Share

บทที่ 8

Author: หรงหรงจื่ออี
เสียงรถดังมาจากบริเวณลานบ้าน

ฟู่ซือเหยียนกลับมาแล้ว

เสิ่นชิงซูถือที่ตรวจครรภ์ไว้พลางเปิดประตูห้องน้ำ

มีเสียงกระดี๊กระด๊าของฟู่ซืออวี่ดังแว่วขึ้นมาจากชั้นล่าง

“พ่อครับ!”

เสิ่นชิงซูค่อย ๆ เดินลงมาตามขั้นบันไดทีละก้าว ๆ

ฟู่ซืออวี่ยืนอ้าแขนไปทางฟู่ซือเหยียนจากบนโซฟา “พ่อ อุ้มหน่อย!”

ฟู่ซือเหยียนโน้มกายอุ้มร่างฟู่ซืออวี่ขึ้นมา

เสิ่นชิงซูสังเกตเห็นว่าฟู่ซือเหยียนได้เปลี่ยนชุดมาแล้ว

นึกเชื่อมโยงถึงโทรศัพท์สามสายนั้นที่ไม่มีใครรับ…

ความจริงอันโหดร้ายราวกับตะโกนออกมา

เสิ่นชิงซูหยุดลงตรงบันไดขั้นสุดท้าย ข้อนิ้วของมือข้างนั้นซึ่งกำที่ตรวจครรภ์อยู่กลายเป็นสีขาว

ฟู่ซืออวี่กอดคอฟู่ซือเหยียน แล้วมองมาที่เสิ่นชิงซู “แม่ พ่อจะพาผมไปเที่ยว แม่จะไปด้วยกันไหม?”

เสิ่นชิงซูเหลือบมองฟู่ซืออวี่แวบหนึ่ง จากนั้นเคลื่อนสายตาไปยังใบหน้าของฟู่ซือเหยียน

วันนี้ฟู่ซือเหยียนไม่สวมแว่นตา แววตาล้ำลึกไม่ปรากฏความรู้สึกใดสักนิด

ในที่สุดเขาก็มองมาทางเธอ มันยังคงเย็นชาเหมือนเคย

“หลายวันนี้ลำบากคุณแล้ว ช่วงนี้ผมจะอยู่ที่เมืองเป่ยตลอด เดี๋ยวผมดูแลซืออวี่เอง”

น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ ไพเราะจับใจ เพียงแต่ทุกคำที่เอื้อนเอ่ยกลับเปี่ยมล้นด้วยความห่างเหิน

ความห่างเหินที่มีต่อเธอ

เสิ่นชิงซูได้ฟังก็ยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดวงตาพลันร้อนผ่าว

เธอรู้สึกว่ามันช่างเสียดสี

เสียดสีในความยินดีปรีดาที่พรั่งพรูในใจเมื่อตัวเองได้เห็นผลตรวจในห้องน้ำเมื่อกี้

ฟู่ซืออวี่เห็นว่าเสิ่นชิงซูไม่ยอมพูดจาสักที ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาบ้างแล้ว

เขายังไม่ลืมที่เสิ่นชิงซูบอกว่ามีธุระต้องไปทำตอนอยู่ร้านกาแฟ เมื่อครู่ที่เขาถามอย่างนั้น ก็เป็นเพราะมั่นใจว่าเสิ่นชิงซูต้องไม่ตอบรับแน่นอน

แต่ถ้าหากเสิ่นชิงซูตอบตกลงขึ้นมา แล้วเขาจะทำอย่างไร?

เขากับพ่อกำลังจะไปหาแม่นะ!

