Share

บทที่ 7

Author: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูไม่ได้ดู เพียงแค่หยิบหนังสือข้อตกลงขึ้นมาแล้วมองโจวอวี๋ชู “บอกฟู่ซือเหยียนว่า เกี่ยวกับเรื่องหลังหย่า ทนายของฉันจะติดต่อกับเขาเอง”

ว่าแล้ว เธอก็หมุนตัวตั้งท่าว่าจะกลับ

โจวอวี๋ชูลุกขึ้นมา “คุณเสิ่น ซืออวี่อยู่กับคุณใช่ไหมคะ?”

เสิ่นชิงซูชะงักฝีเท้า เหล่ตามองเธอ

เสียงของโจวอวี๋ชูอ่อนโยน เจือด้วยน้ำเสียงขอร้องหลายส่วน “ฉันไม่ได้เจอซืออวี่มาหลายวันแล้ว ขอฉันขึ้นไปหาเขาหน่อยได้ไหมคะ?”

เสิ่นชิงซูไม่อยากให้โจวอวี๋ชูเหยียบเข้าไปในสตูดิโอของเธอเลยจริง ๆ

แต่ฟู่ซืออวี่เป็นลูกของโจวอวี๋ชู พอเธอหย่ากับฟู่ซือเหยียนแล้ว สถานะของเธอจะไม่นับว่าเป็นแม่เลี้ยงคนหนึ่งด้วยซ้ำ

นึกได้อย่างนี้แล้ว เสิ่นชิงซูกำลังคิดที่จะพูดบางอย่าง ทว่าเสียงเด็กไร้เดียงสาก็ดังขึ้นมาก่อน…

“แม่ครับ!”

เสิ่นชิงซูหันหน้ามา ฟู่ซืออวี่กำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว!

ฟู่ซืออวี่กระโจนเข้ามาหาเสิ่นชิงซู

เสิ่นชิงซูอ้าแขนรับตัวเขาไว้ตามจิตใต้สำนึก ลูบหัวเขาเบา ๆ ตามความเคยชิน “ทำไมถึงวิ่งลงมาคนเดียวล่ะจ๊ะ?”

“พี่เสี่ยวหานลงลิฟต์มากับผมครับ พอเห็นว่าผมเข้ามาในร้านกาแฟแล้วเธอถึงค่อยกลับไป”

ฟู่ซืออวี่กอดเสิ่นชิงซู ดวงหน้าเล็กถูไถไปมาในอ้อมกอดของเธอ “แม่ครับ ทำไมแม่ถึงออกมานานจัง? จนผมคิดถึงแม่แล้วนะ!”

เสิ่นชิงซูกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างช่วยไม่ได้

เด็กคนนี้ถนัดเรื่องอ้อนนัก

ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใหญ่กับเด็กล้วนอยู่ในสายตาของโจวอวี๋ชู ร่างผอมบางของเธอโอนเอนเล็กน้อย ดวงหน้างดงามพลันซีดเผือด

“ซืออวี่...”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น จึงสบกับสายตาอันเจ็บปวดของโจวอวี๋ชูเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว

ร่างน้อย ๆ ชะงักงัน

เสิ่นชิงซูก็อึ้งไปเช่นกัน รู้สึกได้ถึงความไม่เป็นตัวเองของฟู่ซืออวี่อย่างชัดเจน

เธอกำลังคิดที่จะปล่อยฟู่ซืออวี่ออก เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากทางด้านหลัง

“เสี่ยวชู”

พอเสิ่นชิงซูหันศีรษะไปก็เห็นฟู่ซือเหยียน

เขาสวมเสื้อโค้ตยาวสีดำตัวใหญ่ รูปร่างสูงโปร่ง สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม

เสิ่นชิงซูมองเขาที่สาวเท้ายาวเดินเข้ามาถึงยังข้างกายของโจวอวี๋ชู ก่อนจะถอดเสื้อโค้ตมาคลุมหัวโจวอวี๋ชูไว้

