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย” ฉันทำหน้าเหยเกก่อนจะปิดชีตสรุปเล่มนั้นแล้วค่อย ๆ เลื่อนออกไปให้ห่างจากตัว

                “อยากเรียนจริงไหมเนี่ย”

                “อยากค่ะอยาก” ฉันดึงชีตสรุปเล่มนั้นกลับมาวางไว้หน้าตัวเองตามเดิม

                “พี่จะเริ่มแล้วนะ ตั้งสติให้ดีล่ะ”

                “ได้ค่ะ พี่ธีร์” ฉันตอบรับอย่างหนักแน่น ก่อนพี่ธีร์จะเริ่มอธิบายขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ที่อยู่ในชีตสรุปมัธยมตอนปลาย น้ำเสียงนุ่มชวนให้ฉันเคลิบเคลิ้มจนดวงตาอยากจะปิดลงเข้าไปอยู่ในความฝัน เนื้อหาชวนน่าปวดหัวที่ลอยอยู่เต็มสมองยากที่จะปะติดปะต่อให้เข้าที่

                 ไม่รู้ว่านี่เวลาผ่านมาเท่าไรแล้ว ที่ฉันต้องต่อสู้กับสมองของตัวเองเพื่อไม่ให้ฟุบลงนอนต่อหน้าพี่ธีร์ สายตาชำเลืองมองนาฬิกาที่ข้อมือของคนพี่ ในใจแอบนับเวลาถอยหลังรอวันเลิกเรียน

                 “เข้าใจไหม วิ” ฉันพยักหน้ารับทั้ง ๆ ที่สมองโล่งไปหมด “เทวิกา”

                 “ค่ะ ๆ” ฉันรีบเด้งตัวนั่งหลังตรงเมื่อถูกคนพี่เรียกด้วยชื่อเต็ม

                 “แน่ใจนะว่าเข้าใจ”

                 “มันหนักไปนะคะพี่ธีร์ แต่ละเรื่องก็มีแต่เรื่องยาก ๆ”

                 “แล้วทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรกล่ะ” ฉันก้มหน้าลงมองโต๊ะเรียนด้วยความเหนื่อยล้า

                “หนูไม่รู้จะขัดพี่ตอนไหน” ฉันทำปากมุ่ย ตอนนี้ร่างกายของฉันกำลังงอแงเพื่อรอรับการพักผ่อน

                “งั้นเอางี้ ทีหลังพี่จะสอนทีละเรื่องโอเคไหม จะได้ไม่หนักไป”

                “ค่ะ” ฉันพยักหน้าระรัวก่อนคนพี่จะเก็บอุปกรณ์การสอนทั้งหมดลงกระเป๋าเป้ของตัวเอง

                “อย่าบอกนะ ว่าเธอดูสรุปพี่ไม่รู้เรื่อง”

                “สรุปพี่ธีร์คงมีแต่อัจฉริยะเท่านั้นแหละค่ะที่เข้าใจ” พี่ธีร์หลุดหัวเราะออกมา “สมองฉันมันตื้อไปหมดแล้วเนี่ย”

                “เธอคงไม่ถนัดวิชานี้จริง ๆ แหละ พี่เชื่อแล้ว ปกติก็เห็นเธอเป็นท็อปของสาขาตลอดเลยนี่”

                “พี่รู้ได้ไงคะ” ฉันรีบโน้มใบหน้าเข้าไปหาคนพี่อย่างจับผิด

               “ถึงพี่จะดูไม่มีเพื่อนคบแต่พี่ก็มีรุ่นน้องที่รู้จักเรียนอยู่สาขาเดียวกันกับเธอ” พี่ธีร์ใช้มือดันหน้าผากของฉันให้ออกห่างก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้

               “ใครคะ หนูรู้จักหรือเปล่า” ฉันรีบเก็บของก่อนจะเดินตามหลังร่างสูงออกมาจากห้องสมุดของคณะแพทย์ฯ ที่ดึกขนาดนี้แล้วก็ยังมีนักศึกษานั่งอ่านหนังสือกันอย่างขมักเขม้นอยู่เลย

               “รุ่นน้องที่อยู่ในสังกัดเดียวกันตอนแข่งรถน่ะ เธอคงไม่รู้จักหรอกมั้ง”

