เพราะเขมณัฏฐ์ขับรถมาด้วยความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนดอีกทั้งยังแวะทานอาหารและเข้าห้องน้ำเกือบตลอดทางทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมาสุโขทัยก็เลยใช้เวลานานกว่าปกติเกือบ 2 ชั่วโมง
เขาพากานต์ชิสามาถึงบ้านของตนเองในเวลาเกือบจะเที่ยงคืนซึ่งตอนนี้ทั้งบ้านปิดไฟมืดสนิทแต่เมื่อขับเข้ามาใกล้ๆ ไฟทุกดวงก็สว่างจ้าเพราะเขาทำระบบไฟฟ้าที่นี่เป็นระบบอัตโนมัติ
บ้านของชายหนุ่มเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูงขึ้นจากพื้นหญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในบ้านหลังไม่ใหญ่มาก บริเวณห้องรับแขกถูกจะเอาไว้อย่างเรียบร้อย ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของห้องครัวที่มีโต๊ะสำหรับทานอาหารขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง
พื้นอีกด้านยกสูงขึ้นไปบริเวณจากบริเวณห้องรับแขกซึ่งตอนนี้เขมณัฏฐ์พาเธอเดินขึ้นบันไดมาเพียงห้าขั้นก็ถึงห้องนอน
“เธอนอนห้องนี้ไปก่อนนะ ฉันให้คนมาทำความสะอาดแล้วหวังว่าคงอยู่ได้” เขาเปิดประตูห้องนอนห้องหนึ่งให้กับหญิงสาว
“ฉันกินง่ายอยู่ง่ายไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอน
ตอนนี้มันดึกมากแล้วหญิงสาวรีบอาบน้ำและล้มตัวลงนอนแต่ก็ต้องถอนหายใจอย่างหนักเพราะห้องที่เขาให้เธออยู่นี้มันเป็นห้องที่มีแค่พัดลมถึงแม้อากาศทางภาคเหนือจะไม่ได้ร้อนมากเหมือนกับกรุงเทพแต่คนที่อยู่ในเมืองที่อากาศเย็นมาตลอดก็รู้สึกว่าไม่โอเคเลยกับห้องที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
กานต์ชิสาเลยคิดว่าคืนนี้จะยอมนอนแบบนี้ไปก่อนและพรุ่งนี้จะคุยกับเขาอีกครั้ง ให้เขาเปลี่ยนห้องหรือไม่ก็เพิ่มเครื่องปรับอากาศและถ้าเขาไม่ยอมเธอก็คิดว่าจะย้ายไปนอนที่โรงแรมมันซึ่งน่าจะสะดวกกว่านี้
เพราะความเพลียจากการเดินทางไม่นานนักกานต์ชิสาก็หลับแล้วสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงไก่ขันในเวลาเกือบจะตีห้าเธอถอนหายใจก่อนจะลุกมาอาบน้ำแต่งตัว
จากนั้นก็ส่งคลิปวิดีโอสั้นสั้นไปให้กับพี่สาวเพื่อเธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก เมื่อคืนหญิงสาวก็ส่งคลิปการเดินทางให้พี่สาวอยู่หลายคลิป
หญิงสาวเดินออกจากห้องมาในเวลา 6 โมงเช้า
เธอเห็นคนกำลังง่วนทำอะไรอยู่ในห้องครัวก็เดินไปถาม
“ทำอะไรอยู่คะ”
“ทำกับข้าวอยู่ค่ะ” เมื่อตอบแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าบ้านหลังนี้มีเจ้านายเป็นผู้ชาย เธอหยุดชะงักและหันมามองกานต์ชิสา
“คุณเป็นใครคะแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ผู้หญิงวัยกลางคนมองหน้าเธอด้วยความตกใจ
“หนูเป็นเพื่อนของคุณเข้มค่ะ”
“อ้าว น้าก็นึกว่าเพื่อนที่คุณเข้มพูดถึงจะเป็นผู้ชาย คุณชื่ออะไรล่ะคะน้าจะได้เรียกถูก”
“หนูชื่อเค้กค่ะ แล้วน้าล่ะคะ”
“น้าชื่อประนอมจค่ะหนูเรียกว่าน้านอมก็ได้”
“ค่ะน้านอม แล้วน้านอมกำลังทำอะไรอยู่คะ”
“น้ากำลังเตรียมอาหารเช้าให้คุณเข้มอยู่น่ะ วันนี้ทำผัดผักรวมกับแกงส้มชะอมกุ้งแล้วหนูเค้กอยากกินอะไรเพิ่มไหม”
“เค้กเป็นคนกินง่ายค่ะ น้าทำอะไรเค้กก็กินหมด ปกติแล้วคุณเข้มของน้านอมเขาจะตื่นมากินข้าวกี่โมงคะ”
