ログイン"เฮ้ย! พวกแกไปเถอะหนุ่มๆ แก๊งไทเกอร์เดินมาโน่นแล้ว" เจนพูดพร้อมกับดึงแขนของแอนนี่ตามเธอออกไป เมื่อชายหนุ่มรูปงามทั้งสี่เดินตรงมาที่พวกเธอยืนอยู่
"ฝากไว้ก่อนเถอะ!" นั่นคือเสียงของลูกน้ำ หญิงสาวที่หมายตาเก้า หวังได้เขามาเป็นแฟน ทั้งที่ชายหนุ่มก็ไม่เคยตกปากรับคำกับเธอเลยสักครั้งเช่นกัน
"ชิ..ไม่ใช่ธนาคารไม่ต้องมาฝาก" ริต้าพูดพึมพำเบาๆ เมื่อกลุ่มของแอนนี่เดินออกไป พร้อมทั้งทำหน้าทำตาใส่อย่างหมั่นไส้
"มีอะไรกันหรือเปล่าครับน้องรหัสของพี่" แบงก์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม แต่ริต้าฟังแล้วกลับรู้สึกไม่รื่นหูเลยสักนิด
"ทีหน้าทีหลังก็บอกกลุ่มแฟนพี่ด้วย อย่ามายุ่งกับเราสองคน" ริต้าพูดพร้อมกับเชิดหน้าใส่ ในขณะที่แพรไหมยังคงยืนนิ่ง มีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนทุกครั้ง ที่เธอเจอบุรุษทั้งสี่
"พวกพี่ไม่เคยมีแฟน น้องสองคนเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า" แบงก์พูดออกมาเสียงแข็ง แต่สายตาของเขากลับดูล่อกแล่ก จนริต้าจับพิรุธได้ "ไม่ใช่แฟน แต่เป็นคู่นอนว่างั้น พวกเราสองคนไม่สนหรอกนะว่ารุ่นพี่จะมีแฟนหรือไม่มี แต่ที่แน่ๆ อย่าให้ผู้หญิงของรุ่นพี่ มายุ่งกับพวกเราสองคนก็เป็นพอ" ริต้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง จนแบงก์รู้สึกชอบและหลงใหลในตัวของผู้หญิงตรงหน้า นอกจากเธอจะสวยแล้วท่าทางจะฉลาดอีกด้วย ที่สำคัญเขาชอบผู้หญิงแบบนี้ และจะเอาเธอมาสยบแทบอกเขาให้ได้
"ไปกันเถอะริต้า ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว" แพรไหมพูดพร้อมกับจับแขนริต้าเตรียมตัวก้าวขึ้นบันได
"เดี๋ยวก่อน!" แต่พายุพูดพร้อมกับคว้าไปที่ข้อมือเล็กเรียวของเธอเอาไว้ จนแพรไหมต้องสะบัดออกอย่างแรง เพราะเธอไม่ชอบให้ผู้ชายเข้าใกล้และถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้
"คิดว่าเป็นรุ่นพี่ แล้วจะทำอะไรแบบก็ได้อย่างนั้นเหรอ คงจับมือถือแขนผู้หญิงมานับไม่ถ้วนจนเคยตัว บางครั้งการให้เกียรติสตรีเพศแม่ก็สำคัญ รุ่นพี่ควรศึกษาเอาไว้ ไม่ใช่เอาเปรียบผู้หญิงจนเคยตัวและติดเป็นนิสัยจนแก้ไม่หายแบบนี้ หรือมันติดลึกลงไปในสันดานไปแล้ว" คำพูดของแพรไหมไม่ใช่พายุคนเดียวเท่านั้นที่อึ้ง แก๊งไทเกอร์ทั้งหมดที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยังคงอึ้งในคำพูดของเธอ ที่ค่อนข้างแรงผิดกับหน้าตาหวานของเธอ
"แค่จะถามว่าแผลเป็นไงบ้างหายดีหรือยัง ทำไมต้องทำเสียงดังแบบนี้ด้วย ก่อนจะกล่าวหาใครไปถึงสันดาน น้องน่าจะลองศึกษาเขาให้ดีก่อน"คำถามของพายุ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงดีใจจนเนื้อเต้น แต่นี่แพรไหมผู้ซึ่งมีจุดประสงค์ในการมาเรียนครั้งนี้ เพียงเพื่อให้ตัวเองได้เป็นดีไซเนอร์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยนั่นคือความฝันสูงสุดของเธอ ประโยคนั้นจึงไม่มีผลกับหญิงสาวเลยนิดเดียว แม้ว่าเวลาที่ได้เข้าใกล้เขาหัวใจเธอนั้นจะเต้นแรง แต่แพรไหมกับมองว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ผู้หญิงกับผู้ชายเมื่อเข้าใกล้กัน
