Share

บทที่ 12 ริษยา

last update Last Updated: 2025-12-20 11:17:48

ในเวลานี้บิดาของเขมมิกากำลังนั่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ก่อนที่เขาจะคว้าเอาคนรักเก่ามาเชิดน้าชูตา จนทำให้มารดาของเขมมิกา ภรรยาแต่งต้องระกระเหินแรมรอนออกไปจากบ้านหลังนี้ไปด้วยความเจ็บปวด                                                                        

          “เวลาผ่านไป ผมเพิ่งเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ผมขอโทษนะขิมที่ดูแลเขมไม่ดีพอ” ธนกรบิดาของเขมมิกากำลังพูดกับภาพถ่ายของอดีตภรรยา หลังจากความสุขในชีวิตของเขาค่อย ๆ ถดถอยลงไป จนไม่เหลือแม้แต่รอยยิ้มที่เคยสดใส                                                                            

แม้ร่างกายจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ชายสูงวัยกลับอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อรอใครสักคน เขาอยากขอโทษและชดเชยสิ่งที่เคยทำไว้กับสายขิมมารดาของเขมมิกา ถ้าหากลูกสาวกลับมา เขาเองก็อยากเห็นเขมมิกามีความสุข                                                                                          

“คุณธนกร! คุณหยิบภาพถ่ายเมียเก่าขึ้นมาดูหมายความว่ายังไงคะ คิดถึงมันเหรอ”             

“พิมพ์ดาว!” น้ำเสียงแข็งดังขึ้น จนคนถูกเรียกชื่อถึงกับสะดุ้ง          

“นี่คุณโกรธฉันเหรอคะ ฉันทำอะไรผิดนักหนา ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่หน้าด้านคิดแย่งคุณไปจากฉัน”

“ถ้าผมไม่หน้ามืดตามัวหลงรักคุณจนดวงตามืดบอด ผมคงใช้ชีวิตกับขิมอย่างมีความสุขไปแล้ว”

“นี่คุณกำลังคร่ำครวญเพรียกหาเมียเก่า ทั้งที่ฉันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคน คุณบ้าไปแล้วเหรอ” 

“ใช่! เพราะผมมันบ้าถึงกล้าไล่เขมออกจากบ้าน ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพยายามอธิบาย แม้แต่ลูกสาวของผมตอนนี้ไม่รู้เธอกำลังตกระกำลำบากอยู่ที่ไหน”                                                                                

“ความรักของฉันที่มีให้คุณมันคงหมดอายุแล้วสินะ” คราวนี้พิมพ์ดาวแสร้งทำเป็นบีบน้ำตา เมื่อเห็นธนกรเริ่มเปลี่ยนไป เขาไม่ไว้ใจคนใกล้ตัวเหมือนเมื่อก่อน                                                                    

“บางทีผมก็แอบคิดนะ ทำไมผมต้องยอมคุณ ความรักเหรอ... ทำไมผมยังหาคำตอบไม่ได้” ก่อนเดินออกไปจากบ้าน ประโยคนี้ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับพูดไม่ออก เพราะแท้ที่จริงแล้วหัวใจของเขายังคงมีแต่สายขิม

เหตุผลที่ธนกรไม่ได้แต่งงานกับพิมพ์ดาวตั้งแต่แรก เพราะธุรกิจที่เขาลงทุนไปหมดหน้าตัก เรื่องธุรกิจที่กำลังถูกจับตามองจากคนในครอบครัว ก่อนที่บ้านของธนกรจะล้มละลาย หนทางเดียวที่เขาสามารถกอบกู้บริษัทขึ้นมาแข็งแกร่งได้ดังเดิม คือการแต่งงานกับสายขิมเท่านั้น                   

รักแท้แพ้ใกล้ชิด ประโยคนี้กำลังทำให้กำแพงใจของธนกรพังลง ทว่าเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ภรรยาของเขาเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน พิมพ์ดาวก็กลับมาพร้อมกับลูกน้อยของเธอ                                     

สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นราวกับละครหลังข่าว นางมารร้ายพิมพ์ดาว เริ่มเข้ามาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของธนกรกับสายขิม ถึงขนาดให้ร้ายว่าเธอคบชู้สู่ชาย จนถูกไล่ออกจากบ้านไปอย่างไม่ใยดี           

“แม่เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะ มิ้นต์เดินสวนกับพ่อดูท่าทางของพ่อจะไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่” มินดาเดินเข้ามาถามมารดาด้วยใบหน้าหงิกงอ                                                                                         

