Share

บทที่ 18

Author: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
ในขณะนี้หรงปินเดินออกจากอาคารของหรงคังกรุ๊ป มีรถ Bentley สีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูพร้อมกับการ์ดชุดดำท่าทีจริงจังหลายสิบคนอยู่ข้าง ๆ

ถ้าคนอื่นเห็นต้องตื่นตระหนกแน่นอน!

หรงปินประธานหรงคังกรุ๊ปออกมาแล้ว!

มีกี่คนที่ร้องขอให้พบกับประธานหรงหรงคังกรุ๊ปแห่งเมืองฮั่น แต่พวกเขาถูกปฏิเสธ

ตอนนี้เขาออกไปด้วยตัวเองจริง ๆ

“พ่อ?”

หรงฉางเวยตกตะลึง ทันทีที่ได้ยินเสียงในโทรศัพท์ เป็นเสียงพ่อของเขาไม่มีผิดแน่

สถานการณ์คืออะไร?

“ฉางเวย เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีโทรศัพท์มือถือของคุณหลี่?” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ หรงปินก็ตัวสั่นและเสียงของเขาก็สูงขึ้น

“ไอ้เด็กนี่มันทำร้ายผม ผมจะฆ่ามัน!” หรงฉางเวยเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเขามองดูหลี่โม่อย่างไม่แยแส ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

'มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ ๆ พ่อของฉันรู้จักไอ้ตัวแสบแบบนั้นได้ยังไงกัน'

ยิ่งกว่านั้น ยังมีความนับถือด้วย!

เป็นไปไม่ได้!

“สามหาว! ใครจะกล้าให้แกไม่เคารพคุณหลี่? ส่งมือถือให้คุณหลี่เดี๋ยวนี้!” หรงปินตะโกนอย่างโกรธจัด ทันได้นั้นเขาก็ใจหาย นี่ลูกชายเขายั่วโมโหคุณหลี่หรือเปล่า?

หรงปินตระหนักดีถึงธรรมชาติของลูกชายของเขาเอง เขาไม่เรียนรู้และไร้ความชำนาญ เขาชีวิตเสเพลและหาเรื่องใส่ตัวตลอด!

หากเขายั่วโมโหคุณหลี่ ตระกูลหรงก็จะจบสิ้น!

“พ่อ...” หรงฉางเวยงงงวยแต่เขาก็โยนโทรศัพท์ให้หลี่โม่อย่างเชื่อฟัง และพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้หนุ่ม ไม่นึกเลยว่าแกจะมีเบอร์โทรศัพท์ของพ่อฉันได้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เปลี่ยนแปลงอะไรหรอกนะ!”

หลี่โม่ไม่พูด เขาค่อย ๆ วางกู้หยุนหลานลงอย่างนุ่มนวลแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดวงตาของเขาดูเฉยเมย “หรงปิน? ผมไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับคุณหรอกนะ ลูกชายของคุณไม่ยอมปล่อยผมไป ผมจะให้โอกาสคุณเพียงครั้งเดียว!”

น้ำเสียงเย็นชาและอาฆาต

หรงปินไม่ใช่คนโง่ เขารับรู้ได้อย่างรวดเร็วและถ่อมตน “ได้ครับ ๆ คุณหลี่มันต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ รบกวนคุณเอาโทรศัพท์ให้เขา ผมจะบอกเขาเอง”

หลี่โม่พยักหน้าและโยนโทรศัพท์ให้หรงฉางเวย

หรงฉางเวยโกรธมาก เขาตบโต๊ะและตะโกนว่า “บ้าเอ๊ย แกกล้าขู่ฉันเหรอ? โอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ชีวิตหมา ๆ ของแกไม่เหลือแล้วตอนนี้ โหวหยวนหย่ง จัดการมันให้ฉัน!”

ในขณะที่หรงฉางเวยคำราม โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโซฟาก็ดังขึ้นด้วยเสียงโวยวาย “หรงฉางเวย! แกมันจองหอง! ฉันควบคุมแกไม่ได้แล้วสินะ!”

พ่อ… โกรธ

หรงฉางเวยตากระตุก เขาตัวสั่นด้วยความกลัว หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วพูดว่า "พ่อ เป็นอะไรไป…”

หรงฉางเวยไม่เคยเห็นพ่อของเขาเดือดขนาดนี้ เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย และความเย็นยะเยือกก็พุ่งออกมาจากกระดูก

“มันจะอะไรอีก? แกรู้ไหมว่าแกทำให้ใครขุ่นเคือง รีบขอโทษคุณหลี่เดี๋ยวนี้! ถ้าไม่สามารถทำให้คุณหลี่ยกโทษให้แกได้ ฉันจะฆ่าแก!” หหรงปินที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์ขัดจังหวะคำพูดของหรงฉางเวยด้วยความโกรธ ทำให้เขาโกรธจนแทบบ้า!

