แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
เสียงรถดังมาจากบริเวณลานบ้าน

ฟู่ซือเหยียนกลับมาแล้ว

เสิ่นชิงซูถือที่ตรวจครรภ์ไว้พลางเปิดประตูห้องน้ำ

มีเสียงกระดี๊กระด๊าของฟู่ซืออวี่ดังแว่วขึ้นมาจากชั้นล่าง

“พ่อครับ!”

เสิ่นชิงซูค่อย ๆ เดินลงมาตามขั้นบันไดทีละก้าว ๆ

ฟู่ซืออวี่ยืนอ้าแขนไปทางฟู่ซือเหยียนจากบนโซฟา “พ่อ อุ้มหน่อย!”

ฟู่ซือเหยียนโน้มกายอุ้มร่างฟู่ซืออวี่ขึ้นมา

เสิ่นชิงซูสังเกตเห็นว่าฟู่ซือเหยียนได้เปลี่ยนชุดมาแล้ว

นึกเชื่อมโยงถึงโทรศัพท์สามสายนั้นที่ไม่มีใครรับ…

ความจริงอันโหดร้ายราวกับตะโกนออกมา

เสิ่นชิงซูหยุดลงตรงบันไดขั้นสุดท้าย ข้อนิ้วของมือข้างนั้นซึ่งกำที่ตรวจครรภ์อยู่กลายเป็นสีขาว

ฟู่ซืออวี่กอดคอฟู่ซือเหยียน แล้วมองมาที่เสิ่นชิงซู “แม่ พ่อจะพาผมไปเที่ยว แม่จะไปด้วยกันไหม?”

เสิ่นชิงซูเหลือบมองฟู่ซืออวี่แวบหนึ่ง จากนั้นเคลื่อนสายตาไปยังใบหน้าของฟู่ซือเหยียน

วันนี้ฟู่ซือเหยียนไม่สวมแว่นตา แววตาล้ำลึกไม่ปรากฏความรู้สึกใดสักนิด

ในที่สุดเขาก็มองมาทางเธอ มันยังคงเย็นชาเหมือนเคย

“หลายวันนี้ลำบากคุณแล้ว ช่วงนี้ผมจะอยู่ที่เมืองเป่ยตลอด เดี๋ยวผมดูแลซืออวี่เอง”

น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ ไพเราะจับใจ เพียงแต่ทุกคำที่เอื้อนเอ่ยกลับเปี่ยมล้นด้วยความห่างเหิน

ความห่างเหินที่มีต่อเธอ

เสิ่นชิงซูได้ฟังก็ยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดวงตาพลันร้อนผ่าว

เธอรู้สึกว่ามันช่างเสียดสี

เสียดสีในความยินดีปรีดาที่พรั่งพรูในใจเมื่อตัวเองได้เห็นผลตรวจในห้องน้ำเมื่อกี้

ฟู่ซืออวี่เห็นว่าเสิ่นชิงซูไม่ยอมพูดจาสักที ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาบ้างแล้ว

เขายังไม่ลืมที่เสิ่นชิงซูบอกว่ามีธุระต้องไปทำตอนอยู่ร้านกาแฟ เมื่อครู่ที่เขาถามอย่างนั้น ก็เป็นเพราะมั่นใจว่าเสิ่นชิงซูต้องไม่ตอบรับแน่นอน

แต่ถ้าหากเสิ่นชิงซูตอบตกลงขึ้นมา แล้วเขาจะทำอย่างไร?

เขากับพ่อกำลังจะไปหาแม่นะ!

“แม่?” ฟู่ซืออวี่ลองเรียกแบบหยั่งเชิงดู

เสิ่นชิงซูตวัดสายตาฉับพลัน สบกับสายตาที่ดูร้อนรนเล็กน้อยของฟู่ซืออวี่เข้า

สมองเธอสับสนมาก ไม่มีใจมองลึกเข้าไปในแววตาของฟู่ซืออวี่เพื่อดูว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร เพียงพูดเสียงเรียบ “แม่ไม่ไป ลูกกับพ่อไปเที่ยวกันให้สนุกเถอะ”

อันที่จริงเธอรู้ว่าฟู่ซือเหยียนน่าจะพาฟู่ซืออวี่ไปหาโจวอวี๋ชู แต่จู่ ๆ เธอรู้สึกว่าจะอะไรก็ช่างเถอะ เธอไม่อยากสนใจแล้ว

ฟู่ซืออวี่ถอนหายใจโล่งอกออกมาเฮือกใหญ่

“ถ้างั้นแม่พักผ่อนอยู่บ้านมาก ๆ นะครับ” ฟู่ซืออวี่พูดพลางมองไปยังฟู่ซือเหยียน ก่อนจะพูดอย่างอดใจรอไม่ไหวว่า “พ่อ พวกเรารีบไปกันเถอะ!”