               “คนที่เรียนอยู่สาขาเดียวกันแล้วหนูรู้จัก นอกจากเพื่อนสนิทหนูกับรุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็มีแต่พี่รันเวย์นั่นแหละค่ะ” ฉันกำลังพูดต่อไปแต่ใบหน้าก็กระแทกเข้ากับแผ่นหลังของหนุ่มรุ่นพี่เข้าอย่างเต็มแรง “โอ๊ย หยุดละทำไมไม่บอกอะ”

               “พี่จะกลับแล้ว เธอจะกลับยังไง”

               “เดี๋ยวหนูเดินกลับหอในก็ได้ค่ะ” ฉันตอบกลับก่อนที่หมวกกันน็อกจะถูกวางไว้บนมือของฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว

               “ขึ้นมาสิเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

               “หอในอยู่แค่นี้เองนะคะ”

               “จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่อยู่แล้ว จะเดินให้รถชนเหรอ”

               “ค่ะพี่ธีร์” ฉันยกหมวดกันน็อกขึ้นมาสวมก่อนจะขึ้นไปนั่งซ้อนหลังของคนพี่แล้วเกาะบนไหล่ของพี่ธีร์อย่างที่เคยทำ

               “รู้งานดีจังเลยนะเธอเนี่ย”

               “หรือจะให้หนูกอดเอวล่ะคะ” พี่ธีร์หัวเราะในลำคอพลางส่ายหน้าเบา ๆ แล้วขี่ออกไปจากลานจอดรถของคณะมุ่งหน้าสู่หอในที่ฉันอยู่

                ไม่นานก็มาถึงหน้าหอฉัน ฉันลงจากรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แล้วถอดหมวดกันน็อกคืนให้กับหนุ่มรุ่นพี่

                “ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง”

               “วันเสาร์อาทิตย์นี้ว่างหรือเปล่า” ฉันเอียงคอด้วยความสงสัย

               “ทำไมเหรอคะ”

               “เรื่องติวน่ะ พี่แค่อยากรู้ว่าเรียนแบบไหนที่เหมาะกับเธอ”

               “โธ่ พี่ธีร์คะ วันหยุดก็อยากพักผ่อนบ้างนะคะ” ฉันร้องโอดครวญ

              “ไม่ไปใช่ไหม อุตส่าห์ว่าจะพาไปเที่ยวเล่นคลายเครียดหลังเรียนจบด้วย”

              “ไปค่ะ” ฉันรีบเปลี่ยนใจทันที โอกาสที่จะได้ไปเที่ยวกับพี่ธีร์เชียวนะ พี่เขาอุตส่าห์เสนอเองจะพลาดได้อย่างไรกัน

               “เข้าหอก่อนที่เขาจะปิดไป”

               “รับทราบค่ะ” ฉันยกมือข้างขวาขึ้นตะเบ๊ะแล้วฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเดินขึ้นตึกหอไป

               ฉันแอบมองดูหนุ่มรุ่นพี่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปจากหอพัก แล้วยกมือขึ้นกุมตำแหน่งหัวใจของตัวเองที่เต้นตึกตักเสียงดัง

               บ้าบอ ไปทำท่าอย่างนั้นต่อหน้าพี่เขาได้ยังไงเนี่ย

              “อารมณ์ดีแปลก ๆ นะเนี่ย” มนเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าฉันกำลังจิ้มผลไม้เข้าปากแล้วเผลออมยิ้มออกมาอยู่คนเดียว

              “วันนี้วันศุกร์แล้วก็ต้องอารมณ์ดีสิ อย่างน้อยก็ได้นอนตื่นสายสักสองวัน” นิดาว่าก่อนจะเท้าคางตัวเองกับโต๊ะหินอ่อน

              “เสาร์อาทิตย์ไม่ไปเที่ยวกับพี่คิณเหรอ” ฉันเอ่ยถามเพื่อนเพียงคนเดียวของกลุ่มที่มีแฟนในขณะนี้

              “พี่คิณเขาก็คงเหนื่อยอะ น่าจะแค่ไปทานข้าวด้วยกันเฉย ๆ”

              “ไปทานแค่ข้าวจริงดิ” มนว่าพลางเขยิบไหล่มากระแทกเพื่อนสาวอยากหยอกเย้า

              “แล้วแกอะวิ นัดกับพ่อแม่ไว้เหรอ”

              “เรานัดกับพี่ธีร์”

              “แค่ก ๆ” มนสำลักแตงโมที่กำลังเคี้ยวอยู่ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมามองฉันอย่างคาดคั้น “นัดอะไร ไปไหน ตอนไหน”