โจวอวี๋ชูถูกเขากอดปกป้องไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา

เสิ่นชิงซูมองเขานิ่ง ความเจ็บปวดรวดร้าวที่หน้าอกค่อย ๆ แผ่ซ่านอย่างควบคุมไม่ได้

ฟู่ซือเหยียนก้มหน้า พูดกับโจวอวี๋ชูที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยเสียงเบา “มีคนแอบถ่ายอยู่”

โจวอวี๋ชูได้ยินก็เผยสีหน้าตื่นตะลึง มือสองข้างจับสาบอกเสื้อของฟู่ซือเหยียนแน่น ใบหน้างดงามที่ทำให้แฟนคลับนับไม่ถ้วนคลั่งไคล้ซุกอยู่ในอกของฟู่ซือเหยียน

ฟู่ซือเหยียนคุ้มกันโจวอวี๋ชูและพาออกไป

ขณะเดินผ่านข้างกายเสิ่นชิงซู เขาทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวว่า “ส่งซืออวี่กลับบ้าน ผมจะไปรับเขาช้าหน่อย”

เขาแค่แจ้งให้เธอทราบ ไม่ต้องการคำตอบของเธอ

เสิ่นชิงซูโอบฟู่ซืออวี่ไว้ มองภาพที่ฟู่ซือเหยียนคุ้มกันและพาตัวโจวอวี๋ชูขึ้นรถไปผ่านหน้าต่างกระจกร้านกาแฟ

ฟู่ซือเหยียนที่เป็นแบบนั้น ช่างอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษมากจริง ๆ

ตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าว่าแต่หน้าของโจวอวี๋ชูเลย แม้แต่ผมเส้นเดียวก็ไม่สามารถโผล่ออกมาจากเสื้อโคตสีดำตัวนั้นได้

รถเมย์บัคสีดำแล่นออกไป

เสิ่นชิงซูก้มหน้า มองข้อตกลงการหย่าในมือตัวเอง ออกแรงเม้มที่ริมฝีปาก ไอร้อนผ่าวที่ทะลักขึ้นมาในเบ้าตาถูกเธอข่มกลับไปอีกครั้ง

“แม่ครับ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เสิ่นชิงซูดึงสติกลับมาได้ ก่อนจะสบกับสายตาห่วงใยของฟู่ซืออวี่

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนเค้นรอยยิ้มออกมา “แม่ไม่เป็นไร”

ฟู่ซืออวี่สังเกตสีหน้าของเสิ่นชิงซู

เห็นว่าเธอก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากในเวลาปกติเลย เขาจึงวางใจแล้ว

เสิ่นชิงซูไม่เป็นไร แต่ฟู่ซืออวี่ยังจำท่าทางเสียใจเมื่อกี้ของแม่ได้!

ฟู่ซืออวี่นึกได้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้แม่เสียใจ จึงรู้สึกผิดมาก

เสิ่นชิงซูเหลือบมองเวลาแวบหนึ่ง

ใกล้ได้เวลานัดตรวจกับเพื่อนแล้ว

เธอลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่ “ซืออวี่ แม่ต้องออกไปทำธุระนิดหน่อย ลูกกลับไปรอแม่ที่สตูดิโอก่อนได้ไหม?”

“ไม่เอา!” ตอนนี้ฟู่ซืออวี่อยากไปหาแม่ใจจะขาด แต่เขาก็ไม่กล้าให้เสิ่นชิงซูล่วงรู้ถึงความคิดในใจเขา

เขากลอกตาใช้ความคิด ก่อนจะพูดว่า “แม่ครับ แม่ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เมื่อกี้พ่อให้แม่ไปส่งผมกลับบ้านก่อน พ่อเขามีเรื่องสำคัญอะไรจะพูดกับแม่หรือเปล่าครับ?”

ฟู่ซือเหยียนจะมาหาเธอด้วยเรื่องสำคัญอะไรได้อีก นอกจากคุยเรื่องหย่า

แต่แล้วเธอจะพูดเรื่องพวกนี้กับฟู่ซืออวี่ได้ยังไง?

นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรลากเด็กบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวด้วย

“แม่ครับ แม่กลับบ้านกับผมก่อนเถอะนะครับ!” ฟู่ซืออวี่ดึงมือของเสิ่นชิงซู พร้อมพูดเสียงอ้อน “นะครับ! ผมไม่ได้เจอพ่อมาหลายวัน ผมคิดถึงพ่อแล้วละครับ!”

เสิ่นชิงซูถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยตอบรับอย่างจนใจ “ได้ งั้นแม่ส่งลูกกลับบ้านก่อนแล้วกัน”

“ดีจังเลย!” ฟู่ซืออวี่ดีใจสุดขีด “แม่ดีจริง ๆ!”

เสิ่นชิงซูลูบศีรษะเขาเบา ๆ มองดวงหน้าเล็กที่ใสซื่อและน่ารักของฟู่ซืออวี่ แล้วเธอก็ถอนหายใจอย่างไร้สุ้มเสียง

ในชีวิตแต่งงานห้าปีนี้ สิ่งที่เป็นเรื่องจริงคงจะเหลือแต่การพึ่งพาและความรู้สึกของฟู่ซืออวี่ที่มีต่อเธอเท่านั้น

นอกเหนือไปจากนี้ ล้วนเป็นคำโกหก ล้วนเป็นความคิดเพ้อเจ้อ

……

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสิ่นชิงซูกับฟู่ซืออวี่กลับมาถึงคฤหาสน์หนานซี

ฟู่ซือเหยียนยังไม่กลับมา ฟู่ซืออวี่รอไปแค่สิบนาทีก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว

“แม่ครับ แม่โทรถามพ่อหน่อยดีไหมครับว่าจะกลับมาเมื่อไร?”

เสิ่นชิงซูก็นึกว่าฟู่ซือเหยียนจะกลับมาเร็วเหมือนกัน เดิมทีเธอคิดว่าพอฟู่ซือเหยียนกลับมาแล้วเธอก็จะไปโรงพยาบาลทันที

แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอโทรหาฟู่ซือเหยียน ซึ่งโทรติดนานแล้วแต่ไม่มีคนรับ

โทรติดกันสามสายก็ไม่มีใครรับเหมือนเดิม

เสิ่นชิงซูจนปัญญา แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะปลอบใจฟู่ซืออวี่ “พ่อของลูกอาจจะกำลังยุ่งน่ะ”

หัวคิ้วของฟู่ซืออวี่ขมวดเป็นปม

หรือว่าแม่จะร้องไห้แล้ว พ่อกำลังปลอบใจแม่อยู่ก็เลยไม่ว่างรับโทรศัพท์?

พอคิดแบบนี้ ฟู่ซืออวี่ก็ยิ่งร้อนรนใจ เขาถึงขั้นเริ่มนึกเสียใจว่าทำไมเมื่อกี้ตัวเองต้องกอดเสิ่นชิงซูด้วย ถ้าเขาไม่กอดเสิ่นชิงซู แม่ก็คงไม่ต้องเสียใจ!

ฟู่ซืออวี่ยิ่งคิดยิ่งโมโห กระทั่งสายตาที่มองเสิ่นชิงซูก็ยังเจือด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย

เพียงแต่บัดนี้เสิ่นชิงซูกำลังส่งไลน์คุยกับเพื่อนสนิทอยู่ จึงไม่สังเกตเห็นอารมณ์ของฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซู : [พอดีติดธุระนิดหน่อย เปลี่ยนเป็นตรวจพรุ่งนี้แล้วกันนะ]

เพื่อนสนิท : [พรุ่งนี้ฉันเข้าเวรเช้า เธอเข้ามาได้เลย]

เสิ่นชิงซู : [โอเค]

เพื่อนสนิท : [ดูทรงแล้วฉันเดาว่าเธอก็ยังไม่ได้ตรวจอยู่ดีสิท่า!]

