LOGINณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา
หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ
ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง
“เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน”
“อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ”
“ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตรที่ฟ้าประทานมาให้เลยทีเดียว
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็ไปกัน”
“เดี๋ยวก่อน! นี่มันลิฟต์ผู้บริหารนี่ค่ะ” หญิงสาวถึงกับชะงักไม่กล้าก้าวเท้าเดินเข้าไปในลิฟต์ เธอไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานมองไม่ดี
“ก็ผมเป็นผู้บริหารนี่นา เข้ามาสิจะรออะไร” มาลิคกวักมือเรียกทว่าเนเน่กลับเลี่ยงหนี เธอรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ที่มีพนักงานกำลังกดปิด แต่ก็เข้าไปได้ทันเวลาพอดี
“เธอคือผู้ช่วยนักออกแบบคนใหม่เหรอ”
“อืม...” เนเน่พยักหน้าพลางส่งยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงาน
“ฉันได้ข่าวมาว่าประธานคนใหม่หล่อมาก ๆ เลย พวกเธอเคยเจอกันบ้างหรือยัง”
“ไม่เคยแม้แต่ชื่อก็ยังไม่มีคนพูดถึง แต่เห็นว่าท่านประธานมาทำงานได้หลายวันแล้วนะ”
ในเวลานี้พนักงานออฟฟิศต่างพากันพูดถึงท่านประธานบริษัทคนใหม่ ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่กี่วัน แต่กลับทำตัวล่องหนราวกับไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนของเขา
เมื่อเดินมาถึงโต๊ะทำงาน เนเน่ได้นั่งลงราวกับคนกำลังมีเรื่องให้คิดหนัก หญิงสาวไม่ชอบนักออกแบบที่ชอบเบ่งอำนาจ ถึงเธอจะมารับตำแหน่งผู้ช่วยของเพลินตา ก็ไม่เห็นถึงความจำเป็นของหล่อน ที่จะต้องทำตัวเหนือกว่าเนเน่ไปเสียทุกอย่าง
“นี่คืองานของเธอ ทำให้เสร็จภายในวันนี้ เพราะพรุ่งนี้ต้องเสนอให้กับลูกค้าคนสำคัญ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอใช้ความสามารถอะไร ถึงได้คว้าตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบมาได้ ที่นี่มีแต่มือโปรทั้งนั้นอย่าทำให้ท่านประธานต้องเรียกไปพบก็แล้วกัน”
เพลินตารู้ดีว่าท่านประธานคนใหม่ มีเอเนอร์จี้ในการทำงานสูงมาก ถ้าหากเนเน่ได้รับมอบหมายชิ้นงานสำคัญ ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะขาดประสบการณ์ในการทำงาน ก็อาจถูกเรียกไปตักเตือนหรือถูกไล่ออกได้ในที่สุด
หญิงสาวไม่ใส่ใจในถ้อยคำเหน็บแนมเหล่านั้นเลยสักนิด เธอรีบลงมือเก็บรายละเอียดของงานที่ลูกค้าต้องการทันที เพราะการออกแบบบรรจุภัณฑ์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันออกไป
“คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะเพลินตา” หญิงสาวบ่นพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะดึงสมาธิกลับมาจดจ่อกับงานที่ได้รับมอบหมายอีกครั้ง