หล่อนทำตัวเป็นคุณหนูของบ้านหลังนี้ ทั้งที่เขมมิกาไม่เคยได้สัมผัสมันเลย เธออยู่ห้องเล็ก ๆ ทั้งที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของธนกร แต่เขากลับเมินเฉยต่อการที่เธอถูกคนในบ้านปฏิบัติเฉกคนนอก                       

“สงสัยจะนึกขึ้นได้ เลยรู้สึกผิดต่อเมียเก่า”                                    

“แม่ค่ะ! แล้วแบบนี้สมบัติทั้งหมดของพ่อ จะถูกแบ่งให้กับนังเขมมิกาหรือเปล่า”                  

“ก็คงต้องแบ่ง แต่แม่ไม่มีทางให้มันได้ไปหรอก” ดวงตาของพิมพ์ดาวฉายแววริษยาออกมาอย่างชัดเจน

“มิ้นต์เหนื่อยแล้วค่ะ อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้”                                              

“ชีวิตของแกจะดีกว่านี้ ฉันสั่งให้แกไปแย่งปรเมศมาจากนังเขม แต่แกดันไปคว้าเอาพ่อของเขามาทำผัว สมองแกมีแต่ขี้เลื่อยจริง ๆ เลย”     

“แม่ค่ะ! แม่เห็นหรือเปล่าว่าชีวิตของนังเขมมันพังพินาศเพราะใคร ถ้าไม่ใช่เพราะมิ้นต์” คราวนี้มินดาได้ยิ้มเยาะออกมาด้วยแววตาของผู้ที่ได้รับชัยชนะ                                                                            

“แล้วแกจะเอายังไง ลงทุนเสียตัวให้กับคนแก่คราวพ่อได้อะไรติดตัวมาบ้างหรือเปล่า”                       

“ก็มีรถมีบ้าน มีเงินสดในบัญชี ยังไงมิ้นต์ก็ไม่ได้โง่ที่จะหนีไปแต่ตัวเหมือนนังเขมหรอกค่ะ”    

“ตอนนี้แกกำลังคิดจะทำอะไรก็ระวังตัวหน่อย หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง” แทนที่จะตักเตือนให้ลูกสาวเลิกทำตัวเป็นนางวันทองสองใจ ทว่านางกลับชี้โพรงให้กระรอกซะอย่างนั้น                                           

“มินต์ไม่แคร์ค่ะ เพราะถึงยังไงคุณ            เมฆา(ปราวิน)ก็ไม่เชื่อข่าวลือพวกนั้นหรอกค่ะ” ดูเหมือนหล่อนจะมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง ทว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่ชอบใช้ผู้หญิงร่วมกันกับใครอย่างแน่นอน                        

“แล้วนี่แต่งตัวซะสวยจะไปเที่ยวไหนอีกล่ะ”                                  

“พอดีนัดเพื่อนไว้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นมิ้นต์ขอตัวนะคะแม่”                   

“แกจะไปไหนก็ไปเถอะ”                                                             

มินดาฉีกยิ้มให้กับมารดาก่อนจะเดินเชิดหน้าไปขึ้นรถ แล้วขับออกไปจากบ้านทันที ในขณะที่มารดากำลังนั่งถอนหายใจอยู่ตามลำพัง  

//////                                                                                         

หลายวันผ่านไป ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เขมมิกากำลังพาลูกสาวเลือกซื้อของเข้าบ้าน ทั้งสองคุยกันพลางหัวเราะไปด้วย ราวกับชีวิตของเขมมิกาได้ของขวัญที่ดีที่สุด เข้ามาเติมเต็มชีวิตของเธอ                 

“หิวไหมคะ”                                                                              

“ยังเลยค่ะ คุณแม่ขา... มิราขอซื้อตุ๊กตาตัวนี้ไปฝากคุณลุงได้ไหมคะ”                                  

“คุณลุง... คุณลุงที่ไหนเหรอจ๊ะ”                                                  

“คุณลุงข้างบ้านน่ะค่ะ... นะคะคุณแม่” หญิงสาวออกอ้อน พลางรบเร้าให้ผู้เป็นมารดาอนุญาต           

“มิรา... แม่ว่าคุณลุงเขาคงไม่ชอบตุ๊กตาแมวที่หนูซื้อให้หรอก ที่สำคัญหนูไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้าเข้าใจไหมคะ”                                            

