แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: หวังหนิวตุ้น
ยื่นมือออกไปแตะซิปด้วยอาการตัวสั่นงันงก ทว่าเพิ่งแตะกางเกงสแล็กก็ถูกแส้ฟาดลงมาแล้ว

ผมรีบหดมือกลับมา พลางมองมอยเซนด้วยความงุนงง แล้วถึงได้เห็นว่าเขามีสีหน้าสุดจะบรรยาย

“ฉันให้นายถอดเสื้อผ้าตัวเองออก จะมาแตะกางเกงฉันทำไม?”

ผมรู้สึกได้เลยว่าแก้มของตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาในพริบตา

เอ่อนี่มัน ใครใช้ให้เขาพูดไม่ชัดเจนเองละ

มอยเซนเอื้อมมือไปบีบหว่างคิ้วสันจมูกเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาดังหึ

จากนั้นก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ทั้งดวงตาเต็มไปด้วยความสนใจ

“นายศึกษาความรู้ในวงการเพื่อฉันมาเยอะไม่ใช่เหรอ? ไม่เข้าใจจริง ๆ หรือแสร้งทำเป็นไร้เดียงสากันแน่?”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะใช้มันสั่งสอนนายให้ดีเอง”

ทันทีที่แส้สีม่วงสะบัดเบา ๆ ผมก็สะดุ้งโหยงไปทั้งตัว

จนกระทั่งตอนที่ผมได้สติ คิดจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องมุดตัวลงไปกับเตียงอย่างรวดเร็ว

สติสัมปชัญญะค่อย ๆ กลับเข้าที่เข้าทาง แล้วเรื่องทุกอย่างเมื่อคืนนี้ก็ถาโถมเข้ามาในหัวทันที

ตอนแรก ผมยังให้กำลังใจตัวเองอยู่ในใจ

แสร้งทำว่าตัวเองเป็นผู้กล้าที่ตกไปอยู่ในมือคนชั่วร้าย แล้วถูกเฆี่ยนตี

สุดท้าย พอแส้ฟาดลงมาไม่กี่ครั้งก็ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมแล้ว

รสชาตินั่น ถ้าไม่ได้มาเจอด้วยตัวเองก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก!

มันเจ็บ และในความเจ็บนั้นก็มาพร้อมกับความคันปนร้อนรุ่ม

มันกระตุ้นให้เลือดในกายให้พลุ่งพล่าน

มือถูกมัดไว้ด้านหลัง หากคิดจะคลึงผิวเพื่อบรรเทาอาการสักหน่อยก็เลิกคิดไปได้เลย

ผมพยายามอ้อนวอนขอให้ยกโทษ หลังจากนั้นริมฝีปากก็ถูกอุด

มอยเซนมีเทคนิคไม่เบาทีเดียว เขามักจะหยุดมือทุกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ให้ผมได้มีโอกาสหายใจปรับสภาพ

ถึงขั้นที่ยังป้อนน้ำให้ผมกินด้วยอย่างอ่อนโยนด้วย

น้ำเปล่าในตอนนั้นมันอร่อยยิ่งกว่าน้ำทิพย์จากสวรรค์เสียอีก!

ผมพูดขอบคุณเขาเบา ๆ

มอยเซนเช็ดหยดน้ำบนกลีบปากผมทิ้งไป

“ลืมอีกแล้วเหรอว่าเมื่อกี้ฉันบอกว่าอะไร?”

“ฮือ...ขอบคุณนายท่าน”

เมื่อนึกเรื่องทุกอย่างได้ ผมก็อับอายจนต้องซุกหน้าลงกับหมอน

อ๊ากกก ผมพูดมันออกไปแล้วจริง ๆ !

ผมนอนนิ่งอยู่บนเตียงราวกับปลาตาย จนกระทั่งมีคนเข็นรถอาหารเข้ามา

“คุณมอยเซนให้ผมเข้ามาปลุกคุณขึ้นมาล้างหน้าล้างตา แล้วก็กินข้าวครับ”

พอเงยหน้าและได้เห็นหน้าของคนที่เข้ามาชัดเจน ผมก็เกือบจะตกจากเตียงเลยทีเดียว

แม่เจ้า นี่มันซูหนาน ตัวเอกโอเมก้าของนิยายไม่ใช่หรือไง?

