Share

บทที่12

Author: ชุนกวงห่าว
“สืออวี๋ คำบางคำพูดเยอะไป แม้แต่ตัวเองยังหลงเชื่อเลย”

คำว่าหนึ่งเดือน ก็เป็นแค่ข้ออ้างที่เธอหามาเพื่อช่วยให้ตัวเองออกจากสถานการณ์น่าอับอายเท่านั้นเอง ถ้าเขาเชื่อ ก็แปลว่าเขาโง่

เห็นว่าเขาไม่เชื่อสักที สืออวี๋ก็ไม่คิดจะอธิบายอีก

เพราะอย่างไรเขาก็ไม่มีทางตัดขัดกับเสินหลี เธอแค่ต้องทนผ่านเวลาที่เหลือ และชดใช้บุญคุณช่วยชีวิตของเซี่ยงชินเฟินเสร็จ ก็สามารถจากไปได้

ไม่นาน เสินหลีก็รู้เรื่องระยะเวลาหนึ่งเดือนของสืออวี๋กับเหลียงหยวนโจว

แต่เหลียงหยวนโจวเล่าเรื่องนี้ให้เสินหลีฟังขณะที่อุ้มเธออยู่ในอ้อมแขน เล่าเหมือนเล่าเรื่องตลกให้เธอฟัง

เสินหลีนั่งอยู่บนตักของเหลียงหยวนโจว ทำปากจู๋แล้วถาม “ประธานเหลียง ที่คุณหนูสือพูดมันจริงหรือเปล่าคะ?”

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง ถ้าสืออวี๋อยากจากไปเองจริงๆ เธอก็จะกลายเป็นแฟนของเหลียงหยวนโจวอย่างสมเหตุสมผลแล้วไม่ใช่หรือ?

แม้ว่าเธอจะบอกกับเหลียงหยวนโจวว่า ขอแค่ได้อยู่กับเขา ต่อให้ไม่มีสถานะก็ไม่เป็นไร แต่ผู้หญิงคนไหนจะอยากเป็นรักซ้อนของผู้ชายที่ตัวเองรักไปตลอดชีวิตล่ะ?

“เป็นไปไม่ได้ ผมรู้จักเธอดี หลังรู้ว่าผมกับคุณอยู่ด้วยกันสามปีแล้วก็ยังไม่ยอมเลิกกัน และยังใช้แม่ผมมาบังคับให้ผมแต่งงานกับเธออีก จะจากไปได้ยังไง?”

มองดูท่าทางที่พูดเองเอ่ยเองของเหลียงหยวนโจว เสินหลีก็รู้สึกว่าเขายังไม่เข้าใจผู้หญิง

เธอเคยมีปฏิสัมพันธ์กับสืออวี๋มาหลายครั้ง และคิดว่าตัวเองพอจะเข้าใจสืออวี๋ดี

สืออวี๋ภายนอกดูอ่อนโยน แต่ลึกๆ ก็เป็นคนที่ทะนงตน

สามปีที่ผ่านมานี้ไม่ยอมเลิก ก็เพราะรักเหลียงหยวนโจวมากเกินไป

ตอนนี้ทั้งสองใกล้จะแต่งงานแล้ว สืออวี๋กลับบอกเลิกในตอนนี้ คิดเป็นเพราะผิดหวังในตัวเหลียงหยวนโจวมากแล้วจริง

เหลียงหยวนโจวยังไม่รู้ แต่เธอเข้าใจดีว่า สำหรับเธอแล้วนี่คือโอกาสหนึ่ง

โอกาสที่จะกำจัดสืออวี๋ออกจากชีวิตสืออวี๋โดยสิ้นเชิง และขึ้นแทนเธอ!

เธอต้องหาวิธีทำให้สืออวี๋ตายใจจากเหลียงหยวนโจวโดยสิ้นเชิงให้ได้!