“แม่?” ฟู่ซืออวี่ลองเรียกแบบหยั่งเชิงดู

เสิ่นชิงซูตวัดสายตาฉับพลัน สบกับสายตาที่ดูร้อนรนเล็กน้อยของฟู่ซืออวี่เข้า

สมองเธอสับสนมาก ไม่มีใจมองลึกเข้าไปในแววตาของฟู่ซืออวี่เพื่อดูว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร เพียงพูดเสียงเรียบ “แม่ไม่ไป ลูกกับพ่อไปเที่ยวกันให้สนุกเถอะ”

อันที่จริงเธอรู้ว่าฟู่ซือเหยียนน่าจะพาฟู่ซืออวี่ไปหาโจวอวี๋ชู แต่จู่ ๆ เธอรู้สึกว่าจะอะไรก็ช่างเถอะ เธอไม่อยากสนใจแล้ว

ฟู่ซืออวี่ถอนหายใจโล่งอกออกมาเฮือกใหญ่

“ถ้างั้นแม่พักผ่อนอยู่บ้านมาก ๆ นะครับ” ฟู่ซืออวี่พูดพลางมองไปยังฟู่ซือเหยียน ก่อนจะพูดอย่างอดใจรอไม่ไหวว่า “พ่อ พวกเรารีบไปกันเถอะ!”

ฟู่ซือเหยียนตอบรับเสียงเรียบ อุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นแล้วหมุนตัว แต่ขณะเดินผ่านโต๊ะกาแฟ หางตาก็เหลือบเห็นข้อตกลงการหย่าฉบับนั้น

เพียงแต่คำว่า ‘การหย่า’ สองคำนี้ที่อยู่บนหนังสือข้อตกลงถูกของเล่นของฟู่ซืออวี่ทับไว้

ฟู่ซือเหยียนชะงักฝีเท้า

เสิ่นชิงซูมองฟู่ซือเหยียนอยู่ตลอด ดังนั้นเมื่อสายตาของเขาไปตกอยู่บนข้อตกลงการหย่าฉบับนั้น เธอพลันหยุดหายใจตามอย่างอดไม่ได้

แม้เธอรู้ดีว่าฟู่ซือเหยียนจะขอหย่าแน่ แต่กลับไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะได้รับข้อตกลงการหย่าฉบับนี้จากมือคนรักของฟู่ซือเหยียน แม่ผู้ให้กำเนิดฟู่ซืออวี่

ก่อนที่วันนี้จะมาถึง เสิ่นชิงซูนึกว่าต่อให้ระหว่างเธอกับฟู่ซือเหยียนจะไม่มีความรักต่อกัน แต่ก็ถือว่าเป็นสามีภรรยาที่เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการแต่งงานครั้งนี้ที่เธอทั้งซาบซึ้งและทุ่มเทใจให้อย่างไม่เคยนึกดายนั้น เพิ่งจะมาค้นพบในตอนสุดท้ายว่า...เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแผนการหลอกลวงที่ฟู่ซือเหยียนวางแผนไว้อย่างแยบยลเพื่อคนที่เขารักสุดหัวใจ

ฟู่ซือเหยียนถึงขั้นยอมแลกด้วยชีวิตแต่งงานของตัวเองเพื่อปกป้องคนที่เขารัก สร้างสถานจองจำที่เรียกว่าการแต่งงานเพื่อเธอโดยเฉพาะ เขากักขังเธอไว้ในสถานจองจำนี้ ดูเธอทุ่มเททุกอย่างให้กับเด็กที่เกิดมาจากเขาและคนรักอย่างทุ่มเทเหมือนตัวตลก

ห้าปีเชียวนะ ไม่เคยมีแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวที่ฟู่ซือเหยียนรู้สึกผิดบ้างเลยเหรอ?

เสิ่นชิงซูคิดถึงภาพเหตุการณ์ตอนที่โจวอวี๋ชูเอาหนังสือข้อตกลงให้เธอ ในใจก็ทั้งเจ็บทั้งโกรธ

ในขณะเดียวกัน ฟู่ซือเหยียนกำลังหลุบตาลงมองจ้องไปที่หนังสือข้อตกลงฉบับนั้น

หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ทำท่าว่าจะเอื้อมมือไปหยิบ

ในที่สุดเสิ่นชิงซูก็อดกลั้นไม่อยู่แล้ว จึงเดินเข้าไปหาฟู่ซือเหยียน

ที่ตรวจครรภ์ในมือแทบจะถูกเธอบีบจนหัก

อารมณ์ที่สะสมมาหลายวันตอนนี้ได้ไต่ระดับมาถึงขีดสุดแล้ว

“ฟู่ซือเหยียน...”