อย่าถามเชียวว่าผมรู้ได้อย่างไร จะถามก็ถามเรื่องที่ว่าเขามีปานรูปผีเสื้ออยู่บนคอ มีฟีโรโมนเป็นกลิ่นหอมของดอกพุดซ้อนดีกว่า

“นะนะนะนายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

ซูหนานมีสีหน้าสงสัย ถามผมว่ารู้จักเขาเหรอ?

ผมหัวเราะแห้ง ๆ สองสามครั้ง

“เคยเจอนายในเย่จุ้ยน่ะ”

สายตาของซูหนานอึมครึมไปชั่วแวบหนึ่ง

เขาเล่าว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาไปเจอลูกค้าอาละวาดเข้า เกือบถูกหมอนั่นใช้กำลังลากเข้าไปในห้อง

โชคดีที่ได้เจอมอยเซน เลยสั่งสอนขี้เมาที่ก่อเรื่องคนนั้นไปหนัก ๆ

“พอรู้ว่าผมเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย คุณมอยเซนก็เลยให้ผมมาทำงานที่วิลล่า”

ทันในนั้นผมก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวตลก

ที่ถึงกับกลัวว่าตัวเองจะทำให้เรื่องราวของโลกใบนี้พัง

ฮ่า ๆ ประมาทไปนิดเดียวก็คิดว่าตัวเองเป็นตัวเอกไปจริง ๆ เสียแล้ว

น่าจะเพราะสัมผัสได้ว่าสีหน้าของผมแปลก ๆ ไป ซูหนานเลยพูดขึ้นมาอีกว่า

“เอ่อ คุณสบายใจได้นะครับ คุณมอยเซนไม่ได้คิดอะไรกับผม มีแค่เรื่องงานอย่างเดียวครับ”

นั่นมันก็ไม่แน่หรอก

เฮอะ กับผมนี่ทั้งฟาดทั้งด่า

กับซูหนานกลับจัดการให้อย่างอ่อนโยนและเอาใจใส่ตั้งขนาดนั้น

ผมเหยียดเอวอันปวดเมื่อย สะบัดขาด้วยคิดจะลงจากเตียง

ทันทีที่ผ้าห่มร่วงหล่น ก็เผยโฉมรอยแดงจาง ๆ มากมายบนตัว

ซูหนานหน้าแดง แล้วรีบเบนสายตาออกไปทันที

ยังจำได้ว่าเมื่อคืนก่อนที่จะผล็อยหลับไป มอยเซนพูดไว้ว่า

“เหอหมี บทลงโทษยังไม่จบหรอกนะ”

“หนึ่งเดือน ถ้าพ้นหนึ่งเดือนไปแล้ว นายยังตัดใจไปจากฉันได้ ฉันก็จะปล่อยนายไป”

“แล้วเรื่องก่อนหน้านี้ก็เจ๊ากัน”

ผมพยายามลืมตาขึ้น แล้วจึงได้เห็นมอยเซนมีแววตาแน่วแน่ระคนชวนคิด

เอาสิ ใครจะกลัว

ถึงอย่างไรผมก็เป็นเพียงเบต้าที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากฟีโรโมนอยู่แล้ว

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังมีซูหนานอยู่ในวิลล่าแห่งนี้คอยย้ำเตือนถึงฐานะตัวประกอบร้ายกาจอยู่เสมอ

ขอแค่ทนกับการสั่งสอนในหนึ่งเดือนนี้ได้ ก็จะเป็นอิสระ

ฮ่า ๆ ถ้าผมตกหลุมรักมอยเซนขึ้นมานะ ผมนี่แหละหมา!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 11

