Share

บทที่ 7

Author: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูไม่ได้ดู เพียงแค่หยิบหนังสือข้อตกลงขึ้นมาแล้วมองโจวอวี๋ชู “บอกฟู่ซือเหยียนว่า เกี่ยวกับเรื่องหลังหย่า ทนายของฉันจะติดต่อกับเขาเอง”

ว่าแล้ว เธอก็หมุนตัวตั้งท่าว่าจะกลับ

โจวอวี๋ชูลุกขึ้นมา “คุณเสิ่น ซืออวี่อยู่กับคุณใช่ไหมคะ?”

เสิ่นชิงซูชะงักฝีเท้า เหล่ตามองเธอ

เสียงของโจวอวี๋ชูอ่อนโยน เจือด้วยน้ำเสียงขอร้องหลายส่วน “ฉันไม่ได้เจอซืออวี่มาหลายวันแล้ว ขอฉันขึ้นไปหาเขาหน่อยได้ไหมคะ?”

เสิ่นชิงซูไม่อยากให้โจวอวี๋ชูเหยียบเข้าไปในสตูดิโอของเธอเลยจริง ๆ

แต่ฟู่ซืออวี่เป็นลูกของโจวอวี๋ชู พอเธอหย่ากับฟู่ซือเหยียนแล้ว สถานะของเธอจะไม่นับว่าเป็นแม่เลี้ยงคนหนึ่งด้วยซ้ำ

นึกได้อย่างนี้แล้ว เสิ่นชิงซูกำลังคิดที่จะพูดบางอย่าง ทว่าเสียงเด็กไร้เดียงสาก็ดังขึ้นมาก่อน…

“แม่ครับ!”

เสิ่นชิงซูหันหน้ามา ฟู่ซืออวี่กำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว!

ฟู่ซืออวี่กระโจนเข้ามาหาเสิ่นชิงซู

เสิ่นชิงซูอ้าแขนรับตัวเขาไว้ตามจิตใต้สำนึก ลูบหัวเขาเบา ๆ ตามความเคยชิน “ทำไมถึงวิ่งลงมาคนเดียวล่ะจ๊ะ?”

“พี่เสี่ยวหานลงลิฟต์มากับผมครับ พอเห็นว่าผมเข้ามาในร้านกาแฟแล้วเธอถึงค่อยกลับไป”

ฟู่ซืออวี่กอดเสิ่นชิงซู ดวงหน้าเล็กถูไถไปมาในอ้อมกอดของเธอ “แม่ครับ ทำไมแม่ถึงออกมานานจัง? จนผมคิดถึงแม่แล้วนะ!”

เสิ่นชิงซูกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างช่วยไม่ได้

เด็กคนนี้ถนัดเรื่องอ้อนนัก

ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใหญ่กับเด็กล้วนอยู่ในสายตาของโจวอวี๋ชู ร่างผอมบางของเธอโอนเอนเล็กน้อย ดวงหน้างดงามพลันซีดเผือด

“ซืออวี่...”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น จึงสบกับสายตาอันเจ็บปวดของโจวอวี๋ชูเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว

ร่างน้อย ๆ ชะงักงัน

เสิ่นชิงซูก็อึ้งไปเช่นกัน รู้สึกได้ถึงความไม่เป็นตัวเองของฟู่ซืออวี่อย่างชัดเจน

เธอกำลังคิดที่จะปล่อยฟู่ซืออวี่ออก เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากทางด้านหลัง

“เสี่ยวชู”

พอเสิ่นชิงซูหันศีรษะไปก็เห็นฟู่ซือเหยียน

เขาสวมเสื้อโค้ตยาวสีดำตัวใหญ่ รูปร่างสูงโปร่ง สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม

เสิ่นชิงซูมองเขาที่สาวเท้ายาวเดินเข้ามาถึงยังข้างกายของโจวอวี๋ชู ก่อนจะถอดเสื้อโค้ตมาคลุมหัวโจวอวี๋ชูไว้

โจวอวี๋ชูถูกเขากอดปกป้องไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา

เสิ่นชิงซูมองเขานิ่ง ความเจ็บปวดรวดร้าวที่หน้าอกค่อย ๆ แผ่ซ่านอย่างควบคุมไม่ได้

ฟู่ซือเหยียนก้มหน้า พูดกับโจวอวี๋ชูที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยเสียงเบา “มีคนแอบถ่ายอยู่”

