แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูไม่ได้ดู เพียงแค่หยิบหนังสือข้อตกลงขึ้นมาแล้วมองโจวอวี๋ชู “บอกฟู่ซือเหยียนว่า เกี่ยวกับเรื่องหลังหย่า ทนายของฉันจะติดต่อกับเขาเอง”

ว่าแล้ว เธอก็หมุนตัวตั้งท่าว่าจะกลับ

โจวอวี๋ชูลุกขึ้นมา “คุณเสิ่น ซืออวี่อยู่กับคุณใช่ไหมคะ?”

เสิ่นชิงซูชะงักฝีเท้า เหล่ตามองเธอ

เสียงของโจวอวี๋ชูอ่อนโยน เจือด้วยน้ำเสียงขอร้องหลายส่วน “ฉันไม่ได้เจอซืออวี่มาหลายวันแล้ว ขอฉันขึ้นไปหาเขาหน่อยได้ไหมคะ?”

เสิ่นชิงซูไม่อยากให้โจวอวี๋ชูเหยียบเข้าไปในสตูดิโอของเธอเลยจริง ๆ

แต่ฟู่ซืออวี่เป็นลูกของโจวอวี๋ชู พอเธอหย่ากับฟู่ซือเหยียนแล้ว สถานะของเธอจะไม่นับว่าเป็นแม่เลี้ยงคนหนึ่งด้วยซ้ำ

นึกได้อย่างนี้แล้ว เสิ่นชิงซูกำลังคิดที่จะพูดบางอย่าง ทว่าเสียงเด็กไร้เดียงสาก็ดังขึ้นมาก่อน…

“แม่ครับ!”

เสิ่นชิงซูหันหน้ามา ฟู่ซืออวี่กำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว!

ฟู่ซืออวี่กระโจนเข้ามาหาเสิ่นชิงซู

เสิ่นชิงซูอ้าแขนรับตัวเขาไว้ตามจิตใต้สำนึก ลูบหัวเขาเบา ๆ ตามความเคยชิน “ทำไมถึงวิ่งลงมาคนเดียวล่ะจ๊ะ?”

“พี่เสี่ยวหานลงลิฟต์มากับผมครับ พอเห็นว่าผมเข้ามาในร้านกาแฟแล้วเธอถึงค่อยกลับไป”

ฟู่ซืออวี่กอดเสิ่นชิงซู ดวงหน้าเล็กถูไถไปมาในอ้อมกอดของเธอ “แม่ครับ ทำไมแม่ถึงออกมานานจัง? จนผมคิดถึงแม่แล้วนะ!”

เสิ่นชิงซูกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างช่วยไม่ได้

เด็กคนนี้ถนัดเรื่องอ้อนนัก

ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใหญ่กับเด็กล้วนอยู่ในสายตาของโจวอวี๋ชู ร่างผอมบางของเธอโอนเอนเล็กน้อย ดวงหน้างดงามพลันซีดเผือด

“ซืออวี่...”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น จึงสบกับสายตาอันเจ็บปวดของโจวอวี๋ชูเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว

ร่างน้อย ๆ ชะงักงัน

เสิ่นชิงซูก็อึ้งไปเช่นกัน รู้สึกได้ถึงความไม่เป็นตัวเองของฟู่ซืออวี่อย่างชัดเจน

เธอกำลังคิดที่จะปล่อยฟู่ซืออวี่ออก เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากทางด้านหลัง

“เสี่ยวชู”

พอเสิ่นชิงซูหันศีรษะไปก็เห็นฟู่ซือเหยียน

เขาสวมเสื้อโค้ตยาวสีดำตัวใหญ่ รูปร่างสูงโปร่ง สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม

เสิ่นชิงซูมองเขาที่สาวเท้ายาวเดินเข้ามาถึงยังข้างกายของโจวอวี๋ชู ก่อนจะถอดเสื้อโค้ตมาคลุมหัวโจวอวี๋ชูไว้

โจวอวี๋ชูถูกเขากอดปกป้องไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา

เสิ่นชิงซูมองเขานิ่ง ความเจ็บปวดรวดร้าวที่หน้าอกค่อย ๆ แผ่ซ่านอย่างควบคุมไม่ได้

ฟู่ซือเหยียนก้มหน้า พูดกับโจวอวี๋ชูที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยเสียงเบา “มีคนแอบถ่ายอยู่”

