เข้าสู่ระบบรามัญ ไม่ได้พูดคุยเรื่องงานมากนัก แต่กลับถามถึงความสนใจทั่วไปของเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับเลขาฯ ลดระดับลงมาเป็นความเป็นกันเองมากขึ้น จนณัฐชารู้สึกผ่อนคลาย
ช่วงบ่าย
ทั้งคู่กลับเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง และทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้บรรยากาศที่เปลี่ยนไป ความเข้าใจที่เกิดจากการช่วยเหลือฉุกเฉินก่อนหน้านี้ ทำให้การทำงานราบรื่นกว่าที่คิด รามัญอธิบายโครงการต่าง ๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ขณะที่ณัฐชาจดบันทึกและซักถามอย่างฉับไว ราวกับทั้งคู่ทำงานร่วมกันมานาน แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากประสบการณ์ของทั้งคู่
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน รามัญไม่ปล่อยให้เธอต้องเดินเพียงลำพัง เขาเดินไปส่งเธอที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินอย่างเอาใจใส่ ทั้งสองเดินเคียงข้างกันช้าๆ ก่อนจะลงลิฟต์ไปที่ชั้นใต้ดินของลานจอดรถ
“คุณณัฐชา...” รามัญเปิดบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนกว่าตอนสัมภาษณ์มากนัก
“ข้อเท้าคุณยังเจ็บมั้ย” ณัฐชา สบตาเขาท่ามกลางแสงไฟนีออน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความปิติ
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะคุณราม ฉันต้องขอบคุณคุณราม ที่ช่วยฉันไว้ ไม่งั้นคงเจ็บกว่านี้”
“ไม่เป็นไร อันที่จริงมันก็เป็นความผิดของผมเอง ที่ใช้คุณเกินขอบเขต” รามัญกล่าวต่ออย่างตรงไปตรงมา ราวกับความรู้สึกนี้มันเอ่อล้น
“มันเป็นหน้าที่ของเลขาฯ อยู่แล้วค่ะ คุณรามไม่ต้องคิดมากหรอก” ณัฐชาเอ่ยขึ้นอย่างจริงใจ หัวใจเธอเต้นรัวเมื่อได้รู้ว่าเขาเป็นห่วง
รามัญหยุดเดิน เมื่อถึงรถของเธอ และที่เขารู้ก็เพราะว่าที่ลานจอดรถมันเหลือรถที่จอดอยู่แค่เพียงสองคันเท่านั้น
“ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไป...แต่ผมมีความรู้สึกบางอย่างกับคุณ” เขาไม่ได้ใช้คำหรูหรา แต่เป็นคำที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ
“ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณก้าวเข้ามาในห้องสัมภาษณ์” ณัฐชายืนนิ่ง เธอตกใจกับความกล้าหาญของเขา แต่ในใจลึกๆ กลับไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกนี้เลย
“ฉัน...ฉันก็รู้สึกว่าคุณรามเป็นสุภาพบุรุษและก็อ่อนโยนมากกว่าที่คิดเอาไว้ค่ะ” เธอเลือกคำที่ปลอดภัย แต่สายตาของเธอบอกเล่าทุกอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจจนเกือบหมด
“ผมอยากให้ คุณแทนตัวเองด้วยชื่อ หรือคุณมีชื่อเล่นมั้ย”
“ชื่อเล่นที่เพื่อนสนิทเรียกคุณ” เขาเน้นคำว่าเพื่อนเพื่อให้เธออุ่นใจ
“ถ้าในกลุ่มเพื่อนจะเรียกว่า ณัฐ เฉย ๆ ค่ะ” ณัฐชาตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
รามัญพิจารณาชื่อนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้าอย่างเนิบนาบ
“อืม... งั้นผมว่าผมเรียกคุณว่า ณัฐชา เหมือนเดิมดีกว่า” ณัฐชาแปลกใจเล็กน้อย
“ทำไมล่ะคะ” รามัญยิ้มมุมปาก เผยรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงอีกครั้ง
”ไม่รู้สิ แต่ผมอยากเรียกคุณว่าณัฐชา มากกว่าณัฐ เฉย ๆ มันดูพิเศษดี” คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าของณัฐชาเห่อร้อนขึ้นอีกครั้ง เธอรู้ดีว่ารามัญกำลังสร้างความสนิทสนมและพยายามร่นระยะห่างระหว่างเขากับเธอ และนี่มันเป็นการจีบอย่างสุภาพและมีชั้นเชิงที่สุด
รามัญยื่นมือไปเปิดประตูรถให้เธอ แต่ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ เขาก็พูดขึ้นอีกประโยคหนึ่งที่ทำให้อากาศรอบตัวอุ่นขึ้นทันที
“ผมไม่ได้แค่ต้องการเลขาฯ ที่เก่งงานเท่านั้นนะครับคุณณัฐชา...แต่ผมต้องการเลขาฯ ที่เข้าใจผมด้วย”
