แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
ฟู่ซือเหยียนยืนอยู่นอกประตู สีหน้าบนเบ้าหน้าคมชัดเย็นชาและเหินห่าง “สองสามวันนี้ผมต้องไปดุงาน เสี่ยวชูดูแลเขาคนเดียวไม่ไหว ช่วงนี้คงต้องให้คุณลำบากดูแลเขาหน่อย”

เสิ่นชิงซูรู้สึกไม่สบาย จึงชักสีหน้าใส่เขา

“ได้ งั้นตอนคุณกลับมาจากการดูงานก็อย่าลืมเอาข้อตกลงการหย่ามาด้วยนะคะ”

ว่าแล้วเธอก็อุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นก่อนจะหมุนตัวเดินมุ่งหน้าตรงเข้าไปที่ห้องทำงาน

ฟู่ซือเหยียนยืนมองเงียบ ๆ อยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง

จากนั้นเขาปิดประตูบานใหญ่ของสตูดิโอลง แล้วหมุนกายเดินจากไป

……

ภายในห้องพักผ่อน เสิ่นชิงซูวางฟู่ซืออวี่ลง ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา

“ถอดเสื้อกันหนาวออก แล้วนอนเถอะ”

คราวนี้ฟู่ซืออวี่เชื่อฟังมาก

ถอดเสื้อกันหนาวออกเองแล้วยื่นส่งให้เสิ่นชิงซู “แม่ครับ ช่วยเอาเสื้อกันหนาวไปแขวนให้ผมที ขอบคุณครับ”

ฟู่ซืออวี่มักจะปากหวานแบบนี้เสมอ

เสิ่นชิงซูยิ้มให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะรับเสื้อกันหนาวมาแขวนไว้บนราว

สองแม่ลูกนอนอยู่บนเตียง

ฟู่ซืออวี่กอดแขนเสิ่นชิงซูเอาไว้ “แม่ครับ แม่โกรธที่ผมไปเจอผู้หญิงคนนั้นมาใช่ไหมครับ”

เสิ่นชิงซูชะงักงัน จากนั้นถอนหายใจหนึ่งที ก่อนจะพูดแนะนำเสียงเบาพร้อมกับกอดฟู่ซืออวี่ไว้ “เธอเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของลูก แม่รู้ว่ามันยากที่จะยอมรับได้ในเวลาอันสั้น แต่ถ้าไม่มีเธอก็จะไม่มีลูกนะ ดังนั้นต่อไปลูกห้ามเรียกเธอด้วยคำว่า ‘ผู้หญิงคนนั้น’ อีก”

ความกระวนกระวายในใจของฟู่ซืออวี่หายไปไม่น้อยเพราะคำพูดประโยคนี้ของเสิ่นชิงซู

เขาเห็นว่าตอนกลางคืนเสิ่นชิงซูไม่กลับบ้าน ยังนึกว่าเสิ่นชิงซูโกรธที่เขาไปหาแม่ก็เลยไม่ต้องการเขาแล้วเสียอีก

ยังดีที่เขาแค่คิดมากไป!

ฟู่ซืออวี่หลับตาลงด้วยความพึงพอใจ “แม่ครับ ผมจะชอบแม่ตลอดไป ไม่ว่าแม่คนที่คลอดผมออกมาจะเป็นใคร แม่ก็จะเป็นแม่ที่ผมรักที่สุดตลอดไป!”

เสิ่นชิงซูหัวใจอ่อนยวบ ลูบดวงหน้าของเธอเบา ๆ

“แม่รู้แล้ว แม่ก็รับรองกับลูกเหมือนกัน ตราบใดที่ลูกต้องการแม่ แม่จะอยู่ตรงนี้เสมอ”

“แม่ แม่พูดแล้วนะครับ!” ฟู่ซืออวี่หาวหวอดหนึ่งที “แม่ห้ามโกหกนะ ถ้าโกหกจมูกจะยื่นนะครับ!”

