Share

ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ
ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ
Author: เมษเมษา

คบไม่ได้ (NC นิดหน่อย)

last update Last Updated: 2025-10-11 17:47:08

“อื้อ~พี่เจย์คะ อ๊าง~”

หญิงสาวท่อนบนว่างเปล่ากำลังครางกระเส่า กระจับปากบวมเจ่อจากจูบสุดเร่าร้อน ร่างหนาปลดกระดุมทีละเม็ดเผยอกกว้างและแนวซิกแพคให้เห็นเต็มตา แม้จะเห็นอยู่บ่อยครั้งแต่หนนี้ต่างกันออกไป

ทั้งคู่คบกันในฐานะคนรู้ใจมาร่วม 3 เดือนแล้ว ความสัมพันธ์ลึกซึ้งก็เป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นแฟนกัน

โชคดีอะไรขนาดนี้ที่มีแฟนหล่อและ…ขนาดก็ใช่ย่อยอีกต่างหาก

วินาทีที่จะได้เป็นหนึ่งเดียวกันใกล้เข้ามาแล้ว

จักรทัศน์ก้มลงแทรกลิ้นแลกจูบดูดดื่มกับเธออีกครั้ง มือยาวลูบเต้าอวบอิ่มไล้ยอดปทุมให้แข็งชูชันไปพลาง นีนลดาครางต่ำในลำคอ โค้งกายตอบสนองในทันใด ตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้าจิกเกร็งด้วยความเสียวซ่าน

หน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซ้ายขวากลางร่องอก ก่อนจะเปลี่ยนมาเลียสลับดูดยอดถันชมพูอย่างกระหายหิว

มันใกล้ถึงจุดที่ไม่อาจหันกลับได้เต็มที

“อ๊าง~ อ๊าง~” นีนลดาครวญครางแข่งกับเสียงจ๊วบจ๊าบอย่างไม่เก็บกั๊ก จักรทัศน์เริ่มกดจูบจากเนินกลมลงมายังหน้าท้องแบนราบผ่านสะดือประชิดขอบแพนตี้ตรงท้องน้อยแล้ว ความเป็นหญิงที่ชุ่มไปด้วยของเหลวใสอยู่ห่างไม่ถึงคืบ ความเป็นบุรุษก็ตึงตัวแทบทะลุเป้ากางเกงเต็มที่

ร่างเล็กแยกขาออกให้กว้างกว่าเดิม ขยับบั้นท้ายแอ่นสะโพกรอรับการปรนเปรอด้วยปากจากแฟนหนุ่ม มือสากระคายลูบไล้โคนขาอ่อนขาวกำลังถอดแพนตี้อยู่แล้ว…

ทันใดนั้นความเคลื่อนไหวก็หยุดชะงักลง อารมณ์เข้าด้ายเข้าเข็มหายวับไปในทันใด แพทย์หนุ่มผละออกห่างจากนีนลดา มานั่งคอตก ยกมือลูบหน้าราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

มันไม่ควรเป็นแบบนี้~

“พี่ พี่เจย์คะ เกิดอะไรขึ้นคะ” คนบนเตียงลุกขึ้นนั่งด้วยความงุนงงกับอารมณ์ค้างเติ่ง คำถามต่าง ๆ ตีรวนในหัวสมองไปหมด

“คือ…ของหนูนาไม่โอเคเหรอคะ” เธอหมายถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ จักรทัศน์กัดปากแน่น ส่ายหน้าแทนคำตอบ กลืนน้ำลายลงคอเพื่อทำใจอยู่สักพัก

“แล้วทำไมล่ะคะ พี่เจย์ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าคะ” นีนลดาสวมแค่แพนตี้ตัวเดียวขยับเข้าใกล้ แนบกายเปล่าเปลือยที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ กับแขนล่ำแล้วส่งสายตาออดอ้อน เอาน่า…ขาดตอนไปแปบ ๆ ปลุกเร้ากลับมาได้ไม่ยากเย็นนัก

“หนูนาคือ…จำได้มั้ยว่าเราเคยคุยกันไว้ก่อนจะคบกัน…” จักรทัศน์โพล่งออกมาทันควัน

“ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ เราจะกลับไปเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน”

