คุณมันเลว ep 12
ร่างบางวิ่งกลับห้องด้วยอาการหัวใจโครมคราม ยาหยีรีบปิดประตูห้องอย่ารวดเร็วก่อนจะกระโดดขึ้นบนเตียง เกือบไปแล้วไหมล่ะ ถ้าเขาเห็นตอนที่เธอปีนกำแพงหนีออกไป คงโดนมีดเล่มนั้นปักหน้าอกข้างซ้ายแน่ๆ ร่างบางนั่งหงอยอยู่บนเตียง ถ้าให้อยู่เฉยๆ แบบนี้ซักวันคงเป็นง่อยตายแน่ๆ ปึงๆๆๆ! ซักพักเสียงประตูห้องโดนทุบอย่างแรงจนประตูบานเก่าแทบพังลงมา ยาหยีรีบวิ่งแจ้นไปเปิดทันทีเพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร พอประตูเปิดประตูออกพบว่าเป็นลูกน้องของเขานั่นเองที่เป็นคนเคาะ คนที่นี่ทำไมชอบใช้ความรุนแรงกันจัง “คะ?” หญิงสาวเลิกคิ้วถาม “คุณโทคิยะเรียกให้เธอไปพบ” “ทะ..ที่ไหนคะ” “ห้องใต้ดิน ตามฉันมา” ลูกน้องของเขาเดินนำไปก่อน ขณะที่ร่างบางอึกอักจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่งตามไป ยาหยีเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร เขาอยากจะทำอะไรก็จะปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ เพราะยังไงก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว ห้องใต้ดินที่ขึ้นชื่อว่านรกในคฤหาสน์ ไม่อยากจะก้าวเท้าเข้าไปเหยียบที่นั่นแม้แต่วินาทีเดียว ลูกน้องของเขาลอบมองเสี้ยวหน้าของเธออยู่ครู่หนึ่ง ผู้คนที่นี่เย็นชาทุกคนยกเว้นป้าน้อย “ฉันชื่อภาคิน” จู่ๆ ชายคนนั้นก็แนะนำตัวกับเธอ ในขณะที่กำลังเดินลงไปยังชั้นใต้ดิน ดูท่าเขาคงจะมีพิษมีภัยน้อยที่สุดในคฤหาสน์ “ฉะ..ฉันชื่อยาหยีนะคะ” ร่างบางส่งยิ้มให้ แต่ชายหนุ่มกลับชักหน้าหนีด้วยใบหน้าอันแสนเย็นชา ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร จนทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่า “นายรออยู่ข้างใน” เขาเปิดประตูห้องห้องหนึ่ง กลิ่นสารเคมีฉุนตีเข้าจมูกของเธอจนแสบไปหมด ไม่รู้ว่าคนข้างในเขาอยู่ได้อย่างไร หรืออาจจะชินไปแล้ว ร่างบางก้มหัวให้ภาคินก่อนจะเดินเข้าไปข้างในอย่างกล้าๆ กลัวๆ ในห้องมีตู้ไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ที่เป็นสารเคมีจำนวนหนึ่ง มิน่าทำไมถึงแสบจมูกเพราะที่นี่คือห้องเก็บสารเคมีนี่เอง แล้วเขาให้เธอมาห้องนี้ทำไม ยาหยีหัวใจเต้นดุ่มๆ เมื่อเดินเข้าไปตามทางเดินที่มีแสงไฟน้อยนิด ก่อนจะพบว่าข้างในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ยาหยีลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นรอยคราบเลือดที่กระเด็ดติดตามฝาผนังเป็นกระจุกๆ มีทั้งรอยเก่าและรอยใหม่ บ่งบอกให้รู้ว่าห้องนี้มีไว้สำหรับทำอะไร! ร่างบางยกมือปิดจมูกเมื่อได้กลิ่นคาวเลือดจนเกือบชวนอ้วก “มาแล้วหรอ” ร่างสูงที่อยู่ในมุมมืดหมุ่นเก้าอี้มาหาเธอในมือคีบบุหรี่อยู่ แม้แสงไฟจะสลัวแต่เธอก็สามารถมองเห็นความหล่อเหลาของเขาได้ “ค่ะ” ร่างบางก้มหน้างุดเมื่อสายตามคมตวัดมามองเธอ “วันนี้ฉันจับตัวคนที่หักหลังฉันได้หนึ่งคน” ปึก! “กรี๊ดดดดด!” เขาโยนนิ้วมือลงมาตกตรงหน้าเธอจนหญิงสาวกรี๊ดร้องด้วยความเสียขวัญ มันเป็นนิ้วมือผู้ชาย! คราบเลือดสีแดงสดยังติดอยู่ หญิงสาวยกมือปิดปากกลบเสียงที่สั่นเครือไว้ “ฮึก” “ฉันพึ่งตัดนิ้วมันมาสดๆ ร้อนๆ” ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้น ขายาวค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กที่ยืนเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ “...” ยาหยีสติแทบหลุด นั่นมันนิ้วคน! เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน “ตอนนี้ฉันจับมันกรอกยาพิษ ที่เธอเคยได้ลิ้มรสในวันนั้น” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นจนเธอสั่นไปทั้งตัว “แต่ของมันพิษร้ายแรงกว่า” พรึ่บ!! โทคิยะค่อยๆ เดินไปเปิดไฟ เมื่อไฟสว่างทั่วห้องดวงตางามถึงกับเบิกโพล่งทันใด เมื่อเธอมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งโดนมัดข้อมือตรึงไว้กับเสา นิ้วของเขาหายไปนิ้วหนึ่ง! ชายคนนั้นดิ้นไปมาด้วยความทรมาร เลือดไหลออกจากรูจมูกดวงตาเหลือกหลน เหมือนกับที่เธอเป็นในวันนั้น! แม้ปากของเขาจะโดนผ้าสีดำมัดไว้แต่ก็ยังมีเลือกบางส่วนพุ่งออกมาจากปาก ดวงตาของชายคนนั้นกำลังอ้อนวอนกับเธอ แต่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ “อึก!” ร่างบางยกมือปิดปากด้วยสงสาร เธอสงสารผู้ชายคนนั้น เขาคงจะทรมารมาก “เห็นความทรมารนั่นไหม นี่แหละคือจุดจบของคนที่คิดทรยศฉัน!” กรามหนาขบแน่นด้วยความโกรธแค้น ดวงตาแข็งกร้าวตวัดมองไปยังชายที่ถูกมัด ก่อนที่มุมปากหยักจะแสยะยิ้ม “...” ยาหยีพูดอะไรไม่ออก นอกจากช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากำลังทรมารคนต่อหน้าเธอ! “สงสารมันใช่ไหม” เขายื่นปืนกระบอกหนึ่งมาให้เธอ ในขณะที่ยาหยีดวงตาสั่นระริกด้วยความกลัว “ถ้าไม่อยากให้มันทรมาร ก็ฆ่ามันซะ!” “มะ..ไม่ ฉันไม่ทำ!” ร่างบางปฏิเสธเสียงสั่น แต่เขากลับยัดปืนใส่มือของเธอ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปหาชายคนนั้นที่โดนมัดอยู่ โทคิยะแกะผ้าปิดปากออก ส่งผลให้เลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากปากของผู้ชายคนนั้น “อึก..