“เธอ... เนเน่” เพื่อนร่วมงานโต๊ะข้าง ๆ เรียกหญิงสาวออกมาเบา ๆ เพราะกลัวเพลินตาที่อยู่ในห้องทำงานถัดไปไม่ไกลจะดุเอา
“มีอะไรเหรอ”
“เธอรู้จักกับท่านประธานเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า”
“ก็เปล่านะ ทำไมถึงคิดว่าฉันรู้จักกับท่านประธานล่ะ”
“ก็มีคนเห็นเธอคุยกับท่านประธานน่ะสิ”
“จำคนผิดหรือเปล่า ฉันไม่รู้จักกับท่านประธานหรอก ทำงานเถอะเดี๋ยวก็โดนหัวหน้าดุเอา” เธอหันไปเอ็ดเพื่อนร่วมงานเบา ๆ ก่อนจะหันกลับมาจ้องจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
เนเน่ทำงานจนแทบไม่มีเวลาพัก เธอเดินลงไปที่โรงอาหารกินข้าวราดแกง จากนั้นก็รีบขึ้นมาทำงานต่อ เนื่องจากโปรเจ็กต์นี้ต้องส่งลูกค้าให้ทันในวันพรุ่งนี้
เวลาผ่านไปจนกระทั่งช่วงบ่าย เลขาหน้าห้องของท่านประธานได้เดินเข้ามาตามเนเน่ไปพบเขาที่ห้องทำงาน ซึ่งทำให้เธอนั้นแปลกใจ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอเนเน่”
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันทำอะไรผิดทำไมท่านประธานถึงเรียกไปพบ หรือว่ามีคนแถวนี้ไปฟ้องอะไรอีก” หญิงสาวพูดพลางปรายหางตามองไปทางห้องทำงานของนักออกแบบมือโปร ที่ชอบโชว์ผลงานแล้วยังเคยแอบอ้าง เอางานที่เธอออกแบบไปเป็นของตัวเองอีกต่างหาก
“รีบตามคุณเลขาไปสิ” เพื่อนร่วมงานกลัวเนเน่ถูกไล่ออก แต่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะงานยิ่งหายากถ้าหากโดนหางเลขไปด้วยคงแย่แน่เลย ทุกวันนี้งานยิ่งหายาก
“เชิญค่ะ ท่านประธานรออยู่ข้างใน” เลขาสาวเคาะประตูห้องเบา ๆ ก่อนจะเชิญให้เนเน่เดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่เป็นมิตรกับเธอ
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย เนื่องจากเนเน่กลัวเขาจะเล่นงานเธอ ทั้งที่ตั้งใจทำงานถวายชีวิต ดึกดื่นเที่ยงคืนก็หอบงานกลับไปทำที่คอนโดฯ จนผู้เป็นสามีอดห่วงไม่ได้
“สวัสดีค่ะท่านประธาน” เนเน่พูดพลางก้มหน้าก้มตา ซึ่งทำให้อีกฝ่ายเพ่งมองเธอด้วยความรู้สึกรักและเอ็นดูภรรยา
“เป็นอะไรไปทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ... หืม”
“คุณมาลิค!” หญิงสาวถึงกับเงยหน้าขึ้นมาอุทานเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่ามาลิคจะเป็นประธานบริษัท
“ไม่ดีใจเหรอที่เห็นผม”
“อย่าบอกนะคะว่าคุณคือท่านประธานคนใหม่ที่พนักงานต่างพากันพูดถึง” หญิงสาวแสดงสีหน้างอนเขาออกมาอย่างชัดเจน
“คุณโกรธผมเหรอ”
“ฉันมีสิทธิ์โกรธคุณด้วยเหรอคะ” น้ำเสียงของเนเน่ทำให้มาลิคอดที่จะลุกขึ้น แล้วเดินเข้ามาโอบไหล่เธอไว้ไม่ได้ พลางสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง เพราะเขาไม่อยากทำให้เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ชีวิตของเนเน่ไม่มีใครนอกจากเขาที่เป็นดั่งชีวิตของเธอ
“ปล่อยค่ะ! เดี๋ยวมีคนมาเห็น”
“เป็นถึงเมียท่านประธานคุณจะกลัวอะไร”
