เสิ่นชิงซูหิ้วของสองใบใหญ่เดินไปยังสุสานของลูกชายเพียงแต่พอเธอเดินไปถึง กลับพบว่าแผ่นป้ายลูกชายหายไปแล้วก่อนหน้านี้มันอยู่ตรงนี้ชัด ๆเสิ่นชิงซูจำได้แม่นอยู่ข้าง ๆ คุณท่านฟู่นั่นแหละแต่ตอนนี้ตรงนี้กลับว่างเปล่าเสิ่นชิงซูนึกว่าตัวเองจำผิดเธอวางของลง แล้วโทรหาฉินเยี่ยนเฉิง“หมอฉิน ตอนนี้ฉันอยู่ที่สุสานตระกูลฟู่”ทางฉินเยี่ยนเฉิงตกใจ “คุณว่าอะไรนะ? คุณอยู่ที่สุสานตระกูลฟู่เหรอ?”“ค่ะ ฉันคิดจะไปจากเมืองเป่ยแล้ว” เสิ่นชิงซูพูด “ก่อนไปฉันอยากมาเยี่ยมลูกชายฉันอีกครั้ง แต่ฉันหาแผ่นป้ายหน้าหลุมศพไม่เจอ”“เอ่อ...” ฉินเยี่ยนเฉิงลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะพูด “เรื่องนี้พูดแล้วมันยาว ไม่งั้นคุณโทรถามซือเหยียนเองเถอะ?”พอเสิ่นชิงซูได้ยินอย่างนี้ก็ขมวดคิ้ว “ค่ะ”หลังจากวางสาย เสิ่นชิงซูปลดบล็อกเบอร์ของฟู่ซือเหยียน แล้วโทรออกโทรศัพท์ดังสองสามครั้งก็ถูกรับ“อาซู” เสียงผู้ชายทุ่มต่ำ เจือความเอาใจบางส่วน “มีอะไรเหรอ?”“ฟู่ซือเหยียน” เสิ่นชิงซูขมอารมณ์โกรธแล้วถาม “สุสานลูกชายฉันนี่มันยังไงกัน?”“ตอนนี้คุณอยู่ไหน?”“สุสานตระกูลฟู่”ฟู่ซือเหยียนเงียบงันไปทันที ก่อนจะตอบ “ลูกชายเราไม่ได้อ
หลังจากกลับถึงอวิ๋นกุย เจียงเยว่หลานก็รบเร้าจะกลับบ้านนอกให้ได้เสิ่นชิงซูรั้งไว้ไม่อยู่ ยกเสี่ยวอันหนิงมาอ้างก็ไม่ได้ผลคงเพราะตกใจกับเสิ่นเยี่ยนอิ๋ง เจียงเยว่หลานที่ช่วงนี้อาการดีขึ้นมากแล้วจึงกำเริบขึ้นมาอีกสุดท้ายจึงทำตามความประสงค์ของเจียงเยว่หลาน หลังจากพักที่อวิ๋นกุยคืนหนึ่ง จิ้นหวยหมินกับน้าฉินก็พาเจียงเยว่หลานกลับบ้านนอกในวันต่อมาขณะนี้เลยค่ำคืนที่ได้ประกวดไปครึ่งเดือนกว่าแล้วการที่คดีของเจียงเยว่หลานสามารถดำเนินไปและมีบทสรุปได้ราบรื่นเช่นนี้ ระหว่างนั้นมีความช่วยเหลือของฟู่ซือเหยียนอยู่มากเสิ่นชิงซูรู้จุดนี้ดี แต่เธอรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ฟู่ซือเหยียนควรทำเขาคือทนายที่รับผิดชอบคดีนี้ในตอนนั้น ตอนนี้คดีพลิก เขาในฐานะที่เป็นทนายแก้ต่างคดีนี้สมควรพยายามถึงที่สุดนับดูแล้วก็ถือว่าเป็นขอบเขตเงื่อนไขในการแต่งงานของพวกเขาสำหรับคดีเสิ่นฉู่ซีกับโจวอวี๋ชูขโมยผลงานเธอ เสิ่นฉู่ซีชดใช้เงิน จ่ายค่าปรับ และตระกูลเสิ่นก็รับเธอกลับไปแล้วถึงไม่ต้องติดคุกติดตะราง แต่ได้ยินว่าเงินที่ตระกูลเสิ่นประกันตัวเธอและกับเรื่องการแต่งงานของเสิ่นฉู่ซีเองคุณนายใหญ่เสิ่นกำหนดการแต่งงานให้เส