……

ในสัปดาห์ถัดมา แม้เหลียงหยวนโจวยังคงกลับบ้านทุกวัน แต่จะโทรหาเสินหลีหรืออื่นๆต่างก็ทำต่อหน้าสืออวี๋โดยตรง ไม่ได้ปกปิดเหมือนก่อนหน้านี้

เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจจะให้เธอรู้ถึงอำนาจของเขาก่อนแต่งงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีทางตัดขัดกับเสินหลีเด็ดขาด

สืออวี๋ก็ไม่ได้สนใจ ทำเหมือนไม่ได้ยิน

แต่ในใจก็ยังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

เธอสามารถตัดใจจากเหลียงหยวนโจวได้ แต่ยังไม่สามารถถอนความรักของตัวเองกลับมาได้ทันที

บางทีอาจยังต้องใช้เวลาอักสักพัก หัวใจถึงจะไม่เจ็บเพราะเขาอีก

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชุดแต่งงานที่สืออวี๋สั่งทำในร้านก็ส่งมาถึง

พนักงานส่งของนำชุดแต่งงานมาส่ง ให้สืออวี๋เซ็นชื่อรับของเสร็จแล้วจากไป

ชุดแต่งงานแขวนอยู่กลางห้องนั่งเล่น สวยสะดุดตาเหมือนตอนที่สืออวี๋ไปลองในร้านครั้งก่อนเลย แต่ตอนนี้เธอไม่ได้มีอารมณ์ตื่นเต้นหรือคาดหวังเหมือนตอนนั้นแล้ว

เธอยืนมองชุดแต่งงานสักพัก ชุดแต่งงานนี้ คงไม่มีโอกาสได้ใส่แล้ว

เอาชุดแต่งงานลงมา เตรียมจะพับแล้วใส่เข้าไปในถุง จู่ๆสืออวี๋ก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ

ชายกระโปรงด้านหลังชุดแต่งงาน มีคราบขาวปนเหลืองหลายจุด เพราะมันจางมัน ถ้าไม่สังเกตดีๆก็มองไม่เห็น

สืออวี๋ขมวดคิ้ว กำลังจะโทรหาร้านชุดแต่งงาน มือถือก็มีข้อความเข้ามา

【คุณหนูสือ ฉันคือเสินหลี ฉันเห็นสถานะพัสดุขึ้นว่าถึงมือแล้ว คุณคงได้รับชุดแต่งงานแล้วสินะ?】

ม่านตาของสืออวี๋หดตัว มือที่ถือชุดแต่งงานกำแน่น

ชุดแต่งงานของเธอเสินหลีเป็นคนส่งมางั้นเหรอ?

เธอโทรไปที่ร้านชุดแต่งงาน แต่กลับพึ่งรู้ว่าเหลียงหยวนโจวได้เอาชุดแต่งงานไปตั้งสามวันก่อนแล้ว

สามวันก่อนก็เอาไปแล้ว วันนี้เธอพึ่งได้รับ

ใจของเสินหลีค่อย ๆ ร่วงหล่นลงไป

มือถือดังขึ้น เป็นเบอร์ที่ส่งข้อความมาเมื่อกี้

เธอสไลด์รับสาย พูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา “เสินหลี คุณทำอะไรกับชุดแต่งงานฉัน?”

เสินหลีหัวเราะเบา ๆ และพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณไม่ควรถามว่าฉันทำอะไรไป แต่ควรถามว่าฉันกับประธานเหลียงทำอะไรไป ทำที่ไหน?”

“ฉันใส่ชุดของคุณ ทำกับเขาที่เตียงใหญ่ในห้องแต่งงานของคุณหลายครั้งเลย ทุกครั้งเขาก็ตื่นเต้นมาก ฉันก็เช่นกัน เพราะมันเร้าใจเกินไป”

“ช่วงนี้ตอนคุณไปทำงาน ฉันไปเจอกับเขาที่ห้องแต่งงานของคุณ”

“ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นของห้องแต่งงานนั้น……ทุกที่ล้วนทิ้งร่องรอยของพวกเราเอาไว้ แต่ฉันชอบที่สุดก็คือเตียงใหญ่ในห้องนอน……”

น้ำเสียงเสินหลีเต็มไปด้วยความได้ใจ ทุกคำพูดเต็มไปด้วยเจตนาร้าย

สืออวี๋คิดว่าได้ยินคำพูดพวกนี้แล้ว ตัวเองจะโกรธ คลั่งไคล้ หรือเสียใจ

แต่อะไรก็ไม่รู้สึก

เธอในตอนนี้สงบมาก

ราวกับคลื่นสึนามิพัดผ่านหัวใจ ทิ้งไว้เป็นซากปรักหักพังที่พังทลายและเงียบสงัด

แต่ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง กลับไม่รู้สึกอะไรเลย

“คุณโทรมา ก็เพื่อที่จะพูดเรื่องที่น่าขยะแขยงนี้ของพวกคุณหรือไง?”

