เมื่อคะนึงรักยกมือขึ้นเพื่อจะดันแผ่นอกแกร่งให้ห่างออก ก็ถูกมือหนาจับข้อมือสองข้างไว้ ดันขึ้นไปเหนือศีรษะ ก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวรวบข้อมือเธอตรึงไว้ อีกมือหนึ่งเลิกเสื้อยืดและเสื้อชั้นในขึ้นไปกองไว้บนเนินอก ริมฝีปากร้อนจูบไล่เรื่อยที่เนินทรวงก่อนจะครอบครองปลายถัน
ความเสียวสะท้านแล่นปราดไปทั่วร่างเมื่อลิ้นร้อนตวัดเลียรอบฐานทรวงจนชุ่ม จากนั้นดูดดึงปลายยอดจนหดเกร็งเป็นตุ่มไต เธอบิดกายเร่าคล้ายกระสับกระส่ายเพราะความวาบหวามและซ่านสยิวที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ
สักพักเขาก็ปล่อยข้อมือทั้งสองข้างเป็นอิสระ แต่คะนึงรักก็อ่อนปวกเปียกจนแทบจะทำอะไรไม่ไหว
ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าของเธอออก ไม่เหลือแม้แต่กางเกงชั้นในลูกไม้ตัวจ้อยบางเบา มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างและผิวกายเปลือยเปล่า
หญิงสาวรู้สึกเสียเปรียบที่โดนลอกคราบฝ่ายเดียว จึงเอื้อมมือไปถอดเสื้อเขาบ้าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
แผงอกแน่นตึงกับหน้าท้องขึ้นลอนเรียงสวยปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำเอาคะนึงรักอดเอื้อมมือไปลูบไล้เขาบ้างไม่ได้ อันที่จริงเธออยากจะลูบจะคลำตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นเขาที่สระว่ายน้ำแล้ว
ชายหนุ่มสบตาเธอ แววตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงร้อนเร่าที่พร้อมจะพาเธอพุ่งทะยานไปในกระแสธารแสนหฤหรรษ์ในคืนนี้
เขาใช้แขนข้างหนึ่งยันกายแกร่งไว้ มืออีกข้างกดต้นขาเธอให้แยกออก ดวงตาคมสานสบคล้ายจะตรึงเธอให้หยุดนิ่งเหมือนต้องมนต์ ชายหนุ่มไล้ข้อนิ้วขึ้นลงที่ปากทางรักฉ่ำชื้น เธอครางออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อความร้อนรุ่มที่มากกว่าเก่ากระจายไปทั่วเรือนร่าง
ร้อนปนทรมาน แต่ก็รู้สึกดีเหลือเกิน
นิ้วหัวแม่มือของชายหนุ่มคลึงเคล้นที่ปุ่มสวาท ทำเอาคะนึงรักเจียนคลั่ง น้ำหวานจากกายสาวเอ่อล้นเคลือบร่องสวาทไว้จนชุ่ม
“ชอบให้เลียไหม” เขากระซิบถาม
เลีย...คะนึงรักแตกตื่น เข้าใจได้ทันทีว่าชายหนุ่มหมายถึงเลียตรงไหน
“ไม่ ไม่ดีกว่า”
“ไม่อยากเสร็จก่อนซักรอบนึงเหรอ ผมทำให้ได้นะ”
ฟังชายหนุ่มพูดแล้ว หญิงสาวรู้สึกเหมือนเขากำลังพูดภาษาต่างดาวกับเธอ เพราะเธอเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง คือเธอรู้ว่าเขาจะทำอะไรเพียงแต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะทำอย่างไร
“ไม่ต้องก็ได้”
“ตามใจครับ” เขาบอกง่ายๆ จากนั้นแกะกล่องถุงยางอนามัย ใช้ปากช่วยฉีกซองฟลอยออก สวมครอบลงบนแก่นกายที่แข็งขึงตั้งตระหง่าน
เมื่อนั้นแหละคะนึงรักถึงได้รู้ว่าหนุ่มน้อยของเธอเปลือยเปล่าและพร้อมรบแล้ว แถมอาวุธคู่กายเขายังใหญ่โตจนน่ากลัว
ชายหนุ่มกลับมาทาบทับบนเรือนร่างของเธออีกครั้ง หยอกเย้ากับกลีบดอกไม้กลางกายสาว จากนั้นจึงใช้นิ้วแข็งแหวกนำทางแล้วกดความใหญ่โตนั่นเข้าไปในร่องหลืบฉ่ำเยิ้ม ทว่าเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งลำเพราะหญิงสาวคับแน่นจนเขาต้องนิ่วหน้า
“คุณ...แน่นจัง”
“อือ...ก็ครั้งแรก” หญิงสาวอยากจะกระถดตัวหนีเพราะความเจ็บ “มันเจ็บจัง ไม่เคยคิดว่าจะเจ็บขนาดนี้”
คนที่ทาบทับอยู่พยายามจะประมวลความคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าเมื่อเขาเห็นรอยเลือดซึมออกมาน้อยๆ จากส่วนที่สอดประสาน ก็กอดเธอไว้แน่น
“อย่าบอกนะว่าคุณ... สัสเอ๊ย...” เขาสบถก่อนจะรีบแก้ตัว “ขอโทษ ผมไม่ได้สบถใส่คุณ ผมด่าตัวเองที่ไม่ทันระวัง”
“พอแล้วได้มั้ย ไม่เอาแล้ว”
“สั่งให้ผมไปตายยังง่ายกว่านะ”
“แต่มันเจ็บ...”