หลินหลานอี๋ส่ายหน้า เธอที่ถูกความเจ็บปวดทรมานจนลูกตาถลน เวลานี้ในดวงตาเต็มไปด้วยความพรั่นพรึง“ฉันไม่อยากทำแบบนี้ ฉันรู้ว่าฉันผิดต่อนาย แต่ฉันไม่อยากลำบากอีกแล้ว ไปเมืองนอกฉันปรับตัวไม่ได้ จ้าวเทียน นายไปเกิดใหม่เถอะ ชาตินี้เราไม่มีวาสนาต่อกัน ชาติหน้าเถอะ ชาติหน้าเราค่อยเป็นผัวเมียกัน นายปล่อยฉันไปเถอะ! ปล่อยฉันไป ฉันยังไม่อยากตาย...”“เธอไม่อยากตายเหรอ?” จ้าวเทียนหัวร่อ กล่องเสียงหลังจากถูกไฟคลอกหยาบแห้งมากขึ้น ราวกับวิญญาณร้ายจากขุมนรกที่มาเอาชีวิตอย่างไรอย่างนั้น“หลินหลานอี๋ เธอควรตายนานแล้ว! เธอดูร่างกายตัวเองสิว่าเน่าเฟะไปถึงไหน?! เธอนึกว่ายาช่วยชีวิตที่เธอกินทุกเดือนนั่นมันเป็นของดีอะไรกัน?! ฉันจะบอกให้นะ มันเป็นของต้องห้าม! เธออยู่ได้อีกไม่นานแล้ว เธอต้องตาย และเธอต้องตายแบบทุเรศมากด้วย...”หลินหลานอี๋เบิกตาโพลงพลางส่ายหน้า “ไม่หรอก ฉันจ่ายเงินซื้อยาเยอะอย่างนั้น ฉันต้องหายดี ฉันจะไม่ตาย ฉันจะไม่ตาย!”“ฮ่า ๆ ๆ! หลินหลานอี๋ เธอวางแผนผู้ชายทั้งชาติ คิดไม่ถึงละสิ สุดท้ายยังต้องแพ้อยู่ใต้ร่างผู้ชาย!”จ้าวเทียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันจะบอกเธอแล้วกัน ฉันนี่แหละที่เอาเอดส์ไปติ
เมื่อกลับถึงอวิ๋นกุยเสิ่นชิงซูเปิดแฟ้มเอกสารก่อนเป็นอันดับแรกข้อมูลที่ฟู่ซือเหยียนให้เธอครบมากคดีของแม่ในตอนนั้นกลับมีเงื่อนงำ!ในนั้นยังเกี่ยวข้องกับจ้าวเทียนด้วยเสิ่นชิงซูพลิกอ่านข้อมูลเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่สืบค้นได้ในสองสามเดือนนี้ที่แท้หลินหลานอี๋ก็รู้จักกับจ้าวเทียนแต่แรกแล้วเมื่อก่อนจ้าวเทียนก็เป็นคนทำธุรกิจเหมือนกัน แต่มักใหญ่ใฝ่สูงเกินไป ตอนหลังเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น จึงเริ่มเลี่ยงภาษีหวังผลกำไร ที่ได้มาล้วนเป็นเงินสกปรกทว่าความสดใสไม่คงอยู่นาน เมื่อเจอกับความเข้มงวดของประเทศ จ้าวเทียนพลั้งสังหารเจ้าพนักงานทำคดีระหว่างการหลบหนี จึงถูกประกาศจับทั่วประเทศ!หลังจากจ้าวเทียนหลบหนีไป หลินหลานอี๋ก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ เธอคลอดโจวอวี๋ชูตามลำพังและไม่นานก็ลงเรือเป็นสาวนั่งดริงก์เธอรู้จักกับคนมีฐานะมากมายในสถานบันเทิง ใช้ชีวิตเป็นชู้ที่ถูกเลี้ยงดูหลายปี แต่โดยมากแล้ว คนมีฐานะพวกนั้นแค่ต้องการความแปลกใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปนานก็ให้เงินค่าเลิกราก้อนหนึ่ง ก่อนจะทิ้งหลินหลานอี๋หลินหลานอี๋แค้นใจ เธอจึงเริ่มหาผู้ชายที่จะทำให้เธอขึ้นตำแหน่งได้สำเร็จในตอนนี้เอง จ้าวเทียนปรากฏตั