“พ่อครับ รีบไปกันเถอะ!”

เสียงเร่งเร้าของฟู่ซืออวี่ทำให้คำพูดของเสิ่นชิงซูหยุดชะงัก และทำให้ความคิดที่อยากจะหยั่งความคิดของฟู่ซือเหยียนหายไปเช่นกัน

เขายกยิ้มเล็กน้อย “ได้ ไปกัน”

กล่าวจบก็อุ้มฟู่ซืออวี่เดินจากไปทันที

จนแล้วจนรอด ฟู่ซือเหยียนไม่ชายตามองเสิ่นชิงซูสักสายตา

กระทั่งเสียงรถจากด้านนอกค่อย ๆ แล่นไกลออกไปแล้ว

ร่างกายแข็งทื่อของเสิ่นชิงซูหมดเรี่ยวแรงในทันที จับพนักโซฟาไว้แล้วย่อตัวนั่งลงช้า ๆ

เธอก้มหน้าลง สายตาที่มองเห็นเส้นสีแดงสองขีดได้อย่างชัดเจนพร่ามัวลงทุกที

น้ำตาร้อนผ่าวร่วงเผาะ หล่นลงบนเส้นสีแดงนั้น

ถ้าฟู่ซือเหยียนมองเธอสักหน่อยก็จะเห็นที่ตรวจครรภ์ที่เธอกำอยู่ในมือ

แต่น่าเสียดาย สายตาเขาก็เหมือนกับหัวใจของเขา มันไม่มีทางที่จะหยุดอยู่ที่เธอเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

เสิ่นชิงซูทรุดตัวนั่งลงบนพื้น น้ำตาไหลอาบเต็มหน้า คฤหาสน์หนานซีหลังใหญ่ว่างเปล่า มีเพียงเสียงร้องไห้ด้วยความกล้ำกลืนของเธอที่ดังสะท้อนเนิ่นนาน

……

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอส่งรูปหนึ่งไปให้เพื่อนผ่านทางไลน์

เพื่อนสนิท : [อันนี้ค่อนข้างมีความแม่นยำสูงทีเดียว พรุ่งนี้เธออดอาหารแล้วมาตรวจดูหน่อยเถอะ]

เสิ่นชิงซู : [ฉันอยากนัดทำแท้งล่วงหน้าเลย]

เพื่อนสนิท : [!!!]

วินาทีต่อมา เพื่อนก็โทรมาทันที

เวลานี้เสิ่นชิงซูสงบสติอารมณ์แล้ว เธอกำลังเก็บกระเป๋าเดินทาง

เมื่อเห็นว่าชื่อผู้โทรที่แสดงขึ้นคือ ‘ซิงซิง’ เธอจึงวางเสื้อในมือที่พับไปได้ครึ่งหนึ่งลง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปุ่มรับสาย

“ฟู่ซือเหยียนรู้หรือเปล่า” เฉียวซิงเจียที่อยู่ปลายสายน้ำเสียงเคร่งเครียดจริงจัง “เธอต้องคิดให้ดี นี่มันลูกคนแรกของเธอเชียวนะ”

“เขาไม่รู้” เสิ่นชิงซูเสียงเบามาก “เราจะหย่ากันแล้ว เขามีฟู่ซืออวี่ ไม่สนใจชีวิตของชีวิตที่มาแบบไม่คาดคิดคนนี้หรอก”

เฉียวซิงเจียที่อยู่ปลายสายได้ยินดังนั้น ก็ถึงกับหมดคำพูดไปชั่วขณะเหมือนกัน

เฉียวซิงเจียนั้นรู้ดีเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งนี้ของเสิ่นชิงซูกับฟู่ซือเหยียน