โจวอวี๋ชูได้ยินก็เผยสีหน้าตื่นตะลึง มือสองข้างจับสาบอกเสื้อของฟู่ซือเหยียนแน่น ใบหน้างดงามที่ทำให้แฟนคลับนับไม่ถ้วนคลั่งไคล้ซุกอยู่ในอกของฟู่ซือเหยียน

ฟู่ซือเหยียนคุ้มกันโจวอวี๋ชูและพาออกไป

ขณะเดินผ่านข้างกายเสิ่นชิงซู เขาทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวว่า “ส่งซืออวี่กลับบ้าน ผมจะไปรับเขาช้าหน่อย”

เขาแค่แจ้งให้เธอทราบ ไม่ต้องการคำตอบของเธอ

เสิ่นชิงซูโอบฟู่ซืออวี่ไว้ มองภาพที่ฟู่ซือเหยียนคุ้มกันและพาตัวโจวอวี๋ชูขึ้นรถไปผ่านหน้าต่างกระจกร้านกาแฟ

ฟู่ซือเหยียนที่เป็นแบบนั้น ช่างอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษมากจริง ๆ

ตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าว่าแต่หน้าของโจวอวี๋ชูเลย แม้แต่ผมเส้นเดียวก็ไม่สามารถโผล่ออกมาจากเสื้อโคตสีดำตัวนั้นได้

รถเมย์บัคสีดำแล่นออกไป

เสิ่นชิงซูก้มหน้า มองข้อตกลงการหย่าในมือตัวเอง ออกแรงเม้มที่ริมฝีปาก ไอร้อนผ่าวที่ทะลักขึ้นมาในเบ้าตาถูกเธอข่มกลับไปอีกครั้ง

“แม่ครับ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เสิ่นชิงซูดึงสติกลับมาได้ ก่อนจะสบกับสายตาห่วงใยของฟู่ซืออวี่

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนเค้นรอยยิ้มออกมา “แม่ไม่เป็นไร”

ฟู่ซืออวี่สังเกตสีหน้าของเสิ่นชิงซู

เห็นว่าเธอก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากในเวลาปกติเลย เขาจึงวางใจแล้ว

เสิ่นชิงซูไม่เป็นไร แต่ฟู่ซืออวี่ยังจำท่าทางเสียใจเมื่อกี้ของแม่ได้!

ฟู่ซืออวี่นึกได้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้แม่เสียใจ จึงรู้สึกผิดมาก

เสิ่นชิงซูเหลือบมองเวลาแวบหนึ่ง

ใกล้ได้เวลานัดตรวจกับเพื่อนแล้ว

เธอลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่ “ซืออวี่ แม่ต้องออกไปทำธุระนิดหน่อย ลูกกลับไปรอแม่ที่สตูดิโอก่อนได้ไหม?”

“ไม่เอา!” ตอนนี้ฟู่ซืออวี่อยากไปหาแม่ใจจะขาด แต่เขาก็ไม่กล้าให้เสิ่นชิงซูล่วงรู้ถึงความคิดในใจเขา

เขากลอกตาใช้ความคิด ก่อนจะพูดว่า “แม่ครับ แม่ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เมื่อกี้พ่อให้แม่ไปส่งผมกลับบ้านก่อน พ่อเขามีเรื่องสำคัญอะไรจะพูดกับแม่หรือเปล่าครับ?”

ฟู่ซือเหยียนจะมาหาเธอด้วยเรื่องสำคัญอะไรได้อีก นอกจากคุยเรื่องหย่า

แต่แล้วเธอจะพูดเรื่องพวกนี้กับฟู่ซืออวี่ได้ยังไง?

นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรลากเด็กบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวด้วย

“แม่ครับ แม่กลับบ้านกับผมก่อนเถอะนะครับ!” ฟู่ซืออวี่ดึงมือของเสิ่นชิงซู พร้อมพูดเสียงอ้อน “นะครับ! ผมไม่ได้เจอพ่อมาหลายวัน ผมคิดถึงพ่อแล้วละครับ!”

เสิ่นชิงซูถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยตอบรับอย่างจนใจ “ได้ งั้นแม่ส่งลูกกลับบ้านก่อนแล้วกัน”

“ดีจังเลย!” ฟู่ซืออวี่ดีใจสุดขีด “แม่ดีจริง ๆ!”