“ก็ได้ค่ะ” หนูน้อยยอมจำนนอย่างว่าง่าย ก่อนที่เธอจะแอบหยิบเอาทุเรียนทอดมาใส่ในรถเข็ญ ซึ่งเต็มไปด้วยของกินของใช้ เพราะเขมมิกาไม่ชอบออกมาชอปปิงเท่าไหร่ หญิงสาวจึงซื้อไปตุนเอาไว้             

“เขมมิกาเหรอ” เมื่อมินดาเดินเข้ามายังแผนกเสื้อผ้า หล่อนหันไปมองเห็นแผ่นหลังอันคุ้นเคย พลางขบคิดในใจจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเขมมิกาหนีออกจากบ้านศิระเมฆาไปหลายปีแล้ว                          

เมื่อเกิดความสงสัย จึงทำให้มินดาก้าวไปข้างหน้าด้วยหัวใจจดจ่อ กว่าจะกำจัดเขมมิกาออกไปให้พ้นทางมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย               

“เอาไหมเมล็ดทานตะวันของโปรดหนูไม่ใช่เหรอ”                          

“ขอสองกระปุกนะคะ”                                                               

“ได้สิจ๊ะ” สองแม่ลูกกำลังเลือกซื้อขนมขบเคี้ยว                             

 ทว่ามินดาถึงกับยืนตัวแข็งทื่อไม่คิดว่าวันนี้จะเจอกับเขมมิกาที่นี่ แต่เด็กคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมเขมมิกาถึงได้ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี         

“แม่ค่ะ มิราขอซื้อเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยได้ไหมคะ”                   

“ไม่ได้ค่ะ หนูแพ้เกือบตายจำไม่ได้หรือไง”                                    

“แต่น้าเนเน่บอกว่าอร่อย มิราขอเอาไปฝากน้าเนเน่นะคะ”             

“โอเคจ้า”                                                                                  

เมื่อมินดาเห็นมิราเรียกเขมมิกาว่าแม่ ใบหน้าและแววตาเย้ยหยันค่อย ๆ แผ่รังสีของความอิจฉาริษยาออกมา                                        

“แหม... ฉันไม่คิดว่าจะเจอกับเธอที่นี่”                                         

“พี่มิ้นต์!” เขมมิกาเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาด้วยความตกใจ หลังจากไม่เจอกับมินดามาหลายปี           

“ฉันไม่คิดว่าเธอจะหนีไปกับผู้ชาย แถมยังมีลูกติดมาอีก”              

“พี่พูดอะไร ฉันจะมีลูกกับใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่สักหน่อย”     

“ฉันในฐานะคุณผู้หญิงของบ้านศิระเมฆาจะไม่เกี่ยวกับเธอ ที่เป็นอดีตภรรยาของลูกเลี้ยงได้ยังไง” แววตาดูหมิ่นกับถ้อยคำดูแคลน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามินดาริษยาเขมมิกาแค่ไหน                                    

“จับตำแหน่งนี้ไว้ให้มั่น อย่าเผลอทำมันหลุดมือ เพราะไม่อย่างนั้นพี่อาจถูกฉันเหยียบซ้ำก็เป็นได้ อย่าพยายามทำตัวสูงส่งทั้งที่การกระทำนั้นต่ำตมสิ้นดี” เขมมิกาเดินเข้ามากระซิบข้างใบหูของมินดา ทำให้หล่อนแทบกรี๊ดออกมา แต่ต้องอดทนเอาไว้สุดกำลัง เพราะไม่อย่างนั้นภาพลักษณ์ของหล่อนอาจถูกมองไม่ดี           

“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” น้ำเสียงที่ดังเล็ดลอดไรฟันออกมานั้น แสดงถึงความพยาบาท ที่ผูกใจเจ็บต่อเขมมิกาทั้งที่ผลทั้งหมดเกิดจากการกระทำของตัวเองแท้ ๆ                                                                    

“ใครเหรอคะแม่”                                                                                   

“จำไว้นะมิรา หนูต้องอยู่ห่าง ๆ จากผู้หญิงคนนี้เข้าใจไหม”                        

“ป้าคนนั้นใจร้ายใช่ไหมคะแม่”                                                   

“ใช่จ้า” เขมมิกาหันไปพูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะพาลูกสาวขับรถกลับบ้าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็พร้อมปกป้องมิรา อีกทั้งเขมมิกายังตั้งใจมาทวงสิทธิ์ที่มารดาของเธอควรได้รับอีกด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 23 มัดมือชก

    ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 22 พ่อบุญธรรม21/2

    เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 21 พ่อบุญธรรม

    ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 20 ความทรงจำสีจาง

    เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 19 พ่อ

    หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 18 ท่านประธาน      

    ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status