LOGINในเวลานี้ใบหน้าของศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ แฝงไปด้วยร่องรอยของความเสียใจ หลังจากเขารู้ความจริง มิราคือลูกสาวที่เขาเคยสั่งให้เขมมิกาไปทำแท้ง ถ้าหากวันนั้นเธอขาดสติ ทำในสิ่งที่เขาพูดออกไป จะเป็นเช่นไร นี่เขายังคงหลงเหลือความเป็นคนอยู่หรือเปล่า
“ยังมีอีกเรื่อง ที่ผมเพิ่งทราบมาจากนักสืบ”
“คุณเนเน่แต่งงานกับคุณมาลิคนานแล้ว พวกเขาสองคนเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย”
“แล้วเขมมิกากับมาลิคล่ะ”
“ผมไม่แน่ใจ แต่เท่าที่สืบมาได้ คนทั้งสองไม่น่าใช่คู่รักอย่างแน่นอน”
“ฉันเป็นพ่อที่เลวมากเลยใช่ไหมนที”
“ใช่ครับเลวอย่างไม่น่าให้อภัย” แทนที่เขาจะปลอบใจ ทว่าผู้ช่วยคนสนิทกลับพูดจาทับถม ซ้ำเติมความเจ็บปวดลึกลงกลางใจ
“ขอบใจที่คอยซ้ำเติม” นทีแทบหลุดขำ เมื่อเห็นท่าทีของศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศหมดอาลัยตายอยากแบบนี้
“ทำไว้กับเขาเยอะ ก็แบบนี้แหละครับ”
“ไอ้นที!” คราวนี้ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศถึงกับตวาด เรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาด้วยความโกรธ
“ใจเย็น ๆ สิครับ ผมกำลังหาคำตอบในความสัมพันธ์ของคุณเขมมิกากับนายมาลิคนั่นอยู่”
“รีบหน่อยก็แล้วกัน”
“ครับบอส”
“ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“รินมาสิครับ”
“หึ! นายนี่มันจริง ๆ เลยนะ” เขาถึงกับมองค้อนนที แต่ก็ยอมรินบรั่นดีส่งให้ผู้ช่วยคนสนิทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนทีเป็นดั่งน้องชายมากกว่าลูกน้องกับเจ้านาย
/////
ณ มหาวิทยาลัยเกษมเมฆา
ด็อกเตอร์เขมมิกาถูกนักศึกษาหนุ่มหยอดคำหวาน จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วมหาวิทยาลัย ทุกคนต่างพูดถึงอาจารย์ที่มารับตำแหน่งสอนพิเศษไปในทิศทางเดียวกัน เธอสวยและยังเก่งมากความสามารถเป็นกันเองกับนักศึกษา
“อาจารย์ครับ ผมขออนุญาตสอบถามได้ไหมครับ” นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งยกมือขึ้น แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้ พลอยทำให้คนอื่นหันมาสนใจในสิ่งที่เขากำลังสงสัย
“มีอะไรที่นักศึกษายังสงสัยอีกคะ อาจารย์อธิบายหัวข้อไหนไม่ชัดเจนถามมาได้เลยค่ะ” เธอส่งยิ้มให้กับนักศึกษาในห้องด้วยท่าทีเป็นมิตร
“ผมอยากถามว่าอาจารย์มีแฟนหรือยังครับ”
“อาจารย์ขอไม่ตอบนะคะ เพราะคำถามนี้ไม่ได้อยู่ในบทเรียน” เขมมิกาพูดพลางเก็บสื่อการเรียนการสอน ก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพราะหมดชั่วโมงของเธอแล้ว
“อาจารย์ค่ะ เรียนเชิญที่ห้องศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศด้วยค่ะ” เมื่อเธอเดินออกมาได้สักพัก ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งเดินเข้ามาหา พร้อมกับแจ้งความประสงค์ให้กับด็อกเตอร์เขมมิกาได้รับทราบ
“เขามีธุระอะไรกับดิฉันหรือเปล่าคะ”
“น่าจะเกี่ยวกับโครงการเข้าค่ายของนักศึกษาในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ค่ะ” เขมมิกาถึงกับถอนหายใจออกมา เพราะเธอไม่สามารถปฏิเสธได้
“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวดิฉันขอเอาของไปเก็บที่โต๊ะทำงานแล้วจะรีบไปพบศาสตราจารย์นะคะ”
“ได้ค่ะ”
เมื่อเขมมิกาเอาของไปเก็บที่โต๊ะทำงาน เธอพยายามทำใจดีสู้เสือ เพราะได้เตรียมใจที่จะเจอกับเขามาแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ถึงยังไงเธอก็คงหนีเขาไม้พ้น ตราบใดที่ยังทำงานอยู่ที่นี่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เชิญครับ” น้ำเสียงทุ้มดังมาจากข้างในห้อง ทว่าเขมมิกากลับก้าวเท้าไม่ออก เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นกลายเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
