ในขณะที่กำลังสติแตกเพราะสิ่งที่ทำลงไป เขาที่เป็นเพียงผู้ผ่านมาเห็นกลับช่วยเหลือเธอเอาไว้ และให้ชีวิตใหม่กับเธอ
View Moreไม่ว่าสุดท้าย โลกจะสวยงามหรือโหดร้าย เราก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปอยู่ดี
________________________________
"อีดา!!!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมแรงมือชายเข้าขยุ้มที่กลุ่มผมหนา จนหน้าหวานเชิดแหงนอย่างแรง
ดานิกาน้ำตาไหลพรากกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกาย มองผู้เป็นลุงด้วยสายตาวิงวอนพร้อมประนมมือไหว้อย่างสั่นกลัว
"ฮึก! ลุงจ๋า ลุงอย่าทำแบบนี้กับดาเลย ฮึก ฮือออ" เด็กสาวส่ายหน้าปฏิเสธสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง เมื่อถูกผู้เป็นลุงและป้าแท้ๆ ลากมายังสถานที่อโคจร
ผับกึ่งซ่องที่ประโคมความหรูหราครบวงจรกลางกรุง ฉากหน้าคือไนต์คลับ สถานเริงรมย์สำหรับคนชอบเที่ยว แต่ชั้นใต้ดินกลับถูกเนรมิตรให้เป็นโรงค้าเนื้อสด
ผู้หญิงและเด็กมากมาย ถูกนำมาประมูลขายให้กับกลุ่มคนมากตัณหามากทรัพย์ที่พร้อมจะจ่าย
แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ลูกค้าผู้ชาย ผู้หญิงจำนวนหนึ่งก็เข้ามาใช้บริการเพื่อซื้อกามจากเด็กชายไม่บรรลุนิติภาวะ
บางคนเข้ามามีเซ็กซ์แล้วก็จากไป แต่มีคนอีกจำพวกหนึ่งที่สนุกสนานกับการให้เห็นเหยื่อทรมาน ทุรนทุรายก่อนการร่วมประเวณี
"หุบปากอีดา อย่าให้กูตบซ้ำ!" รตีง้างมือขู่หลานสาวแท้ๆ ตนเองอีกรอบ
ปกรณ์น้องชายตนเองกับน้องสะใภ้ดันซวย เจอพวกเมาแล้วขับสอยไปกินทั้งคู่ ทิ้งหนี้สินและหลานสาววัยสี่ขวบให้พวกตนเลี้ยง
บัดนี้ดานิกาอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์ ได้ฤกษ์เอามาขายที่นี่ หากโชคดีเจอเสี่ยแก่ๆ เอ็นดู อาจจะมีเงินส่งให้ใช้ตลอดชีวิต
"ฮือออ ป้าจ๋า ดามีเงินเก็บอยู่สี่พัน ดาให้ป้าหมดเลย" มือเล็กและสั่นเทาล้วงธนบัตรสีเทาที่ยับยู่ยี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น ยัดใส่มือหญิงวัยกลางคน "ปะ ป้าพาดากลับบ้านเรานะ ดาจะทำกับข้าวให้กิน"
เธอฉีกยิ้มให้คนทั้งคู่ พยักเพยิศโน้มน้าวให้คล้อยตามทั้งที่น้ำตายังเปรอะเปื้อนทั่วใบหน้าจนมอมแมม
"หนอยยย!! มึงมุบมิบเงินเหรอ พี่สักรีบเอามันไปขาย ฉันจะรออยู่ข้างบน เหม็นคาวเลือด"
"มากับกู!!!"
ร่างเล็กถูกกระชากลากถูกจนชนเก้าอี้หลายตัว แม้จะพยายามใช้มือเหนี่ยวเสาหาที่พึ่ง
แต่ก็สูญเปล่า...
ประตูห้องใต้ดินถูกเปิดออกด้วยมือการ์ดของผับ สักลากหลานสาวลงชั้นล่างด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี
"กรี๊ดดดด!!!! ม่ายยย อย่าทำหนู ฮืออออ"
เธอกรีดร้องสุดเสียง ใช้แรงที่มีอยู่กรีดร้องให้คนจากด้านนอกได้ยิน แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาผับเปิด จึงน่าเสียดายที่ไม่มีใครได้เห็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของเด็กสาว
"ฮึก...ฮืออออ" เสียงร้องไห้คร่ำครวญดังออกมาจากลำคอเล็ก
ดานิกานั่งคุดคู้อยู่ที่มุมห้องรวมกับเด็กคนอื่นๆ ลุงกับป้าจากไปแล้ว หลังจากขายเธอด้วยเงินเพียงหนึ่งแสนบาท
ยิ่งเห็นสภาพฟกช้ำบนร่างกายของคนอื่นๆ ที่อยู่มาก่อน เธอยิ่งไม่อยากอยู่ในสภาพนั้น
บางคนเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแส้ บ้างมีรอยพุพองจากไฟ บางคนถูกเอาไปแล้วกลับมาด้วยสภาพบอบช้ำอิดโรย
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจออะไรมา...
