LOGINบรรยากาศในคอนโดตกอยู่ท่ามกลางความเงียบ หลังจากชายหนุ่มพาพิมพ์ดาวมาถึงที่นี่เขาก็หายเข้าไปในห้องนอนนานหลายนาที ทิ้งคนตัวเล็กนั่งประหม่ากลางห้องบริเวณโซฟา
ขณะนี้หญิงสาวไม่กล้าลุกขึ้นหรือขยับตัวไปไหนนั่งคอยคนตัวโตอย่างใจเย็น พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกหวาดกลัวไว้ในใจโดยไม่ให้เขาล่วงรู้
แอ๊ด!
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น พิมพ์ดาวชำเลืองดูเบื้องหน้าซึ่งเผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของคิลเลียนกำลังเดินมา ไม่รอช้าก้มหน้างุดมองพื้นด้วยความไว หลบเลี่ยงสายตาคมกริบจ้องมองมายังเธอ
“จำฉันได้ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำให้เธอแหงนมองเขา
“จำได้” ว่าพลางพยักหน้ายืนยันคำตอบ
ทำไมเธอจะจำเขาไม่ได้กันล่ะ ในเมื่อผู้ชายคนนี้คือเพื่อนสมัยมัธยมปลายแม้จะไม่เคยพูดคุยกันสักครั้งก็ตาม ทว่าเขาคือรักแรกของเธอ หนำซ้ำตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายก็ยังคงติดตามเขาเสมอ เลยทำให้รู้ว่าเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แตกต่างกับเธอหลังเรียนจบมัธยมปลายไม่ได้เรียนต่อต้องทำงานหาเลี้ยงคนในครอบครัว
“ดี! ฉันจะได้ไม่ต้องแนะนำตัว” ฝ่ามือใหญ่จับเชยคางกลมกลึงพร้อมประสานสายตากัน นิ้วแกร่งลูบไล้ริมฝีปากอวบอิ่มแสนเย้ายวนซึ่งกำลังเรียกร้องให้เขาตักตวง คนทนไม่ไหวอย่างคิลเลียนโน้มหน้าเข้าใกล้พิมพ์ดาวก่อนประกบปากหยักกับปากนุ่ม
ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว จูบแรกของเธอกำลังถูกเพื่อนสมัยเรียนปล้นไปอย่างดื้อ ๆ ทำเอาใจดวงน้อยเต้นระรัวแทบทะลุออกนอกอก
“อื้อ” จูบของเขาทำให้เธอรู้สึกเคลิ้มยิ่งนัก หญิงสาวหลับตาพริ้มตอบรับอย่างเงอะงะและไม่วายยกแขนเรียวคล้องต้นคอแกร่ง ก่อนจะรู้สึกว่าตนเองถูกดันให้นอนแนบหลังกับโซฟา ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถผลักไสเขาออกห่างยังคงทำตามความปรารถนาคนเหนือร่าง
“รู้ใช่ไหม ฉันพาเธอมาที่นี่ทำไม” เขาถอนจูบออกด้วยความเสียดายเนื่องจากกลัวทำให้เธอขาดอากาศหายใจ นัยน์ตาคู่คมสำรวจทั่วกรอบหน้างดงามของคนตัวเล็กอย่างหลงใหล
“อืม” ตอบรับสั้น ๆ ในลำคอพลางเบือนหน้าหนี ต่อให้แสร้งตอบไม่รู้เขาคงไม่มีทางปล่อย ฉะนั้นยอมรับตรง ๆ ดีกว่าแต่เรื่องที่เธอต้องมาเป็นผู้หญิงของเขาค่อนข้างกะทันหันไปหน่อยจึงยากจะยอมรับ
“งั้นมาคุยข้อตกลงระหว่างเราก่อน” คิลเลียนผละออกจากร่างเล็กแล้วไปนั่งฝั่งตรงข้ามพิมพ์ดาว
หญิงสาวเด้งตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบสายตาของเขา พานทำให้ใจเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้
คิลเลียนเหลือบมองคนขี้กลัวครู่หนึ่งก่อนเปิดประเด็นสำคัญ
