Share

บทที่13

Author: ชุนกวงห่าว
อีกฝั่งเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงที่เย็นชาของเหลียงหยวนโจวก็ดังมา “สืออวี๋ ก่อนหน้านี้คนที่บอกว่าจะเลิกกันหลังจากหนึ่งเดือนนี้ก็คือคุณ แต่ตอนนี้อยู่ๆ คนที่โทรมาบอกเลิกก็คือคุณเหมือนกัน คุณจะบ้าก็ช่วยมีขอบเขตหน่อยได้ไหม? ตอนนี้ผมไม่มีเวลามาพูดไร้สาระกับคุณ รอผมกลับไปแล้วค่อยว่ากัน”

พูดจบ เขาก็ตัดสายไปอย่างเด็ดขาด

สืออวี๋วางโทรศัพท์ลง แล้วส่งไฟล์บันทึกการสนทนาระหว่างเธอกับเสินหลีในก่อนหน้านี้ไปให้เขา

แน่นอนว่าก็ส่งไปให้เซี่ยงชินเฟินด้วยเหมือนกัน

หลังจากส่งเสร็จ เธอก็กดโทรหาบริษัทจัดหาสถานที่แต่งงาน

“สวัสดีค่ะ ฉันคือสืออวี๋ เคยจองสถานที่จัดงานแต่งกับทางบริษัทของพวกคุณ ช่วยยกเลิกให้ฉันด้วยค่ะ”

ฝั่งตรงข้ามเงียบไปครู่หนึ่ง จึงค่อยมีเสียงของพนักงานตอบกลับมา “คุณหนูสือ คุณแน่ใจแล้วหรือคะว่าจะยกเลิกสถานที่จัดงานแต่งที่จองไว้?”

ปลายนิ้วที่จับโทรศัพท์ของสืออวี๋กำแน่นขึ้นเล็กน้อย แต่เสียงกลับเรียบเฉยไร้อารมณ์ใดๆ “อืม แน่ใจแล้วค่ะ”

“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว งั้นทางเราจะดำเนินการยกเลิกให้คุณนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

วางสายแล้ว สืออวี๋ก็ถอดแหวนแต่งงานบนนิ้วนางออกวางลงบนโต๊ะ จากนั้นเตรียมจะลุกไปเก็บข้าวของ แต่สายของเซี่ยงชินเฟินก็โทรมา

“สืออวี๋ ป้าขอโทษหนูนะ เป็นป้าเองที่สั่นสอนเขามาไม่ดี”

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด หากรู้แต่แรกว่าเหลียงหยวนโจวจะเลวถึงเพียงนี้ เธอก็คงไม่หน้าด้านไปขอร้องให้สืออวี๋ให้โอกาสเขาอีกครั้ง

คำขอโทษนี้ สืออวี๋สมควรได้รับ

เพราะสิ่งที่เธอสูญเสียไป ไม่ใช่แค่ความรัก แต่ยังเป็นเวลาแปดปีที่ดีที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งด้วย

คนที่สมควรพูดสองคำนี้ให้กับเธอ คือเหลียงหยวนโจว

แต่ทั้งสองเดินมาถึงจุดนี้แล้ว เรื่องถูกหรือผิด ก็ไม่จำเป็นต้องถือสาอีกต่อไปล้ว

“ป้าเซี่ยง การบันทึกเสียงป้าก็ได้ยินแล้ว หนูคิดว่าไม่จำเป็นต้องรอให้ครบหนึ่งเดือนแล้วค่ะ”

เซี่ยงชินเฟินถอนหายใจ “อืม สิ่งที่ป้าเคยพูดไป หนูก็ทำเหมือนไม่เคยได้ยินมาก่อน ผู้หญิงที่ดีอย่างหนู ต่อไปต้องได้เจอคนที่ดีกว่านี้แน่ เป็นหยวนโจวที่ไม่มีบุญเอง……”