"อีดา!!" หนึ่งในการ์ดคุมชั้นใต้ดินเรียกชื่อเธอเสียงดัง
แต่คนที่อยู่ในนั้นต่างสะดุ้งตื่นกลัวกันทั้งแถบ
"ไปรับแขก เร็ว!!!" ออกคำสั่งด้วยความดุดัน ไม่ปราณีความเป็นผู้หญิงหรือชาย "มึงอย่าขัดขืนเสี่ยอาร์มนะมึง ไม่งั้นกลับลงมา กูจะให้เด็กรุมโทรมให้เข็ด"
คำพูดหยาบคายขู่กำชับให้เด็กสาวเกิดความกลัว ดานิกาเดินตามขึ้นไปยังชั้นสามของผับ ซึ่งถูกใช้เป็นห้องเชือดมาตลอดหลายปี
ปัง!
ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ดานิกาก็พบว่าเธออยู่ในห้องนอนสีขาว มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครบครันถูกจัดไว้ที่โต๊ะรับแขก ทั้งเหล้าและเบียร์ถูกดื่มจนหายไปจำนวนหนึ่ง
ได้ยินเสียงน้ำไหลกระทบพื้นจากในห้องน้ำ ก็รู้ทันทีว่าเสี่ยอาร์มคงอยู่ในนั้น
เธอต้องหนี!!
วิ่งกลับไปหมุนลูกบิดก็เห็นว่าถูกล็อกแน่นหนา ห้องนี้ไม่มีหน้าต่างหรือระเบียง ทางออกเดียวที่มีอยู่จึงหมดลง
แกร๊ก~
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก เสี่ยวหุ่นพุงพลุ้ยเดินออกมาดโดยมีผ้าเช็ดตัวผูกเอวหลวมๆ ตรงดิ่งเข้าหาเด็กสาวอย่างตะกละตะกลาม
"กรี๊ดด!!!" ดานิกาสะบัดตัวดิ้นหนีไปจนสุดมุมห้อง ยกมือไว้ขอชีวิตจากคนตรงหน้าหวังให้เขาสงสาร "ลุงขาอย่าทำหนูเลย หนูอาจจะอายุเท่าลูกสาวลุง..."
"อีเด็กเวร!! ทีแรกก็กูจะเย็xนิ่มๆ ไม่อยากให้เจ็บตัว วอนนะมึง"
พูดจบก็ใช้มือหยาบหยิบเข็มขัดหนังขึ้นมาพันรอบมือ เหลือความยาวพอที่จะลงแรงฟาดลงหลังใครสักคนได้อย่างถนัด
"มึงมานี่!!" กระชากแขนเรียวเหวี่ยงลงโซฟา ใช้เท้าเหยียบที่พักแขนแล้วฟาดสายเข็มขัดเข้าใส่เด็กสาว
ไม่เล็งว่าต้องโดนที่แขนหรือหลัง ไม่สนใจว่าจะโดนใบหน้าเล็กจนเป็นรอยเข็มขัดนูนชัดที่แก้ม
เพียะ! เพียะ! เพียะ!
"กรี๊ดดด เจ็บ! ดาเจ็บ! ฮืออ เจ็บ หนูเจ็บแล้ว ฮือออ" เด็กสาวแสบร้าวไปทั้งร่าง ฟุบหน้าหมอบลงกับโซฟาอย่างหมดสิ้นหนทาง
เพียะ! เพียะ! เพียะ!
เสี่ยวิตถารยังทำร้ายร่างกายเด็กสาวไม่หยุด ไม่แม้แต่จะสนใจเสียงกรีดร้องของเหยื่อตรงหน้า
คลายสายเข็มขัดในมือออก จับคล้องลำคอเล็กออกแรงรัดเส้นเข็มขัดไขว้กันจนดานิกาตาเหลือกลอย
"อื้อ! ยะ อย่า!"