“ไม่เกิน 8 โมง นี่ก็เหลือเวลาอีกนานหนูเค้กจะเข้าไปนอนก่อนหรือจะลงไปเดินเล่นข้างล่างก็ได้นะเช้าๆ แบบนี้อากาศค่อนข้างดีเลย”
“ถ้างั้นเค้กขอออกไปเดินเล่นนะคะเมื่อคืนมาถึงที่นี่ดึกยังไม่ได้สำรวจเลยว่ามีอะไรบ้าง”
หญิงสาวเปิดประตูบ้านลงไปมองบริเวณรอบ บ้านของชายหนุ่มที่มีบริเวณกว้างมาก
ด้านข้างของบ้านโรงจอดรถซึ่งมีรถคันที่เขาขับมาเมื่อคืนจอดอยู่คันหนึ่งกับกระบะอีกคันหนึ่งแล้วก็มีจักรยานยนต์อีกสองคันเธอยิ้มเมื่อคิดถึงการขี่จักรยานยนต์ไปเที่ยวบริเวณใกล้ๆ
แต่ก็คิดว่าอาจจะต้องขออนุญาตเขาก่อนเพราะมาอยู่ที่บ้านเขาเธอก็ไม่อยากจะทำข้ามหน้าข้ามตาเจ้าของบ้าน หญิงสาวเดินมาบริเวณบ้านที่ด้านหน้ามีแปลงดอกกุหลาบกำลังส่งกลิ่นหอมมันทำให้เธอรู้สึกสดชื่นมากๆ เพราะอากาศแบบจะหาไม่ได้เลยตอนอยู่ที่กรุงเทพ
เธอเดินรอบ บ้านจากนั้นก็เดินมายังหน้าประตูรั้วตอนนี้เห็นพระกำลังเดินมาบิณฑบาตหญิงสาววิ่งกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“น้านอมคะเค้กอยากใส่บาตร เอาอะไรใส่บาตรได้บ้างคะ”
“ตายจริงไม่มีของสดอะไรใส่บาตรเลยในตู้ก็มีแต่พวกมาม่ากับปลากระป๋อง เอาอย่างนี้ดีมั๊ยถ้าหนูเค้กอยากใส่บาตรจริงๆ พรุ่งนี้เช้าน้าจะทำกับข้าวให้”
“พระท่านมาบิณฑบาตทุกวันใช่ไหมคะน้านอม”
“ใช่ค่ะ มาทุกวัน”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้เค้กค่อยใส่บาตรก็ได้ค่ะ แต่จะรบกวนน้านอมเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ น้าเองก็ไม่ค่อยได้ใส่บาตรเหมือนกัน”
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวเดินกลับเข้ามาในบ้านก่อนจะนั่งลงบริเวณห้องรับแขกหยิบนิตยสารเกี่ยวกับการเกษตรขึ้นมาซึ่งเธออ่านภาษาไทยได้แต่อ่านได้ค่อนข้างช้ากว่าจะผ่านไปแต่ละหน้าก็ใช้เวลานาน แต่คงอ่านเพลินไปหน่อยเพราะตอนนี้เจ้าของบ้านออกมาจากห้องนอนแล้ว
“ตื่นเช้าเหมือนกันนะ ผมนึกว่านั่งรถมาเหนื่อยคุณจะตื่นสายเสียอีก”
“ก็ไก่บ้านคุณขันแต่เช้าเลย ใครจะไปนอนได้ล่ะ”
“ปกติตอนอยู่กรุงเทพคุณตื่นเช้าไหม”
“ก็ไม่ค่อยเช้าเท่าไหร่หรอกค่ะ”
“ถ้างั้นกินข้าวเสร็จแล้วจะนอนพักต่อก็ได้นะ”
“คุณจะให้ฉันมานั่งดูนอนอยู่ที่นี่เหรอคะคุณเข้ม ฉันคงเบื่อแย่”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้คุณมาทำอะไรที่นี่ คุณอยากทำอะไรก็ทำก็แล้วกันนะ”
“แล้วคุณล่ะจะทำอะไร”
“เดี๋ยวผมกินข้าวเสร็จก็จะเข้าไปที่ท่าข่าววันนี้มีข้าวมาลงเยอะคงต้องไปดูความเรียบร้อย”
“ท่าข้าวเหรอคะ ฉันขอตามคุณไปดูด้วยได้ไหม มันอยู่ไกลจากที่นี่หรือเปล่า”
“รั้วติดกับบ้านนี่แหละ ถ้าอยากจะไปดูก็ได้”
“ฉันขอตามคุณไปที่นั่นด้วยนะ เพราะถ้าให้อยู่ที่บ้านคงเบื่อแย่ ฉันเห็นมีรถมอเตอร์ไซต์ด้วยฉันขอยืมได้ไหมล่ะ”
“คุณขี่เป็นเหรอ”
“เป็นสิแต่อาจจะต้องใช้ความคุ้นเคยกับมันหน่อยฉันว่าจะขับไปเที่ยวใกล้ๆ บริเวณแถวนี้ ว่าแต่ที่เราอยู่นี่เราอยู่อำเภออะไรกันเหรอ”
“เราอยู่อำเภอเมืองแต่ห่างจากตัวอำเภอประมาณห้ากิโล”
“ห้ากิโลก็ไม่ไกลเท่าไหร่”
“คุณพูดเหมือนจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปในเมืองเลยนะ”
“ใช่ค่ะ ไม่ได้เหรอคะ”