เสิ่นชิงซูจำเป็นต้องหลุดพ้นจากฟู่ซือเหยียน แต่ถ้าการหลุดพ้นต้องแลกมาด้วยการเป็นฆาตกร การจ่ายนี้จะสูงเกินไปดังนั้น เวินจิ่งซีก็ยังหวังว่าฟู่ซือเหยียนจะไม่เป็นอะไรจะดีที่สุดชีวิตของเสิ่นชิงซูไม่ควรมีมลทินเพราะฟู่ซือเหยียนคนสองคนที่ไปกันต่อไม่ได้ หลังจากหย่าแล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่นี่แหละ คือตอนจบที่ดีที่สุด......ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซูที่อยู่ข้าง ๆ แต่เสิ่นชิงซูก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบในขณะนั้น คู่รักใหม่คู่หนึ่งก็ได้รับทะเบียนสมรส ผู้หญิงควงแขนผู้ชายอย่างหวานชื่นปรึกษากันว่าตอนเย็นจะไปกินข้าวที่ไหนดีผู้ชายบอกว่าเขาจองโรงแรมไว้แล้ว เป็นแพ็คเกจคู่รักสุดโรแมนติกสองวันหนึ่งคืนเมื่อผู้หญิงได้ยินแบบนั้น ก็เซอร์ไพรส์อย่างยิ่ง ควงแขนผู้ชายยิ้มอย่างหวานชื่นฟู่ซือเหยียนมองคู่รักใหม่คู่นี้ ในหัวก็อดนึกถึงภาพเมื่อเก้าปีก่อน วันที่เขาและเสิ่นชิงซูไปจดทะเบียนสมรสกันขึ้นมาไม่ได้วันนั้นหลังจากที่พวกเขาจดทะเบียนสมรสเสร็จ เขาก็ต้องรีบไปขึ้นศาล จึงบอกรหัสผ่านของบ้านให้เธอ และให้เธอย้ายเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์หนานซีเองจนกระทั่งเขาทำงานเสร็จ กลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้วแต่กล
เช้าวันรุ่งขึ้น เสิ่นชิงซูตื่นนอนตอนเจ็ดโมงเสี่ยวอันหนิงยังคงหลับสบายเธอขยับเข้าไปคลอเคลียแก้มเล็ก ๆ นุ่มนิ่มของลูกสาว แล้วหอมไปอีกสองสามฟอดหนูน้อยทำปากจู๋ ถูกหอมจนรำคาญ พลิกตัว เสียงเล็ก ๆ บ่นพึมพำ “แม่หนูอีกห้านาทีนะคะ~~”เสิ่นชิงซูหัวเราะเบา ๆ ช่วยดึงผ้าห่มให้เธอ แล้วลุกขึ้นจากเตียงยังเช้าอยู่ หลังจากเสิ่นชิงซูอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็แต่งหน้าบาง ๆวันนี้จะไปรับใบหย่า เป็นเรื่องดี ต้องแต่งตัวให้ดูสดใสหน่อย!ตอนที่เสิ่นชิงซูลงมาข้างล่าง ก็เห็นเวินจิ่งซีเดินเข้ามาจากข้างนอกพอดีในอ้อมแขนของเวินจิ่งซีมีช่อกุหลาบขาวอยู่ช่อหนึ่งเสิ่นชิงซูรู้สึกทั้งขำทั้งจนใจ “นี่คุณรีบไปซื้อดอกไม้แต่เช้าเลยเหรอ?”“สั่งล่วงหน้าไว้เมื่อคืน พนักงานเพิ่งมาส่งเมื่อกี้”เวินจิ่งซีเดินมาตรงหน้าเธอ ยื่นช่อกุหลาบขาวในมือให้ “สุขสันต์วันหย่า!”เสิ่นชิงซูรับดอกไม้ไป ก้มลงดมใกล้ ๆ แล้วเงยหน้ามองเขา ดวงตาที่สวยงามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณนะ”ป้าอวิ๋นออกมาจากครัว ในมือถือชามบะหมี่ “คุณเสิ่น คุณชาย มากินอาหารเช้ากันก่อนค่ะ กินให้อิ่มแล้วค่อยออกไป เวลายังมีอีกเยอะ!”เวลายังเช้าอยู่จริง ๆกินอาหารเช้าเสร็