เสิ่นชิงซูเหลือบมองกระเป๋าที่วางอยู่ข้าง ๆ แวบหนึ่ง ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เธอตอบกลับ : [จะตรวจเดี๋ยวนี้แหละ]

ทางด้านเพื่อนสนิทส่งสติกเกอร์ทุบหัวอย่างแรงมา

เสิ่นชิงซูส่งสติกเกอร์ ‘ฉันผิดไปแล้ว’ กลับไป จากนั้นก็หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น “ซืออวี่ แม่ไปห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”

ฟู่ซืออวี่ไม่สนใจเธอ

เสิ่นชิงซูนึกว่าเขางอนฟู่ซือเหยียนอยู่ จึงไม่คิดอะไรมาก หมุนตัวเดินขึ้นไปยังชั้นสอง

รอจนกระทั่งมีเสียงปิดประตูห้องนอนหลักที่ดังขึ้นมาจากชั้นสอง จากนั้นฟู่ซืออวี่ก็รีบวิ่งกลับห้องนอนเด็กของตัวเองทันที ก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้หมอนแล้วหยิบสมาร์ตวอตช์ที่โจวอวี๋ชูซื้อให้เขาออกมา

คนแรกในรายชื่อผู้ติดต่อก็คือโจวอวี๋ชู ฟู่ซืออวี่กดโทรออกไป

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานกว่าจะถูกรับสาย

“ซืออวี่?”

เสียงแผ่วเบาและแหบแห้งของฟู่ซือเหยียนดังขึ้นจากปลายสาย ฟังแล้วเหมือนจะสอดแทรกด้วยเสียงหายใจเหนื่อยหอบนิด ๆ

ฟู่ซืออวี่ชะงักไปเล็กน้อย “พ่อ? ทำไมพ่อถึงรับโทรศัพท์ล่ะ? แม่ล่ะ?”

“แม่เพลียแล้วเลยเพิ่งหลับไป มีอะไรเหรอ?”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินประโยคนี้เข้าไป ในใจก็ร้อนรนกว่าเดิม “แม่ร้องไห้แล้วใช่ไหมครับ?”

ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธ “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วละ”

“ผมไม่วางใจแม่ พ่อครับ ผมกลับบ้านแล้วนะ พ่อมารับผมได้ไหม? ผมอยากไปอยู่เป็นเพื่อนแม่!”

“ได้ พ่อจะไปรับลูกเดี๋ยวนี้”

หลังจากวางโทรศัพท์ ฟู่ซืออวี่ตื่นเต้นดีใจสุด ๆ เขาแอบซ่อนสมาร์ตวอตช์ไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาว เดินออกจากห้องและวิ่งลงไปชั้นล่าง

ฟู่ซืออวี่นั่งบนโซฟาแล้วกดเปิดทีวี เขาดูทีวีรอพ่อมารับอย่างมีความสุข

และในขณะเดียวกัน ในห้องอาบน้ำภายในห้องนอนหลัก เสิ่นชิงซูจับที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือ ปลายนิ้วซีดเซียว…
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 307