น้ำเสียงเธอเย็นชา ราวกับว่ากำลังพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลย

“แน่นอนว่าไม่ใช่ ฉันแค่อยากบอกคุณว่า ประธานเหลียงเบื่อคุณนานแล้ว อย่าว่าแต่หนึ่งเดือนเลย ต่อให้เป็นหนึ่งปี สิบปี เขาก็ไม่มีทางเหลียวแลมามองคุณ อย่าได้เสียแรงไปเลย”

“สืออวี๋ บางครั้งฉันก็รู้สึกสงสารคุุณดี ยื้อผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่รักคุณไว้ จะแต่งให้กับเขาอย่างไรยางอาย เหมือนหมาขี้เรื้อนที่ขว้างทิ้งไม่พ้น น่าขยะแขยงจริงๆเลย”

“อ้อ ฉันได้ยินประธานเหลียงพูดว่า คนในบ้านคุณก็ไม่ชอบคุณ เลยตั้งชื่อคุณว่าสืออวี๋ ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านคุณ หรือระหว่างฉันกับประธานเหลียง คุณก็เหมือนเป็นคนที่เกินความจำเป็นอยู่ดีนะ”

คำว่าอวี๋ของสืออวี๋ แปลว่าเกินความจำเป็น

ประโยคนี้สือม่านเป็นคนบอกกับเธอเอง

นอกจากเหลียงหยวนโจว เธอไม่เคยบอกใครเลย

ตอนนั้นเหลียงหยวนโจวโอบเธอเข้าอ้อมกอดด้วยความเจ็บปวดใจ บอกว่าเธอยังมีเขาอยู่ ต่อไปเขาจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอ

แต่ตอนนี้ เขากลับเป็นคนที่รังแกเธอร่วมกับคนอื่น

แต่ก็ไม่สำคัญแล้ว

“พูดจบหรือยัง?”

คิดไม่ถึงว่าการตอบสนองของสืออวี๋จะสงบขนาดนี้ เสินหลีรู้สึกเหมือนไม่มีผลกระทบอะไรต่อสืออวี๋ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดในใจ ไม่ขึ้นไม่ลง

สีหน้าของเธอบิดเบี้ยว เสียงก็เปลี่ยนโทน “ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะไม่ให้คุณแต่งงานกับประธานเหลียง คนที่แต่งงานกับประธานเหลียงต้องเป็นฉันคนเดียว!”

“อืม งั้นฉันก็ขอให้คุณสมปรารถนาเร็วๆ”

สืออวี๋ตัดสายอย่างสงบ บล็อกเบอร์ของเสินหลี

หันไปมองชุดเจ้าสาวที่แขวนอยู่กลางห้องนั่งเล่น ในหัวพลันนึกถึงภาพในอดีตที่เหลียงหยวนโจวหน้าแดงระเรื่อ ค่อยๆ ยื่นแหวนต่อหน้าเธออย่างระมัดระวัง

ความรักเต็มหัวใจในตอนนั้นเป็นความจริง แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจไปรักคนอื่นก็เป็นความจริงเช่นกัน

หลังจากที่เธอรู้ว่าเขาแอบนอกใจ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เธอเคยพังทลาย ร้องไห้ สิ้นหวัง ยอมแพ้ คลั่งไคล้ ครั้งหนึ่งที่เธอทะเลาะกับเหลียงหยวนโจวรุนแรงที่สุด เขาบอกว่าเธอมันเป็นบ้า

แต่ตอนนั้น เป็นช่วงที่เธอรักเขาที่สุด

ตอนนี้ ความรักของเธอหมดสิ้นไปแล้ว

บางทีก็ควรปล่อยเขา และปล่อยตัวเองบ้าง

สืออวี๋ก้มมองโทรศัพท์อยู่สักพัก แล้วกดหมายเลขนั้นทีละตัว ตัวเลขที่เธอจำขึ้นใจอย่างคล่องแคล่ว

