คำว่า มีคนดีๆ ดูแล ทำให้พิมพิชชาถอนใจออกมาเบาๆ
“แต่หนูยังไม่เจอใครที่ดีพอที่หนูจะรักเลยนะคะคุณปู่ และอีกอย่าง หนูก็ยังสนุกกับชีวิตโสดอยู่เลยค่ะ”
เจ้าสัววันชัยหัวเราะเบาๆ แต่แววตาออ่อนโยนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจริงจังทีละนิด
“ปู่ไม่ได้เร่งให้หลานรีบหาหรอกนะ แต่ปู่อยากให้หลานจำเอาไว้ว่า ปู่แก่มากแล้ว คงไม่ได้อยู่กับหลานไปชั่วชีวิต ดังนั้นหล่อนจึงต้องมีคนที่รักหลานจริงๆ มาดูแลหลานแทนปู่”
พิมพิชชาเข้าใจความรู้สึกของคุณปู่ แต่กระนั้นหล่อนก็ยังรู้สึกกดดันอยู่ดี
“คุณปู่ยังอยู่กับหนูอีกนานค่ะ”
“เรื่องอนาคต ไม่มีใครรู้ได้หรอกหลานรัก ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม...” คุณปู่ยังคงแสดงจุดยืนเช่นเดิม
“แต่หนูเป็นคนเลือกเยอะค่ะ แล้วปัญหาก็
คือ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ชายคนไหนถูกใจหนูเลยสักคนเดียว”คำพูดเคร่งเครียดของพิมพิชชา ทำให้ห้องทั้งห้องเงียบลง ก่อนจะมีเสียงถอนใจหนักๆ ของเจ้าสัววัยชัยดังขึ้น
“ถ้าหลานเจอคนที่ใช่... ใครก็ได้ที่หลาน
คิดว่าเขาเป็นคนดี ปู่สัญญาว่าจะสนับสนุนทุกอย่างเลย”คำพูดนี้ของคุณปู่ ทำให้พิมพิชชานิ่งงันไปเล็กน้อย ก่อนที่ภาพของบาริสต้าสุดหล่อที่ตัวเองถูกตาต้องใจจะผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
มีแต่ผู้ชายคนนี้คนเดียวที่สามารถทำให้หัวใจของหล่อนเต้นแรงกว่าปกติได้...
และก็มีเพียงแค่เขาคนเดียว ที่ทำให้หล่อนรู้สึกไม่พอใจ เวลาที่เห็นผู้หญิงคนอื่นจ้องมองเขาด้วยความชื่นชม
หรือว่าเขาจะเป็นคนที่ใช่สำหรับหล่อนกันนะ!
หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป
“ความจริง... หนู... เจอคนที่ทำให้หนูใจสั่นแล้วล่ะค่ะ”
เจ้าสัววันชัยชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวางแก้วชาลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง
“จริงเหรอหลานรัก? แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ”
พิมพิชชาสบตากับคุณปู่เล็กน้อย แววตามีความลังเล
“ถ้าเขาไม่ได้รวยล้นฟ้า คุณปู่จะต้อนรับเขาไม่ไหมคะ”
“แน่นอน ปู่ยินดีต้อนรับคนที่หลานเลือกเสมอ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเราก็ตาม” ชายชรายิ้มอ่อนโยน
พิมพิชชาฉีกยิ้มกว้างอย่างโล่งอก ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“แต่ถึงเขาจะไม่ได้ร่ำรวยนะคะ แต่เขาเป็นคนดีค่ะ เป็นคนขยัน และหนูมั่นใจว่าเขาต้องดูแลหนูได้เป็นอย่างดีแน่นอนค่ะ”
หล่อนบรรยายสรรพคุณของชายหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายของตัวเอง
“ขอแค่ให้เขารักหลานของปู่จริงๆ นี่แหละที่ปู่ต้องการ”
คำยืนยันของคุณปู่ ทำให้พิมพิชชายิ้มกว้างจนตาหยี
‘คีรีธาร... คุณคือคนที่ฉันเลือก...’