“มันก็ได้อยู่หรอกเด็กวัยรุ่นแถวนี้เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปในเมืองกันทั้งนั้นแต่ผมว่ามันอันตรายเกินไปสำหรับคุณนะ คุณขับรถยนต์ไปหรือเปล่าล่ะ”
“เป็นค่ะ”
“ถ้าจะเข้าในเมืองก็เอารถยนต์ผมไปก็ได้ปกติแล้วผมก็ไม่ได้ใช้หรอก”
“ฉันเห็นมีรถยนต์สองคัน”
“คันที่เรานั่งมาเมื่อคืนผมจะใช้ขับเข้าเมืองหรือเขาไปกรุงเทพส่วนคันผมใช้เวลาอยู่ที่นี่จะเป็นรถกระบะคุณเอาคันที่ขับมาเมื่อคืนไปใช้ก็ได้ แต่แน่ใจนะว่าขับเป็น”
“เป็นสิฉันมีใบขับขี่ด้วยนะ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจเพราะตอนที่อยู่อังกฤษเธอก็ขับรถไปตลาดให้กับบิดาอยู่บ่อย อีกทั้งมาถึงเมืองไทยเธอก็ได้ขับรถสำรวจจนทั่วกรุงเทพมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ทำให้พอจะรู้ว่าการขับรถที่ดีต้องระมัดระวังอะไรบ้าง
“ถ้างั้นกินข้าวเสร็จคุณจะทำอะไรก็ได้แล้วแต่คุณเลย”
“ถ้าฉันอยากซื้อของบางอย่างจะได้ไหม”
“ได้สิ”
เขมณัฏฐ์นั่งพิงหัวเตียงมองคนรักที่นอนหลับสนิทอยู่เขามองถึงอนาคตที่มีร่วมกับหญิงสาวการมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ชายหนุ่มคิดว่าจะคุยกับกานต์ชิสาอย่างจริงจังด้วยอายุที่มากขึ้น เขมณัฏฐ์ก็อยากจะสร้างครอบครัวและคนเดียวที่เขาจะสร้างด้วยก็คือผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ เพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตื่นและกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ เธอเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนักแม้ว่าจะตอบตกลงเป็นแฟนเขาไปแล้วแต่ระยะเวลาที่ได้รู้จักกันมันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยคบมากทั้งสองตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอยู่นานก่อนที่เขมณัฏฐ์จะพูดขึ้น“เค้กคุณกำลังคิดอะไรอยู่หน้าเครียดเชียว”“เค้กกำลังสับสนค่ะ”“สับสนเรื่องอะไรครับ”“ก็เรื่องของเราไงคะ จากนี้ไปมันจะเป็นยังไงต่อคะ”“ก็เหมือนที่ผมพูดเมื่อคืนผมจะอยู่กับคุณที่นี่”“เค้กหมายถึงระยะยาวค่ะ”“เค้กตอบผมมาก่อนว่าตกลงจะเป็นแฟนกับผมแล้วใช่ไหม”“คุณก็รู้นี่คะคุณเข้มว่าระหว่างเรามันมากกว่านั้นและฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับคนอื่นโดยไม่คิดอะไรนะคะ คุณพอใจกับคำตอบของเค้กแล้วใช่ไหม”“พอใจมากครับ ผมคิดไว้แล้วว่าอนาคตจากนี้ของเราสองคนจะ
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงเขมณัฏฐ์ก็รวบเธอเข้ามาใบหน้าหล่อก้มลงประกบลงบนริมฝีปากสีสวยด้วยความคิดถึงและโหยหา กานต์ชิสายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับเปิดริมฝีปากให้เขาเข้ามาอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่าเร่าร้อนและดูดดื่มเร่าร้อน ฝ่ามือร้อนลากเลื้อยไปมาตามร่างกายของเธออย่างหลงใหล ริมฝีปากบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงไปตามอารมณ์พิศวาส ก่อนจะลากไล้ริมฝีปากลงมาขบเม้มบนขาวนวลของหญิงสาวจนขึ้นรอยไปหมด“อื้อ.....