อัก!” ชายคนนั้นพยายามเปล่งเสียง แต่ไม่สามารถทำได้เพราะมีเลือดจำนวนมากพุ่งออกจากปากเขาจนกลบเสียงหมด “เธอรู้ใช่ไหมว่ามันทรมารมากมายแค่ไหน” เขาปรายตามองร่างบางที่ยืนสั่นด้วยความกลัว มือหนากระชากผมของผู้ชายคนนั้นขึ้นมา ส่งผลให้เลือดพุ่งออกจากลำคอจนเกือบโดนหน้ายาหยี “ชะ..ช่วย..ฉัน..ดะ...ด้วย~” ชายคนนั้นพยายามเปล่งเสียง ดวงตาของเขาคล้ายกับกำลังเจ็บปวดเหลือคณา “ยะ..ยิง..ฉันที~” ชายดังกล้าวอ้อนวอน หน้าตาที่บิดเบี้ยวด้วยความทรมารไม่อาจทำให้ยาหยีมองอีกต่อไปได้ เขากำลังจะให้เธอฆ่าคน! “ถ้าอยากช่วยมันก็ยิงมันสิ เล็งมาที่หน้าอกข้างซ้ายของมัน” “มะ..ไม่ ฉันไม่ทำ! ฮึก” หญิงสาวรู้สึกกดดันจนน้ำตาไหล ก่อนจะก้มลงมองมือสั่นเทาที่ถือปืนอยู่ น้ำตาไหลลงมาสุดจะกลั้นไว้ เธอสงสารผู้ชายคนนั้น แต่ไม่อยากฆ่าเขา! “ขะ..ขอร้อง..ฆ่า..ฉันที...ฉะ..ฉัน...ทรมาน อึก!” ชายคนนั้นพยายามเปล่งเสียงแหบพร่าด้วยทุกข์ความทรมาร ยาหยีค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาจากฝ่ามือ แววตาที่ชายคนนั้นส่งมาทำให้เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หญิงสาวหลับตาแน่นเม้มปากจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะค่อยๆ ยกปืนขึ้นมาด้วยความสั่นเท่า น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของชายคนดั่งเกล่าก่อนจะค่อยๆ ปิดตาลง หญิงสาวหลับตาลงค่อยๆ ตั้งสติ ถือซะว่าช่วยให้เขาพ้นจากความทรมาร! “เล็งดีนะๆ ถ้าเกิดโดนฉันขึ้นมา จุดจบของเธอไม่ต่างจากไอ้นี่แน่นอน!” “...” เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะยกปืนเล็งไปที่หน้าอกข้างซ้ายของผู้ชายคนนั้น แม้มือจะสั่นแต่เธอก็ต้องบังให้ปืนไม่โดนโทคิยะที่ยืนติดกับชายที่ถูกมัด เขาไม่รู้สึกกลัวด้วยซ้ำว่าปืนจะโดนเขารึป่าว หนำซ้ำกลับยิ้มเยาะอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร “อโหสิกรรมให้ฉันนะ” ยาหยีสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนที่นิ้วชี้จะค่อยๆ ลั่นไกไปยังหน้าอกข้างซ้ายของผู้ชายคนนั้น หญิงสาวกัดฟันกร๊อดแล้วกดลั่นไกปืนทันที! ปัง! ปัง! ปัง! ——————————————-คุณมันเลว ตอนพิเศษ 3 (ปิดกอง)@ภูเก็ตเมืองไทยสองสามีภรรยาย้ำเท้าอยู่บนชายหาดโดยมีเด็กชายตัวน้อยอยู่ในอ้อมอกของคนเป็นแม่ เนื่องด้วยความอยากพาภรรยามาเที่ยวพักผ่อนเพราะตั้งแต่แต่งงานกัน เขาก็ไม่ค่อยได้พาภรรยาไปเปิดหูเปิดตาเลย กลัวว่าเธอจะเบื่อจึงเลือกบินกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย ซึ่งทะเลเมืองไทยนั้นสวยไม่แพ้ชาติใดในโลกเลย“ตอนที่ฉันยังเรียนอยู่มหาลัย ฉันมาเที่ยวที่ภูเก็ตบ่อยมาก” ชายหนุ่มพูดขณะที่ย้ำเท้ารอบๆชายหาด“ไม่ยักจะรู้ว่าคุณชอบมาเที่ยวทะเล”“ฉันไม่ได้ชอบหรอกแต่กลุ่มเพื่อนที่ฉันเคยสนิทบ้านมันอยู่ภูเก็ต”“คุณก็เลยเลือกที่จะพาฉันมาภูเก็ตสินะ” ยาหยียิ้มพร้อมกับก้มมองเท้าที่เดินย้ำทราย เมื่อไหร่ที่ลูกโตสัญญาว่าจะพาลูกมาเที่ยวภูเก็ตอีก“เพราะฉันคิดว่าทะเลที่เมืองไทยสวยไม่แพ้ที่ใดในโลก หากพาเธอไปเที่ยวโอซาก้าก็กลัวว่ามันจะหนาวเกินไป” โทคิยะรู้ดีว่าภรรยาของเขานั้นเป็นคนขี้หนาว แต่ก็ดีเพราะเขาจะได้หาเรื่องกอด “มากับเพื่อนว่าสนุกแล้วแต่มากับครอบครัวสนุกกว่า”โทคิยะมองเด็กน้อยในอ้อมแขนของคนเป็นแท่ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นคนอุ้มเอง จมูกโด่งฝังลงไปที่แก้มของเด็กชายยูกิด้วยความรักสุดหัวใจ พึ่งเข้าใจ
คุณมันเลว ตอนพิเศษ 2“กลับมาแล้วครับ” โทคิยะที่พึ่งกลับมาถึงบ้านร้องเรียกภรรยาซึ่งเป็นที่รัก อันที่จริงมีนัดกินเลี้ยงกับทางบริษัทที่ร่วมทำธุรกิจด้วย แต่ชายหนุ่มขอปลีกตัวกลับบ้านด้วยเหตุผลที่ว่า ‘กลับบ้านไปกินข้าวพร้อมเมีย’“เหนื่อยไหมคะ” ยาหยีที่พึ่งให้นมลูกเสร็จวิ่งมารับเสื้อสูทจากสามีพร้อมถอดเนคไทให้“เหนื่อยครับ แต่เห็นหน้าเมียกับลูกแล้วหายเหนื่อยทันที จุ๊บ~” โทคิยะหอมแก้มภรรยาฟอดใหญ่ ก่อนที่มือหนาสะเปะสะปะลูบไล้เรือนร่างของเธอ ยาหยีผลักอกของเขาออกเพราะต้องรีบไปกินข้าว“คุณควรไปกินเลี้ยงบ้างนะคะ”“ทำไมหรอ ไม่อยากกินข้าวกับผัวหรอ”“เปล่าค่ะ แค่ทางบริษัทที่คุณลงทุนด้วยโทรมาถามฉัน ว่าไม่อนุญาตให้สามีไปกินข้าวข้างนอกหรอ ฉันก็เลยตอบไปว่าอนุญาตแต่เขาไม่ไปเอง”“ก็ฉันไม่อยากดื่มแอลกอฮอล์” ช่วงนี้โทคิยะลดละเลิกกับอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง เพราะก่อนที่เขาจะสิ้นลายเหล้าเบียร์ดื่มเหมือนกินน้ำ ไหนจะติดบุหรี่อีก โทคิยะกลัวชีวิตนี้ไม่ได้อยู่ดูแลลูกนานๆเลยเลิกสิ่งที่ไม่ดีไป“ก็ไม่ต้องกินก็ได้นิคะ”“พูดง่ายจังเลยนะที่รัก ไปงานเลี้ยงแบบนั้นเขาคงไม่ให้ฉันกินน้ำเปล่า” โทคิยะถอดเสื้อเชิ้ตท์ออกจนเห็นแผ่นหน
คุณมันเลว ตอนพิเศษ 1“อื้อออ~” ร่างสูงบิดตัวบนที่นอนในขณะที่ยังหลับตา ก่อนจะควานมือหาภรรยาที่พึ่งแต่งงานกันไปหมาดๆ ปรากฏว่าพบแค่ความว่างเปล่า โทคิยะดีดตัวขึ้นมาจากเตียงทันที ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงกว่าๆ วันนี้เขาตื่นสายเพราะเมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะหน่อย