หล่อนคิดในใจด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อคุณปู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ว่าแต่... ผู้ชายคนนั้นเป็นใครเหรอหลานรัก”
พิมพิชชายกยิ้มที่มุมปาก พลางส่งสายตาซุกซนไปให้คุณปู่ของตัวเอง
“ยังเป็นความลับค่ะคุณปู่”
เจ้าสัววันชัยหัวเราะขบขัน พลางวางแก้วชาที่เพิ่งยกขึ้นมาจิบลงบนโต๊ะอีกครั้ง
“งั้นเมื่อไหร่ ปู่ถึงจะได้เจอผู้ชายของหลานล่ะ”
“อีกไม่นานค่ะคุณปู่”
ดวงตาของเจ้าสัววันชัยเป็นประกายระยิบระยับ ขณะที่ปากฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ปู่จะรออย่างใจจดใจจ่อเลย”
“รับรองว่าคุณปู่จะต้องชอบเขาแน่นอนค่ะ”
พิมพิชชาตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ที่แฝงไปด้วยแผนการ
“ปู่ต้องชอบเขาแน่นอน เพราะเขาเป็นคนที่หลานรักของปู่เลือกแล้ว”
ผู้เป็นหลานสาวอมยิ้มหน้าบาน ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาด้วยท่วงท่าสง่างาม
“งั้นหนูขอไปอาบน้ำก่อนนะคะคุณปู่”
“ไปเถอะหลาน”
เมื่อคุณปู่อนุญาต หล่อนก็ส่งยิ้มให้ท่านอีกครั้ง ก่อนจะเดินขึ้นบันไดหินอ่อน แต่ในระหว่างทางที่ก้าวเดินนั้น ความครุ่นคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นภายในใจโดยอัตโนมัติ
“ฉันต้องทำยังไงนะ ถึงจะซื้อตัวคุณได้”
หล่อนทิ้งตัวเองลงบนเตียงนุ่ม นอนหงาย พร้อมกับจ้องเขม็งไปที่เพดานสีขาวสะอาดอย่างครุ่นคิด
“คงต้องใช้เงินมากสักหน่อย... เพราะคุณหล่อมาก...”
หล่อนพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ไม่นานริมฝีปากอวบอิ่มก็ยกยิ้มขึ้นช้าๆ
“แล้วฉันต้องจ่ายเงินคุณเท่าไหร่ดีนะ คุณถึงจะยอมมาเป็นสามีของฉัน”
เสียงในหัวร้องตะโกน
"ห้าล้าน!"
แต่เสียงอีกด้านสวนกลับทันที
"ไม่พอ! เขาหล่อมาก ผู้หญิงต้องการเขาเยอะ เธอต้องทุ่ม!"
พิมพิชชาดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที แววตาทอประกายแห่งชัยชนะ
“ใช่ ต้องสิบล้าน ถึงจะสำเร็จ!”