              “ก็แค่นัดติว แกเป็นไรเนี่ย”

              “แค่ติวแน่นะ”

              “พี่เขาแค่บอกว่าจะพาเราไปเที่ยวนิดหน่อย ก็คงไม่ได้อะไรหรอกมั้ง” ฉันกล่าวกับเพื่อน ๆ

              “พี่หมอเขาไว้ใจได้แค่ไหนวะ ฉันได้ข่าวมาว่าพวกหมอเซ็กซ์จัดนะ”

              “ไปเอาข่าวมาจากไหนอีกเนี่ย” นิดาหรี่ตามองมนอย่างไม่อยากเชื่อ

              “พี่ธีร์ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก”

               นิดาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะพูดเสียงกระซิบ “ของแบบนี้ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอก”

               “แกเอาอะไรมากรอกหูลูกฉันยะ” มนดึงหูของนิดาให้กลับมานั่งที่เดิมจนนิดาต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ

               “เจ็บนะ” นิดาลูบหูของตัวเอง “ฉันไปซื้อชานมไข่มุกดีกว่า มีใครเอาอะไรไหม”

               “ฉันเอาแตงโมปั่น แล้วแกล่ะ”

               “เราเอาน้ำส้มปั่น”

               “รับทราบค่ะคุณนาย รับทราบค่ะคุณหนูเดี๋ยวบ่าวไปซื้อให้นะคะ” นิดาทำท่าตะเบ๊ะใส่ก่อนจะเดินออกไปทำเอาฉันนึกถึงภาพตัวเองเผลอทำท่านี้ใส่พี่ธีร์จนเขามีสีหน้าแปลกใจ

               ฉันยกมือขึ้นทาบแก้มขาวที่ร้อนผ่าวของตัวเองพลางก้มหน้าลงมองโต๊ะหินอ่อนแล้วเผลออมยิ้มกับตัวเองเบา ๆ

              “เป็นอะไรเนี่ย ไข้ขึ้นเหรอ”

              “ไม่ใช่ แค่คิดอะไรนิดหน่อยอะ” ฉันบอกปัดก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาดูข้อความที่เพิ่งส่งมา

              [พรุ่งนี้ตอนสิบโมง พี่ไปรับหน้าหอนะครับ]

              เป็นพี่ธีร์นี่เองที่ส่งข้อความมา ฉันเพียงส่งสติกเกอร์ตอบกลับไปแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ

              “ยิ้มคนเดียวบ่อย ๆ แบบนี้ หล่อนทำท่ามีพิรุธนะ”

              “พิรุธอะไรเล่า” ฉันว่า “เออ มน พรุ่งนี้เราแต่งตัวยังไงดีอะ”

              “ไหนบอกว่าแค่ไปติวไง”

              “ก็มีเที่ยวต่อปะ”

              “ยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหน ฉันจะไปแต่งให้แกถูกได้ยังไงกันเล่า” มนว่าพลางทำสีหน้าครุ่นคิด “งั้นแกมานอนที่คอนโดฯ ฉันก่อนไหม”

              “แต่พรุ่งนี้ตอนสิบโมงพี่ธีร์จะมารับเราที่หอ”

              “พี่เขารู้ด้วยว่าแกอยู่หอใน” ฉันพยักหน้ารับ

              “พี่ธีร์เคยไปส่งอะ”

              “เอาว่ะ โคตรพ่อหนุ่มที่แสนดี” มนยกมือขึ้นลูบเรียวคางของเธอ “งั้นแต่งตัวแนวน่ารักไปเลย พวกชุดเอี๊ยมอะไรพวกนี้ แต่อย่าใส่กระโปรงนะเพราะแกต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์”

              “ขอบใจแกมากนะ” ฉันส่งยิ้มให้เพื่อนสาว

              “ส่วนเรื่องแต่งหน้าก็น่ารักใส ๆ ไปเลย พวกผู้ชายอบอุ่นแบบนี้น่าจะชอบแนวน่ารักใส ๆ นะ”

              “นี่แกว่าพี่ธีร์เป็นผู้ชายอบอุ่นจริงเหรอ” ฉันมองใบหน้าของเพื่อนสนิท

             “ดูจากที่เขาคอยปกป้องแก ก็เป็นสุภาพบุรุษพอควรเลยแหละ”

             “แกว่าเขาจะทำแบบนี้กับคนอื่นไหมอะ”