เสิ่นชิงซูรู้สึกขำขันกับคำพูดนี้ของเขา อารมณ์หงุดหงิดค่อย ๆ สงบลง

เธอก้มหน้ามาจุ๊บที่หน้าผากของฟู่ซืออวี่เบา ๆ หนึ่งที “แม่ไม่มีวันโกหกลูกแน่นอน ฝันดีนะ”

สิ่งที่เสิ่นชิงซูได้รับกลับมาคือเสียงจังหวะลมหายใจที่สมดุลของฟู่ซืออวี่

……

ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมฤดูหนาว ฟู่ซืออวี่จึงไม่ต้องไปโรงเรียนอนุบาล

วันต่อมาสตูดิโอรับวัตถุโบราณมาบูรณะอีกชิ้นหนึ่ง ค่าตอบแทนสูงมาก แต่เวลาในการส่งมอบค่อนข้างกระชั้นอีกเช่นเดิม

สองวันต่อจากนั้น ฟู่ซืออวี่แทบจะอยู่กับเสิ่นชิงซูที่สตูดิโอตลอดเวลา

ในตอนที่เสิ่นชิงซูยุ่งอยู่กับงาน ลู่เสี่ยวหานกับพนักงานคนอื่น ๆ จะกันช่วยดูแลฟู่ซืออวี่

สองปีมานี้ฟู่ซืออวี่มาที่นี่ประจำ จึงสนิทสนมกับทุกคนมาก

เวลาบ่ายสองโมงของวันที่สาม ในที่สุดเสิ่นชิงซูก็ทำงานบูรณะเสร็จ

เธอออกมาจากห้องบูรณะแล้วเดินไปยังห้องทำงาน พร้อมกับส่งไลน์หาเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ในแผนกสูตินรีเวช

เสิ่นชิงซู : [เย็นนี้เข้าเวรไหม?]

[เข้าสิ! ทำไมเหรอ?]

เสิ่นชิงซู : [ช่วยเก็บคิวไว้ให้ฉันหน่อย ฉันจะไปถึงประมาณบ่ายสามครึ่ง]

[?? เกิดอะไรขึ้น? เธอท้องแล้วเหรอ?]

เสิ่นชิงซู : [ไม่แน่ใจ เลื่อนมาประมาณสิบวันได้แล้วมั้ง? สองวันนี้ก็รู้สึกหน่วง ๆ ท้องอยู่เหมือนกัน]

[เลื่อนมาสิบวันแล้ว! เธอไม่รู้จักซื้อที่ตรวจครรภ์มาลองตรวจดูหน่อยหรือไง!]

พอพูดถึงเรื่องนี้ เสิ่นชิงซูจึงค่อยนึกถึงที่ตรวจครรภ์ที่ตัวเองลืมไว้ในกระเป๋าขึ้นมา

เธอเม้มริมฝีปากแล้วถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะกดพิมพ์ข้อความ : [ซื้อมาแล้ว แต่ยุ่งจนลืมน่ะ]

[สุด ๆ ไปเลยนะเธอน่ะ! ขนาดซื้อมาแล้วยังลืมได้อีก! คงทำโอทีโต้รุ่งอีกแล้วสิท่า! เสิ่นชิงซู ไม่ใช่ว่าฉันแช่งเธอนะ ถ้าวันไหนเธอหัวใจวายตายในห้องบูรณะขึ้นมา ฉันก็จะไม่แปลกใจเลย! รีบไปตรวจก่อนเร็ว!]

เสิ่นชิงซู : [รู้แล้วน่า]

……

เสิ่นชิงซูกลับมาถึงยังห้องทำงาน

ฟู่ซืออวี่นอนหลับใหลอยู่บนโซฟา ผ้าห่มผืนเล็กที่คลุมอยู่บนตัวได้ถูกเขาถีบตกพื้นไปแล้ว

มีกล่องอาหารที่ยังกินไม่หมดวางอยู่บนโต๊ะ

เสิ่นชิงซูเดินมาหยิบผ้าห่มผืนเล็กขึ้นมาห่มให้บนตัวฟู่ซืออวี่

เก็บกล่องอาหารขึ้นมาทิ้งลงถังขยะ ตามด้วยเช็ดโต๊ะจนสะอาดเอี่ยมอ่อง แล้วค่อยนั่งลงบนโซฟาอีกตัวหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผาก

เริ่มรู้สึกไม่สบายที่ท้องน้อยอีกแล้ว เธอจึงนึกถึงที่ตรวจครรภ์ในกระเป๋าขึ้นมาโดยพลัน กำลังคิดว่าจะลุกไปหยิบ ลู่เสี่ยวหานก็ผลักประตูเดินเข้ามา

“พี่ชิงซู มีคนมาหาพี่ที่ชั้นล่างค่ะ”

……

ที่ชั้นล่างของสตูดิโอมีร้านกาแฟอยู่ร้านหนึ่ง

พอเสิ่นชิงซูเข้ามา มองแวบเดียวก็เห็นโจวอวี๋ชูที่นั่งอยู่ในมุมทันที

โจวอวี๋ชูนั่งตรงนั้น คู่ดวงตาที่สวมแว่นดำอยู่มองสำรวจเสิ่นชิงซูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

เสิ่นชิงซูอยู่ในชุดกระโปรงสีเบจ ด้านนอกสวมเสื้อขนปุยสีบัวชมพูอ่อนทับ ผมยาวเหยียดตรงถึงเอวดูอ่อนพลิ้วเป็นธรรมชาติ

เธอให้ความรู้สึกเรียบร้อยเหมือนสาวเจียงหนาน ดวงหน้าเท่าฝ่ามือมีองคาพยพที่ประณีตได้รูป ไม่ถือว่างดงามจนน่าตะลึง แต่เด่นที่ผิวพรรณขาวผ่อง ดูไม่มีพิษสงเลยสักนิดเดียว ท่าทางตอนยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดไม่จา ก็ทำให้รู้สึกว่าดูเย็นชาเข้าถึงยากอย่างบอกไม่ถูก

โจวอวี๋ชูมองอีกฝ่ายเดินเข้ามา พลางลุกขึ้นกล่าวยิ้ม ๆ อย่างนุ่มนวล “คุณเสิ่น เชิญนั่งค่ะ”

เสิ่นชิงซูไม่ได้นั่งลง

เธอไม่คิดว่าตัวเองมีความจำเป็นที่ต้องมาพบโจวอวี๋ชูเป็นการส่วนตัว

“คุณโจวมีอะไรก็เชิญพูดมาตรง ๆ เถอะค่ะ”

โจวอวี๋ชูยกมือขึ้นมาถอดแว่นดำออก “ดูเหมือนว่าคุณเสิ่นจะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไร แต่ฉันเข้าใจได้ค่ะ ฉันเองก็เพิ่งรู้วันนี้ว่าซือเหยียนโกหกกระทั่งคุณด้วย ทว่าเขาเองก็ทำไปเพราะหวังดีกับฉัน หวังว่าคุณเสิ่นจะไม่โทษเขานะคะ”

เสิ่นชิงซูเหยียดริมฝีปากเล็กน้อย น้ำเสียงนุ่มนวลราบเรียบ “ฉันไม่โทษใครทั้งนั้นแหละค่ะ ระหว่างฉันกับฟู่ซือเหยียนเดิมทีก็เป็นการร่วมมือกันด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย ส่วนฟู่ซืออวี่ เขาเป็นเด็กที่คุณตั้งท้องสิบเดือนคลอดออกมา คุณมีสิทธิ์เต็มที่ในการยอมรับความเป็นแม่ลูกกับเขา”

“คุณเสิ่นคิดแบบนี้จริงเหรอคะ?”

หัวคิ้วของเสิ่นชิงซูขมวดเป็นปมเล็กน้อย หมดความอดทนแล้ว “ที่คุณโจวนัดฉันออกมา แค่เพราะอยากรู้ความคิดของฉันเหรอคะ?”

