LOGINหลังจากแต่งงานกันมาได้สามปี รักแรกของฝู่เฉินซีได้กลับประเทศ ขณะเดียวกัน ซูย่างก็ได้รับเอกสารขอหย่าจากผู้ชายที่เธอรักมานานถึงสามปี หน้าสำนักงานทะเบียนสมรส ฝู่เฉินซีมองรักแรกด้วยสายตาอ่อนโยน เอ่ยคำสารภาพจากใจว่า “สามปีแล้วนะ ฉันไม่เคยแตะต้องเขาเลย ฉันรักแค่เธอคนเดียว” ซูย่างรู้สึกสิ้นหวังอย่างหมดใจ คิดว่าความรักตลอดสามปีที่ผ่านมาเหมือนทิ้งให้หมากิน จากนั้นเธอก็หันกลับไปทำงานเก่าของตัวเองอีกครั้ง มุ่งหน้าเก็บเงินและเดินหน้าสู่จุดสูงสุดของชีวิต ผู้คนถึงได้รู้กันในตอนนั้นว่า “คุณนายฝู่” ที่ถูกทอดทิ้งนั้น ทั้งสวย ทั้งรวย เป็นผู้หญิงคุณภาพระดับสูงตัวจริง สามเดือนต่อมา ในค่ำคืนหนึ่ง ฝู่เฉินซีโทรหาเธอด้วยดวงตาแดงก่ำ “ย่างย่าง... ฉันเสียใจแล้ว...” ในสายโทรศัพท์ มีเพียงเสียงพึมพำของผู้หญิงที่แฝงความง่วงงุนว่า “หรงอวี้... ใครเหรอ...” ผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ครอบครองหญิงงามหัวเราะพลางวางสาย ก่อนก้มลงจูบคนในอ้อมกอดเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่พวกโทรมาขายของน่ะ”
View More“ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาล กินยาแก้ปวดนิดหน่อยก็หายแล้ว” ซูย่างพึมพำเบา ๆมือที่จับพวงมาลัยของหรงอวี้กำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว “เป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ เจ็บมากขนาดนั้นตลอดเลยไหม?”“ปกติไม่เป็นค่ะ แค่วันนี้ดื่มเบียร์เย็นไปขวดหนึ่ง”“จำไม่ได้เหรอ?” น้ำเสียงของหรงอวี้ฟังดูทุ้มต่ำและขรึมซูย่างชะงักไปเล็กน้อย “จำได้ แค่ตอนนั้นเผลอสนุกเกินไปเลยลืมตัว”รถจอดอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ตอนกลางดึกแบบนี้ไม่มีคิวลงทะเบียน มีเพียงหมอเวรและแพทย์ฉุกเฉินเท่านั้นที่อยู่ประจำโชคดีที่คืนนี้มีหมอเวรจากแผนกนรีเวชอยู่ หมอจึงสั่งยาสมุนไพรจีนพร้อมทั้งยาแก้ปวดให้“จำไว้นะ ยาจีนให้ดื่มวันละหนึ่งครั้ง ต้องดื่มให้ครบทุกครั้งด้วย”ซูย่างพยักหน้า “รู้แล้วค่ะ”ที่จริงเธออยากจะบอกว่าไม่เห็นต้องทำให้เรื่องใหญ่เลย ปกติเธอไม่เคยปวดมากขนาดนี้ แค่วันนี้เผลอลืมตัวดื่มเหล้าไปขวดเดียวเท่านั้นเองเมื่อกลับขึ้นรถอีกครั้ง สีหน้าของหรงอวี้ดูเคร่งขรึมขึ้น เขาขับรถมาจอดที่หน้าตึกคอนโด ก่อนจะถือถุงยาเดินขึ้นลิฟต์ไปด้วยกันซูย่างชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบตามเขาขึ้นไปทันทีพอมาถึงหน้าห้อง ซูย่างก็เปิดประตูแล้วพูดว่า “คุณหรง ดึกมากแล้
ก่อนวันแข่งขันหนึ่งวัน ซูย่างยังคงยุ่งอยู่กับงานต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยเธอทำงานร่วมกับคนจากฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายวางแผนในการจัดเตรียมตกแต่งหอประชุม แม้แต่ศาสตราจารย์เวินเองก็ยังไม่วางใจ อยู่ช่วยดูจนดึก“ข้อสอบสำหรับการแข่งขันจัดเตรียมไว้เรียบร้อยหรือยัง?” ศาสตราจารย์เวินถามซูย่างพยักหน้า “เก็บไว้ในตู้เซฟที่ห้องให้คำปรึกษาเรียบร้อยแล้วค่ะ กุญแจตู้เซฟมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น”ศาสตราจารย์เวินพยักหน้า “งั้นก็ดีแล้ว”หลังจากศาสตราจารย์เวินกลับไปแล้ว ซูย่างก็ยังไม่วางใจ จึงตรวจเช็กอุปกรณ์ต่าง ๆ ในหอประชุมอีกครั้งหลังจากทุกอย่างเตรียมเรียบร้อยก็เป็นเวลาห้าทุ่มครึ่ง ซูย่างถอนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ขอแค่การแข่งขันในวันพรุ่งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ความเหนื่อยทั้งหมดก็ถือว่าคุ้มค่าเธอกลับไปที่ห้องให้คำปรึกษาเก็บของ ยังไม่ทันออกจากห้องก็ได้รับโทรศัพท์จากหรงอิน “อินอิน?”