รอบแรก ไม่มีคนรับ

รอบที่สอง ไม่มีคนรับ

รอบที่สาม ก็ยังไม่มีคนรับ

สืออวี๋มีความอดทนมาก โทรต่อ

……

ไม่รู้ว่าโทรไปกี่รอบ อีกฝ่ายก็รับสายสักที เสียงที่ไม่พอใจของเหลียงหยวนโจวดังมา “สืออวี๋ ผมกำลังคุยธุรกิจอยู่ จู่ๆคุณก็เป็นบ้าอะไรของคุณ?”

สืออวี๋นึกภาพออกว่า คนปลายสาวหงุดหงิดแค่ไหน

แต่ นี่คือครั้งสุดท้ายแล้ว

“เหลียงหยวนโจว เราเลิกกันเถอะ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่85

    สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม หันไปมองสืออวี๋กับซือเยี่ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกลตอนนี้สืออวี๋กำลังเงยหน้าคุยกับซือเยี่ยน ดวงตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ได้มีท่าทางเย็นชาเหมือนตอนเขาเลยสักนิดเลย“ก็ได้ ฉันจะขอโทษเขา!”วันนี้เขาถูกซือเยี่ยนเล่นงาน ก็ถือว่าเขาซวยไปแต่ผู้ชายคนนี้จะแบกรับคำขอโทษของเขาไหวหรือไม่ มันก็คืออีกเรื่องหนึ่งแล้ว!เขาหันตัวรีบเดินไปหาสืออวี๋กับซือเยี่ยน จนมายืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน เขาจึงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “สืออวี๋ ผมขอโทษเขาได้”สืออวี๋มองเขาแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างหมดความอดทน “รบกวนคุณรีบหน่อย ฉันยังมีธุระต่อ”ในใจของเหลียงหยวนโจวมีไฟโกรธลุกโชนขึ้นมา แต่ก็ถูกเขาพยายามกดมันไว้“คุณซือ เมื่อกี้เป็นผมที่วู่วามไป คุณโปรดให้อภัยผมด้วย”ซือเยี่ยนมองเขา ดวงตาแฝงแววเยาะเย้ยจาง ๆ“ประธานเหลียง ไม่เป็นไรหรอก ครั้งหน้าก็อย่าวู่วามแบบนี้อีกนะ”พูดจบ เขาหันมองสืออวี๋ “ตอนนี้ประธานเหลียงก็ขอโทษแล้ว เราก็ยอมรับการไกล่เกลี่ยจากตำรวจเถอะ”สืออวี๋พยักหน้า “โอเค”เห็นสืออวี๋ไม่แม้แต่จะเหลียวแลมองมาทางตัวเอง สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็เริ่มตึงเครียด เส้นเลือดที่ขมับเต้

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่84

    ต่อหน้าเขาแต่เธอกลับไปปกป้องผู้ชายอีกคนแทน?แถมยังเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก!“สืออวี๋ นี่คุณดูไม่ออกหรือว่ามันแกล้ง?!”ในดวงตาของสืออวี๋เต็มไปด้วยความเหลือทน “เขาแกล้งอะไร? ฉันเห็นแค่คุณทำร้ายเขาอย่างไม่มีเหตุผล ต่อยเขาจนได้รับบาดเจ็บ”“ถ้าเขาไม่พูดคำพูดเหล่านั้น ผมจะลงมือเหรอ?”สืออวี๋ขมวดคิ้ว “คุณทำก็ทำไปแล้ว ยังจะมาบอกว่าเขาพูดได้ไม่เข้าหู?”“ฉันไม่อยากพูดไร้สาระกับคุณ รีบขอโทษซะ!”ท่าทางที่เย็นชาและห่างเหินของเธอ ราวกับต้องการตัดขาดกับเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้เหลียงหยวนโจวเสียสติไปในที่สุด“ให้ผมขอโทษเขา? คุณฝันไปเถอะ!”“ได้ ในเมื่อคุณไม่ยอมขอโทา งั้นฉันก็คงต้องแจ้งความ แต่ฉันต้องขอเตือนคุณก่อนว่า ตามมาตรา 43 ของกฎหมายว่าด้วยการลงโทษทางปกครองด้านความมั่นคงสาธารณะ การทำร้ายผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล อาจถูกควบคุมตัวไม่เกินห้าวัน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพัน”เหลียงหยวนโจวคิดไม่ถึงว่า สืออวี๋จะทำแบบนี้กับตัวเองเพราะผู้ชายอีกคนสายตาเขาเย็นชา เต็มไปด้วยความโกรธ“สืออวี๋ คุณแน่ใจเหรอว่าเพื่อคนที่ไม่สำคัญแบบนี้คนหนึ่ง ถึงขั้นเอาเรื่องไปถึงโรงพัก?”มือของสืออวี๋ค่อย ๆ กำแน่น เงยหน้ามองเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่83