ณัฐชาเงยหน้ามองเขา ความรู้สึกของทั้งสองที่เริ่มใจตรงกันอย่างไม่รู้ตัว มันก่อเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ ราวกับสัญชาตญาณที่ถูกกระตุ้นด้วยความใกล้ชิดในวันนี้
“ณัฐชาจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะคุณราม...” เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย
“และหวังว่าจะได้ทำความเข้าใจกับคุณรามให้มากขึ้นกว่านี้” รามัญยิ้มอย่างพึงพอใจ
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้ ขับรถดี ๆ นะครับ”
“เช่นกันค่ะ คุณราม”
ณัฐชาขับรถออกจากลานจอดรถด้วยรอยยิ้มที่ไม่สามารถหุบได้ ความคิดของเธอลอยออกไปไกล และความกังวลเรื่องเจ้านายชีกอหายไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อรามัญเจ้านายคนใหม่ของเธอ
ท่ามกลางเสียงรถราที่แออัดในช่วงหัวค่ำ ไฟเบรกสีแดงสาดส่องยาวเป็นสายอยู่เบื้องหน้า แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่อาจลดทอนความสดใสบนใบหน้าสวยของณัฐชาได้เลย
เธอคลี่ยิ้มอย่างปิดไม่มิดเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของผู้บริหารหนุ่มที่เพิ่งจะสัมภาษณ์งานเธออย่างถึงลูกถึงคน ณัฐชารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตที่มันสงบนิ่งมานาน
มือเรียวบางพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเข้าแอปพลิเคชันไลน์เพื่อบอกข่าวดีกับภูรวิชลูกชายของเธอ ขณะที่รถของเธอยังคงติดแหง็กอยู่บนท้องถนน
ณัฐชา: แม่ได้งานที่ใหม่แล้วนะลูก เป็นเลขาฯ ของประธานบริษัทพีระพัฒน์เรียลตี้กรุ๊ป! (เกอร์รูปหัวใจ)
ข้อความสั้น ๆ ถูกส่งออกไปพร้อมกับความรู้สึกเบิกบานใจอย่างเต็มเปี่ยม เธอไม่ได้รู้สึกดีแบบนี้มานานแล้ว แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคของการจราจรติดขัด แต่ในใจของเธอกลับไม่ทุกข์ร้อน พร้อม ๆ กับความรู้สึกดี ๆ ที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ
ณัฐชาฝ่ากระแสรถติดมาอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งถึงบ้าน หญิงสาวจอดรถอย่างเรียบร้อยก่อนจะดับเครื่องยนต์ลง ความเงียบสงัดเข้าแทนที่ความวุ่นวายบนท้องถนนก่อนหน้านี้
ทันทีที่ณัฐชาปิดประตูบ้านลง ลูกชายของเธอก็เดินออกมาจากในครัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคำถามอย่างปิดไม่มิด ลูกชายวัย 22 ปี ที่หล่อเหลาส่งรอยยิ้มให้ผู้เป็นมารดา
เขาสวมเสื้อเชิ้ตของร้านสะดวกซื้อที่เขาทำงานพาร์ทไทม์อยู่ รูปร่างสมส่วนและไหล่กว้างของเขา ทำให้ชุดยูนิฟอร์มที่ดูธรรมดาดูหรูหราขึ้นมาทันที ใบหน้าคมสันที่ได้รับความสวยจากแม่มาเต็ม ๆ บวกกับความสูงที่เกินกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ทำให้ภูรวิชดูหล่อเหลาไม่แพ้พระเอกหนัง
“แม่ได้งานใหม่แล้วเหรอครับ เห็นแม่ไลน์ไปบอกผมเมื่อช่วงค่ำ แต่ตอนนั้นผมยังไม่เลิกงาน” ภูรวิชเอ่ยถามพร้อมช่วยถือกระเป๋าของมารดา
“จ้ะลูก” ณัฐชาตอบด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงสดใสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“งานเลขาฯ แม่ไม่กลัวเจ้านายจะชีกออีกเหรอครับ?” ภูรวิชถามอย่างตรงไปตรงมา
“ไม่หรอกลูก เจ้านายใหม่ของแม่เค้าสุภาพ...” ณัฐชารีบเปลี่ยนเรื่อง เธอเดินเข้าไปกอดลูกชายเหมือนเช่นทุกวัน ก่อนจะดึงเขาออกมามองสำรวจ
“แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับภู...อยู่พอดีเลย งั้นเดี๋ยวให้แม่ช่วยทำกับข้าวนะ”
“ใกล้เสร็จแล้วแม่ แค่ตั้งหม้อแกงเอาไว้”
“แม่มีเรื่องอะไรเหรอครับ”
“ก็เรื่องงานของลูกนั้นแหละ” เธอใช้ปลายนิ้วเกลี่ยรอยยับบนปกเสื้อโปโลของลูกชายอย่างอ่อนโยน
“ภู... แม่ว่าภูลาออกจากงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อเถอะลูก” ภูรวิชเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมครับแม่...”