“ฉันจ่ายเงินให้ป้าเธอเพราะต้องการให้เธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน รู้ใช่ไหมว่าฉันหมายถึงแบบไหน”
“รู้” ตอบเสียงแผ่วแต่พอทำให้ใครคนหนึ่งได้ยินชัดเจน
“เธอต้องอยู่ในฐานะผู้หญิงของฉันหนึ่งปีเต็ม ระหว่างนั้นห้ามล้ำเส้นไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ตาม ที่สำคัญห้ามท้องเพื่อหวังจับฉัน เข้าใจไหม” หรี่ดวงตาสังเกตปฏิกิริยาคนตัวเล็กตรงหน้า
“ฉันขอพูดอะไรบางอย่างได้ไหม” คราวนี้เธอยอมเงยหน้ามองเขาโดยไม่เกรงกลัวดวงตาคู่นั้น
“มีอะไรว่ามา”
“ฉันขอหาเงินมาทยอยจ่ายได้ไหมแลกกับการไม่เป็นผู้หญิงของนาย”
“ไม่ได้!!” ปฏิเสธเสียงแข็งหลังจากได้ยินวาจานั้นเปล่งจากริมฝีปากอวบอิ่ม
“มานี่พิมพ์ดาว” ส่งสายตาดุดันเรียกให้เธอมาหา คนตัวเล็กไม่มีทางเลือกมากนักจำยอมไปหาเขาง่ายดายก่อนถูกดึงมานั่งบนตักแกร่ง
“ว้าย!!”
“เธอคิดว่าฉันยอมจ่ายเงินก้อนโตให้กับป้าเธอเพื่อให้เธอทำแบบนั้นกับฉันเหรอ พิมพ์ดาว” จับบีบคางมนให้หันมามองหน้ากัน
“เปล่า” ตอบเสียงแผ่ว เธอไม่คิดว่าการเสนอแบบนั้นจะทำให้อีกคนโมโหขั้นนี้ เธอแค่ไม่อยากเป็นนางบำเรอของใครโดยเฉพาะคนตรงหน้าชายที่เธอแอบรัก
“ทั้งที่รู้ก็ยังจะพูด” จบคำพูดคิลเลียนบดขยี้ปากนุ่มรุนแรงเต็มไปด้วยความปรารถนาที่มีต่อคนตัวเล็ก
จูบครั้งนี้ไร้ความปรานีมีแต่ความดิบเถื่อนที่เขาจะมอบให้เธอ พิมพ์ดาวถึงกับอ่อนระทวยคาอ้อมกอดคนตัวโต
“คิลเลียน” มือเล็กขยุ้มเสื้อเขาพร้อมเบือนหน้าหนีแล้วสูดเอาออกซิเจนเข้าเต็มปอด
“จำไว้อย่าพูดแบบนั้นให้ฉันได้ยิน เข้าไปในห้องแล้วถอดเสื้อรอ” บอกด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ตอนนี้เหรอ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างปนตกใจนึกไม่ถึงเขาจะทำมันเลย
“มีปัญหาเหรอ” คิ้วดกดำขมวดเข้ากัน
“ไม่” ส่ายหัวไปมาเล็กน้อย แม้อยากจะตอบว่ามีก็คงไม่กล้าเพราะอีกคนจ้องอย่างเอาเรื่อง
“งั้นไปรอฉันในห้อง เดี๋ยวฉันตามไป”
“ขอฉันอาบน้ำก่อนได้ไหม” อย่างน้อยขอถ่วงเวลาสักนิดยังดีเผื่อเขาอาจเปลี่ยนใจไม่ทำคืนนี้ก็ได้ บอกตามตรงเธอไม่พร้อมจริง ๆ
“อืม”
หลังจากได้ยินคำขออนุญาตจากปากชายหนุ่ม พิมพ์ดาวรีบลุกขึ้นออกจากตักเขาและวิ่งตรงไปยังจุดหมาย
“เฮอะ” จ้องมองหลังเล็กจนลับหาย เรื่องที่เกิดขึ้นเขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันทุกอย่างกะทันหัน
ทางฝั่งพิมพ์ดาวหลังจากเอาตัวหนีรอดจากสถานการณ์เมื่อสักครู่สำเร็จ เธอยืนจ้องมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำพลางกวาดสายตามองรอบ ๆ บริเวณ ก่อนพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ…ทำไมลงเอยแบบนี้กัน” จะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่เจอคิลเลียนจึงทำให้เธอไม่โดนพาไปขาย แต่นั่นแหละไม่ต่างกันเลย ดีหน่อยตรงที่เธอแค่ปรนเปรอเรือนร่างให้เขาคนเดียว
ก๊อก!