เสิ่นชิงซูลูบศีรษะเขาเบา ๆ มองดวงหน้าเล็กที่ใสซื่อและน่ารักของฟู่ซืออวี่ แล้วเธอก็ถอนหายใจอย่างไร้สุ้มเสียง

ในชีวิตแต่งงานห้าปีนี้ สิ่งที่เป็นเรื่องจริงคงจะเหลือแต่การพึ่งพาและความรู้สึกของฟู่ซืออวี่ที่มีต่อเธอเท่านั้น

นอกเหนือไปจากนี้ ล้วนเป็นคำโกหก ล้วนเป็นความคิดเพ้อเจ้อ

……

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสิ่นชิงซูกับฟู่ซืออวี่กลับมาถึงคฤหาสน์หนานซี

ฟู่ซือเหยียนยังไม่กลับมา ฟู่ซืออวี่รอไปแค่สิบนาทีก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว

“แม่ครับ แม่โทรถามพ่อหน่อยดีไหมครับว่าจะกลับมาเมื่อไร?”

เสิ่นชิงซูก็นึกว่าฟู่ซือเหยียนจะกลับมาเร็วเหมือนกัน เดิมทีเธอคิดว่าพอฟู่ซือเหยียนกลับมาแล้วเธอก็จะไปโรงพยาบาลทันที

แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอโทรหาฟู่ซือเหยียน ซึ่งโทรติดนานแล้วแต่ไม่มีคนรับ

โทรติดกันสามสายก็ไม่มีใครรับเหมือนเดิม

เสิ่นชิงซูจนปัญญา แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะปลอบใจฟู่ซืออวี่ “พ่อของลูกอาจจะกำลังยุ่งน่ะ”

หัวคิ้วของฟู่ซืออวี่ขมวดเป็นปม

หรือว่าแม่จะร้องไห้แล้ว พ่อกำลังปลอบใจแม่อยู่ก็เลยไม่ว่างรับโทรศัพท์?

พอคิดแบบนี้ ฟู่ซืออวี่ก็ยิ่งร้อนรนใจ เขาถึงขั้นเริ่มนึกเสียใจว่าทำไมเมื่อกี้ตัวเองต้องกอดเสิ่นชิงซูด้วย ถ้าเขาไม่กอดเสิ่นชิงซู แม่ก็คงไม่ต้องเสียใจ!

ฟู่ซืออวี่ยิ่งคิดยิ่งโมโห กระทั่งสายตาที่มองเสิ่นชิงซูก็ยังเจือด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย

เพียงแต่บัดนี้เสิ่นชิงซูกำลังส่งไลน์คุยกับเพื่อนสนิทอยู่ จึงไม่สังเกตเห็นอารมณ์ของฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซู : [พอดีติดธุระนิดหน่อย เปลี่ยนเป็นตรวจพรุ่งนี้แล้วกันนะ]

เพื่อนสนิท : [พรุ่งนี้ฉันเข้าเวรเช้า เธอเข้ามาได้เลย]

เสิ่นชิงซู : [โอเค]

เพื่อนสนิท : [ดูทรงแล้วฉันเดาว่าเธอก็ยังไม่ได้ตรวจอยู่ดีสิท่า!]

เสิ่นชิงซูเหลือบมองกระเป๋าที่วางอยู่ข้าง ๆ แวบหนึ่ง ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เธอตอบกลับ : [จะตรวจเดี๋ยวนี้แหละ]

ทางด้านเพื่อนสนิทส่งสติกเกอร์ทุบหัวอย่างแรงมา

เสิ่นชิงซูส่งสติกเกอร์ ‘ฉันผิดไปแล้ว’ กลับไป จากนั้นก็หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น “ซืออวี่ แม่ไปห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”

ฟู่ซืออวี่ไม่สนใจเธอ

เสิ่นชิงซูนึกว่าเขางอนฟู่ซือเหยียนอยู่ จึงไม่คิดอะไรมาก หมุนตัวเดินขึ้นไปยังชั้นสอง

รอจนกระทั่งมีเสียงปิดประตูห้องนอนหลักที่ดังขึ้นมาจากชั้นสอง จากนั้นฟู่ซืออวี่ก็รีบวิ่งกลับห้องนอนเด็กของตัวเองทันที ก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้หมอนแล้วหยิบสมาร์ตวอตช์ที่โจวอวี๋ชูซื้อให้เขาออกมา

คนแรกในรายชื่อผู้ติดต่อก็คือโจวอวี๋ชู ฟู่ซืออวี่กดโทรออกไป

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานกว่าจะถูกรับสาย

“ซืออวี่?”

