อีกด้านหนึ่ง พริมโรสที่เดินตามลูกน้องคนสนิทของเจ้าบ้านมานั่งห้องอาหาร ก็เหลือบตามองเด็กสาวที่เอาแต่นั่งชิดผนังและฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
"น้องชื่อวีนัสเหรอ พี่ชื่อพริมโรสนะ เรียกว่าพี่โรสก็ได้" เธอชวนน้องคุยเพื่อคลายบรรยากาศอึดอัด
แต่วีนัสกลับเอาแต่นั่งฟุบหน้าลง โดยไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย
"อายุเท่าไหร่เหรอ"
"..."
นักศึกษาสาวเม้มริมฝีปากอย่างเริ่มประหม่า เมื่อน้องไม่มีท่าทีคุยกับเธอเลย รอยที่คอตรงนั้น...คงผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมาจนเป็นแบบนี้
ความเลวร้ายของมัน ดึงความสดใสของเธอออกไปจนหมด
"อ้อ จริงสิ พี่มีอันนี้จะให้"
ซองเยลลี่สีสันสดใสถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าสะพาย เธอวางมันลงที่โต๊ะ พร้อมกับเขี่ยไปตรงหน้าวีนัสเบาๆ ระวังไม่ให้เธอตกใจ
"มันผสมน้ำผลไม้ด้วยนะ หวานๆ เปรี้ยวๆ เวลากินแล้วจะอารมณ์ดี" พริมโรสส่งยิ้มสดใสให้เด็กสาวแม้เธอจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองก็ตาม
พริมโรสจึงไม่เซ้าซี้น้องต่อ หันมาเล่นมือถือเป็นการฆ่าเวลาแทน เลื่อนจอผ่านๆ ก็เห็นคลิปการ์ตูนที่กำลังเป็นที่นิยมตอนนี้
จึงแกล้งเปิดดูเพื่อให้คนที่ฟุบหน้าอยู่ได้ยินไปด้วย นักศึกษาสาวหัวเราะกับการ์ตูนอย่างสนุกสนานๆ จนเด็กสาวค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามอง
"วีนัสดูไหม" หันหน้าจอการ์ตูนที่กำลังดูให้เธอดูด้วย "พี่ข้ามไปนั่งด้วยนะ"
มือถือถูกยื่นไปวางที่หน้าของคนตัวเล็กกว่า ก่อนที่นักศึกษาสาวจะเดินอ้อมโต๊ะอาหารไปนั่งข้างเธอ พริมโรสไม่ได้สัมผัสตัวอีกฝ่าย เว้นระยะห่างให้เธอไม่รู้สึกอึดอัด
ให้ห้องอาหารจากที่มีเสียงของพริมโรสฝ่ายเดียว ก็เริ่มมีเสียงหัวเราะของเด็กสาวขึ้นมาเป็นระยะ จวบกระทั่งการ์ตูนจบไปหนึ่งตอน และกำลังจะเปิดดูตอนที่สองต่อ
"โรส กลับบ้าน" เสียงจากแฟนหนุ่มเรียกความสนใจจากหน้าจอของคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี
เซนเดินเข้ามาหาแฟนสาวของตนเอง ก่อนจะแสดงความรักด้วยการจูบที่ขมับบางเบาๆ ราวกลับคิดถึงมากมาย แม้จะไม่ได้เจอกันเพียงครึ่งชั่วโมง
พลอยทำให้เจ้าของบ้านที่เดินตามมา แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อมองมายังทั้งคู่
"งั้นพี่โรสกลับก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่" หันมาบอกลาคนตัวเล็กที่ยังคงนั่งมองหน้าจอมือถือนิ่ง "ถ้าอยากดูต่อต้องให้คุณมาร์ตินเปิดให้ดูนะ"
ขยิบตาให้น้องอย่างซุกซน จากนั้นจึงเดินตามแฟนหนุ่มกลับออกไป
"ดูอะไรกัน"
เมื่อห้องอาหารเหลือกันเพียงสองคน มาเฟียหนุ่มจึงถามเธอขึ้นมา เพราะเขาเองก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเธอเช่นเดียวกัน
"การ์ตูนค่ะ" เธอบอกเขาเสียงเบา ยกมือมาหยิบเอาซองเยลลี่ที่พริมโรสให้มาเก็บไว้ที่ตักอย่างหวงแหน "อยากดูค่ะ"
"นอนดึก"
ใบหน้าคนตัวตัวเล็กสลดลง เมื่อเขาทำท่าจะปฏิเสธ จนคนที่ออกปากห้าม เพราะห่วงว่างเธอจะหายไม่ทันวันเดินทางถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้