หล่อนดีดนิ้ว และยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ
“ไม่มีใครปฏิเสธเงินสิบล้านได้หรอก จริงไหม”
แล้วพิมพิชชาก็ลุกขึ้นยืนอย่างมั่นใจ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหรู แล้วหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวม เงาของหล่อนสะท้อนบนกระจกบานใหญ่ รอยยิ้มพึงพอใจยังคงประดับอยู่บนใบหน้าหวาน
“คีรีธาร... คุณต้องยอมตกลงง่ายๆ แน่นอน”
หล่อนยังคงยิ้ม พลางเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีหายเข้าไปในห้องน้ำ ที่ภายในตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา
เสียงส้นสูงกระทบกับพื้นไม้ในคาเฟ่ดังกังวาน ทุกสายตาหันมามองเป็นตาเดียวกัน เมื่อพิมพิชชา ปรากฏตัวในลุคไฮโซจัดเต็ม
ชุดเดรสแบรนด์เนมสีแดงเพลิงเข้ารูป ตัดกับผิวขาวเนียน ริมฝีปากแดงระเรื่อเข้ากันกับแว่นกันแดดแบรนด์หรูที่เกาะอยู่บนศีรษะ
หล่อนดูสง่างามและสวยเกินกว่าใครในคาเฟ่แห่งนี้ แต่กระนั้นหล่อนก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับสายตาของใครหรอก เพราะตอนนี้สายตาของหล่อนจ้องไปที่เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของตัวเองเท่านั้น
ตอนที่ 30. ตอนอวสานภายในคาเฟ่หรูของโรงแรม Imperial Haven บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น ผสมกับกลิ่นขนมอบใหม่ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่นและโหยหิวพิมพิชชาในชุดบาริสต้ายืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ กำลังเช็ดแก้วกาแฟด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ดูแตกต่างจากคุณหนูไฮโซเมื่อก่อนลิบลับใช่แล้วล่ะ...หล่อนไม่ใช่คุณหนูไฮโซผู้ไม่เคยแตะงานหนักอีกต่อไป... แต่ตอนนี้หล่อนก้าวขึ้นมาเป็นบาริสต้าผู้มากเสน่ห์ ประจำคาเฟ่สุดหรูแห่งนี้เรียบร้อยแล้วเสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นดังกังวาน พนักงานหลายคนก้มหัวให้ชายหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามาภายในร้านทุกคนต่างคุ้นชินกับการที่ ท่านประธาน แวะมาที่นี่บ่อยๆและแน่นอนว่าเหตุผลหลักไม่ได้เป็นเพราะกาแฟ“ลาเต้ เมียรัก หนึ่งแก้วครับ”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ทำให้พิมพิชชาเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะหัวเราะเบาๆ“ไม่มีเมนูนี้ค่ะลูกค้า”“งั้นขอ เอสเปรสโซ่ Only You หนึ่งแก้วครับ”หล่อนย่นจมูกขำกับเมนูที่เขาคิดขึ้นมาเอง ก่อนจะถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นเสยผมเบาๆ“ฉันจะทำกาแฟให้คุณก็ได้ค่ะ แต่กรุณาอย่าเรียกชื่อเมนูประหลาดๆ แบบนั้นอีก”คีรีธารยิ้มมุมปาก โน้มตัวเกาะเคาน์เตอร์ มองหล่อนทำงานอย่างพึงพอใจ“ชื่
