ตอนที่4 สร้างความคุ้นชิน#2
“คุณจะนอนค้างที่นี่เหรอคะ” ณิชาที่พึ่งล้างจานเสร็จเดินออกมาจากในครัวก็เจอกับชายหนุ่มเจ้าของห้องยังนั่งทำงานอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก
“ถ้าไม่นอนนี่ฉันจะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ไหม เสร็จงานแล้วก็เข้านอนพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าไม่ใช่หรือไง” เสียงทุ้มดุกลับไปเมื่อเด็กสาวถามคำถามที่ไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไหร่
“ค่ะ คุณก็อย่านอนดึกมากนะคะ ฝันดีค่ะ” ณิชาพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนตัวเองทันที มือบางกำลังกดล็อกประตูห้องก็ต้องหยุดชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะมานอนกับเธอก็ได้ จึงเพียงแค่ปิดประตูแต่ไม่ได้ล็อกจากด้านใน
“ดวงตากลมโตมองเพดานสีขาวอยู่นานเกือบชั่วโมงก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เพราะนึกถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อช่วงเย็นก็ทำให้เธอนอนไม่หลับ คอยแต่คิดวนซ้ำไปซ้ำมาว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้นมันถูกต้องแล้วหรือไม่
“ถ้าขอยกเลิกสัญญาตอนนี้จะได้ไหมนะ” เด็กสาวพึมพำกับตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันที่ซันเดย์เปิดประตูเข้ามาพอดี
“เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วนอนได้แล้ว เธอแค่เป็นคู่นอนให้ฉันคนเดียวไม่ได้ไปอ้าขาให้ผู้ชายนับร้อยนับพันคนเอาทั้งคืน ถึงทำอย่างนั้นก็ไม่รู้จะได้เงินเยอะเท่าที่ฉันจ่ายให้ไหม เพราะฉะนั้นเลิกคิดไร้สาระเรื่องที่จะยกเลิกสัญญาเพราะเธอไม่มีปัญญาจ่ายค่ายกเลิกสัญญาก่อนกำหนด”
“แต่ทำแบบนี้มันน่าอายมากเลยนะคะ”
“ก็คิดซะว่าโดนผัวเอาแล้วกันจะได้ไม่ต้องคิดมาก เธออายุสิบเก้าจะยี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่เด็กแปดขวบที่จะไม่รู้ว่าสังคมทุกวันนี้เปิดกว้างสำหรับเรื่องเพศมากแค่ไหน ผู้หญิงที่มีแฟนตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็มีเยอะแยะถมเถไป คนพวกนั้นโดนเอาฟรีด้วยซ้ำไม่ได้เงินสักบาท ฉันไม่ได้บอกว่าเรื่องที่ฉันและเธอทำอยู่นี้นั้นเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเราสองคนตกลงกันได้มันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร เพราะเธอเองก็ไม่มีแฟนฉันเองก็ไม่ได้มีเมีย เราไม่ได้ทำเรื่องผิดศีลธรรมที่ไปเป็นชู้กับผัวเมียคนอื่น”
“แต่พวกเขาเป็นแฟนกัน และรักกันนะคะถึงทำเรื่องแบบนี้ได้”
“แล้วฉันด่าเธอสักคำหรือยัง ฉันทำไม่ดีกับเธอตรงไหน” ซันเดย์ชักสีหน้าใส่หลังถูกเด็กสาวยัดเยียดข้อหาคนใจร้ายให้ ทั้งที่ทั้งสองตกลงกันเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว และเธอเองก็อ่านสัญญาโดยละเอียดก่อนจะเซนต์รับข้อเสนอโดยมีผลตอบแทนคือเงินตรา ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกันไม่มีใครเสียเปรียบ