พูดไปเซี่ยงชินเฟินก็เริ่มสะอื้น

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความทุ่มเทที่สืออวี๋มีต่อเหลียงหยวนโจว เธอล้วนเห็นอยู่ในสายตา และปฏิบัติต่อสืออวี๋เหมือนลูกสาวแท้ๆ จริง

แต่ตอนนี้ เธอเองก็ไม่มีหน้าไปพบสืออวี๋อีกแล้ว

สืออวี๋เผลอกำโทรศัพท์แน่น ความอัดอั้นถาโถมเข้ามาเหมือนคลื่นทะเลที่โถมเข้ามาจนท่วมเธอทั้งร่าง

เธอทำตัวเข้มแข็งได้ แต่เมื่อมีใครสักคนพูดปลอบใจ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าโศกขึ้นมา

เธอกะพริบตาไม่ให้น้ำตาไหลออกมา แล้วเอ่ยเสียงเบา “ป้าเซี่ยง หนูยังมีธุระ วางสายก่อนะคะ”

หลังจากตัดสายไป สืออวี๋ก็นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาสักพัก แล้วลบการติดต่อทั้งหมดของเหลียงหยวนโจวออกทีละอย่าง

สิ่งสุดท้ายที่ลบคือไลน์

ตอนพวกเขาสมัครไลน์ใหม่ ๆ คนแรกที่เพิ่มเป็นเพื่อนก็คือซึ่งกันและกัน

ตอนนั้นสืออวี๋ไม่เคยคิดเลยว่า สักวันหนึ่งเธอจะต้องลบเขาทิ้ง

การลบเพื่อนในไลน์ต้องเริ่มจากกดเข้าไปที่หน้าต่างแชทของทั้งสองคนก่อน จากนั้นกดที่รูปโปรไฟล์ของอีกฝ่าย จะมีหน้าข้อมูลส่วนตัวและหน้าโมเมนต์ของอีกฝ่ายเด้งขึ้นมา แล้วค่อยกดที่จุดสามจุดด้านขวาบน ถึงจะมีตัวหนังสือสีแดงลบผู้ติดต่อปรากฏขึ้นมา

สืออวี๋เห็นกล่องข้อความเต็มหน้าจอที่เป็นฟองสีเขียว ก่อนจะเห็นรูปวิวทะเลมัลดีฟส์ที่เหลียงหยวนโจวปักหมุดไว้ในหน้าโมเมนต์ สุดท้ายก็มาถึงหน้าลบผู้ติดต่อ

เมื่อกดลบผู้ติดต่อ จากนั้นที่ด้านล่างของหน้าจอก็จะเด้งหน้าต่างแจ้งเตือนสีขาวขึ้นมา ด้านบนมีตัวอักษรสีเทาหนึ่งบรรทัด

【ลบผู้ติดต่อ “เหลียงหยวนโจว” ออก พร้อมทั้งลบประวัติแชททั้งหมด】

ข้างล่างมีปุ่มตัวเลือกลบผู้ติดต่อกับยกเลิกอยู่สองปุ่ม

สืออวี๋จ้องข้อความสีเทานั้นอยู่หลายรอบ ก่อนจะกดลบลงไปในที่สุด

หลังจากนั้นลบไลน์แล้ว เธอก็ล้างรูปในอัลบั้มจนหมด แล้วลุกขึ้นเริ่มเก็บข้าวของของเหลียงหยวนโจว

บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความทรงจำของเธอกับเหลียงหยวนโจว ตอนเก็บข้าวของ ความทรงจำเหล่านั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง

ตุ๊กตาหมีเล็กๆ บนหัวเตียงคือของฝากตอนที่เหลียงหยวนโจวเดินทางไปทำงานต่างประเทศ แปรงสีฟันไฟฟ้าคู่รักในห้องน้ำคือสิ่งที่พวกเขาไปซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต แก้วคู่รูปแมวน่ารักบนโต๊ะคือผลงานที่พวกเขาไปทำที่ร้านเครื่องปั้นดินเผา……

