เข้าสู่ระบบเพราะพี่สาวฝาแฝดถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเมียน้อย น้องสาวอย่างเธอจึงยอมไปเป็นจำเลยของเขา แต่เมื่อเขารู้ความจริงเธอก็กลายเป็นจำเลยที่เขาแสนรัก
ดูเพิ่มเติมท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบเที่ยงคืนรถยนต์สองคันขับเบียดกันมาบนถนนเส้นหนึ่งก่อนที่รถคันหน้าจะเสียหลักพลิกคว่ำอยู่หลายตลบจนไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง
รถที่ขับเบียดมานั้นไม่ได้จอดให้ความช่วยเหลือแต่ขับเลยไปแล้ววนกลับมาอีกครั้งคนในรถรีบโทรศัพท์แจ้งเหตุกับกู้ภัยและรอจนกระทั่งได้ยินเสียงไซเรนก็รีบขับออกไปจากจุดเกิดเหตุ
เสียงโทรศัพท์ของกานต์ชิสาหญิงสาววัย 24 ปีดังขึ้นในเวลา 02.15 นาฬิกา เจ้าของโทรศัพท์กวาดมือไปบนเตียงนอนเพื่อหาโทรศัพท์ที่ไม่รู้ว่ามันไปซ่อนอยู่ตรงไหนบนเตียงนอนกว้าง
“ใครโทรมาเวลานี้นะ” หญิงสาวเปิดโคมไฟที่หัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์ที่ยังส่งเสียงไม่ยอมหยุด ถ้าปลายสายที่โทรมาไม่มีเรื่องสำคัญละก็ได้เห็นดีกันแน่
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีใช่เบอร์ของคุณกานต์ชิสาไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
“ดิฉันเป็นพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินจากโรงพยาบาล xxx ค่ะ”
“โรงพยาบาลเหรอคะ” กานต์ชิสามองนาฬิกาดิจิทัลที่โต๊ะข้างเตียงแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ดึกขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลจะโทรมาหาเธอทำไมกันหรือว่าจะมีใครเป็นอะไร
“ใช่ค่ะ ดิฉันจะโทรมาแจ้งว่าตอนนี้คุณกานต์สิชาได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วเธอให้เราโทรมาแจ้งคุณค่ะ”
“แล้วพี่สาวของฉันเป็นอะไรมากไหมคะ ทำไมเธอไม่โทรมาเอง”
“เธอไม่มีแผลนิดหน่อยค่ะ กำลังทำแผลอยู่แต่เธอบอกให้ฉันโทรบอกคุณให้มารีบรับ”
“ได้ค่ะ ไม่เกินสิบนาทีฉันจะไปรับค่ะ”
เมื่อวางสายจากพยาบาลแล้วกานต์ชิสาก็รีบล้างหน้าและเปลี่ยนชุดก่อนจะขับรถตรงมายังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
“เค้กทางนี้” หญิงสาวคนหนึ่งโบกมือให้กับคนที่วิ่งเข้ามาที่หน้าฉุกเฉินใบหน้าของเธอทั้งสองคนนั้นเหมือนกันมากถ้าหากอีกคนหนึ่งไม่มีผ้าก็อซติดที่ศีรษะก็คงแยกไม่ออกแน่ว่าใครเป็นใคร
“พี่ครีมเป็นอะไรหรือเปล่าเจ็บมากไหม แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
“ก็เท่าที่เห็น เรารีบไปกันเถอะเค้ก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนอยู่ในรถนะ” กานต์สิชาตอบน้องสาวฝาแฝดและมีท่าทางร้อนรน
“ทำไม่รีบจังพี่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม ให้หมอตรวจอย่างละเอียดหรือยัง”
“อือ หมอตรวจดีแล้ว รถจอดอยู่ไหนล่ะ”
“นู้นไง เดินไหวไหม” เธอหันมาถามพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“ไหวสิพี่เจ็บที่หัวนะไม่ได้เจ็บที่ขาสักหน่อย” เธอตอบก่อนจะเดินนำไปยังรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาล
“เล่ามาเลยนะพี่ครีมว่ามันเกิดอะไรขึ้นนี่มันดึกมากแล้วทำไม่พี่ถึงไม่นอนอยู่ที่บ้าน”
“เค้กขับรถไปโรงพยาบาลxxx ให้หน่อยสิ”
“พี่ครีมจะไปทำไม แล้วก็ตอบคำถามของเค้กมาก่อน”
“ก็คนที่ขับรถให้พี่นั่งถูกพาไปโรงพยาบาลนั้น” เพราะโรงพยาบาลที่เธอมารักษานั้นเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กเครื่องมือมีไม่มากพอกู้ภัยเลยไปส่งคนที่อาการหนักว่าที่นั่น
“ใครเหรอพี่”
“คุณไตรภพ”
“เขาเป็นใครเหรอ” กานต์ชิสาถามพี่สาวเพราะตั้งแต่เธอกลับมาจากอังกฤษได้หนึ่งสัปดาห์ก็ยังไม่เคยได้ยินพี่สาวพูดถึงคนชื่อนี้เลย
“เขาจะเป็นแฟนพี่ได้ยังไงเค้กก็รู้ว่าแฟนพี่ชื่อภูมิ แล้วคนนี้เขาก็มีเมียแล้ว”
“พี่ครีมคงไม่ได้เป็นเมียน้อยเขาใช่ไหม” หญิงสาวหันมามองหน้าพี่สาวที่เกิดก่อนตนเองสองนาทีด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะผิดหวัง
“อย่าเพิ่งมองพี่แบบนั้นสิ พี่กับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แล้วทำไมถึงต้องนั่งรถมาด้วยกันกลางดึกแบบนี้ล่ะ เราพี่น้องกันนะมีอะไรก็บอกเค้กมาเถอะน่า”
“ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอเค้ก”
“ก็พี่ทำตัวน่าสงสัยนี่”
“เดี๋ยวพี่จะเล่าทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งมดเลย แต่ตอนนี้ขอไปดูก่อนว่าคุณไตรภพเขาเจ็บมากไหมและภรรยาเขารู้ข่าวหรือยัง”
“พี่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วพี่จะไปเยี่ยมเขาทำไม”
“เค้กพี่นั่งรถมากับเขานะ ถ้าไม่เห็นว่าเขาปลอดภัยพี่คงนอนไม่หลับแน่ๆ ตอนที่กู้ภัยพาเขาไปเอาเลือดออกเยอะมากพี่กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไปน่ะ” สีหน้าของพี่สาวทำให้คนเป็นน้องอย่างกานต์ชิสาไม่ค่อยสบายใจเลย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลกานต์สิชาก็ตรงไปที่ห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้ด้านในเหมือนจะไม่มีผู้ป่วยเลยสักคน
“ขอโทษนะคะ คนเจ็บที่กู้ภัยมาส่งเมื่อกี้ไปไหนแล้วค่ะ” เธอถามเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“คุณหมายถึงคนไหนคะ” เพราะในแต่ละคืนมีคนเจ็บเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมากเจ้าหน้าที่จึงต้องถามให้แน่ใจ
“คุณไตรภพค่ะ”
“คุณเป็นอะไรกับเขาคะ” เจ้าหน้าที่ถามเพราะข้อมูลของผู้ป่วยก็ถือว่าเป็นความลับอย่างหนึ่งที่จะบอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้
“ฉันนั่งมากับเขาในรถคันที่เกิดอุบัติเหตุค่ะ แต่ฉันถูกพาไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ถ้าคุณไม่เชื่อจะถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่พามาส่งก็ได้นะคะ ว่าฉันนั่งอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงหรือเปล่า”
“คนเจ็บได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแต่ไม่เป็นอะไรมากแต่ที่ขามีกระดูกหักค่ะตอนนี้ถูกพาไปที่ห้องผ่าตัดแล้ว”
“ภรรยาเขารู้เรื่องแล้วใช่ไหมคะ”
“ค่ะ ตอนนี้ก็น่าจะอยู่หน้าห้องผ่าตัด”
“ขอบคุณนะคะ” กานต์สิชากล่าวขอบคุณจากนั้นก็ทำท่าจะเดินกลับ
“เราจะขึ้นไปดูเขาไหมพี่ครีม”
“เอาไว้เขาออกจากห้องผ่าตัดเราค่อยมาเยี่ยมพรุ่งนี้ก็ได้ ตอนนี้พี่ง่วงมากอยากกลับไปนอน”
เขมณัฏฐ์นั่งพิงหัวเตียงมองคนรักที่นอนหลับสนิทอยู่เขามองถึงอนาคตที่มีร่วมกับหญิงสาวการมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ชายหนุ่มคิดว่าจะคุยกับกานต์ชิสาอย่างจริงจังด้วยอายุที่มากขึ้น เขมณัฏฐ์ก็อยากจะสร้างครอบครัวและคนเดียวที่เขาจะสร้างด้วยก็คือผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ เพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตื่นและกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ เธอเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนักแม้ว่าจะตอบตกลงเป็นแฟนเขาไปแล้วแต่ระยะเวลาที่ได้รู้จักกันมันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยคบมากทั้งสองตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอยู่นานก่อนที่เขมณัฏฐ์จะพูดขึ้น“เค้กคุณกำลังคิดอะไรอยู่หน้าเครียดเชียว”“เค้กกำลังสับสนค่ะ”“สับสนเรื่องอะไรครับ”“ก็เรื่องของเราไงคะ จากนี้ไปมันจะเป็นยังไงต่อคะ”“ก็เหมือนที่ผมพูดเมื่อคืนผมจะอยู่กับคุณที่นี่”“เค้กหมายถึงระยะยาวค่ะ”“เค้กตอบผมมาก่อนว่าตกลงจะเป็นแฟนกับผมแล้วใช่ไหม”“คุณก็รู้นี่คะคุณเข้มว่าระหว่างเรามันมากกว่านั้นและฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับคนอื่นโดยไม่คิดอะไรนะคะ คุณพอใจกับคำตอบของเค้กแล้วใช่ไหม”“พอใจมากครับ ผมคิดไว้แล้วว่าอนาคตจากนี้ของเราสองคนจะ
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงเขมณัฏฐ์ก็รวบเธอเข้ามาใบหน้าหล่อก้มลงประกบลงบนริมฝีปากสีสวยด้วยความคิดถึงและโหยหา กานต์ชิสายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับเปิดริมฝีปากให้เขาเข้ามาอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่าเร่าร้อนและดูดดื่มเร่าร้อน ฝ่ามือร้อนลากเลื้อยไปมาตามร่างกายของเธออย่างหลงใหล ริมฝีปากบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงไปตามอารมณ์พิศวาส ก่อนจะลากไล้ริมฝีปากลงมาขบเม้มบนขาวนวลของหญิงสาวจนขึ้นรอยไปหมด“อื้อ.....คุณเข้ม อย่าใจร้อน”“ผมใจเย็นที่สุดแล้วนะที่รัก ผมคิดถึงคุณมากนะ ให้ใจเย็นกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว”เสียงแหบพร่าของเขมณัฏฐ์พูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพาเธอมายังเตียงกว้างแล้วดันให้เธอนอนลงไปก่อนที่ตนเองจะคร่อมทับลงไปหาอย่างรวดเร็วริมฝีปากหนาก้มลงซุกไซ้ขบเม้มไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น เสียงลมหายใจหนักหน่วงของเขาร้อนแรงขึ้นมากกว่าเดิม บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังพุ่งสูงสูงขึ้น ริมฝีปากร้อนขมเม้มลงบนซอกคอสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึง กานต์ชิสาแหงนหน้าไปด้านบนเพื่อเปิดซอกคอให้เขาซุกไซ้ได้อย่างถนัดเขมณัฏฐ์ขยับริมฝีปากขึ้นมามอบจูบให้เธออีกครั้ง ส่งเรียวลิ้นสอดแทรกตวัดรัดรึงกับเรียวลิ้นเล็กที่หอมหวานในโพรงปากอย