    ชายหนุ่มกับมอยเซนหน้าตาไม่เหมือนกันเลย มีแต่ดวงตาที่เป็นสีเขียวอมเทาเหมือนกันผมหันหน้าไปมองมอยเซนด้วยอาการแข็งทื่อ “พี่ชายคุณ?”เขาพยักหน้า“ซูหนานเป็นคนรักของพี่ชายฉัน”“ช่วงก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนงอนกัน แล้วพี่ชายฉันก็ต้องบินไปจัดการโปรเจกต์ใหญ่ที่ต่างประเทศพอดี ถึงได้ให้ฉันช่วยดูแลนิดหน่อย”“ที่ซื้อภาพหงส์คู่โบยบินก็รูดเอาจากบัตรพี่ชายฉันนั่นแหละ”พอพูดถึงท่อนสุดท้าย บั้นท้ายของผมก็ถูกบีบอย่างแรงสายตาของมอยเซนเองก็เปลี่ยนเป็นอันตรายเป็นพิเศษ“โกรธโดยที่ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด แถมยังหนีออกจากบ้าน นายว่า ฉันควรลงโทษนายยังไงดี?”หน้าผมเต็มไปด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอ่อนี่มัน ในหนังสือต้นฉบับไม่ได้เขียนไว้แบบนี้สักหน่อย!มองคนสองคนที่กำลังกอดจูบกันแล้ว จังหวะการหายใจของมอยเซนก็ค่อย ๆ เร็วขึ้น“พวกนายสองคนไสหัวไปเลย กลิ่นฟีโรโมนเหม็นจะตายชัก!”เช้าตรู่ของวันสุดท้ายก่อนจะสิ้นสุดข้อตกลงพี่ชายของมอยเซนหอบทั้งภาพทั้งซูหนานกลับไปส่วนผม สุดท้ายก็เลือกที่จะใส่ปลอกคอนั่นมอยเซนถูกกลิ่นฟีโรโมนที่ซูหนานกับคนรักแผ่ออกมายั่วจนให้รัต มันจึงเป็นการเคี่ยวกรำที่ดุเดือดยิ่งกว่าครั้

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 10

    ในปากเขาถูกสายรัดปากอุดเอาไว้ อยากจะร้องขอความช่วยเหลือก็ทำไม่ได้โชคดีที่ตอนผมหนีออกมาจากวิลล่าได้เอา ‘ของเล่น’ มีราคาที่ฝังทองกับฝังเพชรใส่กระเป๋ามาด้วยจำนวนหนึ่งเดิมทีเตรียมจะแงะมันออกมา แบบนี้จะขายง่ายกว่าใครจะไปคิดว่าได้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นแทนในที่สุดมอยเซนก็ได้สติกลับมา เขาสาวเท้ายาวเกี่ยวเอวผมมากอดผมยังโมโหไม่หาย เลยมอบฝ่ามือให้เขาทีหนึ่งเสียง ‘เพียะ’ ดังชัดแจ๋ว อากาศพลันหยุดนิ่งไปชั่วขณะตอนที่รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ผมถึงกับตัวแข็งทื่อไปหมด ทำคอแข็งไม่กล้าหันกลับไปมองเขาทว่าวินาทีต่อมา มอยเซนกลับก้มหน้าลงแล้วเข้ามาใกล้หลังหูของผม“ขอโทษ”หัวใจผมสั่นสะท้านในทันที เขากำลังขอโทษผมเหรอ?“เจ้าของที่ทำหมาน้อยหายน่ะแย่สุด ๆ เลย”ผมรีบสะบัดขาไปด้านหลังจะเตะเขาใครเป็นหมาของเขา!“ที่รัก...อย่าไปเลยนะ”ผมที่กำลังเตะต่อยอยู่ถึงกับหยุดชะงักไปทันที ใบหน้าที่ไม่ยินยอมถึงกับเห่อร้อนขึ้นมาบางส่วน“คุณปล่อยผมลงก่อน ผมยังซัดเขาไม่หนำใจ”น้ำเสียงของมอยเซนเย็นเยียบขึ้นเล็กน้อย“อย่าแตะของโสโครก”เท้าทั้งสองข้างเพิ่งแตะพื้น มือก็ถูกเขาดึงไปลูบพลางเช็ดเบา ๆพอถูกขัดจังหว