    เสี่ยวเนี่ยนอันขมวดคิ้วไม่ได้พูด แต่ก้มหน้ามองตะเกียบเด็กที่ตัวเองถืออยู่ในมือท่าทางการจับตะเกียบของเขาไม่ถูกเสี่ยวอันหนิงจึงหยุดแล้วสอนเขาว่าต้องใช้ตะเกียบเด็กอย่างไรด้วยตัวเอง“เอานิ้วโป้งไว้ตรงนี้ นิ้วชี้ไว้ตรงนี้...ใช่แล้ว เสี่ยวเนี่ยนอันเก่งจังเลย งั้นตอนนี้ลองดูสิ ทำเหมือนกับฉัน คีบเนื้อ คีบขึ้นมา อ้าปาก อ้ำ~ภายใต้การสอนด้วยความอดทนของเสี่ยวอันหนิง เสี่ยวเนี่ยนอันใช้ตะเกียบเด็กคีบเนื้อชิ้นหนึ่งเข้าปากได้สำเร็จเสี่ยวอันหนิงวางตะเกียบลงทันที ตามด้วยปรบมือ “เสี่ยวเนี่ยนอันสุดยอดไปเลย! ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มใช้ตะเกียบนี่ต้องเรียนตั้งหลายวันแน่ะถึงจะเป็น แต่เสี่ยวเนี่ยนอันเป็นอัจฉริยะน้อย เรียนครั้งเดียวก็เป็นแล้ว!”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงอาย ใบหน้าเล็ก ๆ แดงระเรื่อเขามองไปทางเฟิงอวิ๋นเฉียนด้วยความอายเล็กน้อยเฟิงอวิ๋นเฉียนดื่มเหล้านิดหน่อย มึนนิด ๆเมื่อกี้เขาเห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมของลูกชายแล้วเขาวางแก้วเหล้าลง แล้วยกมือใหญ่ยีหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน “เนี่ยนอันก้าวหน้ามากเลยนะ”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงดีใจมาก ยกมุมปาก แย้มยิ้มขี้อายเสิ่นชิงซูสังเกตปฏิสัมพันธ์ขอ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 306

    เวินจิ่งซีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางหนักอกมีดในมือเสิ่นชิงซูร่วงตกลงพื้น“ระวัง!”เวินจิ่งซีรีบไปดึงเธอออกไป๋เจี้ยนเหวินตกใจกับเสียงจึงรีบปิดไฟกระทะผัดแล้วหันมามองเสิ่นชิงซูเห็นเธอมีสีหน้าแปลกไป ไป๋เจี้ยนเหวินจึงขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไปน่ะ?”เสิ่นชิงซูหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำโจวอวี๋ชูทำให้ลูกชายของเธอตายแต่เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป?เมื่อกี้เธอยังอุ้มเด็กคนนั้น...เสิ่นชิงซูหลับตาลง ข่มอารมณ์แล้วพูด “ให้เฟิงอวิ๋นเฉียนพาเด็กคนนั้นไป เอาไปเดี๋ยวนี้!”เธอรู้ว่าเด็กบริสุทธิ์แต่แม่ของเด็กคนนั้นคือฆาตกรที่ทำให้ลูกชายของเธอตาย!ไป๋เจี้ยนเหวินพยุงเสิ่นชิงซูพลางมองเวินจิ่งซี “ยังยืนเฉยทำไม รีบไปสิ!”เวินจิ่งซีถอนหายใจและหมุนตัวออกจากห้องครัว เกือบได้เจอกับเฟิงอวิ๋นเฉียนแล้วเฟิงอวิ๋นเฉียนอยากเข้าห้องครัว แต่เวินจิ่งซีขวางเขาไว้ทัน“คุณทำอะไรน่ะ?”เวินจิ่งซีขมวดคิ้วจ้องเขา “อาซูรู้แล้วว่าเสี่ยวเนี่ยนอันคือลูกของคุณกับโจวอวี๋ เธอไม่ให้อภัยชูโจวอวี๋ชู ถ้าคุณยังมีหัวใจเหลืออยู่ก็รีบพาลูกชายของคุณไสหัวไปเถอะ!”เฟิงอวิ๋นเฉียนมองเวินจิ่งซีด้วยสายตาราบเรียบ “เนี่ยนอันเป็นลูกช