โจวอวี๋ชูมองเสิ่นชิงซู

เธอค่อนข้างคาดไม่ถึงอยู่บ้าง

เสิ่นชิงซูดูควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้มาก

ผู้หญิงแบบนี้อยู่ข้างกายฟู่ซือเหยียนมาห้าปี

บอกตามตรง ถ้าจะพูดว่าเธอไม่รู้สึกถึงอันตรายสักนิดก็เป็นไปไม่ได้

แต่ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว เสิ่นชิงซูควรถอยไปได้แล้ว

โจวอวี๋ชูล้วงหยิบข้อตกลงการหย่าออกมาจากในกระเป๋า

เธอวางหนังสือข้อตกลงลงบนโต๊ะ ก่อนจะดันมันไปถึงตรงหน้าของเสิ่นชิงซู

“เจตนาของซือเหยียนคืออยากเก็บคฤหาสน์หนานซีไว้ให้คุณ นอกจากนี้จะจ่ายให้คุณอีกสองร้อยห้าสิบล้าน ถือเป็นค่าตอบแทนที่คุณลำบากมาตลอดห้าปีนี้ ถ้าคุณคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็เซ็นชื่อเถอะค่ะ”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 733

    “เธอมีพรสวรรค์ดีมาก ด้วยฐานะทางบ้านอย่างเธอ สามารถหาอาจารย์เก่ง ๆ มาชี้แนะได้สบาย”ชีเยว่วาดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็ได้ยินประโยคนี้หลุดจากปากเสิ่นชิงซูเขาชะงักมือ เงยหน้าขึ้นมองเธอเสิ่นชิงซูสีหน้าเย็นชา “แกลเลอรีของฉันไม่รับเธอ เธอกลับไปซะเถอะ”ชีเยว่วางพู่กันลง จ้องมองเสิ่นชิงซู “เป็นเพราะลุงฟู่แต่งงานกับแม่ผม คุณถึงไม่ชอบผมเหรอครับ?”“ใช่” เสิ่นชิงซูมองเด็กชายที่มีความคิดความอ่านเกินเด็กแปดขวบไปไกล น้ำเสียงยังคงเย็นยะเยือก “เพราะชีหมิงเสวียน และเพราะฟู่ซือเหยียน คนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยทั้งนั้น”ชีเยว่เริ่มร้อนใจ ขมวดคิ้วรีบอธิบาย “ลุงฟู่รักคุณมากนะครับ เขากับแม่ผมแค่ร่วมมือกันทางธุรกิจเฉย ๆพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันด้วยซ้ำ”เสิ่นชิงซูเพียงแค่นยิ้มเย็น “ฉันไม่สนหรอก เธอเป็นเด็ก ฉันไม่อยากใจร้ายกับเธอเกินไป แต่ขอให้เธออย่ามาที่นี่อีก”ชีเยว่มองเสิ่นชิงซูตาละห้อยเสิ่นชิงซูละสายตากลับมา หันไปสั่งผู้อำนวยการเซวีย “ฉันไปก่อนนะคะ ถ้าเขายังดื้อไม่ยอมกลับ คุณก็แจ้งตำรวจให้มาจัดการได้เลย”ผู้อำนวยการเซวียพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วครับ”เสิ่นชิงซูหันหล

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 732

    เมื่อสบตากัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดชีเยว่จ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงลุกขึ้นยืน มองหน้าเสิ่นชิงซู แล้วถามว่า “คุณเป็นเจ้าของแกลเลอรีนี้เหรอครับ?”เสิ่นชิงซูเดินเข้ามา มองเด็กชายที่มีท่าทางแก่แดดเกินวัย นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ถึงเอ่ยปาก “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถ้าจะสมัครเรียน ต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยถึงจะสมัครได้นะ”“แม่ไม่สนใจผมหรอกครับ” ชีเยว่มองเสิ่นชิงซู ทั้งที่อายุแค่แปดขวบ แต่คำพูดคำจากลับดูเป็นผู้ใหญ่ “ผมตัดสินใจเองได้ ทุกบ่ายวันอาทิตย์ผมจัดสรรเวลาเองได้ครับ”เด็กคนนี้อายุน้อยแค่นี้ แต่กลับมีบุคลิกความเป็นผู้นำแผ่ออกมาพูดง่าย ๆ ก็คือ สุขุมเกินวัยแต่เขาเป็นลูกชายของชีหมิงเสวียน และเป็นลูกเลี้ยงของฟู่ซือเหยียนเสิ่นชิงซูไม่ได้อยากรับเขาไว้นัก“ขอโทษนะ ตามกฎแล้ว แกลเลอรีของเรารับผู้เยาว์เข้าเรียนโดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้” เสิ่นชิงซูใช้น้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“เป็นเพราะแม่ผมคือชีหมิงเสวียน คุณถึงไม่อยากรับผมใช่ไหมครับ?”เสิ่นชิงซูชะงัก “ใช่ เพราะงั้นอย่าฝืนใจคนอื่นเลย ฉันเปิดประตูทำธุรกิจก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จำเป็นต้อ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 731

