Masukหลายวันผ่านไป เขมมิกาเริ่มแปลกใจ เมื่อเห็นมิราแอบพาแมวเข้าไปเดินเล่นในบ้านหลังติดกัน ที่สำคัญเธอไม่เคยเห็นเจ้าของบ้านหลังนั้น โผล่หน้ามาทักทายเลยด้วยซ้ำ ทว่ามิรากลับพูดถึงเขาราวกับสนิทสนมกันมาเป็นแรมปี จนเธออยากเห็นหน้าคุณลุงที่ลูกสาวกำลังพูดถึง
“คุณลุงหายไปไหนคะ มิราแอบแม่มาที่นี่ แต่ก็ไม่เจอคุณลุงเลยค่ะ”
“พอดีลุงงานยุ่งน่ะ ว่าแต่หนูได้อะไรมาเยอะจัง”
“นี่ค่ะ ทุเรียนทอดเมล็ดทานตะวันแล้วก็เม็ดมะม่วงหิมพานต์ค่ะ”
“หนูเอามาฝากลุงเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“ขอบใจนะ แต่มันเยอะเกินไปลุงขอแค่สองอย่างนี่ก็พอ” ปรเมศฉีกยิ้มกว้างให้มิราจนเห็นไรฟัน
“ถ้าลุงไม่เอามิราก็คงต้องทิ้งค่ะ”
“ทำไมล่ะ... หนูเก็บไว้กินเองก็ได้นี่นา ทำไมโกรธฉันเหรอ”
“ไม่ค่ะ มิราไม่ได้โกรธคุณลุง แต่มิราแพ้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ค่ะกินไม่ได้”
“จริงเหรอ!” คราวนี้ใบหน้าและแววตาของศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศแฝงไปด้วยร่องรอยของความสงสัย ที่เห็นว่ามิราแพ้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ไม่ต่างจากเขาเช่นกัน “มิรา... มิรา!”
“แม่เรียกหาแล้วมิรากลับก่อนนะคะ” เสียงเรียกของมารดาทำให้หนูน้อยรีบอุ้มเจ้าคาโก้กลับบ้านอย่างไว จนปรเมศแอบยกยิ้มมุมปากให้กับความน่ารักของเธอ
“คุณแม่เรียกมิราเหรอคะ”
“ใช่จ๊ะ หนูไปไหนมาอย่าบอกนะว่าแอบไปแล่นที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว” เขมมิกาเอ็ดลูกสาวออกไปด้วยสีหน้าดุดัน เพราะเธอกลัวมิราตกอยู่ในอันตราย
“คุณลุงใจดีมากเลยค่ะ คุณลุงบอกว่าเจ้าคาโก้ของมิราน่ารัก มันฉลาดด้วยนะคะคุณแม่”
“แม่บอกกี่ครั้งอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า ต่อจากนี้เป็นต้นไป แม่ขอสั่งห้ามไม่ไหนหนูแอบพาเจ้าคาโก้ไปเล่นที่บ้านหลังนั้นอีกเด็ดขาด”
“ไม่ได้ค่ะ”
“ทำไมจะไม่ได้ นี่หนูเห็นคนอื่นสำคัญกว่าแม่เหรอ”
“เปล่านะคะ พอดีมิรากับคุณลุงเราสองคนกำลังต่อจิ๊กซอว์ภาพเจ้าคาโก้ยังไม่เสร็จเลยค่ะ เย็นนี้มิราขอไปบ้านคุณลุงอีกนะคะ”
“ฮ่ะ! อะไรนะ จิ๊กซอว์ภาพเจ้าคาโก้...”