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 305

    เสี่ยวเนี่ยนอันพยักหน้าเสิ่นชิงซูนั่งยองลงอีกครั้ง มองเขาแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เสียงของเสี่ยวเนี่ยนอันไพเราะมาก น้าอยากฟังอีกจังเลย ได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันอ้าปาก ค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมาคำหนึ่งช้า ๆ “ครับ”“เก่งจังเลย!” เสิ่นชิงซูลูบศีรษะของเขา ตามด้วยมองเสี่ยวอันหนิง “ลูกพาเสี่ยวเนี่ยนอันไปเล่นก่อนเถอะ”“ได้ค่ะ!”เสี่ยวอันหนิงจูงมือเสี่ยวเนี่ยนอันวิ่งไปเล่นที่ห้องรับแขกอย่างสุขสันต์ทันทีเสี่ยวเนี่ยนอันยินดีตามเสี่ยวอันหนิงไปเสี่ยวอันหนิงขนกล่องของเล่นตัวเองออกไปแล้วเทของออกทั้งหมด “เสี่ยวเนี่ยนอัน ของเล่นพวกนี้เลือกได้ตามสบายเลยนะ ชอบอันไหนฉันจะให้ แต่เลือกได้แค่ชิ้นเดียวนะ~”เด็กสองคนเล่นกันเอง ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลเสิ่นชิงซูลุกขึ้นยืนมองจางอวิ๋นและถาม “เสี่ยวเนี่ยนอันกี่ขวบแล้วคะ?“เดือนที่แล้วเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบสามปีไปค่ะ”เสิ่นชิงซูพยักหน้า “งั้นก็เด็กกว่าเสี่ยวอันหนิงไปปีหนึ่ง สามขวบยังเด็ก พวกคุณอย่ายอมแพ้กับเขานะ อย่างอื่นเขาฟังรู้เรื่องหมด แค่ว่าจิตใจอ่อนไหวกว่าเด็กคนอื่น ผู้ใหญ่ต้องแนะนำด้วยความอดทนเป็นเวลานาน“คุณพูดถูกค่ะ เจ้านายรักคุณชายน้อยมาก เขา

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 304

    เสี่ยวเนี่ยนอันมีตรวจพบว่ามีแนวโน้มปิดกั้นตัวเองตั้งแต่สองขวบนับจากตรวจพบ จางอวิ๋นกับครูพี่เลี้ยงอีกคนหนึ่งเพียรพยายามแนะนำเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ตลอด กลับได้ผลผิดจากที่หวังทว่าเวลานี้ เสี่ยวอันหนิงกับเสิ่นชิงซูกลับเปลี่ยนแปลงเสี่ยวเนี่ยนอันได้อย่างง่ายดายจางอวิ๋นรู้สึกว่าอัศจรรย์ใจมาก!ไม่เพียงจางอวิ๋น แม้แต่เจี่ยงเหวินจิ่นกับเวินจิ่งซีก็ประหลาดใจมากเหมือนกันเวินจิ่งซีกระซิบบ่น “มิน่าฟู่ซือเหยียนถึงไม่ยอมหย่าสักที ดวงสมพงษ์กับเด็กที่มีมากอย่างนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไหนบ้างจะไม่หวั่นไหว!”เจี่ยงเหวินจิ่นถลึงตาใส่เขา “วันดี ๆ อย่าพูดถึงตัวซวย!”เวินจิ่งซี “...ก็ได้ครับ!”เสิ่นชิงซูนั่งยองลงมองเสี่ยวเนี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน “เสี่ยวเนี่ยนอัน น้าอุ้มหนูได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันกะพริบตาปริบ ๆ หน้าเป๋อเหลอนาทีนี้บรรยากาศเงียบกริบทันใดทุกคนกำลังรอปฏิกิริยาของเสี่ยวเนี่ยนอันแม้แต่เสี่ยวอันหนิงก็ไม่กล้าพูดสักแอะ แค่ยืนจ้องเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ด้านข้างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทุกนาที เสี่ยวเนี่ยนอันยังไม่ตอบสนองพวกผู้ใหญ่ต่างเข้าใจ การขอแบบนี้เป็นการฝืนเสี่ยวเนี่ยนอันเกินไป“ไม่เป็นไ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 303