เสียงแผ่วเบาและแหบแห้งของฟู่ซือเหยียนดังขึ้นจากปลายสาย ฟังแล้วเหมือนจะสอดแทรกด้วยเสียงหายใจเหนื่อยหอบนิด ๆ

ฟู่ซืออวี่ชะงักไปเล็กน้อย “พ่อ? ทำไมพ่อถึงรับโทรศัพท์ล่ะ? แม่ล่ะ?”

“แม่เพลียแล้วเลยเพิ่งหลับไป มีอะไรเหรอ?”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินประโยคนี้เข้าไป ในใจก็ร้อนรนกว่าเดิม “แม่ร้องไห้แล้วใช่ไหมครับ?”

ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธ “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วละ”

“ผมไม่วางใจแม่ พ่อครับ ผมกลับบ้านแล้วนะ พ่อมารับผมได้ไหม? ผมอยากไปอยู่เป็นเพื่อนแม่!”

“ได้ พ่อจะไปรับลูกเดี๋ยวนี้”

หลังจากวางโทรศัพท์ ฟู่ซืออวี่ตื่นเต้นดีใจสุด ๆ เขาแอบซ่อนสมาร์ตวอตช์ไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาว เดินออกจากห้องและวิ่งลงไปชั้นล่าง

ฟู่ซืออวี่นั่งบนโซฟาแล้วกดเปิดทีวี เขาดูทีวีรอพ่อมารับอย่างมีความสุข

และในขณะเดียวกัน ในห้องอาบน้ำภายในห้องนอนหลัก เสิ่นชิงซูจับที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือ ปลายนิ้วซีดเซียว…
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 100

    แกร้ง!เสียงมีดผ่าตัดหล่นลงพื้นดังขึ้นอย่างชัดเจนแพทย์วิสัญญีที่กำลังจะฉีดยาก็ชะงักทันที!หัวหน้าเจียงขมวดคิ้ว มองไปยังผู้ช่วยคนที่หนึ่ง “เธอเป็นอะไรไป?”ผู้ช่วยคนที่หนึ่งทำหน้าไร้เดียงสา “ไม่ใช่ฉันนะคะ นี่มัน...”ทันใดนั้นแพทย์วิสัญญีก็ดึงเข็มฉีดยาออก “แผ่นดินไหว!”เสิ่นชิงซูเบิกตาโพลงขึ้นทันที......ไฟผ่าตัดเหนือศีรษะกะพริบติด ๆ ดับ ๆ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เตียงผ่าตัดใต้ร่างกำลังสั่นไหว!ในวินาทีต่อมา เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทั่วทั้งโรงพยาบาล!“หยุดการผ่าตัด! อพยพไปทางหนีไฟเร็วเข้า...”เสิ่นชิงซูงุนงงไปหมด ถูกเฉียวซิงเจียและแพทย์วิสัญญีประคองลงจากเตียงผ่าตัดประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ทางเดินเต็มไปด้วยผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ สถานการณ์วุ่นวายอยู่พักหนึ่งเวินจิ่งซีเห็นพวกเธอออกมาก็รีบเข้าไปหา“เป็นยังไงบ้าง? ผ่าตัดไปหรือยัง?”“ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” เฉียวซิงเจียพูดพร้อมกับประคองเสิ่นชิงซูเวินจิ่งซีพยักหน้า ร่างสูงใหญ่ของเขาคอยป้องกันพวกเธอขณะเดินไปยังทางหนีไฟ...โชคดีที่แผ่นดินไหวหยุดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ทั้งทางหนีไฟและทางเดินต่างเต็มไปด้วยผู้คนถึงแ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 99