“เสร็จยังพิมพ์ดาว” เสียงทุ้มของคนนอกห้องส่งผลให้คนตัวเล็กสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“ยัง” ตะโกนตอบคนข้างนอก
“เร็ว ๆ หน่อย ฉันไม่ชอบรอนาน”
“ขอเวลายี่สิบนาที”
“ไม่ได้ ฉันให้แค่สิบนาที”
คำพูดของคนเอาแต่ใจทำให้พิมพ์ดาวถอนหายใจยืดยาวแต่ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เธอรีบจัดการชำระล้างร่างกายจนเสร็จสิ้นแล้วคว้าชุดคลุมอาบน้ำมาสวมใส่และเปิดประตูออกไปข้างนอกก่อนพบว่าเขาก็อยู่ในสภาพชุดคลุมอาบน้ำ ผมเปียกชุ่มราวกับเพิ่งอาบน้ำหมาด ๆ นั่งอยู่ตรงเตียงขนาดคิงไซซ์
“มานี่สิ” กวักมือเรียกคนตัวเล็กยืนนิ่งหน้าประตูห้องน้ำ ไม่ยอมก้าวมาหาสักทีทำเอาหงุดหงิดไม่น้อย
“เอ่อ คือ…” เสียงหวานตะกุกตะกักกอปรกับหน้างดงามร้อนผ่าวแค่เห็นสภาพคิลเลียนเธอก็จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“พิมพ์ดาว ฉันบอกให้มานี่!!” เขาเริ่มเดือดเมื่อคนตัวเล็กไม่มีท่าทีจะขยับ กระทั่งทนไม่ไหวก้าวเท้าใหญ่ประชิดหญิงสาวและแบกเธอขึ้นบ่าจากนั้นนำไปโยนบนเตียง คร่อมร่างบอบบางพร้อมตรึงแขนเล็กกับที่นอน
“คิลเลียน”
“เธอดื้อนะพิมพ์ดาว ไม่ได้ยินที่พูดเหรอเมื่อกี้” จ้องเขม็งเธอปานกินเลือดกินเนื้อ
“ได้ยิน”
“เฮอะ”
คำตอบจากปากนุ่มทำเอาหัวเสียไม่น้อย ด้วยความโกรธเคืองคิลเลียนก้มหน้าจูบปากอวบอิ่มพร้อมทั้งบดขยี้ระบายอารมณ์ขณะนี้ไปกับคนใต้ร่าง
“อื้อ” เสียงหวานร้องครางในลำคอ จูบครานี้หนักหน่วงกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า จนทนไม่ไหวเป็นอันต้องยกกำปั้นน้อย ๆ ทุบตีหลังแกร่งถี่รัวหวังให้เขาปล่อยตัวเองเป็นอิสระ
“ตีทำไมวะ เจ็บชะมัด” รวบแขนขาวเนียนทั้งสองข้างยกขึ้นเหนือศีรษะ ส่งสายตาดุดันไปยังคนตัวเล็กใต้ร่างที่แสนพยศยิ่งนัก
“ก็นายรุนแรงทำไมล่ะ ฉันหายใจไม่ออก”
“แล้วใครใช้ให้เธอดื้อวะ” ถามอย่างหัวเสีย คิดไม่ถึงคนที่ไม่เจอนานหลายปีจะเถียงเก่งขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนพูดน้อยเจอหน้ากันทีไรชอบแสดงท่าทีเขินอาย
“นายจะไม่ให้ฉันเตรียมตัวบ้างเลยเหรอ”
“เถียงเก่งชะมัดเลยเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย”
“นายเหมือนกันนั่นแหละไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย” เถียงทันควัน
“แสดงว่าเมื่อก่อนแอบมองฉันบ่อยเหรอท่าทางจะรู้จักฉันดี” ถามพลางอมยิ้ม
“…” พิมพ์ดาวหันหน้าอย่างไว เพิ่งจะรู้ตัวว่าเธอพลาดซะแล้วเกือบเผยความรู้สึกให้เขาล่วงรู้