ด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่สั่งการนั้น หรงฉางเวยไม่สามารถคัดค้านได้เลย!

พ่อโกรธมาก!

“พ่อ... เขาเป็นแค่ไอ้หน้าตัวเมียที่ขอเงินเมียใช้ เขาก็ตีหัวผม พ่อขอให้ผมขอโทษไอ้ขยะแบบนี้เหรอ?” หรงชางเว่ยรู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แล้วพ่อของเขาเป็นอะไรไปล่ะ?

ฮึ่ม!

ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก หรงปินรีบเข้าไปในรถ Bentley และตะโกนว่า “นี่แกยังกล้าหยาบคายอยู่อีกเหรอ?! ถ้าคุณหลี่เป็นขยะในสายตาแก ตระกูลหรงของฉันก็ยิ่งกว่าขยะเปียกแล้ว ตอนนี้แกคุกเข่าแล้วให้คุณหลี่ยกโทษให้ซะ ไม่อย่างนั้นไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ!”

หรงฉางเวยตกตะลึงงัน เขาไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ ดวงตาที่สั่นเทาของเขาเหลือบมองไปที่หลี่โม่ซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าเขาสองสามครั้ง

นี่พ่อจริงจังใช่ไหม?!

มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

ไอ้เด็กเวรนี่ใคร?

ทำไมถึงโน้มน้าวให้พ่อพูดแบบนั้นได้?!

หรงฉางเวยเงยหน้าขึ้น เหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากทำให้แสบแผลบนหัว เขามีสติขึ้นมาทันที

เขาตื่นตระหนกและรีบไปที่หลี่โม่ โค้งคำนับและขอโทษ “ผมขอโทษ คุณหลี่ ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ผมขอโทษที่ผมประมาทเลินเลินเล่อเอง!”

หรงฉางเวยที่ก่อนหน้านี้คลั่งอย่างเดือดดาล ตอนนี้กลับหลายมาขอโทษหลี่โม่อย่างถ่อมตน ทุกคนต่างก็ตกตะลึง!

เขาเป็นนายน้อยของหรงคังกรุ๊ป เขามีสถานะพิเศษและมีครอบครัวที่มั่งคั่ง ทำไมเขาต้องขอโทษคนธรรมดาอย่างหลี่โม่ด้วยล่ะ?

โหวหยวนหย่งนั้นมึนงง ไป่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ตะลึงเช่นกัน!

แล้วจากการสนทนาเมื่อกี้นี้ เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นหรงปินประธานหรงคังกรุ๊ปที่โทรมาด้วยตัวเอง!

ระดับความเคารพในน้ำเสียงที่มีต่อหลี่โม่นั้นค่อนข้างชัดเจน!

โอ้พระเจ้า!

หลี่โม่นี่ใครกัน?

มันเป็นไปได้เหรอที่คนจองหองอย่างหรงฉางเวยจะยกมือแสดงท่าทีราวกับเป็นผู้น้อยแบบนี้

เวลานี้จิตใจของโหวหยวนหย่งพังทลายลง ชายหนุ่มที่เขาพึ่งพาอย่างคุณหรงได้ขอโทษเด็กหนุ่มด้วยท่าทางที่จริงใจและหวาดกลัว

เขาจะไม่กลัวหรือตื่นตระหนกในใจได้อย่างไรกันล่ะ?

โหวหยวนหย่งตัวสั่น หลังของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น!

แค่นั้นแหละ!

เขาคิดได้แล้วว่าเขาได้ไปยั่วยุใครบางคนที่ไม่อาจจินตนาการถึงได้!!

ชูจงเทียนและฉินรั่วรั่วได้เป็นอิสระแล้วในขณะนี้ ยืนอยู่ทั้งสองข้างของหลี่โม่ด้วยความเคารพ จ้องมองไปที่โหวหยวนหย่งอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “โหวหยวนหย่ง ฉันบอกแกแล้วว่าคุณหลี่ไม่ใช่คนที่แกจะมายั่วยุได้!”

ฟึ่บ!

โหวหยวนหย่งคุกเข่าต่อหน้าหลี่โม่โดยไม่ลังเล!

นี่เป็นหนึ่งในราชามาเฟียใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ในเมืองฮั่น!

แล้วก็ยังเป็นเจ้าแห่งวงการใต้ดินด้วย!