ซึ่งคาดว่ายาหยีน่าจะไปเตรียมกับข้าวไว้รอเขาเมื่อเดินลงมาก็พบพี่เลี้ยงที่กำลังนั่งเล่นกับลูกของเขาอยู่ ตอนนี้น้องยูกิอายุครบ 1 ขวบแล้ว ยาหยีบอกว่าอยากให้ลูกเข้าพิธีแต่งงานด้วย จึงรอให้น้องยูกิอายุครบหนึ่งปีก่อนค่อยแต่งงาน“ลูกพ่อ~” โทคิยะคว้าตัวลูกชายอย่างเบามือจากพี่เลี้ยงก่อนจะอุ้มแนบอกแล้วฝังจมูกลงไปที่แก้มใสของเด็กชายยูกิ ลูกของเขาน่ารักน่าชังและเลี้ยงง่ายจึงทำให้ยาหยีไม่เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก ลูกเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อและแม่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกลายมาเป็นคนรักเด็กได้อะไรขนาดนี้ ผู้ชายโหดๆห่ามๆแบบเขาพอมีลูกขึ้นมา หวงจนไม่อยากให้ลูกคลาดสายตา จึงจ้างพี่เลี้ยงมาดูลูกช่วยชายหนุ่มอุ้มลูกด้วยความอารมณ์ดีก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในครัวซึ่งมีแม่ของลูกอยู่ในนั้น ยาหยีเป็นทั้งภรรยาที่ดีและแม่ที่ดีของลูก ชนิดที่เขาเลือกไม่ผิด บางทีก็แอบคิดจากที่เ
คุณมันเลว ep 85ร่างบางนั่งหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงเธออยู่ในชุดคนไข้ของโรงพยาบาล“ถ้าไม่เซ็นต์เธอก็ไม่ได้เจอลูก” โทคิยะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ยาหยีที่กำลังนั่งมองหน้าของเขาอยู่ราวกับจะฆ่าให้ตาย“...” ยาหยีปรายตามองกระดาษแผ่นนั้น มันเป็นใบจดทะเบียนสมรส“จะไม่เซ็นต์ก็ได้นะแต่ฉันจะพาลูกกลับญี่ปุ่น คงรู้นะว่าถ้าฟ้องใครจะชนะ” ชายหนุ่มยิ้มเพราะรู้ว่ายังไงซะเขาก็ถือไพ่เหนือกว่าเขาไม่ได้ต้องการแค่ลูกแต่ต้องการแม่ของลูกด้วย จึงบีบบังคับให้หญิงสาวจดทะเบียนสมรส ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกล ต่อให้ต้องบังคับก็ยอมขอแค่ได้เมียกลับคืนมา“...” ยาหยีมองกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าด้วยสายตานิ่งๆ เหมือนเขากำลังมัดมือชกให้เธอเป็นของเขา ไม่มีโอกาสได้เลือกเลยเพราะถ้าเกิดโทคิยะเอาลูกไปแล้วจะไปตามลูกได้ที่ไหน “คุณกำลังบังคับฉัน! ”“ฉันไม่ได้บังคับแต่เธอจะไม่เซ็นต์ก็ได้ แค่เธอจะไม่ได้ลูกก็แค่นั้นเอง”“คุณนี่มัน! ” ยาหยีตวัดสายตามองโทคิยะด้วยความไม่พอใจทนอุ้มท้องตั้งเก้าเดือนเพื่อให้เขาเอาลูกไปงั้นหรอ ไม่ทีทาง!“โอเค ไม่เซ็นต์” ชายหนุ่มชักแผ่นกระดาษกลับ แต่ยาหยีไวกว่าเท่าตัวมือบางดึงแผ่นกระดาษออกจากมือของเขา แล้วจร