คำสัญญานั้นทำเอาหัวใจคนฟังหน้าเหวอไปทันใดแล้ว…นึกยังไงทวงสัญญาเป็นพี่น้องตอนเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้

“พี่เจย์ไม่ชอบที่หนูนาเคยมีแฟนมาก่อนเหรอคะ”

“ไม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องนั้น”

“แล้วหนูนาทำอะไรผิดล่ะคะ เราก็ตกลงไว้แล้วนี่คะว่าถ้าไม่พอใจอะไรให้บอกกันตรง ๆ ที่ผ่านมาพี่เจย์ก็ดูโอเคนี่คะ…หรือพี่เจย์มีคนอื่น”

“นั่นไม่ใช่เข้าผิดไปใหญ่หนูนา หนูนาเป็นแฟนที่ดีมาก แต่พี่รู้สึกว่าเรายังไม่ใช่…”

จักรทัศน์เป็นรุ่นพี่มหาวิทยาลัยเดียวกับนีนลดา เธอเป็นถึงดาวของรุ่นในคณะทันตแพทย์ แต่พอได้เห็นหน้าหล่อ ๆ ของกัปตันทีมฟุตบอลประเพณีแล้ว นีนลดาจะอยากซิ่วไปแพทย์ ฯ เดี๋ยวนั้นเลย

คล้ายชะตาลิขิตให้มาเป็นแพทย์ใช้ทุนโรงพยาบาลเดียวกัน แม้ในแต่ละวันจักรทัศน์หมดไปกับการทำงานจนไม่มีเวลาไปคุยหรือทำความรู้จักกับใคร นีนลดาก็เป็นฝ่ายเข้าหา สนิทสนมจนได้คบหากันจริงจัง

คู่รักในอุดมคติอย่างแท้จริงสวย หล่อ เก่ง…

แต่ไม่ใช่กับจักรทัศน์…

“พี่เจย์อยากเลิกกับหนูนาสินะ แสดงว่าคิดมาล่วงหน้าแล้วใช่มั้ย” เธอพูดเสียงห้วนแข็ง คว้าเสื้อผ้ามาสวมอย่างหัวเสีย

“แต่หนูนายังเป็นน้องสาวที่น่ารักเสมอนะ พี่ไม่ได้อยากให้เรามองหน้ากันไม่ติด เดี๋ยว ๆ ฟังพี่อธิบายให้จบก่อน” จักรทัศน์รีบปรามก่อนเธอจะเถียงแทรก

“ฟังนะ พี่มีน้องสาวและพี่สาว พี่จะมีอะไรเกินเลยกับคนเป็นน้องไม่ได้หรือจะฉวยโอกาสไปก่อนแล้วมาบอกเลิกทีหลังยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่ มันไม่ต่างจากฟันแล้วทิ้งเลย พี่ทำเรื่องพรรณนั้นกับหนูนาไม่ได้จริง ๆ พี่ขอโทษนะที่พี่เป็นแฟนกับหนูนาต่อไม่ได้”

ชัดเจนเหตุผลฟังขึ้นแล้วทีนี้จะเถียงยังไงต่อ

นีนลดาอ้าปากเหวอ จิกปลายเล็บกับฝ่ามือบางจนมือสั่น พอตั้งสติได้ก็ถอนหายใจแรงจนไหล่ไหว

“พี่เจย์สมกับเป็นนิสิตแพทย์เกียรตินิยมจังเลยค่ะ ขนาดหนูนาทั้งแฉะทั้งเยิ้ม ส่วนตัวเองแข็งเป็นลำพร้อมจะเสียบอยู่แล้ว ยังอุตส่าห์มีสามัญสำนึกไม่อยากหลอกฟัน สุภาพบุรุษคนดีที่โลกจารึกจริง ๆ ค่ะ” นีนลดาเหน็บแนม ปรบมือรัวไปพลางฉีกยิ้มจนตาหยีเล็ก ก่อนเดินลงส้นเท้าหนัก ๆ ลงบันได

“มันมืดแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งนะ”