“ถึงตอนแรกฉันจะไม่เห็นดีเห็นงามเรื่องเธอกับฟู่ซือเหยียน แต่ห้าปีนี้ฉันเห็นว่าเธอกับพวกเขาสองพ่อลูกก็ยังถือว่าเข้ากันได้ดี จนฉันถึงขั้นสงสัยว่าพวกเธอคงจะใช้ชีวิตกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แต่ใครจะไปคิด…เฮ้อ! เธอรู้ไหมว่ามันเป็นความรู้สึกยังไง? เหมือนฉันตั้งใจตามซีรีส์เรื่องหนึ่งอยู่ แต่สุดท้ายมันกลับจบไม่ดีไงล่ะ!”

เสิ่นชิงซูกะพริบตาที่ปวดตึงเล็กน้อย

เธอไม่อาจเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เฉียวซิงเจียฟังได้ ถ้าจะโทษก็คงทำได้แค่โทษที่เธอรักคนผิดเพราะควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้

“พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอ” เสิ่นชิงซูน้ำเสียงแน่วแน่

เฉียวซิงเจียรู้สึกสงสารจนเอาแต่ถอนหายใจ “พรุ่งนี้ยังทำไม่ได้หรอก ต้องตรวจก่อน เธอมาแล้วค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”

“อืม”

หลังจากวางสาย เสิ่นชิงซูวางมือถือลงแล้วเก็บกระเป๋าเดินทางต่อ

แม้ว่าฟู่ซือเหยียนจะยกคฤหาสน์หนานซีให้เธอแล้ว แต่เธอไม่คิดที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ต่อ

เธอรู้ว่าฟู่ซือเหยียนไม่เสียดายบ้านหลังนี้แน่นอน ดังนั้นเธอจึงตั้งใจว่าพอหย่ากันแล้วก็จะขายมันเสีย

อย่างไรก็เป็นบ้านที่อยู่มาห้าปี จึงมีของใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย

เสิ่นชิงซูเก็บกลับไปเฉพาะเสื้อผ้าและกระเป๋าแบบที่ใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ที่เหลือก็สุดแล้วแต่ว่าฟู่ซือเหยียนจะจัดการอย่างไร ถ้าฟู่ซือเหยียนขี้เกียจจะจัดการก็ค่อยรอจัดการพร้อมกันทีเดียวตอนขายบ้านแล้วกัน

พอเก็บกระเป๋าเดินทางเสร็จ เสิ่นชิงซูได้ทำการเซ็นชื่อลงในข้อตกลงการหย่า จากนั้นก็นำข้อตกลงการหย่าไปวางไว้บนโต๊ะกาแฟที่สะดุดตาที่สุด

เสิ่นชิงซูเดินลากกระเป๋าเดินทางสองใบออกมาจากคฤหาสน์หนานซี ก่อนจะปิดประตูแล้วออกมาอย่างไม่หันหลังกลับ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 307