ฟู่ซือเหยียนตอบรับเสียงเรียบ อุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นแล้วหมุนตัว แต่ขณะเดินผ่านโต๊ะกาแฟ หางตาก็เหลือบเห็นข้อตกลงการหย่าฉบับนั้น

เพียงแต่คำว่า ‘การหย่า’ สองคำนี้ที่อยู่บนหนังสือข้อตกลงถูกของเล่นของฟู่ซืออวี่ทับไว้

ฟู่ซือเหยียนชะงักฝีเท้า

เสิ่นชิงซูมองฟู่ซือเหยียนอยู่ตลอด ดังนั้นเมื่อสายตาของเขาไปตกอยู่บนข้อตกลงการหย่าฉบับนั้น เธอพลันหยุดหายใจตามอย่างอดไม่ได้

แม้เธอรู้ดีว่าฟู่ซือเหยียนจะขอหย่าแน่ แต่กลับไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะได้รับข้อตกลงการหย่าฉบับนี้จากมือคนรักของฟู่ซือเหยียน แม่ผู้ให้กำเนิดฟู่ซืออวี่

ก่อนที่วันนี้จะมาถึง เสิ่นชิงซูนึกว่าต่อให้ระหว่างเธอกับฟู่ซือเหยียนจะไม่มีความรักต่อกัน แต่ก็ถือว่าเป็นสามีภรรยาที่เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการแต่งงานครั้งนี้ที่เธอทั้งซาบซึ้งและทุ่มเทใจให้อย่างไม่เคยนึกดายนั้น เพิ่งจะมาค้นพบในตอนสุดท้ายว่า...เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแผนการหลอกลวงที่ฟู่ซือเหยียนวางแผนไว้อย่างแยบยลเพื่อคนที่เขารักสุดหัวใจ

ฟู่ซือเหยียนถึงขั้นยอมแลกด้วยชีวิตแต่งงานของตัวเองเพื่อปกป้องคนที่เขารัก สร้างสถานจองจำที่เรียกว่าการแต่งงานเพื่อเธอโดยเฉพาะ เขากักขังเธอไว้ในสถานจองจำนี้ ดูเธอทุ่มเททุกอย่างให้กับเด็กที่เกิดมาจากเขาและคนรักอย่างทุ่มเทเหมือนตัวตลก

ห้าปีเชียวนะ ไม่เคยมีแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวที่ฟู่ซือเหยียนรู้สึกผิดบ้างเลยเหรอ?

เสิ่นชิงซูคิดถึงภาพเหตุการณ์ตอนที่โจวอวี๋ชูเอาหนังสือข้อตกลงให้เธอ ในใจก็ทั้งเจ็บทั้งโกรธ

ในขณะเดียวกัน ฟู่ซือเหยียนกำลังหลุบตาลงมองจ้องไปที่หนังสือข้อตกลงฉบับนั้น

หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ทำท่าว่าจะเอื้อมมือไปหยิบ

ในที่สุดเสิ่นชิงซูก็อดกลั้นไม่อยู่แล้ว จึงเดินเข้าไปหาฟู่ซือเหยียน

ที่ตรวจครรภ์ในมือแทบจะถูกเธอบีบจนหัก

อารมณ์ที่สะสมมาหลายวันตอนนี้ได้ไต่ระดับมาถึงขีดสุดแล้ว

“ฟู่ซือเหยียน...”

“พ่อครับ รีบไปกันเถอะ!”