"สัญญาไหมว่าจะนอนเวลาเดิม"
"สัญญาค่ะ" รีบเงยหน้าสบตากับเขาด้วยท่าทางมีความหวัง
มาเฟียหนุ่มเงียบลงเล็กน้อย หันไปมองหน้าลูกน้องของตนเองที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
คีย์ก้มหน้าไม่สบตากับผู้เป็นนาย แต่แอบลอบยิ้มเมื่อคนตัวสูงหันหน้ากลับไปหาวีนัส
"กินข้าว กินยา แล้วจะเอาไอแพดให้"
คำอนุมัติที่เอ่ยออกมา ทำเอาเด็กสาวที่นั่งก้มหน้างุด รีบเงยขึ้นมามองเขา
คนตัวเล็กแสดงสีหน้ามีความสุขออกมาทันทีที่ได้ยินการอนุญาตจากเขา เธอพยักหน้าปรบมือแสดงความดีใจออกมาอย่างไม่ปกปิด
จากนั้นมาร์ตินจึงส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดนำอาหารมาเสิร์ฟ และเริ่มมื้อเย็นอย่างเงียบสงบเช่นหลายวันที่ผ่านๆ มา
ห้องนอนของมาร์ติน
"เอาไอแพดให้วีนัส" เขาบอกลูกน้องเสียงเรียบหลังจากที่เดินกลับเข้ามาในห้องส่วนตัว
ไอแพดสีเงินถูกยื่นให้ลูกน้องคนสนิท ก่อนที่เจ้าของห้องจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อผ้าเพื่อเตรียมอาบน้ำ
"ครับนาย" คีย์รับไอแพดมาถือในมือ แต่ยังไม่มีท่าทีจะออกจากห้องไป
"มึงมีอะไร"
"นายแน่ใจนะครับ ว่าจะให้วีนัสไปอยู่อังกฤษ"
เด็กคนนั้นติดเจ้านายเขามาก ตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าต้องไปอยู่ที่อื่น การไปอยู่กับคนแปลกหน้าแล้วทำตัวเป็นครอบครัวของกันและกันคงกระอักกระอ่วนไม่น้อย
"เด็กคนนั้นต้องโต ต้องอดทน" เขาเองก็เคยผ่านมันมาได้ และมั่นใจว่าคนเข้มแข็งอย่างเธอจะทำได้เช่นเดียวกัน
"นายจะให้ไปอยู่ที่นั่นกี่ปีครับ"
"สอง"
อย่างน้อยวีนัสต้องจบไฮสกูล ต้องมีหลักฐานการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่เธอเคยอยู่ที่ประเทศไทย เขาจะไล่ลบข้อมูลออกทีละนิดจนหมด
ดานิกาจะไม่มีตัวตนอีกต่อไป จะมีก็แต่วีนัส แอนเดอร์สัน ลูกสาวของวิลเลียม แอนเดอร์สัน ศัลยแพทย์ในประเทศอังกฤษเท่านั้น
"ครอบครัวแอนเดอร์สันเป็นอย่างไรบ้าง" เขาถามถึงครอบครัวใหม่ที่อยู่อีกฟากของเธอ
"เท่าที่ให้คนของเราแอบตามดู ดูเหมือนทางนั้นจะค่อนข้างตื่นเต้นที่จะได้สมาชิกใหม่ครับ"
ภาพถ่ายส่งตรงจากอังกฤษ เผยให้เห็นว่าวิลเลียมกับเจสสิก้ามีการเรียกช่างมาปรับปรุงตกแต่งห้อง ที่จะถูกใช้เป็นน้องนอนของวีนัสอยู่หลายวัน
รวมถึงภาพที่เจสสิก้าใช้เวลาช่วงหลังเลิกงานไปชอปปิงเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่นอยู่บ่อยครั้ง
ศัลยแพทย์ชาวอังกฤษกับจิตแพทย์ชาวจีนที่ไม่สามารถมีบุตรได้ หลายปีก่อนมาร์ตินเคยช่วยพวกเขา เมื่อครั้งที่ทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุตอนที่มาเที่ยวฮ่องกง
เขาช่วยหาแพทย์ที่เก่งที่สุดมารักษาภรรยาของวิลเลียมที่กำลังจะตาย ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง วิลเลียมจึงถือว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณนับตั้งแต่นั้นมา
"ดี แบบนี้ฉันก็สบายใจ" เขามั่นใจว่าแม้จะต้องใช้เวลา แต่วีนัสจะยอมรับครอบครัวใหม่ได้ในที่สุด
"แล้วลุงกับป้าของวีนัส เราจะจัดการตอนไหนครับ"
หากจะนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ ก็ล่วงเลยมากว่าห้าวันแล้ว ที่สองผัวเมียนั่นถูกขังไว้ที่โกดังหลังเซฟเฮาส์ ส่วนอาหารที่ได้รับก็มาจากการที่วีนัสกินเหลือ
หากวันไหนเด็กคนนั้นกินหมด สองผัวเมียนั่นก็อดกินข้าว
มาร์ตินจึงชอบกำชับให้เธอรับประทานอาหารให้หมดในทุกมื้อ เพราะไม่อยากเอาข้าวที่เป็นเงินของตนเองไปเลี้ยงคนอย่างพวกมัน
"พรุ่งนี้ บอกคนเตรียมเก็บกวาดไว้ด้วย"
"ครับ พรุ่งนี้เช้าผมนัดช่างทำผมกับร้านเสื้อผ้าไว้สองสามร้าน แต่ไม่แน่ใจว่าวีนัสจะยอมออกจากเซฟเฮาส์หรือเปล่า"
"กูจัดการได้ มึงรีบเอาไอแพดไปให้เด็กคนนั้น กูจะอาบน้ำ"
"ครับ"
วีนัสเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับสถาบันสอนศิลปะอยู่ร่วมสองสัปดาห์ และแล้ววันเปิดเรียนชั้นเกรด 12 ก็มาถึง โรงเรียนที่พ่อกับแม่ให้เธอไปเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก หากเดินเท้าก็ใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที ในวันแรกของการเปิดเรียน เจสสิก้ากับวิลเลียมขับรถไปส่งเธอด้วยตนเองถึงหน้าประตู ด้วยสีผมที่แสนสะดุดตา กับรูปร่างที่ดูตัวเล็กกว่าใครเพื่อน อีกทั้งชุดที่ใส่ไปเรียนยังเป็นสไตล์น่ารักคล้ายตุ๊กตาโลลิต้า ทำให้เมื่อเดินเข้าไปในรั้วโรงเรียน เธอจึงกลายเป็นจุดสนใจของนักเรียนคนอื่นได้ไม่ยาก "วี!!" เสียงเรียกที่คุ้นหู ทำให้วีนัสรีบหันไปมองตามต้นเสียง เจย์เดนนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวกับเพื่อนของเขาอีกสามคนโบกมือเรียกให้เธอเดินเข้าไปหา เพื่อนของเจย์เดนเป็นหนุ่มยุโรป และสองสาวที่ดูสวยป็อบ ดูจากการแต่งตัวตามแฟชั่นค่อนไปทางเซ็กซี่นิดๆ นั้น "จะเข้าห้องเรียนเลยไหม" เขาถามเมื่อคนตัวเล็กเดินเข้ามาหา "อื้อ อยากเห็นห้องเรียนก่อน" เธอต้องการเวลาในการเตรียมใจเรียนในสภาพแวดล้อมใหม่ "เจย์ นายไม่คิดจะแนะนำให้พวกเรารู้จักหน่อยเหรอ" เส
Martin: ผู้หญิงหรือผู้ชาย? คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเขาถามทำไม อาจจะเป็นห่วง กลัวว่าเธอจะเจอผู้ชายประเภทคุกคามเธออีก Venus: ผู้ชายค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เขาน่ารักมาก คุยเก่ง ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับวี เธอรีบพิมพ์ตอบเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด แต่ข้อความที่ส่งไปกลับถูกอ่านเพียงอย่างเดียว มาร์ตินไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับมา Rrrrr "...!" เสียงเรียกเข้าที่แผดลั่น ทำเอามือถือแทบหล่นออกจากมือ ตั้งสติได้ก็รีบกดรับสายอย่างรวดเร็ว เมื่อหน้าจอแสดงผลว่าใครกำลังโทรเข้ามา "ค่ะ คุณมาร์ติน" กรอกเสียงรับสายออกไปอย่างติดประหม่า (เปิดกล้อง ปุ่มรูปวิดีโอ) เขาออกคำสั่งเสร็จสรรพ ทำเอาคนที่นอนหัวยุ่งอยู่บนเตียงต้องกระเด้งตัวขึ้นนั่ง หันมองซ้ายมองขวาว่าไม่ได้ทำห้องรก จึงกดปุ่มตามที่เขาบอก เธอเปิดกล้องก่อน เขาจึงเปิดตาม และนั่นทำให้วีนัสตกใจจนรีบเอามือตะครุบปากตัวเองไว้ เขาเปลือยท่อนบนอยู่ พื้นหลังเป็นห้องอะไรสักอย่างที่มีแต่ตู้เสื้อผ้ายาวเหยียด (เป็นอะไร อ้อ...)