โจวอวี๋ชูได้ยินก็เผยสีหน้าตื่นตะลึง มือสองข้างจับสาบอกเสื้อของฟู่ซือเหยียนแน่น ใบหน้างดงามที่ทำให้แฟนคลับนับไม่ถ้วนคลั่งไคล้ซุกอยู่ในอกของฟู่ซือเหยียน

ฟู่ซือเหยียนคุ้มกันโจวอวี๋ชูและพาออกไป

ขณะเดินผ่านข้างกายเสิ่นชิงซู เขาทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวว่า “ส่งซืออวี่กลับบ้าน ผมจะไปรับเขาช้าหน่อย”

เขาแค่แจ้งให้เธอทราบ ไม่ต้องการคำตอบของเธอ

เสิ่นชิงซูโอบฟู่ซืออวี่ไว้ มองภาพที่ฟู่ซือเหยียนคุ้มกันและพาตัวโจวอวี๋ชูขึ้นรถไปผ่านหน้าต่างกระจกร้านกาแฟ

ฟู่ซือเหยียนที่เป็นแบบนั้น ช่างอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษมากจริง ๆ

ตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าว่าแต่หน้าของโจวอวี๋ชูเลย แม้แต่ผมเส้นเดียวก็ไม่สามารถโผล่ออกมาจากเสื้อโคตสีดำตัวนั้นได้

รถเมย์บัคสีดำแล่นออกไป

เสิ่นชิงซูก้มหน้า มองข้อตกลงการหย่าในมือตัวเอง ออกแรงเม้มที่ริมฝีปาก ไอร้อนผ่าวที่ทะลักขึ้นมาในเบ้าตาถูกเธอข่มกลับไปอีกครั้ง

“แม่ครับ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เสิ่นชิงซูดึงสติกลับมาได้ ก่อนจะสบกับสายตาห่วงใยของฟู่ซืออวี่

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนเค้นรอยยิ้มออกมา “แม่ไม่เป็นไร”

ฟู่ซืออวี่สังเกตสีหน้าของเสิ่นชิงซู

เห็นว่าเธอก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากในเวลาปกติเลย เขาจึงวางใจแล้ว

เสิ่นชิงซูไม่เป็นไร แต่ฟู่ซืออวี่ยังจำท่าทางเสียใจเมื่อกี้ของแม่ได้!

ฟู่ซืออวี่นึกได้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้แม่เสียใจ จึงรู้สึกผิดมาก

เสิ่นชิงซูเหลือบมองเวลาแวบหนึ่ง

ใกล้ได้เวลานัดตรวจกับเพื่อนแล้ว

เธอลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่ “ซืออวี่ แม่ต้องออกไปทำธุระนิดหน่อย ลูกกลับไปรอแม่ที่สตูดิโอก่อนได้ไหม?”

“ไม่เอา!” ตอนนี้ฟู่ซืออวี่อยากไปหาแม่ใจจะขาด แต่เขาก็ไม่กล้าให้เสิ่นชิงซูล่วงรู้ถึงความคิดในใจเขา

เขากลอกตาใช้ความคิด ก่อนจะพูดว่า “แม่ครับ แม่ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เมื่อกี้พ่อให้แม่ไปส่งผมกลับบ้านก่อน พ่อเขามีเรื่องสำคัญอะไรจะพูดกับแม่หรือเปล่าครับ?”

ฟู่ซือเหยียนจะมาหาเธอด้วยเรื่องสำคัญอะไรได้อีก นอกจากคุยเรื่องหย่า

แต่แล้วเธอจะพูดเรื่องพวกนี้กับฟู่ซืออวี่ได้ยังไง?

นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรลากเด็กบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวด้วย

“แม่ครับ แม่กลับบ้านกับผมก่อนเถอะนะครับ!” ฟู่ซืออวี่ดึงมือของเสิ่นชิงซู พร้อมพูดเสียงอ้อน “นะครับ! ผมไม่ได้เจอพ่อมาหลายวัน ผมคิดถึงพ่อแล้วละครับ!”

เสิ่นชิงซูถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยตอบรับอย่างจนใจ “ได้ งั้นแม่ส่งลูกกลับบ้านก่อนแล้วกัน”

“ดีจังเลย!” ฟู่ซืออวี่ดีใจสุดขีด “แม่ดีจริง ๆ!”