    เสี่ยวเนี่ยนอันขมวดคิ้วไม่ได้พูด แต่ก้มหน้ามองตะเกียบเด็กที่ตัวเองถืออยู่ในมือท่าทางการจับตะเกียบของเขาไม่ถูกเสี่ยวอันหนิงจึงหยุดแล้วสอนเขาว่าต้องใช้ตะเกียบเด็กอย่างไรด้วยตัวเอง“เอานิ้วโป้งไว้ตรงนี้ นิ้วชี้ไว้ตรงนี้...ใช่แล้ว เสี่ยวเนี่ยนอันเก่งจังเลย งั้นตอนนี้ลองดูสิ ทำเหมือนกับฉัน คีบเนื้อ คีบขึ้นมา อ้าปาก อ้ำ~ภายใต้การสอนด้วยความอดทนของเสี่ยวอันหนิง เสี่ยวเนี่ยนอันใช้ตะเกียบเด็กคีบเนื้อชิ้นหนึ่งเข้าปากได้สำเร็จเสี่ยวอันหนิงวางตะเกียบลงทันที ตามด้วยปรบมือ “เสี่ยวเนี่ยนอันสุดยอดไปเลย! ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มใช้ตะเกียบนี่ต้องเรียนตั้งหลายวันแน่ะถึงจะเป็น แต่เสี่ยวเนี่ยนอันเป็นอัจฉริยะน้อย เรียนครั้งเดียวก็เป็นแล้ว!”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงอาย ใบหน้าเล็ก ๆ แดงระเรื่อเขามองไปทางเฟิงอวิ๋นเฉียนด้วยความอายเล็กน้อยเฟิงอวิ๋นเฉียนดื่มเหล้านิดหน่อย มึนนิด ๆเมื่อกี้เขาเห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมของลูกชายแล้วเขาวางแก้วเหล้าลง แล้วยกมือใหญ่ยีหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน “เนี่ยนอันก้าวหน้ามากเลยนะ”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงดีใจมาก ยกมุมปาก แย้มยิ้มขี้อายเสิ่นชิงซูสังเกตปฏิสัมพันธ์ขอ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 306

    เวินจิ่งซีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางหนักอกมีดในมือเสิ่นชิงซูร่วงตกลงพื้น“ระวัง!”เวินจิ่งซีรีบไปดึงเธอออกไป๋เจี้ยนเหวินตกใจกับเสียงจึงรีบปิดไฟกระทะผัดแล้วหันมามองเสิ่นชิงซูเห็นเธอมีสีหน้าแปลกไป ไป๋เจี้ยนเหวินจึงขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไปน่ะ?”เสิ่นชิงซูหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำโจวอวี๋ชูทำให้ลูกชายของเธอตายแต่เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป?เมื่อกี้เธอยังอุ้มเด็กคนนั้น...เสิ่นชิงซูหลับตาลง ข่มอารมณ์แล้วพูด “ให้เฟิงอวิ๋นเฉียนพาเด็กคนนั้นไป เอาไปเดี๋ยวนี้!”เธอรู้ว่าเด็กบริสุทธิ์แต่แม่ของเด็กคนนั้นคือฆาตกรที่ทำให้ลูกชายของเธอตาย!ไป๋เจี้ยนเหวินพยุงเสิ่นชิงซูพลางมองเวินจิ่งซี “ยังยืนเฉยทำไม รีบไปสิ!”เวินจิ่งซีถอนหายใจและหมุนตัวออกจากห้องครัว เกือบได้เจอกับเฟิงอวิ๋นเฉียนแล้วเฟิงอวิ๋นเฉียนอยากเข้าห้องครัว แต่เวินจิ่งซีขวางเขาไว้ทัน“คุณทำอะไรน่ะ?”เวินจิ่งซีขมวดคิ้วจ้องเขา “อาซูรู้แล้วว่าเสี่ยวเนี่ยนอันคือลูกของคุณกับโจวอวี๋ เธอไม่ให้อภัยชูโจวอวี๋ชู ถ้าคุณยังมีหัวใจเหลืออยู่ก็รีบพาลูกชายของคุณไสหัวไปเถอะ!”เฟิงอวิ๋นเฉียนมองเวินจิ่งซีด้วยสายตาราบเรียบ “เนี่ยนอันเป็นลูกช