หายใจไม่ออก
เธอหายใจไม่ออก เธอกำลังจะตาย
ใบหน้าเล็กแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ มือเล็กพยายามแกะเข็มขัดหนังเส้นดำออกจากคอตนเอง แต่คนไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวานอย่างเธอจะสู้ได้อย่างไร
"ฮ่าๆๆ ปากดีหน่อยสิอีเด็กเหี้ย ไม่เก่งแล้วเหรอ" ดวงตาของเสี่ยอาร์มฉายแววอำมหิต ดูแล้วเหมือนจะมีอาการทางจิตเกิดขึ้น
"กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึง ตายซะ!"
พึมพำอย่างเสียสติและออกแรงรัดคอเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ
ไม่...เธอจะตายไม่ได้
เธอจะต้องอยู่ เธอยังอยากมีชีวิตอยู่!
"ตาย...มึงตาย โอ๊ย!!!"
เสียงร้องของเสี่ยวิตาถารดังขึ้น หลังจากเกิดเสียง 'เพล้ง!' มือที่กำเส้นเข็มขัดปล่อยทันที เปลี่ยนไปกุมศีรษะตนเองแทน
เลือดสีแดงไหลอาบศีรษะเกือบล้าน เสี่ยอาร์มหันมองเด็กสาวที่นอนกุมลำคอตนเองอย่างอาฆาต
"อีเด็กเหี้ย!!"
ฉึบ!
ขวดเหล้าที่แตกจนกลายเป็นปากฉลามในมือ ถูกเสียบเข้าที่กลางอกด้วยความตกใจ
ดานิกาได้ยินเสียงตวาดดัง จึงต้องการยกมือผลักร่างนั้น แต่ลืมว่าในมือตนเองถืออะไรอยู่
เด็กสาววัยสิบเจ็ดปล่อยมือออกจากขวดปากฉลาม ยกมันขึ้นปิดปากอย่างตกใจ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเบิกโพลงกว้างกว่าเดิม เมื่อเสี่ยอาร์มล้มลงคว่ำข้างโซฟา
โลหิตสีแดงค่อยไหลออกมาจากใต้ร่างอ้วนท้วนนั้น กลิ่นคาวคละคลุ้งชวนสะอิดสะเอียดจนเธออยู่ในห้องนี้ต่อไม่ไหว
เธอฆ่าคนตาย
"กรี๊ดดดด!!!"
วีนัสเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับสถาบันสอนศิลปะอยู่ร่วมสองสัปดาห์ และแล้ววันเปิดเรียนชั้นเกรด 12 ก็มาถึง โรงเรียนที่พ่อกับแม่ให้เธอไปเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก หากเดินเท้าก็ใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที ในวันแรกของการเปิดเรียน เจสสิก้ากับวิลเลียมขับรถไปส่งเธอด้วยตนเองถึงหน้าประตู ด้วยสีผมที่แสนสะดุดตา กับรูปร่างที่ดูตัวเล็กกว่าใครเพื่อน อีกทั้งชุดที่ใส่ไปเรียนยังเป็นสไตล์น่ารักคล้ายตุ๊กตาโลลิต้า ทำให้เมื่อเดินเข้าไปในรั้วโรงเรียน เธอจึงกลายเป็นจุดสนใจของนักเรียนคนอื่นได้ไม่ยาก "วี!!" เสียงเรียกที่คุ้นหู ทำให้วีนัสรีบหันไปมองตามต้นเสียง เจย์เดนนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวกับเพื่อนของเขาอีกสามคนโบกมือเรียกให้เธอเดินเข้าไปหา เพื่อนของเจย์เดนเป็นหนุ่มยุโรป และสองสาวที่ดูสวยป็อบ ดูจากการแต่งตัวตามแฟชั่นค่อนไปทางเซ็กซี่นิดๆ นั้น "จะเข้าห้องเรียนเลยไหม" เขาถามเมื่อคนตัวเล็กเดินเข้ามาหา "อื้อ อยากเห็นห้องเรียนก่อน" เธอต้องการเวลาในการเตรียมใจเรียนในสภาพแวดล้อมใหม่ "เจย์ นายไม่คิดจะแนะนำให้พวกเรารู้จักหน่อยเหรอ" เส
Martin: ผู้หญิงหรือผู้ชาย? คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเขาถามทำไม อาจจะเป็นห่วง กลัวว่าเธอจะเจอผู้ชายประเภทคุกคามเธออีก Venus: ผู้ชายค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เขาน่ารักมาก คุยเก่ง ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับวี เธอรีบพิมพ์ตอบเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด แต่ข้อความที่ส่งไปกลับถูกอ่านเพียงอย่างเดียว มาร์ตินไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับมา Rrrrr "...!" เสียงเรียกเข้าที่แผดลั่น ทำเอามือถือแทบหล่นออกจากมือ ตั้งสติได้ก็รีบกดรับสายอย่างรวดเร็ว เมื่อหน้าจอแสดงผลว่าใครกำลังโทรเข้ามา "ค่ะ คุณมาร์ติน" กรอกเสียงรับสายออกไปอย่างติดประหม่า (เปิดกล้อง ปุ่มรูปวิดีโอ) เขาออกคำสั่งเสร็จสรรพ ทำเอาคนที่นอนหัวยุ่งอยู่บนเตียงต้องกระเด้งตัวขึ้นนั่ง หันมองซ้ายมองขวาว่าไม่ได้ทำห้องรก จึงกดปุ่มตามที่เขาบอก เธอเปิดกล้องก่อน เขาจึงเปิดตาม และนั่นทำให้วีนัสตกใจจนรีบเอามือตะครุบปากตัวเองไว้ เขาเปลือยท่อนบนอยู่ พื้นหลังเป็นห้องอะไรสักอย่างที่มีแต่ตู้เสื้อผ้ายาวเหยียด (เป็นอะไร อ้อ...)