เสิ่นชิงซูลูบศีรษะเขาเบา ๆ มองดวงหน้าเล็กที่ใสซื่อและน่ารักของฟู่ซืออวี่ แล้วเธอก็ถอนหายใจอย่างไร้สุ้มเสียง

ในชีวิตแต่งงานห้าปีนี้ สิ่งที่เป็นเรื่องจริงคงจะเหลือแต่การพึ่งพาและความรู้สึกของฟู่ซืออวี่ที่มีต่อเธอเท่านั้น

นอกเหนือไปจากนี้ ล้วนเป็นคำโกหก ล้วนเป็นความคิดเพ้อเจ้อ

……

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสิ่นชิงซูกับฟู่ซืออวี่กลับมาถึงคฤหาสน์หนานซี

ฟู่ซือเหยียนยังไม่กลับมา ฟู่ซืออวี่รอไปแค่สิบนาทีก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว

“แม่ครับ แม่โทรถามพ่อหน่อยดีไหมครับว่าจะกลับมาเมื่อไร?”

เสิ่นชิงซูก็นึกว่าฟู่ซือเหยียนจะกลับมาเร็วเหมือนกัน เดิมทีเธอคิดว่าพอฟู่ซือเหยียนกลับมาแล้วเธอก็จะไปโรงพยาบาลทันที

แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอโทรหาฟู่ซือเหยียน ซึ่งโทรติดนานแล้วแต่ไม่มีคนรับ

โทรติดกันสามสายก็ไม่มีใครรับเหมือนเดิม

เสิ่นชิงซูจนปัญญา แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะปลอบใจฟู่ซืออวี่ “พ่อของลูกอาจจะกำลังยุ่งน่ะ”

หัวคิ้วของฟู่ซืออวี่ขมวดเป็นปม

หรือว่าแม่จะร้องไห้แล้ว พ่อกำลังปลอบใจแม่อยู่ก็เลยไม่ว่างรับโทรศัพท์?

พอคิดแบบนี้ ฟู่ซืออวี่ก็ยิ่งร้อนรนใจ เขาถึงขั้นเริ่มนึกเสียใจว่าทำไมเมื่อกี้ตัวเองต้องกอดเสิ่นชิงซูด้วย ถ้าเขาไม่กอดเสิ่นชิงซู แม่ก็คงไม่ต้องเสียใจ!

ฟู่ซืออวี่ยิ่งคิดยิ่งโมโห กระทั่งสายตาที่มองเสิ่นชิงซูก็ยังเจือด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย

เพียงแต่บัดนี้เสิ่นชิงซูกำลังส่งไลน์คุยกับเพื่อนสนิทอยู่ จึงไม่สังเกตเห็นอารมณ์ของฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซู : [พอดีติดธุระนิดหน่อย เปลี่ยนเป็นตรวจพรุ่งนี้แล้วกันนะ]

เพื่อนสนิท : [พรุ่งนี้ฉันเข้าเวรเช้า เธอเข้ามาได้เลย]

เสิ่นชิงซู : [โอเค]

เพื่อนสนิท : [ดูทรงแล้วฉันเดาว่าเธอก็ยังไม่ได้ตรวจอยู่ดีสิท่า!]

เสิ่นชิงซูเหลือบมองกระเป๋าที่วางอยู่ข้าง ๆ แวบหนึ่ง ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เธอตอบกลับ : [จะตรวจเดี๋ยวนี้แหละ]

ทางด้านเพื่อนสนิทส่งสติกเกอร์ทุบหัวอย่างแรงมา

เสิ่นชิงซูส่งสติกเกอร์ ‘ฉันผิดไปแล้ว’ กลับไป จากนั้นก็หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น “ซืออวี่ แม่ไปห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”

ฟู่ซืออวี่ไม่สนใจเธอ

เสิ่นชิงซูนึกว่าเขางอนฟู่ซือเหยียนอยู่ จึงไม่คิดอะไรมาก หมุนตัวเดินขึ้นไปยังชั้นสอง

รอจนกระทั่งมีเสียงปิดประตูห้องนอนหลักที่ดังขึ้นมาจากชั้นสอง จากนั้นฟู่ซืออวี่ก็รีบวิ่งกลับห้องนอนเด็กของตัวเองทันที ก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้หมอนแล้วหยิบสมาร์ตวอตช์ที่โจวอวี๋ชูซื้อให้เขาออกมา

คนแรกในรายชื่อผู้ติดต่อก็คือโจวอวี๋ชู ฟู่ซืออวี่กดโทรออกไป

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานกว่าจะถูกรับสาย

“ซืออวี่?”