“อย่าดีกว่าค่ะใจคอจะออกไปทั้งโด่ ๆ แบบนี้เหรอคะ! พี่เจย์อยู่ช่วยตัวเองที่ห้องก่อนเถอะค่ะหรืออยากอวดว่าของผมไม่เล็กเหรอคะ!” ปฏิเสธอย่างเดียวไม่สาแก่ใจ ขอประชดส่งท้ายอีกสักดอก

อดีตแฟนสาวจากไปแล้ว

แพทย์หนุ่มทิ้งร่างหนักอึ้งลงโซฟาด้วยความโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก แม้ไม่ได้รักแต่ความผูกพันธ์ก็ยากเกินจะตัดให้ขาดได้ในเร็ววัน จากนี้จะมองหน้ากันได้หรือเปล่ายังไม่รู้ในเมื่อยังทำงานที่เดียวกัน เผลอ ๆ ต้องมานั่งตอบคำถามพวกอยากรู้อยากเห็นอีก

“เฮ้อ! พี่ขอโทษจริง ๆ นะหนูนา” ในใจรู้สึกผิดกลาย ๆ

อารมณ์มันหมดไปแล้ว แต่ความเป็นชายก็โด่ไม่รู้ล้มสักที จักรทัศน์ก้มมอง รูดซิปปล่อยแท่งเอ็นที่ล้อมด้วยเส้นเลือดโป่งนูนกับความใหญ่โตตามสายเลือดออกมาที่ผ่านมามีผู้โชคดีแค่ไม่กี่คนที่เห็นและได้สัมผัสแบบลึกซึ้ง

เขาเลือกคลิปสาวสวยสุดเอ็กซ์สักคลิปในโทรศัพท์ จากนั้นก็ใช้มือรูดปลดปล่อยอารมณ์

“โอ้~ซี๊ด อ๊าง ไปเปอร์ เยส เบบี้ อ๊าง~”

‘ไอ้เจย์มันสร้างภาพเป็นเด็กเรียน แต่มือถือมีแต่คลิปโป๊…’ ญาติสนิทคนหนึ่งได้กล่าวไว้

วันถัดมาจักรทัศน์เดินเลี่ยงแผนกทันตกรรม หลบมุมกินข้าวเพราะไม่อยากให้ใครผิดสังเกตุ ก่อนรู้ในภายหลังว่านีนลดายื่นลาพักร้อนยาว แต่ก็ไม่วายโดนจับตามองอยู่ดีเพราะสองอาทิตย์ต่อมาอดีตแฟนสาวขอลงพื้นที่เป็นหมอฟันจิตอาสาแบบไม่มีกำหนดกลับ มิหนำซ้ำยังข่าวลือมาอีกว่านีนลดากำลังควงกับลูกชายของผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

จักรทัศน์กลับรู้สึกเฮิร์ทอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่เป็นฝ่ายขอเลิกราแล้วยังต้องมาตอบคำถามคนรอบข้างทั้งวันจนไม่เป็นอันทำงาน

ในเมื่อคืนนี้ไม่ต้องเข้าเวร พรุ่งนี้ก็วันหยุด งั้นไปนั่งเงียบ ๆ กระดกเหล้าเพื่อย้อมใจสักหน่อยก็แล้วกัน

บุรุษในเสื้อแจ็คเกตหนังสีดำถอดหมวกกันน๊อค สางผมปรกหน้าผากขึ้นลวก ๆ ด้วยนิ้วยาวแล้วขยับแว่นกันแดดให้กระชับสันจมูกนิดหน่อยก็ทำเอาสาว ๆ ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลใจสั่นกันถ้วนหน้า คนที่ไม่รู้จักกันคงเดาว่าอายุของเขาน่าจะราว ๆ 35 แต่ไม่ถึง 40 ปีแน่นอน เจ้าของความสูง 1.86 เมตร ลาดบ่ากว้างสมส่วนรับกับเอวสอบเป็นสามเหลี่ยมคว่ำก้าวลงจากบิ๊กไบค์คู่ใจแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังบาร์รูฟทอปของโรงเแรม 6 ดาวใจกลางเมืองภูเก็ตซึ่งเป็นที่ทำงานของเขา