“ใช่ค่ะ”
“บอกคุณลุงของหนูมาพบแม่ แล้วแม่จะอนุญาตให้หนูพาเจ้าคาโก้ไปเล่นที่บ้านของเขาได้ เข้าใจไหมมิรา”
“เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวมิราไปทำการบ้านก่อนนะคะ”
“จ้า”
หลังจากมิราเดินไปทำการบ้านที่ห้องนั่งเล่น เสียงรถยนต์คันหรูได้แล่นเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเนเน่เพื่อนรักของเธอนั่นเอง
“ทำอะไรอยู่คะคุณแม่”
“ก็มิราน่ะสิ แอบไปเล่นที่บ้านหลังข้าง ๆ อีกแล้ว”
“แปลกนะ... ปกติมิราไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าไม่ใช่เหรอ”
“นั่นน่ะสิ ว่าแต่มาลิคจะมาวันไหนเหรอ” เขมมิกาเอ่ยถามเพื่อนรักออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่รู้เหมือนกัน งานเขาเยอะจะตาย”
“เขาหาเงินไว้เผาแกรึไง”
“ยัยเขม!...” เนเน่มองค้อน ขณะที่เขมมิกายกยิ้มมุมปาก หลังจากเธอได้ใช้ถ้อยคำนี้เอาคืนเพื่อนรัก
“ฉันรู้นะว่ามาลิคไม่เหมือนกับผู้ชายคนนั้น อย่างน้อยเขาก็ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง รักก็บอกว่ารัก”
“ฉันขอบใจแกมากนะเขม ที่แกยอมให้ฉันกับคุณมาลิคแต่งงานกัน”
“พูดยังกับว่าฉันห้ามแกสองคนได้ยังนั้นแหละ”
“อย่าลืมสิว่าคุณมาลิคเขารักแกกับมิรามากแค่ไหน ถ้าแกบอกไม่โอเคเขาก็คงปฏิเสธฉันไปแล้ว”
“ว้าว! ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีอิทธิพลต่อความรักของพวกแกสองคนมากเลยนะเนี่ย แต่ถึงยังไงฉันก็ดีใจนะ ที่ได้เห็นคนที่ฉันรักทั้งสองคนได้แต่งงานกัน”
“แกโชคดีที่ยังมีคุณมาลิค แต่ฉันสิไม่รู้แม้กระทั่งจุดกำเนิดของตัวเอง”
“ไม่เอาสิอย่าร้องนะ แกก็มีฉันไง ที่สำคัญแกยังมีสามีที่ดีแสนดีอย่างมาลิคอีกด้วย”
ในเวลานี้เขมมิกาเป็นฝ่ายปลอบโยนเนเน่บ้าง เมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่น้อยอกน้อยใจในโชคชะตา ทว่าหญิงสาวก็สามารถฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคนับครั้งไม่ถ้วนมาได้อยู่รอดปลอดภัยจนกระทั่งทุกวันนี้
////////
เวลาผ่านไปหลายวัน ภายในบ้านของเขมมิกากำลังเฉลิมฉลองการกลับมาของมาลิค ทุกคนต่างสนุกสนานกับอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมิราได้ปีนขึ้นไปนั่งบนตักของชายหนุ่ม ขณะที่มารดาของเธอโน้มตัวลงมากอดมาลิคจากทางด้านหลัง
สร้างความเจ็บปวดให้กับคนแอบดูไม่น้อย ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศไม่เคยคิดว่าตัวเอง จะต้องมาเจอกับภาพบาดตาบาดใจเช่นนี้ คนทั้งคู่ยังป้อนอาหารกันด้วย
“ไม่อายฟ้าดินหรือไง”
“ฮันแน่... หึงเขาล่ะสิ” นทีรับบทขยี้จี้ใจดำของอีกฝ่าย พลอยทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาหันมามองเขาอย่างเอาเรื่อง
“หึงบ้าหึงบออะไรกันล่ะ ยังไงพี่สาวกับน้องสาวคงมีนิสัยไม่ต่างกัน”
“บอสดูนั่นสิครับ” คราวนี้นทีได้ชี้ไปที่เนเน่ หลังจากเขมมิกาเดินเข้าไปในบ้าน หญิงสาวได้เข้ามานั่งข้าง ๆ มาลิค ก่อนจะกอดแล้วหอมแก้มเขาฟอดใหญ่
“เน่คิดถึงคุณที่สุดในโลกเลยค่ะ”
“ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกันครับ จุ๊บ! ชื่นใจจัง”
“แด๊ดดี้จุ๊บมิราด้วยสิค่ะ”
“อ้อนเก่งนะเราเนี่ย... จุ๊บ!”