    เสิ่นชิงซูลูกชิ้นหัวสิงโตที่เพิ่งทำเสร็จออกมาจากห้องครัว“เสี่ยวอันหนิงอย่าเข้ามา ระวังร้อนนะ”เสี่ยวอันหนิงได้ยินหย่างนั้นจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันหลบไปอีกทางหนึ่งทันทีกระทั่งเห็นเสิ่นชิงซูวางอาหารไว้บนโต๊ะแล้ว เสี่ยวอันหนิงจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันเดินไปตรงหน้าเสิ่นชิงซู“แม่คะ แม่ดูสิ นี่คือเสี่ยวเนี่ยนอัน!”เสี่ยวอันหนิงผลักเสี่ยวเนี่ยอันไปตรงหน้าเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูยิ้ม ลูกสาวเป็นพวกเข้าสังคมเก่งคนหนึ่ง ชอบพาเพื่อนมาที่บ้าน เธอชินกับเรื่องแบบนี้นานแล้วเธอนั่งยองลงเหมือนทุกที คิดจะทักทายกับเด็กน้อย แต่จังหวะที่เห็นดวงตาดำขลับกลมโตของเสี่ยวเนี่ยนอันกลับชะงักงันความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายถาโถมเข้ามาในหัวใจเสี่ยวเนี่ยนอันก็มองเสิ่นชิงซูเหมือนกันดวงตาเด็กน้อยดำขลับสะท้อนใบหน้าของเสิ่นชิงซู ดวงหน้าทื่อ ๆ เล็ก ๆ ยังคงไม่มีอารมณ์ใดเสี่ยวอันหนิงเดินไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของเสิ่นชิงซู “แม่คะ เสี่ยวเนี่ยนอันไม่ค่อยเหมือนกับเด็กทั่วไปค่ะ น้าจางบอกว่าเขาไม่ชอบพูด”พอเสิ่นชิงซูได้ฟังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ค่อยเหมือน?ตอนนี้เอง เวินจิ่งซี เจี่ยงเหวินจิ่นและจางอวิ๋นเดินเข้ามาจากข้างน

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 302

    เสี่ยวเนี่ยนอันชอบเสี่ยวอันหนิงมากจริง ๆ เวลาที่เขาอยู่กับเสี่ยวอันหนิง แม้จะไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่แค่เสี่ยวอันหนิงถามเขา เขาก็จะตั้งใจตอบทุกครั้งจะพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำจางอวิ๋น เวินจิ่งซีเจี่ยงและเหวินจิ่นซึ่งเป็นผู้ใหญ่สามคนยืนมองอยู่ข้างนอก รู้สึกว่าภาพที่เด็กสองคนอยู่ด้วยกันช่างเป็นการเยียวยาที่แสนสวยงามเหลือเกิน“จะว่าไปก็แปลกนะคะ ฉันดูแลคุณชายน้อยมาสองปี นอกจากเจ้านายเรา ยังเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายอมสนิทสนมกับใครก่อนเลย”“จะเป็นไปได้ไหมว่าลูกสาวผมน่ารักมาก?” เวินจิ่งซีเลิกคิ้วด้วยความภาคภูมิใจเต็มประดา “อยู่ที่โรงเรียนอนุบาล เธอเป็นเด็กที่พ็อปที่สุดเลยนะ”พอจางอวิ๋นได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะพูด “งั้นคุณมีความสุขมากเลยนะคะ มีลูกสาวน่ารักอย่างนี้ ภรรยาของคุณต้องเป็นคนดีมากเลยค่ะ เธอเลี้ยงดูเสี่ยวอันหนิงได้ดีมาก”เวินจิ่งซีกระแอมกระไอ “นี่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผมครับ เป็นลูกสาวบุญธรรม”“หา อย่างนี้นี่เอง....” จางอวิ๋นก็อีหลักอีเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ถ้าข้างตัวคุณชายน้อยมีเพื่อนน่ารัก ๆ อย่างเสี่ยวอันหนิง อาการของเขาต้องดีขึ้นมากแน่ค่ะ”“พวกคุณก็อยู่ที่เมืองเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status