คิลเลียนก้าวออกจากห้องนอนด้วยสภาพโซซัดโซเซเพื่อตรงไปหาพิมพ์ดาวที่นั่งยังโซฟา แม้ตอนนี้จะปวดหัวมากแต่ยังพยายามจะแบกร่างไร้เรี่ยวแรงไปหาคนตัวเล็กพิมพ์ดาวเหลือบมองคนตัวโตแวบหนึ่งแต่ไม่ได้แยแสนัก หน้าจิ้มลิ้มหันมองบรรยากาศนอกคอนโดที่มีแสงแดดจ้า ก่อนรู้สึกตัวเมื่อคิลเลียนมานอนหนุนตักตัวเอง“ทำอะไรของนาย” ปรายตามองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังพูดจาไม่ดีใส่เธออยู่เลยแล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้นล่ะ“ฉันขอโทษ” คว้ามือเล็กขึ้นมากุมพร้อมกับแหงนหน้ามองเธอ“เฮอะ! ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ” แค่นหัวเราะในลำคอเหตุการณ์ในห้องนอนเมื่อสักครู่ เธอยังจำได้ดีไม่ลืมเลือนเขาพูดอะไรไว้บ้างและทำร้ายจิตใจเธอมากแค่ไหน“เธออย่าเข้าใจฉันผิดสิพิมพ์ดาว ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย”“ไม่ต้องสนใจฉันหรอก ไปนอนข้างในเถอะ” เธอทำเป็นไม่แยแสคนป่วย“อย่าไล่กันเลยนะพิมพ์ดาว” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเว้าวอน“ฉันไม่กล้าไล่เจ้าของห้องอย่างนายหรอก”“ฉันปวดหัวมากเลยพิมพ์ดาว” คิลเลียนดึงแขนเล็กมากอดพร้อมทำท่าออดอ้อนหวังให้คนตัวเล็กเห็นใจ“ก็ไปนอนข้างในให้มันดี ๆ สิ”“ฉันอยากอยู่กับเธอ” ช้อนตามองคนตัวเล็กซึ่งสื่อไปด้วยความรู้สึกมากมาย จ
คนตัวเล็กบนโซฟากลางห้องนั่งเหม่อลอย มองวิวนอกคอนโดในยามเช้าด้วยใจล่องลอยก่อนถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความเบื่อหน่ายยิ่งนานวันความรู้สึกที่มีต่อคิลเลียนมากขึ้น จากคำว่าชอบเริ่มผันเปลี่ยนเป็นคำว่ารัก ไม่อยากจินตนาการถึงวันต้องแยกจากกันเลยจะรู้สึกอย่างไร คงเจ็บปวดไม่ใช่น้อย“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย” หน้างดงามซบลงกับหัวเข่ามนพร้อมปรายตามองประตูห้องที่มีคนตัวโตอยู่ในนั้นกำลังหลับใหลเวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ไร้ร่างกำยำของคิลเลียนย่างเท้าออกมาจากห้องนอน พิมพ์ดาวเหลือบมองนาฬิกาฝาผนังซึ่งขณะนี้เป็นเวลาเก้าโมง“ทำไมคิลเลียนยังไม่ออกมา ไม่ทำงานเหรอวันนี้” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเชิงสงสัย เธอตัดสินใจหย่อนเท้าเล็กแตะพื้นเข้าไปหาคนในห้องหญิงสาวเดินไปนั่งข้างคนตัวโต ยื่นแขนเล็กแตะหัวไหล่แกร่ง ก่อนรู้สึกถึงความร้อนแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา“ไม่สบายเหรอ” เธอจับพลิกเขาให้นอนหงายพร้อมยื่นหลังมือแตะหน้าผากของคิลเลียน แล้วรีบชักมือกลับอย่างไว “ร้อนจัง”พิมพ์ดาวไม่ปล่อยให้เวลาเดินอย่างไร้ประโยชน์ เธอเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง หายออกจากห้องประมาณสิบนาทีและกลับมาอีกครั้งพร้อมอุปกรณ์เช็ดตัว“อื้อ หนาว”“อดทนห