“แม่รู้ว่าลูกอยากช่วยแม่ แต่ตอนนี้มันใกล้จะเปิดเทอมแล้ว แล้วอีกอย่างแม่ก็ได้งานแล้ว”
“แม่ไม่อยากให้ภูต้องคอยทำงานกะเช้ากะดึกอยู่แบบนี้” ณัฐชาจับไหล่ลูกชายอย่างจริงจัง
“งานที่ใหม่ของแม่ เงินเดือนมากกว่าที่เก่า ภูไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเลยนะ แม่ไม่ลำบากแล้ว”
“แต่ผมก็อยากแบ่งเบาภาระแม่นี่ครับ” ภูรวิชเถียง
“ภาระที่แท้จริงของลูกตอนนี้คือการเรียนต่างหาก” ณัฐชายิ้มอบอุ่น
“แม่ดีใจที่ภูมีความรับผิดชอบ แต่แม่ก็อยากเห็นภูได้ตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง มันปีสุดท้ายแล้วนะลูก ไหนจะต้องไปฝึกงานอีกล่ะ”
ภูรวิชจ้องมองมารดาด้วยความซาบซึ้งใจ ในที่สุดเขาก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ แล้วเอ่ยขึ้น
“ครับแม่... ผมจะลาออกก่อนเปิดเทอม”
ตอนที่ 20 อดีตที่ไม่น่าจดจำงานเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู โปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของบริษัทพีระพัฒน์เรียลตี้ กรุ๊ป ถูกจัดขึ้นที่เชียงใหม่ในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แขกเหรื่อและหุ้นส่วนในโปรเจกต์ต่างก็มาร่วมงานกันอย่างคับคั่งคืนนี้ณัฐชาสวมชุดที่สะกดทุกสายตา ชุดราตรีผ้าซาตินเนื้อนุ่มลื่นสีชมพูอ่อนอมม่วง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อโอบอุ้มเรือนร่างให้กลายเป็นจุดเด่นของงานไปโดยปริยายผ้าเนื้อดีมีความเงาคล้ายน้ำมันที่ขับผิวขาวนวลของเธอให้ดูเปล่งปลั่งน่าสัมผัส รามัญเป็นคนซื้อชุดนี้มาเซอร์ไพร์ให้เธอ เข้างานมาได้ไม่นาน คุณมิ่งขวัญผู้จัดการสาขาก็รีบเข้ามารายงานขั้นตอนของงานกับเธอ ขณะที่รามัญเดินทักทายกับแขกไปทั่วงานโปรเจกต์ที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของประธานหนุ่มไฟแรงอย่างรามัญ เขาได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในหลายๆ โครงการว่าเขาสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริงได้“โปรเจกต์ที่แล้วคุณใช้เวลาวางแผนและก่อสร้างได้เร็วมากครับ ผมเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และการบริหารจัดการที่เฉียบขาดของคุณ รับรองว่าโปรเจกต์นี้คุณคงใช้เวลาไม่ถึงสองปีด้วยซ้ำ” เสียงเอ่ยชมจากเสี่ยซ้งชายสูงวัยรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของราม
ตอนที่ 19 รักหรือชอบพีรยามองใบหน้าหล่อเหลาของรุ่นพี่ที่กำลังยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน หญิงสาวรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลของเขา ความรู้สึกปลอดภัยและความพิเศษนี้ทำให้พีรยารู้สึกอิ่มเอมจนแทบไม่ต้องทานมื้อเย็นเลยทีเดียว“ขอบคุณพี่ภูมากนะคะ ที่พี่ช่วยหนู” พีรยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ เธอรู้สึกขอบคุณเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ“ไม่เป็นไรครับ อาหารอร่อยไหม” เขาตอบและเอ่ยถาม ดวงตาคมกริบของเขาสบกับดวงตาที่สวยหวานของพีรยาอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกใดๆ“อร่อยค่ะแกงกะหรี่เนื้อของโปรดหนู” พีรยาตอบพร้อมนึกถึงรสชาติกลมกล่อมและหอมเครื่องเทศ ที่เธอเสนอให้เขาสั่งมา เพราะมันเป็นเมนูโปรดของเธอ“รู้มั้ย....