    เสิ่นชิงซูต้องตรวจเจอว่าท้องตั้งนานแล้วแน่ ๆ และที่สำคัญคือเธอไม่เคยคิดจะบอกเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ!ฟู่ซือเหยียนนึกถึงวันนั้น...วันนั้นทั้งลมทั้งหิมะรุนแรงขนาดนั้น ท่าทีของเสิ่นชิงซูก็เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น ทำให้เขาในตอนนั้นถูกความโกรธเข้าครอบงำจนหน้ามืดตามัว กลับมองข้ามรายละเอียดที่สำคัญที่สุดไป!รถเมย์บัคแล่นด้วยความเร็วสูงอยู่บนถนนในเมือง เปลี่ยนเลนอย่างอันตรายอยู่หลายครั้ง แต่ความเร็วกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย!ภายในรถ มือที่กุมพวงมาลัยของฟู่ซือเหยียนเกร็งแน่น ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงเย็นชานี่เสิ่นชิงซูวางแผนที่จะหย่าทั้ง ๆ ที่ท้องลูกของเขา แล้วไปคบกับเวินจิ่งซีอย่างนั้นเหรอ?เธอคิดจะให้ลูกของเขาเรียกคนอื่นว่าพ่องั้นเหรอ?ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มแน่นอยู่พลันโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน“เหอะ เสิ่นชิงซู คุณนี่มันแน่จริง ๆ!”ฟู่ซือเหยียนกุมพวงมาลัยด้วยมือเดียว เปิดรายชื่อผู้ติดต่อ แล้วโทรออกหาฉินเยี่ยนเฉิง“เสิ่นชิงซูอยู่ที่โรงพยาบาลพวกนาย นายรีบช่วยฉันเช็คประวัติการรักษาของเธอให้หน่อยสิ...”ปรี๊น ปรี๊น...ทันใดนั้นก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ฝ่าไฟแดงพุ่งออกมาจากสี่แยกข้างหน้า!ฟู่ซือ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 98

    เฉียวซิงเจียช่วยเสิ่นชิงซูทำเรื่องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อน จากนั้นก็พาเธอไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดของโรงพยาบาลหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นอีกสองสามอย่างผลตรวจจะออกในอีกครึ่งชั่วโมงเวลาแห่งการรอนั้นยาวนานและทรมาน เสิ่นชิงซูยืนอยู่ริมหน้าต่าง ไม่พูดอะไรสักคำเฉียวซิงเจียและเวินจิ่งซีอยู่เป็นเพื่อนเธอเงียบ ๆ ไม่ได้เข้าไปรบกวนครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผลตรวจออกมา ทุกอย่างเป็นปกติ สามารถทำการผ่าตัดได้ในขณะเดียวกัน ทางห้องผ่าตัดก็ส่งข่าวมาว่าเตรียมพร้อมแล้ว“อาซู” เฉียวซิงเจียเรียกเธอ “เราต้องไปที่ห้องผ่าตัดแล้วนะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ขนตาของเสิ่นชิงซูก็สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หันกลับมาเฉียวซิงเจียเดินเข้ามาสวมกอดเธอ “ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”เสิ่นชิงซูตอบรับเสียงเบา “อืม”เวินจิ่งซียืนเงียบอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักทั้งสามคนมาถึงหน้าห้องผ่าตัด เวินจิ่งซีหยุดเดินเฉียวซิงเจียควงแขนเสิ่นชิงซูเดินเข้าไป ประตูห้องผ่าตัดปิดลงอย่างหนักหน่วง......ศาลประชาชนเมืองเป่ย ผู

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 97

    “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ” เสิ่นชิงซูเม้มปากถอนหายใจเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า “ฉันขอบคุณในความหวังดีของคุณมากนะ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว”เวินจิ่งซีลุกขึ้นยืนตาม จ้องมองเธอแล้วถามย้ำ “แน่ใจแล้วเหรอครับ?”“อืม” เสิ่นชิงซูพยักหน้า น้ำเสียงหนักแน่น “ตอนแรกฉันยังคิดอยู่เลยว่าหลังผ่าตัดจะปิดบังคุณยังไงดี แต่ในเมื่อตอนนี้คุณรู้แล้ว ก็ช่วยฉันเก็บเป็นความลับด้วยแล้วกันนะ”เวินจิ่งซีเห็นว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมอะไรต่อ“คุณวางใจได้เลย ผมช่วยคุณเก็บเป็นความลับแน่นอน” เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วถามต่อ “พรุ่งนี้คุณผ่าตัดกี่โมงเหรอ?”“เก้าโมงค่ะ”“งั้นพรุ่งนี้ผมไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เสิ่นชิงซูไม่อยากรบกวนเวินจิ่งซี “ซิงซิงอยู่ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวเธอจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยเอง”“อาจารย์กับภรรยาของอาจารย์กำชับผมนักหนาก่อนที่เขาจะไป ว่าต้องดูแลคุณให้ดี” เวินจิ่งซีพูด “คุณจะให้ผมช่วยเก็บเป็นความลับ งั้นอย่างน้อยผมก็ต้องอยู่เฝ้าคุณ ให้แน่ใจว่าการผ่าตัดของคุณเรียบร้อยดี ผมถึงจะวางใจได้!”เสิ่นชิงซูยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เวินจิ่งซีก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นก่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 96