เสียงเร่งเร้าของฟู่ซืออวี่ทำให้คำพูดของเสิ่นชิงซูหยุดชะงัก และทำให้ความคิดที่อยากจะหยั่งความคิดของฟู่ซือเหยียนหายไปเช่นกัน

เขายกยิ้มเล็กน้อย “ได้ ไปกัน”

กล่าวจบก็อุ้มฟู่ซืออวี่เดินจากไปทันที

จนแล้วจนรอด ฟู่ซือเหยียนไม่ชายตามองเสิ่นชิงซูสักสายตา

กระทั่งเสียงรถจากด้านนอกค่อย ๆ แล่นไกลออกไปแล้ว

ร่างกายแข็งทื่อของเสิ่นชิงซูหมดเรี่ยวแรงในทันที จับพนักโซฟาไว้แล้วย่อตัวนั่งลงช้า ๆ

เธอก้มหน้าลง สายตาที่มองเห็นเส้นสีแดงสองขีดได้อย่างชัดเจนพร่ามัวลงทุกที

น้ำตาร้อนผ่าวร่วงเผาะ หล่นลงบนเส้นสีแดงนั้น

ถ้าฟู่ซือเหยียนมองเธอสักหน่อยก็จะเห็นที่ตรวจครรภ์ที่เธอกำอยู่ในมือ

แต่น่าเสียดาย สายตาเขาก็เหมือนกับหัวใจของเขา มันไม่มีทางที่จะหยุดอยู่ที่เธอเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

เสิ่นชิงซูทรุดตัวนั่งลงบนพื้น น้ำตาไหลอาบเต็มหน้า คฤหาสน์หนานซีหลังใหญ่ว่างเปล่า มีเพียงเสียงร้องไห้ด้วยความกล้ำกลืนของเธอที่ดังสะท้อนเนิ่นนาน

……

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอส่งรูปหนึ่งไปให้เพื่อนผ่านทางไลน์

เพื่อนสนิท : [อันนี้ค่อนข้างมีความแม่นยำสูงทีเดียว พรุ่งนี้เธออดอาหารแล้วมาตรวจดูหน่อยเถอะ]

เสิ่นชิงซู : [ฉันอยากนัดทำแท้งล่วงหน้าเลย]

เพื่อนสนิท : [!!!]

วินาทีต่อมา เพื่อนก็โทรมาทันที

เวลานี้เสิ่นชิงซูสงบสติอารมณ์แล้ว เธอกำลังเก็บกระเป๋าเดินทาง

เมื่อเห็นว่าชื่อผู้โทรที่แสดงขึ้นคือ ‘ซิงซิง’ เธอจึงวางเสื้อในมือที่พับไปได้ครึ่งหนึ่งลง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปุ่มรับสาย

“ฟู่ซือเหยียนรู้หรือเปล่า” เฉียวซิงเจียที่อยู่ปลายสายน้ำเสียงเคร่งเครียดจริงจัง “เธอต้องคิดให้ดี นี่มันลูกคนแรกของเธอเชียวนะ”

“เขาไม่รู้” เสิ่นชิงซูเสียงเบามาก “เราจะหย่ากันแล้ว เขามีฟู่ซืออวี่ ไม่สนใจชีวิตของชีวิตที่มาแบบไม่คาดคิดคนนี้หรอก”

เฉียวซิงเจียที่อยู่ปลายสายได้ยินดังนั้น ก็ถึงกับหมดคำพูดไปชั่วขณะเหมือนกัน

เฉียวซิงเจียนั้นรู้ดีเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งนี้ของเสิ่นชิงซูกับฟู่ซือเหยียน

“ถึงตอนแรกฉันจะไม่เห็นดีเห็นงามเรื่องเธอกับฟู่ซือเหยียน แต่ห้าปีนี้ฉันเห็นว่าเธอกับพวกเขาสองพ่อลูกก็ยังถือว่าเข้ากันได้ดี จนฉันถึงขั้นสงสัยว่าพวกเธอคงจะใช้ชีวิตกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แต่ใครจะไปคิด…เฮ้อ! เธอรู้ไหมว่ามันเป็นความรู้สึกยังไง? เหมือนฉันตั้งใจตามซีรีส์เรื่องหนึ่งอยู่ แต่สุดท้ายมันกลับจบไม่ดีไงล่ะ!”

เสิ่นชิงซูกะพริบตาที่ปวดตึงเล็กน้อย

เธอไม่อาจเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เฉียวซิงเจียฟังได้ ถ้าจะโทษก็คงทำได้แค่โทษที่เธอรักคนผิดเพราะควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้

“พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอ” เสิ่นชิงซูน้ำเสียงแน่วแน่

เฉียวซิงเจียรู้สึกสงสารจนเอาแต่ถอนหายใจ “พรุ่งนี้ยังทำไม่ได้หรอก ต้องตรวจก่อน เธอมาแล้วค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”

“อืม”

หลังจากวางสาย เสิ่นชิงซูวางมือถือลงแล้วเก็บกระเป๋าเดินทางต่อ

แม้ว่าฟู่ซือเหยียนจะยกคฤหาสน์หนานซีให้เธอแล้ว แต่เธอไม่คิดที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ต่อ

เธอรู้ว่าฟู่ซือเหยียนไม่เสียดายบ้านหลังนี้แน่นอน ดังนั้นเธอจึงตั้งใจว่าพอหย่ากันแล้วก็จะขายมันเสีย

อย่างไรก็เป็นบ้านที่อยู่มาห้าปี จึงมีของใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย

เสิ่นชิงซูเก็บกลับไปเฉพาะเสื้อผ้าและกระเป๋าแบบที่ใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ที่เหลือก็สุดแล้วแต่ว่าฟู่ซือเหยียนจะจัดการอย่างไร ถ้าฟู่ซือเหยียนขี้เกียจจะจัดการก็ค่อยรอจัดการพร้อมกันทีเดียวตอนขายบ้านแล้วกัน

พอเก็บกระเป๋าเดินทางเสร็จ เสิ่นชิงซูได้ทำการเซ็นชื่อลงในข้อตกลงการหย่า จากนั้นก็นำข้อตกลงการหย่าไปวางไว้บนโต๊ะกาแฟที่สะดุดตาที่สุด

เสิ่นชิงซูเดินลากกระเป๋าเดินทางสองใบออกมาจากคฤหาสน์หนานซี ก่อนจะปิดประตูแล้วออกมาอย่างไม่หันหลังกลับ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 733

    “เธอมีพรสวรรค์ดีมาก ด้วยฐานะทางบ้านอย่างเธอ สามารถหาอาจารย์เก่ง ๆ มาชี้แนะได้สบาย”ชีเยว่วาดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็ได้ยินประโยคนี้หลุดจากปากเสิ่นชิงซูเขาชะงักมือ เงยหน้าขึ้นมองเธอเสิ่นชิงซูสีหน้าเย็นชา “แกลเลอรีของฉันไม่รับเธอ เธอกลับไปซะเถอะ”ชีเยว่วางพู่กันลง จ้องมองเสิ่นชิงซู “เป็นเพราะลุงฟู่แต่งงานกับแม่ผม คุณถึงไม่ชอบผมเหรอครับ?”“ใช่” เสิ่นชิงซูมองเด็กชายที่มีความคิดความอ่านเกินเด็กแปดขวบไปไกล น้ำเสียงยังคงเย็นยะเยือก “เพราะชีหมิงเสวียน และเพราะฟู่ซือเหยียน คนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยทั้งนั้น”ชีเยว่เริ่มร้อนใจ ขมวดคิ้วรีบอธิบาย “ลุงฟู่รักคุณมากนะครับ เขากับแม่ผมแค่ร่วมมือกันทางธุรกิจเฉย ๆพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันด้วยซ้ำ”เสิ่นชิงซูเพียงแค่นยิ้มเย็น “ฉันไม่สนหรอก เธอเป็นเด็ก ฉันไม่อยากใจร้ายกับเธอเกินไป แต่ขอให้เธออย่ามาที่นี่อีก”ชีเยว่มองเสิ่นชิงซูตาละห้อยเสิ่นชิงซูละสายตากลับมา หันไปสั่งผู้อำนวยการเซวีย “ฉันไปก่อนนะคะ ถ้าเขายังดื้อไม่ยอมกลับ คุณก็แจ้งตำรวจให้มาจัดการได้เลย”ผู้อำนวยการเซวียพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วครับ”เสิ่นชิงซูหันหล