เสียงของหรงอินดังมาทางสายด้วยความเป็นห่วง “พี่ซูย่าง ทำไมยังไม่กลับบ้านอีกเหรอคะ?”“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันเก็บของเรียบร้อยแล้ว กำลังจะกลับบ้าน เดี๋ยวนี้ก็ดึกมากแล้ว เธอรีบเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปแข่งอีก” เ
“ใครบอกว่าฉันจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันความรู้ด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยคุณล่ะ?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาซูย่างเบิกตากว้าง หันขวับไปด้วยความตกตะลึงประตูห้องทำงานของอธิการบดีถูกผลักเปิดออก หลินจิ่นเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยของเธอฝู่หยาฮุ่ยมองคนที่เข้ามาด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา “หลิน... หลินจิ่น!”หลินจิ่นเมินพวกเธอไปโดยสิ้นเชิง แล้วจับมือทักทายกับอธิการบดีหลิน “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลินจิ่น”“อาจารย์ มาที่นี่ได้ยังไงคะ?” ซูย่างมองเธออย่างตะลึง“เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ” หลินจิ่นหันไปมองแม่ฝู่แล้วพูดว่า “คุณนายท่านนี้ ตอนนี้ฉันยืนยันได้แล้วว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ในฐานะกรรมการ แบบนี้คงไม่นับว่าเป็นความผิดพลาดอีกแล้วใช่ไหมคะ?”สีหน้าของแม่ฝู่หม่นลงทันที เธอหันมาสบตากับฝู่หยาฮุ่ย หลินจิ่นยอมตกลงได้ยังไงกัน?หรือว่าเป็นคุณชายสามหรงที่อยู่เบื้องหลังช่วยเธออีกแล้ว?“คุณหลิน ตกลงว่าคุณยอมมาร่วมเป็นกรรมการการแข่งขันจริง ๆ เหรอ?” อธิการบดีหลินถามขึ้นหลินจิ่นพยักหน้า “อืม ตอนนี้ยืนยันได้แน่นอนแล้วค่ะ”“เป็นไปได้ยังไง? คุณบอกว่าไม่มีเวลาไม่ใช่เหรอ? วันนั้นพี่ชายฉันก็ถามคุณไปแ
น่าจะเป็นนักบำบัดทางจิตที่คุณหรงหามาให้หรงอิน ผู้หญิงคนเดียวกันกับที่รอเธออยู่ตรงเคาน์เตอร์โรงแรมเมื่อครู่นี้ท้ายเอกสารมีตารางกำหนดการของการแข่งขันความรู้ด้านจิตวิทยาแนบมาด้วย พร้อมทั้งหัวข้อของบทอภิปรายเธอคิดในใจ บางทีเธอควรลองเปิดใจทำความรู้จักกับนักศึกษาในยุคใหม่นี้ดูบ้าง เผื่อจะได้เห็นความน่าประทับใจบางอย่างจากคนรุ่นใหม่นี้หลังจากซูย่างกลับถึงบ้าน ก็นั่งเหม่อมองออกไปทางหน้าต่างเธอคิดว่าหลินจิ่นพูดถูกแล้ว หลินจิ่นเคยศึกษาต่อในต่างประเทศมาหลายปี เข้าร่วมโครงการวิจัยด้านจิตวิทยามากมาย และมีแนวทางการศึกษาวิจัยที่โดดเด่นไม่เหมือนใครการที่เธอกลับมาประเทศครั้งนี้ การจัดเสวนาไม่เพียงเพื่อช่วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านจิตวิทยาในเมืองหนานเฉิงแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ยังเป็นการวิเคราะห์กรณีศึกษาทางจิตวิทยาพิเศษอีกด้วย เวลาของเธอจึงมีค่ามากถ้าเธอสามารถยอมแลกด้วยสิ่งที่มีค่ามากกว่านั้น บางทีก็อาจจะสามารถโน้มน้าวให้หลินจิ่นมาร่วมการแข่งขันได้แต่เธอไม่มีสิ่งนั้น ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงยอมตัดใจวันต่อมา เธอไปที่ห้องทำงานของอธิการบดีทันที “อธิการบดี ขอโทษค่ะ อาจารย์หลินจิ่นไม่สาม