“เน่ขอได้ไหมคะ คุณอย่าบอกใครเรื่องที่เราสองคนเป็นสามีภรรยากันได้ไหมคะ” หญิงสาวหมุนตัวเข้าหาอีกฝ่าย พลางเงยหน้าขึ้นไปสบตาเขา ประหนึ่งกำลังอ้อนวอนขอความเห็นใจ ทั้งที่ตำแหน่งภรรยาของท่านประธานใครต่อใครก็อยากได้มาครอบครอง
มาลิคถึงกับยกยิ้มมุมปาก เมื่อได้ยินคนตัวเล็กเรียกชื่อเล่นแทนตัวเอง เธออ้อนเขาได้อย่างน่ารัก ชายหนุ่มปัดปอยผมของเธอทัดหูเอาไว้อย่างอ่อนโยน
“ว้าย! คุณจะทำอะไรเนี่ย” หญิงสาวร่างอรชรถูกต้อนถอยกรูด จนแผ่นหลังชิดกับผนังของห้อง สายตาของเขาทำให้เธอแก้มแดงระเรื่อ
“จุ๊บ!” ริมฝีปากร้อนฉ่ากดจูบลงไปยังเรียวปากอิ่มน้ำ ทำเอาคนตัวเล็กตรงหน้าแทบหยุดหายใจ เพราะไม่คิดว่ามาลิคจะกล้าทำแบบนี้กับเธอในห้องทำงานของเขา
เมื่อได้สติเนเน่พยายามต่อต้านสุดกำลัง เนื่องจากเธอกลัวว่าตัวเองจะทำให้สามีเสียชื่อเสียง เขาทั้งหล่อทั้งรวยชีวิตไม่เคยขาดเหลืออะไร ในขณะที่เธอต้องดิ้นรนสุดหนทาง เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกามาได้มันไม่ง่ายเลย
“อย่าค่ะ” เธอผลักอกแกร่งออกเบา ๆ เพื่อปฏิเสธไม่ให้มาลิคทำอะไรตามอำเภอใจ
“คืนนี้ค่อยมาต่อก็ได้ เพราะมิรากลับบ้านไปหาแม่เธอแล้ว”
“คุณมาลิคคิดแต่เรื่องบนเตียงรึไง... ฉันจะไปทำงานแล้วค่ะ”
“ผมยังไม่ได้บอกเรื่องสำคัญกับคุณเลยนะ”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“เย็นนี้ไปพบลูกค้ากับผมหน่อยสิ”
“ท่านประธานก็ไปกับคุณเลขาสิค่ะ ฉันไม่ว่างมีโปรเจ็กต์ด่วนเข้ามาต้องเสนองานให้กับลูกค้าพรุ่งนี้”
“ก็ให้คนอื่นทำไปสิ!”
“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันคืองานที่อยู่ในความรับผิดชอบของฉันนะคะ”
“ก็ได้ผมจะไม่ห้าม แต่เย็นนี้คุณต้องไปกับผมนะเนเน่” ชายหนุ่มรู้ดีว่าพ่อบุญธรรมของเธอมีนิสัยอย่างไร เขาอยากทำให้ชายสูงวัยได้เห็นคุณค่าของเนเน่บ้าง
“ทำไมคะ”
“เพราะผมต้องไปพบกับพ่อบุญธรรมของคุณ”
“ยิ่งเป็นเขาฉันก็ยิ่งไม่อยากเจอ”
“ลูกสาวของเขาก็มาด้วย ที่สำคัญคุณประจักษ์ควรได้เห็นคุณในเวอร์ชั่นนี้ ไม่ต้องกลัวนะเนเน่ผมจะปกป้องคุณเอง”
“ฉันจะไปกับคุณก็ได้ค่ะ แต่ห้ามบอกใครเรื่องของเราได้ไหมคะ ฉันไม่อยากให้ใครมองว่าตัวเองไม่คู่ควรกับคุณ”
“อะไรคือความเหมาะสม อะไรคือคำว่าคู่ควร แค่ผมรักคุณและคุณก็รักผมเหตุผลแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเราสองคน” คราวนี้น้ำเสียงของมาลิคฟังดูห้วน ๆ เมื่อเขาเห็นท่าทีของเนเน่เป็นกังวล
“ฉันรู้ค่ะ ฉันรักคุณนะคะแต่เรื่องระหว่างเราอย่าเพิ่งเปิดเผยเลยนะคะ”
“ได้สิครับ เมียพูดซะขนาดนี้ผมจะปฏิเสธได้ยังไงจริงไหมครับ... หืม” แค่เธอบอกรักก็ทำให้เขาใจอ่อน ยอมทำตามคำขอของภรรยาอย่างว่าง่าย
“ขอบคุณค่ะ”
“อย่าเก็บเอาคำพูดของคนอื่นมาใส่ใจ ผมเป็นสามีของคุณแล้วจะกลัวอะไรล่ะครับ ยังไงคุณก็มีผมอยู่ทั้งคนนะเนเน่” ชายหนุ่มรู้ดีว่าภรรยาของเขามีนิสัยยังไง เธอแคร์คนอื่นมากเกินไป จนลืมใส่ใจความรู้สึกของตัวเอง
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร