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 732

    เมื่อสบตากัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดชีเยว่จ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงลุกขึ้นยืน มองหน้าเสิ่นชิงซู แล้วถามว่า “คุณเป็นเจ้าของแกลเลอรีนี้เหรอครับ?”เสิ่นชิงซูเดินเข้ามา มองเด็กชายที่มีท่าทางแก่แดดเกินวัย นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ถึงเอ่ยปาก “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถ้าจะสมัครเรียน ต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยถึงจะสมัครได้นะ”“แม่ไม่สนใจผมหรอกครับ” ชีเยว่มองเสิ่นชิงซู ทั้งที่อายุแค่แปดขวบ แต่คำพูดคำจากลับดูเป็นผู้ใหญ่ “ผมตัดสินใจเองได้ ทุกบ่ายวันอาทิตย์ผมจัดสรรเวลาเองได้ครับ”เด็กคนนี้อายุน้อยแค่นี้ แต่กลับมีบุคลิกความเป็นผู้นำแผ่ออกมาพูดง่าย ๆ ก็คือ สุขุมเกินวัยแต่เขาเป็นลูกชายของชีหมิงเสวียน และเป็นลูกเลี้ยงของฟู่ซือเหยียนเสิ่นชิงซูไม่ได้อยากรับเขาไว้นัก“ขอโทษนะ ตามกฎแล้ว แกลเลอรีของเรารับผู้เยาว์เข้าเรียนโดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้” เสิ่นชิงซูใช้น้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“เป็นเพราะแม่ผมคือชีหมิงเสวียน คุณถึงไม่อยากรับผมใช่ไหมครับ?”เสิ่นชิงซูชะงัก “ใช่ เพราะงั้นอย่าฝืนใจคนอื่นเลย ฉันเปิดประตูทำธุรกิจก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จำเป็นต้อ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 731

    “หานหมิงอวี่” ชีหมิงเสวียนเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกหานหมิงอวี่ชะงักนิ่งไป“แปดปีแล้วสินะ” ชีหมิงเสวียนหัวเราะในลำคอ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ที่แท้คุณก็ยังจำเขาได้ ที่แท้คุณก็จำได้ว่าชีเยว่เป็นลูกของเขา ที่แท้คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณกับฉี่ซือเนี่ยนเป็นพี่น้องกัน”หานหมิงอวี่ขมวดคิ้ว กำโทรศัพท์แน่นขึ้นปลายสาย เสียงของชีหมิงเสวียนยังคงดังต่อเนื่อง “งั้นทำไมตลอดแปดปีมานี้ คุณถึงไม่เคยมาดูดำดูดีพวกเราแม่ลูกเลย? ฉี่ซือเนี่ยนตายไปแล้ว ความเป็นพี่น้องก็ตายตามไปด้วยเหรอ? ทำไม? ทำไมถึงปล่อยให้พวกเราแม่ลูกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในขุมนรกตระกูลชีตามยถากรรม?”หานหมิงอวี่นิ่งอึ้ง“หานหมิงอวี่ ตอนนี้คุณจะมาแกล้งทำเป็นรักลึกซึ้งอะไรกับเสิ่นชิงซู?” ชีหมิงเสวียนแค่นหัวเราะ “ความจริงแล้ว คุณต่างหากที่เป็นคนเลือดเย็นที่สุด”เสียงของผู้หญิงลอดผ่านโทรศัพท์เข้าสู่โสตประสาทของชายหนุ่มท่ามกลางความเงียบสงัดในศาลบรรพชน ลมหายใจของหานหมิงอวี่เริ่มติดขัดแพขนตากะพริบถี่รัววินาทีถัดมา ชายหนุ่มก็กดตัดสายอย่างร้อนรนราวกับคนหนีความผิด......หลังจากวันนั้น เสิ่นชิงซูเก็บตัวอยู่ในวิลล่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 730

    ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยแต่เสิ่นชิงซูไม่แยแสเขาอีก หันหลังเดินตรงเข้าบ้านไปประตูหน้าบ้านปิดลงเสียงดังปัง ตัดขาดสายตาของผู้ชายคนนั้นฟู่ซือเหยียนจ้องประตูที่ปิดสนิทบานนั้น แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า…...คฤหาสน์ตระกูลหานหลังจากหานหมิงอวี่ส่งญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่กลับถึงบ้าน ก็อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาฟังตามฉบับที่ตกลงกับเสิ่นชิงซูไว้ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เขาคาด ต้องไปคุกเข่ารับโทษที่ศาลบรรพชนคุณปู่หานพอได้ยินว่าหลานชายตัวดีเป็นคนทำผิดต่อฝ่ายหญิง ทำให้เธอต้องคลอดลูกโดยไร้สถานะ เป็นเหตุให้หลานคนโตของตระกูลหานต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกด้วยความโมโห คุณปู่เลยฟาดไม้เท้าใส่หลังหานหมิงอวี่ไปหนึ่งทีหานหมิงอวี่กัดฟันแน่นไม่ร้องสักแอะคุณย่าหานปวดใจแทนหลาน ปากก็ดุด่าความผิดของหลาน สั่งให้คนลากตัวไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน แต่ความจริงคือหาทางปกป้องหลาน กลัวว่าคุณปู่เลือดขึ้นหน้าจะฟาดซ้ำอีกหลายไม้หานหมิงอวี่ถูกทำโทษให้คุกเข่าสำนึกผิดในศาลบรรพชนคุณปู่หานยื่นคำขาด ต้องคุกเข่าถึงพรุ่งนี้ ใครกล้ามาช่วยพูด ให้ไปคุกเข่าเป็นเพื่อนเขาด้วย!พ่อหานแม่หานส่ายหน้าถอนหายใจผู้ชายอกสาม