เมื่อก่อนเห็นสิ่งเหล่านี้ ใจของเธอก็เต็มไปด้วยความสุข

ตอนนี้ กลับรู้สึกว่าสรรพสิ่งยังเหมือนเดิม แต่คนเปลี่ยนไป

เมื่อเก็บมาถึงตอนท้าย เธอหยิบแหวนจากกล่องเครื่องประดับขึ้นมา

มองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเก็บใส่กระเป๋าเดินทาง

เครื่องประดับชิ้นอื่นเธอทิ้งไปหมด เหลือเพียงแหวนวงนี้ เป็นของที่เขามอบให้เธอในช่วงเวลาที่เขารักเธอมากที่สุด มันบรรจุความรักในตอนนั้นของเขา

ตอนนี้คืนให้เขา ก็ถือเป็นการปิดฉากความรักแปดปีนี้ลงเรียบร้อยแล้ว

เก็บไปได้ครึ่งหนึ่ง เหลียงหยวนโจวก็กลับมา

เห็นของใช้ตัวเองถูกเก็บใส่ถุงอันหนึ่งไว้ เขามองเธอด้วยสายตาเยาะเย้ย

“คราวนี้เล่นละครได้สมจริงทีเดียว คุณทนเสินหลีไม่ไหวขนาดนั้นเลยเหรอ ต้องก่อเรื่องก่อราวบีบบังคับให้ผมตัดสินใจเลือกระหว่างคุณกับเธอใช่ไหม?”

“อาอวี คุณควรรู้ดีว่า ผมไม่มีทางเลือกคุณ ทำไมต้องหาให้ตนเองขายหน้าด้วย?”

ปลายนิ้วของสืออวี๋ที่จับกรอบรูปแน่นซีดขาว ผ่านไปหลายวินาที ถึงเงยหน้ามองเขา “คุณไม่ต้องเลือก ฉันเลือกแทนคุณแล้ว เราเลิกกัน คุณอยู่ไปกับเธอ”

จ้องใบหน้าซีดเซียวของสืออวี๋อยู่พักหนึ่ง ใจของเหลียงหยวนโจวก็มีความโกรธผุดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ ก่อนหัวเราะเยาะ

“โอเค งั้นคุณก็เสแสร้งต่อเลย ผมจะดูว่าคุณจะเสแสร้งถึงไหนกันแน่!”

พูดจบ เขาก็ปิดประตูแล้วเดินออกไป

สืออวี๋ก้มหน้าลง กดทับความรู้สึกปั่นป่วนในอก แล้วก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอนัดให้บริษัทขนส่งมารับของ

ไม่นานพนักงานส่งของก็มาถึง ตอนเขายกของลงไป สืออวี๋ก็ทิ้งชุดแต่งงานลงไปด้วย

มองดูรถสามล้อที่ค่อยๆ หายไปจากสายตาตัวเอง สืออวี๋ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดในอก แปดปีที่ผ่านมาก็ค่อยๆ จางหายไปเช่นกัน

โชคดีที่ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิดไว้ และไม่ได้เสียดายอะไรขนาดนั้น

ตอนเช้า10โมง เหลียงหยวนโจวประชุมเสร็จกลับเข้าห้องทำงาน เลขาจงชู่เคาะประตูแล้วเข้ามา

“ประธานเหลียง คุณหนูสือส่งพัสดุมา ดูเหมือนจะเป็นของใช้ส่วนตัวของคุณ ตอนนี้อยู่ที่ชั้นหนึ่ง จะให้ส่งไปที่อวี่ถิงหรือจะจัดการยังไงดี?”