คุณเข้ม อย่าใจร้อน”“ผมใจเย็นที่สุดแล้วนะที่รัก ผมคิดถึงคุณมากนะ ให้ใจเย็นกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว”เสียงแหบพร่าของเขมณัฏฐ์พูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพาเธอมายังเตียงกว้างแล้วดันให้เธอนอนลงไปก่อนที่ตนเองจะคร่อมทับลงไปหาอย่างรวดเร็วริมฝีปากหนาก้มลงซุกไซ้ขบเม้มไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น เสียงลมหายใจหนักหน่วงของเขาร้อนแรงขึ้นมากกว่าเดิม บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังพุ่งสูงสูงขึ้น ริมฝีปากร้อนขมเม้มลงบนซอกคอสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึง กานต์ชิสาแหงนหน้าไปด้านบนเพื่อเปิดซอกคอให้เขาซุกไซ้ได้อย่างถนัดเขมณัฏฐ์ขยับริมฝีปากขึ้นมามอบจูบให้เธออีกครั้ง ส่งเรียวลิ้นสอดแทรกตวัดรัดรึงกับเรียวลิ้นเล็กที่หอมหวานในโพรงปากอย
หลังจากที่เขมณัฏฐ์คุยกับชลนิภาและตกลงจ่ายเงินให้หญิงสาวหนึ่งก้อนเพื่อให้เลิกยุ่งกับไตรภพแล้วชายหนุ่มก็ต้องรีบกลับสุโขทัยเพราะงานที่นั่นมีปัญหาเขาไม่มีโอกาสได้เจอกับกานต์ชิสาอีกเลยแต่ชายหนุ่มก็ยังโทรมาหาหญิงสาวอยู่บ่อยๆ ส่วนกานต์ชิสาเองก็ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งงานของเธอก็กำลังไปได้ดีหญิงสาวมีหน้าที่ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าและลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาลที่เป็นหมอแผนกศัลยกรรมก็ชวนให้เธอไปให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่ต้องการมาทำศัลยกรรมอีกด้วย มันเลยทำให้เธอค่อนข้างยุ่งและไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของเขมณัฏฐ์มากนัก“เค้กพรุ่งนี้ค่ำเค้กช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหม” กานต์สิชาถามน้องสาวฝาแฝดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา“ให้ช่วยอะไรคะ”“พอดีมีลูกค้าสั่งเค้กวันเกิด แล้วเขาอยากให้พี่เอาไปส่งที่คอนโด แต่มันเป็นช่วงที่เด็กเลิกงานแล้ว ถ้ายังไงเค้กเอาไปส่งให้พี่หน่อยได้ไหม”“แต่กว่าเค้กจะเลิกงานก็ทุ่มหนึ่งเลยนะคะพี่ครีม ลูกค้าเขาจะรอไหวไหม”“ไหวสิลูกค้าบอกว่าไปตอนไหนก็ได้แต่ขอเป็นช่วงค่ำๆ เค้กกลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ยังทันเลย”“ถ้างั้นเดี๋ยวเค้กจะเอาไปส่งให้ค่ะ แล้วเค้กต้องเ
“สวัสดีค่ะคุณเข้มโทรหาเค้กมีอะไรหรือเปล่า”“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะเลยเค้ก”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่คุณมีฝาแฝดและผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงยอมไปกับผม”“เค้กก็บอกคุณแล้วนี่ว่าเค้กไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายที่ร้าน อีกอย่างพี่สาวของเค้กเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คนเท่าไหร่ เค้กก็เลยเลือกที่จะไปกับคุณ เพื่อกันให้พี่สาวออกห่างจากเรื่องนี้”“ผมมาคิดดูอีกทีมันดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เลยนะ”“อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงเรื่องทุกอย่างมันก็จบลงด้วยดีแล้วนะคะ”“แต่ผมว่ามันยังไม่จบนะ”“ก็ตอนนี้น้องสาวคุณก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วนี่คะ ส่วนเรื่องเมียน้อยของคุณไตรภพเดี๋ยวพี่ครีมจะนัดให้คุณเจอกับเธอเองจากนั้นจะตกลงกันยังไงก็แล้วแต่คุณเข้มเลย คุณเข้มจะอยู่ที่กรุงเทพถึงวันไหนคะเค้กจะได้บอกพี่ครีมให้รีบนัดให้นิไปเจอกับคุณเข้ม”“ผมน่าจะอยู่อีกหลายวัน พรุ่งนี้เราออกมาเจอกันหน่อยไหม หรือจะให้ผมไปหาที่ร้านก็ได้นะ”“เค้กไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะอยู่ที่ร้านหรือเปล่า”“พี่สาวคุณบอกว่าคุณเพิ่งกลับมาจากอังกฤษใช่ไหม”“ใช่ค่ะ เค้กกำลังจะกลับมาเริ่มงานที่นี่”“ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ผมถามหน่อยได้ไหมล่ะว่าคุณจะมาทำ