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 9

    เมื่อผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็ต้องพบว่าตนเองกำลังอยู่ในห้องแปลกตาห้องหนึ่ง“ตื่นเร็วดีนี่”ผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตลายดอกทั้งยังปลดกระดุมออกเสียกว้างกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามผมครั้นเห็นรอยสักหมาป่าบนหน้าอกของเขา ผมก็รู้ทันทีว่าคนคนนี้คือใครฉายาหลางซาน เป็นคู่แค้นคู่อาฆาตทางธุรกิจสถานบันเทิงยามค่ำคืนของมอยเซนเพียงแต่สถานบันเทิงที่อยู่ในสังกัดของเขาสกปรกโสมมเป็นอย่างยิ่งในนิยายต้นฉบับเล่าไว้ หนหนึ่งที่มอยเซนกับซูหนานระเบิดอารมณ์มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงคือซูหนานจากมาอารมณ์โกรธ ผลคือถูกหลางซานฉวยโอกาสจับตัวไปจุดประสงค์เพื่อต้องการบีบบังคับมอยเซนให้ยอมสละพื้นที่ทางธุรกิจหลางซานกวาดสายตามองตัวผมครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งเจ้าเล่ห์ทั้งน่าขยะแขยง“คิดไม่ถึงจริง ๆ เลยแฮะ คนอย่างมอยเซนที่ไม่เห็นหัวคนอื่นแบบนั้นจะตกอยู่ในมือของเบต้าคนหนึ่งได้”ผมทั้งโมโหทั้งร้อนใจ ปฏิเสธออกไปทันที“เขาไม่ได้ชอบฉันสักหน่อย... แค่เห็นฉันเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น!”หลางซานหัวเราะเยาะเหยียดหยาม“จ่ายเงินซื้อเพชรไปหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านเพื่อเอาอกเอาใจของเล่นชิ้นหนึ่งให้ดีใจเนี่ยนะ นายเห็นมอยเซนโง่หร

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 8

    ชั่วพริบตาถัดมาก็ถูกเขาบีบแขนพลิกกดลงบนเตียงผมร้องไห้เศร้าเสียใจไปพลาง ปากแข็งไปพลาง“ฮ่า ๆ คุณคิดว่าคนทั้งโลกจะหลงคุณจะเป็นจะตายกันหมดหรือไง?”“ยังจะเป็นครูฝึกมือทองอีก ขนาดผมเองคุณยังปราบไม่ได้เลย ฉวยจังหวะเกษียณมันตั้งแต่เนิ่น ๆ เถอะคุณน่ะ!”แรงบนตัวกดลงมาอีกอย่างแรง แล้วอยู่ ๆ ก็ปล่อยออกสิบวินาทีหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังอย่างรุนแรงมอยเซนออกไปแล้วผมหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่งปลอกคอฝังเพชรสีเหลืองทอประกายอยู่พักหนึ่ง มันช่วยดึงความคิดของผมกลับมาผมเดินไป แล้วเก็บมันขึ้นมาทื่อ ๆ พลางกำไว้ในมือแน่นของที่ให้ผมแล้ว ทำไมจะไม่เอาละถึงอย่างไร ผมก็คิดไว้นานแล้วว่าจะเอาไปขายแล้วก็หนีคืนที่สามก่อนถึงวันสุดท้าย มอยเซนไม่กลับวิลล่าคืนวันที่สองก่อนถึงวันสุดท้าย เขายังคงไม่อยู่เหมือนเคยผมเก็บข้าวของจนกระเป๋าสะพายตุง เตรียมพร้อมหนีแล้วในวิลล่ามีบอดี้การ์ดที่มอยเซนทิ้งไว้อยู่สองคน ผมเลยไปหาซูหนาน“ฉันอยากยืมเสื้อผ้ากับหมวกของนายชุดหนึ่ง”เขาถามผมด้วยอารมณ์สองจิตสองใจว่าผมทะเลาะกับมอยเซนใช่หรือเปล่า“ตั้งแต่คืนนั้น คุณมอยเซนก็ไม่ยิ้มเลยนะครับ”ผ