“ลองใหม่นะ”
ชายหนุ่มเลื่อนมือลงต่ำ หยอกเย้ากับปุ่มเกสรกลางกาย สร้างความซ่านเสียวจนหญิงสาวครางกระเส่า เธอบดเบียดกึ่งกลางกายเข้าหาท่อนลำของเขาที่ยังปักค้างอย่างลืมตัว
“อย่างนั้นแหละคนเก่ง ดีแล้ว ค่อยๆ นะครับ ไม่ต้องรีบ”
คนสอนกดสะโพกเข้าหาอีกนิด เพื่อตอกตรึงความแข็งขึงร้อนฉ่าเข้าหาเธออีกหน่อย นิ้วร้ายยังปัดป่ายปุ่มสวาทที่เริ่มบวมเป่ง ความเสียวซ่านแล่นขึ้นมาเป็นระลอก ยิ่งเธอครวญคราง เขาก็ยิ่งขยี้ที่ติ่งเนื้อน้อยพร้อมกับค่อยๆ ขยับแก่นกายใหญ่โตเข้ามาเติมเต็มเรื่อยๆ ก่อนจะบีบบี้รัวเร็วพร้อมๆ กับดันท่อนลำเข้ามาจนสุดทาง
คะนึงรักกรีดร้องอย่างลืมตัว สมองขาวโพลนเมื่อความสุขสมแล่นปราดไปทั่วร่าง ปลายถันกดเกร็ง ช่องทางรักตอดกระตุกรัวเร็วทำเอาชายหนุ่มครางหนักๆ ในลำคอ
“เสร็จแล้วใช่มั้ย” เขาถาม
“อืม”
“ตอดซะผมเกือบเสร็จตามแน่ะ”
เขาลูบไล้ผิวกายเธอเบาๆ เหมือนจะปลอบประโลม ก่อนจะเริ่มขยับแก่นกายเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อให้เธอปรับตัว ดวงตาเรียวรีคอยจับสังเกตสีหน้าเธอไปด้วย
“เจ็บอยู่มั้ย”
“ไม่ค่อยแล้ว เสียวมากกว่า เวลาน้องขยับ”
“คุณมาถูกทางแล้ว” เขายิ้มน่ารัก
ชายหนุ่มจับเรียวขาเธอให้โอบกระหวัดรอบเอวเขาไว้ คะนึงรักรู้สึกได้ว่าความแข็งขึงร้อนฉ่านั้นแทรกลึกเข้ามาได้มากกว่าเดิม และกำลังล่อลวงให้เธอตกอยู่ในห้วงหฤหรรษ์แสนหวานปนทรมานนั่นอีกครั้ง
แต่ใครจะปฏิเสธลงล่ะ เพราะเมื่อเขากดสะโพกซ้ำๆ ความเสียวสะท้านก็ก่อตัวขึ้นอีกระลอกใหญ่ ในวินาทีนี้ เธอต้องการเขาอีกแล้ว
สะโพกแกร่งตอกตรึงเธอไว้ใต้ร่าง ทั้งแรงและรัวเร็วจนคะนึงรักแทบจะจมหายไปกับฟูก เสียวเสียจนหูอื้อตาลาย หนุ่มน้อยที่มากับความอ่อนโยน นุ่มฟูเมื่อแรกพบอันตรธานไปสิ้น เหลือเพียงชายหนุ่มที่ชอบมีเซ็กซ์แบบดิบๆ และพร้อมจะทำให้คู่นอนของเขาลอยละล่องไปถึงสวรรค์ในทุกรูปแบบ
เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องที่จะเหนียมอาย เซ็กซ์เป็นเรื่องที่ควรจะเปิดใจต่อกันมากที่สุด
เขาจับขาเธอกดแนบกับทรวงอก ก่อนจะกระแทกความเป็นชายเข้าหาซ้ำๆ อีกหลายครั้ง แล้วเอ่ยถามเสียงพร่าสั่น
“แบบนี้เสียวกว่าไหม”
“เสียวมาก แต่รู้สึก...แปลกๆ เหมือนปวดฉี่ด้วย” เธอตอบไปตามตรง
“เขาเรียกว่าน้ำ...” เขาก้มลงมากระซิบข้างหูเหมือนสอน