“ไฮ! คุณเจมส์คืนนี้มาได้แล้วแสดงว่าข้อมือหายดีแล้วใช่มั้ยครับ” เพื่อนร่วมงานทักทายตามประสาคนคุ้นเคย

“สวัสดีครับเปปเปอร์ ผมว่ามันก็น่าจะปกติดีแล้วล่ะครับ ให้ลองควงขวดโชว์มั้ยครับ” เจมีไนน์ตอบกลับอย่างเป็นกันเองพลางบุ้ยใบ้ไปยังเหล้านอกราคาแพงที่อีกฝ่ายเก็บไว้อย่างดี

“ไม่ดีมั้งครับ ถึงคุณเจมส์จะเป็นแชมป์โลก แต่ผมคงจะหัวใจวายตายซะก่อน ฮ่า ๆ” ทั้งสองหัวเราะร่วนไปพร้อมกัน

“คืนนี้ผมคงไม่ได้ออกลีลาเท่าไหร่ ยังไม่ค่อยมั่นใจนักตอนหมุนข้อมือแล้วยังมีเสียงกรึ๊บอยู่เลย”

เจมีไนน์หันไปสำรวจตัวเองกับกระจกเงาอีกครั้งก่อนออกไปประจำตำแหน่งที่หน้าบาร์ด้วยสายตาอันเฉียบคมของคนผ่านโลกมาเยอะจึงเดาได้ทันใดว่ามีคนอกหักหนึ่งรายตรงหน้า

บาร์ยอดตึกหรูหรามีระดับยังไม่เคยมีคนเมาทำเสียบรรยากาศมาก่อน เจมีไนน์หยุดยืนหน้าชายหนุ่มผิวหน้าแดงก่ำ ผมเผ้ายุ่งปิดหน้าปิดตา หากมีแนวโน้มจะเมาเรี่ยราดก็แค่ส่งสัญญาณมือให้การ์ดรีบมาพาตัวออกไป

“สวัสดีครับคุณผู้ชาย มีอะไรให้ดูแลเพิ่มเติมแจ้งได้เลยนะครับ” บาร์เทนเตอร์รูปหล่อดีกรีแชมป์โลกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม

“อ๋อครับ เอาเหมือนเดิมเพิ่มวอดก้าครับ หึ ๆ” จักรทัศน์หัวเราะในคอ ชี้ไม้ชี้มือสั่งไปพลาง

“ได้เลยครับคุณผู้ชาย กรุณารอสักครู่นะครับ…อันที่จริง หากต้องการคนรับฟัง ผมยินดีนะครับ” สิ้นประโยคตอบรับซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง เจมีไนน์หรี่ตาลง กระตุกยิ้มจาง ๆ อย่างมีนัยยะขณะผสมเครื่องดื่มอย่างคล่องแคล่ว

‘What da Fu*k! นอกจากเราแล้ว…เห็นจะมีไอ้หนุ่มนี่แหละที่หล่อจนทำให้เราหยุดมองได้’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   ตอนพิเศษ (เจมีไนน์)