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 7

    กลับถึงวิลล่าก็ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว ผมอาบน้ำเสร็จด้วยความรวดเร็วก็ลงไปนอนบนเตียงผ่านไปไม่กี่นาที ความรู้สึกว่าที่นอนยุบลงไปเล็กน้อยก็ส่งมาจากด้านหลังท่อนแขนเรียวมีกำลังโอบอยู่บนเอวของผม บนหลังคอรับรู้ได้ถึงสัมผัสเบา ๆ ที่เหมือนจะมีแต่เดี๋ยวก็เหมือนจะไม่มี“ฝันดีนะ”อันที่จริงผมก็นับถือมอยเซนไม่น้อยนะ เพราะเขาเสแสร้งแกล้งทำได้ถึงบทบาทเกินไปเว้นเสียแต่มีธุระรัดตัวจนปลีกตัวไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะกลับมาส่งผมเข้านอนที่นี่แน่นอนอย่างกับพวกเราเป็นคู่รักกันจริง ๆอ้อมกอด จุมพิต การพะเน้าพะนอบอกฝันดีเบา ๆ พวกนี้ มันทำให้คนเข้าใจผิดว่าตัวเองถูกรักได้ง่ายเหลือเกินความจริงถ้าเขาไม่ได้มีลูกเล่นมากมายขนาดนี้ ผมก็ยังกลัวอยู่เลยว่าตัวเองจะถลำลึกลงไปจริง ๆทว่าเมื่อถึงยามค่ำคืน ทันทีที่เห็นเขาล้วงแส้และของเล่นต่าง ๆ นานาออกมา ผมก็ยอมจำนนยามกลางวัน เมื่อเห็นซูหนานกับภาพหงส์คู่โบยบินของบรรพบุรุษตระกูลซู ผมก็ได้สติขึ้นมาไม่น้อยระยะห่างจากเวลาหนึ่งเดือนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆคืนวันที่หกก่อนถึงวันสุดท้าย มอยเซนอยากกอดผม แต่ถูกผมปฏิเสธ“ผมไม่สบาย ไม่มีอารมณ์”ผมคิดนะ ว่าถ้าเขาใช้ไม้แข็งก็จะพ

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 6

    ผมมองกระจกแล้วตบแก้มเบา ๆเอาละ นี่แหละถึงจะเป็นผม ไม่ได้สวยหรือหน้าตาดีอย่างซูหนานขนาดนั้นผมชื่อเหอหมี เป็นแค่คนที่ปกติที่สุดในหมู่โอตาคุนับหมื่นในงานประมูล ผมกับซูหนานนั่งขนาบอยู่ข้างซ้ายข้างขวางของมอยเซนบนเวทีนำของสะสมออกมาแสดงไม่ขาดสายทั้งแบบใหม่เอย แบบเก่าเอย แบบแอบสแตรกค์อะไรพวกนี้เอย ผมนี่ฟังแล้วก็ง่วงเหงาหาวนอนซูหนานกลับดูเพลิดเพลิน แววตาเขาเปล่งประกาย ทั้งยังออกความเห็นบ้างเป็นบางครั้ง“ภาพนี้ คืออาจารย์ดาวินชี!”ผมถึงกับสะดุ้งตื่นทันทีสุดยอดเลย ของแบบนี้ก็ยังเอาออกมาประมูลได้?ไม่ใช่ว่าควรเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อะไรเทือกนั้นเหรอ“เป็นผลงานชิ้นเอกของหลานชายคนโตของน้าคนรองของพี่สาวคนที่เจ็ดของอาจารย์ดาวินชี”มอยเซนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเอ่ยชมซูหนาน“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านายจะมีความรู้ทางศิลปะลึกซึ้งไม่เบา”ซูหนานแย้มยิ้มไม่เผยฟัน แล้วว่าชมกันเกินไปแล้วน้าเล็กของเขาเป็นอาจารย์ศิลปะในสถาบันศิลปะลอนดอน แค่ได้ยินผ่านหูมาบ้างเท่านั้น……คุณจะพูดอะไรนี่พูดจบให้ครั้งเดียวไม่ได้หรือไง?มอยเซนหันหน้ามา แล้วโน้มตัวลงมาหาผมเล็กน้อย“ไม่มีอะไรที่สนใจเลย? ถ้านาย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status