    สืออวี๋ตกใจกับเหลียงหยวนโจวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เท้าลื่นเกือบล้มทันใดนั้น มือที่แข็งแรงข้างหนึ่งก็ยื่นมารองที่เอวของเธอไว้ ตามด้วยเสียงที่อ่อนโยนของซือเยี่ยน “เป็นอะไรไหม?”สืออวี๋ส่ายหน้า มองเขาด้วยความขอบคุณ “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”ซือเยี่ยนถอนมือกลับอย่างสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เป็นไร”เหลียงหยวนโจวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ความโกรธในอกเหมือนไฟลุกโชน ยิ่งลุกก็ยิ่งเดือดเขายื่นมืออยากจะดึงสืออวี๋มาข้างๆ แต่ยังไม่ทันแตะตัวสืออวี๋ ก็ถูกซือเยี่ยนขวางไว้“คุณเหลียง คุณอย่าจับมือถือแขนสืออวี๋”มือของเหลียงหยวนโจวถูกผลักออก ความโกรธยิ่งพุ่งสูงเขไม่แม้แต่จะมองซือเยี่ยน สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องไปที่สืออวี๋เมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นสวีอวี่เจ๋อ ตอนนี้ก็เปลี่ยนผู้ชายอีกคน อีกไม่นาน เธอก็จะเปลี่ยนอีกคนแล้วใช่ไหม?เพื่อจะยั่วให้เขาโมโห เธอก็คิดหาทุกวิถีทางเลยจริงๆ!“มานี่!”ทั้งน้ำเสียงที่เย็นชา และกรามที่เกร็ง ล้วนบ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังโกรธจัดแต่สืออวี๋ในตอนนี้ไม่สนใจอีกแล้วพวกเขาเลิกกันแล้ว เขาจะดีใจหรือโกรธ ก็ไม่เกี่ยวกับเธออีก

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่82

    พอวางสายแล้ว สาตาของเสินหลีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชารอสืออวี๋กลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ เธอไม่เชื่อว่าเหลียงหยวนโจวยังจะชอบสืออวี๋อีก!อีกด้านหนึ่ง หานเชี่ยนวางโทรศัพท์ลง แล้วหันมองช่างทำเล็บที่กำลังทำเล็บให้เธอ “ทำเร็วๆหน่อย เดี๋ยวฉันยังจะต้องไปพบคุณชายซ่ง ถ้าทำให้ฉันเสียเวลา ฉันจะไม่ปล่อยเธอแน่!”ช่างทำเล็บชินกับนิสัยชอบสั่งอย่างเย่อหยิ่งของหานเชี่ยนแล้ว จึงตอบอย่างนอบน้อม “ค่ะ คุณหนูหาน”หลังจากทำเล็บเสร็จ ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วหานเชี่ยนมองเล็บใหม่อย่างพอใจ หยิบกระเป๋าแล้วขับรถตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับซ่งจื่อเฉียนไว้เมื่อพนักงานพาเธอไปยังห้องส่วนตัว ซ่งจื่อเฉียนก็รอเธออยู่แล้วเมื่อเห็นซ่งจื่อเฉียน บนใบหน้าของหานเชี่ยนก็เต็มไปด้วยความดีใจ เดินตรงไปหาเขาทันทีเห็นเธอนั่งลงที่ข้างๆตัวเอง ซ่งจื่อเฉียนก็ขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็นชาว่า “คุณหนูหาน ผมไม่ชอบนั่งใกล้กับคนที่ไม่สนิทขนาดนี้ กรุณานั่งให้ห่างจากผมหน่อย”ร่างกายของหานเชี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ พยายามฝืนยิ้ม มองดูซ่งจื่อเฉียนแล้วพูดว่า “คุณชายซ่ง วันนี้คุณนัดฉันมา ไม่ใช่เพราะอยากให้สถานะกับฉันหรือ?”หลังจากคืนนั้น เธ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่81