             “แกก็ทำให้เขามองแกแค่คนเดียวสิจ๊ะ สะกดสายตาผู้ชายอะหรือต้องให้เจ้สอน”

             “ไม่อะ ถ้าแกทำได้แกคงไม่เจอแต่คนเจ้าชู้หรอก”

             “อันนี้มันอยู่ที่ผู้ชายหน้างานด้วยนะจ๊ะ” มนว่าอย่างไม่สบอารมณ์พลางถอนหายใจออกมาอย่างแรง

             “งั้นขอถามคนมีประสบการณ์ที่เจอผู้ชายเจ้าชู้มานับครั้งไม่ถ้วน แกว่าพี่ธีร์เป็นคนเจ้าชู้ไหมอะ”

             “ร้อยเปอร์เซ็นต์”

             “เจ้าชู้อะเหรอ”

             “ตายด้านไม่ก็ชอบผู้ชาย”

             “เฮ้ยจริงดิ” ฉันร้องด้วยความแปลกใจ

             “ล้อเล่น” มนหัวเราะออกมาอย่างขำขันเมื่อหลอกฉันได้สำเร็จ “พี่เขาแค่ดูไม่ค่อยสนใจคนอื่นเท่าไรอะ การที่แกตีตัวเองเข้าไปอยู่ในวงโคจรของเขาได้ก็แปลว่าพี่แกเปิดใจแล้ว ต้องใช้โอกาสนี้แหละ เข้าไปอยู่ในหัวใจของเขาให้ได้”

             “แกพูดจริงเหรอ”

             “ฉันเคยโกหกแกด้วยเหรอ” มนเลิกคิ้วถามฉัน ฉันส่ายหน้าระรัว

             ก็จริงอย่างที่มนว่านะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนพิเศษที่ 2 เพื่อนเจ้าสาว

    ตั้งแต่งานหมั้นฉันก็ผันตัวมาเป็นแม่บ้านแบบเต็มตัว จะเข้าบริษัทก็ต่อเมื่องานมีปัญหาแล้วทำงานอยู่ที่บ้านแทนเพราะจะได้ใช้เวลาร่วมกับพี่ธีร์มากขึ้น ใช้ชีวิตแบบนี้มาเป็นเวลาเกือบจะเข้าปีที่สาม “กลับบ้านแล้วเหรอคะ” วันนี้พี่ธีร์เลิกเวรค่อนข้างดึก ฉันนั่งดูทีวีอยู่ที่บ้านของพี่ธีร์เพื่อรอให้แฟนหนุ่มกลับบ้าน พ่อให้พี่ธีร์มาประจำการที่คลินิกใหญ่ในกรุงเทพฯ พวกเราเลยได้ใช้เวลาร่วมกันบ้างเวลาที่พี่ธีร์เลิกงาน “อื้อ นั่งรอพี่เหรอ” “ค่ะ พี่ธีร์ทานอะไรมาหรือยังเดี๋ยวหนูอุ่นกับข้าวให้นะ” “ครับ แต่วิต้องทานเป็นเพื่อนพี่นะ” “อื้อ” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปอุ่นอาหารในห้องครับโดยมีพี่ธีร์เดินตามเข้ามาเพื่อช่วยก่อนที่พวกเราจะมานั่งทานอาหารที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยกัน “วันนี้ที่คลินิกเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันเอ่ยถามระหว่างที่เรานั่งทานอาหารด้วยกัน “วันนี้คนไข้เยอะเป็นพิเศษเลย เป็นช่วงวันหยุดด้วย ยิ่งเยอะไปใหญ่” พี่ธีร์ถอนหายใจเพื่อไล่ความเมื่อยล้าแล้วตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนพิเศษที่ 1 ลูกเขยคนโปรด