เวลานี้เขาเพียงแค่คุกเข่าลงต่อหน้าหลี่โม่และก้มหัวแนบพื้น “คุณหลี่ ผมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะครับ! ผมมันไอ้สารเลว ขอให้คุณหลี่ให้ความอนุเคราะห์ผ่อนปรนด้วย!”

หลี่โม่ดูเย็นชาและพูดกับฉินรั่วรั่วว่า “ช่วยพาภรรยาของผมไปโรงพยาบาลก่อน”

“ได้ค่ะ” ฉินรั่วรั่วตอบแล้วหันหลังเดินออกไปพร้อมกับผู้ติดตาม

ในขณะเดียวกัน ชูจงเทียนก็ได้โทรศัพท์ไปแล้ว ไม่นานต่อมา ชายชุดดำประมาณสี่สิบถึงห้าสิบคนก็บุกเข้ามาในคลับเบลล์และล้อมรอบสถานที่ไว้ทั้งหมด!

จากภายนอกมีรถ Mercedes-Benz สีดำหลายสิบคันจอดอยู่ที่ทางเข้าของเบลล์คลับ ที่ทางเข้าและทางออกยังมีอันธพาลใส่สูทดำยืนอยู่ด้วย

ในคลับ คนของโหวหยวนหย่งทุกคนหมอบลงและเอามือกุมหัวไว้

หลี่โม่มองอย่างเย็นชาไปที่โหวหยวนหย่งและไป่เสวี่ยเอ๋อร์ซึ่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเขาและพูดกับชูจงเทียนอย่างเย็นชาว่า “ผมไม่อยากเห็นสองคนนี้ในเมืองฮั่นอีก”

ชูจงเทียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดว่า “เข้าใจแล้วครับ”

เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีเส้นสายกับพวกใต้ดิน เขาจึงรู้วิธีจัดการเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

ลูกน้องสองสามคนก็ลากโหวหยวนหย่งและไป่เสวี่ยเอ๋อร์ออกไป ใบหน้าพวกเขาซีดเซียว!

ไม่ว่าพวกเขาจะโอดครวญและร้องขอความเมตตามากแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์

หลังจากนั้น

หลี่โม่จ้องไปที่หรงฉางเวยที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดว่า “ตอนนี้ถึงตานายแล้ว”

ขาของหรงชางเว่ยสั่นระริก แต่การเลี้ยงดูอย่างตามใจทำให้เขานิสัยเสีย เขาพยายามฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “คุณหลี่ ไม่ว่ายังไงพ่อของผมก็คือหรงปินแล้วคุณก็รู้จักเขา ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมจะขอโทษภรรยาของคุณ ผมจะไม่โผล่หน้ามาให้คุณเห็นในเมืองฮั่นอีก ว่ายังไงครับ?” หรงฉางเวยพยายามเจรจา

หรงฉางเวยก็กลัวเช่นกัน

ไม่เห็นเหรอว่าโหวหยวนหย่งถูกลากออกไปแบบนั้น!

“ปล่อยไป?”

หลี่โม่หัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันเคยสาบานว่าจะไม่มีใครในโลกนี้รังแกเธอได้ แม้ว่าจะเป็นราชาแห่งแดนมังกร ฉันก็จะให้เขาชดใช้!”

เมื่อหรงฉางเวยได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเขาก็พลันซีด รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หุบหายไปอย่างรวดเร็ว เขาถามด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “แล้วคุณต้องการอะไร ปล่อยผมหรือจะฆ่าผม”

หลี่โม่ยกมือขึ้นและดีดนิ้ว

ชูจงเทียนโค้งคำนับข้าง ๆ หลี่โม่ทันทีและพูดกับคนด้านหลังว่า “ไปเตรียมเงินมาห้าสิบล้าน”

โดยไม่ลังเลชูจงเทียนหันหลังเดินออกจากคลับทันที เขาหยิบกระเป๋าหนังสีดำสองใบมีเงินจำนวนห้าสิบล้านบาทแล้วโยนลงตรงหน้านิ้วเท้าของหรงฉางเวย

ห้าสิบล้าน!

ฝ่ามือของหรงฉางเวยเต็มไปด้วยเหงื่อและมุมปากของเขาก็กระตุก “คุณหลี่ คุณกำลังทำอะไร?”

เขาต้องการชดเชยความสูญเสียทางจิตใจแค่นั้นเอง?

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่กล้าทำอะไรรุนแรง

หรงฉางเวยคิดเกี่ยวกับมัน เขาอยากจะนั่งลง แต่ก็ต้องตกใจกับประโยคถัดไปของหลี่โม่!