“ไม่มีค่ะ” เมื่อนึกย้อนกลับไปวันนี้ก็ถือว่าชายหนุ่มนั้นไม่ได้บังคับขู่เข็ญเธอจนเกินไป ทั้ง ๆ ที่เขามีสิทธิ์ทำแบบนั้น
“จะเลิกฟุ้งซ่านได้หรือยัง ถ้ายังฉันจะทำให้เธอหลับคาอกฉันตอนนี้เลย” ซันเดย์แกล้งขู่ออกไปเสียงเข้ม
“ไม่แล้วค่ะ ฝันดีนะคะ คุณออกไปปิดไฟให้หนูด้วยนะคะ” เด็กสาวรีบมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนา นอนตะแคงข้างหันหลังให้ชายหนุ่มและปิดเปลือกตาลงสนิท
“อ้ะ! คุณจะนอนกับหนูที่ห้องนี้เหรอคะ” แขนแกร่งรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก ความอุ่นจากแผงอกผ่านเสื้อนอนตัวบางสัมผัสแผ่นหลังจนขนลุกซู่เพราะไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้มาก่อน แม้แต่อ้อมกอดของพ่อกับแม่เธอก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไง เพราะเท่าที่จำความได้ตอนเด็กพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันทุกวันเพราะพ่อของเธอนั้นไปมีผู้หญิงอื่น
“ประหยัดไฟ” ซันเดย์ตอบเพียงแค่นั้นไฟหัวเตียงก็ดับลง ไม่นานทั้งสองก็หลับไป
ณิชาตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืดด้วยความเคยชินของร่างกายที่จะตื่นขึ้นมารดน้ำผักและเก็บผักไปขายที่ตลาด เมื่อร่างบางในอ้อมกอดขยับตัวซันเดย์ก็รู้สึกตัวตาม
“จะตื่นไปไหนตั้งแต่เช้า เธอมีเรียนตอนตีห้าหรือไง” เสียงแหบพร่าของคนที่กำลังหลับสบายถูกปลุกให้ตื่นมาตอนเช้ามืด เอ่ยถามขึ้นเมื่อมองนาฬิกาบนฝาผนังก็พบว่าตอนนี้พึ่งจะตีหน้าครึ่ง
“หนูชินค่ะ คุณนอนต่อก็ได้นะคะเดี๋ยวหนูจะออกไปเตรียมอาหารเช้า คุณทานข้าวต้มหรือเป็นขนมปังกับกาแฟคะ”
“ข้าวต้ม ไม่ใส่ผัก ชงกาแฟให้ฉันด้วย”
“ค่ะ นอนต่อเถอะนะคะ เสร็จแล้วหนูจะเข้ามาปลุก” เท้าเล็กก้าวลงจากที่นอนคว้าชุดคลุมที่แขวนอยู่ราวใกล้ ๆ มาสวมทับชุดนอน ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องครัว
ณิชาเปิดตู้เย็นสำรวจวัตถุดิบที่จะทำมื้อเช้าวันนี้สำหรับเธอและชายหนุ่ม หมูสับ กุ้งสดที่แกะเปลือกล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วถูกแพ็กใส่กล่องอย่างเป็นระเบียบ รวมทั้งผักต่าง ๆ ก็ถูกล้างและห่อใส่ถุงเรียงกันในช่องผักเช่นกัน
“อืม..ทำข้าวต้มหมูสับผสมกุ้งดีกว่านะ” ณิชาหยิบหมูสับและกุ้งออกมาจากตู้ จัดการบดกุ้งให้ละเอียดและนำไปผสมกับหมูสับและเครื่องเทศที่ซื้อสำเร็จมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต เมื่อเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยน้ำในหม้อที่ต้มไว้ก็เดือดพอดี ผงปรุงรสแบบก้อนและน้ำสต๊อกที่เตรียมไว้ถูกเทลงหม้อส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้องครัวเล็ก เมื่อน้ำเดือดได้ที่เธอก็เติมเนื้อหมูและกุ้งที่คลุกรวมกันปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ พอดีคำใส่ลงในหม้อ รอสักพักเมื่อเนื้อสัตว์ที่เธอใส่ลงไปสุกได้ที่ก็เติมข้าวสวยที่เตรียมไว้เทใส่ลงในหม้อและคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ลดระดับไฟลงมาเป็นโหมดอุ่นอาหาร