เสียงแผ่วเบาและแหบแห้งของฟู่ซือเหยียนดังขึ้นจากปลายสาย ฟังแล้วเหมือนจะสอดแทรกด้วยเสียงหายใจเหนื่อยหอบนิด ๆ

ฟู่ซืออวี่ชะงักไปเล็กน้อย “พ่อ? ทำไมพ่อถึงรับโทรศัพท์ล่ะ? แม่ล่ะ?”

“แม่เพลียแล้วเลยเพิ่งหลับไป มีอะไรเหรอ?”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินประโยคนี้เข้าไป ในใจก็ร้อนรนกว่าเดิม “แม่ร้องไห้แล้วใช่ไหมครับ?”

ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธ “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วละ”

“ผมไม่วางใจแม่ พ่อครับ ผมกลับบ้านแล้วนะ พ่อมารับผมได้ไหม? ผมอยากไปอยู่เป็นเพื่อนแม่!”

“ได้ พ่อจะไปรับลูกเดี๋ยวนี้”

หลังจากวางโทรศัพท์ ฟู่ซืออวี่ตื่นเต้นดีใจสุด ๆ เขาแอบซ่อนสมาร์ตวอตช์ไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาว เดินออกจากห้องและวิ่งลงไปชั้นล่าง

ฟู่ซืออวี่นั่งบนโซฟาแล้วกดเปิดทีวี เขาดูทีวีรอพ่อมารับอย่างมีความสุข

และในขณะเดียวกัน ในห้องอาบน้ำภายในห้องนอนหลัก เสิ่นชิงซูจับที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือ ปลายนิ้วซีดเซียว…
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
วนิดา ศรีรัตนกูล
ลูกคนอื่นเลี้ยงยังไง็ไม่เชื่องอยู่ดี เลี้ยงหมายังดีกว่า
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 733

    “เธอมีพรสวรรค์ดีมาก ด้วยฐานะทางบ้านอย่างเธอ สามารถหาอาจารย์เก่ง ๆ มาชี้แนะได้สบาย”ชีเยว่วาดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็ได้ยินประโยคนี้หลุดจากปากเสิ่นชิงซูเขาชะงักมือ เงยหน้าขึ้นมองเธอเสิ่นชิงซูสีหน้าเย็นชา “แกลเลอรีของฉันไม่รับเธอ เธอกลับไปซะเถอะ”ชีเยว่วางพู่กันลง จ้องมองเสิ่นชิงซู “เป็นเพราะลุงฟู่แต่งงานกับแม่ผม คุณถึงไม่ชอบผมเหรอครับ?”“ใช่” เสิ่นชิงซูมองเด็กชายที่มีความคิดความอ่านเกินเด็กแปดขวบไปไกล น้ำเสียงยังคงเย็นยะเยือก “เพราะชีหมิงเสวียน และเพราะฟู่ซือเหยียน คนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยทั้งนั้น”ชีเยว่เริ่มร้อนใจ ขมวดคิ้วรีบอธิบาย “ลุงฟู่รักคุณมากนะครับ เขากับแม่ผมแค่ร่วมมือกันทางธุรกิจเฉย ๆพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันด้วยซ้ำ”เสิ่นชิงซูเพียงแค่นยิ้มเย็น “ฉันไม่สนหรอก เธอเป็นเด็ก ฉันไม่อยากใจร้ายกับเธอเกินไป แต่ขอให้เธออย่ามาที่นี่อีก”ชีเยว่มองเสิ่นชิงซูตาละห้อยเสิ่นชิงซูละสายตากลับมา หันไปสั่งผู้อำนวยการเซวีย “ฉันไปก่อนนะคะ ถ้าเขายังดื้อไม่ยอมกลับ คุณก็แจ้งตำรวจให้มาจัดการได้เลย”ผู้อำนวยการเซวียพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วครับ”เสิ่นชิงซูหันหล

