เขมณัฏฐ์มาจอดรถรับกานต์ชิสาที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งเขามองกระเป๋าเป้ที่เธอวางไว้ที่เบาะหลังด้วยอยู่ความสงสัยและเมื่อเธอขึ้นมานั่งในรถแล้วก็อดถามไม่ได้
“ทำไมมีกระเป๋าเป้แค่ใบเดียวล่ะ”
“เดี๋ยวฉันค่อยไปหาซื้อข้างหน้าก็ได้เพราะถ้าฉันเอากระเป๋าใบใหญ่ไปคนอื่นจะได้สงสัยกันพอดีว่าฉันจะไปไหน”
“แต่จังหวะที่เราจะไปมันไม่มีห้างใหญ่ๆ เหมือนในกรุงเทพบอกนะ ถ้าอยากจะมาซื้อก็ต้องเข้ามาอีกจังหวัดหนึ่ง”
“ถ้างั้นคุณก็พาฉันแวะซื้อก่อนกลับสิ”
“ผมไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกนะ เราออกจากที่นี่บ่ายมากแล้วไปถึงก็น่าจะดึก ผมไม่ค่อยชอบขับรถกลางคืนสักเท่าไหร่”
“ฉันนึกว่าเราจะนั่งเครื่องไป”
“จริงๆ แล้วไปสุโขทัยมันก็มีเที่ยวบินอยู่แล้วแต่บังเอิญว่าผมขับรถมาน่ะคุณก็เลยต้องนั่งรถกลับกับผมหลายชั่วโมง ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเอาไว้ผมว่างผมจะพาคุณไปซื้อที่ห้างใกล้ๆ แถวนั้นก็แล้วกันนะ”
“ได้ไม่มีปัญหาหรอก แต่ฉันสั่งออนไลน์เอาก็ได้ คุณช่วยแวะร้านสะดวกซื้อให้ฉันหน่อยสิฉันว่าคงต้องตุนเสบียงแล้วแหละ นั่งรถหลายชั่วโมงแบบนี้”
เขมณัฏฐ์พยักหน้าจากนั้นเขาก็ขับไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
“คุณจะลงไปกับฉันไหม”
“ไม่ล่ะ ผมให้เวลาคุณ 10 นาทีพอนะ”
“คุณจะเอาอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ละคุณซื้อแค่ของคุณก็พอ”
กานต์ชิสาลงจากรถและเลือกซื้อขนมมาอยู่หลายอย่างก่อนจะกลับขึ้นรถมาอีกพร้อมกับส่งกาแฟให้กับชายหนุ่ม
“ฉันซื้อกาแฟมาให้ด้วย คุณต้องขับรถอีกไกลคงง่วงแน่ๆ”
“ขอบใจนะ”
เขาเจอกับกานต์ชิสาสามครั้งและทุกครั้งทั้งสองก็จะดื่มกาแฟด้วยกันละนับว่าเธอเป็นคนช่างสังเกตว่าเขาดื่มกาแฟแบบไหน ปกติแล้วผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบดื่มอเมริกาโน่เย็นแต่สำหรับเขาชอบดื่มคาปูชิโน่เอามากๆ และเธอก็ซื้อมาให้เขาตรงกับสิ่งที่เขาชอบด้วย
เมื่อขับรถออกมาได้สักพักหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็หยิบขนมก๊อบแก๊บขึ้นมาทาน เขามองด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่เพราะไม่ชอบให้ใครทานขนมบนรถแบบนี้ เนื่องจากเศษของมันจะตกไว้ตามเบาะและมันจะลำบากในการความสะอาด แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะระยะทางที่จะต้องใช้เดินทางร่วมกันมันหลายชั่วโมงถ้าให้เธอนั่งอยู่เฉยๆ เธอก็น่าจะง่วงและเขาก็อาจจะง่วงตามก็เป็นได้
“กินขนมด้วยกันไหม”
“ไม่ล่ะผมไม่ชอบกินขนมพวกนี้”
“ฉันขอโทษนะ”
“ขอโทษผมทำไมล่ะ”
“ฉันรู้หรอกน่าว่าคุณไม่ชอบให้ใครเอาขนมขึ้นมากินบนรถใช่ไหมล่ะ แต่เดินทางไกลแบบนี้ให้ฉันนั่งอยู่เฉยๆ คงได้ง่วงกันพอดี”
“คุณจะหลับก็ได้เดี๋ยวถึงแล้วผมจะบอก”
“ฉันไม่ชอบหลับเวลานั่งรถหรอกนะโดยเฉพาะการเดินทางไปต่างจังหวัด”
“ทำไมล่ะ”
“ก็เพราะ.....”หญิงสาวเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ฉันชอบดูวิวสองข้างทางน่ะ” กานต์ชิสาเกือบจะหลุดตอบแล้วว่าเธอไม่เคยไปจังหวัดสุโขทัยมาก่อนก็อยากจะดูวิวและมันก็นานมากๆ แล้วที่เธอไม่ได้เที่ยวในเมืองไทย
เมื่อขับมาถึงจังหวัดอยุธยาเขมณัฏฐ์ก็ชะลอรถและจอดบริเวณข้างทาง
“คุณจะซื้อขนมนั่นเหรอคะ”
“เขาเรียกขนมสายไหมคุณเคยกินหรือเปล่า”
“เคยสิแต่ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะรสชาติมันหวานมากๆไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างคุณจะชอบกินขนมแบบนี้”
“ผมก็ไม่ได้ชอบหรอกแต่จะซื้อไปฝากคนอื่นน่ะ รออยู่ในรถแล้วกันนะ” ชายหนุ่มลงไปซื้อขนมสายไหมจากนั้นก็เอาใส่ไว้ในหลังรถก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเจ็ดที่นั่งมุ่งหน้าสู่ปลายทางอีกครั้ง
เขามาถึงจังหวัดชัยนาทในเวลาเย็นพอดี
“คุณหิวไหมผมว่าจะจอดรถกินข้าวแถวชัยนาท ตรงนี้มีร้านอาหารเยอะเลย”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันไม่เคยมากินอาหารแถวนี้เลยส่วนใหญ่ก็จะอยู่แต่ในกรุงเทพ”
“คุณกินได้ทุกอย่างหรือเปล่า”
“ค่ะ”
เขาจอดรถที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเวลากลับจากกรุงเทพก็มักจะมาทานอาหารที่นี่ทุกครั้ง
“อยากกินอะไรก็สั่งเลย”
“คุณสั่งให้ฉันก็แล้วกันนะ ฉันกินได้ทุกอย่างแต่ขอเผ็ดกลางได้ไหม เผ็ดมากฉันไม่ไหวน่ะ มันจะปวดท้องเอา”
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วทั้งสองก็กลับมาขึ้นรถและมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุโขทัยอีกครั้ง
“คุณจะเข้าห้องน้ำหน่อยไหม เดี๋ยวจะถึงปั๊มข้างหน้าแล้ว”
“ก็ได้ค่ะ”
ชายหนุ่มจอดรถเติมน้ำมันจากนั้นก็ขับไปจอดบริเวณหน้าห้องน้ำเขาให้เวลาเธอยืดเส้นยืดสายอยู่พักใหญ่ก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถหญิงสาวส่งผ้าเย็นที่เข้าไปซื้อในร้านสะดวกซื้อให้กับเขา”
“ขอบใจนะ” เขารับผ้าเย็นมาจากนั้นก็เช็ดในบริเวณใบหน้าและต้นคอมันทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมากๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นตั้งแต่ออกจากกรุงเทพมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเอาใจใส่และเทคแคร์เขาดีเหลือเกินอาจจะเป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้น้องเขยของเขาปันใจไปให้เธอ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็รักกันดีกับเขมิกา
แต่สำหรับเขาไม่มีทางหลงมารยาผู้หญิงคนนี้อย่างเด็ดขาดทุกอย่างที่ทำก็เพื่อความสบายใจของน้องสาวเท่านั้น
เขมิกาเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและรักษาอยู่นานกว่าหมอจะให้หยุดทานยาเขมณัฏฐ์เลยไม่อยากให้น้องสาวของตนเองเครียด อีกทั้งตอนนี้เธอก็ยังตังครรภ์อยู่ด้วย เขากลัวว่าถ้าน้องสาวเครียดมากๆ อาการซึมเศร้าจะกลับมาอีกและมันคงจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องแน่ๆ
“คุณง่วงไหม” หญิงสาวถามเมื่อเขาขับรถออกมาได้พักใหญ่
“ไม่หรอกแต่ถ้าคุณง่วงก็นอนเลยนะ ถนนเส้นนี้ผมขับเป็นประจำอีกอย่างมันก็มืดแล้วมองสองข้างทางไปก็ไม่เห็นอะไรหรอก”
“ฉันไม่ง่วงหรอกกินผลไม้ไหม เมื่อกี้ฉันซื้อฝรั่งมาด้วยนะ”หญิงส่งฝั่งให้กับชายหนุ่มปกติแล้วเขมณัฏฐ์ไม่ค่อยทานอะไรเวลาขับรถแต่ก็ไม่อยากให้เธอเสียน้ำใจจึงรับฝรั่งมาทาน