    “หานหมิงอวี่” ชีหมิงเสวียนเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกหานหมิงอวี่ชะงักนิ่งไป“แปดปีแล้วสินะ” ชีหมิงเสวียนหัวเราะในลำคอ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ที่แท้คุณก็ยังจำเขาได้ ที่แท้คุณก็จำได้ว่าชีเยว่เป็นลูกของเขา ที่แท้คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณกับฉี่ซือเนี่ยนเป็นพี่น้องกัน”หานหมิงอวี่ขมวดคิ้ว กำโทรศัพท์แน่นขึ้นปลายสาย เสียงของชีหมิงเสวียนยังคงดังต่อเนื่อง “งั้นทำไมตลอดแปดปีมานี้ คุณถึงไม่เคยมาดูดำดูดีพวกเราแม่ลูกเลย? ฉี่ซือเนี่ยนตายไปแล้ว ความเป็นพี่น้องก็ตายตามไปด้วยเหรอ? ทำไม? ทำไมถึงปล่อยให้พวกเราแม่ลูกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในขุมนรกตระกูลชีตามยถากรรม?”หานหมิงอวี่นิ่งอึ้ง“หานหมิงอวี่ ตอนนี้คุณจะมาแกล้งทำเป็นรักลึกซึ้งอะไรกับเสิ่นชิงซู?” ชีหมิงเสวียนแค่นหัวเราะ “ความจริงแล้ว คุณต่างหากที่เป็นคนเลือดเย็นที่สุด”เสียงของผู้หญิงลอดผ่านโทรศัพท์เข้าสู่โสตประสาทของชายหนุ่มท่ามกลางความเงียบสงัดในศาลบรรพชน ลมหายใจของหานหมิงอวี่เริ่มติดขัดแพขนตากะพริบถี่รัววินาทีถัดมา ชายหนุ่มก็กดตัดสายอย่างร้อนรนราวกับคนหนีความผิด......หลังจากวันนั้น เสิ่นชิงซูเก็บตัวอยู่ในวิลล่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 730

    ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยแต่เสิ่นชิงซูไม่แยแสเขาอีก หันหลังเดินตรงเข้าบ้านไปประตูหน้าบ้านปิดลงเสียงดังปัง ตัดขาดสายตาของผู้ชายคนนั้นฟู่ซือเหยียนจ้องประตูที่ปิดสนิทบานนั้น แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า…...คฤหาสน์ตระกูลหานหลังจากหานหมิงอวี่ส่งญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่กลับถึงบ้าน ก็อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาฟังตามฉบับที่ตกลงกับเสิ่นชิงซูไว้ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เขาคาด ต้องไปคุกเข่ารับโทษที่ศาลบรรพชนคุณปู่หานพอได้ยินว่าหลานชายตัวดีเป็นคนทำผิดต่อฝ่ายหญิง ทำให้เธอต้องคลอดลูกโดยไร้สถานะ เป็นเหตุให้หลานคนโตของตระกูลหานต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกด้วยความโมโห คุณปู่เลยฟาดไม้เท้าใส่หลังหานหมิงอวี่ไปหนึ่งทีหานหมิงอวี่กัดฟันแน่นไม่ร้องสักแอะคุณย่าหานปวดใจแทนหลาน ปากก็ดุด่าความผิดของหลาน สั่งให้คนลากตัวไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน แต่ความจริงคือหาทางปกป้องหลาน กลัวว่าคุณปู่เลือดขึ้นหน้าจะฟาดซ้ำอีกหลายไม้หานหมิงอวี่ถูกทำโทษให้คุกเข่าสำนึกผิดในศาลบรรพชนคุณปู่หานยื่นคำขาด ต้องคุกเข่าถึงพรุ่งนี้ ใครกล้ามาช่วยพูด ให้ไปคุกเข่าเป็นเพื่อนเขาด้วย!พ่อหานแม่หานส่ายหน้าถอนหายใจผู้ชายอกสาม