คลาสวาดภาพเป็นเรื่องน่าสนุกกว่าที่วีนัสคิดเอาไว้มาก เธอกับเจย์เดนช่วยกันวาดรูปแล้วออกไปนำเสนอหน้าชั้นอย่างสนุกสนาน แม้แต่ปีเตอร์เองก็ชมว่าดอดไม้บนอวกาศของเธอเป็นความหมายที่ดีมาก ดิ้นรนให้เติบโต แม้สถานที่จะไม่เหมาะสม แต่ก็เบ่งบานได้ในที่สุด “วี เธอมีธุระต่อหรือเปล่า” เจย์เดนที่เดินลงลิฟท์มาด้วยกันถามขึ้น คนตัวเล็กส่ายหน้า วีนัสคิดว่าจะกลับไปรอพ่อกับแม่ที่บ้าน เพราะเจสสิก้าทิ้งกุญแจบ้านไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว “ไปกินข้าวเที่ยงกันไหม เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้าน” “ไปกินข้าวได้นะ แต่ไม่ต้องไปส่งวีหรอก บ้านวีอยู่ในหมู่บ้านนี่เอง” เธอบอกเพื่อนใหม่ยิ้มๆ “เจ๋งเลย ฉันก็อยู่หมู่บ้านนี้เหมือนกัน ฉันอยู่ตรอก 12 เธอล่ะ” เขาเดินนำไปที่รถเวสป้าสีส้มที่จอดอยู่หน้าสถาบัน คนตัวเล็กเงียบลงเมื่อถูกถามถึงตรอกทางเข้าบ้านตนเอง เธอเพิ่งมาอยู่ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แล้วตอนที่ออกมาก็ไม่ได้ดูด้วยว่าอยู่ตรอกหมายเลขอะไร รู้เพียงว่ามีร้านไอศกรีมอยู่ทางเข้าแค่นั้น “อยู่ในตรอกร้านไอศกรีมน่ะ” “อ้อ! โอเค ฉันจะไปส่ง” เขารวบรัด จ
[Venus Talks] เช้าวันแรกของการอาศัยอยู่กับครอบครัวใหม่ที่เบอร์มิงแฮม ฉันตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อลงมาช่วยงานแม่ใหม่ ท่านจะได้ไม่หาว่าฉันนอนกินบ้านกินเมือง ถ้าถามว่าเช้าขนาดไหน ขอบอกว่าตีห้า - -; แล้วฉันก็ได้ความรู้เรื่องแรกในการใช้ชีวิต ว่าที่นี่เขาไม่ตื่นเช้าขนาดนั้น เจสสิก้ากับวิลเลียมทำงานที่โรงพยาบาลห่างจากบ้านยี่สิบนาที พวกเขาเลยไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าเหมือนคนกรุงเทพ ที่ต้องออกบ้านแต่เช้ามืดทุกวัน ตอนฉันเปิดประตูออกมาห้องมา ไฟด้านนอกดับสนิท ไม่มีใครตื่นเลยด้วยซ้ำ กระทั่งเจสสิก้าน่าจะได้ยินเสียงฉันเปิดประตู เธอ...แม่เลยถามฉันว่า ‘ตื่นขึ้นมาทำไม อยากได้อะไรหรือเปล่า’ พอฉันบอกว่าฉันตื่นมาช่วยงานตอนเช้า แม่เลยหัวเราะแล้วดันฉันกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะบอกให้ฉันตื่นลงไปข้างล่างตอนแปดโมง ตื่นฟรีเลย - -; ฉันเปิดประตูลงไปด้านล่างอีกครั้งตอนแปดโมงเป๊ะ พอแม่เห็นหน้าฉันก็หันไปเล่าเรื่องเมื่อเช้ามืดให้พ่อฟัง จนท่านหัวเราะจนไข่ดาวแทบติดคอ “อยู่ที่นี่ทำตัวตามสบายนะ คิดซะว่ามาพักผ่อน” พ่อพูดกับฉันพร้อมก