    ฟู่ซือเหยียนพาฟู่ซืออวี่จากไป พร้อมกับแมวพันธุ์แร็กดอลล์ที่โจวอวี๋ชูย้ำนักย้ำหนาว่าเสิ่นชิงซูจะต้องชอบหลังจากพวกเขาไปแล้ว เสิ่นชิงซูที่ฝืนทนมาตลอดก็ล้มพับลงเวินจิ่งซีรับร่างที่อ่อนแรงของเธอไว้ แล้วอุ้มเธอไปวางบนโซฟาในห้องทำงานเสิ่นชิงซูพิงโซฟา มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก หายใจหอบถี่ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษนี่คืออาการหายใจเร็วเกินไปที่เกิดจากอารมณ์ที่รุนแรงเกินไปเวินจิ่งซีใช้มือปิดปากเธอ แล้วแนะนำอย่างใจเย็น “คุณหายใจเร็วเกินไป ปิดปาก แล้วทำตามจังหวะผมนะ หนึ่ง สอง หายใจ ใช่ แบบนั้นแหละ หนึ่ง สอง หายใจ...”ด้วยความช่วยเหลือของเวินจิ่งซี ในที่สุดการหายใจของเสิ่นชิงซูก็กลับมาเป็นปกติเวินจิ่งซีรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง ส่งไปจ่อที่ริมฝีปากเธอ “ดื่มน้ำหน่อยนะ”เสิ่นชิงซูพิงโซฟาอยู่ หลังจากดื่มน้ำอุ่นไปครึ่งแก้ว ร่างกายที่เกร็งอยู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงเวินจิ่งซีคว้าหมอนอิงใบหนึ่งมารองหลังให้เธอ “พิงไว้จะสบายขึ้นหน่อย”เสิ่นชิงซูมองเวินจิ่งซี ริมฝีปากที่ซีดเซียวเม้มขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณค่ะ”จากการที่ได้อยู่ด้วยกันมาหลายวันนี้ เธอพบว่าถึงแม้เวินจิ่งซีจะปากร้ายไปหน่อย แต

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 95

    เสิ่นชิงซูมองฟู่ซือเหยียน ถ้อยคำของเขาแทงใจจนเธอต้องยิ้มทั้งน้ำตา“ฟู่ซือเหยียน ลูกชายของคุณเขามีแม่ของเขาอยู่แล้ว แม่ของเขาชื่อโจวอวี๋ชู ไม่ใช่ฉันเสิ่นชิงซู! แล้วก็ ในเมื่อคุณคิดว่าฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่ใช่แม่ที่ได้เรื่อง งั้นก็ได้ ฉันยอมรับ! เป็นฉันเองที่ไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของฟู่ซืออวี่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เชิญคุณพาลูกชายของคุณไสหัวออกไปจากที่ของฉันได้แล้ว!”เสิ่นชิงซูพูดรวดเดียวจบ ก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย ร่างบางโงนเงนเหมือนจะล้มเวินจิ่งซีรีบเข้าไปประคองเธอไว้ ก้มลงกระซิบถามข้างหูเบา ๆ “คุณยังโอเคไหม?”เสิ่นชิงซูสูดหายใจลึก ภาพที่พร่ามัวกลับมาชัดเจนขึ้น เธอส่ายหน้า “ยังไหว”ฟู่ซือเหยียนมองการกระทำของคนทั้งสอง สันกรามล่างเกร็งแน่น แววตาเย็นเยียบในขณะที่ฟู่ซืออวี่กำลังจ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอย ปากเล็ก ๆ ยังอ้าค้างอยู่ แต่กลับลืมไปแล้วว่าต้องร้องไห้เมื่อกี้แม่พูดว่าอะไรนะ?แม่...ไม่ต้องการเขาแล้วจริง ๆ เหรอ?ความหวาดกลัวอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาในใจของฟู่ซืออวี่ มือที่โอบคอฟู่ซือเหยียนอยู่กระชับแน่นขึ้น “พ่อครับ แม่แค่พูดประชดใช่ไหมครับ? แม่เป็นแม่ของผม แม่ไม่มีทางไม่ต้องการผมใช่ไหมค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status