“อ๊า พิมพ์ดาวทำไมถึงหวานทั้งตัวแบบนี้” เสียงทุ้มเอ่ยชมเชยคนตัวเล็กด้วยความหลงใหลกับเรือนร่างงดงามเขาผละออกจากดอกบัวตูมแล้วเลื่อนลงต่ำ ไม่วายกดจูบหน้าท้องแบนราบและไปหยุดยังกลีบกุหลาบงดงามห่อหุ้มด้วยชั้นใน คนใจร้อนอย่างคิลเลียนรีบถอดปราการชิ้นสุดท้ายออกห่างกายสาวอย่างไว“อึก อ๊ะ คิลเลียน” ทันทีที่ปลายลิ้นสากแตะช่องทางรัก พิมพ์ดาวถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความเสียวซ่านพร้อมยกหลังมือขึ้นปิดปาก หน้างดงามส่ายไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงแผ่เต็มหมอน เม็ดเหงื่อค่อย ๆ ผุดขึ้นทีละนิดแม้เครื่องปรับอากาศราคาแพงจะให้ความเย็นมากแค่ไหนก็ไม่อาจดับความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นขณะนี้ระหว่างคนทั้งสอง“พิมพ์ดาว ฉันไม่ไหวแล้ว” คิลเลียนชันเข่าก่อนจับหัวเข่ามนแยกออกจากกันให้กว้าง ๆ สอดแทรกความเป็นชายเข้าในตัวเธอพรวดเดียวจนสุดลำ จากนั้นซอยสะโพกสอบเข้าออกตามจังหวะพิศวาสการร่วมรักครั้งนี้สำหรับพิมพ์ดาวค่อนข้างดิบเถื่อนกว่าที่ผ่านมา จนคนตัวเล็กทนไม่ไหวเปล่งเสียงครวญครางดังลั่นทั่วห้องนอน“อื้อ คิลเลียนรุนแรงเกินไปแล้ว” เธอกำผ้าปูเตียงแน่นพร้อมทั้งดิ้นพล่าน“ฉันคิดถึงเธอ ขอเอาแรง ๆ นะ” คิลเลียนปรายตามองนิ้วเรียวก่อนประสานนิ้วยาว
“โธ่เว้ย! ทำไมไม่รับสายวะ” ทางด้านคิลเลียนเขาพยายามกระหน่ำโทรหาพิมพ์ดาวหลายสายแต่ไร้การตอบกลับจากคนตัวเล็กทำเอาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ก่อนจะสบถด้วยคำหยาบคายอย่างหัวเสีย“พี่คิลเลียนขา อาหารเสร็จแล้วค่ะ” เสียงของนิรินทำให้ผละจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วก้าวเดินไปหาเจ้าของห้อง“อาหารน่าทานจัง” ปรายตามองอาหารเต็มโต๊ะแต่เขาไม่รู้สึกอยากกินสักนิดเดียวเพราะมัวแต่พะวงถึงพิมพ์ดาว“ของโปรดพี่คิลเลียนทั้งนั้นเลย นั่งสิคะ” เธอลากเก้าอี้ให้ชายหนุ่มนั่ง“ไม่กินด้วยกันเหรอ” ช้อนตามองนิรินซึ่งยังคงยืนนิ่งข้างหลังตัวเอง ไม่มีท่าทีจะนั่งทำเอาอดสงสัยไม่ได้“กินค่ะ” พูดพร้อมหย่อนก้นนั่งลง แต่นิรินไม่ได้ตักอาหารกินทันใดยังคงจับจ้องมองคิลเลียนอย่างรอลุ้นหลังจากชายหนุ่มรับประทานอาหารคำแรก นิรินเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ที่ไปเป็นตามความคาดหวัง“อร่อยไหมคะ”“อืม”“ทานเยอะ ๆ เลยนะคะ” พูดพร้อมตักอาหารใส่จานของเขา“ไม่กินเหรอ” เหลือบมองคนข้างกายเอาแต่ตักอาหารให้ตัวเอง“นิรินไม่ค่อยหิวค่ะ แค่เห็นพี่คิลเลียนกินก็อิ่มแล้ว”“อืม” ชายหนุ่มไม่ได้เซ้าซี้มากนักยังคงนั่งรับประทานอาหารต่อเรื่อย ๆ กระทั่งผ่านไปสักพักเริ่มรู้สึกร้อนรุ่