เมื่อเขาทานไปหมดชิ้นแรกหญิงสาวก็ส่งชิ้นที่สองให้จากนั้นชิ้นที่สามและชิ้นที่สี่ก็ตาม,k
“พอแล้วคุณ” เขารีบพูดเมื่อเห็นเธอจะหยิบชิ้นที่ห้าส่งให้กับเขา
“ตอนนี้เราถึงจังหวัดอะไรแล้วคะ” หญิงสาวถามเพราะรู้สึกว่าถนนที่เขาขับมันจะแปลกๆ ต่างจากเส้นที่ผ่านมา
“แสดงว่าคุณไม่เคยมาแถวจังหวัดนี้”
“ค่ะ ฉันไม่เคยมาเลยแล้วมันใกล้ถึงแล้วหรือยังคะ”
“ยังหรอกเดี๋ยวเราต้องผ่านอีกหลายจังหวัด แต่ถนนเส้นนี้มันจะขรุขระแบบนี้แหละมันถือว่าเป็นเอกลักษณ์” เขาพูดแล้วหัวเราะจากนั้นก็ขับรถต่อไป
เขมณัฏฐ์รู้สึกว่ามีคนนั่งมาด้วยแบบและชวนคุยแบบนี้มันทำให้เขาให้ไม่รู้สึกง่วงเลย
เขมณัฏฐ์นั่งพิงหัวเตียงมองคนรักที่นอนหลับสนิทอยู่เขามองถึงอนาคตที่มีร่วมกับหญิงสาวการมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ชายหนุ่มคิดว่าจะคุยกับกานต์ชิสาอย่างจริงจังด้วยอายุที่มากขึ้น เขมณัฏฐ์ก็อยากจะสร้างครอบครัวและคนเดียวที่เขาจะสร้างด้วยก็คือผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ เพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตื่นและกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ เธอเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนักแม้ว่าจะตอบตกลงเป็นแฟนเขาไปแล้วแต่ระยะเวลาที่ได้รู้จักกันมันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยคบมากทั้งสองตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอยู่นานก่อนที่เขมณัฏฐ์จะพูดขึ้น“เค้กคุณกำลังคิดอะไรอยู่หน้าเครียดเชียว”“เค้กกำลังสับสนค่ะ”“สับสนเรื่องอะไรครับ”“ก็เรื่องของเราไงคะ จากนี้ไปมันจะเป็นยังไงต่อคะ”“ก็เหมือนที่ผมพูดเมื่อคืนผมจะอยู่กับคุณที่นี่”“เค้กหมายถึงระยะยาวค่ะ”“เค้กตอบผมมาก่อนว่าตกลงจะเป็นแฟนกับผมแล้วใช่ไหม”“คุณก็รู้นี่คะคุณเข้มว่าระหว่างเรามันมากกว่านั้นและฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับคนอื่นโดยไม่คิดอะไรนะคะ คุณพอใจกับคำตอบของเค้กแล้วใช่ไหม”“พอใจมากครับ ผมคิดไว้แล้วว่าอนาคตจากนี้ของเราสองคนจะ
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงเขมณัฏฐ์ก็รวบเธอเข้ามาใบหน้าหล่อก้มลงประกบลงบนริมฝีปากสีสวยด้วยความคิดถึงและโหยหา กานต์ชิสายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับเปิดริมฝีปากให้เขาเข้ามาอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่าเร่าร้อนและดูดดื่มเร่าร้อน ฝ่ามือร้อนลากเลื้อยไปมาตามร่างกายของเธออย่างหลงใหล ริมฝีปากบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงไปตามอารมณ์พิศวาส ก่อนจะลากไล้ริมฝีปากลงมาขบเม้มบนขาวนวลของหญิงสาวจนขึ้นรอยไปหมด“อื้อ.....คุณเข้ม อย่าใจร้อน”“ผมใจเย็นที่สุดแล้วนะที่รัก ผมคิดถึงคุณมากนะ ให้ใจเย็นกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว”เสียงแหบพร่าของเขมณัฏฐ์พูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพาเธอมายังเตียงกว้างแล้วดันให้เธอนอนลงไปก่อนที่ตนเองจะคร่อมทับลงไปหาอย่างรวดเร็วริมฝีปากหนาก้มลงซุกไซ้ขบเม้มไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น เสียงลมหายใจหนักหน่วงของเขาร้อนแรงขึ้นมากกว่าเดิม บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังพุ่งสูงสูงขึ้น ริมฝีปากร้อนขมเม้มลงบนซอกคอสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึง กานต์ชิสาแหงนหน้าไปด้านบนเพื่อเปิดซอกคอให้เขาซุกไซ้ได้อย่างถนัดเขมณัฏฐ์ขยับริมฝีปากขึ้นมามอบจูบให้เธออีกครั้ง ส่งเรียวลิ้นสอดแทรกตวัดรัดรึงกับเรียวลิ้นเล็กที่หอมหวานในโพรงปากอย