    บาร์รูฟท๊อปที่คืนนี้เต็มไปด้วยแสงไฟอบอุ่นและเสียงเปียโนคลอเบา ๆ เจมีไนน์ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ในสูทสีดำเข้ารูป เงาสะท้อนในแก้วคริสตัลทำให้ใบหน้าคมเข้มของเขาดูอ่อนกว่าที่เป็นจริงนิดหน่อย เขายิ้มต้อนรับลูกค้าเหมือนเช่นทุกคืน แต่สายตากลับสะดุดกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาหนุ่มคนนั้นอายุราว 26 – 27 ปี หน้าตาคมคายเหมือนจะเคยเห็นผ่านจอทีวีหรือบทสัมภาษณ์ทางออนไลน์ ที่สำคัญแววตาของเขายามสบกับตนมีแววเขินอายเล็ก ๆ จนคนที่ผ่านโลกมามากอย่างเจมีไนน์ยังเผลอหัวใจสะดุด“สายัณห์สวัสดิ์ครับคุณผู้ชาย จะรับอะไรดีครับ?” บาร์ทนเดอร์หนุ่มใหญ่เอ่ยเสียงนุ่ม“เอ่อ…เอาเป็น เอ่อ อะไรก็ได่แก้วนึงครับ” ชายหนุ่มยกยิ้มบางอย่างเก้ ๆ กัง ๆ คล้ายไม่คุ้นชินกับบรรยากาศบาร์หรู“ได้ครับ รบกวนรอสักครู่นะครับ”เจมีไนน์โชว์ลีลาการผสมเครื่องดื่มที่ใครเห็นก้ต้องหยุดมอง ครู่ต่อมาค็อกเทลสีอำพันจะถูกดันมาตรงหน้า หนุ่มใหญ่ยกยิ้มมุมปากพลางโน้มตัวลงเล็กน้อย แสงไฟนวลเหนือบาร์ทอดเงาบนกรอบหน้าคมเข้มที่แม้ผ่านกาลเวลามากว่า 50 ปี แต่ยังดูน่าหลงใหลไม่ต่างจากชายหนุ่มวัยกลางคนทั่วไปหรืออาจจะยิ่งกว่านั้น“ลองชิมดูสิครับ สูตรพิเศษคืนนี้

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   อีกปีให้หลัง...

    ปีแรกในนอร์เวย์คือการเดินทางที่โหดหินที่สุดของชีวิตอัยยาลิณณ์ที่นี่ไม่ใช่เชียงราย อุณหภูมิที่หนาวจัด การสื่อสารที่ไม่คล่องแคล่วและกระบวนการรักษาที่ซับซ้อนกว่ามาก ทำให้ทุกวันเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจทุกครั้งที่เข้าสู่การทดลองปรับคลื่นสมอง เธอต้องนอนในห้องแล็บสีขาวที่มีเครื่องมือรุงรังติดเต็มศีรษะ แสงไฟจ้าและเสียงเครื่องจักรดังต่อเนื่อง จนบางทีแอบน้ำตาไหลเงียบ ๆ ใต้ผ้าห่มแต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่เคยคิดถอย เพราะรู้ว่ามีใครบางคนที่เฝ้ามองจากแดนไกล[สู้ ๆ นะ ตาลเอ๊ย พ่อแม่กับต้มอยู่ตรงนี้เสมอ][อีกไม่นานนะตาล รอเจย์ก่อน]ข้อความจากครอบครัว เพื่อนฝูงและจักรทัศน์ในวิดีโอคอลคือกำลังใจสำคัญแม้บางคืนเธอจะหลับลึกไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าวิญญาณก็ไม่เคยหลุดจากร่างอีกเลย มันคือสัญญาณว่าการรักษากำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง“อีกไม่นาน…เราจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติแล้ว” อัยยาลิณณ์พึมพำกับตัวเองพร้อมกับกำมือแน่นและทุกครั้งที่เหนื่อยล้า ภาพรอยยิ้มของเขาก็จะปรากฏขึ้นในความคิดเสมอหนึ่งปีเต็มหลังยื่นเอกสารขอทุนเรียนต่อ ชีวิตของจักรทัศน์คือการวิ่งวนระหว่างงานโรงพยาบาล การสอนรุ่นน้องแ