คำพูดตรงๆ ติดจะหยาบโลนนิดๆ ทำเอาคะนึงรักเสียววูบมากขึ้นที่ท้องน้อย อย่างนี้สินะ หลายคนถึงชอบใช้ภาษาดิบๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับเซ็กซ์ของตนเอง
“อย่าฝืนนะ ปล่อยออกมาได้เลย ผมโอเค”
เขากระแทกแก่นกายเข้าหาเธอซ้ำๆ ผลักดันเธอให้ลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะคว้าดาวบนท้องฟ้ามาครอบครองได้ วินาทีที่เอื้อมไปแตะดวงดาวได้นั้น ดวงดาวก็แตกกระจายกลายเป็นเกล็ดดาวนับร้อยนับพัน ทำเอาเธอสั่นสะท้านจนต้องผวากอดผู้ชายตรงหน้าไว้แนบแน่น
น้ำรักไหลลงมาตามต้นขาจนถึงข้อพับพร้อมๆ กับที่ร่างบางกระตุกเกร็งด้วยความสุขสมเป็นรอบที่สอง
ชายหนุ่มครางแหบต่ำ บดเบียดที่จุดสอดประสานรัวเร็ว ก่อนจะเกร็งไปทั้งตัวเมื่อตามเธอไปยังจุดเดียวกัน
คะนึงรักทิ้งตัวลงกับฟูก หมดพลังชีวิตมากมายไปกับความซ่านเสียวจากเซ็กซ์ครั้งแรกในชีวิต คิดว่าหนุ่มน้อยสุดหื่นของเธอจะทิ้งตัวตามมานอนข้างกัน แต่เขากลับหยัดตัวขึ้นนั่ง ถอดถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วออกทิ้งลงถังขยะ แล้วหันมาถามด้วยหน้าตาใสซื่อแต่น้ำเสียงคาดหวัง
“ผมขอต่อรอบสองได้ไหม”
หญิงสาวเงยหน้ามองเขา แววตาเขาไม่ได้ล้อเล่นสักนิด
เอาวะ เกิดมาครั้งเดียว จะเสียวอีกสักครั้งก็คงไม่ผิดอะไร เมื่อตัดสินใจได้แล้วเธอก็พยักหน้า
หนุ่มน้อยยิ้มให้ ก่อนจะหยิบซองถุงยางมาฉีกออก แล้วเริ่มบรรเลงบทเพลงรักร้อนๆ อีกครั้ง
ประตูห้องรักษาเปิดออก พร้อมกับร่างสูงกำยำของวิณทร์วายุที่ก้าวเข้าไปนั่งสบายๆ บนเก้าอี้โซฟาเดี่ยว ส่วนที่โต๊ะทำงานซึ่งห่างออกไป มีหญิงสาวผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมงกำลังจัดแฟ้มงานบนโต๊ะอยู่พินทุอรเป็นนักศึกษาแพทย์รุ่นเดียวกับเขา ไปเป็นอินเทิร์นหรือแพทย์ใช้ทุนที่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่เธอเลือกเรียนต่อเฉพาะทางเลย จึงเข้าเป็นเรสซิเดนท์ก่อน ต่างกับเขาซึ่งทำงานอยู่ระยะหนึ่งก่อนเพื่อค้นหาตัวตนให้แน่ใจแล้วค่อยต่อเฉพาะทาง ทำให้หญิงสาวกลายเป็นจิตแพทย์รุ่นพี่“ขอปรึกษาหมออิงหน่อย เรื่องด่วน”เมื่อจิตแพทย์สาวเห็นว่าเป็นใครก็ถามเสียงเนือย “นัดล่วงหน้ามาหรือเปล่าคะ ไม่รู้หรือคะว่าจิตแพทย์ที่นี่ไม่รับนัดวอล์กอินนะ”“กำลังจะทำนัดอยู่นี่ไง นัดกับหมอนี่แหละ นัดเลย คุยเลย