คลาสวาดภาพเป็นเรื่องน่าสนุกกว่าที่วีนัสคิดเอาไว้มาก เธอกับเจย์เดนช่วยกันวาดรูปแล้วออกไปนำเสนอหน้าชั้นอย่างสนุกสนาน แม้แต่ปีเตอร์เองก็ชมว่าดอดไม้บนอวกาศของเธอเป็นความหมายที่ดีมาก ดิ้นรนให้เติบโต แม้สถานที่จะไม่เหมาะสม แต่ก็เบ่งบานได้ในที่สุด “วี เธอมีธุระต่อหรือเปล่า” เจย์เดนที่เดินลงลิฟท์มาด้วยกันถามขึ้น คนตัวเล็กส่ายหน้า วีนัสคิดว่าจะกลับไปรอพ่อกับแม่ที่บ้าน เพราะเจสสิก้าทิ้งกุญแจบ้านไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว “ไปกินข้าวเที่ยงกันไหม เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้าน” “ไปกินข้าวได้นะ แต่ไม่ต้องไปส่งวีหรอก บ้านวีอยู่ในหมู่บ้านนี่เอง” เธอบอกเพื่อนใหม่ยิ้มๆ “เจ๋งเลย ฉันก็อยู่หมู่บ้านนี้เหมือนกัน ฉันอยู่ตรอก 12 เธอล่ะ” เขาเดินนำไปที่รถเวสป้าสีส้มที่จอดอยู่หน้าสถาบัน คนตัวเล็กเงียบลงเมื่อถูกถามถึงตรอกทางเข้าบ้านตนเอง เธอเพิ่งมาอยู่ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แล้วตอนที่ออกมาก็ไม่ได้ดูด้วยว่าอยู่ตรอกหมายเลขอะไร รู้เพียงว่ามีร้านไอศกรีมอยู่ทางเข้าแค่นั้น “อยู่ในตรอกร้านไอศกรีมน่ะ” “อ้อ! โอเค ฉันจะไปส่ง” เขารวบรัด จ
[Venus Talks] เช้าวันแรกของการอาศัยอยู่กับครอบครัวใหม่ที่เบอร์มิงแฮม ฉันตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อลงมาช่วยงานแม่ใหม่ ท่านจะได้ไม่หาว่าฉันนอนกินบ้านกินเมือง ถ้าถามว่าเช้าขนาดไหน ขอบอกว่าตีห้า - -; แล้วฉันก็ได้ความรู้เรื่องแรกในการใช้ชีวิต ว่าที่นี่เขาไม่ตื่นเช้าขนาดนั้น เจสสิก้ากับวิลเลียมทำงานที่โรงพยาบาลห่างจากบ้านยี่สิบนาที พวกเขาเลยไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าเหมือนคนกรุงเทพ ที่ต้องออกบ้านแต่เช้ามืดทุกวัน ตอนฉันเปิดประตูออกมาห้องมา ไฟด้านนอกดับสนิท ไม่มีใครตื่นเลยด้วยซ้ำ กระทั่งเจสสิก้าน่าจะได้ยินเสียงฉันเปิดประตู เธอ...แม่เลยถามฉันว่า ‘ตื่นขึ้นมาทำไม อยากได้อะไรหรือเปล่า’ พอฉันบอกว่าฉันตื่นมาช่วยงานตอนเช้า แม่เลยหัวเราะแล้วดันฉันกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะบอกให้ฉันตื่นลงไปข้างล่างตอนแปดโมง ตื่นฟรีเลย - -; ฉันเปิดประตูลงไปด้านล่างอีกครั้งตอนแปดโมงเป๊ะ พอแม่เห็นหน้าฉันก็หันไปเล่าเรื่องเมื่อเช้ามืดให้พ่อฟัง จนท่านหัวเราะจนไข่ดาวแทบติดคอ “อยู่ที่นี่ทำตัวตามสบายนะ คิดซะว่ามาพักผ่อน” พ่อพูดกับฉันพร้อมก