ว่าเมนูนี้แม่พี่ก็ชอบ” ภูรวิชยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ“ถ้านัตตี้ชอบ... วันหลังพี่ทำให้กินได้นะ เมนูนี้แม่พี่ก็ชอบให้ทำบ่อยๆ พี่เลยพอทำเป็น”“ขอบคุณค่ะ ชักอยากชิมฝีมือของพี่ภูแล้วสิ” พีรยาตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสนใจ“ได้เลย เอาไว้วันไหนว่างๆ เนาะ เสาร์อาทิตย์ก็ได้” ภูรวิชรับปากอย่างกระตือรือร้น เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์กำลังก้าวไปอีกขั้นแล้ว“พี่ภูเก่งจังเลย” เสียงหวาน
ตอนที่ 18 กลรักรุ่นพี่เธอเคยหมดอนาคตตอนที่ตั้งท้องในวันเรียนมาแล้ว เพราะผู้ชายคนแรกที่เธอรักทำแบบนี้ เขาไม่สนใจคำทักท้วง ไม่ยอมสวมถุงยาง และผลลัพธ์ของความมักง่ายในครั้งนั้นคือการที่เธอต้องแบกรับภาระชีวิตที่หนักอึ้งตั้งแต่อายุยังน้อยภาพตัวเองที่นั่งร้องไห้ในชุดนักเรียน ภาพการถูกตราหน้าจากสังคม และความฝันที่พังทลายในวันนั้น... มันชัดเจนจนเธอจำมันได้ขึ้นใจณัฐชากำมือแน่น เธอใช้แรงทั้งหมดเพื่อดันไหล่ของรามัญออกไปเล็กน้อย แววตาของเธอตอนนี้ไม่ได้มีแต่ความเสียวซ่าน แต่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและสำนึกต่อบทเรียนชีวิตที่แสนแพงรามัญรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างแปลกใจ ไฟราคะในดวงตาเขาอ่อนแสงลงเมื่อเห็นความกลัวที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ“คุณกลัวเกินไปหรือเปล่า ถ้าคุณท้องขึ้นมาจริง ยังไงผมก็รับผิดชอบคุณ ผมสัญญา” เขาถามด้วยความสับสน“ไม่คะ ตราบใดณัชยังไม่ได้แต่งงาน” เธอตอบอย่างตรงไปตรงมา“ณัฐเคยพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง ณัฐไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก... ได้โปรดนะคะ คุณราม”รามัญจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง เขาเข้าใจทันทีว่านี่ไม่ใช่แค่ความรังเกียจ แต่เป็นบาดแผลในอดีตที่ฝังลึก แม้จะหงุดหงิดท
ตอนที่ 17 ทำตามเสียงหัวใจนัตตี้ยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋า แต่ไม่ยอมเดินเข้าบ้าน เธอหันไปสบตากับภูรวิชที่นั่งคร่อมมอเตอร์ใชค์คู่ใจอยู่ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน แสงไฟถนนส่องกระทบดวงตาคู่นั้น ทำให้เขาเห็นเงาของความไม่สบายใจที่ซ่อนอยู่“พี่ภู!! นัตตี้อยากนั่งมอเตอร์ไซค์เที่ยว” เธอตอบอย่างเซ็ง ๆ น้ำเสียงที่เคยสดใสกลับหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด“อ่าว...ทำไมล่ะ” ภูรวิชเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย“…………..” เธอกอดอกอย่างใช้ความคิด“ทะเลาะอะไรกับคุณพ่อหรือเปล่า” เขาถามอย่างใจเย็นและพยายามค้นหาต้นตอของอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเธอ“ไม่ค่ะ ไม่ได้ทะเลาะ” เธอปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่ภูรวิชสัมผัสได้ว่าเธอมีเรื่องในใจเขาตัดสินใจที่จะไม่ซักไซ้ต่อ แต่เลือกที่จะตามใจเธอในสิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้ ความต้องการแรกของเขาคือการทำให้เธอสบายใจและอยู่กับเขานานที่สุด“ถ้านัตตี้อยากไปนั่งรถเล่น ก็เอาสิ กลับไปพี่ก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน” เขาตอบรับอย่างง่ายดาย ก่อนจะชั่งใจเล็กน้อย เมื่อมองชุดของรุ่นน้อง“พี่ว่านัตตี้ไปเปลี่ยนชุดก่อนมั้ย จะได้นั่งสะดวกกว่านี้” นัตตี้มองชุดนักศึกษาของตัวเองแล้วเลิกคิ้ว เธอไม่อายและอุ่นใจท