อย่าลีลา” ชายหนุ่มหยิบหมอนอิงบนเก้าอี้มากอด เอนหลังในท่าที่สบายขึ้น“ไปหาหมอคนอื่น ฉันไม่รับ”“เดี๋ยวเลี้ยงข้าวที่แคนทีน”“ไม่ว่าง แกไปหาหมอน็อตสิ” พินทุอรหมายถึงจิตแพทย์รุ่งน้องอีกคนซึ่งจะมาตรวจที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละครั้ง“ไม่เอา อายไอ้น็อตมัน”“แล้วกับฉันไม่อายเหรอไอ้วิณทร์ ฉันเป็นหมอสาวแสนสวยนะ”“ไม่อาย แกนิสัยเหมือนผู้ชายมากกว่าไอ้น็อตอีก
“คุณเปิดไฟทำไม”“ผมปลอมตัวเป็นหิ่งห้อย เปล่งแสงหาคู่ไง”คะนึงรักหลุดขำออกมานิดหนึ่ง แสงนวลจากดวงไฟดวงเล็กส่งให้ใบหน้าสวยหวานดูผุดผ่องเรืองรอง รอยยิ้มน้อยๆ จากริมฝีปากอิ่มทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบการที่เขาใจเต้นเมื่อตอนบ่ายวันก่อนที่ได้จูบคะนึงรักนั้น วิณทร์วายุไม่แปลกใจหรือเอะใจเลยสักนิด เขาคิดว่ามันคือความตื่นเต้น เพราะใจคิดไปถึงเรื่องหวานๆ หื่นๆ ครั้งก่อนและกำลังดีใจที่มันกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งก็เหมือนตอนที่เขากำลังจะลากผู้หญิงฮ็อตๆ สักคนขึ้นเตียงนั่นแหละ ทั้งหวั่นไหวและคาดหวังถึงเซ็กซ์ที่เผ็ดร้อน หัวใจเขาจึงเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่แต่การที่เขากำลังใจเต้นอยู่ตอนนี้นี่สิ...แปลก เพราะเขายังไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดหญิงสาวแม้แต่น้อย“ผู้ชายอย่างคุณหมอวิณทร์ ไม่ต้องเปล่งแสงหรอก แค่มองแล้วยิ้ม ก็เรียกผู้หญิงเข้าไปหาได้นับสิบๆ คนแล้วมั้ง แทบจะไม่ต้องพยายามเลยด้วยซ้ำ”“คุณก็พูดเกินไป”“ลี่พูดในสิ่งที่คุณเองรู้อยู่แล้วนั่นแหละ”คะนึงรักกดปิดไฟฉาย จากนั้นยื่นผ้าห่มผืนบางขนาดย่อมมาให้ “อากาศไม่หนาว แต่ก็มีลม มีน้ำค้าง แม่ลี่บอกว่าคนกรุงเทพฯ อย่างคุณน่าจะกระหม่อมบาง เดี๋ยวจะไม่สบาย”“คุณห่มเถอะ
เพชรพร้อมมองชายหนุ่มหน้าขาวใสประหนึ่งโบกบีบีครีมครึ่งหลอดบนใบหน้า กำลังมองตามร่างบางของคะนึงรักไป ริมฝีปากอมชมพูคลี่ยิ้มน้อยๆ ดวงตาเรียวรีทอประกายเจิดจ้า“คุณมีอะไรในใจกับน้องผมหรือเปล่า”“มีอะไรนะครับ...”