หลังจากที่เขมณัฏฐ์คุยกับชลนิภาและตกลงจ่ายเงินให้หญิงสาวหนึ่งก้อนเพื่อให้เลิกยุ่งกับไตรภพแล้วชายหนุ่มก็ต้องรีบกลับสุโขทัยเพราะงานที่นั่นมีปัญหาเขาไม่มีโอกาสได้เจอกับกานต์ชิสาอีกเลยแต่ชายหนุ่มก็ยังโทรมาหาหญิงสาวอยู่บ่อยๆ ส่วนกานต์ชิสาเองก็ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งงานของเธอก็กำลังไปได้ดีหญิงสาวมีหน้าที่ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าและลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาลที่เป็นหมอแผนกศัลยกรรมก็ชวนให้เธอไปให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่ต้องการมาทำศัลยกรรมอีกด้วย มันเลยทำให้เธอค่อนข้างยุ่งและไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของเขมณัฏฐ์มากนัก“เค้กพรุ่งนี้ค่ำเค้กช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหม” กานต์สิชาถามน้องสาวฝาแฝดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา“ให้ช่วยอะไรคะ”“พอดีมีลูกค้าสั่งเค้กวันเกิด แล้วเขาอยากให้พี่เอาไปส่งที่คอนโด แต่มันเป็นช่วงที่เด็กเลิกงานแล้ว ถ้ายังไงเค้กเอาไปส่งให้พี่หน่อยได้ไหม”“แต่กว่าเค้กจะเลิกงานก็ทุ่มหนึ่งเลยนะคะพี่ครีม ลูกค้าเขาจะรอไหวไหม”“ไหวสิลูกค้าบอกว่าไปตอนไหนก็ได้แต่ขอเป็นช่วงค่ำๆ เค้กกลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ยังทันเลย”“ถ้างั้นเดี๋ยวเค้กจะเอาไปส่งให้ค่ะ แล้วเค้กต้องเ
“สวัสดีค่ะคุณเข้มโทรหาเค้กมีอะไรหรือเปล่า”“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะเลยเค้ก”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่คุณมีฝาแฝดและผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงยอมไปกับผม”“เค้กก็บอกคุณแล้วนี่ว่าเค้กไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายที่ร้าน อีกอย่างพี่สาวของเค้กเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คนเท่าไหร่ เค้กก็เลยเลือกที่จะไปกับคุณ เพื่อกันให้พี่สาวออกห่างจากเรื่องนี้”“ผมมาคิดดูอีกทีมันดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เลยนะ”“อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงเรื่องทุกอย่างมันก็จบลงด้วยดีแล้วนะคะ”“แต่ผมว่ามันยังไม่จบนะ”“ก็ตอนนี้น้องสาวคุณก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วนี่คะ ส่วนเรื่องเมียน้อยของคุณไตรภพเดี๋ยวพี่ครีมจะนัดให้คุณเจอกับเธอเองจากนั้นจะตกลงกันยังไงก็แล้วแต่คุณเข้มเลย คุณเข้มจะอยู่ที่กรุงเทพถึงวันไหนคะเค้กจะได้บอกพี่ครีมให้รีบนัดให้นิไปเจอกับคุณเข้ม”“ผมน่าจะอยู่อีกหลายวัน พรุ่งนี้เราออกมาเจอกันหน่อยไหม หรือจะให้ผมไปหาที่ร้านก็ได้นะ”“เค้กไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะอยู่ที่ร้านหรือเปล่า”“พี่สาวคุณบอกว่าคุณเพิ่งกลับมาจากอังกฤษใช่ไหม”“ใช่ค่ะ เค้กกำลังจะกลับมาเริ่มงานที่นี่”“ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ผมถามหน่อยได้ไหมล่ะว่าคุณจะมาทำ