"ไม่ต้องอยากรู้หรอกมันไม่เกี่ยวกับรุ่นพี่ ที่สำคัญฉันก็ไม่อยากศึกษาวิชาอื่นนอกจากในบทเรียน ไปกันเถอะริต้า" แพรไหมพูดจบก็เดินนำริต้าขึ้นบันไดไปชั้นสองของตึกเรียน
"โคตรชอบเลยวะ แม่งโดนใจกูชะมัด ยากแบบนี้สิค่อยเร้าใจหน่อย" แบงก์พูดออกมาอย่างชอบใจ เมื่อเขานั้นสนใจในตัวริต้าอยู่ไม่ใช่น้อย
"ไปเรียนได้แล้ว" แม้พายุจะพูดออกมาด้วยเสียงเรียบธรรมดา แต่ภายในใจของเขาในเวลานี้ กลับรู้สึกชอบใจในสิ่งที่แพรไหมแสดงออกมา เพราะหญิงสาวไม่เหมือนใคร พอเขาได้เข้าใกล้เธอแล้วใจมักจะเต้นแรงทุกที
"รอด้วยค่ะรุ่นพี่!" เสียงนักศึกษาสาววิ่งคนตรงมายังลิฟต์ ที่แก๊งไทเกอร์กำลังจะกดขึ้นไปเรียนยังชั้นห้าของตึก
"ขอบคุณมากนะคะที่รอ" นั่นคือเสียงของเชอรี่น้องรหัสของเก้า ส่วนอีกคนคือลูกพีชน้องรหัสของกวิน ทั้งที่เธอสองคนมีเรียนที่ชั้นสอง ซึ่งแพรไหมกับริต้าเพิ่งเดินขึ้นบันไดไป แต่หญิงสาวสองคนกับต้องการใกล้ชิดพวกเขามากกว่าสิ่งอื่นใดในตอนนี้
"ว้าย! .." เชอรี่ทำเสียจังหวะเซถลาเกือบล้ม แนบชิดกับอกกว้างของเก้า อย่างไม่อายสายตาของคนรอบข้างสักนิดเดียว
"อุ้ย! ..ขอโทษค่ะรุ่นพี่ ขอบคุณนะคะที่พยุงเชอรี่ไว้" เธอรีบพูดพร้อมกับส่งสายตาให้กับเก้าอย่างมีเลศนัย แน่นอนเสืออย่างเขาย่อมรู้ดีว่าเหยื่อต้องการอะไร เธอคงอยากให้เขาได้ชิมเนื้อสด ที่ชายหนุ่มก็ไม่รู้ว่าจะสดจริงหรือไม่ เพราะอาหารพร้อมเสิร์ฟอย่างเธอ เขาพอเดาได้ว่าเชอรี่คงผ่านประสบการณ์มาบ่อยครั้ง
"ถึงแล้วครับ" กวินพูดพร้อมกับส่งสายตาไปยังลูกพีชอย่างเจ้าเล่ห์ น้องรหัสเขาเองก็ใช่ย่อยมองกลับมาด้วยสายตาที่เย้ายวนเช่นกัน เพื่อสื่อความหมายบางอย่างออกไป ให้เขารู้ถึงความประสงค์ในใจของเธอ
"ขอบคุณมากค่ะรุ่นพี่ แล้วเจอกันนะคะ" คำพูดพร้อมกับสายตาของลูกพีชนั้น เธอช่างแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไรจากชายหนุ่มที่เป็นพี่รหัส
--หลังเลิกเรียน--
แพรไหมและริต้า เดินออกมาจากตึกทั้งสองกำลังจะตรงไปที่โรงจอดรถ และก็ต้องตกใจ เมื่อมีใครบางคนวิ่งมาขวางหญิงสาวทั้งสองเอาไว้
"จ๊ะเอ๋!เลิกเรียนแล้วเหรอครับ น้องรหัสคนสวย" แบงก์พูดทักทายด้วยเสียงหวาน แต่ริต้ากลับรู้สึกรำคาญ เมื่อเธอนั้นต้องการจะกลับบ้าน เพราะเธอรู้สึกหิวอีกแล้ว หลังจากใช้พลังงานในการเรียนไปทั้งวัน
"ทำบ้าอะไรเนี่ย!" ริต้าพูดออกไปพร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจใส่แบงก์ที่เป็นรุ่นพี่สายรหัส แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มร่าไม่สะทกสะท้านใดๆ
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