จากวันนั้นผ่านมาสองสัปดาห์ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาเรียกได้ว่าค่อนข้างดีมากสำหรับพิมพ์ดาวเพราะไม่เคยได้รับการเอาใจใส่แบบนี้มาก่อนจึงเคลิ้มชีวิตของเธอในตอนนี้ดีกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า ตั้งแต่มีเขาอะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป จนกลัววันหนึ่งถ้าแยกจากกันเธอจะทำใจลำบาก“พิมพ์ดาว”“หืม” คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงตื่นจากภวังค์ ก่อนแหงนหน้ามองคนตัวโต“เหม่ออะไรของเธอ”“เปล่า” เผยยิ้มอ่อน“ฉันจะไปทำงานแล้ว” คิลเลียนรวบเอวคอดพร้อมกับดึงคนตัวเล็กเข้าสู่วงแขน จากนั้นจุมพิตหน้าผากมนด้วยความอ่อนโยนแล้วกดจูบแก้มขาวเนียน“ไปทำงานดี ๆ นะ” โบกมือลาคนตัวโตก่อนปิดประตูห้อง หมุนตัวเดินไปนั่งยังโซฟาหรูกลางห้องทุกวันช่วงเช้าคิลเลียนมักรบเร้าให้พิมพ์ดาวไปส่งเขาเป็นประจำ บ่อยครั้งทำเอาใจสาวหวั่นไหวกับการกระทำอีกฝ่ายอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ย่อมทราบดีตอนจบเป็นเช่นไรแต่ไม่วายเผลอไผลและหลงใหลไปกับสิ่งนั้น“เฮ้อ…” เธอรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปไวเหลือเกิน แค่ไม่เท่าไรผ่านมาแล้วสองสัปดาห์รถคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาข้างในรั้วคฤหาสน์ แล่นไปจอดยังโรงรถก่อนเจ้าของจะเปิดประตูก้าวลงมา เผยให้เห็นร่างของคิลเลียนนัยน์ตาคมกริบจ้องมองเบื้อง
นัยน์ตาคมจับจ้องภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าบนจอขนาดใหญ่ภายในโรงภาพยนตร์ท่ามกลางแสงริบหรี่และอากาศหนาวเหน็บ แม้สายตาคิลเลียนมองดูสิ่งที่อยู่ข้างหน้าแต่ในใจร้อนรุ่มคะนึงหาถึงพิมพ์ดาวด้วยอาการกระสับกระส่าย“พี่คิลเลียนคะ”“หืม” หันขวับมองคนข้างกาย“นิรินไม่อยากดูแล้ว หิวข้าว”“ขอโทษนะนิรินแต่ฉันต้องไปแล้ว” สิ้นคำพูดชายหนุ่มวิ่งออกจากโรงภาพยนตร์รวดเร็ว ไม่เหลียวหลังมองนิรินสักนิดเดียว จะรู้สึกอย่างไรกับการกระทำของตัวเอง วินาทีนี้เขาเป็นห่วงพิมพ์ดาวมากราวกับมีลางสังหรณ์บางอย่างกำลังเกิดขึ้นชายหนุ่มใช้เวลาในการขับรถถึงคอนโดประมาณหนึ่งชั่วโมง เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ตัวเองไม่ได้ให้กุญแจห้องกับคนตัวเล็กหลังจากรถจอดสนิทไม่รอช้าวิ่งเข้าข้างในตึก กวาดสายตามองทั่วล็อบบี้แต่กลับพบความว่างเปล่า เลยตัดสินใจไปถามพนักงานแต่คำตอบที่ได้รับคือพิมพ์ดาวยังไม่กลับมา“หายไปไหนของเธอวะ” เอ่ยขึ้นพลางกดโทรหาพิมพ์ดาวถี่รัว ก่อนวิ่งหาคนตัวเล็กบริเวณใกล้เคียงของคอนโดตัดมาทางพิมพ์ดาว เธอไม่รู้ตัวเลยตอนนี้กี่โมงเนื่องจากผล็อยหลับตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หนำซ้ำแบตโทรศัพท์ดันหมดอีกต่างหาก เมื่อลืมตาขึ้นกลับพบกับความมืดและความเงียบสง