    เวลาผ่านมาเนิ่นนานหลังจากที่เราทั้งสองตกลงคบกัน นี่ก็ปามาปีที่สี่ของการคบกัน ฉันเรียนจบก่อนพี่ธีร์จนออกมาทำงานในบริษัทในเครือของพ่อ ส่วนพี่ธีร์ที่เพิ่งจบออกมาได้หมาด ๆ ก็ต้องไปทำงานเพื่อใช้ทุนตามข้อตกลงที่ต้องไปประจำการที่โรงพยาบาลตามต่างจังหวัด เรามีโอกาสได้เจอกันน้อยลง ถึงแม้แต่จะติดต่อกันไม่ขาด แต่ยอมรับเลยว่าฉันคิดถึงพี่เขาเอามาก ๆจนในที่สุดเวลาเราก็ตรงกัน ไหน ๆ เราก็คิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วฉันเลยคิดว่าถึงโอกาสแล้วที่พ่อกับแม่จะต้องได้เจอกับพี่ธีร์สักที แม้ที่ผ่านมาพวกท่านจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ธีร์แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเสียที “พี่โอเคหรือยัง” พี่ธีร์เอ่ยถามฉันเป็นรอบที่สิบของวันนี้ ชายหนุ่มแสดงอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ฉันเอื้อมมือไปจัดผมของคนพี่ที่ยุ่งเหยิงเพราะหมวกกันน็อก “ดูดีแล้วค่ะ เข้าบ้านกัน” ฉันสิ่งยิ้มหวานให้อีกคนได้ผ่อนคลายก่อนจะจูงมือพี่ธีร์เดินเข้ามาในตัวบ้าน คุณแม่กำลังจัดโต๊ะอาหารเพื่อเตรียมรอต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน แต่ก่อนแม่ก็ไม่โอเคนักที่ฉันไม่ได้ชอบพี่รันเวย์คนที่

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 25 The End (NC ส่งท้าย)

    เราทั้งสองนัวเนียกันอยู่ในเต็นท์ ฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดถึงบรรยากาศรอบข้างที่เป็นป่าตีนภูเขายิ่งทำให้หัวใจสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก ฉันกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะมีใครผ่านมาได้ยิน “พี่ธีร์คะตรงนี้จะดีจริง ๆ เหรอ หนูรู้สึกแปลก ๆ” ใบหน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นมจนลามมาถึงใบหู ในใจสั่นระรัวราวกับว่าเลือดลมกำลังสูบฉีดเป็นอย่างดี “ตื่นเต้นดีใช่ไหมครับ” พี่ธีร์ไม่รอช้ารีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองด้วยอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในฉันเองก็ทนไม่ไหวแล้วเลยถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดเกลี้ยง ความมืดในเต็นท์ไม่ได้เป็นอุปสรรคของพวกเราเลย แต่ความแคบเนี่ยสิที่เป็นอุปสรรค “ระวังเต็นท์สั่นนะคะ” ฉันแอบเห็นชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากก่อนจะเข้ามาคลอเคลียที่ลำคอขบเม้มเล็กน้อยแล้วไล่ลงมาจนถึงเนินอกขาวไร้อาภรณ์ปิดบัง จังหวะของหัวใจฉันเต้นถี่กระชั้นเสียจนเหมือนจะระเบิดออกมา ลมหายใจที่รินลดบนผิวหนังของฉันย้ำเตือนว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ยอดอกของฉันถูกครอบครองด้วยลิ้นอุ่นก่อนที่สติของฉันมันจะเริ่มขาวโพลนไปหมด ไม่มีอะไรเลยน

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 24 แคมปิง

    ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้าเพราะแสงไฟที่ส่องสว่างจนแยงตา ดวงตาเคลื่อนไปมองบานหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้รับลมเพราเมื่อคืนไฟดับจนไม่มีพัดลมคอยเปิดเพื่อระบายความร้อน ฉันยันตัวเองขึ้นมานั่งพลางบิดขี้เกียจจากอาการเมื่อยล้า ความโล่งประหลาดทำเอาฉันต้องก้มหน้ามองเนื้อตัวที่เปลือยเปล่าของตัวเองแล้วหน้าแดงแจ่ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทีตอนทำไม่รู้จักอายยายวิเอ๊ย ฉันยกมือขึ้นมากุมขมับก่อนจะเหลือบไปมองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างกาย พี่ธีร์นอนหลับตาพริ้มอย่างสบายใจฉันได้แต่ถอนหายใจก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินตรงไปอาบน้ำ หลังจากที่ทำร่างกายให้สดชื่นแล้วฉันก็เดินลงบันไดมาที่ห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็นออกดู ในตู้เย็นโล่งโจ้งมีเพียงแผงไข่ไก่ อยากซื้อของมาเติมจัง ไม่เป็นไรทำไปก่อนแล้วกัน ฉันหยิบแผงไข่ไก่ออกมาก่อนจะเริ่มทำอาหารเช้าทันที เห็นอย่างนี้ฉันก็ทำอาหารเป็นนะ สกิลเด็กหอไง ผ่านไปสักพักหนึ่งฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเก้าเหยียบลงมาจากบันไดก่อนที่พี่ธีร์จะเดินเข้ามาในห้องครัว “ทำไรกินเหรอ” พี่ธีร์เดินงัวเง