มือที่จะไปหยิบแฟ้มเอกสารของเหลียงหยวนโจวชะงักเล็กน้อย ดึงเนกไทแน่นขึ้น สีหน้าเย็นชาโดยไม่พูดอะไร

ก็แค่เสินหลีโทรไปยั่วยุเธอ เธอเลยโทรหาให้แม่เหลียง แล้วยังจะบอกเลิก แถมยังเก็บข้าวของของเขาแล้วส่งมาอีก

คิดหรือว่าทำแบบนี้ เขาจะยอมอ่อนข้อ?

ถ้ายังไม่แต่งงานก็ถูกเธอคุมควบ แต่งงานแล้วจะวุ่นวายถึงไหนกันก็ยังไม่รู้เลย

ในเมื่อเธออยากก่อความวุ่นวาย งั้นก็รอให้เธอใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องแต่งงานกัน

ยังไงเสียทุกครั้งที่ทะเลาะกัน สุดท้ายทุกครั้งเธอก็ต้องเป็นคนมาอ้อนขอคืนดีไม่ใช่เหรอ?

เมื่อเห็นเขาเงียบ จงชู่ก็ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่ายังไง และไม่กล้าพูดอะไรต่อ

เหลียงหยวนโจวเปิดแฟ้มงาน และพูดอย่างเฉยชาว่า “รู้แล้ว เอาไปทิ้งซะ”

“ครับ ประธานเหลียง”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา จงชู่เคาะประตูเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง ยื่นกล่องในมือให้เขา

“ประทานเหลียง เจ้าหน้าที่เก็บของเห็นสิ่งนี้อยู่ในของส่วนตัวของคุณ เนื่องจากมันมีมูลค่าสูงเกินไป จึงไม่กล้าเอาไปจัดการเอง จึงนำกลับมาให้คุณ อันนี้ก็ต้องทิ้งเหรอครับ?”

เหลียงหยวนโจวเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นแหวนวงนั้นก็ชะงักไป รู้ทันทีว่านั่นเป็นแหวนเพชรที่เขาทำให้สืออวี๋กับมือเองตอนอยู่สมัยเรียนมหาลัย

แต่เพียงครู่เดียว สีหน้าก็กลับมาเย็นชาเช่นเดิม

“อืม”

“ครับ”

ออกจากห้องทำงาน จงชู่ถ่ายรูปแหวนส่งไปถามเพื่อนที่เปิดร้านรับซื้อเครื่องประดับว่าแหวนวงนี้สามารถขายได้ราคาเท่าไหร่

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าอีกฝ่ายถึงจะตอบเขา

【50】

จงชู่……

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จงชู่ก็โยนแหวนพร้อมกล่องทิ้งลงถังขยะ

บ่ายวันนั้น สืออวี๋ก็ลางานหนึ่งสัปดาห์กับเจ้านายแห่งสำนักงานกฎหมาย แล้วจองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์ไฟลต์รอบดึก

หลังจากบินแปดชั่วโมงเต็ม เครื่องบินก็ค่อยๆ ลงจอดที่สนามบินมาเล่

เวลามัลดีฟส์ช้ากว่าในประเทศสามชั่วโมง ตอนที่สืออวี๋ถึงมัลดีฟส์ก็หกโมงกว่าแล้ว

รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว หน้าทางออกสนามบินก็มีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมถือป้ายรอรับเพื่อพาไปโรงแรม

สืออวี๋เดินไปแสดงใบสั่งจองโรงแรม รออยู่สักพัก พอทุกคนครบแล้วก็เดินตามเจ้าหน้าที่ออกไป ขึ้นเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะ

เช็กอินเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ช่วยเธอยกกระเป๋าไปยังห้องพัก

สืออวี๋ถ่ายรูปวิวทะเลลงโมเมนต์พร้อมแคปชัน

【สถานที่ที่เฝ้ารอมานานแปดปี ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงอย่างราบรื่น! ❤️❤️❤️】

พึ่งลงลงโมเมนต์ได้ไม่นาน ซ่งจื่ออินก็โทรเข้ามา

“ในที่สุดเหลียงหยวนโจวก็มีเวลาว่างให้แกแล้วเหรอ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่85

    สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม หันไปมองสืออวี๋กับซือเยี่ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกลตอนนี้สืออวี๋กำลังเงยหน้าคุยกับซือเยี่ยน ดวงตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ได้มีท่าทางเย็นชาเหมือนตอนเขาเลยสักนิดเลย“ก็ได้ ฉันจะขอโทษเขา!”วันนี้เขาถูกซือเยี่ยนเล่นงาน ก็ถือว่าเขาซวยไปแต่ผู้ชายคนนี้จะแบกรับคำขอโทษของเขาไหวหรือไม่ มันก็คืออีกเรื่องหนึ่งแล้ว!เขาหันตัวรีบเดินไปหาสืออวี๋กับซือเยี่ยน จนมายืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน เขาจึงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “สืออวี๋ ผมขอโทษเขาได้”สืออวี๋มองเขาแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างหมดความอดทน “รบกวนคุณรีบหน่อย ฉันยังมีธุระต่อ”ในใจของเหลียงหยวนโจวมีไฟโกรธลุกโชนขึ้นมา แต่ก็ถูกเขาพยายามกดมันไว้“คุณซือ เมื่อกี้เป็นผมที่วู่วามไป คุณโปรดให้อภัยผมด้วย”ซือเยี่ยนมองเขา ดวงตาแฝงแววเยาะเย้ยจาง ๆ“ประธานเหลียง ไม่เป็นไรหรอก ครั้งหน้าก็อย่าวู่วามแบบนี้อีกนะ”พูดจบ เขาหันมองสืออวี๋ “ตอนนี้ประธานเหลียงก็ขอโทษแล้ว เราก็ยอมรับการไกล่เกลี่ยจากตำรวจเถอะ”สืออวี๋พยักหน้า “โอเค”เห็นสืออวี๋ไม่แม้แต่จะเหลียวแลมองมาทางตัวเอง สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็เริ่มตึงเครียด เส้นเลือดที่ขมับเต้

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่84

    ต่อหน้าเขาแต่เธอกลับไปปกป้องผู้ชายอีกคนแทน?แถมยังเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก!“สืออวี๋ นี่คุณดูไม่ออกหรือว่ามันแกล้ง?!”ในดวงตาของสืออวี๋เต็มไปด้วยความเหลือทน “เขาแกล้งอะไร? ฉันเห็นแค่คุณทำร้ายเขาอย่างไม่มีเหตุผล ต่อยเขาจนได้รับบาดเจ็บ”“ถ้าเขาไม่พูดคำพูดเหล่านั้น ผมจะลงมือเหรอ?”สืออวี๋ขมวดคิ้ว “คุณทำก็ทำไปแล้ว ยังจะมาบอกว่าเขาพูดได้ไม่เข้าหู?”“ฉันไม่อยากพูดไร้สาระกับคุณ รีบขอโทษซะ!”ท่าทางที่เย็นชาและห่างเหินของเธอ ราวกับต้องการตัดขาดกับเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้เหลียงหยวนโจวเสียสติไปในที่สุด“ให้ผมขอโทษเขา? คุณฝันไปเถอะ!”“ได้ ในเมื่อคุณไม่ยอมขอโทา งั้นฉันก็คงต้องแจ้งความ แต่ฉันต้องขอเตือนคุณก่อนว่า ตามมาตรา 43 ของกฎหมายว่าด้วยการลงโทษทางปกครองด้านความมั่นคงสาธารณะ การทำร้ายผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล อาจถูกควบคุมตัวไม่เกินห้าวัน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพัน”เหลียงหยวนโจวคิดไม่ถึงว่า สืออวี๋จะทำแบบนี้กับตัวเองเพราะผู้ชายอีกคนสายตาเขาเย็นชา เต็มไปด้วยความโกรธ“สืออวี๋ คุณแน่ใจเหรอว่าเพื่อคนที่ไม่สำคัญแบบนี้คนหนึ่ง ถึงขั้นเอาเรื่องไปถึงโรงพัก?”มือของสืออวี๋ค่อย ๆ กำแน่น เงยหน้ามองเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่83