“คืนนี้เราค้างบ้านเขมดีไหม ผมอยากนอนกอดเจ้าเด็กดื้อมิรา”
“ได้สิค่ะ แต่เน่ต้องกลับไปทำงานที่คอนโดนะคะ เพราะลืมหยิบโน้ตบุ๊กด้วย”
“ได้ไง... ผมอยากนอนกอดคุณด้วย ค้างด้วยกันที่นี่นะครับ” เขากระซิบลงไปข้างใบหูเล็ก ทำเอาเนเน่เขินอายจนใบหน้าร้อนผ่าว
“พูดอะไรเดี๋ยวมิราก็ได้ยินหรอกค่ะ”
“กำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะ” เขมมิกาเดินเข้ามาขัดจังหวะคนเขากำลังสวีทกันพอดี
“เปล่าไม่มีอะไร ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะเขม”
“อ้าว! จะกลับแล้วเหรอ... มาลิคล่ะ”
“มาลิคจะนอนกับมิรา” เนเน่พูดออกไปตามตรง
“ได้ไงคะคุณมาลิค” เขมมิกาหันไปเอ็ดมาลิคที่เขาจะปล่อยให้เนเน่กลับไปคนเดียว
“ได้สิผมจะค้างที่นี่ แต่เนเน่อยากกลับเองนี่นา” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงงอนอีกฝ่าย
“มาลิคตามเขมมาเรามีเรื่องต้องคุยกัน อย่าเพิ่งกลับนะเนเน่รอก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกเขม ฉันกลับคนเดียวได้”
“เนเน่เขมบอกให้รอไง” คราวนี้เขมมิกาได้ลากมาลิคมาคุยกันสองคน เขามองชายหนุ่มด้วยแววตาผิดหวัง หลังจากที่มาลิคทำให้เนเน่น้อยใจ
“ก็ไหนคุณสัญญาว่าจะรักและดูแลเนเน่ให้ดี แล้วนี่อะไรคิดจะให้เธอกลับไปค้างที่คอนโดคนเดียวคุณบ้าไปแล้วหรือไง เธอเองก็คิดถึงคุณไม่ต่างจากมิรา”
“โอ๋... อย่าโกรธเลยนะครับ ผมก็แค่คิดถึงมิรามากไปหน่อย” เขาพูดพลางโน้มตัวเข้ามากอดเขมมิกาจากทางด้านหลัง หญิงสาวถอนหายใจออกมาเสียงดัง ก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วหันไปจ้องหน้าเขาเขม็ง
“เขมรู้ว่าคุณรักมิรามากแค่ไหน แต่เนเน่ก็ควรได้รับความรักเช่นกัน เธอไม่ต่างจากคนในครอบครัวของเรานะคะมาลิค เนเน่ไม่มีใครเลย...คุณคือทุกอย่างในชีวิตของเธอ”
“ก็ได้ผมจะกลับไปกับเธอ พรุ่งนี้ผมจะมารับมิราแต่เช้าได้ไหมครับ”
“ได้สิ”
“ขอบคุณครับ จุ๊บ!”
“มาลิค!” เขมมิกาถึงกับส่ายศีรษะไปมาให้กับความเอาแต่ใจของชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อเห็นเขาโอบเนเน่ไปขึ้นรถก่อนจะขับออกไปจากบ้าน ซึ่งได้สร้างความรู้สึกดีให้กับเขมมิกาไม่น้อย ที่มาลิคเชื่อฟังเธอ
ทว่าดวงตาคมของใครบางคน กำลังจับจ้องมายังเขมมิกาด้วยความแปลกใจ เขารู้สึกสงสัยในความสัมพันธ์ ระหว่างเขมมิกากับมาลิคและเพื่อนรักของเธออย่างเนเน่ จะเป็นไปได้ไหมที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น รักสามเส้าเราสามคนอย่างนั้นเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร







![คลั่งรักสาวขัด[ดอ]ดอก](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)