LOGIN"มาทวงสัญญาคนแถวนี้ ยังจำได้หรือเปล่าครับใครสัญญาอะไรเอาไว้..หืม" แบงก์พูดพร้อมกับทำหน้าทำตาทะเล้นใส่ริต้า จนเธออยากจะชกหน้าเขาให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็ยังข้องใจในเรื่องสัญญา
"สัญญาอะไร รุ่นพี่มั่วหรือเปล่าเนี่ย"
"แล้วใครล่ะพูดไว้เมื่อวาน ถ้าหากแพ้ต้องเลี้ยงไอศกรีม เป็นคนพูดเองอย่าป๊อด! สิ"
คำพูดของแบงก์ทำให้ริต้าถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง แม้แต่แพรไหมเองก็ยังทำหน้าไม่สบายใจ แต่เมื่อลั่นวาจาออกไปแล้วก็ต้องทำตามที่พูดเอาไว้ โดยที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลย ที่สำคัญในเวลานี้แพรไหมไม่อยากเข้าใกล้พายุแม้แต่ก้าวเดียว เพราะเธอไม่อยากเป็นข่าวดังในเพจของมหา'ลัย แน่นอนยิ่งไปกินไอศกรีมด้วยกันแบบนี้ มันยิ่งจะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ของเธอกับพายุให้บรรดานักเสพข่าวได้ตีไข่เพิ่มสีสันเข้าไปอีกเป็นทวีคูณ
แพรไหมและริต้าขับรถเข้ามาภายในบริเวณร้านไอศกรีมที่แบงก์และพายุได้นัดเอาไว้ พอลงจากรถสองสาวได้มองหน้ากัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างเซ็งๆ เมื่อทั้งสองจำใจจะต้องเดินเข้าไปในร้าน มีมีลูกค้าหนาตา
"รุ่นพี่ต้องตั้งใจแน่ๆ คนแน่นร้านขนาดนี้ พรุ่งนี้เตรียมตัวเป็นข่าวใหญ่ได้เลยแพรไหมเอ๊ย!" ริต้าพูดออกมา เมื่อเห็นนั่งอยู่ภายในร้านไอศกรีมจนไม่มีโต๊ะว่าง ที่สำคัญส่วนมากมีแต่กลุ่มนักศึกษาทั้งนั้น ที่มาทานไอศกรีมหลังเลิกเรียน บ้างก็เอาโน้ตบุ๊กขึ้นมาทำงาน บางคนก็จับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน
"คราวหน้าก็อย่าไปท้าใครเขาไว้ล่ะ..แพรไม่ชอบเลย โดยเฉพาะที่คนเยอะแบบนี้" แพรไหมพูดออกมาพร้อมกับทำหน้ามุ่ยอย่างไม่ชอบใจ เมื่อเธอคิดว่ามันคงเป็นแผนการของพายุ ที่จ้องจะเอาเปรียบผู้หญิงในทุกด้าน ทั้งที่เธอกับริต้านั้นแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากข้องแวะใดๆ กับพวกเขาทั้งสิ้น
"ริต้าขอโทษ สองครั้งแล้วนะ ที่ริต้าทำให้แพรต้องลำบากใจ พลอยโดนร่างแหไปด้วย" ริต้าพูดออกมาพร้อมกับสีหน้าที่แสดงอาการสำนึกผิด เมื่อเธอคือคนต้นคิดเรื่องทั้งหมดเมื่อวานนี้
"อย่าคิดมาก แพรไม่ได้ว่าอะไรริต้าสักหน่อย ผู้ชายพวกนั้นต่างหากที่กัดไม่ยอมปล่อย" คำพูดของแพรไหมทำให้ริต้าถึงกับแอบอมยิ้ม เมื่อเพื่อนของเธอกำลังเปรียบเทียบผู้ชายแก๊งไทเกอร์เหมือนสุนัข ทั้งที่ฉายาหนุ่มหล่อทั้งสี่ใครๆ ก็มักจะเรียกว่าเสือทั้งนั้น
"ทางนี้ครับน้องแพรไหม..น้องริต้า" แบงก์ตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมทั้งโบกไม้โบกมือให้กับสองสาว ที่กำลังเดินเข้ามาภายในร้าน แน่นอนคนทั้งร้านโฟกัสไปที่แพรไหมกับริต้าเป็นตาเดียว
สองสาวมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกันอย่างฝืดๆ แล้วเดินตรงไปนั่งที่โต๊ะ โดยมีพายุและแบงก์นั่งรออยู่แล้ว ไม่รู้ว่าแบงก์ตั้งใจที่จะให้ใครมองมายังเธอทั้งสองคนหรือเปล่า ถึงได้ตะโกนออกมาเสียงดังแบบนั้น