    สืออวี๋ตกใจกับเหลียงหยวนโจวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เท้าลื่นเกือบล้มทันใดนั้น มือที่แข็งแรงข้างหนึ่งก็ยื่นมารองที่เอวของเธอไว้ ตามด้วยเสียงที่อ่อนโยนของซือเยี่ยน “เป็นอะไรไหม?”สืออวี๋ส่ายหน้า มองเขาด้วยความขอบคุณ “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”ซือเยี่ยนถอนมือกลับอย่างสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เป็นไร”เหลียงหยวนโจวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ความโกรธในอกเหมือนไฟลุกโชน ยิ่งลุกก็ยิ่งเดือดเขายื่นมืออยากจะดึงสืออวี๋มาข้างๆ แต่ยังไม่ทันแตะตัวสืออวี๋ ก็ถูกซือเยี่ยนขวางไว้“คุณเหลียง คุณอย่าจับมือถือแขนสืออวี๋”มือของเหลียงหยวนโจวถูกผลักออก ความโกรธยิ่งพุ่งสูงเขไม่แม้แต่จะมองซือเยี่ยน สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องไปที่สืออวี๋เมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นสวีอวี่เจ๋อ ตอนนี้ก็เปลี่ยนผู้ชายอีกคน อีกไม่นาน เธอก็จะเปลี่ยนอีกคนแล้วใช่ไหม?เพื่อจะยั่วให้เขาโมโห เธอก็คิดหาทุกวิถีทางเลยจริงๆ!“มานี่!”ทั้งน้ำเสียงที่เย็นชา และกรามที่เกร็ง ล้วนบ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังโกรธจัดแต่สืออวี๋ในตอนนี้ไม่สนใจอีกแล้วพวกเขาเลิกกันแล้ว เขาจะดีใจหรือโกรธ ก็ไม่เกี่ยวกับเธออีก

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่82

    พอวางสายแล้ว สาตาของเสินหลีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชารอสืออวี๋กลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ เธอไม่เชื่อว่าเหลียงหยวนโจวยังจะชอบสืออวี๋อีก!อีกด้านหนึ่ง หานเชี่ยนวางโทรศัพท์ลง แล้วหันมองช่างทำเล็บที่กำลังทำเล็บให้เธอ “ทำเร็วๆหน่อย เดี๋ยวฉันยังจะต้องไปพบคุณชายซ่ง ถ้าทำให้ฉันเสียเวลา ฉันจะไม่ปล่อยเธอแน่!”ช่างทำเล็บชินกับนิสัยชอบสั่งอย่างเย่อหยิ่งของหานเชี่ยนแล้ว จึงตอบอย่างนอบน้อม “ค่ะ คุณหนูหาน”หลังจากทำเล็บเสร็จ ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วหานเชี่ยนมองเล็บใหม่อย่างพอใจ หยิบกระเป๋าแล้วขับรถตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับซ่งจื่อเฉียนไว้เมื่อพนักงานพาเธอไปยังห้องส่วนตัว ซ่งจื่อเฉียนก็รอเธออยู่แล้วเมื่อเห็นซ่งจื่อเฉียน บนใบหน้าของหานเชี่ยนก็เต็มไปด้วยความดีใจ เดินตรงไปหาเขาทันทีเห็นเธอนั่งลงที่ข้างๆตัวเอง ซ่งจื่อเฉียนก็ขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็นชาว่า “คุณหนูหาน ผมไม่ชอบนั่งใกล้กับคนที่ไม่สนิทขนาดนี้ กรุณานั่งให้ห่างจากผมหน่อย”ร่างกายของหานเชี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ พยายามฝืนยิ้ม มองดูซ่งจื่อเฉียนแล้วพูดว่า “คุณชายซ่ง วันนี้คุณนัดฉันมา ไม่ใช่เพราะอยากให้สถานะกับฉันหรือ?”หลังจากคืนนั้น เธ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่81