ประตูห้องนอนถูกเปิดออกโดยฝีมือของเจ้าของห้อง ห้องนอน สีขาวฟ้าเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีวางเรียงรายบนเตียง ให้ความรู้สึกห้องนอนของเด็กผู้หญิงจนมาเฟียอย่างเขาเห็นแล้วขนลุก "ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ" หันมาถามเมื่อเห็นเขายังยืนมองเตียงด้วยใบหน้าเหยเก "ฉันเป็นพวกไม่ถูกกับความน่ารัก" คำตอบของเขาเรียกเสียงหัวเราะของเธอออกมา ร่างบอบบางนั่งลงบนเตียงกว้างของตนเอง ก่อนจะจ้องมองไปที่ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล "เหมือนคุณเลย" เธอหยิบมันขึ้นมาชูใส่หน้าเขา จนคนถูกว่าเหมือนหมีขมวดคิ้ว "เหมือนตรงไหน" หมีขนหยิกสีน้ำตาลตัวนั้นไม่ได้มีส่วนใดเหมือนเขาแม้แต่น้อย คนตัวโตเดินมานั่งข้างเธอ ก่อนจะหยิบตุ๊กตาไปจากมือเล็ก "ไม่เหมือน" "เหมือนสิ ตัวนี้หน้าตาใจดีที่สุดในบรรดาทุกตัวเลย" เธอเถียงเขาหน้าซื่อ มิวายดึงตุ๊กตากลับมากอดตามเดิม "ชอบห้องนี้ไหม" เขาเปลี่ยนคำถามพร้อมกับมองไปรอบๆ "ชอบสิคะ น่ารักมาก ขอบคุณนะคะ" "ขอบคุณเจสสิก้ากับวิลเลียมด้วย" "ค่ะ" ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับ หันไปนั่งแกว่งขาเล่นกับตุ๊
เขาให้เวลาเธอจัดการความรู้สึกตนเองสามวันเต็ม ร้องไห้ให้เต็มที่ เสียใจให้พอ ระหว่างนั้นมาร์ตินก็อยู่ด้วยตลอด เธอกับเขานอนเตียงเดียวกัน คนไม่ชอบนอนร่วมเตียงกับคนอื่นก็ลำบากพอตัว แต่การปล่อยให้เธอนอนหลับตา แล้วผวาร้องไห้คนเดียวเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้ ในที่สุดวันเดินทางก็มาถึง เครื่องบินส่วนตัวจอดรอที่ท่าอากาศยานตั้งแต่เวลาสองทุ่ม แต่กำหนดการเดินทางคือตีสี่ตรง "ยังง่วงอยู่ไหม" มาร์ตินถามคนตัวเล็กหลังจากเครื่องเทคออฟได้ระยะหนึ่ง "ถ้าง่วงก็เข้าไปนอนข้างใน" ข้างในที่หมายถึง คือส่วนที่ถูกแยกไว้สำหรับทำป็นห้องนอน แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าวีนัสจะนอนได้หรือเปล่า "หนูไม่อยากนอนค่ะ ปวดหัว" เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ เพราะเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของเธอ ความกดอากาศบนเครื่องทำให้เธอปวดหัวในที่สุด "คีย์ เอายาแก้ปวดมา" ยาแก้ปวดถูกป้อนเข้าปากเล็ก ตามด้วยยื่นขวดน้ำดื่มให้ยกดื่มเอง มาเฟียหนุ่มอุ้มเด็กสาวย้ายที่นั่งมานั่งริมหน้าต่างอีกด้าน ให้เธอนั่งตักเอียงหน้าซบแผ่นอกแล้วมองออกไปด้านนอก มองทิวทัศน์จากบนเครื่อง เ