“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวหลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเย็นเสร็จและมาแล้วอยู่หน้าทีวีในห้องรับแขก“จะคุยอะไรคะพี่ครีมเค้กมาเหนื่อยๆ อยากจะนอนพักจังเลย”“นอนพักน่ะเค้กจะนอนเมื่อไหร่ก็ได้แต่เค้กต้องคุยกับพี่”“คุยเรื่องอะไรคะ” เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเลี่ยงได้กานต์ชิสาก็ ต้องยอมคุยกับพี่สาว“ที่หายไปหนึ่งเดือนไปเที่ยวกับเพื่อนจริงๆ หรือไปอยู่กับคุณเข้ม”“ใครจะไปอยู่กับคุณเข้มกันคะพี่ครีม เค้กกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเราก็เพิ่งเจอกันที่โรงพยาบาลแค่ครั้งเดียวเองนะคะ”“เราเป็นเราสองคนเป็นอะไรกันเหรอเค้ก”“พี่ครีมถามอะไรแปลกๆ เราก็เป็นพี่น้องกันไงคะ พี่ครีมเป็นพี่เค้กสองนาที”“ใช่เพราะเราเป็นพี่น้องและไม่ใช่พี่น้องธรรมดาสิ เราเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน พี่มีความรู้สึกว่าเค้กกับคุณเข้มมันไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดา บอกความจริงพี่มา ถ้าไม่อย่างั้นพี่จะโทรไปฟ้องพ่อว่าตั้งแต่เค้กกลับมาถึงเมืองไทยเค้กไม่เคยช่วยพี่ทำงานเลยและหายไปกับผู้ชายหนึ่งเดือน เค้กคิดว่าจะบอกความจริงกับพี่หรือจะบอกกับพ่อดีล่ะ เลือกเอานะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังและเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าถ้าไม
เขมณัฏฐ์ขับรถพาคู่แฝดมายังโรงพยาบาลที่น้องเขยของเขารักษาตัวอยู่เมื่อประตูห้องเปิดออกเขมิกาก็รีบลุกขึ้นมาหาพี่ชาย“พี่เข้มเขมคิดถึงพี่จัง”“พี่ก็คิดถึงเขมเป็นไงช่วงนี้แพ้ท้องหนักหรือเปล่า”“ไม่ค่อยแพ้แล้วค่ะ”“เขมที่พาคุณมาเจอเขมด้วยนะ” ชายหนุ่มเบี่ยงตัวให้ผู้หญิงที่เดินตามมาด้านหลังเผชิญหน้ากับน้องสาวของตนเอง“นี่ยังจะมีหน้ามาเยี่ยมพี่ไตรอีกเหรอ แต่เอ๊ะ!”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าสองคนนั้นหน้าเหมือนกันมากๆ จนเธอแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครและเขมิกาก็จำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนไหนที่นั่งรถไปกับสามีของเธอในคืนวันเกิดเหตุ“แล้วคนไหนล่ะที่เป็นเมียน้อยผัวของฉันหรือเป็นเมียน้อยด้วยกันทั้งคู่”“เปล่านะคะ เราสองคนไม่มีใครเป็นเมียน้อยคุณไตรภพทั้งนั้น” กานต์ชิสารีบพูดขึ้น“ไม่ต้องมาโกหกเลย ก็คืนนั้นฉันจำได้ว่าเธอ คนที่เป็นเจ้าของร้านเค้กอยู่ในรถคันเดียวกับพี่ไตร”“ใช่ค่ะ คืนนั้นฉันอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงๆ แต่ฉันไม่ใช่เมียน้อยของเขาหรอกนะคะแต่ฉันรู้ว่าเมียน้อยของเขาคือใคร”“ใครพาฉันไปเจอมันเดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากจะเห็นหน้ามันจังว่ามันเป็นใคร”“เขมไม่ต้องไปเห็นหน้าเขาหร