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 305

    เสี่ยวเนี่ยนอันพยักหน้าเสิ่นชิงซูนั่งยองลงอีกครั้ง มองเขาแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เสียงของเสี่ยวเนี่ยนอันไพเราะมาก น้าอยากฟังอีกจังเลย ได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันอ้าปาก ค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมาคำหนึ่งช้า ๆ “ครับ”“เก่งจังเลย!” เสิ่นชิงซูลูบศีรษะของเขา ตามด้วยมองเสี่ยวอันหนิง “ลูกพาเสี่ยวเนี่ยนอันไปเล่นก่อนเถอะ”“ได้ค่ะ!”เสี่ยวอันหนิงจูงมือเสี่ยวเนี่ยนอันวิ่งไปเล่นที่ห้องรับแขกอย่างสุขสันต์ทันทีเสี่ยวเนี่ยนอันยินดีตามเสี่ยวอันหนิงไปเสี่ยวอันหนิงขนกล่องของเล่นตัวเองออกไปแล้วเทของออกทั้งหมด “เสี่ยวเนี่ยนอัน ของเล่นพวกนี้เลือกได้ตามสบายเลยนะ ชอบอันไหนฉันจะให้ แต่เลือกได้แค่ชิ้นเดียวนะ~”เด็กสองคนเล่นกันเอง ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลเสิ่นชิงซูลุกขึ้นยืนมองจางอวิ๋นและถาม “เสี่ยวเนี่ยนอันกี่ขวบแล้วคะ?“เดือนที่แล้วเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบสามปีไปค่ะ”เสิ่นชิงซูพยักหน้า “งั้นก็เด็กกว่าเสี่ยวอันหนิงไปปีหนึ่ง สามขวบยังเด็ก พวกคุณอย่ายอมแพ้กับเขานะ อย่างอื่นเขาฟังรู้เรื่องหมด แค่ว่าจิตใจอ่อนไหวกว่าเด็กคนอื่น ผู้ใหญ่ต้องแนะนำด้วยความอดทนเป็นเวลานาน“คุณพูดถูกค่ะ เจ้านายรักคุณชายน้อยมาก เขา

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 304

    เสี่ยวเนี่ยนอันมีตรวจพบว่ามีแนวโน้มปิดกั้นตัวเองตั้งแต่สองขวบนับจากตรวจพบ จางอวิ๋นกับครูพี่เลี้ยงอีกคนหนึ่งเพียรพยายามแนะนำเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ตลอด กลับได้ผลผิดจากที่หวังทว่าเวลานี้ เสี่ยวอันหนิงกับเสิ่นชิงซูกลับเปลี่ยนแปลงเสี่ยวเนี่ยนอันได้อย่างง่ายดายจางอวิ๋นรู้สึกว่าอัศจรรย์ใจมาก!ไม่เพียงจางอวิ๋น แม้แต่เจี่ยงเหวินจิ่นกับเวินจิ่งซีก็ประหลาดใจมากเหมือนกันเวินจิ่งซีกระซิบบ่น “มิน่าฟู่ซือเหยียนถึงไม่ยอมหย่าสักที ดวงสมพงษ์กับเด็กที่มีมากอย่างนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไหนบ้างจะไม่หวั่นไหว!”เจี่ยงเหวินจิ่นถลึงตาใส่เขา “วันดี ๆ อย่าพูดถึงตัวซวย!”เวินจิ่งซี “...ก็ได้ครับ!”เสิ่นชิงซูนั่งยองลงมองเสี่ยวเนี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน “เสี่ยวเนี่ยนอัน น้าอุ้มหนูได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันกะพริบตาปริบ ๆ หน้าเป๋อเหลอนาทีนี้บรรยากาศเงียบกริบทันใดทุกคนกำลังรอปฏิกิริยาของเสี่ยวเนี่ยนอันแม้แต่เสี่ยวอันหนิงก็ไม่กล้าพูดสักแอะ แค่ยืนจ้องเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ด้านข้างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทุกนาที เสี่ยวเนี่ยนอันยังไม่ตอบสนองพวกผู้ใหญ่ต่างเข้าใจ การขอแบบนี้เป็นการฝืนเสี่ยวเนี่ยนอันเกินไป“ไม่เป็นไ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 303