ประตูห้องนอนถูกเปิดออกโดยฝีมือของเจ้าของห้อง ห้องนอน สีขาวฟ้าเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีวางเรียงรายบนเตียง ให้ความรู้สึกห้องนอนของเด็กผู้หญิงจนมาเฟียอย่างเขาเห็นแล้วขนลุก "ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ" หันมาถามเมื่อเห็นเขายังยืนมองเตียงด้วยใบหน้าเหยเก "ฉันเป็นพวกไม่ถูกกับความน่ารัก" คำตอบของเขาเรียกเสียงหัวเราะของเธอออกมา ร่างบอบบางนั่งลงบนเตียงกว้างของตนเอง ก่อนจะจ้องมองไปที่ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล "เหมือนคุณเลย" เธอหยิบมันขึ้นมาชูใส่หน้าเขา จนคนถูกว่าเหมือนหมีขมวดคิ้ว "เหมือนตรงไหน" หมีขนหยิกสีน้ำตาลตัวนั้นไม่ได้มีส่วนใดเหมือนเขาแม้แต่น้อย คนตัวโตเดินมานั่งข้างเธอ ก่อนจะหยิบตุ๊กตาไปจากมือเล็ก "ไม่เหมือน" "เหมือนสิ ตัวนี้หน้าตาใจดีที่สุดในบรรดาทุกตัวเลย" เธอเถียงเขาหน้าซื่อ มิวายดึงตุ๊กตากลับมากอดตามเดิม "ชอบห้องนี้ไหม" เขาเปลี่ยนคำถามพร้อมกับมองไปรอบๆ "ชอบสิคะ น่ารักมาก ขอบคุณนะคะ" "ขอบคุณเจสสิก้ากับวิลเลียมด้วย" "ค่ะ" ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับ หันไปนั่งแกว่งขาเล่นกับตุ๊
เขาให้เวลาเธอจัดการความรู้สึกตนเองสามวันเต็ม ร้องไห้ให้เต็มที่ เสียใจให้พอ ระหว่างนั้นมาร์ตินก็อยู่ด้วยตลอด เธอกับเขานอนเตียงเดียวกัน คนไม่ชอบนอนร่วมเตียงกับคนอื่นก็ลำบากพอตัว แต่การปล่อยให้เธอนอนหลับตา แล้วผวาร้องไห้คนเดียวเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้ ในที่สุดวันเดินทางก็มาถึง เครื่องบินส่วนตัวจอดรอที่ท่าอากาศยานตั้งแต่เวลาสองทุ่ม แต่กำหนดการเดินทางคือตีสี่ตรง "ยังง่วงอยู่ไหม" มาร์ตินถามคนตัวเล็กหลังจากเครื่องเทคออฟได้ระยะหนึ่ง "ถ้าง่วงก็เข้าไปนอนข้างใน" ข้างในที่หมายถึง คือส่วนที่ถูกแยกไว้สำหรับทำป็นห้องนอน แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าวีนัสจะนอนได้หรือเปล่า "หนูไม่อยากนอนค่ะ ปวดหัว" เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ เพราะเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของเธอ ความกดอากาศบนเครื่องทำให้เธอปวดหัวในที่สุด "คีย์ เอายาแก้ปวดมา" ยาแก้ปวดถูกป้อนเข้าปากเล็ก ตามด้วยยื่นขวดน้ำดื่มให้ยกดื่มเอง มาเฟียหนุ่มอุ้มเด็กสาวย้ายที่นั่งมานั่งริมหน้าต่างอีกด้าน ให้เธอนั่งตักเอียงหน้าซบแผ่นอกแล้วมองออกไปด้านนอก มองทิวทัศน์จากบนเครื่อง เ
Comments