เมื่อข้าวต้มเสร็จแล้วก็หันมาเตรียมกระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้าข้าวต้มเพื่อจะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้น่ารับประทาน น้ำมันมะกอกถูกโรยลงกระทะเล็กน้อยและตามด้วยกระเทียมสับที่เธอสับเตรียมไว้ ผัดพอให้กระเทียมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก็ตักใส่ถ้วยใบเล็กที่เตรียมไว้
ข้าวต้มหมูสับรวมกุ้งถูกตักใส่ชามใบใหญ่ยกไปตั้งบนโต๊ะอาหาร พร้อมกับถ้วยกระเทียมเจียวและต้นหอมผักชีสำหรับเธอที่ชอบทานผัก เมื่อตั้งโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับเข้าห้องจัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียนเช้าวันนี้
“เตรียมเสื้อผ้าให้ฉันด้วย” เสียงทุ้มเอ่ยบอกขณะที่กำลังสนใจมือถือในมือ
“ค่ะ”
ณิชากลับเข้ามาในห้องอีกครั้งก็พบว่าเจ้าของเสียงดุที่ชอบทำใส่เธอนั้นไม่ได้อยู่บนที่นอน มีเพียงเสียงน้ำดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำให้ได้ยิน ชุดทำงานของชายหนุ่มถูกแขวนไว้ราวอเนกประสงค์ข้างตู้เสื้อผ้า พร้อมกับเนกไท จากนั้นณิชาก็หยิบกระเป๋าและเดินออกมานั่งรอชายหนุ่มที่โต๊ะทานข้าว นั่งคิดอยู่ประมาณห้านาทีก็นึกขึ้นได้ว่าเธอลืมชงกาแฟให้ชายหนุ่มก็รีบสาวเท้าเข้าห้องครัวและจัดการชงกาแฟร้อนที่เสียบกาน้ำร้อนทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนทำกับข้าว
ข้าวต้มร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง กลิ่นกาแฟคั่วบดละเอียดที่สั่งมาพิเศษจากทางเหนือส่งกลิ่นหอมเช่นกัน
“ฉันไม่กินผัก เอามาทำไม”
“อันนี้ของหนูค่ะ คุณใส่กระเทียมเจียวไหมคะ”
“ใส่แค่นิดเดียว”
ข้าวต้มร้อน ๆ ถูกตักเข้าปากคำแรกเคี้ยวอยู่นานก่อนจะตักคำต่อไป ณิชารอลุ้นว่าชายหนุ่มจะคอมเมนต์รสชาติว่าอย่างไร แต่เงียบไร้คำติชม สองคนนั่งทานมื้อเช้าเงียบ ๆ จนข้าวต้มในชามของซันเดย์ถูกตักทานไปจนหมด
“คุณรับเพิ่มอีกไหมคะ”
“ฉันเป็นคนนะไม่ใช่ช้างจะได้กินเยอะขนาดนั้น”
“เดี๋ยวหนูไปหยิบนมมาให้นะคะ อุ่นไว้ในไมโครเวฟ รอสักครู่ค่ะ”
วันนี้ซันเดย์เจริญอาหารมากกว่าปกติ ทั้งทานข้าว ทานนม และปิดท้ายด้วยกาแฟที่รสชาติแปลกไปจากเตมินที่เคยชงให้เขาทานประจำ
“เธอชงกาแฟยังไง”
“คะ? ไม่อร่อยเหรอคะ หนูก็ทำตามสูตรเป๊ะ ๆ นะคะ”
“ทำตามสูตร”
“ใช่ค่ะ เติมน้ำ 1:15 ส่วน ทิ้งไว้ 4 นาที จะได้รสชาติและกลิ่นของกาแฟจริง ๆ ตามสูตรที่บอกไว้ข้างกล่องเป๊ะ มันไม่อร่อยเหรอคะ”