หญิงสาวใช้ความกล้าทั้งหมดเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องของศาสตราจารย์หนุ่ม เธอเคยคิดว่าเขาได้ตายจากใจไปแล้ว ทว่าในเวลานี้กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังคงมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเธออยู่ดี แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่มีทางทำให้เธอกลับไปอยู่จุดเดิมได้อีก
“เชิญนั่งครับ” เขาพูดออกมา ขณะที่สายตายังคงจับจ้องที่จอคอมพิวเตอร์
“ขอบคุณค่ะ” น้ำเสียงนุ่มนวลส่งผลให้หัวใจของอีกฝ่ายเต้นไม่เป็นจังหวะ นานแค่ไหนแล้วที่หัวใจดวงนี้มันไม่ได้เต้นแรงแบบนี้
“ไม่เจอกันนานคุณสบายดีใช่ไหมเขมมิกา” คำถามแรกจากเขาไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีแต่อย่างใด ในทางกลับกัน มันกำลังส่งผลให้เธอเกลียดเขาด้วยซ้ำ
“ตั้งแต่วันที่ฉันก้าวเท้าออกมาจากบ้านศิระเมฆา ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สบายทั้งกายและใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยละค่ะ”
“ทำไมล่ะ อยู่กับผมมันทำให้คุณรู้สึกแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ฉันไม่ใช่ผู้ต้องหาที่ต้องมาตอบคำถามของคุณ ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวนะคะ” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาห่างเหินกว่าที่เคย
“ผมอยากทราบว่าอาจารย์จะพาเด็ก ๆ ไปจัดโครงการที่ไหน ทำหนังสือขออนุญาตตามระเบียบของทางมหาวิทยาลัยแล้วหรือยัง”
“เรื่องนั้นดิฉันจัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ”
“หยุดก่อน!” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเดินออกไป จึงทำให้เขารีบลุกขึ้นเดินไปขวางเธอเอาไว้ พลางลงกลอนประตู ก่อนจะเดินเข้าหาหญิงสาวจนเขมมิกาถอยกรูดด้วยความตกใจ
“คุณคิดจะทำอะไรน่ะ!” หญิงสาวจ้องหน้าคู่กรณีด้วยแววตาแข็งกร้าว ประหนึ่งเขาคือศัตรูของเธอ
“ผมต่างหากที่ต้องถาม คุณคิดจะทำอะไร ทำไมต้องบอกลูกว่าผมตายไปแล้ว”
“คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ใครเป็นลูกของคุณมิทราบ” เขมมิกากำมือแน่นระงับความโกรธ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น ในวันที่เขาสั่งให้เธอไปเอาเด็กออก ถ้าหากเขาไม่พูดแบบนั้นเธออาจยอมให้มิรารู้ว่าใครคือพ่อก็เป็นได้
“ผมขอโทษ” น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างกับคนกำลังพ่ายแพ้
“เรื่องราวระหว่างเรามันจบไปตั้งนานแล้ว ฉันไม่รู้ว่าที่นี่คือมหาลัยของคุณ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ลงนามในสัญญาอย่างแน่นอน”
“ผมจะทำหน้าที่ของพ่อที่ดี ผมขอเจอลูกได้ไหมเขม ขอให้ผมได้ดูแลคุณกับลูกเถอะนะ”
“ฉันไม่ใช่นางเอกในนิยาย ที่คุณหันมาเมื่อไหร่ก็เจอ ที่สำคัญเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของคุณ” ความรู้สึกเจ็บปวดฝังลึกอยู่ในจิตใจของเธอ จนไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาเคยให้เธอเสียน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่า
“ผมรู้นะว่ามิราคือลูกสาวของผม”
“แล้วไง!” ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายเธอจึงไม่ปฏิเสธ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อมิราโตมาโดยที่ไม่ต้องมีพ่อก็ได้
“ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่แยกแยะเรื่องพี่สาวของคุณกับพ่อของผม”
“ฉันต่างหากที่ผิด ผิดที่เลือกแต่งงานกับผู้ชายอย่างคุณ”
“ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม”
เพล้ง! หญิงสาวคว้าแก้วน้ำบนโต๊ะของเขาปาลงกับพื้นจนแตก
“เขม!”