“มีอะไรในใจ” เพชรพร้อมย้ำ“ผม...” อีกฝ่ายกะพริบตาช้าๆ สามสี่ที ดูดน้ำมะพร้าวอีกอึกใหญ่ ก่อนจะบอกตรง “ไม่แน่ใจ ไม่รู้สิครับ”“ถ้าไม่รู้ ยังไม่แน่ใจ ก็อย่ามองแบบนั้น”“เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้ด้วยเหรอครับ ตอนนี้ผมไม่รู้ ไม่แน่ใจ ผมก็ตอบตามตรงเท่านั้นเอง”“ผมมีน้องสาวคนเดียว ทั้งรักทั้งหวง ถ้าคุณมาหลอกน้องสาวผม รับรองว่าผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ ผมจะอัดคุณให้จมดินเลย” หนุ่มร่างยักษ์พูดพลางหยิบท่อนไม้ขนาดเกือบเท่าแขนเด็กมาหักเล่นชายหนุ่มหน้าขาวยิ้มอ่อนโยน ส่งให้ใบหน้านั้นยิ่งดูอ่อนเยาว์ “คุณจะต่อยผมก็ได้ แต่ก่อนจะมีวันนั้น ผมต้องบอกคุณเสียก่อนว่าตอนเด็กๆ ผมเคยได้เหรียญเงินเทควันโดในกีฬาเยาวชนแห่งชาติมาก่อน ส่วนปัจจุบันนี้ ผมฝึกยูโดจนได้สายดำ และกีฬาที่โปรดปรานอีกอย่างก็คือมวยไทย”“ฝึกไปทำไมเยอะแยะ” เพชรพร้อมขมวดคิ้ว“เพราะผมหน้าอ่อนไงคุณ แถมยังผิวขาว ดูยังไงก็ไม่พ้นไอ้ไก่อ่อน แต่ผมดันหล
เช้าวันรุ่งขึ้น เจ็ดโมงเช้าไม่ขาดไม่เกิน วิณทร์วายุก็ลงมาที่โต๊ะอาหารซึ่งครอบครัวสาลี่โฮมสเตย์อยู่พร้อมหน้า อาหารเช้าในวันนี้เป็นโจ๊กหมูใส่ตับ ฝีมือของคุณนายรำพึง ส่วนปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้นั้น พฤกษ์ซื้อมาจากตลาดเช้าของหมู่บ้านหลังจากกินอาหารเช้าและพักผ่อนเล็กน้อยแล้ว คะนึงรักก็นำจิตแพทย์หนุ่มไปยังท่าน้ำเพื่อเดินทางไปสวนมะพร้าว“ลี่จะพายเรือไปเองเหรอ”“พี่เพชรจะมารับเราตอนเก้าโมง” หญิงสาวตอบ“พี่เพชร?”“ลูกพี่ลูกน้องของลี่เอง พี่เพชรเป็นลูกชายลุง พี่ชายแท้ๆ ของแม่ค่ะ นั่นไง พี่เพชรมารอแล้ว” ประโยคสุดท้ายเธอพูดพร้อมชี้ไปทางท่าน้ำซึ่งมีเรือลำเล็กลอยลำรออยู่ภายในเรือลำน้อยมีชายหนุ่มตัวสูงใหญ่อย่างกับยักษ์ปักหลั่น ผิวสีแทนค่อนไปทางคล้ำ ผมยาวระต้นคอ แถมยังไม่ค่อยชอบโกนหนวดโกนเครา ทำให้ชายหนุ่มยิ่งดูเหมือนพวกโจรป่าที่ชอบมาดักปล้นพรหมจรรย์นางเอก“สวัสดีพี่เพชรย้อม” คะนึงรักทักทายด้วยชื่อแปร่งหูที่มีแต่เธอเท่านั้นเป็นคนเรียก แม้กล้ามแขนที่โผล่พ้นเสื้อยืดย้วยๆ สีเทาของเพชรพร้อมน่าจะหักคอเธอได้ด้วยมือเปล่า แต่หญิงสาวไม่เคยนึกกลัวเพชรพร้อมลุกขึ้นยืนเท้าเอว เอียงคอมองเหมือนพร้อมมีเรื่อง“มาถึง