คุณมันเลว ep 84@สามวันผ่านไปยาหยียืนมองข้าวของของโทคิยะที่อยู่ในบ้านของเธอ เขาหายไปสามวันโดยที่ไม่ได้เอาข้าวของกลับไปด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เขาไม่ได้อยู่กวน แต่ทำไมลึกๆแล้วรู้สึกใจหวิวแปลกๆกับการหายไปของเขาเขาหายไปโดยที่ไม่บอกอะไรซักคำ หญิงสาวนั่งลงบนโซฟาที่เขาเคยใช้นอนเมื่อสามวันก่อนมือบางลูบหมอนที่เขาใช้หนุนเบาๆพรางถอนหายใจหรือวันนั้นเธอพูดแรงเกินไป แค่โกรธที่เขาทำอะไรตามอำเภอใจชอบใช้กำลังในการตัดสิน กลัวว่าจะมีปัญหากับพล เพราะพลเองถือว่ามีอิทธิพลพอสมควร เขาไม่ใช่มาเฟียไม่ได้มีอำนาจอะไรอีกแล้วและที่นี่ก็ไม่ใช่ญี่ปุ่นบ้านเกิดของเขาด้วยน่าแปลกที่การหายไปครั้งนี้ส่งผลต่อหัวใจของเธอ พอได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างในตัวของเขามันทำให้รู้ว่าโทคิยะเองเปลี่ยนไปมาก ชายหนุ่มซักผ้า ล้างถ้วย กวาดบ้าน ขัดห้องน้ำให้จนใหม่เอี่ยมอ่อง ซึ่งยาหยีเองชอบเดินมาแอบดู เขาทำด้วยความเต็มใจ“เหอะ! โดนด่าแค่นี้ทำเป็นใจน้อย” ยาหยีกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเพื่อไปร้านดอกไม้ แต่จู่ๆเธอเกิดอาการม้วนท้องขึ้นมาเสียดื้ๆ “โอ้ย! ”อาการปวดเกร็งที่ท้องทำให้เธอยืนแทบไม่อยู่ มันปวดจนไม่สามารถขยับตัวได้
คุณมันเลว ep 83ตื่นเช้ามายาหยีต้องตกใจสุดขีดเมื่อตะกร้าเสื้อผ้าที่เธอกำลังจะนำไปส่งซักหายไปอย่างไร้ร่องราย ดวงตากลมโตปรายตามองไปยังโซฟาที่ชายหนุ่มนอนเมื่อคืนพบว่าเขาเองก็หายไปด้วย ร่างบางขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ตัวของเขาหายไปแต่กระเป๋าซื้อผ้ายังอยู่ ซักพักได้ยินเสียงคนเทน้ำดังมาจากห้องน้ำคงไม่ใช่ใครที่ไหน ยาหยีกรอกตาไปมาก่อนจะจ้ำไปที่ห้องน้ำทันทีแล้วยาหยีก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเจอชายหนุมที่อยู่ในชุดกางเกงผ้าสีขาวกำลังนั่งซักผ้าให้เธออย่างอารมณ์ดี ในกะละมังมีกางเกงในและบราเซียของเธอลอยอยู่ แก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย“นั่นคุณทำอะไร! ”“...” ร่างสูงชะงักครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆหันหน้ามายิ้มให้ว่าที่ภรรยาอย่างอารมณ์ดี “ซักผ้าให้เมียไง ผ้ามันล้นตะกร้าแล้วเดี๋ยวเมียไม่มีใส่”“ฉันเอาไปส่งซักของฉันเองได้” ยาหยีเท้าเอวมองตาเขียวปั๊ด สุดจะทนกับความหน้าด้านของโทคิยะ ร่างบางทำหน้าไม่ถูกเมื่อเขาจับกางเกงในของเธอขึ้นมา “วางลงเดี๋ยวนี้นะ! ”“จะอายทำไมมากกว่ากางเกงในฉันก็เคยจับมาแล้ว” นอกจากจะไม่วางเขายังใช้มือขยี้กางเกงในของยาหยีอย่างเบามือ ในขณะที่ร่างบางอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน“คุณ