"เชิญครับคุณผู้หญิง" แบงก์พูดพร้อมกับลุกขึ้นมาเลื่อนเก้าอี้ให้กับสองสาว เขาทำราวกับว่าตัวเองนั้นเป็นสุภาพบุรุษ ในขณะที่ริต้ามองเขาตาขวาง เพราะไม่ค่อยชอบใจในสิ่งที่แบงก์แสดงออกไปเมื่อครู่
"ทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะครับน้องริต้า อยากชิมพี่เหรอ โอ๊ะ! พูดผิดขอโทษครับ น้องทั้งสองคนชอบไอศกรีมรสไหนสั่งได้เลยนะครับ" แบงก์พูดพร้อมกับยื่นเมนู ส่งไปให้น้องนักศึกษาสาวทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเวลานี้อีกคนสวยสะดุดตาจนยากที่เขาจะโฟกัสมองไปที่อื่นได้ ที่สำคัญเวลานี้สองสาวได้กลายเป็นจุดศูนย์กลาง ของสายตาทุกคู่ที่อยู่ในร้าน พวกเขามองแล้วซุบซิบนินทา คงจะเข้าใจว่าข่าวในเพจมหา'ลัยนั้น เป็นความจริง
"ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกแท้ๆ " ริต้าบ่นพึมพำเบาๆ คนเดียว แต่แบงก์กลับได้ยินชัดเจน
"ที่นี่ไม่มีวัวมีควายนะครับน้องริต้า มีแต่ไอศกรีมทานได้ไหมครับ" คำถามของแบงก์ ริต้าถึงกับโกรธควันออกหู แต่เธอก็พยายามข่มใจเอาไว้ ไม่กล้าแสดงอาการอะไรออกไปเยอะ เมื่อกำลังโดนจับจ้องอยู่ในขณะนี้ ก่อนจะเปลี่ยนใจ หันมาสั่งไอศกรีมแทน
"ริต้าเอารสมะนาว แคนตาลูป รสกะทิ ช็อกโกแลต แล้วก็.." "เดี๋ยวก่อนครับ น้องริต้าจะกินทุกรสในร้านเลยเหรอครับ" ขณะริต้ากำลังจะสั่งต่อ แบงก์ก็ได้พูดแรกขึ้นมา เพื่อเบรคเธอไว้เสียก่อน
"โธ่! รุ่นพี่ค่ะ เลี้ยงน้องแค่นี้ป๊อดไปได้" ริต้าพูดพร้อมทั้งทำเสียงออดอ้อน มิหนำซ้ำเธอยังเล่นหูเล่นตาให้เหล่าบรรดานักศึกษาโต๊ะข้างๆ นั้นหมั่นไส้เล่น แต่คนที่ไม่สนุกด้วยเห็นจะเป็นแพรไหม เมื่อภายในใจของเธอเวลานี้อยากกลับบ้านเต็มที
"ป๊อดที่ไหนกันเล่า ให้แพรไหมสั่งบ้าง พวกเธอสองคนเข้ากันได้ดีจังเลยนะ อีกคนพูดน้อยเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ ส่วนอีกคนท่าทางจะพูดจนลิงหลับมิหนำซ้ำยัง..."
"ยังอะไร ฮ๋า! พูดมา ถึงริต้าจะทำตัวเหมือนม้าดีดกะโหลก แต่ก็ไม่เคยทำตัวหยำฉ่าก็แล้วกัน"
ริต้าพูดพร้อมทั้งเชิดหน้าใส่แบงก์แถมยังจิกตามายังเขาอีก ชายหนุ่มแอบอมยิ้มให้กับคำพูดและท่าทีของน้องสาย รหัสหน้าฝรั่งจ๋า ที่พูดจาเปรียบเปรยได้น่าฟัง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นจริงดั่งคำพูดหรือไม่ต้องได้ลิ้มลอง
แพรไหมนั้นพูดจาไม่กี่คำ หลังจากที่เธอสั่งเมนูไอศกรีมหญิงสาวก็ไม่พูดอะไรอีกเลย มีเพียงเพื่อนอย่างริต้าที่พูดจาดั่งนกแก้วนกขุนทอง
เวลานี้พายุได้จ้องมองไปที่ใบหน้างามของแพรไหม เขาพยายามที่จะอ่านใจเธอให้ได้ แต่สายตาคู่สวยกลับไม่มองมา ทั้งที่เขานั้นพยายามจะทอดสะพานให้เธอ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงเสร็จเขาไปนานแล้ว
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