เสียงเคาะประตูหน้าห้องของคะนึงรักดังขึ้นราวสามทุ่ม หญิงสาวสวมชุดนอนตัวเก่งเดินมาเปิดประตู แล้วก็เห็นพ่อกับแม่แต่งตัวเต็มยศเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก คืนนี้คุณนายรำพึงยิ่งสวยกว่าปกติ เพราะนางม้วนผมเป็นลอนสวย แถมยังตีโป่งตั้งกระบังแบบมองเห็นได้จากหน้าเวทีลิเกเลยทีเดียว“แม่กับพ่อจะออกไปดูลิเก ตอนแรกเห็นว่ามีแขกวีไอพีมาพัก เลยตัดใจแล้ว โชคดีที่ลี่กลับมาพอดี ช่างเป็นอภิชาตบุตรของแม่เหลือเกิน”คะนึงรักมองบิดา “พระเอกคนนี้ที่แม่ตามคล้องพวงมาลัยใช่ไหมพ่อ”“ใช่ พ่อเลยต้องตามไปด้วย กลัวกลับดึกแล้วจะอันตราย” คนเป็นพ่อตอบ“ไม่ใช่ตามไปคุมเหรอ ขี้หึง” คุณนายรำพึงหลิ่วตาพฤกษ์นิ่วหน้า “ใครหึง ไม่มี้”หญิงสาวอมยิ้ม เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี พ่อเธอก็ยังรักยังหลงแม่เธอไม่เคยเปลี่ยน “ไปเถอะค่ะ เที่ยวให้สนุกนะ ไม่ต้องกังวล ลี่ดูแลแขกให้เอง แต่คิดว่าคุณวิณทร์เขาคงนอนแล้วแหละ”“ส่วนพรุ่งนี้เช้า ตามโปรแกรมของสาลี่โฮมสเตย์ หลังกินข้าวเช้าแล้ว แขกจะได้นั่งเรือเที่ยวสวนมะพร้าวตอนเก้าโมง แวะกินข้าวเที่ยงที่ตลาด แล้วกลับมาพักผ่อนตามอัธยาศัยที่บ้านตอนบ่าย” มารดาสาธยาย“บ้านเรามีสวนมะพร้าวที่ไหนกัน เห็นมีแต่พวกผลไม
“กลับมาแล้วเหรอลี่” เสียงของคุณนายรำพึงดังมาก่อนตัวคะนึงรักลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าว วิ่งเข้าไปสวมกอดมารดาโดยมีบิดาตามเข้ามาห่างๆ เมื่อกอดมารดาเสร็จก็โผไปกอดบิดาต่อสายตาของคุณนายรำพึงมองเลยไปเห็นคนตัวสูงนั่งหน้าแป้นอยู่ที่โต๊ะกินข้าวก็ตกใจ “ตายจริง มัวแต่ดีใจ ลืมไปเลยว่าวันนี้บ้านเรามีแขกวีไอพี”“เขาลงมาจากห้องแล้วเหรอ” พฤกษ์ถามแล้วหันไปมองตาม“ลงมาตั้งนานแล้วแม่ เปี๊ยกไม่ได้บอกเหรอ”“ไม่ได้บอกน่ะสิ บอกแค่ลี่ให้มาตาม ไอ้เด็กคนนี้ ใช้ไม่ได้เลย” บิดาบ่นคุณนายรำพึงกุลีกุจอเข้าไปหาแขกคนสำคัญ “ขอโทษทีนะพ่อคุณ เบื่อแย่เลย”“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมนั่งคุยเล่นกับคุณลี่เพลินๆ ชวนกันทำโน่นทำนี่ ไม่เบื่อครับ”เห็นสายตาที่มีคำถามของมารดาแล้ว คะนึงรักจึงรีบอธิบาย “โลกกลมมากแม่ คุณวิณทร์เป็นเพื่อนสนิทของบอสลี่เอง เราสองคนรู้จักกันมาก่อน”“สนิทกันด้วยครับ” วิณทร์วายุเสริม“จริงเหรอ” คุณนายรำพึงถาม“จริงครับแม่”คะนึงรักส่งสายตาดุๆ ไปให้ ‘ลูก’ ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้น อยากจะถามเขาเหลือเกินว่าเธอไปสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ใจไม่กล้าพอเพราะกลัวคำตอบของจิตแพทย์หนุ่ม ก็ถ้าเกิดเขาโพล่งออกไปว่าเธอกับเขาสนิทกัน