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 729

    ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง “อาซู ผมรู้ว่าเรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ ให้เวลาผมหน่อย เรามาคุยกันเถอะ”หานหมิงอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้าไปขวางหน้าเสิ่นชิงซูไว้ “ฟู่ซือเหยียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังกล้าเอาลูกมาขู่เธออีก หน้าไม่อายไปหน่อยมั้ง?”ฟู่ซือเหยียนแค่นเสียงหัวเราะ “ผมเอาลูกมาบีบเธอ? หรือเป็นคุณกันแน่ที่มีเจตนาแอบแฝง?”สายตาของหานหมิงอวี่วาวโรจน์ จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละสองหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันยืนประจันหน้า บรรยากาศตึงเครียดจนแทบหยุดหายใจเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ตระกูลหานได้แต่ยืนอึ้งทำตาปริบ ๆสุดท้ายพ่อหานจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากไกล่เกลี่ย“ดูท่าวันนี้พวกเราจะคิดน้อยไปหน่อยจริง ๆ” พ่อหานมองเสิ่นชิงซู น้ำเสียงอ่อนโยน “คุณเสิ่น ต้องขอโทษด้วยที่พวกเราบุ่มบ่าม เรื่องของพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ตัดสินใจกันเองน่าจะดีกว่า เอาอย่างนี้ สินสอดพวกเราจะฝากไว้ให้ก่อน ถ้าคุณเสิ่นกับหมิงอวี่มีวาสนาต่อกัน ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าพวกคุณยังไม่อยากแต่งงาน... สินสอดพวกนี้ก็ถือซะว่าเป็นของรับขวัญที่พวกเราให้เสี่ยวเนี่ยนเนี่ยนก็แล้วกัน”พ่อหานพูดจาได้อย่างสวยหรูไร้ที่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 728

    เสิ่นชิงซูถึงกับไปไม่เป็นลีลาของคุณย่าหานช่างดุดันเหลือเกิน จนเธอไปไม่เป็น ได้แต่หันหน้าไปมองหานหมิงอวี่หานหมิงอวี่ยกมือนวดหว่างคิ้ว เอ่ยกับคุณย่าว่า “คุณย่าครับ ใจเย็น ๆ ก่อน สถานการณ์ระหว่างเราซับซ้อนนิดหน่อย คุณย่าทำแบบนี้ ชิงซูจะลำบากใจเอานะครับ”“อะไรคือสถานการณ์ซับซ้อน?” คุณย่าหานขมวดคิ้วมองหลานชาย “หรือว่า พวกหลานแอบไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว?”หานหมิงอวี่ “...”เสิ่นชิงซู “...”ฟู่ซือเหยียนที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว“อาซู” ฟู่ซือเหยียนก้าวเข้ามา เมินเฉยคนอื่นรอบข้าง สายตาคมเข้มจับจ้องเพียงเสิ่นชิงซู “เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?”เสิ่นชิงซูมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ขอโทษนะคะคุณฟู่ เกรงว่าตอนนี้ฉันคงไม่ว่างต้อนรับคุณ”คุณย่าหานและแม่หานมองฟู่ซือเหยียน แม่ผัวลูกสะใภ้ลอบสบตากันแวบหนึ่งความจริงก่อนจะบุกมาที่นี่ พวกเขาสืบประวัติของเสิ่นชิงซูมาเรียบร้อยแล้วเรื่องที่เสิ่นชิงซูและฟู่ซือเหยียนเคยเป็นสามีภรรยากัน แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเปิดเผย แต่สำหรับตระกูลหาน การสืบเรื่องแค่นี้มันง่ายมากเสิ่นชิงซูเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แถมยังมีลูกชายหญิงกับฟู่ซือเหยียนอีกหนึ่งคู่ แม้คนตระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status