“เปล่า วันหลังสอนเตมินมันบ้างนะ”
ตอนพิเศษ 3เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นพร้อมแสงแดดอ่อนที่สาดผ่านผ้าม่านบางเบาในห้องนอน ซันเดย์ยังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิงจากเมื่อคืนที่เขาทุ่มพลังงานไปหมดทุกหยดเพื่อกิจกรรมสร้างครอบครัว แต่แทนที่ร่างกายจะได้พักเต็มที่ กลับต้องรู้สึกตัวตื่นเพราะความเคยชิน และความเงียบผิดปกติของเตียงข้างกายมือหนาควานหาคนรักอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา แต่ความว่างเปล่าบนผืนเตียงกลับเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าเมียตัวน้อยไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วเขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น กะพริบถี่ ๆ เพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสลัวในห้อง ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาดิจิทัลที่หัวเตียง"ตีห้าห้าสิบแปด..." เสียงทุ้มสบถแผ่วเบาในลำคอ พร้อมขมวดคิ้วอย่างหัวเสีย“ตื่นไปทำบ้าอะไรแต่เช้าวะ...” เขาพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์ ดันตัวลุกขึ้นช้า ๆ กล้ามเนื้อยังปวดระบมจากเมื่อคืน หัวคิ้วเข้มยังคงขมวดแน่น"เมื่อคืนยังทำท่าจะหมดแรงอยู่เลย ไม่รู้จักนอนพักให้เต็มอิ่มบ้างหรือไง..." น้ำเสียงขุ่นเคืองแต่แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงเขาเอื้อมหยิบเสื้อคลุมมาสวมลวก ๆ เดินเซ ๆ ออกไปทางประตู ระหว่างนั้นก็ยังบ่นกับตัวเองไม่หยุด เห็นณิชาใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นกำ
ตอนพิเศษ 2“ไปอาบน้ำกัน” ซันเดย์อุ้มณิชาในท่าเจ้าสาวเข้าไปในห้องน้ำ ค่อย ๆ วางหญิงสาวลงอย่างเบามือ ขาเล็กยังมีอาการสั่นพยายามยืนประคองตัวเองใต้ฝักบัว“ยืนไหวหรือเปล่า” ซันเดย์เอ่ยถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นภรรยาตัวน้อยมีอาการขาสั่นเล็กน้อย“ไหวค่ะ”“ยืนเฉย ๆ ฉันอาบให้” ฝ่ามือหนาชโลมครีมอาบน้ำลงไปบนตัวหญิงสาว ค่อย ๆ ลูบไล้ทั่วตัวอย่างอ้อยอิ่ง“รีบอาบเถอะค่ะ มัวแต่ลูบอยู่นั่นแหละเมื่อกี้ยังกินไม่อิ่มหรือไง” เสียงเล็กดุออกไป ฝ่ามือหนากำลังนวดคลึงอยู่เต้าอวบต้องหยุดชะงัก“ถ้าตอบว่าไม่จะให้กินต่ออีกรอบหรือไง” ซันเดย์แกล้งโยนหินถามทาง“ได้ค่ะ แต่เสร็จจากนี้ช่วยไปเซนต์ใบหย่ากับหนูที่อำเภอด้วยนะคะ” ณิชาตอบกลับเสียงแข็ง“รีบอาบน้ำแล้วไปกินข้าวดีกว่านะ สายมากแล้วเธอคงจะโมโหหิว”“น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วนะคะ มัวแต่หื่นอยู่ได้ตั้งแต่เช้า” ณิชาว่ากลับ ซันเดย์รีบเปิดน้ำล้างตัวให้หญิงสาว ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ถูกหยิบมาพันรอบตัวหญิงสาว จากนั้นอุ้มออกไปห้องแต่งตัวห้องอาหาร“มากันแล้วเหรอลูก แม่กำลังจะให้เตมินไปตามพอดีเลย เป็นไงบ้างเมื่อวานเหนื่อยไหม” สไมล์เอ่ยถามทั้งสองเมื่อเดินมานั่งลงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ โดยทุกคน