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   การเริ่มต้นใหม่

    วันนี้คฤหาสน์วิวทะเลอันดามันของเจมีไนน์บรรยากาศคึกคักกว่าทุกครั้งเพราะมีนัดถ่ายภาพครอบครัวประทานชัยเซ็ตใหม่ภาพที่มีสมาชิกพร้อมหน้าอย่างแท้จริงกล้องตั้งอยู่บนขาตั้งหันหน้าออกไปทางวิวทะเลสีคราม เด็กชายวัยสามขวบอย่างขุนพลซึ่งเป็นลูกชายของพลพยัคฆ์วิ่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่หน้ากล้องทำเอาทุกคนเรียกหาด้วยความเอ็นดู เขาพยายามจะอุ้มแต่ก็โดนลูกชายดิ้นหนีเล่นซ่อนหากับคุณพ่อแทนสมาชิกใหม่อีกหนึ่งคนที่วัยเพียงหกเดือนในอ้อมกอดของคุณปู่สุดเฮี๊ยบอย่างเอื้อมพัฒน์ที่ประกาศกร้าวว่า…คืนนี้จะไม่เมาทำเอาทุกคนส่ายหัวพร้อมกัน“ขอบใจที่ให้ยืมบ้านจัดปาร์ตี้นะแดน” เมธากรพูด“ยินดีครับพี่เรย์”เจมีไนน์เองก็ไม่นึกว่าจะได้มีช่วงเวลานี้ ขณะยืนมองทุกคนด้วยแววตาอิ่มเอม หันไปมองไดอาน่าแล้วเหลือบมาทางหลานฝาแฝด จักรทัศน์กับเจนีนที่กำลังจัดแจงยืนบังแสงไฟให้พอดี เขาสูดลมหายใจลึกรู้สึกเหมือนฝันที่ได้ยืนอยู่ตรงนี้“ในที่สุด…ก็ไม่ต้องใช้วิธีตัดต่อโง่ ๆ อีกแล้วเนอะ” เขาพูดพลางหัวเราะแห้ง ๆ แล้วสารภาพกับทุกคนว่าเคยหยิบภาพถ่ายจากคอนโดมาสแกนตัต่อดตัวเองลงไป เพื่อให้รู้สึกว่ามีส่วนอยู่ด้วยเจนีนที่นั่งแต่งหน้าเติมปากแดงอยู่ก็ร้อง

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   เมื่ออาทิตย์ขึ้น

    หนึ่งสัปดาห์สุดท้ายของอัยยาลิณณ์ก่อนเดินทางไปนอร์เวย์ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำไหลที่ไม่เคยหยุด ทุกวันเต็มไปด้วยการเตรียมตัว ทั้งด้านเอกสารและสภาพร่างกายเธอต้องจัดเก็บแฟ้มรายงานการรักษาที่ผ่านมาทั้งหมด เอกสารภาษาไทยที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงหนังสือรับรองแพทย์ที่จักรทัศน์ช่วยประสานมาให้อย่างละเอียดบนโต๊ะทำงานเล็ก ๆ ในห้องนอนมีกองเอกสารที่เรียงเป็นตั้ง ๆ พร้อมปากกาไฮไลท์ที่ใช้เน้นข้อความสำคัญทุกคืนก่อนนอนเธอจะนั่งตรวจเช็กทีละหน้าเหมือนกลัวว่าจะตกหล่นอะไรสักอย่างในอีกด้านหนึ่ง อัยยาลิณณ์ก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่ พ่อกับแม่แทบจะไม่ปล่อยให้ลูกสาวอยู่ห่างสายตา ทำอาหารโปรดให้แทบทุกมื้อ ตั้งแต่แกงฮังเลสูตรคุณแม่ ไปจนถึงข้าวซอยเนื้อที่พ่อภูมิใจนำเสนอบ่อยครั้งที่เธอนั่งหัวเราะทั้งน้ำตา เพราะรู้ดีว่าทุกจานคือความรักและความห่วงใยที่ครอบครัวอยากส่งมอบให้ก่อนที่จะจากบ้านไปไกลแสนไกลอธิพงษ์ก็คอยตามติดแทบตลอดเวลา ชวนพี่สาวดูหนัง ตัดต่อคลิปเล่น ๆ หรือแม้แต่เล่นเกมคอนโซลด้วยกันเหมือนสมัยเด็ก แม้จะเถียงกันหยอกล้อเหมือนเคย แต่ในแววตาของน้องชายก็เต็มไปด้วยความห่วงใยที่ปิดไม่มิดคื