ตอนที่ 29. แต่พอเขาขยับ... ใช่... แค่คีรีธารขยับบั้นเอว ซอยเข้าออกถี่ๆ เท่านั้น ความอึดอัดก็จางหายไป และก็มีความเสียวแสนมหัศจรรย์เข้ามาแทนที่ “อ๊า... ซี๊ดดดด เสียววว อ๊า...” ให้ตายเถอะ หล่อนหยุดครางเสียวไม่ได้เลย ร่างกายเหมือนจะแหลกสลายไปในกองเพลิงสวาทของเขา แต่ทุกครั้งมันก็ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ และดำดิ่งลงสู่เหวแห่งความเสียดเสียวเช่นเดิม หล่อนดิ้นพล่าน สองขาเรียวตวัดโอบรอบลำตัวทรงพลังเอาไว้ เขากระแทกไม่หยุดเลย ท่อนเอ็นของเขาทั้งแข็ง ทั้งใหญ่ มันเสียดสีเนื้อนุ่มของหล่อนจนร้อนฉ่า หล่อนจะแตกอีกแล้ว... หล่อนกัดฟัน เงยหน้าขึ้นสูง ขณะมือยกขึ้นลูบไล้หน้าอกกว้างของเขาตลอดเวลา กระทั่ง... “อ๊าย... ซี๊ดดดด อ๊ายยย...” ในที่สุดหล่อนก็เสียวจนเสร็จ ในขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงสอดใส่เข้ามาไม่หยุดหย่อน เขายังคงโยกคลึง บดขยี้ด้วยหน้าขาแข็งแกร่งของเขาอย่างต่อเนื่อง หล่อนหลั่งรินน้ำเสียวออกมามากมาย ดื่มด่ำกับความสุขเสียวที่เกิดจากท่อนเอ็นของผู้ชายที่ตัว
ตอนที่ 28.หญิงสาวพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่เขากลับจับปลายคางของหล่อนเอาไว้ บังคับให้รับจูบที่หนักหน่วงขึ้นไปอีก ลิ้นร้อนกวาดชิมความหวานอย่างหิวกระหาย ทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอย่างไร้ซึ่งความปรานีมือหนาเลื่อนลงมาจับสะโพกของหล่อนไว้แน่น ก่อนจะกดร่างเล็กให้แนบชิดไปกับเตียงมากยิ่งขึ้นความอบอุ่นจากร่างกายแกร่งของเขา ทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปหมด หัวใจสาวเต้นแรงจนแทบระเบิด“ฟังผมได้หรือยัง”เขาถอนจูบออกเล็กน้อย กระซิบถามเสียงพร่า ริมฝีปากยังคงคลอเคลียอยู่ใกล้ๆพิมพิชชาหอบหายใจแรง ดวงตาสั่นระริก มึนเมาไปหมด กับสัมผัสที่เขามอบให้“ยัง...” หล่อนพูดเบาๆแววตาของคีรีธารฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกระซิบเสียงต่ำข้างหูของหล่อน“งั้นผมคงต้องพยายามให้มากกว่านี้...”พูดจบ ปากร้อนผ่าวก็ประกบลงมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันร้อนแรงและดุดันยิ่งกว่าเดิม หล่อนถูกเขาบดขยี้จูบ จนปากบวมเจ่อ ลิ้นของหล่อนถูกเขาดูดซ้ำไปซ้ำมา จนรู้สึกเหมือนจะหลุดขาด แต่เขาก็ยังไม่หยุดจูบ แถมมือของเขาก็ยังลูบไล้ไปทั่วทั้งร่างสาวอย่างต่อเนื่อง ความแง่งอนค่อยๆ จางหายไป ความโกรธเคืองค่อยๆ สลายกลายเป็
ตอนที่ 27.พิมพิชชากัดฟันแน่น กำพวงมาลัยจนมือสั่น ตะโกนผ่านกระจกปิดสนิท“ถ้าไม่หลบ ฉันจะชนจริงๆ นะ!”แต่คีรีธารยังคงยืนนิ่ง ไม่ขยับออกแม้แต่น้อย ดวงตามีแต่ความแน่วแน่“ชนผมเลย ถ้ามันจะทำให้คุณใจเย็นลง”หล่อนเร่งเครื่อง เสียงเครื่องยนต์คำรามดังก้องยิ่งขึ้น แต่เท้ากลับหนักอึ้ง เมื่อจะเหยียบคันเร่งในทะยานออกไป“ถ้าคุณชนผมแล้ว คุณจะหายโกรธ ผมยินดี”หัวใจของหล่อนเต้นระรัว แต่มันไม่ใช่เพราะความโกรธอีกต่อไป มันคือความเจ็บปวดที่กำลังกัดกินอยู่“คนบ้า!”หล่อนทุบพวงมาลัยเต็มแรง ก่อนจะปิดเครื่องยนต์ ก่อนจะก้าวลงไปจากรถ และพุ่งเข้าไปทุบหน้าอกแน่นหนั่นของเขาเต็มแรง“ไอ้คนหลอกลวง ทำไมต้องโกหกฉันด้วย!”หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น และไม่หยุดทุบหน้าอกของเขาแม้แต่น้อย“ทำไมต้องทำเหมือนฉันโง่!?”น้ำตายังคงไหลพรากอาบสองแก้ม“คุณควรจะบอกฉันสิว่าตัวเองเป็นใคร คุณทำเหมือนฉันมันโง่เหมือนเด็กอมมือเลยนะ!”คีรีธารจับข้อมือเล็กเอาไว้ และจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ฉ่ำวาวไปด้วยความเสียใจ“ผมไม่ได้ตั้งใจปิดบังคุณ”เขาพูดเสียงต่ำ“แต่มันคือการเข้าใจผิด”“เข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ?”หล่อนหัวเราะเยาะออกมาอย่างขมขื่น“คุณเป็นเจ้า