“คุณเห็นไหม แก้วที่มันแตกไปแล้วยังไงก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ต่อให้คุณใช้ความพยายามทั้งชีวิต สุดท้ายมันก็สูญเปล่า”
เขมมิกามองไปยังเศษแก้วเหล่านั้น ไม่ต่างจากหัวใจของเธอที่มันแตกสลายไปแล้ว เขาคงไม่รู้ว่าเธอเจ็บปวดแค่ไหน กว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้มันไม่ง่ายเลยสักนิด
“ผมจะเป็นแก้วใบใหม่ที่ดีกว่าใบเดิม เพิ่มเติมคือความรักที่มันไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงซึ้งจนน้ำตาซึม แต่ตอนนี้หัวใจของฉันมันด้านชา ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับลมปากของผู้ชายอย่างคุณอีกแล้ว”
“เขม... คุณให้โอกาสผมสักครั้งไม่ได้หรือไง”
“โอกาสที่ฉันให้กับคุณ มันหมดลงตั้งแต่วันที่คุณสั่งให้ฉันไปฆ่าลูกในไส้แล้วละค่ะ” เขมมิกาไม่ทนอีกต่อไป น้ำตาของเธอมันไหลออกมาราวกับสั่งได้ โชคชะตาทำไมถึงถึงใจร้ายกับเธอจัง สุดท้ายก็ได้หวนกลับมาเจอกับเขาอีกครั้งจนได้
“ผมไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่ผมยินดีที่ชดเชยทุกอย่างให้กับคุณนะเขม”
“แต่ฉันไม่ต้องการ”
“ทำไมคุณไม่บอกความจริงกับผม”
“ความจริงอะไรคะ”
“ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่พี่สาวของคุณ เธอเป็นลูกติดที่แม่เลี้ยงของคุณเธอพยายามทำทุกอย่าง เพื่ออยู่เหนือคุณที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณธนกร”
“มันเป็นเรื่องในครอบครัวของฉัน คุณอย่าพูดถึงมันอีกเลยนะคะ”
“ถ้าผมรู้ตั้งแต่แรกคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”
Rrrr!!! บทสนทนาชะงักลงเมื่อสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของเขมมิกาดังขึ้น
“ขอตัวนะคะ” หญิงสาวถือโอกาสเดินออกมาจากห้องทำงานของศาสตราจารย์ปรเมศทันที ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปี เขาก็ยังคงวางอำนาจคิดว่าเธอเป็นเบี้ยล่างเสมอ
เมื่อเขมมิกาเดินออกมาจากห้องของศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ หญิงสาวถูกเชิญให้ไปพบกับท่านรองอธิการบดีฐานินทันที ทำเอาหญิงสาวเริ่มแปลกใจ ทำไมเขาชอบวางอำนาจกับเธอแปลก ๆ ชอบกล
“คืนนี้ผมจะให้อาจารย์สุชาติไปคุยเรื่องโครงการกับอาจารย์เขมมิกานะครับ”
“ดิฉันว่าเราคุยกันที่มหาลัยก็ได้ค่ะ ทำไมต้องไปคุยกันที่โรงแรมด้วยล่ะคะ” หญิงสาวไม่เข้าใจว่าชายสูงวัยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่
“พอดีว่าอาจารย์สุชาติต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ผมจึงอยากให้เขาได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการเข้าค่ายของนักศึกษา ทางมหาลัยเน้นความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก จึงผิดพลาดไม่ได้” เขาชักแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาสาธยายทั้งที่โครงการนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย
“ได้ค่ะ ดิฉันจะไปพบกับอาจารย์สุชาติตามที่ท่านรองอธิการนัดเอาไว้” หญิงสาวพูดจบประโยคได้ขอตัวเดินออกมา ซึ่งเป็นจังหวะที่ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเดินออกมาจากห้องของเขาเช่นกัน
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมท่านรองอธิการบดีถึงเรียกให้คุณไปพบ”
“เปล่าค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอไม่อยากสนทนากับเขา จึงรีบปลีกตัวเดินหนีไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายหายข้องใจ เพราะเขารู้ว่าสูงวัยมีจุดประสงค์ที่จะเขี่ยเขมมิกาออกไปจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร