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 729

    ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง “อาซู ผมรู้ว่าเรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ ให้เวลาผมหน่อย เรามาคุยกันเถอะ”หานหมิงอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้าไปขวางหน้าเสิ่นชิงซูไว้ “ฟู่ซือเหยียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังกล้าเอาลูกมาขู่เธออีก หน้าไม่อายไปหน่อยมั้ง?”ฟู่ซือเหยียนแค่นเสียงหัวเราะ “ผมเอาลูกมาบีบเธอ? หรือเป็นคุณกันแน่ที่มีเจตนาแอบแฝง?”สายตาของหานหมิงอวี่วาวโรจน์ จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละสองหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันยืนประจันหน้า บรรยากาศตึงเครียดจนแทบหยุดหายใจเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ตระกูลหานได้แต่ยืนอึ้งทำตาปริบ ๆสุดท้ายพ่อหานจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากไกล่เกลี่ย“ดูท่าวันนี้พวกเราจะคิดน้อยไปหน่อยจริง ๆ” พ่อหานมองเสิ่นชิงซู น้ำเสียงอ่อนโยน “คุณเสิ่น ต้องขอโทษด้วยที่พวกเราบุ่มบ่าม เรื่องของพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ตัดสินใจกันเองน่าจะดีกว่า เอาอย่างนี้ สินสอดพวกเราจะฝากไว้ให้ก่อน ถ้าคุณเสิ่นกับหมิงอวี่มีวาสนาต่อกัน ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าพวกคุณยังไม่อยากแต่งงาน... สินสอดพวกนี้ก็ถือซะว่าเป็นของรับขวัญที่พวกเราให้เสี่ยวเนี่ยนเนี่ยนก็แล้วกัน”พ่อหานพูดจาได้อย่างสวยหรูไร้ที่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 728

    เสิ่นชิงซูถึงกับไปไม่เป็นลีลาของคุณย่าหานช่างดุดันเหลือเกิน จนเธอไปไม่เป็น ได้แต่หันหน้าไปมองหานหมิงอวี่หานหมิงอวี่ยกมือนวดหว่างคิ้ว เอ่ยกับคุณย่าว่า “คุณย่าครับ ใจเย็น ๆ ก่อน สถานการณ์ระหว่างเราซับซ้อนนิดหน่อย คุณย่าทำแบบนี้ ชิงซูจะลำบากใจเอานะครับ”“อะไรคือสถานการณ์ซับซ้อน?” คุณย่าหานขมวดคิ้วมองหลานชาย “หรือว่า พวกหลานแอบไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว?”หานหมิงอวี่ “...”เสิ่นชิงซู “...”ฟู่ซือเหยียนที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว“อาซู” ฟู่ซือเหยียนก้าวเข้ามา เมินเฉยคนอื่นรอบข้าง สายตาคมเข้มจับจ้องเพียงเสิ่นชิงซู “เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?”เสิ่นชิงซูมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ขอโทษนะคะคุณฟู่ เกรงว่าตอนนี้ฉันคงไม่ว่างต้อนรับคุณ”คุณย่าหานและแม่หานมองฟู่ซือเหยียน แม่ผัวลูกสะใภ้ลอบสบตากันแวบหนึ่งความจริงก่อนจะบุกมาที่นี่ พวกเขาสืบประวัติของเสิ่นชิงซูมาเรียบร้อยแล้วเรื่องที่เสิ่นชิงซูและฟู่ซือเหยียนเคยเป็นสามีภรรยากัน แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเปิดเผย แต่สำหรับตระกูลหาน การสืบเรื่องแค่นี้มันง่ายมากเสิ่นชิงซูเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แถมยังมีลูกชายหญิงกับฟู่ซือเหยียนอีกหนึ่งคู่ แม้คนตระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status