    เสิ่นชิงซูลูกชิ้นหัวสิงโตที่เพิ่งทำเสร็จออกมาจากห้องครัว“เสี่ยวอันหนิงอย่าเข้ามา ระวังร้อนนะ”เสี่ยวอันหนิงได้ยินหย่างนั้นจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันหลบไปอีกทางหนึ่งทันทีกระทั่งเห็นเสิ่นชิงซูวางอาหารไว้บนโต๊ะแล้ว เสี่ยวอันหนิงจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันเดินไปตรงหน้าเสิ่นชิงซู“แม่คะ แม่ดูสิ นี่คือเสี่ยวเนี่ยนอัน!”เสี่ยวอันหนิงผลักเสี่ยวเนี่ยอันไปตรงหน้าเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูยิ้ม ลูกสาวเป็นพวกเข้าสังคมเก่งคนหนึ่ง ชอบพาเพื่อนมาที่บ้าน เธอชินกับเรื่องแบบนี้นานแล้วเธอนั่งยองลงเหมือนทุกที คิดจะทักทายกับเด็กน้อย แต่จังหวะที่เห็นดวงตาดำขลับกลมโตของเสี่ยวเนี่ยนอันกลับชะงักงันความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายถาโถมเข้ามาในหัวใจเสี่ยวเนี่ยนอันก็มองเสิ่นชิงซูเหมือนกันดวงตาเด็กน้อยดำขลับสะท้อนใบหน้าของเสิ่นชิงซู ดวงหน้าทื่อ ๆ เล็ก ๆ ยังคงไม่มีอารมณ์ใดเสี่ยวอันหนิงเดินไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของเสิ่นชิงซู “แม่คะ เสี่ยวเนี่ยนอันไม่ค่อยเหมือนกับเด็กทั่วไปค่ะ น้าจางบอกว่าเขาไม่ชอบพูด”พอเสิ่นชิงซูได้ฟังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ค่อยเหมือน?ตอนนี้เอง เวินจิ่งซี เจี่ยงเหวินจิ่นและจางอวิ๋นเดินเข้ามาจากข้างน

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 302

    เสี่ยวเนี่ยนอันชอบเสี่ยวอันหนิงมากจริง ๆ เวลาที่เขาอยู่กับเสี่ยวอันหนิง แม้จะไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่แค่เสี่ยวอันหนิงถามเขา เขาก็จะตั้งใจตอบทุกครั้งจะพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำจางอวิ๋น เวินจิ่งซีเจี่ยงและเหวินจิ่นซึ่งเป็นผู้ใหญ่สามคนยืนมองอยู่ข้างนอก รู้สึกว่าภาพที่เด็กสองคนอยู่ด้วยกันช่างเป็นการเยียวยาที่แสนสวยงามเหลือเกิน“จะว่าไปก็แปลกนะคะ ฉันดูแลคุณชายน้อยมาสองปี นอกจากเจ้านายเรา ยังเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายอมสนิทสนมกับใครก่อนเลย”“จะเป็นไปได้ไหมว่าลูกสาวผมน่ารักมาก?” เวินจิ่งซีเลิกคิ้วด้วยความภาคภูมิใจเต็มประดา “อยู่ที่โรงเรียนอนุบาล เธอเป็นเด็กที่พ็อปที่สุดเลยนะ”พอจางอวิ๋นได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะพูด “งั้นคุณมีความสุขมากเลยนะคะ มีลูกสาวน่ารักอย่างนี้ ภรรยาของคุณต้องเป็นคนดีมากเลยค่ะ เธอเลี้ยงดูเสี่ยวอันหนิงได้ดีมาก”เวินจิ่งซีกระแอมกระไอ “นี่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผมครับ เป็นลูกสาวบุญธรรม”“หา อย่างนี้นี่เอง....” จางอวิ๋นก็อีหลักอีเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ถ้าข้างตัวคุณชายน้อยมีเพื่อนน่ารัก ๆ อย่างเสี่ยวอันหนิง อาการของเขาต้องดีขึ้นมากแน่ค่ะ”“พวกคุณก็อยู่ที่เมืองเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status