    เขารู้สึกว่าสืออวี๋ไม่มีทางเลิกกับเขาจริงๆ และในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าพฤติกรรมช่วงนี้ของสืออวี๋มันไม่ปกติ ทำให้เขารู้สึกเหมือนจะสูญเสียเธอไปได้ทุกเมื่อยิ่งคิด สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็ยิ่งเคร่งเครียดตอนที่เสินหลีเคาะประตูเข้ามา ก็เห็นเหลียงหยวนโจวนั่งเหม่อมองเอกสารอยู่เธอกัดริมฝีปากล่าง สีหน้าซับซ้อน ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋เลิกกันแล้ว เธอก็เห็นเขาเหม่อลอยอยู่เป็นประจำช่วงนี้แม้เหลียงหยวนโจวจะยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อหน้าเพื่อนและคนในบริษัทโดยปริยาย แต่เสินหลีกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกกังวลเพราะเธอพบว่า เหลียงหยวนโจวไม่ได้มีความกระตือรือร้นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วและทุกครั้งที่มีสืออวี๋อยู่ในเหตุการณ์ สายตาของเหลียงหยวนโจวก็จะมองไปที่สืออวี๋เสมอ ทำให้เธอทนไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการคือ ในสายตาของเหลียงหยวนโจวมีเพียงเธอคนเดียว!“ประธานเหลียง นี่คือเอกสารที่ต้องเซ็นวันนี้ค่ะ”เหลียงหยวนโจวดึงสติกลับมา เงยหน้าขึ้นมองเธอ อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามา?”เสินหลีหน้าซีด “ประธานเหลียง ฉันเคาะแล้วค่ะ……อาจเป็นเพราะคุณเหม่อลอยอยู่ เล

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่80

    สืออวี๋หันไปมองเขา “คดีของหวังซันซันไม่ต้องตามต่อแล้วนะ อีกไม่กี่วันเธอจะมายกเลิกสัญญา”ซือห่าวอวี่ขมวดคิ้วแน่น แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “เธอจะเปลี่ยนทนาย? ทำไมล่ะ?”คดีของหวังซันซัน สืออวี๋ติดตามอย่างทุ่มเทเต็มที่ แถมการพิจารณาคดีรอบแรกก็จบไปแล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าสู่รอบที่สอง ทำไมอยู่ดีๆอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนทนาย?!“เธอหาทนายที่เก่งกว่าได้ ทนายคนนั้นเป็นมืออาชีพมาก เคยทำคดีหย่าร้างมาเยอะ”“ถึงทนายคนนั้นจะมืออาชีพแค่ไหน เธอก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ?มันเกินไปแล้ว พี่ไม่น่าจะยอมให้เธอเปลี่ยนทนายเลย!”พอนึกถึงช่วงที่ผ่านมานี้เพื่อคดีของหวังซันซันแล้วสืออวี่ลำบากแทบแย่ เรียกเมื่อไรก็ต้องไปทันที แต่อีกฝ่ายกลับมาเปลี่ยนทนายในจังหวะสำคัญแบบนี้ ในใจของซือห่าวอวี่ก็รู้สึกโกรธขึ้นอย่างอดไม่ได้“ถ้าไม่ยอม เธอก็คงไม่ให้ความร่วมมือ ยื้อคดีนี้ไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเหมือนกัน”อีกอย่าง เรื่องนี้ก็จะโทษหวังซันซันคนเดียวไม่ได้ทางเหลียงหยวนโจวต้องเสนออะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ เธอถึงได้โทรมาเปลี่ยนทนายไม่ว่าอย่างไร เธอก็หวังให้คดีนี้ชนะเพราะตามนิสัยของเยว่เผิงแล้ว ถ้าแพ้ ต่อไปยังไม่รู้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status