ตอนที่ 16 เกินห้ามใจช่วงหลังเลิกเรียน ทันทีที่การประชุมคณะเริ่มขึ้น ภูรวิชก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องพยาบาลทันทีราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างฉุดรั้งเขาไว้ เขาก้าวเข้าไปอย่างเงียบเชียบและเห็นพีรยานอนพักอยู่บนเตียงอย่างสงบ“นัตตี้!!..เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เธออาการดีขึ้นมากเพราะได้ทานยาไปตั้งแต่ช่วงเที่ยง ใบหน้าที่เคยซีดเผือดก็เริ่มมีสีเลือดฝาด“ดีขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณพี่ภูอีกครั้งนะคะ” นัตตี้ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ภูรวิชเท้าแขนกับขอบเตียงและมองเธออย่างพิจารณา ดวงตาคมกริบของเขาอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ“เย็นนี้ที่หอประชุมยังมีกิจกรรมของคณะอยู่ นัตตี้กลับพร้อมพี่นะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” คำพูดของเขาไม่ใช่แค่คำชวน แต่เป็นคำสั่งที่แสนอบอุ่น“กิจกรรมเหมือนเมื่อตอนกลางวันใช่มั้ยคะ” แววตาของเธอแสดงความเหนื่อยหน่ายออกมาเล็กน้อย“ก็ประมาณนั้นแหละ”“หนูกลับเองก็ได้ค่ะ ขอบคุณพี่ภูมากเลย” เธอพยายามปฏิเสธอย่างเกรงใจ“ไม่ได้นัตตี้ น้องต้องกลับพร้อมพี่ และต้องให้พี่ไปส่ง” น้ำเสียงของเขากลับมาเด็ดขาดอีกครั้ง“ทำไมคะ” เธอถ
ตอนที่ 15 เพลิงรักที่ลุกโชน NCณัฐชารูดผ้าขนหนูที่พันอยู่รอบเอวสอบของเขาออกอย่างช้า ๆ ผ้าผืนนั้นร่วงลงสู่พื้น ราวกับเป็นการทิ้งซึ่งความลังเลใจและความประหม่าทั้งหมดไว้เบื้องหลัง เรือนร่างที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบของประธานหนุ่มปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอหญิงสาวเงยหน้ามองเขาชั่วครู่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความต้องการที่ไม่อาจซ่อนได้อีกต่อไป ก่อนที่เธอจะโน้มตัวลงไป... และเริ่มต้นทำตามข้อตกลงที่ร้อนแรงที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอณัฐชา เริ่มต้นตามข้อตกลงอย่างตั้งใจ เธอไม่เคยคิดว่าความกล้าหาญของตัวเองจะพาเธอมาได้ไกลถึงขนาดนี้ เธอเริ่มจากการใช้ลิ้นเลียไปตามความยาวของเขาอย่างช้า ๆ สำรวจพื้นผิวที่อ่อนไหว ก่อนจะค่อย ๆ อมส่วนปลายเข้าไปในโพรงปากอุ่นนุ่ม รสชาติและความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้จากการรุกล้ำในครั้งนี้กระตุ้นความต้องการของเธอให้ปะทุขึ้นมากกว่าเดิม“อืมมม...” รามัญ ครางเบา ๆ จากลำคออย่างสุขสม ขณะที่โพรงปากนุ่มของเธอค่อย ๆ อมลึกขึ้นตามจังหวะที่เขาต้องการ มือของเขายกขึ้นมาลูบไล้เส้นผมของเธออย่างอ่อนโยน แต่แรงกดที่ท้ายทอยก็บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังเร่งเร้า“ณัฐชา...ดีมากครับ” เขาชม คำชมของเขายิ่งทำให้







