LOGIN//เช้าของวันใหม่///
เขมมิกาตัดสินใจเซ็นใบหย่า เธอตั้งใจจะนำไปมอบให้กับปรเมศ เพียงแค่เปิดประตูเข้าไป ทำเอาเขมมิกาเข่าแทบทรุด หญิงสาวไม่คิดว่าสามีสุดที่รัก จะหยามเกียรติเธอได้ถึงเพียงนี้ ภาพของปรเมศนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงกับหญิงอื่นสร้างความขมขื่นให้เธอไม่น้อย
เสียงเปิดประตูทำให้เจ้าของห้องงัวเงียตื่นขึ้น เขามองไปที่เขมมิกาด้วยแววตาประหลาดใจ เธอถือใบหย่าไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะหันมาสบตาผู้เป็นสามีอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยหัวใจแตกสลาย
“ใครใช้ให้คุณปีนขึ้นมาบนเตียงผม เตียงนี้มีไว้สำหรับผมกับภรรยาเท่านั้น!” เขาเพิ่งรู้ตัวว่าญานินนอนอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“อาจารย์ค่ะ”
“เมื่อคืนผมเมามาก คงไม่สามารถทำอะไรคุณได้ ออกไปให้พ้น!ออกไปจากบ้านของผม” ท่าทีของปรเมศวางอำนาจน่ากลัวกว่าที่ญานินคิดเอาไว้
“อาจารย์จะไม่รับผิดชอบญาเหรอคะ”
“ผมเมาก็จริง แต่ก็พอจำเรื่องราวทั้งหมดได้”
“อาจารย์ร้อนแรงมากเลยนะคะ ญาช้ำไปหมดแล้ว”
“หุบปาก! ผมเมาแล้วหลับแต่คุณกลับบอกว่าผมร้อนแรง ถ้าไม่อยากตกงานก็ออกไปก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ”
“คอยดูไปเถอะ ญาไม่มีวันปล่อยอาจารย์ไปแน่” หล่อนพูดออกมาด้วยแววตาเคียดแค้น ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินออกไปจากห้องปรเมศทันที
//////
หญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาว นั่งทรุดตัวลงบนพื้นของห้องโถง ท่ามกลางบ่าวรับใช้ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปพยุงเธอมานั่งบนโซฟาราคาแพง ทำได้เพียงแค่มองอย่างสมเพช
“คุณทำแบบนี้กับเขมได้ยังไง เขมทำอะไรให้คุณเคืองโกรธนักหนา” หญิงสาวพูดประโยคนี้ออกมาทั้งน้ำตา แต่ปรเมศกลับเบือนหน้าหนี ไม่อยากเห็นหน้าเธอแม้เพียงเศษเสี้ยววินาที
“อย่าพยายามเรียกร้องความสนใจ ไม่ว่าคุณจะพยายามแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องเอาเด็กออก”
“คุณบ้าไปแล้ว! ชีวิตแลกชีวิตอย่างนั้นเหรอคะ ชีวิตของเขมไม่ได้มีค่าอะไรเลยค่ะ ถ้าเทียบกับเด็กคนหนึ่งที่ต้องการเกิดมาลืมตาดูโลก” คราวนี้เขมิกาไม่อาจเก็บซ่อนน้ำตาเอไว้ได้อีกต่อไป เมื่อชายตรงหน้ากำลังพิพากษาทารกน้อยในครรภ์
“เงินก้อนนี้คงมากพอสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เอาเด็กออกแล้วคุณก็ไปจากชีวิตของผมซะ!”
“ได้ค่ะ ฉันจะจัดการกับเด็กคนนี้ เขาจะไม่มีวันได้เห็นหน้าพ่อผู้อำมหิตอย่างคุณแน่นอน เงินนั่นฉันไม่ต้องการ สิ่งทีเขมต้องการคือขอใจคืนมา แล้วคุณก็เอาหัวใจปิศาจนี้คืนไป เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”
“พ่อเหรอ... หึ!”
เขมิกายังคงจดจำภาพวันนั้นได้ติดตา ทุกถ้อยคำที่ปรเมศเอ่ยออกมาช่างอบอุ่นแสนหวาน เวลานี้กลับแตกต่างราวกับใบมีดกรีดลงกลางใจดวงน้อยของเธอ
เมื่อความแค้นมันสุมอยู่ในอก ต่อให้รักมากแค่ไหน สุดท้ายปรเมศก็เลือกที่จะทรมานเขมมิกา ภรรยาที่เขารักสุดหัวใจ ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตายสุดท้ายก็ต้องจากกันอยู่ดี
เพราะโลกใบนี้ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับคนอ่อนแอ หากความรักมันร้ายกับเธอ อย่าคิดว่ามองกลับมาแล้วจะเจอ ผู้หญิงอย่างเธอไม่ได้เกิดมาเพื่อให้ผู้ชายอย่างเขาทำร้ายจิตใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“ขอให้โชคชะตานำพาให้ฉันไม่เจอกับคุณ ขอให้เราสองคนไม่ต้องกลับมารักกันอีกจนวันตาย”
“หึ! คุณคงเกลียดผมมากสินะเขมมิกา”
“ฉันคงใช้คำว่าเกลียดกับคุณได้สิ้นเปลืองมาก จนรู้สึกรังเกียจขยะแขยง มันกำลังส่งผลให้ฉันอยากอาเจียนใส่หน้าคุณ”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ผู้หญิงอย่างคุณจะใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีผมได้ยังไง”
“น่าจะดีมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ขอให้คุณโชคดี ขอให้เราสองคนจบกันเพียงเท่านี้ ฉันหวังว่าเราสองคนคงไม่ได้พบกันอีก ลาก่อนปรเมศ” เขมมิกาเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยหัวใจอันแน่วแน่ เธอไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง จุดมุ่งหมายในชีวิตได้เปลี่ยนไป ไม่ต่างจากหัวใจของเขาและเธอ ที่มันไม่สามารถกลับไปหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกแล้ว
“บอส! ทำไมไม่รั้งคุณผู้หญิง ซ้ำยังคิดทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้น” นทีรู้สึกแปลกใจที่ปรเมศยอมปล่อยเขมมิกาออกไปจากชีวิตของเขา
“ฉันไม่อยากทรมานเธออีกแล้ว ในเมื่อต่างคนต่างก็เจ็บปวด... บอบช้ำมามากเกินพอ สู้ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตเองจะดีกว่า”
“ทำไมต้องให้คุณผู้หญิงเอาเด็กออก นั่นลูกของบอสทั้งคนเลยนะ”
“ลูกคนอื่นต่างหาก”
“ผมว่าบอสน่าจะรู้จักคุณเขมมิกาดีกว่าใคร ทำไมถึงคิดว่าเธอจะนอกใจ ขนาดผมยังเชื่อว่าเด็กในท้องของคุณผู้หญิงเป็นลูกของบอสเลย”
“ฉันได้ยินมากับหู ช่างเถอะเรื่องอาจารย์ญานิน จัดการย้ายเธอไปสอนที่อื่น ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
“ได้ครับบอส” เมื่อนทีเดินออกไป ปรเมศได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะอย่างน้อยเขาก็ได้ปลดปล่อยเขมมิกาไปมีชีวิตที่ดี ถึงแม้หัวใจยังคงเพรียกหาเธออยู่ก็ตามที
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร