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   เมื่ออาทิตย์ตกดิน

    สองอาทิตย์เต็ม ๆ นับจากวันที่ส่งเอกสารชุดสุดท้ายไปยังนอร์เวย์ อัยยาลิณณ์ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด อาการเหนื่อยล้าเมื่อเดินไม่กี่ก้าวลดลง กล้ามเนื้อที่เคยอ่อนแรงกลับมามีเรี่ยวแรงมากขึ้น แม้แพทย์จะยังย้ำว่าเธอควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่อัยยาลิณณ์ก็รู้สึกเหมือนได้กลับมาหายใจเต็มปอดอีกครั้งส่วนจักรทัศน์ แม้งานโรงพยาบาลที่ภูเก็ตจะรุมเร้า ทั้งเวรกลางวันกลางคืน แต่เขาไม่เคยพลาดจะโทรหรือวิดีโอคอลหาอัยยาลิณณ์ บางวันคุยเพียงไม่กี่นาทีก่อนเขาเข้าเคสฉุกเฉิน บางวันคุยนานจนเสียงหัวเราะของเธอดังไปทั้งบ้าน เหมือนทุกวินาทีของวันไม่วุ่นวายเกินกว่าจะหาเวลาให้กันได้กระทั่งคืนหนึ่ง ที่ห้องพักแพทย์“หือ ใครอะ!?” จักรทัศน์สะดุ้งเฮือก เมื่อหันมาเห็นเงาคนยืนอยู่ข้างเตียง“ตาลไง จะใครเล่า” ร่างเล็กมือเล็กไขว้ไว้ด้านหลัง รอยยิ้มหวานส่งมาให้“อ๋อ ตาลเองเหรอ เอ่อ…อืม ๆ เดือนนึงแล้วสินะ” เขาดันร่างขึ้นจากที่นอนพร้อมใบหน้าสะลืมสะลือ แต่ยังจำรายละเอียดได้แม่น วันนี้ครบเดือนพอดี หลังการหลับยาวจนเข้าขั้นวิกฤตของเธอ“ไหน ๆ ตาลก็มาคือตาลมีเรื่องจะสารภาพน่ะ ตาลพูดกับหมอก็ไม่ได้ พูดที่บ้านไม่ได้ มันอึดอัดมากเลย”

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   ไม่ยอมแพ้

    “หน๊อย! ไอ้ฝรั่งมึง”จักรทัศน์สบถออกมาโดยลืมไปว่าพ่อตัวเองก็เป็นฝรั่งกว่าจะรวบรวมเอกสารได้ครบก็ปาเข้าไปเกือบสองสัปดาห์ ครอบครัวอัยยาลิณณ์ช่วยกันแทบทุกวัน ทั้งถ่ายเอกสาร เก็บแฟ้ม เรียงผลตรวจย้อนหลังตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอมีอาการ ทุกคนเห็นพ้องกันว่ามันยุ่งยากสิ้นดี แต่ถ้านี่คือความหวังเดียวที่จะช่วยให้เธอหายขาด ทุกคนก็ยอมกัดฟันสู้โชคดีที่ระหว่างนั้นอัยยาลิณณ์ไม่ได้หลับลึกเพิ่ม อาการยังทรงตัวเมื่อเอกสารครบ ทุกอย่างก็ถูกสแกนส่งไปศูนย์วิจัยนอร์เวย์ ทุกคนถอนหายใจโล่งอก คิดว่าต่อจากนี้ก็เหลือเพียงรอผลการพิจารณาเท่านั้นแต่แล้วอีเมลตอบกลับก็มาพร้อมรายการยาวเหยียด ทั้งรายละเอียดเพิ่มเติม หนังสือรับรอง และที่สำคัญที่สุดคือ หนังสือยืนยันจากผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเชียงราย ว่าอัยยาลิณณ์เข้ารับการรักษาที่นั่นจริงปัญหาคือผู้อำนวยการเดินทางไปสัมมนาต่างประเทศและกว่าจะกลับอีกก็เกือบสองสัปดาห์ จักรทัศน์อ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมาจนแทบขึ้นใจ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“นี่มันอะไรกันนักหนา…หรือพวกนั้นกำลังเล่นตุกติก”“ถ้าต้องรออีกสองอาทิตย์…ตาลก็รอได้” อัยยาลิณณ์ถอนหายใจเบา ๆ“สองอาทิตย์?” จักรทัศน์เงยหน้าขึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status