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 732

    เมื่อสบตากัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดชีเยว่จ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงลุกขึ้นยืน มองหน้าเสิ่นชิงซู แล้วถามว่า “คุณเป็นเจ้าของแกลเลอรีนี้เหรอครับ?”เสิ่นชิงซูเดินเข้ามา มองเด็กชายที่มีท่าทางแก่แดดเกินวัย นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ถึงเอ่ยปาก “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถ้าจะสมัครเรียน ต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยถึงจะสมัครได้นะ”“แม่ไม่สนใจผมหรอกครับ” ชีเยว่มองเสิ่นชิงซู ทั้งที่อายุแค่แปดขวบ แต่คำพูดคำจากลับดูเป็นผู้ใหญ่ “ผมตัดสินใจเองได้ ทุกบ่ายวันอาทิตย์ผมจัดสรรเวลาเองได้ครับ”เด็กคนนี้อายุน้อยแค่นี้ แต่กลับมีบุคลิกความเป็นผู้นำแผ่ออกมาพูดง่าย ๆ ก็คือ สุขุมเกินวัยแต่เขาเป็นลูกชายของชีหมิงเสวียน และเป็นลูกเลี้ยงของฟู่ซือเหยียนเสิ่นชิงซูไม่ได้อยากรับเขาไว้นัก“ขอโทษนะ ตามกฎแล้ว แกลเลอรีของเรารับผู้เยาว์เข้าเรียนโดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้” เสิ่นชิงซูใช้น้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“เป็นเพราะแม่ผมคือชีหมิงเสวียน คุณถึงไม่อยากรับผมใช่ไหมครับ?”เสิ่นชิงซูชะงัก “ใช่ เพราะงั้นอย่าฝืนใจคนอื่นเลย ฉันเปิดประตูทำธุรกิจก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จำเป็นต้อ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 731

    “หานหมิงอวี่” ชีหมิงเสวียนเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกหานหมิงอวี่ชะงักนิ่งไป“แปดปีแล้วสินะ” ชีหมิงเสวียนหัวเราะในลำคอ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ที่แท้คุณก็ยังจำเขาได้ ที่แท้คุณก็จำได้ว่าชีเยว่เป็นลูกของเขา ที่แท้คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณกับฉี่ซือเนี่ยนเป็นพี่น้องกัน”หานหมิงอวี่ขมวดคิ้ว กำโทรศัพท์แน่นขึ้นปลายสาย เสียงของชีหมิงเสวียนยังคงดังต่อเนื่อง “งั้นทำไมตลอดแปดปีมานี้ คุณถึงไม่เคยมาดูดำดูดีพวกเราแม่ลูกเลย? ฉี่ซือเนี่ยนตายไปแล้ว ความเป็นพี่น้องก็ตายตามไปด้วยเหรอ? ทำไม? ทำไมถึงปล่อยให้พวกเราแม่ลูกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในขุมนรกตระกูลชีตามยถากรรม?”หานหมิงอวี่นิ่งอึ้ง“หานหมิงอวี่ ตอนนี้คุณจะมาแกล้งทำเป็นรักลึกซึ้งอะไรกับเสิ่นชิงซู?” ชีหมิงเสวียนแค่นหัวเราะ “ความจริงแล้ว คุณต่างหากที่เป็นคนเลือดเย็นที่สุด”เสียงของผู้หญิงลอดผ่านโทรศัพท์เข้าสู่โสตประสาทของชายหนุ่มท่ามกลางความเงียบสงัดในศาลบรรพชน ลมหายใจของหานหมิงอวี่เริ่มติดขัดแพขนตากะพริบถี่รัววินาทีถัดมา ชายหนุ่มก็กดตัดสายอย่างร้อนรนราวกับคนหนีความผิด......หลังจากวันนั้น เสิ่นชิงซูเก็บตัวอยู่ในวิลล่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 730

    ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยแต่เสิ่นชิงซูไม่แยแสเขาอีก หันหลังเดินตรงเข้าบ้านไปประตูหน้าบ้านปิดลงเสียงดังปัง ตัดขาดสายตาของผู้ชายคนนั้นฟู่ซือเหยียนจ้องประตูที่ปิดสนิทบานนั้น แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า…...คฤหาสน์ตระกูลหานหลังจากหานหมิงอวี่ส่งญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่กลับถึงบ้าน ก็อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาฟังตามฉบับที่ตกลงกับเสิ่นชิงซูไว้ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เขาคาด ต้องไปคุกเข่ารับโทษที่ศาลบรรพชนคุณปู่หานพอได้ยินว่าหลานชายตัวดีเป็นคนทำผิดต่อฝ่ายหญิง ทำให้เธอต้องคลอดลูกโดยไร้สถานะ เป็นเหตุให้หลานคนโตของตระกูลหานต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกด้วยความโมโห คุณปู่เลยฟาดไม้เท้าใส่หลังหานหมิงอวี่ไปหนึ่งทีหานหมิงอวี่กัดฟันแน่นไม่ร้องสักแอะคุณย่าหานปวดใจแทนหลาน ปากก็ดุด่าความผิดของหลาน สั่งให้คนลากตัวไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน แต่ความจริงคือหาทางปกป้องหลาน กลัวว่าคุณปู่เลือดขึ้นหน้าจะฟาดซ้ำอีกหลายไม้หานหมิงอวี่ถูกทำโทษให้คุกเข่าสำนึกผิดในศาลบรรพชนคุณปู่หานยื่นคำขาด ต้องคุกเข่าถึงพรุ่งนี้ ใครกล้ามาช่วยพูด ให้ไปคุกเข่าเป็นเพื่อนเขาด้วย!พ่อหานแม่หานส่ายหน้าถอนหายใจผู้ชายอกสาม