ตอนพิเศษ 1คืนส่งตัวเข้าหอเป็นคืนที่เหน็ดเหนื่อยมากที่สุดคืนหนึ่งของณิชา ครั้งสุดท้ายที่เธอดูนาฬิกาคือเวลาเที่ยงคืน หลังจากนั้นเธอทำได้เพียงร้องครางออกมาแค่นั้น“คุณไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนคะ หนูจะไม่ไหวแล้วนะคะ” หญิงสาวบอกเจ้าบ่าวหมาด ๆ ของเธอออกไปเสียงเหนื่อยอ่อน“หนึ่งปี ฉันอดอยากมาหนึ่งปีเต็ม” เสียงเข้มตอบกลับขณะที่สะโพกสอบยังขยับเข้าออกไม่หยุด“หนูยังอยู่เป็นเมียคุณอีกนานนะคะ” ณิชาไม่รู้จะหาคำไหนมาบอกชายหนุ่มให้เข้าใจ“เสร็จครั้งนี้ฉันจะปล่อยให้นอนพัก”“นอนพัก คุณยังจะทำต่ออีกเหรอคะ” ณิชาถึงกับต้องทวนคำพูดของซันเดย์อีกครั้ง“ฉันยังไม่อิ่ม อ่าส์..”“หนูสามารถตายได้เลยนะคะ ถ้าคุณจะใช้งานร่างกายหนูหนักขนาดนี้”“แค่นอนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ออกแรงอะไร และฉันเป็นหมอฉันไม่ปล่อยให้เธอตายหรอก ถึงจะตายคาอกฉันก็ตาม” ซันเดย์ยังเมินเฉยต่อคำขอร้องของณิชา ขณะที่นอนพักเหนื่อยอยู่ฝ่ามือหนาไม่วายบีบจับตามตัวของเธอ“หนูให้คุณทำอีกแค่ครั้งเดียวนะคะ ถ้าคุณยังไม่ยอมหยุดพรุ่งนี้เราไปอย่ากันที่อำเภอ” ณิชาจำต้องขู่ชายหนุ่มออกไปแบบนั้น เพราะแขนขาเธออ่อนแรงและสั่นเทา คอแหบแห้งเพราะครวญครางมานานต่อกันหลายชั่วโมง“เ
ตอนที่49 งานแต่งในฝัน“ตกลงค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”“อื้อ..” ร่างบางถูกอุ้มลอยขึ้นจากพื้นถูกวางลงบนเตียงนอนอย่างเบามือชุดนอนตัวบางถูกถอดออกด้วยฝีมือของชายหนุ่ม อกอวบนุ่มเด้งสีขาวเนียน ยอดอกสีชมพูเข้มชูชันยั่วยวนอยู่ตรงหน้าจ๊วบ!“อือ..คิดถึง ตรงนี้ก็ของฉัน จ๊วบ! ตรงนี้ก็ของฉัน ร่างกายเธอเป็นของฉัน” เสียงกระเส่าพร่ำบอกขณะที่ลิ้นสากโลมเลียไปทั่วร่างกาย“อื้อ..คุณ” ณิชาร้องเสียงหลงเมื่อลิ้นสากลากผ่านตรงกลางกลีบอวบนูนจากล่างขึ้นบน ไปหยุดที่ตรงติ่งเกสร“ตรงนี้เธอแฉะหมดแล้ว จ๊วบ” ซันเดย์ตวัดลิ้นเลียตรงรูแคบที่ปิดสนิทเพราะไม่ได้ใช้งานมานานอย่างไม่นึกรังเกียจ ดูดเลียน้ำหวานที่ไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย“ฉันจะสอดนิ้วเข้าไปแล้วนะ” ซันเดย์เอ่ยบอกหญิงสาว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาสอดเข้าไปไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะเจ็บหรือตกใจหรือไม่“อื้อ..คุณ หนูเสียว มันเสียวมากหนูจะทนไม่ไหว ขยับที” ทันทีที่นิ้วเรียวสอดเข้าไปจนสุด สะโพกกลมมนก็บิดเร้าด้วยความเสียว ช่องทางคับแคบขมิบตอดรัดนิ้วถี่ขึ้นเรื่อย ๆ“อื้อ..เร็ว ๆ หนูต้องการเร็ว ๆ” ณิชาร้องขออย่างไม่นึกอายเมื่อโดนความเสียวซ่านครอบงำแจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ!“อือ..อ่าส์”“ฉันขอใส