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 23 ไฟดับ NC

    วันนี้เพื่อน ๆ ของฉันชวนมาเที่ยวส่งท้ายเทอมที่ผับของรุ่นพี่ในคณะที่จบไปแล้ว ซึ่งก็เป็นผับเดียวกันกับที่ที่พี่ธีร์ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่นี่ ฉันเลยถือโอกาสมาเช็กซะเลยว่าพี่ธีร์ของฉันจะฮอตสักแค่ไหน “รับอะไรดีครับคุณลูกค้า” พี่ธีร์ส่งยิ้มพราวเสน่ห์มาให้ฉันที่นั่งอยู่ตรงริมสุดของเคาน์เตอร์ แพรวพราวชะมัด “มาตินีหนึ่งแก้วค่ะ” ฉันยกยิ้มมุมปากก่อนที่พี่ธีร์จะหันไปจัดตามที่ฉันบอก ฉันทอดสายตามองชายหนุ่มด้วยความชื่นชม คนอะไรครบเครื่องชะมัด ฉันเดินมาตามทางเดินที่มีแสงไฟหลากสีสาดส่องไปมาเพื่อมุ่งตรงไปเข้าห้องน้ำ วันนี้ผู้คนไม่ค่อยหนาตาเท่าไรเลยไม่ค่อยมีคนเดินพลุกพล่านไปมาชวนปวดหัว แต่แล้วก็มีแรงกระชากที่ข้อมือก่อนจะดันให้ฉันติดกำแพง “พี่รันเวย์” ฉันเรียกชื่อของอีกคนเสียงตื่น แต่คนพี่ก็ยกนิ้วขึ้นมาทาบที่ริมฝีปากของฉันไว้เพื่อบอกใหฉันเงียบลง “น้องวิ พี่วานอะไรหน่อยได้ไหม” พี่รันเวย์มองซ้ายมองขวาราวกับกำลังหวาดระแวงอะไรบางอย่าง “ช่วยแกล้งเป็นแฟนพี่ทีได้ไหม” “พี่ทำบ้าอะไรเนี่ย” ฉันรีบดันให้

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 22 อาหารมื้อที่ดีที่สุด

    “หงอยเลยอะดิ พี่ธีร์ไปค่ายแค่สามวัน นั่งหงอยเหมือนไม่เคยตัวห่างกันเลยเนอะ” นิดาเอ่นแซวเมื่อเห็นว่าฉันนั่งเขี่ยข้าวในจานด้วยความเบื่อหน่าย พี่ธีร์ไปค่ายอาสากับทางคณะตั้งสามวันแล้ว ขึ้นไปบนเขาไม่มีสัญญาณติดต่อกลับมาก็ไม่ได้ “แผลเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” ฉันบ่นพึมพำกับสองเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงอ้อยอิ่ง “สติค่ะสาวค่ายคณะแพทย์ฯ แปลว่าอะไรคะ แปลว่ามีหมอเต็มไปหมดค่ะ ยิ่งกว่าแขกวีไอพีอีกนะ หมอล้อมขนาดนั้นอะ” มนตอกย้ำสติหลุดลอยของฉันให้กลับคืนมา “จริงด้วย พี่ธีร์เรียนหมอนี่” “แกลืมไปแล้วเหรอว่าแฟนแกเป็นนักศึกษาแพทย์ แล้วแกลืมไปหรือเปล่าว่าแกเรียนวิศวะฯ ไม่ใช่พยาบาล เก่งจังนะดูแลผู้ชายเนี่ย” นิดาเข้ามาซ้ำเติมเพิ่มอีกคน “แล้วเวลาแฟนแกป่วยแกไม่อยากดูแลหรือไง ขนาดพี่คิณเมื่อยยังไปนวดให้เลย แกเป็นหมอนวดเหรอ” “เจ็บแสบมาก รู้เลยว่าได้ความปากแจ๋วมาจากใคร” นิดายกมือขึ้นทาบอกตัวเองก่อนจะแอบชำเรืองหางตามามองทางมนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กับเธอ “นี่ยายวิ พี่ธีร์เขากลับเย็นนี้ไม่ใช่เหรอ ยิ้มหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status