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 729

    ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง “อาซู ผมรู้ว่าเรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ ให้เวลาผมหน่อย เรามาคุยกันเถอะ”หานหมิงอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้าไปขวางหน้าเสิ่นชิงซูไว้ “ฟู่ซือเหยียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังกล้าเอาลูกมาขู่เธออีก หน้าไม่อายไปหน่อยมั้ง?”ฟู่ซือเหยียนแค่นเสียงหัวเราะ “ผมเอาลูกมาบีบเธอ? หรือเป็นคุณกันแน่ที่มีเจตนาแอบแฝง?”สายตาของหานหมิงอวี่วาวโรจน์ จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละสองหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันยืนประจันหน้า บรรยากาศตึงเครียดจนแทบหยุดหายใจเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ตระกูลหานได้แต่ยืนอึ้งทำตาปริบ ๆสุดท้ายพ่อหานจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากไกล่เกลี่ย“ดูท่าวันนี้พวกเราจะคิดน้อยไปหน่อยจริง ๆ” พ่อหานมองเสิ่นชิงซู น้ำเสียงอ่อนโยน “คุณเสิ่น ต้องขอโทษด้วยที่พวกเราบุ่มบ่าม เรื่องของพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ตัดสินใจกันเองน่าจะดีกว่า เอาอย่างนี้ สินสอดพวกเราจะฝากไว้ให้ก่อน ถ้าคุณเสิ่นกับหมิงอวี่มีวาสนาต่อกัน ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าพวกคุณยังไม่อยากแต่งงาน... สินสอดพวกนี้ก็ถือซะว่าเป็นของรับขวัญที่พวกเราให้เสี่ยวเนี่ยนเนี่ยนก็แล้วกัน”พ่อหานพูดจาได้อย่างสวยหรูไร้ที่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 728

    เสิ่นชิงซูถึงกับไปไม่เป็นลีลาของคุณย่าหานช่างดุดันเหลือเกิน จนเธอไปไม่เป็น ได้แต่หันหน้าไปมองหานหมิงอวี่หานหมิงอวี่ยกมือนวดหว่างคิ้ว เอ่ยกับคุณย่าว่า “คุณย่าครับ ใจเย็น ๆ ก่อน สถานการณ์ระหว่างเราซับซ้อนนิดหน่อย คุณย่าทำแบบนี้ ชิงซูจะลำบากใจเอานะครับ”“อะไรคือสถานการณ์ซับซ้อน?” คุณย่าหานขมวดคิ้วมองหลานชาย “หรือว่า พวกหลานแอบไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว?”หานหมิงอวี่ “...”เสิ่นชิงซู “...”ฟู่ซือเหยียนที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว“อาซู” ฟู่ซือเหยียนก้าวเข้ามา เมินเฉยคนอื่นรอบข้าง สายตาคมเข้มจับจ้องเพียงเสิ่นชิงซู “เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?”เสิ่นชิงซูมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ขอโทษนะคะคุณฟู่ เกรงว่าตอนนี้ฉันคงไม่ว่างต้อนรับคุณ”คุณย่าหานและแม่หานมองฟู่ซือเหยียน แม่ผัวลูกสะใภ้ลอบสบตากันแวบหนึ่งความจริงก่อนจะบุกมาที่นี่ พวกเขาสืบประวัติของเสิ่นชิงซูมาเรียบร้อยแล้วเรื่องที่เสิ่นชิงซูและฟู่ซือเหยียนเคยเป็นสามีภรรยากัน แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเปิดเผย แต่สำหรับตระกูลหาน การสืบเรื่องแค่นี้มันง่ายมากเสิ่นชิงซูเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แถมยังมีลูกชายหญิงกับฟู่ซือเหยียนอีกหนึ่งคู่ แม้คนตระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status