    เขารู้สึกว่าสืออวี๋ไม่มีทางเลิกกับเขาจริงๆ และในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าพฤติกรรมช่วงนี้ของสืออวี๋มันไม่ปกติ ทำให้เขารู้สึกเหมือนจะสูญเสียเธอไปได้ทุกเมื่อยิ่งคิด สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็ยิ่งเคร่งเครียดตอนที่เสินหลีเคาะประตูเข้ามา ก็เห็นเหลียงหยวนโจวนั่งเหม่อมองเอกสารอยู่เธอกัดริมฝีปากล่าง สีหน้าซับซ้อน ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋เลิกกันแล้ว เธอก็เห็นเขาเหม่อลอยอยู่เป็นประจำช่วงนี้แม้เหลียงหยวนโจวจะยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อหน้าเพื่อนและคนในบริษัทโดยปริยาย แต่เสินหลีกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกกังวลเพราะเธอพบว่า เหลียงหยวนโจวไม่ได้มีความกระตือรือร้นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วและทุกครั้งที่มีสืออวี๋อยู่ในเหตุการณ์ สายตาของเหลียงหยวนโจวก็จะมองไปที่สืออวี๋เสมอ ทำให้เธอทนไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการคือ ในสายตาของเหลียงหยวนโจวมีเพียงเธอคนเดียว!“ประธานเหลียง นี่คือเอกสารที่ต้องเซ็นวันนี้ค่ะ”เหลียงหยวนโจวดึงสติกลับมา เงยหน้าขึ้นมองเธอ อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามา?”เสินหลีหน้าซีด “ประธานเหลียง ฉันเคาะแล้วค่ะ……อาจเป็นเพราะคุณเหม่อลอยอยู่ เล

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่80

    สืออวี๋หันไปมองเขา “คดีของหวังซันซันไม่ต้องตามต่อแล้วนะ อีกไม่กี่วันเธอจะมายกเลิกสัญญา”ซือห่าวอวี่ขมวดคิ้วแน่น แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “เธอจะเปลี่ยนทนาย? ทำไมล่ะ?”คดีของหวังซันซัน สืออวี๋ติดตามอย่างทุ่มเทเต็มที่ แถมการพิจารณาคดีรอบแรกก็จบไปแล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าสู่รอบที่สอง ทำไมอยู่ดีๆอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนทนาย?!“เธอหาทนายที่เก่งกว่าได้ ทนายคนนั้นเป็นมืออาชีพมาก เคยทำคดีหย่าร้างมาเยอะ”“ถึงทนายคนนั้นจะมืออาชีพแค่ไหน เธอก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ?มันเกินไปแล้ว พี่ไม่น่าจะยอมให้เธอเปลี่ยนทนายเลย!”พอนึกถึงช่วงที่ผ่านมานี้เพื่อคดีของหวังซันซันแล้วสืออวี่ลำบากแทบแย่ เรียกเมื่อไรก็ต้องไปทันที แต่อีกฝ่ายกลับมาเปลี่ยนทนายในจังหวะสำคัญแบบนี้ ในใจของซือห่าวอวี่ก็รู้สึกโกรธขึ้นอย่างอดไม่ได้“ถ้าไม่ยอม เธอก็คงไม่ให้ความร่วมมือ ยื้อคดีนี้ไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเหมือนกัน”อีกอย่าง เรื่องนี้ก็จะโทษหวังซันซันคนเดียวไม่ได้ทางเหลียงหยวนโจวต้องเสนออะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ เธอถึงได้โทรมาเปลี่ยนทนายไม่ว่าอย่างไร เธอก็หวังให้คดีนี้ชนะเพราะตามนิสัยของเยว่เผิงแล้ว ถ้าแพ้ ต่อไปยังไม่รู้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status