ตอนที่ 26. พิมพิชชาหยุดยืนอยู่หน้าโรงแรม Imperial Haven สถานที่ที่หล่อนเคยมาใช้บริการเมื่อตอนวัยรุ่น และยังจดจำความหรูหราราวกับราชวังของมันได้เป็นอย่างดีแต่... คีรีธารมาทำงานพิเศษที่นี่จริงๆ เหรอ?แล้วเขามารับจ๊อบตำแหน่งอะไร?หญิงสาวถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้า ดวงตาจับจ้องไปยังประตูทางเข้า ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปภายในและเมื่อเข้าสู่โถงต้อนรับอันโอ่อ่า ความหรูหราก็ทวีคูณมากขึ้นกว่าที่หล่อนเคยจำได้แชนเดอเลียร์ขนาดมหึมาสะท้อนแสงระยิบระยับ พื้นหินอ่อนเงาวับสะท้อนภาพผู้คนที่ก้าวเดินผ่านไปมาบรรยากาศสง่างามระดับโรงแรมห้าดาว ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแขกวีไอพีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แต่หล่อนไม่ได้มีเวลาชื่นชมสิ่งเหล่านี้หรอก เพราะเป้าหมายของหล่อนคือมาหาคีรารหญิงสาวรีบเดินตรงไปยังพนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์“ขอโทษนะคะ ฉันมาขอพบพนักงานที่ชื่อ คีรีธาร น่ะค่ะ”พนักงานต้อนรับสาวเงยหน้าขึ้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย“คีรีธาร วัฒนานุรักษ์ เหรอคะ?”พิมพิชชาชะงัก ก่อนส่ายหน้า“ฉันไม่รู้นามสกุลเขา แต่รู้ว่าเขาทำงานพิเศษที่นี่ค่ะ”พนักงานทำหน้าโล่งอกไปแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มสุภาพ“อ๋อ... อาจจะเป็นพนักงาน
ตอนที่ 25.คีรีธารยืนพิงผนังหน้าห้องประชุม โทรศัพท์แนบหู ขณะที่ปลายนิ้วเคาะเบาๆ บนแฟ้มเอกสารในมือจังหวะมั่นคง... สม่ำเสมอ... และเต็มไปด้วยความมั่นใจเสียงสนทนาของอนุวัติ ดังลอดมาตามสาย มันเป็นน้ำเสียงกึ่งกังวล“นายแน่ใจนะว่าวันนี้คุณหนูไฮโซสุดที่รักของนายจะไม่โผล่มาที่คาเฟ่ แล้วถามหานายอีกน่ะ”“แน่ใจ”เพราะบทรักที่เขามอบให้พิมพิชชาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เช้ามืดจนเกือบสิบโมงเช้า มันหนักหน่วงมากพอที่จะทำให้เจ้าหล่อนอ่อนเพลียจนไม่มีแม้แต่แรงที่จะก้าวลงจากเตียง“ดี เพราะฉันไม่อยากโกหกอะไรเธออีกแล้วโว้ย”“เอาน่า”คีรีธารตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงสบายๆ ดวงตาคมกริบเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ“วันนี้เธอไม่ไปที่คาเฟ่นายแน่นอน”“โอเค งั้นแค่นี้นะ เดี๋ยวฉันต้องออกไปซื้อของมาเข้าร้านแล้ว”“อืม”ชายหนุ่มกดวางสาย พลางส่ายหน้าอมยิ้มบาง เมื่อนึกถึงใบหน้าหวานเยิ้มที่เมื่อตอนสายยังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงหล่อนแทบไม่มีแรงจะพลิกตัวด้วยซ้ำ แล้วจะไปหาเขาที่คาเฟ่ได้ยังไงกัน“ท่านประธานคะ”เสียงเรียกของเลขาสาวดึงเขาออกจากภวังค์“ที่ประชุมพร้อมแล้วค่ะ”คีรีธารละสายตาจากโทรศัพท์ แววตาที่เคยเปื้อนรอยยิ้มอยู่เมื่อครู่ เปลี่ยนเ