“เงินจำนวนนี้ ซื้อขาที่สามของแกได้!” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา

ทันทีที่เขาพูดจบ คนของชูจงเทียนก็ก้าวไปข้างหน้าและกดหรงฉางเวยลงไปที่พื้น ถอดกางเกงชั้นนอกของเขาออกและเหลือแต่กางเกงในไว้และปล่อยให้เขาดิ้นรน!

ทันใดนั้นหรงฉางเวยก็หน้าซีด จ้องมองหลี่โม่อย่างหวาดกลัวและตะโกนว่า “คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้! ผมคือหรงฉางเวย พ่อของผมคือหรงปิน ผมปู่ของฉันคือหรงชางเหอนะ!”

เขาคำราม แต่ใบหน้าของหลี่โม่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ชูจงเทียนเข้าใจ เขาคว้าไม้เบสบอลจากด้านข้างแล้วฟาดมันลงไปที่หรงฉางเวยอย่างแรง!

“อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องอันน่ากลัวดังก้องไปทั่วคลับในทันที!

ใบหน้าของหรงฉางเวยเปลี่ยนเป็นสีตับหมูทันที เขาโค้งตัว กำเป้าเอาไว้เส้นเลือดปูดบนใบหน้า พูดอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

ไร้สมรรถภาพไปแล้ว!

ในชีวิตนี้ เขาจะไม่สามารถทำอะไรกับผู้หญิงได้อีกแล้ว

นี่คือการลงโทษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา

ในเวลาเดียวกัน รถ Bentley ที่วิ่งเร็วตามมาด้วยรถ Audi A6L หลายคัน มาหยุดอยู่ที่ประตูเบลล์คลับ

หรงปินพร้อมด้วยผู้ติดตามรีบลงจากรถ ตามมาด้วยนายกเทศมนตรีเมืองฮั่น!!

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างหรงบิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมืองฮั่นนั้นได้ติดตามเขาอย่างใกล้ชิด!

เขาเป็นบุคคลสำคัญในการดึงดูดการลงทุน และถานเค่อหมิงก็ดูแลเขาอย่างดี เขารีบพาเลขาตามไปและพูดว่า “คุณหรงปิน ช้า ๆ หน่อยครับ”

ถานเค่อหมิงงงงวยมาก เกิดอะไรขึ้นสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างหรงปินที่สามารถทำให้เขาตื่นตระหนกเช่นนี้ได้

ตอนนี้หรงปินรู้สึกกังวลมาก เขาไม่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้อีก!

ที่ทางเข้าเบลล์คลับ อันธพาลนับสิบคนในชุดดำยืนอย่างเคร่งขรึม พวกเขาขวางทางหรงปินและถานเค่อหมิงไว้และพูดอย่างเย็นชาว่า “ขออภัยครับ คลับปิดแล้ว”

หร่งปินขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่เขาจะพูดได้ถานเค่อหมิงที่ยืนข้างเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและตะโกนด้วยความโกรธว่า "นี่มันบ้าไปแล้ว! ใครกล้าปิดต่ออหน้าฉัน?!"

เมื่อคนเหล่านั้นเห็นก็ตัวสั่นด้วยความตกใจ “ท่านถาน… ท่านนายก”

โอ้พระเจ้า!

ถานเค่อหมิงมาที่นี่ได้อย่างไร?

เขาเป็นคนที่มีการพูดถึงมากที่สุดในเมืองฮั่น!

ใครคือคนข้าง ๆ เขาที่ทำให้ถานเค่อหมิงมากับเขาเป็นการส่วนตัว!

ในไม่ช้าคนเหล่านี้ก็แยกออกจากกัน พวกเขาก้มตัวพร้อมเชิญถานเค่อหมิงและหรงปินเข้าไปด้วยความเคารพ

หรงปินและคนอื่น ๆ รีบเดินเข้าไปในคลับและเห็นหรงฉางเวยโอดครวญอยู่บนพื้นไม่หยุด

อย่างไรก็ตาม หรงปินไม่ได้มอง เขาเดินตรงไปหาหลี่โม่ ก้มหัวและกล่าวอย่างสุภาพว่า “คุณหลี่ ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมดีใจที่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร” หรงปินพูดจากใจจริง

ถานเค่อหมิงที่ติดตามมาอย่างใกล้ชิด เห็นฉากนี้แล้วก็ถึงกับอึ้ง!

น่าตกตะลึง!

หรง… หรงปินก้มหัวขอโทษชายหนุ่ม!

ยิ่งกว่านั้น เขายังพอจำชายหนุ่มคนนี้ได้

นี่มันลูกเขยไร้ประโยชน์ของตระกูลกู้ไม่ใช่เหรอ…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status