หลังจากที่เขมณัฏฐ์คุยกับชลนิภาและตกลงจ่ายเงินให้หญิงสาวหนึ่งก้อนเพื่อให้เลิกยุ่งกับไตรภพแล้วชายหนุ่มก็ต้องรีบกลับสุโขทัยเพราะงานที่นั่นมีปัญหาเขาไม่มีโอกาสได้เจอกับกานต์ชิสาอีกเลยแต่ชายหนุ่มก็ยังโทรมาหาหญิงสาวอยู่บ่อยๆ ส่วนกานต์ชิสาเองก็ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งงานของเธอก็กำลังไปได้ดีหญิงสาวมีหน้าที่ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าและลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาลที่เป็นหมอแผนกศัลยกรรมก็ชวนให้เธอไปให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่ต้องการมาทำศัลยกรรมอีกด้วย มันเลยทำให้เธอค่อนข้างยุ่งและไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของเขมณัฏฐ์มากนัก“เค้กพรุ่งนี้ค่ำเค้กช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหม” กานต์สิชาถามน้องสาวฝาแฝดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา“ให้ช่วยอะไรคะ”“พอดีมีลูกค้าสั่งเค้กวันเกิด แล้วเขาอยากให้พี่เอาไปส่งที่คอนโด แต่มันเป็นช่วงที่เด็กเลิกงานแล้ว ถ้ายังไงเค้กเอาไปส่งให้พี่หน่อยได้ไหม”“แต่กว่าเค้กจะเลิกงานก็ทุ่มหนึ่งเลยนะคะพี่ครีม ลูกค้าเขาจะรอไหวไหม”“ไหวสิลูกค้าบอกว่าไปตอนไหนก็ได้แต่ขอเป็นช่วงค่ำๆ เค้กกลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ยังทันเลย”“ถ้างั้นเดี๋ยวเค้กจะเอาไปส่งให้ค่ะ แล้วเค้กต้องเ
“สวัสดีค่ะคุณเข้มโทรหาเค้กมีอะไรหรือเปล่า”“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะเลยเค้ก”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่คุณมีฝาแฝดและผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงยอมไปกับผม”“เค้กก็บอกคุณแล้วนี่ว่าเค้กไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายที่ร้าน อีกอย่างพี่สาวของเค้กเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คนเท่าไหร่ เค้กก็เลยเลือกที่จะไปกับคุณ เพื่อกันให้พี่สาวออกห่างจากเรื่องนี้”“ผมมาคิดดูอีกทีมันดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เลยนะ”“อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงเรื่องทุกอย่างมันก็จบลงด้วยดีแล้วนะคะ”“แต่ผมว่ามันยังไม่จบนะ”“ก็ตอนนี้น้องสาวคุณก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วนี่คะ ส่วนเรื่องเมียน้อยของคุณไตรภพเดี๋ยวพี่ครีมจะนัดให้คุณเจอกับเธอเองจากนั้นจะตกลงกันยังไงก็แล้วแต่คุณเข้มเลย คุณเข้มจะอยู่ที่กรุงเทพถึงวันไหนคะเค้กจะได้บอกพี่ครีมให้รีบนัดให้นิไปเจอกับคุณเข้ม”“ผมน่าจะอยู่อีกหลายวัน พรุ่งนี้เราออกมาเจอกันหน่อยไหม หรือจะให้ผมไปหาที่ร้านก็ได้นะ”“เค้กไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะอยู่ที่ร้านหรือเปล่า”“พี่สาวคุณบอกว่าคุณเพิ่งกลับมาจากอังกฤษใช่ไหม”“ใช่ค่ะ เค้กกำลังจะกลับมาเริ่มงานที่นี่”“ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ผมถามหน่อยได้ไหมล่ะว่าคุณจะมาทำ