“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวหลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเย็นเสร็จและมาแล้วอยู่หน้าทีวีในห้องรับแขก“จะคุยอะไรคะพี่ครีมเค้กมาเหนื่อยๆ อยากจะนอนพักจังเลย”“นอนพักน่ะเค้กจะนอนเมื่อไหร่ก็ได้แต่เค้กต้องคุยกับพี่”“คุยเรื่องอะไรคะ” เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเลี่ยงได้กานต์ชิสาก็ ต้องยอมคุยกับพี่สาว“ที่หายไปหนึ่งเดือนไปเที่ยวกับเพื่อนจริงๆ หรือไปอยู่กับคุณเข้ม”“ใครจะไปอยู่กับคุณเข้มกันคะพี่ครีม เค้กกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเราก็เพิ่งเจอกันที่โรงพยาบาลแค่ครั้งเดียวเองนะคะ”“เราเป็นเราสองคนเป็นอะไรกันเหรอเค้ก”“พี่ครีมถามอะไรแปลกๆ เราก็เป็นพี่น้องกันไงคะ พี่ครีมเป็นพี่เค้กสองนาที”“ใช่เพราะเราเป็นพี่น้องและไม่ใช่พี่น้องธรรมดาสิ เราเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน พี่มีความรู้สึกว่าเค้กกับคุณเข้มมันไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดา บอกความจริงพี่มา ถ้าไม่อย่างั้นพี่จะโทรไปฟ้องพ่อว่าตั้งแต่เค้กกลับมาถึงเมืองไทยเค้กไม่เคยช่วยพี่ทำงานเลยและหายไปกับผู้ชายหนึ่งเดือน เค้กคิดว่าจะบอกความจริงกับพี่หรือจะบอกกับพ่อดีล่ะ เลือกเอานะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังและเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าถ้าไม
เขมณัฏฐ์ขับรถพาคู่แฝดมายังโรงพยาบาลที่น้องเขยของเขารักษาตัวอยู่เมื่อประตูห้องเปิดออกเขมิกาก็รีบลุกขึ้นมาหาพี่ชาย“พี่เข้มเขมคิดถึงพี่จัง”“พี่ก็คิดถึงเขมเป็นไงช่วงนี้แพ้ท้องหนักหรือเปล่า”“ไม่ค่อยแพ้แล้วค่ะ”“เขมที่พาคุณมาเจอเขมด้วยนะ” ชายหนุ่มเบี่ยงตัวให้ผู้หญิงที่เดินตามมาด้านหลังเผชิญหน้ากับน้องสาวของตนเอง“นี่ยังจะมีหน้ามาเยี่ยมพี่ไตรอีกเหรอ แต่เอ๊ะ!”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าสองคนนั้นหน้าเหมือนกันมากๆ จนเธอแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครและเขมิกาก็จำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนไหนที่นั่งรถไปกับสามีของเธอในคืนวันเกิดเหตุ“แล้วคนไหนล่ะที่เป็นเมียน้อยผัวของฉันหรือเป็นเมียน้อยด้วยกันทั้งคู่”“เปล่านะคะ เราสองคนไม่มีใครเป็นเมียน้อยคุณไตรภพทั้งนั้น” กานต์ชิสารีบพูดขึ้น“ไม่ต้องมาโกหกเลย ก็คืนนั้นฉันจำได้ว่าเธอ คนที่เป็นเจ้าของร้านเค้กอยู่ในรถคันเดียวกับพี่ไตร”“ใช่ค่ะ คืนนั้นฉันอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงๆ แต่ฉันไม่ใช่เมียน้อยของเขาหรอกนะคะแต่ฉันรู้ว่าเมียน้อยของเขาคือใคร”“ใครพาฉันไปเจอมันเดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากจะเห็นหน้ามันจังว่ามันเป็นใคร”“เขมไม่ต้องไปเห็นหน้าเขาหร