ตอนที่48 ขอแต่งงาน“ช่วยด้วย ช่วยด้วย คนเป็นลม” เสียงตะโกนดังลั่นมาจากหลังซอยด้านใน สายตาคมมองขวับตามสัญชาตญาณความเป็นหมอตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าของทั้งสองวิ่งไปทิศทางที่คนมุงอยู่ด้วยความเร็ว“ขอทางหน่อยครับ ผมเป็นหมอ” เสียงเข้มพูดขึ้นเดินแทรกเข้าไปหาคนป่วยที่นอนเป็นลมหมดสติอยู่บนพื้น โดยมีผู้เป็นสามีนั่งประคองศีรษะหนุนไว้ที่ตักพรึบ!แจ็กเกตราคาครึ่งแสนถูกถอดออกและปูลงกับพื้นไม่กลัวเปื้อนแม้แต่น้อย“วางศีรษะคนป่วยนอนราบกับพื้นครับ เอากระเป๋ามารองเท้าให้ยกสูงขึ้น” ซันเดย์จัดการทุกอย่างด้วยความชำนาญ มือหนาคลำชีพจรที่คอเมื่อรับรู้ว่าชีพจรคนป่วยนั้นเริ่มเต้นอ่อนจึงรีบคลายเสื้อเพื่อให้หายใจสะดวกและเช็กชีพจรเป็นระยะระหว่างที่รอรถพยาบาลมาถึง“ณิชาโทรเรียกรถพยาบาล ทุกคนอย่ามุงครับคนป่วยไม่มีอากาศหายใจช่วยถอยออกไปก่อนครับ”“ถอดรองเท้าคนป่วยออกให้หมด ใครมีน้ำเปล่าบ้างครับ” ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กสีเทาเข้มถูกล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง น้ำเปล่าถูกเทราดจนเปียกชุ่ม และเช็ดบริเวณต้นคอและตามใต้ข้อพับของคนป่วยปี๋ปอ ~ ปี๋ปอ ~ ปี๋ปอ ~“ขอทางให้เจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ” เจ้าหน้าที่พยาบาลประจำรถฉุกเฉินเดินเ
ตอนที่47 ไฮโซขายผักที่ว่างเปล่าผืนใหญ่แปลงติดกับบ้านณิชาถูกกว้านซื้อโดยเศรษฐีหนุ่มจากกรุงเทพฯ และในช่วยบ่ายวันเดียวกันบ้านน็อกดาวน์พร้อมเข้าอยู่ก็ถูกยกมาติดตั้งและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาติดตั้งหม้อไฟและเดินสายเมนเข้าบ้านให้เรียบร้อย เครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นถูกติดตั้งทั่วทั้งหลังพร้อมเข้าอยู่ภายในหนึ่งวัน จนชาวบ้านแถวนั้นต่างตะลึงที่ซันเดย์สามารถเนรมิตบ้านหนึ่งหลังขึ้นมาได้ภายในวันเดียว“โอ้โห คนมีเงินเขาสามารถเนรมิตได้ทุกอย่างจริง ๆ” เสียงของชาวบ้านในหมู่บ้านที่มายืนดูบ้านหลังใหม่ของซันเดย์ที่มีขนาดไม่เล็กมาก ถ้าเทียบกับบ้านของชาวบ้านแถวนี้บ้านของชายหนุ่มนั้นดูใหญ่กว่าด้วยซ้ำ“ได้ข่าวว่าที่แปลงนั้นยี่สิบกว่าไร่เขากว้านซื้อคนเดียวหมด แถมให้ราคาสูงกว่านายทุนที่มาขอซื้อวันก่อนหลายเท่าตัวเลยนะ”“ใช่สูงกว่าราคากลางที่กรมที่ดินประเมินให้ด้วย พ่อหนุ่มคนนั้นไม่ได้เป็นเศรษฐีหน้าเลือดเหมือนพวกนายทุนที่มากว้านซื้อที่ดินเพื่อเอาไปเก็งกำไรขายต่อเลย”“ใช่ ๆ ๆ เขายังบอกอีกว่าจะซื้อที่ดินแปลงนี้ไปทำฟาร์มผักปลอดสารพิษและจะจ้างพวกเราไปทำงานในฟาร์มอีกด้วยนะ” เสียงของชาวบ้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชายหนุ่